คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : oneshot - dark chocolate #hoonyoung #winkdeep
Bae jinyoung received dark chocolate for 14th
time already.
but this 15th time is not the same.
and he likes it –so much.
“บอกให้เลิกกินไง”
หางตาของคนมีศักดิ์เป็นน้องเหลือบมองคนข้างกายที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ตั้งแต่เดินเข้ามาในตัวบ้านและมองเห็นว่ามือของเขากำลังถืออะไรอยู่
แต่นั่นมันก็ช่างปะไร เพราะนี่มันคือปากของเขาและท้องของเขา เขาจะทำอะไรก็ได้
จะกินอะไรก็ได้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับปากท้องของพัคจีฮุนซักหน่อยนิ
“เรื่องของผมปะ”
“แล้วมันไว้ใจได้หรือไง”
ว่าพลางกระชากบาร์ช็อกโกแลตในมือของแพจินยองคนนี้เข้าไปอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง
มิหนำซ้ำยังกัดทับรอยเดิมกับที่เขายังคงกินค้างไว้อยู่แบบนั้น โอโห หน้าด้าน!
“บอกว่ามันไว้ใจไม่ได้แล้วกินเข้าไปทำไมอะ
เอาคืนมานะ!”
“ดูปากฉันนะ
ไม่ –
คืน”
เน้นทุกประโยคอย่างชัดเจนพร้อมกัดเน้นๆเข้าไปอีกคำจนช็อกโกแลตหายไปเกือบครึ่งแท่ง
แพจินยองที่ยอมแพ้ทุกทางทำได้เพียงแค่อ้าปากพะงาบมองสีหน้าเยาะเย้ยของอีกฝ่ายที่ส่งคืนมาให้แทน
มันเป็นเรื่องประหลาดที่แพจินยองมักได้รับช็อกโกแลตบาร์ยี่ห้อโปรดสอดอยู่ในกล่องจดหมายหน้าบ้านทุกวัน
และนี่ก็เข้าสู่วันที่สิบสี่แล้วที่เขาได้รับมันซ้ำไปซ้ำมา
ครั้งแรกที่ได้รับ
เขาทำเพียงแค่มองมันอยู่อย่างนั้นเฉยๆ
ถามคุณพ่อคุณแม่ในบ้านแล้วก็ไม่เห็นจะมีใครรู้เรื่องสักคน และคงไม่ต้องไปถามเจ้าน้องชายน้องสาวตัวแสบเลยด้วยซ้ำ
เพราะยังไงเด็กที่ยังอายุไม่ถึงห้าหกขวบกันดีคงไม่ฉลาดจนถึงขั้นมาจีบสาวผ่านทางกล่องจดหมายแบบนี้หรอก
หรืออย่างน้อยนี่มันคงเป็นทางเลือกที่เห่ยที่สุดที่คนสมัยนี้จะคิดกันได้อะนะ
แน่ละว่าแพจินยองยังตัดสินใจที่จะไม่กินมันในวันนั้น
ขนมของใครเขาเองก็ไม่รู้ แถมมียาพิษหรือเปล่าก็ยิ่งไม่รู้เข้าไปใหญ่ แต่จะปล่อยให้มดขึ้นอยู่หน้าบ้านก็เสียดายเปล่า
สู้เก็บเอาไว้ในตู้เย็นเผื่อวันไหนขาดแคลนมันแล้วค่อยลงมากินเสียยังดีกว่า
เขาก็เลยตัดสินใจที่จะเก็บช็อกโกแลตบาร์แท่งนั้นเอาไว้ในตู้เย็น
แปะโพสต์อิทอย่างดิบอย่างดีว่านี่คือของ ‘พี่คนโต’
ในบ้าน เจ้าเด็กตัวแสบทั้งสองคนจะได้ไม่เนียนแอบอ้างมาขโมยกินแล้วทำหน้าตาเรียบเฉยได้อย่างที่เคย
และเขา
ก็ไม่ได้บอกใครอีกเรื่องช็อกโกแลตบาร์แท่งนั้น
เช้าวันถัดมา
แพจินยองที่มีหน้าที่เช็คกล่องจดหมายหน้าบ้านทุกเช้าก็ต้องผงะอีกครั้งเมื่อพบว่ายังคงมีช็อกโกแลตบาร์ยี่ห้อเดิมนอนแอ้งแม้งอยู่ในนั้น
เขาหยิบมันขึ้นมาพลางสอดส่องสายตามองไปรอบกาย และก็เป็นอย่างที่คาด –ไม่มีใครต้องสงสัยซักคน
จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ห้า
ตู้เย็นที่บ้านเริ่มจะไม่มีที่ว่างมาพอสำหรับช็อกโกแลตบาร์แท่งนี้อีกแล้ว
แพจินยองจึงตัดสินใจเฮือกสุดท้ายคว้าเอาเจ้าช็อกโกแลตเจ้าปัญหาแท่งแรกมากำไว้ในมือพลางเดินออกไปหน้าบ้านตามเสียงร้องตะโกนของพี่ชายข้างบ้าน
และให้ตายเถอะ พัคจีฮุนทำไมถึงได้น่ารำคาญขนาดนี้นะ
‘ช็อกโกแลตไรอะ?’
เขาซ่อนของในมือทันทีเมื่อรู้ตัวว่าโดนจับจ้องจากคนตรงหน้า
พัคจีฮุนเป็นพี่ชายข้างบ้านที่ไม่เก่งอะไรเลยนอกจากเป็นตัวปัญหาในชีวิตเขาไปวันๆ(ถึงจะเรียนเลขเก่งและคะแนนติดท็อปชั้น
แต่แพจินยองก็คิดว่านั่นก็น่าจะเป็นเพราะชอบลอกข้อสอบคนที่นั่งข้างกันนั่นแหละ) เรื่องไหนที่แพจินยองคิดว่าดีไม่เคยหรอกที่จะนึกทำ
แต่เรื่องไหนที่ทำให้คนอย่างเขามีน้ำโหได้ก็ดูเหมือนจะถนัดเอาเสียเหลือเกิน
โดยเฉพาะความจริงที่ว่า
แพจินยองไม่ชอบให้แย่งขนมเนี่ย ชอบทำดีนักล่ะ
‘ยุ่ง’
‘นี่พี่นะ’
‘ก็พี่ชอบยุ่งอะ’
สะบัดหน้าหนีคนที่ชักจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อมองห่อช็อกโกแลตในมือของเขา
พัคจีฮุนเป็นหนึ่งเรื่องการกวนประสาท
คาแรคเตอร์พี่จีฮุนคนเท่ของสาวๆในโรงเรียนน่ะไม่มีจริงหรอก ตัวตนสมมุติทั้งนั้น
หรือจะให้แปลง่ายๆก็คือสร้างเรื่องเอาอะนะ
‘ก็จะยุ่งอะ –อีกละ เสียเงินให้กับขนมหวานอีกแล้ว
ขามันถึงได้ใหญ่เอาๆนี่ไง’
‘นี่ปากหรอ’
หันขวับมาถลึงตาใส่คนเป็นพี่ที่ยิ้มเยาะหลังจากได้ยินน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความหงุดหงิดของเขา
บอกแล้วว่าพัคจีฮุนน่ะชอบใจใหญ่ยามได้กลั่นแกล้งคนอย่างเขา
‘ก็ปากน่ะสิ คิดว่าอะไรล่ะ?’
‘โรงพยาบาลสัตว์ เห็นมีแต่หมา’
‘แพจินยอง!’
ตะโกนเสียงดังพร้อมกับผลักหัวเขาด้วยความเอ็นดูไปที
เขาเบ้ปากเมื่อเห็นสีหน้าของอีกคนที่ทำท่าทีราวกับโดนขัดใจ ช่างหัวพัคจีฮุนสิ
คิดว่าแกล้งคนอื่นเป็นอยู่คนเดียวหรือไง
‘แล้วก็ไม่ได้เสียเงินให้ของพวกนี้ด้วย ได้ฟรีอะ รู้จักปะ?’
อีกคนหยุดเดินพลางทำท่าพินิจพิจารณาเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเคลือบแคลง
คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการแสดงออกที่ว่ามีความหมายอย่างไร
‘หน้าอย่างนายอะนะได้ฟรี? ซื้อมาก็บอกตรงๆ’
‘ไม่ใช่โว้ย! ก็มันอยู่ในกล่องจดหมายหน้าบ้านเลยเอามา’
‘แล้วไว้ใจได้หรือไง?’
น้ำเสียงขี้เล่นกลับแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังได้ทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่แพจินยองพูดออกมา
เขาก็ไม่ได้โง่ถึงขั้นไม่รับรู้ว่านี่มันอันตรายหรอกนะ ของใครก็ไม่รู้
จุดประสงค์อะไรก็ไม่เห็นจะบอกเอาไว้ แต่ยังไงก็ยังไงเถอะ นี่มันปากท้องของเขา
และนี่มันก็คือช็อกโกแลตยี่ห้อโปรดที่ราคาไม่ค่อยน่ารักน่าคบหาเหมือนรสชาติ
เพราะฉะนั้นเขาจะกิน และพัคจีฮุนก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง
‘ไว้ใจได้
เพราะยังไงผมก็ตายยาก’
‘เหอะ ถ้ามันมียาพิษฉันจะไม่เอานายไปหาหมอ’
‘ใจจืดใจดำขนาดนั้นกับผมก็เชิญ’
แกะห่อช็อกโกแลตในมือพลางจ้องเป็นประกาย
ตั้งแต่โดนคุณแม่หักค่าขนมไปเดือนที่แล้ว
เขาก็แทบนับครั้งที่ได้ลิ้มรสของช็อกโกแลตยี่ห้อในมือได้เลย
มันน้อยครั้งเสียจนน่าใจหาย เพราะแบบนั้นแพจินยองจึงเลือกตัดสินใจที่จะกินมันมากกว่าทิ้งให้เสียเปล่า
–อย่างน้อยก็เสียดายเงิน
ตั้งแต่กัดคำแรกแพจินยองก็เหมือนจะวิ่งจากปากซอยบ้านไปโรงเรียนได้เลยในทันที
มันมีความสุขมากเสียจนกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่
และเชื่อเถอะว่าถ้าหากในช็อกโกแลตแท่งนี้นั้นมียาพิษ แพจินยองจะขอชื่นชมว่าเป็นยาพิษที่ทำให้มีความสุขที่สุดในโลก
‘เป็นบ้าไปแล้วหรือไง’
‘ทำไมชอบยุ่งจัง’
‘ก็กินแบบเนี้ย ขามันถึงได้ใหญ่เอาใหญ่เอา’
‘ว่าแต่เขา ไปทำตัวเองให้มีซิกแพ็คก่อนเถอะ แบร่!’
แพจินยองจำได้ว่าวันนั้นเขาแทบจะวิ่งหนีฝ่ามือของพัคจีฮุนไม่ทัน และใช่
แพจินยองไม่ได้รับรู้ถึงยาพิษหรือบางสิ่งที่แฝงอยู่ในช็อกโกแลตแท่งนั้นเลยแม้แต่น้อย
เพราะแบบนั้นเขาก็เลยกล้าที่จะหยิบมันขึ้นมากินอย่างหน้าตาเฉยในหลายวันถัดมา
กลายเป็นว่าในทุกเช้าที่ได้รับมันแพจินยองไม่มีอาการตื่นตกใจอย่างที่เคย
เขาทำเพียงแค่เอามันมาไว้แนบอก เดินเข้าบ้านไปหยิบโพสต์อิท
และเขียนกำกับพร้อมแปะมันอย่างที่ชอบทำ
“จินยอง
ไปมินิมาร์ทกัน”
ยังไม่ทันตอบรับคำเชิญชวนของคนเป็นพี่
พัคจีฮุนก็ดึงแขนของเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มีแล้วลากให้ออกไปหน้าบ้าน
เขาส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย แต่ก็ช่างเถอะ
โดนแกล้งแบบนี้มาจนชินแล้วล่ะ
“นี่”
ระหว่างทางเดินไปมินิมาร์ทที่ดูจะไกลไปสักหน่อยสำหรับเช้าวันนี้
คนเป็นพี่ที่ปกติมักสรรหาเรื่องอะไรมาพูดได้ไม่รู้จักหยุดก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
ยังคงหาเรื่องมาพูดได้เหมือนเดิม
“อะไร?”
“ถ้านายจะจีบใครสักคน
นายจะทำไงอะ?”
สีหน้าอยากรู้อยากเห็นพร้อมกับรอยยิ้มหวานทำให้ใจของเขากระตุก
ช่องท้องที่เพิ่งเติมเต็มสิ่งที่เรียกว่าช็อกโกแลตกลับรู้สึกวูบโหวงราวกับกำลังตกจากที่สูง
และถ้าหากว่านี่มันเรียกว่าอาการใจหาย
มันก็คงจะเป็นการใจหายที่ทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลย
“ไม่รู้สิ
ไม่เคยจีบอะ”
“ก็ลองนึกเอาดิ”
“คงบอกเขาไปตรงๆมั้ง”
เราเดินมาถึงมินิมาร์ทเป็นที่เรียบร้อย
พัคจีฮุนเป็นฝ่ายเปิดประตูให้เขาเข้าไปก่อนที่เราสองคนจะแยกย้ายไปซื้อขนมต่างความชอบของแต่ละคน
เขานึกแทบไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าในตอนนี้เขารู้สึกอยากกินอะไร เพราะพูดกันตามตรง
รู้สึกจุกที่อกยังไงก็ไม่รู้แปลกๆ
มันต้องเป็นเพราะผลพวงจากการกินช็อกโกแลตทุกวันแน่ๆ
เขาคิดว่าเพราะแบบนั้นอะนะ
“นี่
รู้ปะว่าถ้าฉันจะจีบใครฉันจะทำยังไง”
“ไม่อยากรู้”
ว่าพลางกัดไอติมรสเมล่อนในมืออย่างไม่รู้รส
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศที่ร้อนผิดปกติ หรือเพราะน้ำเสียงสดใสของคนข้างกายกันแน่ที่ทำให้ไอติมในมือของเขาไม่อร่อยอย่างที่เคย
“อยากรู้หน่อยสิ”
“ไม่”
“แต่ฉันจะบอก”
เบ้ปากให้กับความดื้อด้านที่ไม่เคยมีทีท่าว่าจะลดลงเลยของอีกฝ่าย
เขาไม่ได้อยากรับรู้เลยว่าอีกคนจะไปจีบสาวที่ไหนยังไง
เพราะนั่นมันเรื่องของพัคจีฮุน เขาไม่ได้ชอบจุ้นจ้านสักหน่อยนะ!
“ฉันก็จะเอาวิธีการของพ่อของแม่มารวมกันอะนะ”
“...”
ละเมียดกัดแท่งไอติมในมือที่ดูเหมือนจะเริ่มละลายเล็กน้อย
ทำไมวันนี้ทางเดินจากมินิมาร์ทไปบ้านมันถึงได้ดูยืดยาวแปลกๆ อากาศก็ร้อนจัง
แพจินยองล่ะอยากจะรีบเข้าบ้านไปตากแอร์จะตายชัก
“แม่บอกว่า
ถ้าชอบใครก็ให้เอาของอร่อยที่เขาชอบไปให้เขาทุกวัน”
น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของอีกคนมันดูบาดหูเหลือเกินในวันนี้
มันคงต้องเป็นเพราะอุณหภูมิที่ขึ้นสูงในวันนี้แน่ๆถึงทำให้อารมณ์ของเขาพุ่งขึ้นสูงไปด้วยอีกคน
“ส่วนพ่อ
พ่อก็บอกว่าถ้าเกิดชอบใคร ก็ให้เอาของที่เราอยากให้ไปสอดในกล่องจดหมายเขาทุกวัน”
แพจินยองทำหูทวนลมเมื่อมองเห็นประตูรั้วบ้านของตัวเองอยู่ห่างไปไม่ถึงสามก้าว
เขาสาวเท้าให้ก้าวยาวขึ้นอีกนิด
และเมื่อถึงหน้าประตูก็พยายามที่จะผลักมันเข้าไปอย่างที่เคย
แต่ก็ต้องหยุดการกระทำทั้งหมดเมื่อข้อมืออีกฝั่งที่ถือไอศกรีมรสเมล่อนถูกใครบางคนกอบกุมเอาไว้
เขาหันขวับไปมองคนเป็นพี่อย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
แต่เขาไม่อยากจะมองสีหน้าของพัคจีฮุนตอนนี้เอาเสียเลย
“ส่วนนาย
บอกว่าถ้าชอบใครก็ให้บอกไปเลย”
พัคจีฮุนปล่อยมือเพียงครู่เพื่อควานหาอะไรบางอย่างในถุงพลาสติกสีดำที่รวบรวมขนมที่อีกฝ่ายซื้อมา
ไม่นานนัก สิ่งที่คุ้นตาเขามาตลอดสิบสี่วันก็ปรากฏให้เห็น
“อะให้”
“...”
“วันนี้แท่งที่สองแล้ว
แต่ไม่ได้สอดในกล่องจดหมายเหมือนเดิม”
“...”
“ก็เพราะอยากบอกตรงๆนี่แหละ
ว่าชอบนะ ชอบมานานแล้วด้วย”
“...”
“เข้าบ้านไปได้แล้วไป”
แพจินยองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากลับเข้ามาในบ้านได้อย่างไร
สิ่งที่เขาดูเหมือนจะรับรู้ได้ก็คงเป็นรสชาติช็อกโกแลตแท่งนั้นที่ดูเหมือนจะหวานเกินกว่าปกติ
และใบหน้าเห่อร้อนจนขึ้นเป็นริ้วรอยแดงๆเมื่อส่องกับกระจก
พัคจีฮุน
คนประหลาด
แล้วพ่อแม่เขาไม่ได้บอกหรือไงว่าการจีบสาวแบบนี้
มันเห่ยที่สุดในโลกเลยโว้ย
end
#pdxdg
แหะๆ จบแบบนี้อีกแล้ว .. จบแบบสไตล์ตัวเองนี่แหละค่ะ คิคิ เบื่อพัคจีฮุนคนปากแข็ง
พ่อซ่อมคอมให้นิดนึงค่ะ อาการยังไม่คงที่มาก แต่ก็นะ คิดถึงโมเม้น คิดถึงทุกคน..
ก็เลยใช้เวลาชั่วโมงนึงได้มา .. อู้อ้าฮาเก! ถถถ
ช่วงนี้น่าจะติดกิจกรรมมหาวิทยาลัยค่ะ ใครคิดถึงก็ไปอ่าน #เรื่องเล่าฮุนยอง ในจอยลดารอก่อนก็ได้น้า
อันนั้นน่าจะอัพบ่อยกว่าฟิคค่า เพราะใช้มือถือถนัดเนอะ ; - ;)
ยังไงก็รวั๊กทุกคนนะคะ /หอมหัวเรียงคน
ปล. ม่ายมีภาคต่อให้หร้อก ขอร้องยังไง ทำหน้าแมวยังไงเค้าก็จะไม่ใจอ่อนแล้ว!
ฝากบอกรัก ติชม ก่นด่าในคอมเม้นหรือ #pdxdg ด้วยนะคะ /ทำหน้าแมวคืน
ความคิดเห็น