ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Boy band & Girl Yบอยแบนด์สุดฮอต มัดใจ สาววายสุดติ่ง

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ขวดโซจู (100%) (เปลี่ยนแค่ชื่อตอนน้าาา)

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 57






    "3"


    แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆสีขาวและห่มผ้านุ่มๆสีน้ำตาล

    "ฮ้าววว~~~ " หญิงสาวคนนั้นหรือคุณตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียก่อนจะขยี้ตาหนึ่งครั้งและมองว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
    "0_0เฮ้ย!!!! ที่นี่มันที่ไหนวะ เมื่อวานฉันจำได้ว่าครั้งสุดท้ายฉันอยู่ที่สวนสนุกนี่ แล้วตอนนี้ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงฟะ"เมื่อฉันตื่นนอนฉันก็ต้องขอโวยวายก่อนเลยเจ้าข้าา บอกเลยว่าตกใจมากเพราะห้องที่ฉันอยู ณ.ขณะนี้ เวลานี้ มันเป็นห้องของใครก็ไม่รู้ เพราะจากที่ดูลักษณะแล้วห้องของฉันไม่ได้มีลักษณะนี้เอาอย่าแลกเลยนะ1.ห้องนอนของฉันมีผ้าห่มสีชมพูแต่ตอนนี้ผ้าห่มที่ฉันห่มอยู่กับเป็นสีน้ำตาล (ไรท์:สงสัยแม่บ้านคงเปลี่ยนให้หรือเปล่า) อย่างที่2.คือห้องฉันไม่มีตุ๊กตาหมีลิละคุมะแต่ตอนนี้มันมีเกือบเต็มเตียงนอนแล้ว (ไรท์:อ่อสงสัยแม่บ้านในหอพักคงเอามาต้อนรับม้ง) (ชื่อคุณ:แต่มันเยอะไปป้ะไรท์). ส่วนอย่างที่3.คือห้องที่ฉันอยู่ในขณะนี้มันกว้างกว่าห้องพักของฉันอีก และอีกอย่างคือห้องฉันไม่มีโน้ตบุคแต่ว่าในห้องนี้มันมีโน้ตบุควางอยู่บนโต๊ะ โอ้ยยยยย นี่มันห้องใครวะเนี่ยยย เอ๊ะ! แต่ห้องนี้มันน่าสนใจดีนะว่าแล้วก็ขอลุกไปสำรวจดูดีกว่าว่านี่มันห้องของใคร

    คุณลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มเดินสำรวจให้ทั่วห้อง

    "0_0 โห เจ้าของห้องเล่นกีต้าเป็นด้วยแฮ้ะ สงสัยจะรักเสียงดนตรีมากแน่ๆ โหตู้หนังสือจัดเรียบร้อยดีจังดูดิ่มีแยกด้วยอ่ะว่าชั้นไหนเป็นของหนังสือประเภทไหนบ้างสงสัยเจ้าของห้องคงชอบอ่านหนังสือแน่ๆ ว่าแต่...ไหนๆก็ได้มาอยู่ห้องของคนที่ไม่รู้จักแล้ว งั้น...ขอถือวิสาสะหยิบอ่านหนังสือเลยละกัน "ฉันค่อยนำมือไปเคาะตู้3ครั้ง ป๊อก~ป๊อก~ป๊อก และพูดเบาๆว่า "ตู้จ๋า ขออ่านหนังสือของเจ้านายแกหน่อยนะ" ฉันค่อยๆหยิบหนังสือมาอ่านทีละเล่ม ทีละเล่ม ทีละเล่มโหส่วนมามีอแต่หนังสือดนตรีแฮ้ะ
    "เอ๊ะ! นี่มันไดร์อารี่นี่นา"ใช่แล้วมันคือไดร์อารี่ สงสัยคงเป็นของเจ้าของห้องชัวร์ ฉันว่าพรางก่อนจะค่อยๆเปิดไดอาร์รี่เล่มนั้น

    ฟึ่บ!! 

    'ไม่<ชื่อคุณ>ไม่แกอย่าเสียมารยาทมันไม่ดีเก็บแก แกต้องเก็บ' ฉันปิดไดร์อารี่เล่มนั้นก่อนจะคิดว่ามันไม่สมควรและกำลังจะเก็บเข้าไปวางในตู้แต่ด้วยความที่อยากรู้ อยากเผือกเรื่องชาวบ้านฉันเลยหยิบไดร์อารี่เล่มนั้นขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะทำการเปิดอีกรอบ 'เอาก็เอาวะ'และด้วยความอยากเผือกจริงๆฉันเลยใจกล้าค่อยๆเปิดไดร์อารี่เล่มนั้นออก

    โครมม!!!!

    "กรี๊ดดดดดดดด"

    โป้ก! โป้ก! โป้ก!

    "โอ้ยยย "ฉันลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้นก่อนจะร้องออกมาด้วยเสียงโอดครวญสุดๆ
    "โอ้ยยยย เพราะความอยากเผือกของกูแท้ๆเลยเจ็บตัวเลย" ไม่น่าเลยตู ไม่ต้องสงสัยนะคนอ่านสาเหตุที่ฉันร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดที่หัวมันเป็นเพราะไอเจ้าตู้หนังสือมันโยกเลยทำให้หนังสือมันหล่นลงมาทางฉันและซึ่งหนังสือที่อยู่ชั้นบนสุดมันก็ล่วงลงมาด้วยเลยทำให้โดนหัวฉันอย่างจังเลยฉันเลยลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น
    ว่าแต่ตู้มันโยกได้ไงวะ  อ่อ เออกูเองแหละที่ผิดเพราะสาเหตุที่ตู้มันโยกเพราะตอนที่อ่านหนังสือดนตรีอยู่ฉันดันแกว่งขาไปเตะที่ตู้โคตรบ่อยอ่ะสงสัยเป็นบุคคลิกของฉันมั้งที่เวลาอ่านหนังสือทีไรชอบแกว่งขาทุกที ว่าแต่...จะเก็บตรงไหนดีอ่ะหนังสือมันลงไปกองถมๆกันหมดละจะเริ่มเก็บตั้งแต่ตรงไหนดีหว่า เฮ้ย!! ว่าแต่ไดอาร์รี่มันไปอยู่ตรงไหนเนี่ยสงสัยคงอยู่ในกองล่างๆเลยมั่ง งั้นต้องเก็บก่อนและ เดี๋ยวเจ้าของเข้ามาแล้วจะซวย
    "เฮ้ย!!! มีโซ "
    ตายห่าละ ใครมาวะเนี่ย เอ๊ะ! มีโซหรอ อ่อชานยอลนั่นเอง แหมนึกว่าใคร ก็แค่ชานยอล ชานยอล ชานยอล เฮ้ย!ชานยอล ว่าแต่ชานยอลมาอยู่ที่นี่ได้ไงหรือว่าห้องนี้จะเป็นห้องของชานยอล!

    คุณค่อยหันหน้าไปทางต้นเสียง

    0_0 อึ้งเลยจ้ะ อึ่งทึ่งม้งไปเลย แค่หันมารู้ว่าเป็นชานยอลฉันก็อึ้งมากพอแล้วแต่นี่ฉันหันมากับพบว่าเป็นชานยอลที่อยู่ในสภาพของผู้ชายที่นุงผ้าขนหนูปิดท่อนล่างส่วนท่อนบนนั้นไม่ได้ใส่อะไรและด้วยสาเหตุที่ท่อนบนไม่ได้มีอุปกรณ์ใดปิดไว้เลย จึงทำให้ฉันนั้นเห็นแผงอกทีขาวนวลเนียนของชานยอล เห็นกล้ามแขนที่เป็นมัดๆของเขา เห็นกล้ามที่หน้าท้องอันแข็งแรง โอ้ยยยยยแม่เจ้าลูกขอใจละลายลาตายตรงนี้เลยได้ป้ะ 

    "เฮ้ย!!! มีโซเลือด เลือด เธอเลือดไหล"ชานยอลพูดขึ้นก่อนจะวิ่งตรงดิ่งเข้ามาทางฉัน โอ้ยยยยอย่าวิ่งเข้ามาใกล้มากสิ ใจจะละลายตายตรงนี้อยู่แล้ว เอ๊ะ!! ว่าแต่เลือด เลือดฉันไหลตรงไหนวะ อย่าบอกนะว่า เลือดที่ชานยอลหมายถึงคือเลือดกำดาวไหล

    คุณพูดก่อนจะนำมือขึ้นมาแตะตรงจมูก

    "เฮ้ย!!! เลือดกำดาวไหลจริงๆด้วย" อะไรกันวะเนี่ย นี่ฉันหื่นขนาดนี้เลยหรอวะเนี่ย
    "มีโซ เงยหน้าขึ้นไว้นะ เดี๋ยวฉันไปหาทิชชู่มาให้"
    พอชานยอลพูดจบเขาก็รีบวิ่งไปหาทิชชู่มาให้คุณทันที

    หลังจากนั้นชานยอลก็เดินกลับเข้ามาหาคุณในห้องอีกครั้งก่อนจะฉีกกระดาษทิชชู่แล้วนำมาซับเลือดกำดาวให้คุณชานยอลค่อยจับหน้าของคุณแล้วเช็ดเลือให้อย่าถะนุถะนอม ตอนนี้หน้าของคุณกับชานยอลใกล้กันมากเอาง่ายๆคือห่างกันแค่คืบนึง

    โอ้ยยยยยผู้ชายไรวะทำไมแมร่งหล่อกระชากวิญญาณได้ขนาดนี้อย่างที่ไรท์บอกตอนนี้หน้าฉันกับชานยอลห่างกันแค่คืบ ขอบอกเลยว่ามองชานยอลในระยะที่ใกล้แบบนี้ชานยอลแมร่งโคตรหล่ออ่ะ โอ้ยยยพอคุณณณณ ถ้าจะใกล้ขนาดนี้ไม่จูบไปเลยล่ะคร้าบบบบ ดูดูมันมีการเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ๆอีกนะ แหมถ้าจะใกล้ขนาดนี้ฉันว่าแกจูบฉันเลยเหอะอิหยอย เอาตรงๆป้ะตอนนี้ระยะความห่างที่ไรท์บอกมันคลาดเคลื่อนแล้วอ่ะ ไม่ได้คลาดเคลื่อนห่างออกนะ แต่มันกลับเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ห่างกันไม่ถึงคืบแล้วอ่ะประมาณนิ้วกลางได้มั้งความห่างอ่ะ และตอนนี้ชานยอลก็ค่อยเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ๆโอ้ยยยยชักหวั่นๆแล้วสิ นี่!! อิหยอยแกคงจะไม่ได้จะจูบฉันจริงๆใช่ป้ะ และในขณะนี้หน้าของเราก็ห่างกันประมาณนิ้วก้อยฉันเลยกลัวว่าชานยอลจะจูบฉันจริงๆฉันก็เลยรีบเอามือของฉันขึ้นมาปิดปากตัวเองก่อนที่จะถอยหลัง1ก้าว
    "เอ่อ ... เมื่อกี้นายจะทำอะไรฉันอ่ะ" เอาวะเป็นไงเป็นกัน หน้าแตกชั่งแมร่ง เพราะตอนนี้อยากรู้มากจริงๆว่าเขาจะทำอะไร
    "เอ่อ... ก็.... อ่อ ก็เช็ดเลือดให้เธอไง แหมนี่เธอคิดอะไรของเธอเนี่ย อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าฉันจะจูบเธออ่ะ 5555" แหม อิหยอย!! หัวเราะอะไรของแกเนี่ย บอกตรงๆเลยนะว่าฉันไม่สนุก และก็ไม่ตลกด้วย ถึงแม้ฉันจะเป็นคนตลกได้ทุกเรื่องแต่ยกเว้นเรื่องจูบเรื่องเดียวที่ฉันไม่ตลก แหมก็ปากของฉันยังไม่เคยเสียจูบให้ใครเลยนิ่นอกจากพ่อกับแม่ และฉันก็จะเก็บเอาไว้ให้กับคนที่ฉันรักเท่านั้น เอ่อ...รักที่ฉันหมายถึงคือรักแบบหญิงกับชายรักกันนะไม่ใช่รักแบบที่แฟนคลับมีให้ซุปตา
    "อ่อ ขอบคุณนะที่เช็ดเลือดให้ว่าแต่นายจะหูแดงทำไมอ่ะ" เออ แปลกคนอยู่ดีดีหูก็ขึ้นสีซะงั้น แต่จะว่าไปชานยอลเวลาหูแดงก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย
    "ห้ะ!! อ่อ... อากาศ...เอ่อ...อากาศมันค่อนข้างจะร้อนนะ"ห้ะ!!! ร้อนตรงไหนวะเนี่ย หนาวจะตายว่าแต่ แกจะติดอ่างทำไมเนี่ย
    "ร้อนตรงไหนเนี่ย แล้วตกลงนายจะยืนอยู่แบบนี้ไม่ใส่เสื้อผ้าใช่ไหม"
    "อ่อ ใส่สิ ว่าแต่เธอจะยืนดูฉันใส่เสื้อใช่ป้ะ" เออนั่นดิ่วะ กูจะยืนอยู่ทำไมวะเนี่ย ต้องออกไปนั่งข้างนอกดิ่เฮ้ยไม่ใช่ไม่ใช่ต้องกลับห้องเราสิถึงจะถูก
    "เอ่อ... ไม่ดีกว่านะ งั้นฉันขอกลับห้องก่อนนะ"
    "อย่าเพิ่งกลับ!!! เดี๋ยวฉันไปส่ง รอก่อนแปปนึง"โอ้ยยยจะตะโกนทำมะเขือยาวทำไมมิทราบคะคุณชยอล พูดเบาๆไม่เป็นหรือไง
    "เอ่อ...ไม่ต้องไปส่งหรอก ฉันกลับเองได้ ส่วนตู้หนังสือนายฉันขอโทดที่ทำล้มนะ เอางี้ฉันจะอยู่เก็บหนังสือให้นายก่อนแล้วค่อยกลับ"ฉันพูดออกไปอย่างรู้สึกผิดก็แหมถ้าฉันไม่เผือกเรื่องชาวบ้านมันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก แต่รู้ไหมนักอ่านผลที่ฉันได้กลับมาคืออะไร เฮ้ออออ~~~
    "อย่า!!!!!!"นี่แหละคือผลที่ฉันได้ แหมตะโกนซะดังเชียวอยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะตะโกนทำไมห้ะ!!  อิหยอยยยยยยยย
    "เอ่อ....เดี๋ยวฉันเก็บเอง อีกอย่างขาตู้มันไม่ค่อยดีฉันเลยกะจะซ่อมมันอยู่แล้วแหละ เธอไปนั่งรอข้างนอกเถอะ"อ๋อ..ที่แท้ขาตู้นี่เองที่ไม่ค่อยดีมิน่าละถึงว่าทำไมตู้มันอ่อนแอจัง
    "อ่อโอเค"ฉันเดินออกมานอกห้องก่อนที่จะหยุดชะงักทีนที
    "เอ่อ...เซฮุน เฮ้ย!มักเน่  หวัดดี"ใช่แล้วคนที่ฉันเจอคือตัวการที่ทำให้ฉันเป็นลมนั่นเอง แหมอิเน่นั่งหน้าจ๋อยเชียวนะ

    เซฮุนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองคุณก่อนจะรีบกระโดดเข้ากอดขาคุณ

    "นูน่าคร้าบบบบบ ผมขอโทดที่ทำให้นูน่าต้องเป็นลม ผมผิดเอง ผมขอโทด นูน่าอย่าโกรธผมเลยนะ นะ นะ น้าาาา"
    แหมอ้อนขนาดนี้ใครจะโกรธแกลงล่ะอิเน่ 
    "มักเน่ มักเน่ไม่เอานะ ปล่อยนูน่าก่อน เร็วปล่อยขานูน่าก่อน แล้วไปนั่งคุยที่โซฟากันนะ"ฉันโน้มตัวลงไปแกะมือเซฮุนที่ตอนนี้มันกำลังกอดขาฉันแน่น
    "ไม่!!!"
    "โอเคๆ นูน่าไม่โกรธเซฮุนแล้ว ไปนั่งคุยกันที่โซฟาดีกว่านะ"
    ฉันพูดแล้วยิ้มให้เซฮุน หวังว่าคงจะปล่อยนะ
    "จริงนะ!! "เซฮุนปล่อยขาฉันก่อนจะเด้งตัวขึ้น แหมตาเปล่งประกายเชียวกลัวนูน่าโกรธขนาดนั้นเลยหรือ
    "จริงสิ ป้ะ เรามานั่งคุยกันที่โซฟาดีกว่านะ"ฉันพูดก่อนจะลากมือเซฮุนให้เข้ามานั่งที่โซฟา
    "จำไว้นะมักเน่ ถ้าวันไหนนูน่าโกรธมักเน่นูน่าไม่มานั่งเรียกมักเน่ว่ามักเน่หรอกนะและนูน่าก็ไม่เรียกตัวเองว่านูน่าด้วย"ฉันยิ้มและพูดกับเซฮุน
    "เย้!!!!"เซฮุนพูดร้องก่อนจะกระโดดมากอดฉัน


    "มีโซ ป้ะผมไปส่ง"ฉันหันไปทางต้นเสียงก่อนจะพบว่าเสียงนั้นคือเสียงของชานยอล แต่ทำไมนะ ทำไมสีหน้าเขาถึงนิ่ง ไม่มีรอยยิ้มเลยต่างกับตอนแรกสิ้นเชิง  โอ้ยยยว่าแต่อิเน่มันจะกอดฉันอีกนานไหมวะ หายใจไม่ออกแล้วเนี่ย
    "ฮยองจะไปส่งนูน่าหรอฮะ ไปเลยฮะ นูน่าให้ฮยองไปส่งนะคับ ป้ะป้ะ เอ้ายังจะชักช้าเดี๋ยวเมเนเจอร์ฮยองมาเห็นเข้าจะซวยกันยกเล้านะคร้าบบบไปเร็ว" เซฮุนปล่อยฉันแล้วดันฉันให้เข้าไปหาชานยอล แหมอิเน่แกจะรีบอะไรของแกเนี่ย เออแต่ก็จริงแฮ้ะถ้าเจ้สนูปมาเห็นเข้าคงซวยกันหมดแน่ แต่อิเน่แกแน่ใจนะว่าพวกแกคือคนไม่ใช่ไก่แหมดูเรียกเข้าเอาซะเล้าเชียวนะ


    ตอนนี้ทั้งฉันและชานยอลก็เดินออกมานอกที่พักของexoแล้วและชานยอลก็เดินมากับฉันแต่ตลอดทางที่เขาเดินมากับฉันเขาเงียบไม่พูดอะไรเลยสักคำ เขาโกรธไรฉันหรือเปล่านะ พอเดินมาถึงหน้าหอพักของฉัน ชานยอลก็เดินหันหลังกลับทันที ตกลงเค้าโกรธไรฉันเนี่ย ยังไม่ทันจะได้พูดลาเลยหันหลังหนีซะแล้ว
    "เฮ้อออออ~~~"ฉันถอนหายใจยกใหญ่ด่อนที่จะหันหลังแล้วเดินขึ้นห้อง แต่ในขณะที่ฉันก้าวขาได้แค่3ก้าวฉันก็ได้ยินเสียง

    เพล้ง~~~~

    แน่นอนเป็นเสียงของขวดแก้วที่ดระทบกับของแข็งบางอย่างว่าแต่ทำไมมันเจ็บหัวจังวะ ช่างเถอะคงคิดไปเองละมั้งว่าแต่ทำไมเหงื่อมันออกเยอะจังวะแล้วน้ำอะไรมันไหลลงมาที่หน้าฉันเนี่ย 

    คุณนำมือไปแตะน้ำที่ไหลลงมากตรงหน้าคุณ
    0_0 0_0 0_0
    "กรี๊ดดดด"
    "เลือดดดดด"
     

    20%
     
    หลังจากที่ฉันกรี๊ดด้วยความตกใจนั้นฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังขึ้น ฉันไม่ได้โง่ถึงขนาดว่าแยกไม่ออกนะว่าเสียงหัวเราะแบบนี้มันคืออะไร มันไม่ใช่เสียงหัวเราะของคนที่เดินผ่านไปมา แต่มันกับเป็นเสียงหัวเราะของความสะใจซะมากกว่า
    "5555 นางบ้าเอ้ยยยย! เลือดไหลแค่นี้ทำเป็นสำออย หึ สะใจโว้ยยย!"เสียงผู้หญิงคนที่2

    "นี่! แกจำใส่กะลาหัวอันน้อยนิดของแกไว้เลยนะว่าชานยอลโอ้ปป้าน่ะของฉัน ชะนีหน้าไหนก็ห้ามยุ่ง แหม! แรดจริงๆ อ่อยเก่งนะนางนี่ ทำเป็นนั่งใกล้ชานยอลแล้วแถมยังจับมือชานยอลอีก หึ บทเรียนแค่นี้ยังน้องไป ถ้าแกอ่อยชานยอลหรือมายุ่งกับชานยอลอีกนะ แกจะได้เจอกับบทเรียนที่มากกว่านี้แน่!!!"ผู้หญิงคนที่1พูด

    หลังจากผู้หญิงทั้งสองคนพูดจบ เธอทั้งสองก็เดินออกไปจากหอพักที่คุณพักทันที

    อะไรกันเนี่ย นางทั้งสองเอาขวดโซจูมาฟาดหัวฉันก่อนจะกลับออกไปด้วยเหตุผลที่ไร้สาระมากมาก แค่นี้เนี่ยนะ พวกนางใช้อะไรคิดเนี่ย และยังมีน่ามาด่าว่าฉันโง่อีก ใครกันแน่ที่โง่ เฮ้อออ หุ่นดีน่าตาสวยซะปล่าว ทำไมนิสัยถึงแย่แบบนี้
    ว่าแต่ไปหาหมอดีกว่าเจ็บหัวชะมัด 

    คุณเดินออกมานอกหอพักก่อนจะคอยมองหาแท๊กซี่เป็นระยะๆ แต่ดูเหมือนเบื้องบนจะกลั่นแกล้งคุณเพราะคุณมองหาแท๊กซี่เท่าไรก็หาไม่ได้ซักคัน
    "โอ้ยยยย แท๊กซี่ไปไหนหมดเนี่ย" คุณบ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆ
    "เอาวะ เดินไปเรื่อยๆ เผื่อเจอแท๊กซี่"คุณพูดอย่างมีความหวังโดยหวังว่าจะเจอแท๊กซี่สักคัน

    คุณเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆซึ่งตอนนี้มันก็ห่างจากหอไม่มากนัก โดยมือข้างนึงของคุณปิดแผลที่หัวไว้ ตอนนี้คุณไม่หวังอะไรมากคุณแค่หวังว่าขอให้คุณเจอแท๊กซี่ไม่ก็ขอให้เจอคนที่ใจดีและพาคุณไปส่งโรงพยาบาลในระหว่างทางที่คุณเดินไปเรื่อยๆคุณก็ได้ยินเสียงของคนๆนึงเรียกคุณ

    "เฮ้ย!! <ชื่อคุณ> เธอจะไปไหนน่ะ"โอ้ยขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยลูก ลูกขอบคุณมากๆ ขอบคุณมากจริงๆที่ส่งคนมาช่วยลูก
    คุณหันไปทางต้นเสียงด้วยใบหน้าที่ซีดมากๆก่อนจะพบกลับผู้ชายคนนึงกำลังวิ่งเข้ามาทางคุณด้วยใบหน้าที่ตกใจมาก

    "นี่!! <ชื่อคุณ> หัวเธอไปโดนอะไรมา ทำไมเลือดถึงไหลเยอะขนาดนี้ล่ะ"อ่อ แบคฮยอนนี่เอง ว่าแต่ทำไมภาพมันลางๆหว่า

    "แบคฮยอน...ใช่ป้ะ"ถามก่อนเพื่อความแน่ใจเพราะตอนนี้ภาพมันเบลอและลางมาก

    "ใช่ๆ ฉันเอง พยอน แบคฮยอน ว่าแต่เธอไปทำอะไรทาทำไมหัวเธอ อ้าว! เฮ้ย!! "
    แบคฮยอนหยุดพูดทันทีเมื่อเห็นว่าคุณนั้นล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นก่อนจะพยุงคุณขึ้นมาแล้วจัดการโบกแท๊กซี่ไปโรงพยาบาลทันที
    "นี่<ชื่อคุณ>ตื่น ยัยบ๊อง ! ตื่นสิ อย่าเพิ่งเป็นไรไปนะ ใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว นี่!!! ตื่น!!!!"
    แบคฮยอนทั้งเขย่าหน้าคุณ ทั้งตีแก้มคุณแรงๆ เพื่อให้คุณรู้สึกตัว แต่ก็ไม่เป็นผล

    ณ.โรงพยาบาลอินชอนสาขา2

    ตอนนี้ก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว คุณมารู้สึกตัวตอนที่แบคฮยอนพยุงคุณลงจากแท๊กซี่ ตอนที่คุณลงมามีคนนำคุณนั่งรถเข็นเข้าไปหาหมอข้างไหน โดยที่แบคฮยอนขอนั่งรออยู่ข้างนอก

    ภายในห้องพยาบาล

    "โอ้ยยย หมอคะ ช่วยเบามือหน่อยค่ะมันเจ็บ"

    "อ่อโอเคค่ะ หมอจะพยายามเบามือให้มากที่สุดนะคะ"

    เฮ้ออออ ขอบคุณนะที่แบค ฮยอน มาเจอฉันไม่งั้นฉันคงไม่ได้มานั่งขอร้องให้หมอเย็บแผลเบาๆตรงนี้หรอก

    "เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวไปชำระเงินทางด้านนู้นนะคะ"

    "ค่ะ" ฉันยิ้มให้หมอหนึ่งที่ก่อนจะออกมาข้างนอกเพื่อขอบคุณแบคฮยอนและเมื่อฉันเดินออกมาก็เห็นแบคฮยอนนั่งรอฉันอยู่แต่ไม่ได้รอฉันแค่คนเดียวนะ มีชานยอล เซฮุน ลู่หานและ คริส ก็นั่งรอฉันเหมือนกัน
    "มีโซ เธอเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหนไหม ยังมึนหัวอยูหรือเปล่า" โห นี่นายกลัวใครแย่งถามหรือไงทำไมถามมาซะรวดเดียวเลยล่ะ

    เมื่อชานยอลเห็นคุณออกมาจากห้องทำแผลชานยอลก็รีบวิ่งเข้ามาหาคุณทันที หลังจากนั้นก็ตีคำถามใส่คุณจนคุณไม่รู้เลยว่าจะตอบข้อไหนดี

    "นี่ชานยอล นายค่อยๆถามตัวเล็กทีละคำถามสิ นายถามรวดเดียวอย่างงั้นตัวเล็กจะตอบถูไหม"คริสเอ็ดชานยอลเพราะเห็นว่าคุณทำหน้าอึ้งนิดนิด

    "อ่าวว ก็ผมเป็นห่วงมีโซนี่นา" ฉันไม่ได้หูฟาดไปใช่ป้ะ ที่ชานยอลบอกว่าเป็นห่วงฉันอ่ะ โอ้ยยยยขอเขิลแป๊ปปป

    "พวกเราก็เป็นห่วงตัวเล็กไม่ต่างจากนายหรอก"ลู่หานแย้งขึ้น นี่ลู่หานก็เป็นห่วงเราหรอเนี่ยฟินแป้ปปป

    "ใช่ ขนาดผมเป็นห่วงนูน่า ผมยังไม่ถามเยอะเท่าฮยองเลย" เซฮุนหันไปพูดกับชานยอล

    "อ่าวไอนี่ อยากตายใช่ป้ะ"เริ่มเกิดสงครามระหว่าชานยอลกับเซฮุน

    "อะไรเนี่ยฮยอง ทำไมฮยองพูดมากจัง"
     
    "นี่ทุกคนเลิกเถียงกันได้แล้ว ทุกคนก็เป็นห่วงยัยบ๊องเหมือนๆกันนั่นแหละ ว่าแต่ยัยบ๊องเป็นไงบ้างล่ะ ยังเจ็บตรงไหนอยู่ ป้ะ" แบคฮยอนถามคุณ

    "ห้ะ อ่อไม่ค่อยเจ็บแล้วอ่ะ แต่ยังมึนๆนิดนึง" คุณตอบแบคฮยอนก่อนจะยิ้มให้เล็กน้อย

    "ว่าแต่ทุกคนมาได้ยังไงอ่ะคะ" ต้องขอถามเลยละกันเพราะอยากรู้มาก

    "อ่อพอดีว่าแบคฮยอนโทรมาบอกฉันน่ะว่าเธอโดนตีหัวเลือดไหลอยู่ที่โรงพยาบาลฉันเลยมาเยี่ยมเธอ แล้วเซฮุนกับลู่หานฮยองเลยขอตามมาด้วย"ชานยอลบอกคุณ

    "อ่อ แล้ว..."คุณหันไปทางผู้ชายที่ชื่อว่าคริสหรือคนที่คุณมักจะเรียกเขาว่าเฮียเงิง

    "อ่อ พอดีที่ห้องพักทุกคนออกไปข้างนอกน่ะ ถ้าพวกนี้มาเยี่ยมเธอที่หอก็จะไม่มีใครอยู่ดังนั้น ฉันเลยขอ ออกมาด้วย ไม่อยากอยู่คนเดียว"เมื่อคริสเห็นคุณหันหน้าไปทางเขาแล้วเหมือนจะถามว่าเขามาได้ยังไง เขาเลยอธิบายให้คุณฟังว่าจริงๆแล้วเขาไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว

    "ว่าแต่ตัวเล็กเธอรู้ไหมว่าใครเป็นคนเอาขวดโซจูมาฟาดหัวเธอน่ะ แล้วพอจะจำลักษณะได้บ้างหรือเปล่า"ลู่หานถาม

    "อ่อ ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าใคร น่าจะเป็นพวกคนเมามั้งคะ" คุณไม่อยากบอกว่าเป็นพวกแฟนคลับของโอ้ปปา เพราะกลัวว่าพวกโอ้ปป้าจะไม่สบายใจ

    "คนเมาหรอ? "ชานยอลแทรก

    "อ่อ ค่ะคนเมา"เป็นประโยคสุดท้ายที่คุณพูดก่อนความเงียบจะมาปกคลุมอีกครั้ง ตอนนี้คุณ แบคฮยอน ชานยอล เซฮุน ลู่หาน และคริส กำลังนั่งรถแท๊กซี่เพื่อกลับหอและดูเหมือนว่าความเงียบจะปกคลุมมากจนเกินไปเพราะว่าทุกคนต่างไม่รู้จะคุยอะไรกันดี และทุกคนก็กำลังคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณวันนี้
    ชานยอลกำลังนั่งคิดอยู่ว่า:'ผมอยากดูแลคุณให้ดีกว่านี้จังผมไม่อยากให้คุณต้องเจ็บตัว ผมรู้ว่าคนที่ฟาดหัวคุณไม่ใช่คนเมา'

    ลู่หานกำลังนั่งคิดว่า:'ใครกันแน่นะ ที่เอาขวดมาตีหัวตัวเล็ก'

    เซฮุนกำลังนั่งคิดว่า:'ทำไมวัันนี้มันมีแต่เรื่องวะเนี่ย ผมคิดว่านูน่าต้องโดนซาแซงแฟนตีหัวแน่ๆเลย แต่ถ้าเป็นซาแซงจริงๆนูน่าจะโกหกพวกเราทำไม'

    แบคฮยอนกำลังคิดว่า: โอยยย จะเงียบอีกนานป่าววะ ถ้าจะเงียบจนถึงหอพักงั้นตอนนี้ขอหลับก่อนละกัน โอ้ยยยยเบื่อโว้ย!'

    คริสกำลังคิดว่า:'ผมไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะโดนคนเมาตีหัว เพราะตอนนี้ก็ยังไม่ได้มึด แดดจ้าา คนเมาที่ไหนมันจะมาตีหัวคนตอนนี้จริงไหมครับ'

    ส่วนความคิดคุณคือ: ฉันจะให้พวกโอ้ปป้ารู้ไม่ได้ รู้ไม่ได้เด็ดขาด ว่าใครที่มันมาตีหัวฉัน ฉันไม่อยากให้พวกโอ้ปป้าต้องมองซาแซงในแง่ลบ'

    ทุกคนเงียบจนแท็กซี่มาจอดอยู่หน้าหอคุณ คุณและผู้ชายอีก5คนเดินลงมาจากแท๊กซี่ คุณคิดว่าพวกโอ้ปป้าน่าจะเดินกลับหอของพวกเขาแต่กลับไม่ใช่พวกเขากลับเดินตามคุณเข้ามาในหอของคุณด้วยคุณจึงหยุดเดิน

    "เอ่อ...โอ้ปป้าจะไปไหนหรอคะ เห็นเดินตามฉันมา"

    "พวกเราอยากไปส่งเธอที่ห้อง กลัวเธอจะเป็นอันตราย" ลู่หายบอก

    "อ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะ โอ้ปป้ากลับหอไปพักเถอะค่ะ"

    "เธอไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ พวกเราอยากไปส่ง" คริสบอก แหมเฮียเงิ่ง ฉันรู้นะว่าเฮียไม่อยากกลับหอเพราะเฮียไม่มีไรทำใช่ป้ะ

    "ไม่เป็นไรค่ะ"

    "ผมว่าให้เธอไปพักเถอะครับ เธอคงอยากพักผ่อนจริงๆ"ชานยอลบอก

    "โอเคงั้นเดี๋ยวพวกเรากลับก่อนนะ บาย"แบคฮยอนบอกก่อนจะโบกมือลาคุณแล้วดึงเซฮุนให้เดินตามมา

    พอทุกคนกลับออกจากหอที่คุณพักเรียบร้อยคุณก็เดินขึ้นห้องทันทีพอมาถึงห้องคุณก็ไปอาบน้ำแล้วใส่ชุดนอนหลังจากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหน็ดเหนื่อยหลังจากนั้นคุณก็หลับไป

     

    50%

     
    24.00 am


    จ๊อก~~~~

    จ๊อก~~~~

    จ๊อก~~~~

    "อื้อออ รู้แล้วหนาว่าหิว ทนอีกหน่อยนะ ไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว"คุณครางออกมาก่อนจะนำมือไปจับท้องของตัวเองแล้วพยายามกล่อมให้ท้องของคุณนั้นหยุดร้องสักทีเพราะมันกวนเวลานอนของคุณมาก

    จ๊อก~~~~

    จ๊อก~~~~

    จ๊อก~~~~

    แต่เหมือนว่าเจ้าท้องตัวปัญหามันจะไม่ฟังและมันยังจะทำหน้าที่ร้องต่อไป

    "โอ้ย!!! รู้แล้วว่าหิว!!!ทนอีกหน่อยไม่ได้หรือไง "คุณเด้งตัวขึ้นจากเตียงด้วยความหงุดหงิดมากถึงมากที่สุด วันนี้ทั้งวันคุณก็เหนื่อยมามากแล้วแถมยังโดนซาแซงตีหัวอีก เป็นใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็อยากจะพักผ่อนให้มากที่สุด ก่อนที่พรุ่งนี้จะต้องไปมหาลัยเพื่อเริ่มเรียนวันแรกป้ะ

    " เฮ้อออ...ไหนดูสิว่ากี่โมงแล้ว" คุณคว้ามือไปหยิบนาฬิกาตรงหัวเตียงขึ้นมาดูก่อนที่ดวงตาของคุณจะเบิกกว้างเมื่อเห็นตัวเลขบนนาฬิกา

    "เฮ้ย!!! เที่ยงคืน บ้าจริง เพิ่งจะเที่ยงคืนเองหรอเนี่ย มิน่าล่ะท้องถึงร้องอย่างกะจะไปประท้วงใคร"คุณอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจเพราะเวลาที่คุณเห็นคือเพิ่งจะเที่ยงคืน

    คุณวางนาฬิกาไว้ที่เดิมด้วยสีหน้าเซ็งสุดๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปทางมุมตู้เย็นแล้วจัดการเปิดตู้เย็นออกเพื่อดูว่าไหนนั้นพอจะมีอะไรที่สามารถประทังท้องของคุณในคืนนี้ได้บ้าง และเมื่อคุณเปิดออกคุณก็พบกับของบางอย่างที่ทำให้คนที่กำลังหาของกินตอนกลางดึกแบบคุณถึงกับตาค้าง

    "เยเฮท!!!"คุณอุทานขึ้นมาด้วยความดีใจก่อนจะกระโดดโลดเต้นไปมา หลายรอบ

    "555 มาม่านี่แหละที่จะสามารถปะทังท้องเราได้ในตอนนี้" แน่นอนสิ่งที่คุณเจอนั่นก็คือมาม่า คุณรียบคว้ามาม่าออกมาจากตู้เย็นก่อนจะเดินไปตรงกระติกน้ำร้อนแล้วจัดการเสียบปลั๊ก ตอนนี้สิ่งที่คุณต้องรอเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ รอให้น้ำในกระติกร้อนนั่นเอง

    "โอ้ยย เมื่อไรน้ำจะร้อนสักที" หลังจากที่คุณเสียบกระติกน้ำร้อนแล้วคุณก็บ่นแบบนี้หลายรอบมาก

    ติ้ง 

    และแล้วเสียงแห่งสวรรค์ก็ดังขึ้น คุณรีบคว้าจานมาม่าตรงไปที่น้ำร้อนทันที 

    "ฮุฮุ ฮวาฮะ  อือรือรอง อือรือรอง อือรือรอง เด เยเฮท ฮุฮู้วว" คุณร้องออกมาแทบจะไม่เป็นเพลง สาเหตุเพราะคุณดีใจมากที่จะได้กินมาม่าแถมคุณยังกระโดดโลดเต้นไปมาอีกตังหาก ถ้าไม่ติดที่ว่าคุณถือมาม่าอยู่ ป่านนี้คุณคงเต้นบีบอยไปนานแล้ว

    เมื่อคุณถือมาม่ามาถึงที่เตียงแล้วคุณก็จัดการเอาโต๊ะเล็กมาวางไว้ข้างเตียงแล้วคุณก็เอามาม่าวางไว้บนโต๊ะก่อนจะจัดการซัดมาม่าแบบไม่เกรงใจฟ้าดินเลย

    "อ่าาา~~ อร่อยจัง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามาม่าเกาหลีมันก็อร่อยเหมือนกัน " คุณกินมาม่าไปได้สักพัก ก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมา ขัดจังหวะความสุขในการกินมาม่า

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    คุณเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะเสียงที่คุณได้ยินคือเสียงคนภายนอกมาเคาะประตูห้องคุณ คุณตกใจมากเพราะคุณไม่ได้มีญาติ หรือคนที่คุณรู้จักที่เกาหลีเลย แล้วไอเสียงของคนที่มาเคาะประตูมันคือใคร และตอนนี้มันก็เที่ยงคืนแล้วใครกันล่ะมันจะมาเคาะห้องคุณนอกจากคนเมาที่มาเคาะผิดห้อง คุณลังเลใจอยู่นานจนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกรอบ

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    พอเสียงเคาะประตูครั้งนี้ดังขึ้น คุณจึงตัดสินใจ เดินไปเปิดประตูอย่างกล้าๆกลัวๆ 

    เมื่อคุณเปิดประตูออกมาแล้ว สิ่งที่คุณพบอยู่หน้าห้องก็คือผู้ชายล่างสูงคนนึงยืนอยู่หน้าห้องคุณ ชายคนนี้สวมเสื้อกันหนาวสีดำ ใส่ผ้าปิดปาก แล้วก็ใส่หมวก คุณกำลังจะถามชายคนนั้นว่าเขาคือใคร แต่แล้วสายตาคุณก็เหลือบไปเห็นหูของเขา ผู้ชายผิวขาว หูกาง ร่างสูง
     
    "ชานยอล" คุณเผลอพูดชื่่อของชานยอลขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมคุณเห็นแค่ลักษณะของผู้ชายคนนี้ มันก็ทำให้คุณนึกถึงชานยอลเป็นคนแรก

    "ยังไม่นอนหรอ ผมนึกว่าคุณนอนแล้วซะอีก" ชานยอลพูดไปพลางเอามือจับท้ายทอยไป ในใจเขาเขาคิดว่าคุณนอนไปแล้วแต่เมื่อเขาเห็นคุณออกมาเปิดประตู มันทำให้เขายิ่งคิดว่าเขามากวนเวลานอนคุณหรือเปล่าเนี่ย

    "อ่อ พอดีมันหิวน่ะ เลยตื่นมาหาอะไรกิน " คุณตอบชานยอลไปตามตรงเลยว่าคุณตื่นมาหาไรกินตอนดึก

    "ห้ะ หาไรกิน ตอนนี้เนี่ยนะ ระวังอ้วนนะ กินตอนกลางดึกเนี่ย" ชานยอลเตือนคุณด้วยความหวังดี เขาไม่อยากให้คุณอ้วนไป เขาชอบที่จะเห็นคุณในรูปร่างพร้อมแบบมีน้ำมีนวลอย่างนี้มากกว่า

    "แหม ไม่อ้วนหรอกน่าา ว่าแต่นายเข้ามาในห้องฉันก่อนไหม อากาศข้างนอกมันหนาว เดี๋ยวนายก็ไม่สบายหรอก" คุณเชิญให้ชานยอลเข้ามาในห้อง สาเหตุเพราะอากาศข้างนอกมันหนาวมากกกเกือบจะติดลบได้มั้ง แล้วอีกอย่างคือคุณเป็นห่วงชานยอล กลัวชานยอลจะหนาวยืนอยู่นอกห้องนานๆ

    ชานยอลเดินเข้ามาในห้องคุณก่อนที่คุณจะปิดประตู

    "นาย จะนั่งตรงไหนก็นั่งนะ เดี๋ยวฉันไปหยิบน้ำอุ่นมาให้" คุณหันไปบอกชานยอลก่อนจะเดินไปทางห้องครัว

    "นี่ มีโซ คุณตื่นมากินมาม่าตอนดึกหรอ" ชานยอลเมื่อเห็นมาม่าวางอยู่บนโต๊ะเขาก็ต้องตกใจเพราะเขาไม่คิดว่าคุณจะตื่นมากินมาม่าตอนดึกจริงๆ

    เมื่อคุณได้ยินชื่อนั้นสีหน้าของคุณก็เปลี่ยนไปทันที รอยยิ้มของคุณหุบลงกระทันหัน หูของคุณอื้อไปหมด ตอนนี้น้ำใสๆแทบจะไหลออกมาจากตาของคุณ แต่คุณก็ต้องเก็บอาการไว้เหมือนที่ผ่านมา เพื่อที่จะได้ไม่มีใครสงสัย

    "แหมก็คนมันหิวอ่ะ ให้ทำไงได้ อ่ะน้ำอุ่นๆ กินซะจะได้ไม่หนาว" คุณฝืนยิ้มก่อนที่จะยื่นแก้วน้ำให้ชานยอล ชานยอลยิ้มให้คุณก่อนจะรับแก้วน้ำมาถือไว้คุณยิ้มให้เขาอีกรอบ ซึ่งรอยยิ้มที่คุณมอบให้เขาเขาสามารถรับรู้ได้ว่ามันเป็นรอยยิ้มที่่เศร้ามาก เขาไม่รู้ว่าคุณเศร้าเรื่องอะไร เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางให้คุณไม่เศร้า แต่เหมือนว่ามันจะไม่เป็นผลไม่ว่าเขาจะเล่าเรื่องตลกสักแค่ไหน คุณก็ไม่ได้หายเศร้าเลย ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่คุณเศร้ามันเป็นเพราะการที่เขาเรียกคุณว่ามีโซนั่นแหละ

    "โอเค งั้นผมกลับห้องดีกว่า ตอนนี้มันก็ใกล้เช้าแล้ว ผมไม่อยากกวนคุณ แล้วล่ะ ฝันดีนะ มีโซ" ชานยอลเริ่มรู้สึกว่า ตอนนี้บรรยากาศในห้องมันเริ่มอึดอัดมากขึ้น เขาจึงตัดความอึดอัดนี้ออกโดยการกลับห้องจะดีกว่า เขาลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ประตูก่อนที่เขาจะหยุดเดินเพราะเขาำด้ยินเสียงนึงดังขึ้น

    "ฮึก ฮึก ฉันขอร้องนะ นายหยุดเรียกฉันว่ามีโซสักที่ได้ไหม " ตอนนี้คุณทนไม่ไหวแล้ว น้ำตาคุณไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ คุณพยายามอดทนอดกลั้น แต่มันก็ไม่ไหวแล้ว เนื่องจากว่าคุณได้ยินคำว่ามีโซบ่อยเกินไปแล้ว คุณไม่อยากได้ยินคำนั้นอีก ได้ยินทีไรมันทำให้คุณเจ็บปวดทุกครั้ง และทันใดนั้นเมื่อชานยอลได้ยินเสียงคุณร้องให้ออกมาชานยอลถึงกับตกใจรีบหันหลังมาทางคุณแล้วพยายามมองว่าคุณร้องให้จริงๆหรอ เมื่อชานยอลเห็นแล้วว่าคุณร้องให้ เขาก็รีบตรงมาทางคุณทันที เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะทำให้คุณร้องให้เขาไม่มีความสุขเลย

    "โอเค ๆ ผมจะไม่เรียกคุณว่ามีโซแล้ว อย่าร้องนะคนดีของผม"ชานยอลพยายามปลอบคุณให้หยุดร้องให้

    ตอนนี้ชานยอลนั่งอยู่บนเตียงข้างๆคุณ เขาพยายามปลอบคุณ ก่อนที่จะดึงคุณเขามากอดไว้ ตอนนี้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของคุณกำลังซบอยู่ที่อกอันแข็งแกร่งของชานยอล คุณไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณถึงกล้าร้องให้ ให้ผู้ชายคนนี้ได้เห็นน้ำตาของคุณ ทั้งๆที่คุณพยายามเข้มแข็งมาตลอด แต่ไม่รู้ทำไมคุณถึงต้องอ่อนแอทุกครั้งเลยที่อยู่กับชานยอล

    ชานยอลนั่งกอดคุณ พลางเอามือมาค่อยๆลูบหัวคุณอย่างอ่อนโยน เขาทำกับคุณแบบนี้อยู่นานมากก จนคุณหยุดร้องก่อนจะค่อยดันตัวออกจากอ้อมกอดเขา

    "มันจะเช้าแล้วนะ นายกลับห้องนายเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปทำงานไม่ไหว" คุณบอกชานยอลให้กลับห้องคุณไม่สนว่าเขาจะมาห้องคุณได้ยังไง แต่ตอนนี้คุณอยากให้เขากลับห้องไปพักผ่อนมากกว่า่

    "โอเค งั้นผมกลับห้องก่อนนะ"ชานยอลโบกมือลาคุณก่อนจะเดินออกไปแล้วกลับห้องทันที

    หลังจากที่ชานยอลกลับห้องไป คุณก็เดินเอามาม่าไปทิ้ง ก่อนจะกลับมาที่เตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า 

    "มีโซ ตอนนี้พี่อยู่ไหนนะ พี่จะเป็นยังไงบ้าง เฮ้อออ"



     
    100%

     



    ฝันดีนะครับนางเอกของผม
    เย้!! 100%แล้วน้าาา แหมนางเอกของไรท์ชอบป่าวที่โดน
    ชานยอลกอดด้วย ว่าแต่มีโซคือใครกันนะ ทำไมถึงทำให้นางเอก
    ร้องให้ได้ขนาดนี้ รู้อย่างเดียวคือเป็นพี่ แต่จะสำคัญสำหรับนางเอกของไรท์
    ขนาดนั้นเลยหรอ แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ต้องลุ้นและติดตามกันน้าา
    บอกเลยว่านี่ขนาดอยู่เกาหลีได้ไม่กี่วันถึงกับโดนตีหัว แต่นี่ต้องอยู่อีกเป็นปีนางเอกของไรท์จะรอดไหมเนี่ย
    เอาใจช่วยนะนางเอก รักนางเอกทุกคนเสมอน้าาา อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยน้าาา ไรท์เป็นห่วงทุกคนมากกกก
    รักนางเอกเสมอน้าาา 

    เม้นกันได้ วิจารณ์กันได้ไรท์ไม่ว่าน้าาา 

     

    ไรท์ต้องขออภัยถ้ามีคำผิดพลาดค่ะ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×