ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    08.00 สี่แยกไฟแดง

    ลำดับตอนที่ #2 : แปดนาฬิกา ครั้งที่2

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 62


     มหาลัย
    15.38 น.
         “เหมือนเดิมปะวันนี้”
         “เหมือนเดิมไรวะไอหน่อง”
         “ก็ไปส่องเจ้าของร้านเหมือนเดิมไงครับคุณยอนนนน”
         เพื่อนฉันนี่มันแรดจริงๆ
         ไปดิไอยอน โครตแจ่ม” ฮีจินพูดพร้อมยกนิ้วโป้งให้ฉัน โอเคเชื่อก็ได้ว่าแจ่ม
         “เออๆไปๆ”
         “ได้เวลาเสือยอนออกจากถ้ำแล้ว!” พวกมันน่าจะไปเรียนการแสดงมากกว่าเรียนสถาปัตยนะฉันว่า...
         .
    16.01 น.
         รถของพวกเรามาจอดอยู่หน้าร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งแถวๆมหาลัย ฉันไม่ยักจะรู้ว่าแถวม. มีร้านแบบนี้อยู่ด้วย ทั้งๆที่นั่งรถผ่านเกือบทุกวันก็พึ่งรู้วันนี้แหละว่านี่คือร้านคาเฟ่ เพราะร้านนี้ตกแต่งซะดูเหมือนว่าเป็นบ้านมากกว่าร้าน แถมยังเป็นร้านเล็กๆ แล้วแบบนี้ฉันจะมีที่นั่งมั้ยนะ ว่าแต่ป้ายเมนูแนะนำหน้าร้านก็น่ากินดีแฮะ ท้องฉันเริ่มประท้วงแล้วหล่ะ ขาของฉันก็เดินเข้าไปในร้านโดยอัตโนมัติ ฉันชอบระบบการทำงานของร่างกายฉันเวลาหิวจริงๆ
         ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มีที่นั่งให้ลูกค้าได้นั่งกินอาหารไม่ก็ทำงานอยู่บ้าง บวกกับคนเข้าร้านนี้ไม่ค่อยเยอะนัก เลยทำให้พวกฉันมีที่นั่ง ดูๆแล้วร้านนี้น่าจะอนุญาตให้ลูกค้าสามารถนั่งได้ยาวๆ เพราะโต๊ะข้างๆฉันก็นั่งทำงานอยู่ และที่สำคัญมีฟรี WIFI ด้วย
         หน่องเลือกโต๊ะที่ใกล้กับเคาท์เตอร์มากที่สุด ดูท่าทางแล้วไม่ต้องเดาเลยหล่ะว่าทำไม ประเด็นที่สำคัญกว่ากินข้าว ขนม หรือกาแฟ ก็คงเป็นส่องเจ้าของร้าน ทั้งคู่ชะเง้อคอจนคอยาวเหมือนยีราฟ ช่วยกันมองหาทุกซอกทุกมุมของร้าน 
         มีพนักงานคนนึงน่าตาดีพอได้เดินมารับเมนูที่โต๊ะฉัน แต่ก็ไม่น่าใช่เจ้าของร้านที่มันว่า พวกเราจึงสั่งอาหารไปรวมๆแล้วสักสามสี่อย่างได้ ฉันสั่งสปาเก็ตตี้เมนูแนะนำที่โชว์อยู่หน้าร้าน 
         “ขอโทษนะคะ พอดีว่าตอนนี้สปาเก็ตตี้หมดค่ะ พี่ฉันกำลังไปซื้อของมา ถ้าลูกค้าไม่สะดวกรอเปลี่ยนเป็นเมนูอื่นก่อนมั้ยคะ”
         ฟ้าฝนไม่เป็นใจกับคนอยากกินแบบฉันจริงๆ
         “งั้นเอาเป็นข้าวสเต็กหมูพริกไทยดำแล้วกันค่ะ”
         “ค่ะ รออาหารสักครู่นะคะ”
         พอพนักงานเดินเข้าไปในเคาท์เตอร์ ไอสองแรดก็ทำหน้าเหมือนผิดหวังทันที
         “ทำไมวันนี้พี่เจ้าของร้านคนสวยไม่ออกมารับรายการอาหารวะ” หน่องเริ่มเปิดประเด็นหลัก
         “นั้นดิ กูมองหาทั่วแล้วยังไม่เห็นเลย”
         “เพราะมึงแน่ๆไอยอน มึงมาปุ๊ปพี่เขาไม่เข้าร้านเลย” 
         “อ้าว มึงชวนกูเองนะไอหน่อง แล้วพี่เขาจะเข้าหรือไม่เข้าร้านก็ไม่เกี่ยวกับกูด้วย” มีแต่แพ้แล้วพาล นี่ไม่เจอคนสวยแล้วพาล เห้อ
         หลังจากกินอาหารกันหมดแล้ว เหมือนว่าพี่เจ้าของร้านคนสวยของพวกมันจะไม่มาจริงๆ นั่งหน้าเป็นตูดหมึกกันเลยสองคนนี้ แต่สำหรับฉัน ฉันจะเพิ่มร้านนี้ไว้เป็นร้านโปรดแล้วหล่ะ เพราะอาหารอร่อยมาก แถมบรรยากาศภายในร้านก็ใช้ได้เลย ไว้วันหลังจะมาลองกินกาแฟแล้วกัน 
         .
    17.01 น.
         “เห้อ รถก็ติด แถมอดเจอพี่เจ้าของร้านอีก ฟ้าฝนไม่เป็นใจกับหน่องจริงๆ” 
         เหอะ ทำมาเป็นบ่นนะ ก็ใครกันละที่เป็นคนพาไปกลับรถตั้งไกล กลับรถตรงหน้าร้านก็จบ ป่านนี้ฉันคงนอนตีพุงอยู่บ้านแล้ว ตอนนี้เราติดกันอยู่ที่แยกนี้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แล้วยิ่งตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน รถยิ่งเยอะเข้าไปใหญ่ รู้งี้นั่งวินกลับบ้านดีกว่า
         ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วกำลังจะหลับตาลง แต่ก็ตาสว่างอีกแล้ว 
         ผู้หญิงที่รูปร่างแล้วก็การแต่งตัวคล้ายเธอคนเมื่อเช้า เธอกำลังข้ามถนนผ่านหน้ารถฉันไป เธอเดินไปทางคาเฟ่ที่ฉันพึ่งออกมา อ่าาา รู้งี้ถ่วงเวลาให้ออกจากร้านช้าๆป่านนี้ก็คงได้เจอเธอใกล้ๆแล้วสิ ไว้ค่อยเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้นะคะคุณแปดนาฬิกา
         “ไอจินๆๆๆ นั่นพี่เจ้าของร้านเว้ยไอจิน!” 
         “ไหนๆ! เออจริงด้วย!”
         อยู่ๆก็ตะโกน ฉันไม่หัวใจวายตายก็บุญแค่ไหนแล้ว ขวัญเอ้ยขวัญมานะยอน ปลอบนะโอ๋ๆ
         “นั้นไงไอยอนดูๆ” ฮีจินชี้นิ้วจิ้มกระจกให้ฉันดู
         “ไหนวะ” ฉันก็พยายามมองหา แต่คนมันเยอะซะขนาดนั้นจะไปรู้ได้ไงคนไหน 
         อ๊ะ! นั่นคุณแปดนาฬิกาหนิ ฉันเห็นหลังเธอแวบๆฉันจำได้ว่าเป็นเธอ 
         “โว๊ะ มึงตาถั่วว่ะไอยอน เขาเดินเข้าร้านไปและ” 
         “เอ้า กูผิดเฉย”
         “กลับรถเข้าไปในร้านกันหน่อง”
         “ไม่ทันและ ไฟเขียวแล้ว”
         สมน้ำหน้า นก
         .
         .
         หลังจากกลับมาจากคาเฟ่ พอถึงบ้านฉันก็ทำงานอย่างเดียว กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบตีสาม ฉันเดินมาส่องกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง หน้าโทรมชะมัด ไปอาบน้ำนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ตื่นเร็วๆไปเจอเธอตอนแปดโมง
         .
    10.13 น.
         ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน แต่ก็นานน่าดู ฉันเอื้อมมือไปหยิบนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียง...
         “10โมงแล้ว!!!!”
         ตายๆๆๆ 10โมงแล้ว!! ฉันรีบเด้งตัวออกจากที่นอนแล้วอาบน้ำแต่งตัวให้เร็วที่สุด เห้อ อุส่าตั้งหน้าตั้งตารอเจอ โถ่เว้ย นก!!
         .
         “ทำไมแม่ไม่ปลุกอ่า!”
         “ก็เห็นแกนั่งทำงานงานจนเกือบเช้า ก็เลยไม่ปลุก แถมวันนี้แกไม่มีเรียนเช้าด้วยหนิ”
         ไม่มีคาบเช้าก็ไม่ได้แปลว่าไม่อยากไปเช้าหนิ อดเจอคุณแปดนาฬิกาเลย ตอนนี้ฉันอยากจะเป็นเหมือนในหนังเรื่องนึงที่มันย้อนเวลาได้ แต่นี่มันชีวิตจริงไง มันย้อนกลับไปไม่ได้ ก็คงต้องรอเจอวันพรุ่งนี้แทน
         .
         .
         ไหนๆก็ไม่ทันคาบเช้าแล้ว ฉันจึงตัดสินใจว่าจะไปนั่งกินกาแฟที่คาเฟ่เมื่อวานซะหน่อย ฉันชอบการไปเรียนคาบบ่ายอย่างนึงก็ตรงที่ไม่ต้องตื่นเช้า รถก็ไม่ติด แถมฉันก็ยังมีเวลาว่างในตอนเช้าหลายชั่วโมง และฉันก็ยังได้ขับรถมาเองอีกด้วย ฉันชอบขับรถ แต่ว่าวันนี้กว่าจะขอแม่ได้ก็หูชากันไปพอสมควร แต่ข้อเสียของการไม่ได้ตื่นเช้าก็คือ ฉันอดเจอเธอ
         ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถฉันก็มาจอดอยู่หน้าร้านคาเฟ่ร้านนี้ สงสัยจะพึ่งเปิดแฮะ ขอให้เขาเตรียมร้านเสร็จแล้วนะฉันอยากกินข้าว หิววว
         “เอาโทสต์ขนมปังไข่อะโวคาโดค่ะ แล้วก็คาราเมลมัคคิอาโต้ค่ะ”
         “โอเคค่ะ เดี๋ยวเราไปเสริฟให้ที่โต๊ะนะคะ”
         “ค่ะ”
         พนักงานรับเมนูคนนี้คือคนเดียวกับเมื่อวาน ฉันนั่งมาสักพักแล้วก็ยังไม่เห็นใครที่สวยพอที่จะเป็นเจ้าของร้านที่พวกมันว่ากัน นั่งไปนั่งมา นึกถึงเรื่องที่ฉันตื่นสาย มันก็แอบเซ็งหน่อยๆแหละ สคลิปข้ามไปพรุ่งนี้เลยได้มั้ยยย
    ระหว่างที่รออาหารฉันก็กำลังคิดอะไรนู้นนี่ไปด้วย แต่แล้วก็ถูกรบกวนจากเสียงเรียกเข้าโดยเพื่อนตัวแสบของฉัน
         .
         “เออๆ เดี๋ยวส่องให้ เออรู้แล้ว เออแค่นี้แหละ”
    ฉันไม่น่าหลุดบอกมันไปเลยว่าฉันอยู่ที่นี่ เพราะล่าสุดทั้งคู่ฝากฉันดูเจ้าของร้านคนสวยของพวกมัน ฉันบอกปัดไปกี่ทีว่าฉันไม่รู้ว่าเธอหน้าตาเป็นยังไง แต่พวกมันก็ยังพยายามอธิบาย แถมคะยั้นคะยอจนฉันรำคาญเลยต้องตบปากรับคำพวกมันไป พอฉันวางสายได้ไม่เท่าไหร่ อาหารก็มาเสริฟพอดี
         “อาหารมาแล้วค่ะ”
         “เอ่อ คุณคะ” ฉันเริ่มถามพนักงานคนที่เอาอาหารมาเสริฟ
         “คะ? คุณลูกค้ามีอะไรให้ฉันช่วยหรอคะ”
         “คือฉันอยากทราบอ่ะค่ะว่าใครเป็นเจ้าของร้านที่นี่ พอดีเพื่อนฉันอยากจะมาสมัครเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ที่นี่ค่ะ ฉันขอคุยกับทางเจ้าของร้านได้มั้ยคะ”
         “ขอโทษนะคะคุณลูกค้า พอดีว่าวันนี้เจ้าของร้านไม่ได้เข้าร้านค่ะ อีกประมาณ2-3วันจะเข้ามาค่ะ”
         “อ่อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
         เพื่อนฉันพญานกจริงๆ
         .
         .
         “โห่ อุส่าว่าเย็นนี้จะไปหาสะหน่อย”
         “นี่มึงไม่ได้กั๊กไว้เองใช่มั้ยไอยอน”
         “กั๊กเองอะไรของมึงไอหน่อง หน้าเขากูยังไม่เคยเห็นเลย จะให้กูกั๊กเพื่ออะไรคะคุณเพื่อน”
         “เออน่า เลิกกัดกันได้และพวกมึง ไปๆกลับบ้าน”
         .
         พอได้เจอเธอเมื่อวานตอนเย็นมันก็แอบหวังนะว่าจะได้เจอเธอวันนี้อีก เพราะเมื่อเช้าก็นกไปแล้ว ขอเจอตอนเย็นแล้วกัน ใจฉันมันเต้นแรงเพราะตื่นเต้นจนพามือไม้สั่นไปด้วย ฉันกำพวงมาลัยรถไว้แน่น กลัวว่าถ้าเธอเจอฉันจะสติเตลิดหักพวงมาลัยขึ้นฟุตบาทข้างทางเอา...ฉันไม่อยากเจ็บตัวอีก
    ตอนนี้รถฉันมาติดไฟแดงอยู่ที่แยกนี้แล้ว ฉันไม่ได้มองสัญญาณไฟตรงหน้าเลย เอาแต่มองข้างทาง ซ้ายที ขวาที สังเกตว่าจะมีใครที่รูปร่างหน้าตาคล้ายเธอมั้ย
         แต่สุดท้ายก็ไม่.... สัญญาไฟเลนฉันเปลี่ยนเป็นสีเขียว รถคันหลังก็บีบแตรไล่ฉันซะแล้ว เห้อ ไว้เจอพรุ่งนี้ก็ได้คุณแปดนาฬิกา
         .
         พอฉันถึงบ้านอาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งลุยงานต่ออีกซักสองสามชั่วโมง วันนี้ไม่กล้านอนดึกเหมือนคืนก่อน กลัวว่าจะไปเจอเธอไม่ทัน พอทำงานเสร็จก่อนนอนฉันก็ไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุก ฉันตั้งแบบให้ปลุกทุก5นาที ตั้งแต่6โมงเช้าจนถึง7โมงครึ่ง ถึงฉันไม่มีเรียนเช้า ฉันก็อยากเจอคุณนะคุณแปดนาฬิกา หาว~ ง่วงแล้ว ไว้เรามาเจอกันพรุ่งนี้ตอนแปดโมงนะคะคุณ
    .
    06.50 น.
         ได้ผล! ถึงแม้จะตื่นเลทไปตั้ง50นาที แต่ก็ยังทันพอที่ฉันจะไปถึงแยกนั้นตอนแปดโมง ฉันรีบดีดตัวขึ้นจากเตียงแล้วเปิดเพลงในแล็บท็อปเตรียมตัวจะเข้าไปอาบน้ำ
    ~เขาว่าฝนมันทำให้คนเหงา หรือเพราะฟ้าที่มองช่างว่างเปล่า
    ความอ้างว้างมันเกิดจากลมหนาว หรือดาวที่มองดูอ่อนแรง~
         ตื่นเต้นชะมัด ฉันแต่งตัวไปยิ้มเหมือนคนบ้าไป ไม่น่าเชื่อว่าคนแปลกหน้าคนนึงจะทำให้ฉันเป็นได้ขนาดนี้
    ~อยากเจอเหลือเกิน ยิ่งคิดถึงเธอเท่าไหร่
    ยิ่งทำให้รู้สึก ว่าขาดเธอแล้วทำให้ฉันทนแทบไม่ไหว
    และยิ่งแน่ใจ ที่ทำให้ฉันหวั่นไหว
    ไม่ใช่ความเงียบงัน แต่มันคือทุกครั้งที่คิดถึงเธอ~
         “เอ๊ะ วันนี้ตื่นเองแบบแม่ไม่ต้องปลุกหรอเนี่ย นี่แม่ตาฟาดไปหรือว่าแกยังไม่ได้นอนห๊ะนังยอน”
         “ตื่นเองเพราะตอนเช้ามันจะมีอะไรดีๆอะแม่”
         “ไออะไรดีๆของแกนี่ทำให้แกยิ้มหน้าบานลงมาจากห้องเลยใช่มั้ย”
         “ไปส่งหนูเหมือนเดิมนะพ่อ”
         “นี่แกเมินฉันหรอนังยอน!”
         ไม่ได้เมินแม่หรอก แค่คิดเรื่องดีๆแล้วก็อดใจรอที่จะเจอคุณไม่ไหวแล้ว แค่30วิก็ทำให้ใจฉันเบิกบานทั้งวันเลยนะรู้มั้ย
    .
    .
    07.57 น.
         ถึงแยกแล้ววววว ถึงแยกแล้ว!! เอาหล่ะใจนิ่งๆไว้ยอน มือไม้อย่าสั่นสิ ฉันเริ่มมองไปทั่วทุกทิศของถนน มองซ้ายบ้าง ขวาบ้าง หน้าบ้าง หลังบ้าง ก็ยังไม่เห็นเธอ
    08.05 น.
         ตอนนี้แปดโมงกว่าแล้ว บางทีเธออาจจะตื่นสายก็ได้นะ
    08.10 น. 
         เธออาจจะกำลังเดินมาแล้วก็ได้ เดี๋ยวเธอก็มาน่าาา
    08.13 น.
         จนตอนนี้รถของฉันอยู่คันหน้าสุด แล้วอีกไม่กี่วิก็จะปล่อยสัญญาณไฟเขียว ฉันก็ยังไม่เห็นเธอมาเดินข้ามถนนเลย และดูทีท่าว่ายังไงก็ไม่มีวี่แววของเธอเลยแม้แต่น้อย ฉันนั่งหน้าจ๋อยเป็นหมาง๋อยที่รอเจ้าของกลับบ้าน สุดท้ายสัญญาณไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ฉันอดเจออีกแล้วหรอวันนี้ เห้อ งั้นตอนเย็นมาลุ้นกันใหม่ก็ได้ว่าจะเจอมั้ย!
    .
    16.50 น.
         เวลาใกล้เคียงกันกับวันนั้นที่ฉันเจอเธอ ฉันเลือกเปลี่ยนจากนั่งรถกลับบ้านมาเป็นเดินแทน เพราะมันน่าจะง่ายกับการเจอเธอมากกว่าที่จะชะโงกมองหาเธอในรถ ฉันเดินผ่านร้านคาเฟ่ร้านนั้นที่พวกเพื่อนตัวแสบชอบแอบมาส่องเจ้าของร้าน พึ่งสังเกตว่าร้านนี้ชื่อ ‘Kanom and Kafae’ อืม ชื่อตรงตัวดี 
    แต่ว่าวันนี้ร้านปิด กะว่าจะมากินกาแฟซะหน่อย ไม่เป็นไรเดี๋ยวก่อนกลับแวะสตาร์บัคก็ได้ 
         ฉันเดินวนไปวนมาอยู่ตรงสี่แยกนั้นอยู่นานแต่ก็ไม่เห็นเธอ 5นาทีก็แล้ว 10นาทีก็แล้ว ก็ยังไม่เจอ เห้อ ฉันต้องเปลี่ยนคำพูดว่าเพื่อนฉันคือพญานกมาเป็นฉันแทนแล้วหล่ะ นกตัวโตๆ2วันติด 
         แต่คนอย่างยอนหน่ะไม่ถอดใจง่ายๆหรอก วันนี้ไม่เจอ พรุ่งนี้เราค่อยมาเจอกันตอน8โมงก็ได้ ถึงมันจะแค่30วินาที แต่มันก็ถือว่าเป็น30วิที่ดีสำหรับฉันมากๆเลยนะ คุณแปดนาฬิกา :)
    .
    .
    .
    .


    *อันนี้เป็นตัวอย่างของร้านนะคะ*
    **ขออนุญาตเจ้าของรูปด้วยค่าาา????????**
    แล้วเขาจะได้เจอกันเมื่อไหร่ มาเอาใจช่วยแล้วก็ลุ้นกันต่อนะคะ
    #คุณแปดนาฬิกา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×