ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    08.00 สี่แยกไฟแดง

    ลำดับตอนที่ #1 : แปดนาฬิกา ครั้งที่1

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 62


    ‘คุณคิดว่าจะมีใครสักคนสามารถตกหลุมรักคนๆนึงตั้งแต่เสี้ยววินาทีแรกที่เห็นมั้ย?
    ตามฉันมาสิ
    เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง’
    .
    .
    - บ้าน -
    วันจันทร์
    07.00 น.
    ฉันต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตูที่ดังไม่ยอมหยุด พร้อมกับเสียงเรียกชื่อฉัน มันดังแบบนี้มา10นาทีแล้ว จนในที่สุดฉันก็ทนไม่ได้ จึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดประตูอย่างหงุดหงิด
    “พอแล้วแม่ กลัวยอนจำชื่อตัวเองไม่ได้รึไง เรียกอยู่ได้” 
    “เอ้า นี่แกยังจะมาว่าฉันอีกหรอ แหกตาดูซิมันกี่โมงแล้ว วันนี้แกมีเรียนตอนเช้าไม่ใช่หรอ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันหรอก ยังหัวดื้อไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ”
    “คาบนี้จารย์เขาไม่เช็คชื่อหรอกแม่ ไม่ต้องเข้าก็ได้”
    “แต่แกปีสี่แล้วนะ วันนี้ก็กลับไปเรียนวันแรกนะยอน แทนที่จะตั้งใจเรียนซะหน่อย”
    “โห่ แม่ ขออีก10นาทีนะ”
    “ยอน” แม่พูดกดเสียงต่ำลง จนมุมซะแล้วสินะ
    “อ่ะๆโอเคๆไปอาบน้ำก็ได้ แต่แม่ออกไปก่อนได้มั้ย”
    “ถ้าฉันออกไป เดี๋ยวแกก็นอนต่อสิ นี่ฉันใครทำไมจะไม่รู้ทันแกห้ะไอยอน”
    ฉันหล่ะเบื่อจริงๆ แม่รู้ทันฉันไปหมดทุกเรื่อง ฉันเลยต้องล้มเลิกแผนการทุกอย่างแล้วยอมไปอาบน้ำแต่โดยดี
    .
    หลังจากที่ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังออกจากห้อง ฉันก็เหลือบไปมองนาฬิกาที่วางไว้บนโต๊ะ พึ่งจะเจ็ดโมงครึ่งเองหรอเนี่ย ฉันหันหลังกลับเข้าไปนอนต่อได้มั้ย
    “ยอน เสร็จยังลูก แม่ทำข้าวเสร็จแล้วนะ”
    อ่า โอเค ฝันสลายอีกแล้ว ลงไปก็ได้
    “วันนี้กลับมาใส่ชุดนิสิตแล้วยังดูดีเหมือนเดิมเลยนะลูก”
    “มันไม่แปลกใช่มั้ยคะพ่อ”
    “ลูกพ่อยังดูดีเหมือนเมื่อก่อน”
    เมื่อก่อนฉันดูดีขนาดนั้นเลยหรอ....
    “ไหนๆวันนี้ก็ไปเรียนแล้ว เดี๋ยวติดรถพ่อไป พ่อจะลงบริษัทก่อนแล้วเดี๋ยวให้คนขับรถเลยไปส่งแกที่มหาลัยเหมือนเดิม”
    “ค่ะพ่อ”
    พ่อไปส่งฉันก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องขึ้นรถเมล์ ฉันจะได้นอนระหว่างทางไปมหาลัยได้ กว่าจะถึงมหาลัยก็ได้นอนแบบเต็มอิ่ม
    .
    07.59 น.
    โอเค รถติดมาก มากแบบที่ฉันนอนแล้วนอนอีกก็ยังไม่ถึงสักที นี้ถ้าฉันขับเองคงหงุดหงิดเป็นบ้า พี่คนขับรถเขาไม่หงุดหงิดบ้างหรอ ฉันเปลี่ยนท่าจากนอนยืดขาแล้วเอาหลังพิงประตูมาเป็นท่านั่งปกติ เล่นมือถือฆ่าเวลารถติดไป แต่ก็เล่นทุกแอบแล้วก็ยังไม่หลุดจากสี่แยกนี่อีก ฉันก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง ตอนนี้ก็เวลาแปดโมงตรงพอดี
    ฉันเปลี่ยนจากเล่นมือถือมาเป็นมองวิวนอกรถ มองผู้คนที่เดินไปมาอยู่บนทางเท้า สังเกตคนนู้นคนนี้ว่าเขาแต่งตัวยังไง ทำงานอะไร จนกระทั่ง...
    ฉันเห็นผู้หญิงคนนึง รูปร่างไม่สูงเกินไป ไม่เตี้ยเกินไป หุ่นสวยกำลังดี ผมสีน้ำตาเข้มปล่อยยาวประบ่า หน้าตาที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ กับเสื้อยืดสีขาวธรรมดาที่ใส่คู่กับกางเกงยีนส์ขายาวขาดๆ รองเท้าผ้าใบดูเหมือนจะเป็นคอนเวิร์ส เธอสะพายเป้สีดำไว้ด้วย ส่วนในมือก็ถือโทรศัพท์และกำลังเล่นมันไปด้วย เธอเล่นพลางมองสัญญาณไฟแดงที่จะให้คนข้ามถนนได้ 
    ฉันยอมรับเลยว่า ฉันละสายตาไปจากเธอไม่ได้จริงๆ เธออาจจะไม่ได้สวยโดดเด่นสู้คนอื่น แต่เธอสามารถสะกดฉันให้ไม่สามารถละสายตาจากเธอไปได้ ฉันคงจะเผลอยิ้มออกมาเหมือนคนบ้าจนทำให้พี่คนขับมองฉันผ่านกระจก ฉันเลยหันไปยิ้มให้เขาแล้วหันมามองเธอต่อ 
    แต่ว่าให้ตายสิ สัญญาไฟคนข้ามถนนเป็นไฟเขียวแล้ว เธอเดินหายไปในกลุ่มคนที่พึ่งข้ามถนนไปเมื่อกี้ ฉันพยายามชะเง้อมองหาเธอแต่ก็ไม่เจอ จนในที่สุดคนกลุ่มนั้นก็ข้ามไปจนถึงอีกฝั่ง และไฟจราจรเลนฉันก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว รถฉันถึงเคลื่อนตัวจากแยกนั้น เห้อ ฉันแค่หันไปยิ้มให้พี่คนขับแปปเดียวเอง ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะคลาดจากเธอไปได้
    .
    .
    “ไอเสือกลับมาเรียนละเว้ยยยยย” หน่องเพื่อนสนิทคู่หูของฉันตะโกนตอนเห็นฉันเดินมาในโรงอาหารของคณะ
    “เห้ย ยอน!!! คิดถึงงง” ไอฮีจินจอมเว่อ เล่นใหญ่ทุกครั้ง 
    “เป็นไงบ้างวะ” 
    “มึงเคี้ยวก่อนมั้ยหน่อง แล้วค่อยพูด”
    “สบายใจจะทำแบบนี้อ่ะค่ะคุณหนู”
    “ก็ดี แต่ขี้เกียจตื่น”
    “เออมึงก็ยังเป็นมึง ไม่มีความขยันมาตอนเช้าหรอก” ถูกของฮีจินมัน เช้าๆแบบนี้ สำหรับฉันนอนสำคัญกว่าเรียน
    นี่แหละกลุ่มของฉัน เรามีกันสามคน สามแสบประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาสถาปัตยกรรมออกแบบภายใน แล้วตอนนี้เราก็ปีสี่กันแล้ว จะเหลวไหลมากแบบเมื่อก่อนก็คงไม่ได้ เพราะงั้นแม่ฉันก็เลยบังคับให้ฉันตั้งใจเรียน แล้วก็ตื่นเร็ว แต่อย่างน้อยการตื่นเร็วของวันนี้ก็ทำให้ฉันเจออะไรดีๆอยู่เหมือนกันนะ
    .
    .
    “เห้อออ เลิกคลาสสักทีเว้ย”
    “เออพวกมึง ไปคาเฟ่แถวนี้กันปะ” หน่องเป็นคนเอ่ยปากชวนพวกฉัน แต่ฉันก็แอบตะหงิดๆอยู่หน่อยๆ
    “มึงชอบกินกาแฟตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ฉันจึงถามสิ่งที่สงสัยออกไป เพราะตั้งแต่รู้จักมันมา ฉันไม่เคยเห็นมันแตะกาแฟเลยสักครั้ง แทบจะอ้วกทุกครั้งด้วยซ้ำเวลาที่ได้กลิ่น
    “เออหน่า เห็นเขาบอกว่าอาหารก็อร่อย ขนมก็อร่อย ที่สำคัญเนี่ยนะคือเจ้าของร้านแจ่มมากกกกก”
    อ่อ ที่ไหนได้...
    “สรุปมึงจะไปกินหรือไปส่องเจ้าของร้านวะไอหน่อง”
    “อย่างไอเสือมันก็ไปส่องเจ้าของร้านสิวะยอน”
    “มึงจะไปปะ”
    ฉันยืนคิดไปคิดมา ใจนึงก็อยากไป ไม่ได้อยากจะไปส่องเจ้าของร้านแบบพวกมันหรอก แค่อยากไปกินข้าวเพราะท้องฉันเริ่มร้องซะแล้ว แต่อีกใจก็อยากกลับไปนอน แต่คิดๆดูแล้วตอนนี้กินน่าจะสำคัญกว่านอน
    “เออไปๆ”
    ‘คุณได้รับข้อความใหม่ : เลิกแล้วกลับบ้านเลยนะ เดี๋ยวเราต้องไปหาคุณย่า’
    มารผจญ....
    “กูไปไม่ได้แล้วว่ะ”
    “อ้าว ทำไมวะ” หน่องกับฮีจินพูดพร้อมกัน
    “แม่ไลน์มาตาม เดี๋ยวต้องไปหาย่าต่อ”
    “เออๆไว้วันหลังก็ได้ แต่เดี๋ยวยังไงจะมารายงานนะจ๊ะว่าเจ้าของร้านเด็ดจริงรึป่าว”
    “กู ไม่ ได้ แรด แบบ พวก มึง” ฉันพูดแบบเน้นย้ำทีละคำ “ไปละ บายยย” แล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้นไม่รอให้มันด่าฉันหรอก
    .
    .
    ถึงวันนี้ฉันจะยุ่งเกือบทั้งวัน แต่ภาพของเธอคนนั้นก็ยังคงเข้ามารบกวนฉันตลอดเวลา แต่ฉันก็ไม่รำคาญแม้แต่น้อย ทุกๆครั้งที่ฉันนึกถึงหน้าเธอ ฉันจะหวังให้เราได้เจอกันอีกสักครั้งก็ยังดี และครั้งนั้นฉันจะเป็นคนเดินเข้าไปทักทายเธอเอง
    .
    วันต่อมา
    06.55 น.
    “ยอนนน เจ็ดโมงกว่าแล้วนะลูก ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวหนูไปไม่ทันนะ”
    เดจาวู เดจาวูเ-ี้ยๆ เสียงเคาะกับเสียงเรียกชื่อที่ดังเป็น10นาที จะข่มตานอนต่อก็ไม่หลับ ฉันต้องลุกไปอาบน้ำแล้วสินะ แล้วไหนเจ็ดโมงกว่าของแม่ นี่มันยังไม่เจ็ดโมงเลยนะ! โอเคแม่ วันนี้แม่ชนะอีกแล้ว
    .
    “อ้าว ตื่นเร็วอีกวันแล้ว”
    “แม่เหมือนเดิมนั้นแหละพ่อ หาว~”
    “ใครเขาสอนให้หาวบนโต๊ะอาหารกันห๊ะลูกคนนี้” แม่ก็ยังไม่แก่ แต่บ่นเป็นคนอายุ70ไปได้...ฉันได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าพูดไป ถ้าพูดก็คงไม่มีชีวิตไปเรียนวันนี้แน่
    “วันนี้พ่อไปส่งเหมือนเดิมใช่มั้ย หนูอยากนอนต่อบนรถ”
    .
    08.00 น.
    หรือว่าเดจาวูนี่จะมีจริงๆวะ แต่คงไม่ใช่หรอก มันน่าจะเป็นเรื่องธรรมดาซะมากกว่าที่รถติดแบบนี้ ก็นี่กรุงเทพฯ ฉันหลับแล้วหลับอีกก็ยังไม่ถึงเหมือนเดิม แต่ดีหน่อยวันนี้รถไม่ติดนานเท่าเมื่อวาน แต่ก็นานอยู่ดี 
    ฉันเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง จากที่ฉันง่วงๆอยู่ก็ตาสว่างขึ้นมา
    เธออีกแล้ว เธอคนเมื่อวาน วันนี้เธอมวยผม ใส่เสื้อยืดสีขาวเหมือนเดิม แต่สวมแจ็คเก็ตสีดำไว้ด้านนอก กางเกงยีนส์ยาขาวขาดๆเหมือนเมื่อวาน รองเท้าก็ด้วย เธอกำลังยืนรอข้ามถนนเหมือนเดิม และฉันก็ละสายตาจากเธอไปไม่ได้อีกครั้งแล้ว
    มีเด็กอนุบาลคนนึงมากับผู้ปกครอง เดินมายืนข้างๆเธอ เธอหันไปหยอกล้อเด็กแล้วก็เผยยิ้มออกมา ให้ตายเถอะ ยิ้มนั้นทำฉันเป็นลมได้เลยนะ ฉันรู้ตัวว่าตอนนี้ฉันยิ้มเหมือนคนเป็นบ้าและหนักกว่าเมื่อวาน และพี่คนขับก็มองฉันอยู่แน่ๆแต่คราวนี้ฉันจะไม่หันไปมองแบบเมื่อวานเด็ดขาด 
    ฉันพูดไว้หนิ ว่าถ้าเจอเธอจะเดินเข้าไปทักทาย แต่บ้าหน่า ถ้าจู่ๆมีคนแปลกหน้าเดินไปหาแล้วบอกว่า ‘ขอโทษนะคะ คุณน่ารักจัง ฉันขอไลน์หน่อยสิ’ เป็นฉันก็ไม่ให้หรอก น่ากลัว 
    อ๊ะ! เดี๋ยวก่อนสิไฟอย่าพึ่งเขียว ฉันได้เจอเธอแค่30วิเองนะ ไฟแดงก่อนไม่ได้หรอ แล้วทำไมวันนี้ต้องมาปล่อยให้รถไปก่อนด้วย ถ้าปล่อยให้คนไปก่อนฉันจะได้รู้ว่าเธอเดินไปทางไหน รถของฉันขับผ่านเธอไป ถึงมันจะเร็วพอควรแต่ก็เหมือนทุกอย่างถูกหยุดเอาไว้ มันเหมือนในหนังเวลาที่พระเอกกับนางเอกสวนกัน มันช้าแบบนั้นเลยหล่ะ 
    แล้วทำไม...ฉันไม่ถ่ายรูปเธอเก็บไว้สักรูปเล่าาา เผื่อจะได้ถามคนอื่นๆเผื่อมีใครรู้จักเธอ ไอบ้ายอนเอ้ยยย 
    ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เราค่อยเจอกันใหม่ที่เก่า เวลาเดิมนะคะ ‘คุณแปดนาฬิกา :)’
    .
    .
    .
    ฝากฟิคเรื่องใหม่ด้วยนะคะ แล้วมาลุ้นด้วยกันว่าเขาจะได้เจอกันตอนไหนนนนน
    #คุณแปดนาฬิกา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×