คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 สู่ขอ
ตอนที่ 2
สู่ขอ
“ท่านพี่ ข้ามีเรื่องจะปรึกษาท่านหน่อยเจ้าค่ะ”
“ฮูหยินมีเรื่องใดก็เอ่ยมาตามตรงได้เลยระหว่างพวกเราสามีภรรยามีเรื่องใดที่ยากจะเอ่ยปากอีก”
“เป็นเรื่องการแต่งงานของเฟยอวี้เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าเห็นควรหาสะใภ้ตบแต่งเข้าจวนให้เรียบร้อยเสียที เฟยอวี้ลูกชายของท่านพี่วันๆ อยู่กับพวกเหล่าทหารเห็นทีว่าหากยังไม่รีบช่วยเขาหาภรรยาสักคนคงต้องรอไปอีกหลายปีทีเดียว”
“ฮูหยินไปร่วมงานชมบุปผามาเมื่อวานได้พบเจอกับบุตรสาวสกุลใดที่ถูกใจเจ้าแล้วใช่หรือไม่” ผู้เป็นสามีเอ่ยถาม
“ข้าตอบท่านพี่อย่างไม่ปิดบังนะเจ้าคะ เมื่อวานข้าได้พบกับลู่ฮูหยินและบุตรสาวท่าทางนางถอดแบบมารดามาทั้งหมด ดูเรียบร้อยอ่อ่นโยนยิ่งนัก ข้าคิดว่าบุตรสาวสกุลลู่เหมาะสมกับเฟยอวี้ขอเราเจ้าค่ะ”
“ข้าเชื่อสายตาฮูหยิน หากเจ้าคิดว่าเหมาะสมก็จัดการเรื่องทาบทามสู่ขอเสียเลยก็แล้วกัน”
“เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปเยี่ยมเยี่ยนลู่ฮูหยินด้วยตัวเองและพูดคุยเรื่องทาบทามสู่ขอให้เรียบร้อย”
“เจ้ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง อีกเรื่องที่ข้าจะบอกฮูหยินเมื่อครู่มีจดหมายจากเฟยอวี้มาถึงพอดี เขียนมาว่าอีกสิบวันจะกลับมาถึงเมืองหลวง”
“ประจวบเหมาะจริงเชี่ยว สามปีแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะที่ลูกชายเราไม่ได้กลับมาเลย”
“เจ้าเองก็รู้ดีว่าเป็นแม่ทัพหากไม่มีราชโองการเรียกตัวก็ไม่อาจเข้าเมืองตามใจชอบได้”
“เช่นนี้หากทุกอย่างเรียบร้อยจนถึงขั้นเตรียมงานมงคล ไม่ต้องส่งเจ้าสาวไปไกลถึงเมืองว่านอันเลยหรือเจ้าค่ะ หากเป็นเช่นนั้นเกรงว่าสกุลลู่คงไม่ยอมก็เป็นได้”
“เจ้าอย่าได้กังวลไปก่อนเลย ไม่แน่ข้าอาจเข้าเฝ้าทูลขอให้บุตรชายของเรากลับมาแต่งงานที่เมืองหลวง ยังไงกราบไหว้ทำพิธีที่จวนสกุลหนิงของเราก็เป็นอันดีกว่า เอาไว้ถึงเวลานั้นเมื่อไหร่ข้าจะเป็นผู้จัดการเองก็แล้วกัน ฮูหยินไม่ต้องห่วงไป”
วันรุ่งขึ้นหนิงฮูหยินหวังเยี่ยนก็ไปเยือนที่สกุลลู่แต่เช้า พร้อมกับมีข้าวของติดมือไปฝากอยู่หลายอย่างตามมารยาทและเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ
“เมื่อวานข้าเพิ่งให้คนมาส่งเทียบขอพบ วันนี้ก็เร่งรุดมาตั้งแต่เช้าตรู่ไม่ได้มารบกวนลู่ฮูหยินหรอกใช่หรือไม่”
“หนิงฮูหยินอย่าได้เอ่ยเช่นนี้ ท่านมีน้ำใจมาเยี่ยมเยี่ยนกันถึงจวน จะถือว่าเป็นการรบกวนได้อย่างไรเล่า พวกเราเองก็ไม่ใช่คนแปลกหน้ากันเสียหน่อย หนิงฮูหยินอย่างได้เกรงใจกันถึงเพียงนั้นเลย” ลู่ฮูหยินเอ่ยพลางยิ้ม นางกับหนิงฮูหยินแม้จะไม่ได้สนิทกันแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหน้ากันเสียหน่อย พวกนางถือได้ว่าเป็นสหายแม้จะไม่ได้พบป่ะพูดคุยกันอย่างสนิทชิดเชื้อ
“นอกจากตั้งใจมาเยี่ยมเยี่ยนแล้ว ข้าเองก็มีเรื่องอยากจะถามไถ่เจ้าเสียหย่อน ไม่รู้เร่งรีบเอ่ยออกไปจะเป็นการเสียมารยาทหรือไม่ แต่เรื่องนี้เป็นหากไม่รีบจัดการให้เสร็จข้าก็ไม่อาจวางใจได้”
“หนิงฮูหยินมีเรื่องอันใดที่ต้องการให้ข้าช่วยเช่นนั้นหรือ”
“ข้ามีบุตรชายคนโตนามหนิงเฟยอวี้ยังไม่ได้ตบแต่งภรรยาอีกทั้งยังไม่มีแม่นางที่หมั้นหมายกันเอาไว้ ไม่ทราบว่าหากข้าต้องการเจรจาสู่ขอบุตรสาวขอเจ้ามาเป็นลูกใภ้จะได้หรือไม่”
บุตรชายคนโตสกุลหนิงใครบ้างไม่รู้ว่าเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ผู้องอาจกล้าหาญและมีเกียรติ ในบรรดาคุณชายทั้งหลายรุ่นเดียวกันในเมืองหลวงผู้ที่ก้าวหน้าได้ดีที่สุดก็คือบุรุษผู้นี้เอง
ถ้าหากให้มองในมุมสำหรับแม่ที่หาลูกเขยให้บุตรสาวนั้นดูเหมือน หนิงเฟยอวี้ผู้นี้จะเป็นตัวเล็กที่ดีที่สุดเลย แต่ก็ช่างน่าเสียดาย สกุลลู่ของนางไม่อาจได้รับเขยที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้
“หนิงฮูหยินเอ็นดูบุตรสาวข้า ใจข้านั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่เห็นทีข้าคงจะไม่อาจรับปากท่านได้”
“เพราะเหตุใดกัน ลู่ฮูหยินติดที่ตรงไหนหรือ” หนิงฮูหยินเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
“บุตรสาวคนโตข้าลู่ชิงอวี้นั้นได้หมั้นหมายเอาไว้นานแล้วกับบุตรชายสกุลจี้ วันแต่งงานก็กำหนดเอาไว้แล้วอีกหกเดือนข้างหน้านี่เอง”
“เป็นความจริงหรือเหตุใดจึงไม่เคยได้ยินมาก่อน”
“การหมั้นหมายทั้งหมดเป็นท่านย่าของชิงอวี้เป็นผู้ออกหน้า นางหมั้นหมายกับคุณชายจี้ที่อยู่บ้านเดิมเดียวกัน”
“ช่างน่าเสียดายจริงๆ ทั้งๆ ที่บุตรสาวของเจ้าดูจะเหมาะกับเฟยอวี้ของข้าแท้ๆ”
“ต้องขออภัยฮูหยินเป็นอย่างมากจริง ๆ”
หนิงฮูหยินเยว่หลี่น่าแสดงท่าทีเสียดายออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน หวังเยี่ยนเองก็แต่อยู่เอ่ยปลอบใจเท่านั้น วันนี้หนิงฮูหยินมาด้วยความตั้งใจจริงไม่แปลกที่จะดูผิดหวังถึงขั้นนี้
"ข้ามารบกวนอยู่นาน ควรกลับจวนได้แล้วล่ะ เอาไว้ครั้งหน้าข้าจะมาเยี่ยมเยี่ยนเจ้าใหม่นะลู่ฮูหยิน"
"สกุลลู่พร้อมต้อนรับหนิงฮูหยินเสมอ ท่านอยากแวะมาเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น"
"ลู่ฮูหยินช่างมีน้ำใจนัก เจ้าเองหากว่างๆ ก็มาที่จวนสกุลหนิงข้าสิ น้ำชาของวางชั้นดี ยินดีนำมาใช้ต้อนรับเจ้าทุกเมื่อเช่นกัน"
"หากมีโอกาสข้าจะไปเยือนท่านแน่เจ้าค่ะ"
นางและหนิงฮูหยินสนทนากันเรื่องทั่วไปต่ออีกครู่หนึ่ง จึงได้ขอตัวกลับจวนจริง ๆ ลู่ฮูหยินเดินไปส่งหนิงฮูหยินถึงประตูจวน ตั้งใจว่าจะรอส่งถึงขั้นจนนางขึ้นรถม้าไปแล้ว
เมื่อมาถึงประตูจวนกับเป็นจังหวะพอดีกับที่สาวใช้ในจวนหอบหิ้วข้าวของกลับจวนมาพอดี จึงได้เอ่ยสอบถามขึ้น หนิงฮูหยินเองก็คอยดูอยู่ด้านข้าง
"เสี่ยวชิงนั่นเจ้าหอบอะไรมาเยอะแยะ เป็นของที่คุณหนูใหญ่ซื้อหรือ เหตุใดจึงมากมายนัก"
สาวใช้คนสนิทของบุตรสาวคนโตเป็นคนแรกที่นางเอ่ยถาม
"คุณหนูไม่ได้เป็นผู้ซื้อเจ้าค่ะ แต่เป็นคุณหนูสามที่ซื้อ คุณหนูใหญ่ให้บ่าวนำกลับมาเก็บก่อนส่วนหนึ่ง"
"นางหอบซื้ออะไรมา เหตุใดชิงอวี้ถึงไม่ห้ามน้องของนางกัน" ลู่ฮูหยินถามต่อ
"เป็นพวกสมุนไพรเจ้าค่ะ เห็นว่าซื้อให้นายท่าน แก้พวกปวดเมื่อยได้ดีคุณหนูสาวขอให้ร้านยาใหญ่จัดให้ตามสูตรใหม่เจ้าค่ะ ยังมีอาหารของท่านเล่น คุ ณหนูสามซื้อให้ฮูหยินเจ้าค่ะ"
"ข้าไม่เคยได้ยินว่าเจ้ามีบุตรสาวอีกคนด้วย ดูท่าจะเป็นเด็กน้อยที่ใส่ใจและอ่อนโยนไม่ต่างกับพี่สาวของนางและมารดาอย่างเจ้าเป็นแน่"
"บุตรสาวคนนี้น่าติดจะซุกซนอยู่มากน่ะเจ้าค่ะ ไม่เหมือนกับพี่สาวของนางหรอก"
"เช่นนั้นเองหรือ จู่ๆ ข้าก็รู้สึกกระหายขึ้นมาซะอย่างนั่น ไม่รู้ว่าจะขอชาจวนเจ้าดับกระหายอีกสักจอกได้หรือไม่" หนิงฮูหยินกล่าวขึ้นพร้อมทั้งรอยยิ้ม
ภายใจหัวยามนี้ คิดไปถึงเรื่องคุณหนูสามสกุลลู่ เห็นทีว่าสวรรค์จะอยากให้สกุลหนิงกับสกุลลู่เกี้ยวดองกันเป็นแน่
"เหตุใดดจะไม่ได้เล่า ชาที่จวนนี้หนิงฮูหยินอยากดื่มเท่าใดก็ดื่มเถอะข้านี้ยินดีเป็นอย่างยิ่ง"
ลู่ฮูหยินเอ่นถ้อยคำเป็นมิตรก่อนจะเชื้อเชิญหนิงฮูหยินเข้าไปที่ห้องโถงรับรองเดิมอีกครั้ง
และนางก็ยังคาดเดาไม่ผิด หนิงฮูหยินทาบทามสู่ขอลู่เข่อชิงบุตรสาวของนางในเวลาต่อมา
มีหลายอย่างที่นางคิดไว้ในใจแต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงตกปากรับคำตอบรับหนิงฮูหยินไปเสียอย่างนั้น
ความคิดเห็น