ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [เปิดจอง Fic] Me & Mine Project [BumHyuk]

    ลำดับตอนที่ #5 : Sweet Spy [สายลับขี้เก๊ก กะ หวานใจซุ่มซ่าม] By Wonder Hee

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 52




    ปี 2009 กองบัญชาการสายลับพิเศษ แห่งสาธารณรัฐเกาหลีใต้

                    ตึก...ตึก..ตึก  ระเบียงทางเดินแออัดคับคลั่งไปด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้านงานสายลับ(ยกเว้นสายลับที่กำลังปฏิบัติภารกิจตามประเทศต่างๆ)  ทุกคนต่างถูกเรียกตัวเข้าประชุมนัดพิเศษอย่างกระทันหัน  โดยมีผู้อำนวยการสูงสุดของกองบัญชาการป็นผู้เปิดประชุมในครั้งนี้

                    ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกท่านที่เรียกตัวมาอย่างกระทันหันผู้อำนวยการกล่าว พร้อมสบตากับผู้ใต้บังคับบัญชาที่นั่งในห้องทีละคน เมื่อไม่กี่นาทีมานี้  ผมได้รับแจ้งจากหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาผู้อำนวยการหยุดกล่าวเพียงเท่านี้  และกวาดสายตามองผู้เข้าฟังการประชุมจากหน้าห้อง  จากรายงานข่าวที่ได้รับแจ้ง ตอนนี้มีขบวนการค้าอาวุธเถื่อนรายใหญ่เกิดขึ้น โดยมีฐานผลิตอยู่ที่ไมอามี่ และความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ได้รับรายงานมานั้นคือมีการสั่งซื้ออาวุธสงครามจากทางเกาหลีเหนือไว้กักตุนในจำนวนมหาศาล เราจำเป็นอย่างยิ่งต้องส่งคนเข้าไปสอดแนมเกี่ยวกับอาวุธเถื่อนพวกนี้ มันอาจเป็นไปได้ว่าการสั่งซื้ออาวุธสงครามครั้งนี้ทางเกาหลีเหนือตั้งใจจะเปิดสงครามกับเกาหลีใต้ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องหยุดขบวนการค้าอาวุธเถื่อนนี้ ก่อนที่สงครามจะเกิดขึ้นทันทีที่ผู้อำนวยการกล่าวจบ ร่างบางที่นั่งติดกับหัวโต๊ะก็ยืดตัวตรงขึ้นทันที พร้อมกับส่งสายตาที่มีความหมายไปยังผู้อำนวยการใหญ่

                    ขออนุญาตครับท่านชายวัยกลางคนที่นั่งติดหัวโต๊ะ ฝั่งตรงข้ามกับร่างบางยกมือขึ้นพร้อมเอ่ยขออนุญาต

                    เชิญ

                    คือตอนนี้สายลับของเราถูกส่งตัวออกไปปฏิบัติหน้าที่กันหมดแล้ว ผมเกรงว่าเราจะมีปัญหาเรื่องการส่งสายลับไปปฏิบัติภารกิจนี้ ทุกคนในห้องต่างมีสีหน้ากระวนกระวายทันที บ้างก็หันไปกระซิบปรึกษากันกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

     แต่ร่างเล็กๆของใครบางคนกลับยืดตัวตรงขึ้นมาอีกครั้งพร้อมสีหน้าที่มาดมั่น เพื่อหวังจะให้ทุกคนในห้องหันมามองที่ตนบ้างเผื่อจะจำได้บ้างว่ายังมีสายลับว่างงานอยู่ในที่นี้ด้วยอีกหนึ่งคน แต่ดูเหมือนการกระซิบกระซาบจะกลายเป็นการถกเถียงกันเมื่อมีผู้เสนอให้เรียกตัว1ใน12สายลับกลับมารับงานนี้ แต่บางคนก็ไม่เห็นด้วยเนื่องจากงานของสายลับล้วนแต่มีความสำคัญจนไม่อาจจะละทิ้งได้

     และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้สายลับว่างงานประจำหน่วยถึงกับอารมณ์เดือดปุดๆ

    เอิด...ผมเกรงว่าทุกท่านคงจะลืมไปแล้วว่ายังคงมีผมอีกหนึ่งคนที่พร้อมจะทำงานนี้ฮยอกแจเอ่ยบอกพร้อมกับยืดตัวตรงและส่งยิ้มให้กับทุกคนในห้อง

    008 งานนี้สำคัญมากเลยนะ งานระดับประเทศแบบนี้เราจะปล่อยให้คุณทำได้ยังไง เกิดพลาดขึ้นมาเราคงต้องทำสงครามอีกครั้งเลยนะฮยอกแจหุบยิ้มในทันทีพร้อมถลึงตามองยังบุคคลที่นั่งอยู่ตรงข้าม

    ก็ไอ้ที่ไม่มีประสบการณ์เพราะพวกคุณไม่ส่งผมไปต่างหาก เอะอะก็หาว่าผมไม่มีประสบการณ์ไม่เหมาะกับงานบ้างแหละ ทำงานมันต้องมีครั้งแรกบ้างสิคุณ ให้ผมอยู่แต่ในหน่วยงานแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ผมจะมีประสบการณ์ศูนย์ศูนย์แปด หรือฮยอกแจเอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด ทุกคนมักจะดูถูกความสามารถของเขามากเกินไปแล้ว

    ไม่ใช่พวกเรามองไม่เห็นความสามารถของคุณหรอกนะ แต่การจะรับงานแต่ละครั้งงานยิ่งเสี่ยงความสามารถก็ต้องมีอยู่ในระดับสูง คุณจึงยังไม่พร้อมจะรับงาน

    แต่...

    เอาละๆ ที่ผมเรียกมาประชุมในครั้งนี้เพื่อแจ้งข่าวให้ทราบ ส่วนเรื่องสายลับเราจะค่อยๆตัดสินใจกันอีกที หากทุกคนไม่มีข้อเสนอแนะอื่นๆ ผมขอปิดประชุมในครั้งนี้ผู้อำนวยการใหญ่รีบเอ่ยตัดบทก่อนที่สงครามน้ำลายจะเริ่มขึ้นกลางห้องประชุม

    คนทุกต่างทะยอยออกจากห้องประชุมไปจนหมดเหลือแต่เพียงผู้อำนวยการและฮยอกแจที่ยังคงนั่งสงบสติอารมณ์อยู่กับที่

    ฮยอกแจไปกินข้าวกับพ่อมั้ย ผู้อำนวยการใหญ่ที่มีอำนาจสูงสุดในกองบัญชาการ ได้เปลี่ยนบทบาทจากผู้อำนวยการเป็นพ่อที่แสนดีของลูกชายในทันทีที่อยู่กันตามลำพัง

    ไม่!!”ร่างบางเอ่ยตอบพร้อมนั่งกอดอกพองลมที่ข้างแก้ม แล้วเชิดหน้าไปอีกทาง

    เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันเถอะอยากกินอะไรมื้อนี้ป่ะป๊าเลี้ยงเอง

    ไม่...ป่ะป๊าต้องยอมให้ฮยอกแจทำงานนี้ ฮยอกแจถึงจะกิน

    ฮยอกแจงานนี้มันสำคัญมากนะลูก จะด่วนตัดสินใจไม่ได้ เกิดลูกชายคนเดียวของป๊าเป็นอะไรไปหม่ามี้เล่นงานป๊าตายเลยคนเป็นพ่อเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพร้อมฝ่ามือหยาบที่ลูบลงยังหัวกลมของลูกชายอย่างเอ็นดู

    แต่ฮยอกแจอยากทำงานนี้จริงๆนี่ นะป่ะป๊าให้ฮยอกแจทำเถอะนะเมื่อไม้แข็งไม่สำเร็จร่างบางจึงเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อน เผื่อป่ะป๊าจะยอมใจอ่อน  แต่ผู้เป็นพ่อกลับส่ายหัวไปมาอย่างไม่เห็นด้วย

    ป่ะป๊า~~”

    เอาไว้ป๊าจะคิดดูอีกทีแล้วกันคนเป็นพ่อพูดอย่างเหนื่อยหน่าย แต่คนเป็นลูกกลับยิ้มร่าโชว์สีเหงือกหวานฉ่ำ

    จริงๆนะ ป๊าสัญญาแล้วนะ

    อืม..แต่ต้องไปกินข้าวกับป๊าก่อนตกลงมั้ย

    ฮยอกแจอยากกินอาหารฝรั่งเศส อาหารจีน อาหารเวียดนาม แล้วก็อาหารญี่ปุ่น ป๊าบอกเองนะจะเลี้ยง ประโยคหลังเอ่ยขึ้นพร้อมทำสีหน้าสลดเมื่อผู้เป็นพ่อกำลังจะย่องหนี

    วันละอย่างได้มั้ยลูก

    ไม่ฮยอกแจจะกินทั้งหมดในวันนี้...Let’s go~”

     

    *****************************

     

                    ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานผู้อำนวยการใหญ่ดังขึ้น ผู้อำนวยการลีเงยหน้าจากเอกสารกองโตมองตรงไปยังผู้มาเยือน

                    ขอโทษครับท่าน พอดีผมเพิ่งได้รับการติดต่อมาจากศูนย์หนึ่งสองเมื่อเช้านี้ ลูกน้องในหน่วยงานเอ่ยรายงาน

                    นั่งก่อนสิ ผู้อำนวยการเอ่ยบอกพร้อมกับผ่ายมือออกไปยังเก้าอี้ว่างหน้าโต๊ะทำงาน งานของเขาคงเสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะสิ  ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ เพิ่งจะสอบเข้ามาได้เพียงปีเดียวแต่ผลงานของเขาเยอะแยะจนนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว ผู้อำนวยการเอ่ยพูด น้ำเสียงเจือปนแฝงไปด้วยความเอ็นดู

                    ครับ คงจะเดินทางกลับมาถึงเย็นนี้

                    อืม

                    ผมว่าท่านน่าจะเรียกตัวเขามาที่กองบัญชาการในวันพรุ่งนี้นะครับ

                    หืม...หมายความว่าจะให้ศูนย์หนึ่งสองรับงานค้าอาวุธเถื่อนนะเหรอผู้อำนวยการลีเอ่ยถาม แต่ว่าตามกฏแล้วสายลับทุกคนจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังเสร็จสิ้นภารกิจเป็นเวลาสิบห้าวันหรือสามสิบวันนี่

                    แต่ตอนนี้สายลับของเราก็ถูกส่งตัวออกไปปฏิบัติหน้าที่กันหมด ถ้าแต่ละคนกลับมาเราก็ไม่สามารถหาคนมาทำงานนี้ต่อได้นะครับท่านเพราะทุกคนก็ต้องหยุดพักผ่อนกันหมด

                    อืม...ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผลนะ

                    แล้วผมก็แน่ใจด้วยว่าศูนย์หนึ่งสองจะต้องไม่ปฏิเสธงานนี้อย่างแน่นอน

                    งั้นพอเขาลงเครื่องแล้วคุณก็จัดการเรียกตัวเขามาหาผมพรุ่งนี้ละ...

                    ไม่ได้!!” ยังไม่ทันได้พูดจบ เสียงของบุคคลที่สามก็แทรกขึ้นมาในทันที

                    ฮยอกแจเดินหน้ามุ้ยเข้ามา ดวงตาแข็งกร้าวมองผู้เป็นพ่ออย่างขุ่นเคือง ผู้อำนวยการลีถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงกับผนักเก้าอี้  สายตามองลูกชายคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างอ่อนโยน

                    ทำไมไม่ได้ผู้อำนวยการเอ่ยถาม

                    ป่ะป๊า...บอกจะให้ฮยอกแจรับงานนี้แล้วทำไมต้องเรียกไอ้สายลับขี้เก๊กคนนั้นมาด้วย ฮยอกแจเบ้ปากขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงไอ้สายลับรุ่นน้อง ที่มันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นรุ่นพี่มันเลยสักนิด แถมไม่มีสัมมาคารวะอีกต่างหาก  แล้วนี่ยังจะมาแย่งงานเขาอีก  ยิ่งคิดก็ยิ่งหมั่นไส้!!

                    ป๊าแค่บอกว่าจะคิดดูก่อน

                    งั้นป่ะป๊าก็ไม่คิดจะให้ฮยอกแจรับงานนี้ตั้งแต่แรกแล้วสินะฮยอกแจเอ่ยพูดเป็นเชิงตัดพ้อ

                    ฮยอกแจงานนี้มัน...

                    งานนี้มันอันตราย ฮยอกแจชิงตัดบทพูดก่อนที่ผู้อำนวยการลีจะพูดจบ กี่งานๆก็บอกว่าอันตรายๆ ฮยอกแจโตแล้วฮยอกแจเป็นสายลับนะ ไม่ได้เป็นร.ป.ภ.ของหน่วยงาน...ฮึก... ร่างบางเอ่ยขึ้นเสียงใส่ผู้เป็นพ่อ ก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปพร้อมเสียงสะอื้น

                    เอายังไงดีครับท่าน ลูกน้องที่นั่งอยู่แต่เริ่มแรกเอ่ยถาม

                    จัดการตามที่เราตกลงกันไว้ ผู้อำนวยการเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ

                    แล้วศูนย์ศูนย์แปดล่ะครับ

                    ฉันจัดการเอง

     

    *****************************

     

                    ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องทำงานของผู้อำนวยการในเช้าวันต่อมา พร้อมกับการปรากฏตัวของสายลับมือหนึ่ง ที่มีรหัสประจำตัวคือศูนย์หนึ่งสอง หรือมีชื่อจริงว่าคิม คีบอม ผู้อำนวยการส่งสัญญาณให้แขกผู้มาเยือนนั่งลงยังเก้าอี้ว่างตรงหน้า ก่อนที่บทสนทนาของทั้งคู่จะเริ่มต้นขึ้น

                    งานเรียบร้อยดีมั้ยผู้อำนวยการเอ่ยถาม

                    มีปัญหานิดหน่อยครับ  แต่ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี

                    ฉันเชื่อว่านายต้องทำได้

                    ขอบคุณครับ ชายหนุ่มรับคำด้วยความเคยชินเสียแล้วกับคำชม

                    เอาล่ะเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ ฉันคิดว่าหัวหน้าคิมคงจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับงานครั้งนี้แล้ว นายมีข้อโต้แย้งอะไรมั้ย

                    ไม่ครับ ผมยินดีรับงานนี้ คีบอมเอ่ยออกมาด้วยความมุ่งมั่น  ตามแบบฉบับของเขา

                    งั้นก็ดี...แต่ฉันมีอีกเรื่องที่อยากจะขอร้อง ผู้อำนวยการจ้องมองคนตรงหน้าอย่างลังเลใจ ซึ่งคีบอมก็ไม่ได้ถามอะไรกลับนอกจากเตรียมที่จะรับฟังอย่างเต็มที่ ฉันพอจะรู้มาว่านายไม่ชอบทำงานร่วมกับคนอื่นหรือที่เรียกกันว่าคู่หูอะนะ แต่ว่าครั้งนี้ฉันอยากจะขอร้องให้นายพาผู้ช่วยไปด้วยสักคนได้มั้ย...ถือว่าเห็นแกฉันก็ยังดี ประโยคหลังเอ่ยเป็นการขอร้อง เมื่อคีบอมมีสีหน้าที่ลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด

                    ใครครับ คนที่ท่านจะให้มาเป็นผู้ช่วยผม

                    ศูนย์ศูนย์แปด หรือ ลีฮยอกแจลูกชายฉันยังไงล่ะ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันในทันที คีบอมพยายามจะนึกหน้าสายลับทุกคนตั้งแต่ศูนย์ศูนย์หนึ่งจนไปถึงศูนย์หนึ่งสาม แน่นอนว่าเขาไม่ต้องนึกหน้าศูนย์ศูนย์สองให้เสียเวลาเพราะคานตามกันออกมาจากท้องแม่ และอีกคนก็คือศูนย์ศูนย์ห้าที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาเป็นพี่เขยเขาเมื่อไม่นานมานี้ แต่ศูนย์ศูนย์แปดนี่เป็นใครเขานึกหน้าไม่ออกจริงๆ

                    แต่ว่าผมไม่ชินที่จะมีผู้ช่วยหรือคู่หูในการปฏิบัติหน้าที่

                    ฉันเข้าใจ และก็ไม่ใช่ว่าฉันจะดูถูกฝีมือนายจนส่งผู้ช่วยไปด้วยหรอกนะ แต่ว่าฮยอกแจอยากจะลองไปหาประสบการณ์ดูบ้าง เขาสอบเข้ามาเป็นสายลับก่อนนายนานมาก แต่ก็ไม่เคยได้รับให้ออกไปปฏิบัติงานข้างนอกเลยสักครั้ง ฉันเลยอยากจะขอร้องให้นายยอมให้เขาติดตามไปด้วย ถ้าเขาได้อยู่กับคนเก่งๆฉันเชื่อว่าฝีมือเขาต้องพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น

                    ขอโทษครับท่าน  แต่ผมไม่ใช่ครูฝึก คำพูดที่ฟังดูแล้งน้ำใจ จนผู้อำนวยการใหญ่ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมคนตรงหน้าเผื่อจะยังพอมีหวัง

                    ก็ไม่ได้ให้เป็นครูฝึกหรอกนะแต่แค่ยอมให้มีคนติดตามไปสักคน...เห็นแก่ฉันเถอะนะ ฉันขอร้องในฐานะคนเป็นพ่อก็ได้

                    ผมคิดว่าท่านไม่น่าจะเอาเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานมาปะปนกันนะครับ งานนี้มีอันตรายมากแค่ไหนมีความเสี่ยงสูงแค่ไหน ท่านควรจะเลือกคนที่มีความสามารถไม่ใช่ว่าลูกชายท่านร้องขออยากจะไปท่านเลยจะตามใจ ผู้อำนวยการลีนิ่งอึ้งไปสักพักกับคำกล่าวของคนตรงหน้า

                    ฉันรู้ ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการ เป็นเจ้านายฉันมองว่าฮยอกแจยังไม่มีฝีมือพอที่จะต่อสู้กับผู้ร้าย หรือมีสติปัญญาพอที่จะแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า...แต่ในฐานะพ่อ แน่นอนฉันย่อมมองว่าลูกชายฉันดีและเก่งกว่าใคร ถึงเขาจะเอาแต่ใจไปบ้าง ดื้อรั้นไปบ้าง แต่ลูกชายของฉันก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจฉัน ขอร้องล่ะช่วยพาเขาไปด้วยเถอะนะคีบอมนั่งครุ่นคิดอยู่นาน เขาลำบากใจเหลือเกินที่จะมีใครติดส่อยห้อยตามไปด้วย แต่ในที่สุดเขาก็รับปากจะยอมให้ฮยอกแจติดตามเขาไปด้วย  และผู้อำนวยการก็รับปากเขาเช่นกัน

                    ก็ได้ครับผมจะยอมให้ลูกชายท่านติดตามไปด้วย แต่ว่าถ้าหากเขาเป็นอุปสรรคสำหรับงานของผม ผมจะส่งเขากลับเกาหลีในทันที

                    ก็ได้ฉันตกลง

     

    *******************************

    เอามาให้อ่านทั้งสองเรื่องเลย ทั้งเรื่องที่แล้วและเรื่องนี้

    คราวนี้น้ำจิ้มจริงๆล่ะ  555+ พล๊อตเรื่องนี้ไม่ตรงกับเรื่องที่เขียนไว้ข้างหน้าเลย เกิดอาการเปลี่ยนพล๊อตหลายรอบมาก แต่ไม่รู้พล๊อตนี้จะโอมั้ย พยายามจะให้เนื้อเรื่องออกมาฮา ปนน่ารักนิดๆ และต้องไปกินหน้ากระดาษของชาวบ้านด้วย555+

     

    ปล.[เผื่อไว้ก่อน]เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางประวัติศาสตร์ของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้แม้แต่น้อย หรือแม้แต่ต้องการให้มีสงครามระหว่างสองชาติ  

    ปล.อีกรอบ  โอไม่โอบอกได้นะ อยากให้แก้ตรงไหนยินดีรับฟัง จุ๊บๆๆ

    อีกสักนิด คงไม่สงสัยเรื่องรหัสสายลับเนอะ เพราะเอามาจากลำดับแก่ๆเด็กๆของเอสเจนั่นแหละ และอีกอย่างหนึ่งชื่อเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังซีรีย์เกาหลี ซึ่งอ่านเนื้อเรื่องแล้วใช่เลย เหมาะมาก เหมาะกับบอมฮยอกที่สุด- - แต่เนื้อเรื่องของซีรีย์เป็นไงไม่รู้เพราะยังดูไม่จบดูไปสองสามตอนเอง แหะๆแล้วก็ขี้เกียจดูต่อ - -" แต่เนื้อหาคิดเองล้านเปอร์เซ็น555+

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×