ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    produce 101/wannaone #pdxdg | all x baejinyoung

    ลำดับตอนที่ #17 : #ภูกับเจ๋ง [1] - #hoonyoung

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 61


     





    #ภูกับเจ๋ง

    “if you’re just a dream
    I would say it’s a pretty and sad dream”

    best friend – ikon.

     hoonyoung thai!au 
    P. jihoon as jeng | B. jjinyoung as phuri | H. minhyun as miew

     

     

     

              สำหรับเจ๋งน่ะ สิ่งที่เกลียดไม่ใช่แมลงหรือความสูงหรอกนะ

              แต่มันเป็นเสียงเคาะประตูตอนตีสองของทุกวันอาทิตย์ต่างหากล่ะ

              โคตรเกลียด

     

     

              การทำงานให้ทันส่งกำหนดของมันนี่ดูท่าจะยากกว่าขั้นตอนการผลิตชิ้นงานออกมาเสียอีก การเป็นนักศึกษาไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการได้เข้ามาเรียนในคณะที่เขากำลังเรียนอยู่นี่ก็ดูเหมือนจะถูกจำกัดความว่ายากกว่าการเป็นนักศึกษาธรรมดาถึงสี่เท่า

              เขาไม่ใช่นักศึกษาดีเด่นจอมขยันที่จะรีบทำงานให้เสร็จตั้งแต่วันแรกที่โดนสั่งงาน แต่ก็ไม่ใช่จอมเหลาะแหละที่เลือกจะเอามาทำให้เสร็จภายใน 12 ชั่วโมงก่อนกำหนดส่ง เจ๋งเลือกที่จะใช้วิธีการประมาณตัวเองว่างานชิ้นขนาดนี้ควรจะใช้เวลาขนาดไหน แต่นักต่อนักที่มันมักจะพังล่มไม่เป็นท่า มีเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่เขาจะสามารถลงมือทำได้ตามใจของตนเองกำหนดเอาไว้

              คุณภาพชีวิตของเขาในตอนนี้มันตกต่ำยิ่งกว่าคุณภาพชีวิตตอนสอบเข้าเป็นร้อยเท่าเลยล่ะ

     

              เขาไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่นักหรอกว่าตัวเองน่ะสภาพดูแทบจะไม่ได้ จะมาสังเกตได้ก็เอาเข้าตอนที่หนวดเขียวครึ้มขึ้นตามฮอร์โมนและเพศสภาพ สำหรับตัวเขามันก็ไม่ได้อะไรเท่าไหร่นักหรอก เพื่อนในคณะก็มีกันเพียบ ติดออกดูจะเท่แบดบอยอะไรนั่นด้วยซ้ำไปถ้าหากไปถามสาวๆในคณะว่าตัวเจ๋งในสภาพแบบนี้น่ะดูเป็นยังไงบ้าง

              แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนสนิทจอมสะอาดที่มักจะบ่นอุบอิบทุกครั้งที่เห็นหนวดเขียวๆของเจ๋งแล้วล่ะก็ การมีมันบนใบหน้าไม่ได้ต่างอะไรกับตราบาปในชีวิตเลยแม้แต่น้อย พอเห็นเจ้าตัวบ่นทุกครั้งที่เห็นมัน ความคิดเล็กๆในหัวก็อดที่จะผุดขึ้นมาไม่ได้ว่าถ้าหากให้คนตรงหน้าเป็นคนจัดการมันให้เขาก็คงดีไม่หยอก เขาคงจะชอบมันน่าดูเลยล่ะการมีอยู่ของเจ้าหนวดเขียวเนี่ย

              แต่ก็นั่นแหละ บางความคิดมันก็ไม่สามารถพูดออกมาได้เสมอไปหรอก เก็บไว้กับตัวจนตายก็คงจะดีกว่า

             

     

              พักนี้เจ๋งรู้สึกหมดไฟในการทำงาน เขาไม่ได้มองความว่างเปล่าของสภาพแวดล้อมเป็นสิ่งที่น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว ลำพังแค่จะทำตัวเองให้พอมีเวลาว่างเหมือนนักศึกษาคณะอื่นก็ยากพอทน ครั้นจะให้มาเหม่อลอยมองไปในอากาศแล้วคิดว่าท้องฟ้าวันนี้มันสวยงามชิบเป๋งเลยเนอะก็ดูจะดูถูกกำหนดส่งงานของตัวเองมากเกินไป

              ถึงจริงๆแล้วเหตุผลที่เขามองว่าธรรมชาติมันไม่สวยงามเหมือนเก่า

              อาจเพราะสิ่งที่สวยงามที่สุดในชีวิตของเขา ถูกคนอื่นครอบครองไปแล้วก็ได้

             

     


              คนบนโลกนี้อาจถูกแบ่งเป็นสองประเภท คนที่ชอบมองดวงดาวและคนที่ชอบมองดวงจันทร์ เจ๋งไม่ใช่คนช่างจินตนาการที่จะสามารถแยกรูปร่างของดวงดาวเป็นภาพต่างๆได้ขนาดนั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาชอบจะมองดวงจันทร์มากกว่าดวงดาว ถึงจะมีแค่ดวงเดียวและไม่สว่างมากนัก แต่นั่นก็แปลว่าเขาไม่จำเป็นต้องตีความใดใดเลยกับความชัดเจนในตัวของมันเอง

              เจ๋งชอบมันนะ แต่คงไม่เท่าใครบางคนที่ชอบมันมากกว่า

     

              ภูริ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เด็กตัวซูบผอมที่มีใบหน้าเรียวเล็กยิ่งกว่าเมล็ดถั่วซะอีก หลายครั้งที่เจ๋งและภูชอบจะไปไหนมาไหนด้วยกันเพียงแค่สองคนตลอด อาจเพราะรู้ใจกันมาตั้งแต่เด็ก และความเป็นอัตลักษณ์ทางความคิดของเราสองคนก็ยากจะหาให้ใครมาเข้าใจได้ คนอย่างเขาจึงไม่จำเป็นต้องการเพื่อนสนิทจากที่ไหนอีก เจ๋งพูดได้เต็มปากเลยจริงๆว่ามีแค่ภูริคนเดียวก็เพียงพอแล้ว คนที่เป็นได้ทั้งพ่อ แม่ น้อง แล้วก็เพื่อนสนิทในเวลาเดียวกันน่ะ ไม่ได้มีโอกาสพบเจอในชีวิตบ่อยๆหรอกนะ

              และใช่ เจ๋งน่ะ หลงรักภูริเข้าเต็มเปาเลยล่ะ

     

     

              ภูริคือความสวยงามที่สุดบนโลกใบนี้สำหรับเจ๋ง เขาชอบนะเวลาภูริยิ้ม ไม่บ่อยครั้งนักหรอกที่ภูริจะยิ้มแบบไม่กังวลอะไร แล้วก็ไม่บ่อยครั้งอีกเช่นกันที่จู่ๆภูริจะยิ้มออกมาท่ามกลางคนเยอะๆ รอยยิ้มของภูริมันหายากยิ่งกว่าเพชรเม็ดงามที่ไหนอีก เจ๋งชอบมันมากๆ ชอบมากเสียจนละสายตาไปไหนไม่ได้เลย

    ความรู้สึกระหว่างเจ๋งที่มีต่อภูริในตอนทีเผลอจะเรียกว่าเอ็นดูก็ไม่แปลก เพราะคนอย่างภูริน่ะไม่เหมาะกับอะไรนอกจากรอยยิ้มหวานๆหรอกนะ มองไปมองมาก็เหมือนลูกแมวจอมขู่ไม่หยอก แต่ห้ามไปบอกเจ้าตัวเชียวล่ะ เดี๋ยวจะได้รอยข่วนซักแผลสองแผลมาแทนคำขอบคุณ

     

              เพราะเจ๋งชอบมากๆที่จะได้เห็นภูริยิ้มกว้างๆ ความคิดแรกที่ได้รับรู้เรื่องราวจากภูริว่าอีกฝ่ายกำลังเหมือนจะ หรืออย่างน้อยก็คล้ายกับกำลังจะมีใจให้รุ่นพี่ในคณะที่เข้ามาขายขนมจีบให้ตัวเองจึงเป็นความคิดที่อยากจะให้ภูริคบกับพี่เขาไปให้รู้แล้วรู้รอด ทนทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ทั้งสองคนลงเอยกันถึงแม้ตัวของเจ๋งจะเจ็บกว่าตอนที่รู้ว่าลงแข่งฟุตบอลรอบชิงที่ฝันมากว่าหกปีไม่ได้ก็เถอะ มันเจ็บปวดนะที่เราไม่สามารถครอบครองสิ่งที่เราชอบได้ แต่มันเจ็บปวดยิ่งกว่าถ้าหากสิ่งที่เราชอบไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาชอบเช่นเดียวกัน

              เจ๋งน่ะ ชอบภูริมากๆขนาดนี้เลยทีเดียวเชียว

             

     

              เป็นเรื่องธรรมดาที่ภูริจะไม่รับรู้ถึงความรู้สึกข้างในของเจ๋งที่มันเผลอปะทุออกมาบ้างเป็นครั้งคราว หรืออีกฝ่ายจะแกล้งทำเป็นไม่รับรู้เจ๋งเองก็ชักจะไม่แน่ใจ แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณนะที่อีกฝ่ายเลือกที่จะรักษาความสัมพันธ์เพื่อนสนิทของเราไว้แบบนี้ เขาชอบมัน แต่ก็ยอมรับอยู่ดีว่ามันทิ่มแทงที่อกเข้าทุกวัน รอยยิ้มของภูริมันไม่ได้มีเพื่อเจ๋งอีกต่อไปแล้ว เจ็บนิดหน่อย แต่พอเห็นว่าภูริอยู่ดีได้โดยที่ไม่มีเขาเข้าไปวุ่นวายก็ไม่แย่ดี

              อืม

              แต่เจ๋งน่ะ อยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีภูริ เพราะงั้น ต่อให้ภูริจะมีพี่มิวซักสิบคนในชีวิตจนไม่มีช่องว่างเหลือพอให้เจ๋งแทรกตัวเข้าไปอีก เจ๋งก็จะแยกร่างของตัวเองเป็นร้อยๆร่าง ลดขนาดลง มันต้องมีซักช่องว่างระหว่างพี่มิวสิบคนนั้น มากพอที่จะให้อย่างน้อยก็มีเจ๋งหนึ่งคนจากหนึ่งร้อยได้เข้าไปอยู่ น้อยกว่า 0.01 เปอร์เซ็นต์ก็ไม่เป็นไร แค่ยังมีภูริอยู่มันก็พอแล้ว

     

     

              เจ๋งก็ไม่ใช่คนหน้าตาห่วยแตกอะไรที่จะไม่มีคนเข้ามาเลยในชีวิต แต่ก็อย่างที่เขาบอก ความสวยงามที่สุดในชีวิตของเจ๋งถูกนำออกไปแล้ว เขาไม่มีแรงบันดาลใจในการทำอะไรเลย ทุกวันนี้ที่ใช้ชีวิตอยู่ก็เหมือนทนอยู่เพื่อรอยยิ้มของภูริมากกว่า อยากจะนอนเพื่อตื่นขึ้นมาตอบไลน์ภูริแล้วก็นอนต่อไปจนกว่าภูริจะตอบกลับมาเท่านั้นเอง เพราะงั้น หลายต่อหลายคนนักมักจะรับไม่ได้ที่เขาให้ความสำคัญกับภูริมากกว่าตัวเอง เขายอมรับกับทุกคนเมื่อได้รับคำถามเชิงว่าเขารู้สึกอะไรกับภูริมากเกินกว่าเพื่อนหรอ ก็ใช่ ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องโกหกและเขาก็ไม่จำเป็นต้องปิดอะไร ก็ยอมรับกันไปตามตรงว่าคบเพื่อลืมเจ้าของรอยยิ้มนั่นแหละ

              ก็มีหลายคนที่ยอมเล่นกับก้อนหินไร้ความรู้สึกอย่างเขา อ้างบ้างล่ะว่าน้ำหยดลงหินทุกวันก็ต้องมีกร่อนกันไปบ้าง พูดกันเลยนะ ถ้าหากทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเจ๋งเพื่อทำให้ลืมภูริเปรียบเสมือนกับน้ำ ภูริก็คงเป็นค้อนของธอร์ แค่เสี้ยววิเจ๋งก็แตกสลายภายในพริบตา

              ฟังดูเลี่ยนชะมัด แต่เจ๋งน่ะ รู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ

     

     

              คนสองคนจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา จะทะเลาะกันน่ะเป็นเรื่องโคตรปกติ แต่ก่อนเจ๋งยังพอเข้าใจที่มักจะได้ยินเสียงบ่นงุบงิบจากคนปลายสายว่าตัวเองทะเลาะกับคนรักอีกแล้ว แต่ช่วงนี้น่ะ มันถี่มากเกินไปหน่อย บ่อยครั้งที่น้ำเสียงของภูริไม่นุ่มและลื่นหูเหมือนเดิม เจ๋งรู้ รู้อยู่เต็มอกว่าภูริกำลังร้องไห้ และเขาเหนื่อยแล้วที่จะถามแทบตายสุดท้ายก็ได้คำตอบแค่ว่าเราไม่ได้ร้องไห้

              ภูริคงไม่รู้หรอก ว่าไอ่การแอบชอบอีกฝ่ายมาตลอดชีวิตเนี่ย มันทำให้เจ๋งรู้จักภูริดีกว่าที่ภูริรู้จักตัวเองเสียอีก

     

              เพราะงั้นก็เลยโกรธ และโคตรโมโหไอ่พี่มิวนั่นหน่อยๆ หน๊อย ปล่อยให้มีโอกาสเป็นตั้ง 99.99 เปอร์เซ็นต์ทั้งชีวิตที่จะได้ดูแลภูริแทนที่คนอย่างเจ๋ง กลับไม่เคยรักษาและถนอมภูเหมือนที่เจ๋งทำเลยซักนิด คบกันมาเป็นสิบปี เคยเห็นภูริร้องไห้ยังไม่ถึงสิบครั้ง แต่ตั้งแต่ปล่อยให้คบกับพี่มิวเพียงเพราะอยากเห็นรอยยิ้มของภู กลับได้ยินแต่เสียงร้องไห้ผ่านโทรศัพท์แทบทุกวัน

              เจ๋งยอมรับว่าใช้ชีวิตแบบนี้มันโคตรเหนื่อย เขาเหนื่อยมากกับการที่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตีสองพร้อมกับรับโทรศัพท์ที่มีประโยคทักทายเดิมๆอย่าง ว่างฟังภูหน่อยไหมเจ๋ง แทนสวัสดีเจ้าเจ๋งไปซะแล้ว

     

              แต่เขารู้ว่าภูน่ะเหนื่อยเสียยิ่งกว่า การต้องเป็นคนเข้มแข็งทั้งที่ข้างในเปราะบางชนิดที่ว่าสะกิดนิดเดียวก็ร้องไห้ได้เป็นวันน่ะมันเหนื่อยใจจะขาดขนาดไหน เจ๋งรู้ว่าคนอย่างภูต่อให้เสียใจขนาดไหนก็จะบอกว่าไม่เสียใจ ท้อขนาดไหนก็จะบอกว่าไม่ท้อ และทุกข์ขนาดไหนก็จะบอกว่ามีความสุข เพราะเจ๋งรู้ว่าภูไม่อยากให้ทุกคนผิดหวังในตัวภู ทั้งที่ตัวของภูเองไม่มีความหวังอะไรเหลือในตัวเองอีกต่อไปแล้ว

              ภูคงไม่รู้ว่าการที่ไม่ต้องฝืนเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวภู ไม่ได้ทำให้เจ๋งผิดหวังในตัวภูลดน้อยลงไปเลย

              เจ๋งแค่อยากได้ภูคนเดิมกลับมา

              อ่อนแอก็ได้ แพ้บ้างก็ได้ ท้อบ้างก็ได้ ยังไงมือของเจ๋งก็ไม่ปล่อยภูไปหรอกนะ

              เจ๋งรักภูริมากๆ

              แต่บางความรู้สึก ก็ควรเก็บไว้กับตัวดีกว่าจะบอกออกไป

              เพราะเจ๋งรู้ดี ยังไงเจ๋งก็ไม่ใช่คนนั้นสำหรับภูอยู่ดี

     

     

              ใกล้เวลาตีสองเข้าไปเต็มที เจ๋งทาสีโมเดลขนาดเล็กทั้งหมดเรียบร้อย เขาเหลือแค่ขั้นตอนประกอบให้มันพอเป็นรูปเป็นร่าง ช่วงนี้เขาอินกับสีโทนฟ้าหน่อยๆเพราะมองไปมองมามันก็ทำให้รู้สึกเย็นได้เหมือนกัน ถ้าหากเป็นแต่ก่อนเขาก็คงเฉยๆกับมัน หลงรักในเสน่ห์ของสีเขียวที่ดูสดชื่นและสบายตามากกว่า แต่เพราะเจ๋งรู้ว่านี่คือโทนสีที่ภูโปรดปราน เขาเลยจะชอบมันมากกว่าเดิมก็ได้ ไม่เป็นไร

              เจ๋งเหลือบมองโทรศัพท์อยู่เป็นระยะ พอรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ค่อยดีนักถ้าหากเขาจะคาดหวังให้ค่ำคืนนี้มีเสียงเรียกเข้าจากภูริ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขามั่นใจเข้าไปทุกทีว่าภูไม่มีความสุขที่จะอยู่กับพี่มิวนั่นอีกแล้ว และเชื่อเถอะว่าเขา คนที่ทำให้ทั้งสองคนโคจรมาเจอกันได้ ก็เป็นคนเดียวกับที่จะทำให้ภูเหวี่ยงพี่มิวออกไปให้ไกลจนสุดสายตาได้เช่นเดียวกัน

              เขาไม่อยากให้ภูเสียใจเลย

              แต่ถ้านั่นจะทำให้ภูเข้มแข็งขึ้น มากพอที่จะตัดพี่มิวออกไป

                เขายอม

     

     

              ไม่ทันได้คิดอะไรมากไปกว่าการกดให้เจ้ากรอบรูปขนาดจิ๋วแนบเข้ากับโมเดลผนังห้อง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่ตั้งเอาไว้เฉพาะก็ดังขึ้นอีกครั้ง เจ๋งชั่งใจกับตัวเองว่าควรจะรับหรือปล่อยผ่านไป แต่เชื่อเขาเลยว่าอิทธิพลของภูน่ะ ทำให้เจ๋งตัดสินใจได้ตั้งแต่สามวินาทีแรกด้วยซ้ำ

     

                เจ๋ง พี่ พี่มิว พี่มิวไปอีก... แล้ว

                ภูไม่ไหวแล้วเจ๋ง ภูอยู่ในห้องนี้ไม่ได้ ภูไปหาเจ๋งได้มั้ย รบกวนหรือเปล่า

                ถ้ารบกวนไม่เป็นไรนะเจ๋ง ช่วงนี้ใกล้ไฟนอลแล้ว เจ๋งอย่าลืมอ่านหนังสือนะ

                เจ๋ง

                ขอเราไปหาเจ๋งได้มั้ย

                ภูนอนพื้นก็ได้ แต่อยู่เป็นเพื่อนเราในคืนนี้ได้มั้ย

              ภูเหนื่อยแล้วเจ๋ง

              “เจ๋งไม่ได้ล็อกห้อง เจ๋งกำลังทำงาน แวะซื้อนมร้อนกับขนมปังที่เซเว่นมาด้วยนะ เจ๋งอยากกิน”

              เปล่าเลย เจ๋งไม่ได้หิว

              แต่เจ๋งอยากให้ภูกิน ภูจะได้นอนหลับสบาย

     

     

     

     

             

     

              กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เหมือนมีภาพเดจาวูในหัวเป็นร้อยภาพ โอเค เจ๋งเคยชินกับภูที่อยู่ในห้องของเจ๋งก็จริง แต่ตั้งแต่ที่ภูยอมย้ายออกเพื่อไปอยู่กับพี่มิวเมื่อเข้าสู่ช่วงแปดเดือนที่คบกัน เจ๋งก็รู้สึกคุ้นเคยกับความเดียวดายมากกว่า ถึงจะโหยหาที่จะมีภูอยู่ใกล้กัน แต่เจ๋งก็รู้ดีว่ามันไม่เป็นผลนักหรอก เพราะภูคงมีความสุขมากกว่าถ้าจะได้อยู่กับพี่มิว

              พูดแล้วก็ขึ้น หัวข้อที่ทะเลาะกันในวันนี้เหมือนถูกกรออยู่ในหัวเจ๋งเป็นร้อยรอบ ใช่ ทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องการนอกใจเป็นสิบสิบรอบ พี่มิวไม่ใช่คนหวงตัว แถมยังชอบเข้าใกล้คนอื่นโดยไม่มีเหตุผล เจ๋งไม่มั่นใจนักหรอกนะว่านั่นเป็นนิสัยส่วนตัวที่แก้ไม่หายของพี่มิวหรือเปล่า แต่เจ๋งรู้ เจ๋งรู้ว่าภูไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล

              แล้วภูก็เพิ่งบอกเจ๋งไปเมื่อกี๊เอง

              พี่มิวคบคนอื่น คบคนอื่นทั้งๆที่คบกับภูริอยู่นั่นแหละ

              โคตรเหี้ยเนอะ ความรู้สึกของเจ๋งตอนนี้น่ะ

     

              “เจ๋งอย่าโกรธพี่มิวเลย มันเป็นเพราะภูมากกว่าที่ทำให้พี่มิวรู้สึกไม่ดี”

              มีใครบนโลกที่รู้สึกไม่ดีกับภูด้วยหรอ ภูริคนนี้เนี่ยนะที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ เหอะ เจ๋งอยากเถียงแทบบ้า ทำไมถึงต้องเป็นภูที่เป็นคนผิดหรอที่พี่มิวไม่รู้จักพอ ถามจริงๆเถอะว่าความผิดภูหรอที่เป็นคนดีเกินไป แม่ง ทำไมต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ตลอดเวลาเลยวะภูริ เจ๋งเหนื่อยที่จะชอบแบบนี้แล้วนะ

              “แล้วภูผิดไรวะ ผิดที่ให้เขาไม่ได้หรอ หรืออะไร ภูคิดว่าภูผิดอะไรอะ”

              “ก็จริง ภูผิดที่ให้พี่เขาไม่ได้”

              โห ไอเหี้ย พูดแล้วโคตรโกรธกว่าเก่า โกรธที่ไอ่ห่าพี่นั่นมองเห็นภูมีค่าแค่ระบายความอยาก ถ้าไม่ได้ก็ไปเอากับคนอื่น โกรธเข้าไปอีกที่ภูพูดออกมาได้ทั้งน้ำตา กับมือสั่นๆที่พยายามจะติดโมเดลอันเล็กให้กับงานของเจ๋งอีกแล้ว

     

              อ่อนแอแค่ไหนก็ต้องช่วยเหลือคนอื่นได้เสมอ ภูเคยบอกเจ๋งเอาไว้

              แต่เจ๋งไม่ชอบเลย ไม่ชอบที่เห็นน้ำตาของภูไหลไม่หยุด แต่มือของภูก็ไม่หยุดช่วยเจ๋งด้วยเช่นกัน ไม่ชอบเลยที่ปากเล็กๆนั่นที่เจ๋งชอบแกล้งดึงต้องถูกกัดเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้บรรยากาศมันแย่ไปกว่านี้ เจ๋งไม่ชอบ เจ๋งเกลียด เกลียดที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเช็ดน้ำตาให้ภูไปมา แค่จะปลอบภูในฐานะเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เจ๋งยังไม่บริสุทธิ์ใจกับตัวเองเลย

             

    บ่อยครั้งที่คิดกับตัวเองว่าคนอย่างภูไม่น่าเจอกับเจ๋งเลย

              แต่ก็นั่นแหละ ถ้าให้เลือกขอพรได้ข้อหนึ่งก่อนเกิดในทุกชาติ เจ๋งก็จะเลือกขอเป็นคนรู้จักของภูในทุกชาติอยู่ดีนั่นแหละ

              เจ๋งคงจะชอบภูมากเกินไปจริงๆ

              ไม่บริสุทธิ์ใจเลย

     

              “หยุดร้องได้แล้วภู งานเจ๋งเปียกหมดแล้ว”

              “ขอโทษนะเจ๋ง ภูขอโทษ”

              ว่าพลางเช็ดน้ำตาสูดน้ำมูกตามประสาคนเคยเป็นโรคหอบหืด เจ๋งอยากดึงภูในตอนนี้เข้ามากอดชะมัดยาก แม่ง ทำไมถึงเป็นคนที่ร้องไห้ได้น่าสงสารขนาดนี้วะ หัวใจเจ๋งจะขาดรอมร่ออยู่แล้วนะภูริ ไม่สงสารกันบ้างเลย

              “ไม่ต้องขอโทษแล้วภู เจ๋งไม่อยากฟัง”

              “...”

              “ภูตอบเจ๋งมาเดี๋ยวนี้”

              “-ว่า”

              “ภูเคยคิดอยากเลิกกับพี่มิวมั้ย”

             

              เจ๋งกลั้นใจถามคำถามออกไปในที่สุด เขาทบทวนกับตัวเองมาหลายครั้งแล้วล่ะ แล้วครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะนึกถึง ถ้าภูริตอบว่าไม่ เขาจะไม่คิดเข้าไปยุ่งวุ่นวายในชีวิตรักของภูริอีก แต่ถ้าในเศษเสี้ยวของความรู้สึกภูริ ไม่อยากมีพี่มิวคนที่สิบหรือสิบเอ็ดเข้าไปอีกแล้ว เจ๋งจะแยกร่างออกมาเป็นร่างที่ร้อยหนึ่ง และจะใช้กำลังทั้งหมดที่มีเอาพี่มิวทั้งสิบร่างนั้นออกไปเอง

              เจ๋งจะทำ

                เจ๋งจะทำให้ตัวเองกลับเป็น 100% ของภูริอีกครั้ง

                แต่นั่น ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าภูริต้องการมันมั้ย

     

              “เอาจริงๆนะเจ๋ง ถ้าเป็นแต่ก่อน ภูคงไม่อยาก”

              “...”

              “แต่ตอนนี้ ภูไม่ไหวแล้วเจ๋ง”

              “...”

              “ภูอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม อยากกลับมาอยู่กับเจ๋ง”

              “ภู”

                “ภูอยากเลิก”

                “งั้นไปกับเจ๋ง เจ๋งจะพาภูไปบอกเลิกพี่มิวเอง”

                ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เจ๋งยังมีความหวังในชีวิต เขาไม่สนใจชิ้นงานตรงหน้าถึงมันจะเหลือเวลาไม่ถึง 72 ชั่วโมงที่จะต้องส่ง ถึงจะเหลืออีก 50% กว่าจะเสร็จงานชิ้นนี้ได้อย่างน่าพึงพอใจ เจ๋งไม่สนใจห่าอะไรแล้วถึงแม้ตรงหน้าจะเป็นคะแนนไฟนอลถึง 20 คะแนนก็ตาม

              เพราะอนาคตโลกของเจ๋งทั้งใบอยู่ตรงหน้าแล้ว

              พร้อมกับประโยคที่พูดออกมาว่าอยากบอกเลิกนั่นแหละ

     

              เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางคว้าข้อมือของเพื่อนสนิทที่ไม่เคยคิดอะไรซื่อตรงเลยแม้แต่น้อย ข้อมือของภูมันเล็กจนกำได้รอบโดยไม่ต้องออกแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ หกเดือนก่อนตอนที่ยังคบกันได้ไม่นานภูยังคงอิ่มเอมและมีรอยยิ้มสดใสอยู่เสมอ

              ในตอนนี้ภูไม่ได้มีความสุขแบบนั้นอีกแล้ว

              และเจ๋งโคตรเจ็บเลย

     

                “แต่ภูอยู่คนเดียวไม่ได้”

                “แล้วเจ๋งเคยปล่อยให้ภูอยู่คนเดียวหรอ”

                “ไปกับเจ๋ง เจ๋งจะพาไปบอกเลิก แล้วเดี๋ยวภูจะรู้เลยว่าที่เจ๋งบอกว่าเจ๋งจะไม่มีวันปล่อยมือภูไป เจ๋งจริงจังแค่ไหน”

                “ไปกับเจ๋ง”

     

             

     

     

     

     

     

    #ภูกับเจ๋ง

     

    เจ๋งน่ารักเนอะ เห้อ ไปฟังเพลงกัน น่ารักมากค่ะ ฟังแล้วอยากเขียนเลย
    เอาล่ะค่ะ ถ้าพรุ่งนี้วีแอพกัปตันมีโมเม้น เดี๋ยวก็มีตอนสองมาเอง
    บนบานกัปตันเอานะคะ ทางนี้จะขอนั่งเอาใจช่วย เห้อม

    รักและคิดถึงทุกคนมากๆค่ะ รักทุกคนน้อยกว่าที่รักน้องจินยองก็ได้
    - dgx

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×