คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : oneshot - khun dan and his babe ep.0 #danyoung
ถ้าหากจันทร์ถึงศุกร์เขามีอาชีพเป็นทนายความผู้น่าเกรงขาม
คังแดเนียล ในยามค่ำคืนของวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์ก็คงเป็นพี่เลี้ยงเด็กเชื่องคนหนึ่งน่ะนะ
"คุณแดน"
ละสายตาจากหนังสือเล่มโตตรงหน้าเพื่อหันไปมองแขกผู้มาเยือนในค่ำคืนนี้ ร่างเล็กในชุดเสื้อยืดสีขาวพร้อมกางเกงสามส่วนสีน้ำเงินเข้มทำเอาต้องฉุดยิ้มด้วยความเอ็นดู มือเล็กนั่นโอบอุ้มกล่องของขวัญชิ้นใหญ่ที่ถูกวางทิ้งไว้ในห้องมาได้เกือบสามสัปดาห์ เท่าที่จำได้คร่าวๆก็น่าจะเป็นเซตบำรุงสุขภาพผิวหน้าที่ลูกความมอบมาให้อีกทีแทนคำขอบคุณ ตั้งแต่เปิดดูสิ่งของข้างในเมื่อวันที่ได้รับมาวันแรกเขาก็ไม่ได้แตะต้องมันอีก เจ้าเด็กจอมซนตรงหน้าก็คงจะไปขุดคุ้ยมาจนได้อีกสินะ
"อันนี้อะ"
เมื่อเดินมาถึงตรงโต๊ะวางแก้วกาแฟตรงหน้าของเขา อีกฝ่ายก็ค่อยๆบรรจงวางมันลงด้วยอารามกลัวว่าสิ่งของข้างในจะได้รับการกระเทือน ตามด้วยเจ้าตัวที่หย่อนตัวเองนั่งขัดสมาธิลงกับพื้นเช่นเดียวกัน ดวงตากลมแป๋วที่โผล่พ้นมาจากกล่องสีน้ำตาลทรงใหญ่ทำให้อดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้
แพจินยอง เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีที่มักจะต้องอพยพตัวเองมาเป็นแขกคนสำคัญของคอนโดหรูทุกค่ำคืนวันศุกร์ เขาและพี่ชายของอีกฝ่ายรวมไปถึงเจ้าเด็กตรงหน้าสนิทสนมกันมาตั้งแต่เล็กๆ เด็กน้อยวัยสามขวบในวันนั้นเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กมัธยมต้นปีสุดท้ายด้วยความรวดเร็วจนเขาเองยังไม่ทันได้ตั้งตัว
ภาพในอดีตเมื่อสมัยสิบสองปีที่แล้วเขายังจดจำมันได้ดี เราทั้งสามใช้เวลาร่วมกันบ่อยๆ แต่พอต้องแยกย้ายกันสองคนมาเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองก็เลยต้องห่างจากเจ้าตัวเล็กในกลุ่มมาจนได้ จนตัวจินยองเองนั่นแหละที่ตั้งใจเรียนจนสอบเข้ามาเรียนโรงเรียนชื่อดังที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันด้วย ประกอบกับที่พี่ชายของเจ้านี่เรียนจบพอดี ทางครอบครัวก็เลยสั่งย้ายน้องเล็กของบ้านมาให้พี่ชายคุมความประพฤติซะดีๆ
แต่องซองอูก็คือองซองอูอยู่วันยังค่ำ เพื่อนตัวดีที่ไม่เคยอยู่ที่ไหนเป็นหลักเป็นแหล่งได้เกินหนึ่งอาทิตย์ด้วยอาชีพที่จำเป็นต้องเดินสายออกกองไม่มีวันหยุดโดยเฉพาะช่วงเสาร์อาทิตย์ ก็เลยมอบภาระดูแลเจ้าเด็กแสบที่ชอบสร้างเรื่องปวดประสาทให้บ่อยๆมาให้เขาแทน ไอ่ครั้นจะปฏิเสธก็ทำได้อยู่หรอก แต่ถ้าต้องมาเห็นเด็กน้อยที่ตัวเองเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่อกโดนคนอื่นที่ไม่รู้จักมาหลอกไปก็ใช่เรื่อง เขาเลยรับอาสามาดูแลเองในฐานที่ก็ไม่ได้มีงานด่วนอะไรอยู่แล้วในวันหยุด ทั้งยังดีเสียอีกที่ได้มีใครมาคอยแก้เหงา
ถึงบางครั้งจะแก้เหงามากไปหน่อยก็นะ
"อันไหนละ?"
"อันนี้ๆ เราเห็นในโฆษณา อยากใช้อะ"
พูดพลางจิ้มนิ้วไปยังหลอดบีบพลาสติกหลากสีสันที่ถูกวางเรียงอยู่บนกระดาษชิ้นเล็กชิ้นน้อย
"พี่เราก็ทำโฆษณาให้แบรนด์นี้นิ เขาไม่ได้ส่งให้หรอ"
"ก็ส่ง.. -พี่มินฮยอนส่งมาให้พิเศษด้วย แต่พี่ไม่ให้ใช้ เห็นบอกจะถือว่าทำคะแนนพิเศษอะไรก็ไม่รู้อะ"
ว่าพลางเบะปากตามนิสัยส่วนตัวที่มักจะแสดงออกทุกครั้งที่ถูกขัดใจ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาพึงพอใจได้เท่ากับเนื้อความในประโยคนั่นหรอกนะ
ฮวัง มินฮยอน ดาราหนุ่มที่มีชื่อเสียงพอตัวด้วยใบหน้ารูปลักษณ์ราวกับเจ้าชาย พ่วงด้วยตำแหน่งขวัญใจมหาชนถึงสามปีซ้อน แต่ท้ายสุดก็ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับตาแป๋วๆปากแดงๆของเด็กตรงหน้า
-เหมือนกับเขา
ใช่ เพราะนอกจากจะมีฐานะเป็นน้องชายของเพื่อนสนิท แพจินยอง(ที่ถูกแบ่งให้ใช้คนละนามสกุลกับคนเป็นพี่)ก็ยังมีสถานะหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
เจ้าของหัวใจเขาไงละ
"สรุปคุณแดนจะให้เราใช้ไหมเนี่ย?"
ขมวดคิ้วกอดอกเมื่อเห็นคนอายุมากกว่าเหม่อลอยไปไกลไม่ฟังสิ่งที่ตนร้องขอ ก็เห็นเป็นแบบนี้ทุกที พอจะเล่าจะพูดอะไรให้ฟังก็ชอบจ้องหน้า แต่ไม่เคยหรอกจะสนใจในสิ่งที่เขาจ้อออกไป ติดออกจะฟังหูซ้ายทะลุหูขวาเสียด้วยซ้ำ เหมือนกันกับพี่มินฮยอนไม่มีผิด รายนั้นน่ะทั้งเท้าคางมอง แถมบางครั้งก็ยิ้มให้ทั้งที่เนื้อหาที่เล่าไปในวันนั้นมันช่างจะทรหดซะจริงๆ
ก็บอกทั้งคู่แล้วว่าอย่านอนดึก ไม่งั้นจะเพลียแล้วก็เพ้อเจ้อ เหมือนพี่ซองอูที่ชอบตื่นละเมอหาใครอยู่กลางดึกก็ไม่รู้ เขาละเหนื่อยจริงๆกับผู้ใหญ่สามคนนี้ โตแต่ตัวแต่ก็ไม่วายให้เด็กสิบห้าปีอย่างเขาต้องมาบังคับทุกที!
"อืม ใช้ไปสิ ปกติเคยไม่ให้หรอ"
พยักหน้าเมื่อกลับเข้ามาสู่ตัวเองอย่างที่เคย เขาหันมาสนใจหนังสือในมือต่อ อันที่จริง ในอาทิตย์หน้าเขาก็มีว่าความที่เป็นคดีรุนแรงพอตัว ถ้าหากอ่านเตรียมข้อมูลไว้แต่เนิ่นๆก็จะถือว่าไม่เสียเปรียบเท่าไหร่
เด็กน้อยที่อยู่ภายใต้การดูแลแค่ชั่วคราวหายเงียบไปเลยเมื่อได้รับคำอนุญาต นั่นนับว่าเป็นเรื่องที่แปลก เพราะในปกติแล้วเจ้าตัวแสบจะต้องวิ่งร่าไปทั่วห้อง เผลอทำอะไรแผลงๆเช่น ซ่อนแอบใต้โต๊ะอาหารแล้วก็จะยู่หน้าลงพร้อมบ่นอุบเมื่อไม่เห็นว่าเขาจะให้ความสนใจกับเจ้าตัว หรือไม่ก็ชอบมาออดอ้อนเพื่อที่จะได้แย่งที่นั่งบนโซฟาแสนสบายที่เขากำลังครอบครอง
ลดหนังสือในมือลงเมื่อเวลาผ่านไปซักพักก็ยังไม่มีวี่แววของผู้มาเยือน เขาหันหลังกลับไปมองบริเวณโซนครัวที่อีกฝ่ายอาจจะไปคุ้ยอะไรเล่นเช่นเคยแต่ก็ไม่พบอะไรที่บ่งบอกได้เลย ครั้นหันหลังกลับมาดังเดิมก็-
"เราน่ารักปะ"
ร่างเล็กที่มัดจุกผมหน้าม้าที่ปรกลงมาทิ่มตายื่นเฉพาะส่วนใบหน้าของตนให้เข้าใกล้จนแทบจะได้กลิ่นหอมจากตัวของอีกฝ่าย ใบหน้าเนียนที่ป้ายละเลงหลากสีเป็นขีดๆ ปลายจมูกรั้นที่อยากจะบีบแน่นๆให้หายหมั่นเขี้ยวถูกทาด้วยเนื้อครีมสีเขียวอ่อน ริมฝีปากแดงดั่งผลแอปเปิ้ลยิ้มแฉ่งจนเห็นฟันสวยเรียงราย ดวงตากลมโตราวกับลูกแมวก็เล็กลงจนเป็นขีดเผยให้เห็นขาตาเรียงเป็นแพ
-เกินไป
น่ารักเกินไปแล้วโว้ย
"เล่นอะไรเนี่ย"
แม้ใจจริงจะอยากพุ่งเข้าไปลงโทษโทษฐานที่ทำให้หัวใจเต้นเป็นระส่ำแต่ก็ต้องระงับจิตใจของตัวเองไว้ไม่ให้ถลำมากไปกว่านี้ ยังไงอีกฝ่ายก็ยังเด็กยังไม่รู้ประสีประสา มิหนำซ้ำเจ้าเด็กแสบนี่รู้สึกอย่างไรกับเขาเขายังไม่รู้เลย ถ้าหากพลาดเผลอใจไปหนึ่งครั้งมันอาจจะมีอะไรย่ำแย่กว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
ก็ได้แต่ภาวนานับหนึ่งถึงสิบในใจพร้อมกับยกมือทาบอกเพื่อลดระดับความเร็วที่มันตุบตับ แพจินยองน่ะน่ารักเรี่ยราดเกินไปแล้วนะ
"ก็ทาตามที่พี่มินฮยอนทาในทีวี เราเห็นเท่ดีเราก็เลยอยากทำบ้าง"
"แล้วทำไมไม่ทาให้ดีๆ"
"ทาแค่นี้แหละ เดี๋ยวเราจะหล่อมากเกินไป ว่าแต่..."
"...?"
"คุณแดนหน้าโทรมมากเลยอะ เราทาให้คุณแดนบ้างดีกว่า"
แพจินยอง!
ถ้าหากคิดว่าการมัดจุกพร้อมยิ้มตาหยีใกล้ๆหน้ามันยังสร้างพลังทำลายล้างตัวตนของเขาได้ไม่พอ การคิดว่าจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิมพร้อมส่งสายตามุ่งมั่นยามจรดปลายหลอดบีบนั่นลงบนใบหน้าของเขาจะช่วยให้พลังทำลายล้างสูงขึ้นไปอีก อีกฝ่ายก็คงจะคิดถูกเสียจนไม่มีขอโต้แย้ง
-อันตราย
ท่าทางและตำแหน่งของเราในตอนนี้มันไม่เป็นผลดีใดใดเลยซักนิด ร่างของเขาที่นอนเอนลงกับโซฟาเนื้อดีพร้อมอีกคนที่ยืนโค้งเข้ามาใกล้ ใบหน้าที่มีระยะห่างเพียงแค่คืบทำเอาจมูกได้กลิ่นหอมโชยกรุ่น มือเรียวเล็กทั้งสองข้างค่อยๆบรรจงปัดป้ายเนื้อครีมหลากสีลงบนใบหน้า ความตั้งใจกับผลงานชิ้นเอกแสดงให้เห็นด้วยแววตามุ่งมั่น ที่เห็นจะทำลายสมาธิเขาได้มาที่สุดก็คงจะเป็น
ริมฝีปากคู่นั้น
เขานับหนึ่งถึงร้อยในใจวนไปวนมาจนจะเข้าใกล้รอบที่สิบ ความอดทนอดกลั้นทั้งหมดที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีถูกยกออกมาใช้ เขาไม่อยากทำร้ายความไม่ประสามากพอๆกันกับอยากจะกดจูบลงไปโทษฐานที่เก่งนักละเรื่องแกล้งกันซะให้เข็ด
ฝ่ามือร้อนชื้นเหงื่อบีบขยำอยู่อย่างนั้นเพื่อเรียกสติตัวเองขีดจำกัดมันชักจะหมดลงเรื่อยๆเมื่อเห็นเจ้าสิ่งนั้นเคลื่อนผ่านไปผ่านมา และเขาคิดว่าถ้าเกิดได้ยินเสียงผึง!ขึ้นมาเมื่อไหร่ ความอดทนด้านศีลธรรมอันดีงามคงได้ถูกทำลายไปแน่แท้
-ถ้าหากเขาไม่ยับยั้งชั่งใจ
"เสร็จแล้ว"
ผึง!
รอยยิ้มตาหยีและฟันซี่เล็กที่โผล่มาพร้อมกับระยะห่างที่เหลือเพียงสามเซ็นระหว่างเรามันทำให้เขาตัดสินใจปิดเปลือกตาลง แล้วประกบเข้าจูบกับริมฝีปากสีแดงสดที่ยังคงเปื้อนยิ้มอยู่อย่างนั้น กดแช่ค้างไว้เพียงครู่ก่อนจะละออกมาด้วยความเสียดาย
ใบหน้าเล็กที่ขึ้นสีระเรื่อจากการโดนกระทำมันทำให้น่ามองอย่างน่าประหลาด เขาหลุดหัวเราะให้กับความน่าเอ็นดูก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมสีดำที่ขึ้นชี้ฟูจากการสะบัดหัวไปมาของอีกฝ่าย
"อันนี้ค่าตอบแทนที่ทาให้"
"..."
"ล้างหน้าเสร็จแล้ว ไปนอนด้วยกันนะครับ"
ฝ่ายเด็กวัยเพียงสิบห้าขวบที่ถูกฉกฉวยโอกาสจากคนแก่มักมากก็ทำได้เพียงแค่ยืนอึ้งกับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านพ้นไป ถ้าหากนี่เรียกว่าสติหลุดก็คงใช่ แต่เมื่อกี๊นี่มัน-
แถวบ้านไม่มีใครบอกหรอ ว่าถ้าไม่ชอบใครก็ไม่ต้องไปจูบเขาอะ!
มาทำใจเด็กเต้นแรงแบบนี้ มารับผิดชอบเดี๋ยวนี้เลยนะ!
#pdxdg
เห้อ ทั้งชีวิตมีแค่โทรศัพท์ก็ยังจะอยากอัพ...
ค่ะ ลั่นเพราะแฟนอีดิทกับรูปน้องวันนี้ล้วนๆ
อยากอ่านคู่นี้ตั้งแต่รูปที่นั่งตักกันออกมาล่ะค่ะ แง แต่งเองซะเลย
คิดว่าคงมีภาคต่อ แต่ขอให้แก้ปัญหากับคอมก่อนนะคะ
เพราะพิมพ์แต่ในโทรศัพท์แบบนี้ ไม่ได้ดั่งใจที่อยากได้เลยค่ะ แง หงุดหงิดไปหมด
ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ ถ้ามีโอาสจะไล่ตอบหมดเลย :-)
หวังว่าจะชอบความสัมพันธ์ของตาแก่ชอบฉวยโอกาส กับเด็กมอต้นที่รักการแกล้งนะคะ
하트 뿅뿅
-edit จัดหน้าเฉยๆนะคะ :)
ความคิดเห็น