คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Teach Me To Love You By Wonder Hee
ขาเรียวก้าวลงจากรถเมื่อกลับถึงบ้านก่อนจะก้าวขึ้นบรรได เพื่อตรงไปยังห้องทำงานส่วนตัวของ ลี แตฮยอนเจ้าของบ้าน ก๊อกๆๆ
“เข้ามา”เสียงทรงพลังเอ่ยอนุญาติ ขาเรียวบางจึงรีบก้าวเข้าห้องในทันที
“พ่อเรียกผมมามีอะไรรึเปล่า”ร่างบางเอ่ยก่อนจะนั่งลงตรงหน้าของผู้เป็นพ่อ
“ถ้าฉันไม่เรียกแกมาพวกแกไม่คิดจะกลับมาบ้านเยี่ยมพ่อเยี่ยมแม่มั้งเลยใช่ไหม แล้วไอ้ทงเฮทำไมไม่มา”
“พ่อลืมไปรึเปล่าว่าทงเฮมีเรียน”
“นั่นสิฉันลืมไป”
“แล้วตกลงพ่อเรียกผมมามีธุระอะไร”ร่างบางเอ่ยขึ้นอย่างเซ็งๆ
“ฉันจะให้แกเข้าไปเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนมัธยมปลายที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจของเรา ก็โรงเรียนเดียวกับเจ้าทงเฮนั่นแหละ”ร่างบางมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ การที่จะให้เขาไปทำงานสอนนักเรียนมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลย เขาเกียจที่อยู่กับเด็กถึงจะเป็นเด็กมัธยมปลายแล้วก็เถอะ แค่เจ้าน้องชายตัวแสบขอย้ายเข้ามาอยู่ด้วยก็เบื่อเต็มทน
“แล้วถ้าผมไม่ทำล่ะ”
“แกจะไม่ได้อะไรจากฉันเลยสักแดงเดียว”ลี แตฮยอนเอ่ยพูดอย่างเด็ดขาด พร้อมสายตาจริงจังส่งให้ลูกชายคนโต
“แล้วทำไมพ่อต้องให้ผมไปเป็นครูด้วยให้ผมทำอย่างอื่นก็ได้นี่”
“พอดีที่โรงเรียนขาดครูสอนภาษาอังกฤษแล้วฉันก็เห็นว่าแกว่างๆเรียนจบมาจากเมืองนอกเมืองนายังไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักทีแล้วอีกอย่างแกจะได้ดูแลน้องด้วยพฤติกรรมมันจะได้ไม่ออกนอกลู่นอกทางมากนักเพราะแกต้องเข้าไปเป็นที่ปรึกษาห้องทงเฮ ฉันมีกำหนดให้แกทำงานนี้แค่เพียงแค่สามเดือน”คนฟังเบ้ปากออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นพ่อ
“แล้วจะให้ผมเริ่มงานเมื่อไหร่”
“อีกสามวันแล้วกันแกจะได้มีเวลาไปเตรียมตัวแล้วเสื้อผ้าน่ะไปหาที่มันดูเหมาะสมกับอาชีพครูด้วยนะ” แตฮยอนพูดพร้อมสำรวจเครื่องแต่งกายของลูกชายที่มักจะชอบแต่งตัวออกแนวพังค์เสมอ
“ครับถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอไปหาแม่ก่อนนะ”ร่างบางกล่าวลาก่อนจะเดินออกจากประตูห้องไป
************************
ฮยอกแจนอนสูบบุหรี่อยู่ภายในห้องพักที่คอนโดเพื่อปลดปล่อยความเครียดปกติแล้วเขามักจะสูบบุหรี่จัดอยู่แล้ว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าผู้เป็นพ่อจะสั่งให้เขาทำในสิ่งที่ตัวเขาเองไม่คิดอยากจะทำอย่างเด็ดขาด
“พี่”เสียงของผู้เป็นน้อยชายตระโกนเรียกจากนอกห้องนอน ก่อนจะถือ
วิสาษะเปิดประตูเข้ามา
“พี่ทำไมห้องถึงเหม็นกลิ่นบุหรี่อย่างนี้ล่ะ”ทงเฮเอามือบีบจมูกทันทีเมื่อเข้ามาในห้อง
“แกจะเคาะประตูก่อนเข้ามาไม่ได้หรือไง”โครงหน้าสวยหันตระคอกน้องชาย ก่อนจะยัดบุหรี่เข้าปากตามเดิม
“พี่พ่อเรียกไปบ้านใช่ไหมแล้วพ่อเรียกไปเรื่องอะไร”ทงเฮกระโดดนอนลงที่เตียงก่อนจะเอ่ยถาม สายตาสวยตวัดมองน้องชาย
“จะให้ฉันไปเป็นที่ปรึกษาห้องแกที่โรงเรียน”
“ไม่เอานะพี่ ผมไม่อยากได้พี่มาเป็นที่ปรึกษา”
“แล้วแกคิดว่าฉันอยากจะเป็นนักเหรอไง ถ้าไม่ติดว่าเขาจะไม่ยกสมบัติให้ฉันเลยสักชิ้นถ้าฉันไม่ทำ”
“พ่อมาแปลก ให้พี่ไปเป็นครูเนี่ยนะ”ทงเฮเอ่ยพูดด้วยเสียงงุนงง
“ทงเฮเล่าเรื่องที่ห้องนายให้ฉันฟังหน่อยซิ หัวโจกของห้องมีใครมั้งคนที่ฉันต้องรับมือน่ะ”
“หัวโจกหรอก็กลุ่มผมไง”ทงเฮเอ่ยพร้อมกับอวดยิ้มสวยให้พี่ชาย
“นายเป็นหัวโจกด้วยหรอ เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ”ฮยอกแจเอ่ยถามพร้อมขยี้เบาๆที่หัวกลมของน้องชาย
“กลุ่มผมนะก็จะมีผม ชีวอน คีบอม คยูฮยอน”
“แกลองจำแนกนิสัยแต่ละคนออกมาให้ฟังหน่อย”
“ไอ้ชีวอนเนี่ยมันมาดคุณชายมองผิวเผินมันก็ดูเป็นสุภาพบุรุษหรอกนะแต่อย่าได้ไปทำมันอารมณ์เสียเชียวเงาหัวจะขาด แต่ยกเว้นผมไว้คนหนึ่ง”ทงเฮเอ่ยเล่าพร้อมฉีกยิ้มอย่างภูมิใจ
“ทำไมต้องยกเว้นแก อ๋อ อย่าบอกนะว่าคนที่แกคุยโทรศัพท์ด้วยทุกคืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็คือไอ้หมอนี้”
“
..”ทงเฮพยักหน้าให้ฮยอกแจพร้อมยิ้มอวดฟันสวยอีกครั้ง
“ไอ้คยูฮยอนมันเป็นคนรักเพื่อนดูเหมือนจะใจเย็นที่สุดในกลุ่มแต่ถ้าเพื่อนเดือดร้อนขึ้นมามันจะยื่นมือเข้าช่วยอย่างไม่รอรี”
“
..”
“ส่วนไอ้คีบอมเนี่ยมันเป็นหัวโจกของกลุ่มตีรำฟันแทงกับคู่อริโรงเรียนข้างๆไม่เว้นแต่ละวันโดยมีคยูฮยอนกับชีวอนเนี่ยแหละเป็นมือซ้ายขวาส่วนผมชีวอนมันไม่อยากให้เข้าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้มันอันตราย วันไหนที่มันว่างหรือไม่ได้ไปตีกับคนอื่นคีบอมมันมักจะไปดื่มเหล้าที่ผับของคยูฮยอนอยู่บ่อยๆ”ฮยอกแจตั้งใจนอนฟังสิ่งที่ทงเฮเล่าแววตาดูสนใจขึ้นมาทันทีที่ทงเฮเล่าถึงคีบอม
‘ไอหมอนี่ท่าทางจะไม่เบาแฮะ’
“แกกลับห้องไปได้แล้วฉันจะนอน”ฮยอกแจเอ่ยไล่น้องชายออกจากห้อง ทงเฮจึงยอมเดินออกมาทันทีเพราะเดิมทีเจ้าตัวตั้งใจจะกลับมาอ่านหนังสือแต่แรกแล้ว ทงเฮอาศัยอยู่คอนโดเดียวกับฮยอกแจแต่จะอยู่กันคนละห้องโดยที่ห้องของทงเฮและฮยอกแจจะอยู่ตรงข้ามกันเพราะฮยอกแจเองต้องการความเป็นส่วนตัวส่วนทงเฮก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอะบายมุขทั้งหลายของพี่ชายถึงตัวเขาเองอยู่ในกลุ่มหัวโจกประจำโรงเรียนแต่ทงเฮก็เรียนเก่งที่สุดในกลุ่มเลยนะ
“เออพี่ ผมลืมไปคีบอมเนี่ยมันเก่งอังกฤษมากเลยนะเพราะฉะนั้นมันมักจะไม่เคยเห็นอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในสายตาเลย”ทงเฮโผล่หัวเข้ามาในห้องอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่ย้อนกลับมา
*************************
หลังจากผ่านพ้นกำหนดเตรียมตัวสามวันฮยอกแจตื่นขึ้นมาในตอนเช้าจะเรียกได้ว่าเช้าที่สุดในรอบปีก็ว่าได้ ร่างบางจัดการแต่งตัวให้ดูสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะเดินออกไปหน้าระเบียงห้องนอนมือเรียวหยิบม้วนบุหรี่ขึ้นมาสูบเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ม้วนแล้วม้วนเล่าที่หมดลงไปสำหรับเช้านี้และวันนี้ทั้งวันอย่างน้อยก็สี่ถึงห้าม้วนเพราะฮยอกแจรู้ดีว่าสถานศึกษาไม่เหมาะแน่ๆถ้าคนที่เป็นอาจารย์จะสูบบุหรี่ซะเองในโรงเรียน เรียวขาสวยก้าวเข้ามายังตัวห้องก่อนจะจำใจวางซองบุหรี่ลงบนหัวเตียงก่อนจะก้าวเดินออกจากประตูบ้าน
“อ้าวพี่ตื่นเช้าจัง” ทงเฮที่ก้าวออกจากหน้าประตูห้องของตนเอ่ยทักทันทีที่เห็นหน้าฮยอกแจ
“ก็วันนี้ฉันต้องไปสอนหนังสือแล้วแกจะไปกับฉันเลยไหม”
“ไม่อ่ะ ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันไปก่อนนะ”หลังจากที่เอ่ยจบทงเฮก็วิ่งไปที่ลิฟท์ทันทีก่อนจะหายเข้าไป ฮยอกแจถอนหายใจก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถ
***************************
รถคันหรูแล่นเข้าจอดยังลานจอดรถของอาจารย์ ขาเรียวสวยค่อยๆก้าวลงจากรถพร้อมสายตาของนักเรียนหนุ่มสาวที่เดินไปมาต่างมองมาที่ฮยอกแจเป็นจุดเดียวกัน ใบหน้าสวยกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะเดินจากไป ทงเฮยืนมองพี่ชายตัวเองอยู่ด้านหลังพร้อมกับสายหัวอย่างเอือมระอาก่อนจะเดินขึ้นตึกเรียน
“นักเรียนที่รัก ช่วยนั่งกันเป็นระเบียบหน่อยได้ไหม”เสียงผู้อำนวยการใหญ่ประจำโรงเรียนคิมยองอุนเอ่ยขึ้นเมื่อก้าวเข้ามายังห้องเรียนของชั้นปีสามห้องดีห้องบ๊วยและยังมีหัวโจกประจำโรงเรียนรวมอยู่ด้วย
“ทุกคนทำความเคารพ”เสียงใสของหัวหน้าห้องดังขึ้น
“สวัสดีครับอาจารย์ใหญ่”
“ดีมากพวกเธอทำตัวอย่างนี้ถึงจะน่ารักหน่อย เอาละวันนี้ครูมีอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่จะมาแนะนำ เชิญครับ”ยองอุนหันไปเอ่ยเชิญบุคคลที่อยู่หน้าประตูห้อง ประตูถูกเปิดด้วยมือบางใบหน้าสวยขาวปรากฏขึ้นสายตานับร้อยคู่ต่างจดจ้องอยู่ที่หน้าห้องยกเว้นซะแต่ทงเฮเท่านั้นที่ก้มหน้าอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว ฮยอกแจก้าวเดินมาหยุดตรงจุดที่อาจารย์ใหญ่ยืนอยู่พร้อมเอ่ยแนะนำตัว
“สวัสดีฉันชื่อลี ฮยอกแจเป็นที่ปรึกษาคนใหม่ของชั้นปีสามห้องดีและเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษคนใหม่ของพวกเธอ”ฮยอกแจเอ่ยขึ้นพร้อมฉีกยิ้มออกมาให้ดูเป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทงเฮมองรอยยิ้มผู้เป็นพี่แล้วหลุดขำออกมาเบาๆให้กับความพยายามและความอดกลั้นของผู้เป็นพี่ชาย
“มีอะไรเหรอทงเฮ”ชีวอนหันมาถามทงเฮเมื่อได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะจากคนข้างๆ
“ไม่มีอะไรหรอกชีวอน”ใบหน้าหวานหันยิ้มให้ชีวอน มือหยาบและมืออุ่นสอดเข้ากุมกันไว้ที่ใต้โต๊ะ แต่มีเหรอจะพ้นสายตาของลีฮยอกแจ
“เอาล่ะต่อไปนี้จะเป็นหน้าที่ของอาจารย์ที่ปรึกษาจะต้องโฮมรูมพวกเธอครูใหญ่ขอตัวก่อนนะหวังว่าพวกเธอจะมีความสุขกับอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่”ยองอุนเอ่ยก่อนจะก้าวออกนอกห้องในทันที กลีบปากสวยฉีกยิ้มให้นักเรียนในห้องอีกครั้ง
“เอาล่ะไหนพวกเธอลองแนะนำตัวกันหน่อยดีไหม เริ่มจากคนแรกริมประตูเลยแล้วกัน” นักเรียนสาวยืนเต็มความสูงพร้อมขานชื่อตัวเองออกมาก่อนจะนั่งลงกับที่และเปลี่ยนเป็นคนข้างๆที่ต้องขานชื่อ ผลัดเปลี่ยนกันไปอย่างนี้จนครบทั้งห้องแน่นอนว่าฮยอกแจไม่สามารถจำชื่อนักเรียนได้ทุกคนแต่กับกลุ่มของทงเฮโดนหมายหัวเป็นพิเศษตอนนี้ได้อยู่ในหน่วยความจำของฮยอกแจหมดแล้วทั้งหน้าตาและชื่อ
“ดูเหมือนว่าจะขาดไปคนนึงนะ เธอชื่อคยูฮยอนใช่ไหม”
“ใช่”คยูฮยอนเอ่ยตอบอย่างห้วนๆทำให้ฮยอกแจชักสีหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ที่นั่งว่างข้างๆเธอตรงนั้นของใคร”
“ของฉันเอง”ยังไม่ทันจะที่ได้ตอบ กลับมีเสียงทุ้มจากหน้าประตูตระโกนเข้ามา ใบหน้าสวยค่อยๆหันมองทางต้นเสียง สายตาสำรวจมองคนตรงประตู ร่างสูงค่อยๆก้าวเข้ามาในห้องกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้สายตาท้าทายถูกส่งให้คนหน้าห้อง ฮยอกแจเผล่อยิ้มขึ้นที่มุมปาก ทงเฮเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วถึงกับกุมขมับทันที
“เอาล่ะเราเสียเวลามามากพอแล้ว วิชาแรกของวันนี้เป็นวิชาภาษาอังกฤษใช่มั้ย”
“ครับ/ค่ะ”
“งั้นดีเรามาเริ่มเรียนกันเลย”ร่างบางหมุนตัวเข้าหากระดานทันที มือเรียวหยิบปากกาเมจิกขึ้นมาเขียนประโยคภาษาอังกฤษก่อนจะหันกลับมาหานักเรียน
“ใครต่อประโยคบนกระดานได้บ้าง”สายตาสอดส่องไปที่นักเรียนแต่ละคน ดวงตาใสแป๋วของนักเรียนตรงหน้าที่สบมานั้น ดูก็รู้ว่าที่สอนไปไม่เข้าหัวเลยสักนิด (-_-“) ตาเรียวยังคงมองไปรอบก่อนจะสะดุดอยู่ที่นักเรียนชายที่นั่งตรงริมหน้าต่าง
“คีบอม”ปากเรียวสวยเอ่ยเรียก
“.....”ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเจ้าของชื่อที่ท่านเรียก
“คิม คีบอม!!”เมื่อเรียกครั้งแรกแล้วดูเหมือนว่าเจ้าของชื่อจะไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย ฮยอกแจจึงเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้นกว่าเดิม คยูฮยอนรู้สึกถึงสายตาที่อำมหิตของฮยอกแจที่ส่งมา จึงใช้ข้อศอกกระทุ้งที่ข้างตัวคีบอม ใบหน้าคมค่อยๆเงยขึ้นมองคยูฮยอนอย่างสะลึมสะลือก่อนจะมองไปทางหน้าห้อง
ฮยอกแจยืนเท้าสะเอวอยู่หน้ากระดาน ดวงตาเรียวจิกมองที่ร่างสูงเช่นเดียวกับ
คีบอมที่มองกลับอย่างท้าทาย
“จะให้ฉันต่อประโยคกล้วยๆอย่างนั้นใช่ไหม”คีบอมเอ่ยจบก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขายาวก้าวเดินไปยังกระดานหน้าห้อง มือหนาหยิบแท่งเมจิกขึ้นมาก่อนจะต่อประโยคภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ร่างสูงกลับหลังเตรียมก้าวเดินไปยังที่นั่งแต่หยุดเท้าทันที่เมื่อเดินมาถึงจุดที่ฮยอกแจยืนอยู่พร้อมส่งยิ้มที่มุมปากก่อนจะก้าวเดินไปยังที่นั่งประจำ ฮยอกแจมองคีบอมด้วยสายตาไม่พอใจ แต่ต้องเก็บความอัดอั้นเอาไว้ทั้งๆที่อยากจะโวยวายให้รู้แล้วรู้รอด
‘ท่องเอาไว้ฮยอกแจสมบัติๆถ้าทำไม่ครบสามเดือนแกจะไม่ได้อะไรเลยแม้แต่แดงเดียว สมบัติ...สมบัติ...ปัด...โธ่...โว้ย!! ครบสามเดือนเมื่อไหร่ฉันจะอัดแกคนแรกเลย คิมคีบอม’ ร่างบางยืนสงบสติอารมณ์อยู่ชั่วครู่พร้อมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วหันกลับไปสอนหนังสือต่อพร้อมๆกับคีบอมที่ฟุบหลับไปแล้ว
หลังจากคาบเช้าผ่านไปตอนนี้เป็นช่วงเวลาพักของนักเรียนม.ปลายหลังจากกินข้าวเสร็จคีบอมก็แอบขึ้นไปงีบที่มุมดาดฟ้าของตึก ใบหูหนาได้ยินเสียงฝีเท้าของของผู้บุกรุกปกติแล้วจะไม่มีใครกล้าขึ้นมาบนนี้เด็ดขาดเพราะต่างรู้ดีว่าคีบอมไม่ต้องการให้ใครขึ้นมาวุ่นวายกับสถานที่ส่วนตัวนอกจากจะเป็นกลุ่มเพื่อนของเขา สายตาคมเหลือบมองผู้บุกรุกจากมุมอับ ร่างบางของผู้บุกรุกหันหลังให้กับเขาแต่เท่านี้คีบอมก็ดูออกแล้วว่าคืออาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ของเขา
“อยากสูบบุหรี่จัง”ฮยอกแจเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาโดยไม่รู้เลยว่ามีคนอีกคนอยู่บนนี้ด้วย ร่างบางสะดุ้งตกใจสายตามองต่ำลงก่อนจะมองไปที่คนข้างกาย
“อยากสูบไม่ใช่เหรอ”
“แต่ฉันเป็นอาจารย์ แล้วนี่นายมีบุหรี่ได้ไงยังเป็นนักเรียนอยู่แท้ๆ”ฮยอกแจเรื่มโวยวายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคีบอมยังเป็นนักเรียนอยู่
“ไม่เอาก็ตามใจนะ”เรียวนิ้วมือหยิบบุหรี่ขึ้นมาจากซองก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบไฟแช็คที่กระเป๋ากางเกงและจุดไฟเข้าที่ปลายบุหรี่ ฮยอกแจมองตามด้วยสายตาโหยหา คีบอมพ่นควันออกมาอย่างสบายใจโดยไม่สนใจอาการของคนข้างๆ ในที่สุดความอดทนเริ่มหมดลง มือเรียวคว้าแย่งบุหรี่เมื่อคีบอมกำลังจะส่งเข้าโพรงปาก แล้วยัดเข้าปากตัวเองก่อนจะพ่นควันออกมาบ้างอย่างปลดปล่อย ร่างสูงหย่อนตัวลงนั่งที่ระเบียงสายตาคมมองคนข้างๆก่อนจะฉีกยิ้มออกมา
“ยิ้มอะไร”ฮยอกแจเอ่ยถามมือเรียวยังคงส่งบุหรี่เข้าปาก
“ฉันไม่เชื่อว่าอย่างนายจะเป็นอาจารย์”คีบอมเอ่ยพูดพร้อมสายตาที่จับจ้องมาทางฮยอกแจ
“ทำไมถึงไม่เรียกฉันว่าอาจารย์นะ ฉันเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนายนะ”
“อายุเราก็ไม่น่าห่างกันเท่าไหร่”
“แต่ฉันก็อายุมากกว่านายอยู่ดี”
“.....”คีบอมไม่เอ่ยพูดอะไรทั้งสิ้น เปลือกตาคมปิดลงรับสายลมที่พัดกระทบใบหน้าหล่อ ดวงตาเรียวจับจ้องที่ใบหน้าคมก่อนจะฉีกยิ้มออกมา
‘หมอนี้ก็น่ารักดีแฮะ’
****************************
หลังโรงเรียนเลิกฮยอกแจขับรถกลับคอนโดในทันที ขาเรียวก้าวเดินเข้าห้องอย่างรวดเร็วมือบางหยิบซองบุหรี่ที่วางไว้แต่เช้าก่อนจะก้าวเดินไปยังระเบียงห้องกลีบปากสวยดูดบุหรี่เข้าก่อนจะพ่นควันออกอย่างสบายใจ ดวงตาเรียวทอดมองไปยังวิวข้างหน้าจู่ๆใบหน้าของคีบอมยามหลับตารับสายลมที่เขาเห็นเมื่อตอนกลางวันก็ผุดขึ้นมาในสมอง
Rrrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นเรียกสติของฮยอกแจกลับมาอีกครั้ง ฝีเท้าเรียวก้าวเดินเข้าไปยังตัวห้องมือเรียวสวยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอปรากฏชื่อทงเฮ
“มีไร”ฮยอกแจเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ
“พี่...คีบอมแย่แล้ว”ทงเฮเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย
“ทำไมมีอะไร”
“คีบอมมันมีเรื่องชกต่อยกับนักเรียนคู่อริ ตอนนี้ชีวอนกับคยูฮยอนก็เข้าไปช่วยแล้วแต่พวกเรามีแค่สามคนแต่พวกมันมาตั้งหลายสิบคน”
“แกจะเรียกฉันไปเป็นกำลังเสริม?”
“แค่พี่คนเดียวสู้กับนักเลงตัวใหญ่จนล้มไปเป็นสิบ แล้วอีกอย่างพี่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษานะ”
“อืมรู้แล้ว แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“มยอนดง พี่รีบๆมานะแค่นี้ก่อนนะพี่ผมเป็นห่วงชีวอน”ทงเฮกดวางสายทันทีที่พูดจบ ฮยอกแจรู้สึกเซ็งนิดๆที่ถูกรบกวนเวลาส่วนตัวทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของเขา
ร่างบางเดินเท้าตามเดินทางไปเรื่อยๆสายตาสอดส่องไปมาตามซอกตึกก่อนจะสะดุดตายังจุดๆหนึ่งที่มีผู้คนรุมดูกันอย่างหนาตา เรียวขาสวยวิ่งดูยังจุดที่มีผู้คนมุงอยู่ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปเรื่อยๆจนอยู่ข้างหน้า ดวงตาเรียวเหลือบเห็นทงเฮที่นั่งร้องไห้กอดร่างชีวอนที่หมดสติ ขาสวยก้าวกระโดดถีบเข้ากลางหลังผู้ชายตัวใหญ่ที่กำลังจะเข้าไปทำร้ายน้องชาย สายตาคู่สวยเงยขึ้นมองเหตุการณ์ข้างหน้าก่อนจะฉีกยิ้มอย่างดีใจที่เห็นพี่ชายของตน ร่างบางวิ่งเข้าไปยังจุดที่คีบอมกำลังต่อสู้อยู่ คู่อริมากมายกำลังรุมทำร้ายคีบอม สีหน้าของคีบอมโหดเหี้ยมต่างจากเมื่อกลางวัน เขาสามารถเขี่ยคู่อริที่เข้ามาทำร้ายจนล่วงไปทีละคน มือบางจับดึงที่หลังเสื้อของฝ่ายศัตรู ชายร่างยักษ์หันมองฮยอกแจแล้วกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปาก
“คนสวย รูปร่างบอบบางอย่างนี้หลบไปก่อนดีกว่า”ฮยอกแจกระตุกยิ้มที่มุมปากทันทีเมื่อคู่อริเอ่ยจบ
มือเรียวกำเข้าหากันก่อนจะซัดเข้าที่หน้าผู้ชายตัวโตด้วยแรงมหาศาลจนทำให้ชายคนนั้นล่วงลงไปกองที่พื้น ชายร่างยักษ์เงยหน้าชึ้นมองฮยอกแจอย่างไม่เชื่อสายตาเช่นเดียวกับคีบอมที่สบจังหวะหันมองทางร่างบางพอดี สายตาคมตวัดเห็นคู่อริที่กำลังจะวิ่งเข้ามาหาเขาขายาวกระโดนเข้าถีบที่กลางลำตัว ฮยอกแจเตะเข้าที่เชิงกรามของศัตรูส่งผลให้ชายร่างยักษ์หัวฟาดพื้นและแน่นิ่งไป และตั้งท่าเตรียมพร้อมเมื่อเห็นศัตรูจำนวนมากต่างพากันวิ่งกรูกันเข้ามา ขาเรียวก้าวถอยหลังเป็นการตั้งหลักแผ่นหลังบางชนเข้าที่แผ่นหลังหนา คีบอมเองก็อยู่ในท่าเตรียมพร้อมเช่นเดียวกัน ตอนนี้คยูฮยอนล้มลงกับพื้นไปแล้วใกล้ๆกับจุดของชีวอนโดยมีทงเฮคอยดูอาการของคนทั้งสอง คีบอมและฮยอกแจต่างวิ่งเข้าหาคู่ต่อสู้แบบสิบรุมสอง หมัดหนักซัดเข้าใส่คู่ต่อสู้พร้อมๆกับขายาวที่ถีบเข้าที่ช่องท้องของคู่ต่อสู้อีกคน เรียวขาสวยของฮยอกแจฟาดเข้าที่ต้นคอคู่ต่อสู้จนล้มพับไป ก่อนจะหันมาเล่นงานอีกคน
วี๋...หว๋อ....วี๋.....หว๋อ เสียงไซเลนรถตำรวจดังมาแต่ไกลกลุ่มนักเรียนที่กำลังชกต่อยต่างสลายตัวกันอย่างรวดเร็ว คยูฮยอนตั้งสติลุกขึ้นก่อนจะเข้าช่วยทงเฮพยุงร่างชีวอนและรีบวิ่งหนีไป คีบอมคว้าข้อมือบางก่อนจะออกวิ่งเข้าไปทางซอยร้านรวงแคบๆสายตาคมมองเห็นตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์ที่ตั้งอยู่ข้างๆก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในพร้อมๆกับฮยอกแจ มือหนาควานหาเศษตังค์จากในกระเป๋ากางเกงแล้วหยอดลงที่ช่องหยอดเหรียญ เสียงฝีเท้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ร่างสูงรีบถอดชุดเครื่องแบบนักเรียนออกจนเหลือแค่เสื้อกล้ามตัวบางสีขาว สองมือหนาประคองเข้าที่โครงหน้าสวยก่อนจะโน้มริมฝีปากบดเบียดกับเรียวปากบาง ดวงตาเรียวเบิกขึ้นกว้างอย่างตกใจ เครื่องถ่ายรูปทำหน้าที่ถ่ายภาพอย่างอัตโนมัติรูปแล้วรูปเล่า เจ้าหน้าที่ตำรวจค่อยๆไล่ตรวจดูตู้ถ่ายรูปทีละตู้จนมาถึงตู้สุดท้าย มือหยาบค่อยๆเปิดผ้าม่านออกแล้วรีบปิดลงในทันทีเพราะภาพของคนทั้งคู่ที่กำลังจูบกันอย่างดูดื่ม เรียวปากยังคงดูดเม้มที่ปากบางก่อนจะถอนออกเมื่อเสียงฝีเท้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจไกลออกไป ใบหน้าสวยยังคงตกตะลึงร่างกายแข็งทื้อขยับไปไหนไม่ได้ ร่างสูงยังคงไม่ปล่อยมือออกจากร่างบางพร้อมเพ่งสมาธิไปที่เสียงฝีเท้าที่ค่อยๆเบาลงๆแล้วเงียบสนิทในเวลาต่อมา คีบอมค่อยๆก้มตัวลงเก็บรูปถ่ายที่ไหลออกมาจากช่องรับรูป ปากหนายกยิ้มออกมาเมื่อมองดูรูปถ่าย ใบหน้าของคีบอมในตอนนี้เป็นรอยช้ำเต็มไปหมดมีเลือดไหลออกบ้างที่มุมปากและหางคิ้ว แต่รูปที่ออกมาเห็นไม่ชัดนักถ้าไม่สังเกตให้ดีๆก็จะไม่เห็นรอยช้ำเลย มือหนายัดเก็บแผ่นรูปไว้ในกระเป๋าเงิน ฮยอกแจเดินนำคีบอมมาที่รถมือบางสตาร์ทรถและขับออกจากมยอนดงทันที
“ทำไมพวกนายถึงมีเรื่องกันได้”ปากบางเอ่ยถามทำลายความเงียบ
“แล้วใครว่าพวกเราอยากมีเรื่องล่ะ พวกนั้นเข้ามาเรื่องก่อนต่างหาก”ร่างบางถอนหายใจอย่างหน่ายๆก่อนจะเลี้ยวรถจอดที่ริมถนนและเปิดประตูรถวิ่งเข้าไปยังร้านขายยา แล้วกลับเข้ามาในรถพร้อมอุปกรณ์ทำแผลจำนวนมาก
“บ้านนายอยู่ไหน”ฮยอกแจเอ่ยถามคีบอม เมื่อไม่มีเสียงเอ่ยตอบร่างบางจึงหันมองคนข้างๆก็พบว่าคีบอมหลับไปแล้ว มือบางจึงหยิบโทรศัพท์กดโทรหาทงเฮทันทีเพื่อถามทางไปบ้านคีบอม สัญญาณรอสายดังขึ้นอยู่นานไม่มีทีท่าจะตอบรับจากปลายสาย
“ทำอะไรอยู่นะ แล้วมันไปหลบอยู่ไหนเนี่ยถ้าโดนจับได้พ่อต้องเอาเรื่องแน่ๆ”ร่างบางเอ่ยบ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะตัดสินใจขับรถไปที่คอนโดเพราะไม่รู้ทางไปบ้านของคีบอม
*******************************
มือบางเสียบคีย์การ์ดที่ประตูห้องก่อนจะผลักบานประตูและก้าวเข้าไปโดยมีคีบอมเดินตามหลังมา สายตาคมสอดส่องไปรอบๆ ฮยอกแจตกแต่งคอนโดนตามแนวที่ตัวเองชอบคือร๊อคผสมกับแนวพังค์จนทำให้คีบอมแน่ใจเลยว่าฮยอกแจไม่น่าจะเป็นอาจารย์ได้เพียงแต่อาจจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฮยอกแจต้องมาเป็นอาจารย์สอนหนังสือ
“นั่งสิ”ร่างบางเอ่ยบอก คีบอมก้าวเดินไปที่โซฟาก่อนจะหย่อนก้นลงนั่ง ร่างบางจัดการเตรียมยาทำแผลที่เพิ่งซื้อมาแล้วนั่งลงข้างๆคีบอม
“หันหน้ามาฉันจะทำแผลให้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่ใช่คนมือเบา”มือบางใช้สำลีจุ่มกับยาทำแผลก่อนจะหันมาสั่งคีบอม ใบหน้าคมหันมาทางฮยอกแจอย่างว่าง่าย มือบางใช้สำลีแตะลงที่แผลอย่างเบามือที่สุดที่คิดว่าตัวเองจะเบาได้ ใบหน้าคมสะดุ้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเจ็บที่ใบหน้า
“ฉันขอโทษนะ มือหนักไปหน่อย”
“..
”คีบอมพยักหน้าให้เล็กน้อยหลังจากฮยอกแจพูดจบ
มือบางหยิบพลาสเตอร์ขึ้นมาปิดที่หางคิ้วทันทีหลังจากทำความสะอาดแผลเสร็จ ดวงตาเรียวจ้องมองไปยังแผลบนใบหน้าของคีบอมก่อนจะยกยิ้มอย่างภูมิใจกับฝีมือทำแผลครั้งแรกในชีวิต แต่ต้องหุบยิ้มลงเมื่อรับรู้สึกถึงสายตาคมที่จ้องมองมา ดวงตาสวยสบเข้ากับตาคม คีบอมค่อยๆโน้มหน้าเข้าหาใบหน้าสวยริมฝีปากแตะลงที่ปากบางเป็นการลองเชิงปากอิ่มสวยเผยอ้าขึ้นเล็กน้อย ลิ้นชื้นสอดเข้าที่โพรงปากบางโดยที่ลิ้นอุ่นของฮยอกแจให้การตอบรับเป็นอย่างดี สองแขนแกร่งโอบรัดที่ช่วงเอวบางพร้อมๆกับเรียวแขนเล็กโอบเข้าที่ต้นคอหนา
“พี่!!”ทงเฮที่ถือวิสาสะวิ่งเข้ามาในห้องของฮยอกแจเอ่ยเรียกผู้เป็นพี่ชายก่อนจะนิ่งอึ้งกับภาพตรงหน้า ฮยอกแจและคีบอมผละออกจากกันในทันที ตาคมสลับมองทงเฮและฮยอกแจ
“พี่เหรอ นายเรียกใครว่าพี่”คีบอมเอ่ยถามทงเฮ
“
..”ทงเฮเลิกลั้กอย่างไม่รู้จะตอบยังไงดี
“ทงเฮเป็นน้องชายฉัน แต่ห้องมันอยู่ฝั่งนู้นตรงข้ามห้องฉัน”ฮยอกแจเอ่ยตอบแทนทงเฮไม่มีประโยชน์จะปิดบังต่อไปในเมื่อคีบอมเองก็เห็นกับตาพร้อมได้ยินกับหู
“ทำไมนายไม่บอกพวกเรา”คีบอมเอ่ยถามทงเฮอีกที
“ฉันไม่อยากให้คนอื่นมองฉันเป็นเด็กเส้นถ้าฉันทำคะแนนวิชาภาษาอังกฤษได้ดี”
“แล้ววิ่งเข้ามามีอะไร”ฮยอกแจเอ่ยถาม
“พี่มียาล้างแผลไหม ชีวอนยังไม่ฟื้นเลยอะ คยูฮยอนก็ยังอยู่ในห้อง”
“เอาไปสิ”มือเรียวบางหยิบขวดยาและอุปกรณ์ทำแผลส่งต่อให้น้องชาย ก่อนจะก้าวเดินตามไปที่ห้องทงเฮโดยมีคีบอมเดินตามมาด้วย คยูฮยอนจัดการทำแผลด้วยตัวเองในขณะที่ทงเฮนั่งซับรอยเลือดด้วยผ้าสะอาดให้กับคนรักโดยมีคีบอมและฮยอกแจนั่งมองที่โซฟา
“อาจารย์มาอยู่ที่นี้ได้ยังไงแล้วอาจารย์รู้จักกับทงเฮเหรอแล้วทำไมอาจารย์ถึงต่อยเตะเก่งนักอะ”คยูฮยอนที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น ฮยอกแจถอนหายใจก่อนจะเอ่ยตอบคำถาม
“ฉันเป็นพี่ชายทงเฮ”
“ว้าว งั้นอาจารย์ก็เป็นลูกชายคนโตของผู้บริหารโรงเรียนน่ะสิ”
“.....”ฮยอกแจไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าเบาๆให้คยูฮยอน ก่อนจะสะดุดสายตาที่คีบอมที่นั่งมองเขาอยู่นานแล้ว ทงเฮละจากใบหน้าคนรักพอดีเลยเห็นพฤติกรรมของบุคคลทั้งสองก่อนจะคลี่ยิ้มและหันไปยิ้มให้กับคยูฮยอนอย่างรู้กัน ชีวอนค่อยๆขยับตัวทีละนิดเรียกความสนใจได้จากทุกคน ทงเฮประคองร่างคนรักให้ลุกขึ้นนั่ง
“ไม่มีใครเป็นอะไรใช่ไหม”ชีวอนเอ่ยถามทันทีเมื่อรู้สึกตัว
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะอาการหนักกว่าใครเพื่อน”คีบอมเอ่ยบอกซึ่งชีวอนส่งยิ้มเพียงแห้งๆเท่านั้นเพราะเจ็บแผลที่มุมปาก
“ถ้าไม่มีฉันอยู่ด้วยทั้งคนนายคงไม่โดนหนักอย่างนี้ใช่ไหมชีวอน”ทงเฮเอ่ยพูดด้วยแววตาเศร้า
“อย่าพูดอย่างนั้นสิทงเฮฉันต้องปกป้องนายเป็นธรรมดา”ชีวอนเอ่ยพูดพร้อมกับดึงคนรักเข้ามาในอ้อมกอด
“จะทำไรกันช่วยเกรงใจฉันหน่อยได้ไหม”ฮยอกแจเอ่ยขึ้นเมื่อน้องชายตัวดีต้องไปอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่น
“แล้วทีพี่กับคีบอมล่ะ”ทงเฮเอ่ยย้อน ฮยอกแจถลึงตามองน้องชายก่อนจะเชิดหน้าให้หนึ่งที ผิดกับคีบอมที่กำลังนั่งฉีกยิ้มอย่างมีความสุข
“ชีวอนวันนี้จะกลับบ้านไหวไหม”ทงเฮเอ่ยถามคนรัก
“คงไม่ไหวล่ะทงเฮก็รู้ว่าพ่อฉันดุแค่ไหน”
“เลยจะนอนที่นี้ว่างั้น?”ฮยอกแจเอ่ยถามอย่างรู้ทัน
“.....”ชีวอนพยักหน้าเบาๆ พร้อมทำหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ได้ แต่ทงเฮต้องไปนอนห้องฉัน”สิ้นคำประกาศิตย์ ฮยอกแจลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินออกตรงไปยังห้องตัวเองทันที
ตกดึกทั้งสี่คนตกลงจะร่วมดื่มด้วยกันในคืนนี้ที่ห้องของทงเฮโดยที่ทงเฮและคีบอมอาสาออกไปซื้อเครื่องดื่มที่ซูปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆคอนโด
“อ้าวพี่ จะออกไปข้างนอกเหรอ”ทันทีที่ทั้งสองก้าวออกจากประตูห้อง ก็เจอกับฮยอกแจที่ก้าวออกจากห้องตรงข้ามพอดี
“บุหรี่หมดน่ะ”เอ่ยพูดโดยที่สายตามองตรงไปยังด้านหลังของน้องชาย ไม่เข้าใจเอาซะเลยทำไมคีบอมชอบจ้องเขานัก
“อ่า...งั้นดีเลยคีบอมนายไปกับพี่ฉันแล้วกันฉันจะได้อยู่ดูชีวอน”ไม่รอให้ทั้งสองได้เอ่ยคัดค้านทงเฮก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องทันที ร่างสูงออกก้าวเดินนำตรงไปยังลิฟท์แก้ว ประตูลิฟท์เปิดรออยู่นานแล้วเพราะไม่มีใครกดเรียกใช้ ร่างสูงก้าวเดินเข้าไปก่อนเป็นคนแรกโดยที่ร่างบางเลือกยืนอยู่ด้านหลังแต่ก็ยังไม่พ้นสายตาของร่างสูงที่เพ่งมองผ่านเงาจากบานประตูลิฟท์
“ทำไมนายถึงชอบมองฉันจังนะ”ความอดทนถึงขีดสุดฮยอกแจจึงเอ่ยถามกับแผ่นหลังหนา แต่สิ่งที่ได้กลับมาแทนคำตอบคือเสียงหัวเราะในลำคอของคนตรงหน้า
“โรคจิต”ฮยอกแจเอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ แสร้งมองไปทางอื่นเมื่อคีบอมหันหลังมา
**************************
ร่างสูงเอื้อมหยิบตระกร้าพลาสติคขึ้นมาจากบนพื้นมุ่งหน้าตรงไปยังตู้แช่เย็นในทันทีไม่นานขวดสีเขียวมรกตมากมายถูกจับใส่จนเต็มตระกร้าขายาวมุ่งหน้าต่อไปยังเคาท์เตอร์จ่ายเงิน ซองบุหรี่มากมายจำนวนหลายสิบซองถูกวางกองไว้บนเคาท์เตอร์ นัยน์ตาสีนิลสลับมองที่กองบุหรี่กับร่างบางอย่างไม่เชื่อสายตา มือหนาวางตระกร้าลงกับพื้นแล้วเดินประชิดที่ตัวร่างบางมือข้างหนึ่งหยิบซองบุหรี่ไว้สองซองส่วนอีกข้างผลักกองพวกนั้นไปทางพนักงานที่ยืนหลังเคาท์เตอร์
“ขอแค่สองซองครับ”เอ่ยพูดอย่างสุภาพกับพนักงานสาวในร้าน
“นี่...มันเรื่องอะไรของนายแค่สองซองคืนนี้ก็หมดแล้ว”
“อยากตายไวหรือไง”
“นายก็สูบเหมือนกันแหละ เอ๊ะ!แล้วนั่นจะซื้อไปดื่มหรือซื้อไปล้างแผลไม่ทราบ”เอ่ยพูดพร้อมส่งสายตาอย่างยียวน ซึ่งคีบอมไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อยมือหนาวางตระกร้าลงที่บนเคาท์เตอร์เพื่อให้พนักงานประจำร้านคิดเงิน โดยที่ร่างบางออกไปยืนรออยู่ข้างนอก สองมือหนาหอบหิ้วถุงใบใหญ่ที่บรรจุขวดโซจูข้างละสิบขวดออกจากร้าน ตาเรียวจ้องมองแผ่นหลังของคนตรงหน้าที่คอยกระชับหูหิ้วอยู่ตลอดทางตามลำแขนมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ดูท่าคีบอมคงใช้กำลังเยอะน่าดูในการหิ้วถุงสองใบ ขาเรียวก้าวเท้าให้ยาวขึ้นขนาบข้างกับร่างสูงฝ่ามือบางสอดเข้าที่หูหิ้วเพื่อทุ้นแรงให้คีบอมอีกข้าง ซึ่งคนข้างๆเพียงแต่หันมองพร้อมอมยิ้มนิดๆที่ข้างแก้ม
“อยู่ดื่มด้วยกันก่อนสิ”ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งคู่หยุดอยู่ที่กลางทางเดินระหว่างห้องของทงเฮและฮยอกแจ
“ไม่ล่ะพรุ่งนี้ฉันมีสอนพวกนายก็เหมือนกันพรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอไง”
“อย่าทำตัวเป็นอาจารย์ที่ดีหน่อยเลย จริงๆแล้วก็ไม่อยากทำใช่ไหมล่ะ”คี
บอมเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันพร้อมยักคิ้วขึ้นลงให้คนตรงหน้า
‘จะว่าไปตอนนี้ก็ชักจะเปรี้ยวปากยังไงก็ไม่รู้ สักนิดก็ยังดี’^^ นิ้วเรียวกดกริ๊งที่หน้าประตูห้องไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก ฮยอกแจเลือกนั่งที่โซฟาตัวยาวตรงกลางที่ว่างอยู่สายตาเหลือบมองน้องชายที่นั่งเบียดเสียดกับชีวอนที่โซฟาตัวเดี่ยว
“น้อยๆหน่อยได้ไหม ฉันอุตสาช่วยขอพ่อให้แกได้ออกมาอยู่ข้างนอกเพราะอยากให้แกได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระตามอย่างที่วัยรุ่นต้องการไม่ได้หวังให้แกออกมาใช้ชีวิตกับผู้ชายอย่างมีความสุขหรอกนะ ไหนว่าเป็นนักเรียนดีเด่นไง”ฮยอกแจเอ่ยขึ้นด้วยความหมั่นไส้ เดี๋ยวก็หยิบนู้นป้อนนี่ทำอย่างกับแฟนมันมือด้วนงั้นแหละ
“อย่าบ่นมากนักเลย ผมกับชีวอนก็ไม่เคยทำอะไรประเจิดประเจ้อกันข้างนอกซะหน่อย จริงไหมวอนนี่”เอ่ยตอบพี่ชาย ก่อนจะหันไปถามคนรักพร้อมดัดเสียงให้น่ารัก
“จริงจ๊ะ”
“เฮ้อ...นี่เหรอวะคนที่เพิ่งไปมีเรื่องชกต่อยมา”เสียงใสเอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ
“ก็หาไว้สักคนสิ อย่ามัวยึดติดอยู่กับอดีต”ภาพใบหน้าของใครบางคนฉายขึ้นมาอย่างชัดเจนเมื่อทงเฮพูดถึงคนๆนั้น พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ใครจะยอมรับตัวตนที่แท้จริงของฉัน คนที่มีพร้อมไปทุกอย่างเขาก็ต้องการคนที่เรียบร้อยอ่อนหวานอยู่ข้างๆ”
“มันก็ไม่เสมอไป”
“.....”ใบหน้าหวานหันมองน้องชายที่ฉีกยิ้มลอยหน้าลอยตา กวนเบื้องล่างยิ่งนัก
“พี่รู้ไหม อย่างพี่เนี้ยสเป๊กเพื่อนผมเลย”
“ประสาท รุ่นนายอ่อนกว่าฉันตั้งเยอะ”เอ่ยพูดพร้อมกับเอนหลังที่พนักโซฟา แต่แล้วดวงตาเรียวก็สบเข้ากับแผ่นหลังหนาที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าตู้เย็นตรงหน้าพอดี
‘คงไม่ได้หมายถึงหมอนั่นหรอกนะ’
“เห้ย!!”ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อแก้มเนียนสัมผัสกับความเย็นของขวดโซจู คีบอมใช้ข้างขวดที่เย็นเจี๊ยบทาบกับเนื้อแก้มเนียนแล้วยื่นส่งต่อให้เมื่อมือสวยยื่นออกรับแต่ยังไม่วายจะได้สายตาอำมหิตจากเจ้าของแก้มเนียนซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างคิม คีบอมย่อมไม่สะทบสะท้านแถมยังหย่อนก้นลงนั่งข้างๆร่างบางพร้อมกับกระดกขวดสีเขียวมรกตเข้าโพรงปากอึกแล้วอึกเล่า มือเรียวคว้าซองบุหรี่ที่วางไว้บนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วออกก้าวเดินไปยังระเบียงห้อง
“ทำไมถึงมาเป็นอาจารย์สอนหนังสือ”ในขณะที่ร่างบางกำลังนั่งรับลมอยู่เพลินๆพร้อมกับบุหรี่คู่ใจ เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศที่น่าพิศมัยจนหมดตาเรียวจึงเหล่มองยังคนมาใหม่ในทันที
“มันเรื่องของฉัน”เอ่ยตอบก่อนจะเชิดหันมองไปทางอื่น
“อย่างว่าล่ะนะ คนที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาสอนตั้งแต่แรกจะมีจิตวิญญาณของความเป็นครูได้ยังไง”
“นายกำลังดูถูกอาจารย์ที่ปรีกษาของตัวเองอยู่นะ คิม คีบอม”
“งั้นก็ลองแสดงให้เห็นหน่อยสิ ว่าอย่างนายน่ะก็เป็นอาจารย์ที่ดีได้”
“ก็คอยดูแล้วกัน”
‘อาจารย์ที่ดีหรอฉันไม่คิดจะเป็นเลยด้วยซ้ำ’
“เห้ย!!...นี่”
“ถือซะว่าใช้คืนที่เมื่อตอนกลางวันนายแย่งบุหรี่ไปจากฉันไง”คีบอมอาศัยช่วงที่ฮยอกแจกำลังนั่งเหม่อลอยแย่งบุหรี่ไปจากเรียวนิ้วสวย แล้วส่งเข้าปากของตัวเองอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยถึงกับทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองตามบุหรี่ที่ถูกแย้งไป ก็...
...นั่นมันจูบทางอ้อมชัดๆ -_-
*************************
“โธ่...เว้ย ใครบอกให้แกมาเสียตอนนี้นะ”ร่างบางบ่นงืมงำในขณะที่ก้าวลงจากรถ หลังจากที่ขับรถออกมาจากโรงเรียนแล้วยังไปไม่ถึงไหนด้วยซ้ำ รถสปอตร์คันหรูของฮยอกแจก็เป็นอันติดๆดับๆจนไม่ขยับไปไหนอีกเลย ทันทีที่มือบางเปิดฝากระโปรงรถขึ้นควันสีขาวลอยฟุ้งขึ้นมาราวกับมีไฟไหม้ ดวงตาเรียวสอดส่องไปยังเครื่องในมากมายแต่กลับทำได้แค่มองเพราะซ้อมรถไม่เป็น TwT
ปริ๊น...ปรี๊น...
“จะบีบแตหาไรไม่ทราบ...เอ๊ะ”เสียงบีบแตรถที่แสนจะน่าลำคานในขณะนี้ดังขึ้นที่ข้างๆร่างบางจึงหันไปด่า พร้อมเสียงอุทานเมื่อเห็นใบหน้าของเจ้าของเสียง สายตาส่องสำรวจไปยังรถมอเตอร์ไซด์สีชมพูหวานแหววสลับกับมองหน้าเจ้าของรถ
“หึหึ...นี่รถนายเหรอ”ร่างบางพยายามกั้นเสียงหัวเราะ แต่ยิ่งกั้นเท่าไหร่กลับยิ่งหัวเราะมากขึ้นเท่านั้น แล้วยิ่งเห็นสายตาที่เขียวปั๊ดของเจ้าของยามาฮ่าฟีโน่ด้วยแล้วแทบจะลงไปขำกริ้งบนพื้นให้รู้แล้วรู้รอดไป
“จะขำอีกนานมั้ย รถเสียไม่ใช่เหรอ”เจ้าของรถเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนิดๆ
‘ไม่น่าแวะจอดเลย’
“จะให้ฉันซ้อนท้ายคันนี้เนี่ยนะ ไม่เหมาะกับหัวโจกอย่างนายเลยนะ คิมคีบอม...หึหึ”
“อย่ามาดูถูกซูปเปอร์ฟีโน่ของฉันนะ ถึงภายนอกจะดูธรรมดาๆแต่แรงบิดสองร้อยห้าสิบ ซีซีเชียวนะ”เอ่ยพูดพร้อมเอามือกอดอกอย่างภูมิใจ แต่ยังไม่วายที่ร่างบางจะปล่อยขำออกมาอีกครั้ง มือเรียวกระแทกปิดฝากระโปรงรถแล้วใช้กุญแจไขปิดที่ประตูรถฝั่งคนขับก่อนจะหยุดยืนที่ข้างๆร่างสูง
“ลองนั่งซูปเปอร์ฟีโน่ของนายมั้งก็คงจะดีเนอะ”เอ่ยพูดพร้อมกับรอยยิ้มสวยแล้วก้าวขึ้นคร่อมที่เบาะหลัง
ยังไม่ทันที่ซูปเปอร์ฟีโน่ของคีบอมจะออกสู่ถนนใหญ่ กลุ่มคู่อริต่างโรงเรียนที่เคยมีเรื่องกับคีบอมคราวที่แล้วยืนเรียงหน้าปิดทางออกประจันหน้ากับคีบอมและฮยอกแจ กลุ่มนักเรียนชายหลายสิบคนต่างวิ่งกรูเข้ามาหาคนทั้งสองโดยไม่พูดพร่ำให้มากความ คีบอมและฮยอกแจรีบลงจากรถและอยู่ในท่าเตรียมพร้อมในทันทีจนตอนนี้ทั้งสองตกอยู่ในวงล้อมของนักเรียนคู่อริ ขายาวยกขึ้นถีบที่กลางลำตัวเมื่ออีกฝ่ายก้าวเข้ามาประชิดตัว หมัดหนักเสยขึ้นที่ปลายคางของฝ่ายตรงข้ามจนอีกคนจนล้มลงกับพื้นน้ำสีแดงข้นไหลเยิ้มจากในโพรงปาก
“กลับบ้านไปกินนมก่อนเถอะ ตัวก็แค่นี้จะมีปัญญามาสู้พวกฉันได้ยังไง”ผู้ชายสองสามคนที่ยืนประจันหน้ากับฮยอกแจเอ่ยขึ้นสายตาสำรวจมองที่ร่างบางอย่างเวทนา เรียวปากบางกระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วฟาดเรียวขางามๆไปยังต้นคอของชายคนแรกเก็บเกี่ยวจนล่วงลงไปเป็นคนที่สองและคนที่สาม
“มีกำลังแค่นี้เองเหรอ”
“...”
“กลับบ้านไปดูดนมแม่ก่อนดีไหม ไอ้หนู”ร่างบางย่อตัวลงให้เสมอกับคนทั้งสามที่นอนคาอยู่บนพื้น เอ่ยพูดพร้อมๆกับฝามือเรียวตบลงไปยังแก้มหยาบ
“ฮยอกแจ”โครงหน้าหวานหันมองยังต้นเสียง คีบอมวิ่งเข้ามาดึงข้อมือบางเอาไว้แล้วพาวิ่งไปยังซูปเปอร์ฟีโน่ที่จอดรออยู่แล้วสตาร์ทรถออกไปในทันที ใบหน้าหวานหันมองยังเบื้องหลังกลุ่มคนมากมายที่ตามมาสมทบนักเรียนคู่อริต่างวิ่งกรูเรียวแถวหน้ากระดานพร้อมอาวุธติดมือ
“อ๊ากกก”ร่างบางเอ่ยร้องเสียงหลงเมื่อคีบอมเร่งสปีดความเร็วขึ้นโดยที่ร่างบางยังไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าหวานยู้ยี้ขึ้นเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มกว้างออกมาเมื่อสายลมยามเย็นพัดกระทบที่ใบหน้า แขนเรียวทั้งสองข้างกางออกต้านแรงลมเปลือกตาบางปิดลง ใบหน้าเคลิบเคลิ้มเสมือนกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า เอี๊ยดดดดด
จู่ๆร่างสูงก็เบรกรถอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวส่งผลให้แขนเรียวทั้งสองข้างสวมกอดเข้าที่เอวหนาลำตัวแนบชิดติดพร้อมทั้งหลับตาปี๋
“นี่...ทำเป็นกลัวไปได้”เสียงเรียกจากคนข้างหน้าทำให้ฮยอกแจเริ่มตั้งสติขึ้นมาได้ เปลือกตาเรียวปรือขึ้นในจังหวะเดียวกับที่คีบอมหันมองมาทางด้านหลังแล้วส่งยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์ให้กับร่างบางพร้อมฝามือหนากุมกระชับที่มือเรียว
ฮยอกแจเบิกตาโตกว้างแล้วก้มมองไปยังแขนทั้งสองข้างที่กอดรัดอยู่ที่เอวของคี
บอม
“อ๊ากกกก ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”ร่างบางโวยวายดังลั่นโดยไม่สนใจรถข้างๆที่มองดูคนทั้งสอง
“นายกอดฉันเองนะ”เอ่ยพูดพร้อมกับกระชับมือเรียวให้แน่นยิ่งขึ้น
“ก็นายเบรกรถทำไมล่ะ ฉันก็กลัวว่ารถจะชนสิ”
“ไม่เห็นเหรอครับ ว่าตอนนี้น่ะเราติดไฟแดงกันอยู่แล้วคนอย่างคุณหนูลี ฮยอกแจที่หาเรื่องแตะต่อยเป็นว่าเล่นกลัวอะไรด้วยหรอ...ฮ่า...ฮ่า...โอ้ย!!”ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้หัวเราะอย่างเต็มอิ่ม ฮยอกแจก็ใช้นิ้วเรียวหยิกลงที่หน้าท้องแบนราบด้วยความหมั่นไส้
...ไม่ยอมปล่อยก็ต้องโดนแบบนี้แหละ
**************************
ร่างสูงนอนเหยียดกายอยู่บนพื้นหญ้าริมแม่น้ำฮัน มือหนาประคบผ้าเย็นที่ห่อหุ้มน้ำแข็งอยู่ด้านในลงที่รอยช้ำที่มุมปากและหางตาโดยที่ร่างบางนั่ง
เหยียดขาสายตาทอดมองวิวที่อยู่เบื้องหน้า มือเรียวล้วงหยิบอะไรบางอย่างจากในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับยิ้มให้ของที่อยู่บนฝามือ
“อ๊ะ!!”เสียงใสร้องขึ้นเมื่อของในมือถูกคนข้างๆแย่งไปต่อหน้าต่อตา ดวงตาเรียวมองของที่อยู่ในมือหนาด้วยแววตาละห้อยก่อนจะเงยขึ้นมองคนข้างๆด้วยแววตาเขียวปั๊ด
“เลิกไม่ได้เหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยพูดขึ้นโดยไม่สนใจสายตาอาฆาตจากคนข้างๆ
“หืม?”เสียงที่ถูกเปล่งออกจากลำคอ พร้อมสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“ฉันถามว่าเลิกไม่ได้เหรอ มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
“นายก็สูบเหมือนกันล่ะน่า”ถึงจะตอบออกไปอย่างนั้น แต่ภายในใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ ดวงหน้าเริ่มขึ้นสีระเรื้อ
“ฉันสูบแค่วันละม้วนเพราะฉันกำลังจะเลิกสูบมัน แต่ถ้าจะสูบก็เอาเถอะ”มือหนายื่นซองบุหรี่ส่งคืนให้กับร่างบาง ดวงตาเรียวมองซองบุหรี่ที่อยู่ในมือหนาอย่างลังเลใจ
“ไม่ล่ะ”
“ทำไมล่ะ เมื่อกี้เห็นยังอยากสูบอยู่เลย”
“โดนขัดอารมณ์แบบนั้นใครจะมีอารมณ์สูบต่อ”แม้น้ำเสียงที่พูดออกมาจะดูเหมือนว่าร่างบางกำลังจะกล่าวโทษเขาอยู่แต่คีบอมกลับคลี่ยิ้มเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
...บางทีเขาก็อาจจะเป็นห่วงคนข้างๆก็เป็นได้ แล้วฮยอกแจอาจจะรับรู้ถึงความรู้สึกนั้น แต่จะดีเหรอระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์
*******************************
“พี่”ทงเฮเดินเข้ามาหาฮยอกแจในห้องทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากในห้องของฮยอกแจ
“คิก...คิก...คิก”ใบหน้าขาวหวานราวเด็กผู้หญิงก้มต่ำมองหน้าพี่ชายคนโตที่เอาแต่นอนหัวเราะอยู่คนเดียว
“ประสาท”เอ่ยพูดอย่างแผ่วเบาพร้อมกับสายตาที่จ้องมองพี่ชายอย่างไม่วางตา
“คิก...คิก...คิก”
“บ้าไปแล้ว...โอ้ย”เรียวขาสวยถีบเข้าที่ช่องท้องของน้อยชายจนทงเฮเซล้มลงไปกองอยู่บนพื้น
“มีอะไรแล้วเข้ามาทำไมแล้วทำไมแกไม่เคาะประตู”ร่างบางชันตัวลุกขึ้นนั่งที่ขอบเตียงพร้อมกับคาดคั้นน้องชายราวกับนักโทษ
“ก็เห็นว่ากลับดึกเลยเข้ามาดู แล้วอีกอย่างเคาะไปก็คงไม่ได้ยินเพราะมัวแต่นอนหัวเราะอยู่คนเดียวมีความสุขอะไรนักหนา”เอ่ยตอบพร้อมกับเบ้ให้หน้าพี่ชายด้วยความหมั่นไส้
“เออนี่...แกว่าถ้าฉันออกฟีโน่ซักคันจะดีไหม”ทงเฮคลานเข้ามานั่งใกล้ๆร่างบางทันทีเมื่อเห็นว่าฮยอกแจเริ่มจะเปลี่ยนอารมณ์แล้ว
“พี่จะออกให้ผมใช่มะ”ใบหน้าหวานเอ่ยถามกับพี่ชายด้วยแววตาที่เป็นประกายแวววับ
...ไม่คิดเลยว่าพี่ชายเขาจะใจดีแบบนี้
“ใครบอกฉันจะเอาไว้ขี่เอง อย่างแกน่ะไอ้หน้าหล่อมารับส่งทุกเช้าเย็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง”
“พี่เองก็มีรถแล้วเหมือนกันล่ะน่า ไม่ใช่ว่าไปเห็นของคีบอมมาหรือไงถึงอยากจะได้อะนี่แสดงว่าต้องได้นั่งซ้อนท้ายมาแล้วแน่ๆเห็นมันบอกว่ารถมันดีอย่างนู้นอย่างนี้ต้องใช่แน่ๆซ้อนท้ายมาแล้วใช่ไหม”
...รู้ทัน+_+”
“รู้ได้ไง”ตีสีหน้าราบเรียบแสร้งถามกับน้องชาย
“ก็เห็นรถพี่จอดทิ้งไว้ที่ข้างทาง แล้วคีบอมมันก็ออกจากโรงเรียนไปหลังจากพี่แป๊ปเดียวเองก็เลยเดาเอา สรุปว่าได้นั่งซ้อนจริงๆใช่ไหม”ฮยอกแจสังเกตุได้ว่าพอถามถึงประโยคหลังแววตาของทงเฮจะเป็นประกายขึ้นมาในทันที
“ลืมเรื่องรถไปเลย”
“ไม่ต้องห่วงน้องชายที่แสนดีคนนี้โทรเรียกให้คนเอาไปเข้าอู๋เรียบร้อยแล้ว ตกลงได้ซ้อนจริงๆใช่ไหม”
“โธ่...เว้ยแกนี่น่าลำคาญจริงๆซ้อนไม่ซ้อนแล้วจะทำไม”
“ก็อยากรู้ ปกติมันเคยให้ใครซ้อนท้ายซะที่ไหนขนาดพวกผมที่สนิทกับมันยังไม่เคยได้ซ้อนเลย ตกลงได้ซ้อนจริงๆใช่ไหม”
“อืม”ร่างบางครางรับในลำคอ เพราะรู้สึกลำคาญน้องชายตัวดีเหลือเกินที่เอาแต่คาดคั่นเขาอยู่ได้
“นี่พี่รู้ไหมจริงๆแล้วอะมันขอให้แม่ของมันออกช๊อปเปอร์ให้ต่างหาก”
“แล้วไง”ถึงปากจะแสร้งถามไปอย่างนั่นแต่ทว่าใบหูเรียวกลับกางออกอย่างเต็มที่ตั้งแต่ทงเฮเอ่ยพูดแล้ว
“ก็พอแม่ของมันรับปากจะซื้อให้นะมันดีใจมากเลยถึงขนาดเพ้อไปสามวันสามคืนเชียวนะ แต่พอวันฟังผลสอบเสร็จมันก็รีบกลับไปที่บ้านแต่ปรากฏว่าแม่***ของมันออกฟีโน่มาให้มันซะอย่างนั้นอะ ฮ่า...ฮ่า...ฮ่านึกถึงตอนนั่นแล้วขำชะมัด มันก็เลย...”ทงเฮทิ้งคำพูดไว้แค่นั่นก่อนจะเงียบไปเมื่อจับสังเกตุได้ว่าคนที่ไม่อยากฟังในตอนแรกกับตั้งใจฟังซะจนใบหูแทบจะจ่ออยู่ที่ริมฝีปากเขาอยู่แล้ว
“ก็เลยอะไรล่ะ แกก็เล่าให้จบสิ”หลังจากที่ทงเฮเงียบไปอยู่นานฮยอกแจจึงเริ่มหันไปโวยวายทันทีจึงเจอกับสายตาที่จับผิดของน้องชาย
“ตอนแรกไม่เห็นจะสนใจเลย”
“ก...ก็เรื่องของนักเรียนในห้องฉันต้องรู้ไว้สิ”เอ่ยเถียงอย่างข้างๆคูๆ
“งั้นเปลี่ยนไปเล่าเรื่องของคนอื่นดีกว่า”
“แกยังเล่าเรื่องเก่าไม่จบเลยนะ”
“ก็จะบอกว่ามันก็เลยเอาไปแต่งซะใหม่แรงขับสองร้อยห้าสิบซีซี แต่สีเนี่ยมันไม่ยอมเปลี่ยนเพราะเดี๋ยวแม่รู้ว่ามันเอาไปเปลี่ยนไส้ในมา”
“ห่วงลูกขนาดนั้นเชียว”
“ก็กลัวมันจะเป็นอันตรายแหละมั้ง พี่ไม่รู้อะไรคีบอมตอนมันอยู่กับแม่มันนะโดยเฉพาะถ้าพ่อมันอยู่ด้วย มันจะสงบเรียบร้อยอย่างกับลูกหมาเชื้องๆ ผมเคยเจอในวันประชุมผู้ปกครองอยู่ครั้งสองครั้งเนี้ยแหละตอนนั้นคีบอมกำลังมีเรื่องอยู่ที่หน้าโรงเรียนด้วยจากที่กำลังจะชกคู่ต่อสู้คนสุดท้ายนะพอมันเห็นพ่อกับแม่มันนะมันรีบสำออยลงไปกองบนพื้นเลย”
“ขนาดนั้นเชียว”
“อืม พอมันเอารถไปแต่งมันก็ไม่ยอมให้ใครซ้อนท้ายเลยแถมยังเอาไปจอดไว้ที่ข้างๆโรงเรียนอีกด้วย เออนี่พี่น่าจะลองไปเยี่ยมบ้านคีบอมดูนะ”
“ทำไมฉันต้องไปเยี่ยมด้วย”
“ก็ปกติอาจารย์ที่ปรึกษาต้องไปเยี่ยมบ้านนักเรียนเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว คนก่อนยังไม่ได้ไปเลยคราวนี้พี่ก็ต้องไปแล้วล่ะ”
“แล้วฉันต้องไปเยี่ยมบ้านแกด้วยไหม”
“งั้นฝากหอมแก้มแม่ด้วยแล้วกัน ไปนอนแล้วนะ”ทงเฮลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องของฮยอกแจทันทีที่พูดจบ มือเรียวเอื้อมหยิบซองบุหรี่ที่อยู่ข้างๆหัวเตียงแต่กลับชะงักไปเมื่อคำพูดของคีบอมดังขึ้นมาในหัว
“พูดซะขนาดนั้นไม่สูบแล้วก็ได้”
*************************
รถคันหรูแล่นจอดที่หน้าประตูบ้านมือบางหยิบแผ่นกระดาษก้มๆเงยๆเปรียบเทียบระหว่างข้อความบนกระดาษกับแผ่นป้ายที่ติดอยู่หน้าประตูบ้าน
เรียวปากกระตุกยิ้มขึ้นทันทีก่อนลงจากรถ เรียวนิ้วสวยกดเข้าที่เครื่องสปิกเกอร์ไม่นานก็มีเสียงตอบรับจากทางด้านใน
“ใครค่ะ”เสียงจากคนด้านในเอ่ยถาม
“สวัสดีครับผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของคิม คีบอมครับวันนี้มาเยี่ยมบ้านของนักเรียนประจำปีครับ ไม่ทราบว่ามีผู้ปกครองอยู่ที่บ้านด้วยไหมครับ”
“เชิญเลยคะ วันนี้คุณผู้หญิงอยู่พอดี”ไม่นานแม่บ้านผู้ดูแลบ้านหลังนี้ที่ร่างบางสนทนาด้วยเมื่อครู่เดินออกมาเปิดประตูให้พร้อมด้วยรอยยิ้มสวย ฮยอกแจเดินตามแม่บ้านไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ห้องรับแขก
“คุณผู้หญิงค่ะ อาจารย์ที่ปรึกษาของคุณหนูมาแล้วคะ”แม่บ้านเอ่ยบอกกับหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวกลางของห้อง ดวงตาเรียวมองคนตรงหน้าอย่างตกตะลึงหญิงสาวที่สวยใบหน้าไร้รอยเหี่ยวย่น กลีบปากที่เรียวเล็กอวบอิ่มรับกับใบหน้า ผิวขาวเนียนสวยราวกับน้ำนม ถ้าไม่บอกว่าเป็นแม่คงคิดว่าเป็นพี่สาวไปแล้ว
“ส...สวัสดีครับ ผมชื่อลี ฮยอกแจครับ”ร่างบางเอ่ยทักทายอย่างกระตุกระตัก เรียวปากอิ่มสวยฉีกยิ้มให้คนตรงหน้าทำให้ร่างบางอดจะเคลิ้มตามไม่ได้
“เชิญนั่งสิค่ะ แม่บ้านจางฝากตามคีบอมลงมาด้วยนะ”
“ค...คุณเป็นคุณแม่ของคีบอมจริงๆเหรอครับ”
“หุหุหุ...อาจารย์คงไม่คิดว่าดิฉันเป็นพี่สาวของคีบอมแล้วปลอมตัวเป็นผู้ปกครองเพื่อมารับฟังวีรกรรมของน้องชายแทนพ่อกับแม่หรอกใช่ไหมค่ะ”หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยถามด้วยอารมณ์ขัน รอยยิ้มยังคงไม่จางหายจากใบหน้า
“ไม่ใช่หรอกครับ ผมแค่แปลกใจที่คุณดูยังสาวยังสวยต่างจากผู้ปกครองท่านอื่น”
“ขอบคุณค่ะ
“พี่สาว!!”เสียงทุ้มดังมาจากข้างหลัง เจ้าของเสียงหยุดยืนอยู่กับที่เมื่อสังเกตุเห็นแขก...ที่อาจจะไม่ได้รับเชิญ
“ลูกคนนี้นี่บอกให้เรียกแม่ เรียกพี่สาวอย่างนี้เดี๋ยวอาจารย์ฮยอกแจก็เข้าใจผิดหรอก แล้วทำไมเห็นอาจารย์นั่งอยู่ถึงไม่ทักทาย”ร่างบางยักคิ้วขึ้นลงไปมาให้ร่างสูง พร้อมอมยิ้มเล็กน้อยอย่างมีชัย
“ส...สวัสดีครับอาจารย์”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไม่เต็มใจนักพร้อมก้มโค้งศรีษะให้เล็กน้อยก่อนเหล่ตามองร่างบาง ซึ่งคนตรงหน้ายกแก้วน้ำขึ้นจิบปลายตามองอย่างวางมาด
...ก็ปกติตีบอมเคยทำความเคารพอาจารย์ในโรงเรียนซะที่ไหน
“แม่ พ่ออยู่รึเปล่า”ร่างสูงกระซิบถามคนเป็นแม่ หลังจากหย่อนก้นนั่งข้างๆบุพการี
“ออกไปตรวจงานตั้งแต่เช้าแล้ว สบายใจได้”สองแม่ลูกกระซิบกระซาบกันจนทำให้แขกของบ้านอดจะยื่นหูไปฟังไม่ได้ ร่างสูงอมยิ้มที่แก้มหลังจากได้รับคำตอบที่น่าพอใจ
“เออ...จริงสิวันนี้อาจารย์คงจะมาเยี่ยมบ้านพร้อมรายงานความประพฤติ ไม่ทราบว่าช่วงที่อาจารย์เข้ามาสอนหนังสือคีบอมทำอะไรให้ลำบากใจบ้างรึเปล่าค่ะ”หญิงสาวหันไปเอ่ยถามกับฮยอกแจถึงจุดประสงค์ที่มาในวันนี้
“เฮ้ย!!~~ ผมก็ไม่อยากจะบอกหรอกนะครับแต่ในฐานะที่คีบอมเป็นนักเรียนในห้องของผม ผมเลยจำเป็นต้องเรียนให้คุณทราบถึงพฤติกรรมที่โรงเรียนเขามักจะหลับในคาบเรียนเสมอแถมยังชอบมีเรื่องเตะต่อยกับนักเรียนโรงเรียนอื่นเป็นประจำ”เสียงแจ้วเอ่ยพูดโดยไม่สนใจต่อสายตาของร่างสูงพร้อมตีสีหน้าจริงจัง
“คีบอม!!”เสียงคุณนายคิมเอ่ยเรียกลูกชายคนเดียวด้วยน้ำเสียงแข็ง ร่างสูงสวมกอดผู้เป็นแม่อย่างออดอ้อนทันที จนฮยอกแจแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา
“ยังไม่เลิกหาเรื่องชกต่อยอีกหรือไง”
“เปล่าซะหน่อย ใครบอกให้พวกนั้นมาหาเรื่องก่อนล่ะ”
“อยากให้เรื่องถึงหูพ่อหรือไงน่ะ”
“ผมรู้แม่ไม่บอกพ่อหรอก”ใบหน้าคมเข้มแปลเปลี่ยนเป็นลูกแมวน้อยเชื้องๆ ร่างบางส่ายหัวไปมากับภาพตรงหน้า
‘ที่แท้ก็กลัวพ่อ’
“คุยอะไรกันอยู่เหรอ แล้ววันนี้มีแขกมาบ้านหรือไง”เสียงที่ดังมาจากหน้าห้องรับแขกทำให้ใบหน้าคมเข้มซีดเผือดในทันที ไม่นานเจ้าของเสียงปรากฏขึ้นในตัวห้อง ดวงตาเรียวมองหันมองผู้มาใหม่ รูปร่างสูงสง่าใบหน้าหล่อคมคายไม่มีแม้แต่รอยเหี่ยวย่น ไม่แปลกถ้าฮยอกแจจะคิดว่าคนตรงหน้าต้องเป็นคุณคิม พ่อของคีบอมที่ถอดแบบออกมาได้เหมือนกันแทบจะทุกระเบียบนิ้ว
“สวัสดีครับผม ลีฮยอกแจอาจารย์ที่ปรึกษาของคีบอมครับ”ร่างบางลุกขึ้นยืนแนะนำตัวพร้อมก้มศรีษะลงเล็กน้อย
“สวัสดีครับ เชิญนั่งครับ”ชายร่างภูมิฐานเอ่ยทักทายกลับอย่างสุภาพ ก่อนก้าวเดินแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างๆคุณนายคิม ดวงตาเรียวมองคนทั้งคู่อย่างชื่นชม ก่อนจะชายตามองยังบุคคลที่นั่งอยู่อีกข้างของคุณนายคิมที่ดูจะเรียบร้อยซะเหลือเกินในเวลานี้
“คุณคงจะเพิ่งเข้ามาสอนใช่ไหมครับ”คุณคิมเอ่ยถามกับร่างบาง
“ใช่ครับ”
“ไม่ทราบว่าพฤติกรรมของลูกชายผมเป็นยังไงบ้าง”เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถาม ตาเรียวเหลือบมองทางคีบอมที่กำลังส่งสายตาอ้อนวอนมาทางตน เรียวปากยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนเอ่ยตอบ
“พ่อครับนี้ก็เริ่มจะเย็นแล้วอาจารย์คงต้องรีบกลับบ้านแล้วล่ะ เมื่อกี้อาจารย์ฮยอกแจรายงานความประพฤติกับแม่หมดแล้ว”ก่อนที่ร่างบางจะได้เอ่ยตอบ คีบอมกลับสวนขึ้นมาในทันที
“แต่ฉันเพิ่งจะมา”ร่างบางเอ่ยแย้ง
“จริงสินี่ก็ใกล้จะเย็นแล้ว ไม่ทราบว่าอาจารย์รีบไปกลับรึเปล่าครับ”
“ไม่ครับวันนี้ผมว่างทั้งวัน”ฮยอกแจเหลือบมองคีบอมที่กำลังถลึงตามองเขา แต่ร่างบางก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจเพราะนี่คือเวลาที่จะแก้เผ็ดร่างสูง
“งั้นเชิญอยู่ทางอาหารเย็นด้วยกันนะครับจะได้พูดคุยกันถึงเรื่องความประพฤติของคีบอมไปด้วย”
“ครับ”เอ่ยรับคำพร้อมฉีกยิ้มหวาน ทำให้ร่างสูงอดจะเหงือตกไม่ได้
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างสบายๆทั้งที่ฮยอกแจเพิ่งจะมาที่นี้เป็นครั้งแรกแต่ทุกคนทำตัวเป็นกันเองอย่างมากต่อร่างบาง จะมีก็แต่เจ้าของบ้านอีกคนเนี้ยแหละ ทำหน้าอย่างกับถ่ายไม่ออกมาเป็นแรมปี
“เอ่อ...จริงสิครับเมื่อกี้เราค้างกันถึงเรื่องพฤติกรรมของคีบอมที่โรงเรียน เชิญอาจารย์รายงานมาได้เลยครับ”ทันทีที่คุณคิมเอ่ยจบ สองแม่ลูกที่ดูเหมือนพี่น้องกันซะมากกว่า ต่างจดจ้องมายังร่างบางพร้อมสายตาที่อ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก
“เอิ่ม...ก็คีบอมเป็นเด็กเรียบร้อยครับ สนใจเอาใจใส่ต่อการเรียนมีมารยาทม๊ากกกกกมากไม่เคยโดดเรียนแม้แต่ครั้งเดียว”ฮยอกแจกัดฟันพูดถึงในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ไม่เข้าใจเอาซะเลยทำไมต้องเข้าข้างคีบอมแต่ในเมื่อสองแม่ลูกที่นั่งตรงข้ามเขาดูจะกลัวซะเหลือเกินหากเขาพูดความจริงออกไปก็แสดงว่าคุณคิมต้องเข้มงวดกับลูกชายคนนี้มากๆแน่
“งั้นหรอครับ แล้วเรื่องชกต่อยมีบ้างไหมครับ”
“
ก็ผมก็เห็นเขาเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูงคงไม่มีเรื่องชกต่อยหรอกครับ”
“อืม....เมื่อก่อนอาจารย์ที่ปรึกษามักจะโทรมาแจ้งให้ทราบอยู่บ่อยๆว่าคี
บอมมีเรื่องชกต่อยกับเขาไปทั่วแล้วยังทำให้ตัวอาจารย์เองปวดหัวไปตามๆกัน ถ้ายังไงผมคงต้องรบกวนอาจารย์แล้วล่ะครับ ผมอนุญาติให้อาจารย์สั่งสอนเขาได้เต็มที่ถ้าเขาทำผิด”ปากเรียวฉีกยิ้มกว้างทันที พร้อมหันมองคนฝั่งตรงข้ามคีบอมยังคงทำตัวเรียบร้อยเหมือนผ้าที่พับไว้เช่นเดิม
“ผมเกรงว่าผมคงจะไม่ได้ทำโทษหรือสั่งสอนอะไรเขาหรอกครับ เขาออกจะเป็นเด็กที่เรียบร้อยขนาดนี้ แต่ถ้ามีโอกาสผมคงไม่พลาดแน่”ร่างบางเอ่ยพูดพร้อมรอยยิ้มหากแต่สงครามทางสายตากำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ
หลังจากอาหารเย็นผ่านไปด้วยดีคีบอมได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้ออกมาส่งฮยอกแจที่หน้าบ้าน ดวงตาคมกริบมองแผ่นหลังบางที่กำลังจะก้าวขึ้นรถ ขายาวสาวเท้าเดินเข้าไปชิดที่คนตัวเล็กกว่า มือหนาจับรั้งเข้าที่ข้อมือบางออกแรงฉุดกระชากพาไปยังยามาฮ่าฟีโน่ที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
“แล้วรถฉันล่ะ”ร่างบางเอ่ยถามเมื่อคีบอมสตาร์ทรถรอให้เขาขึ้นซ้อนท้าย
“เดี๋ยวมีคนขับเอาไปไว้ให้ที่คอนโด”ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธก็มีหมวกกันน๊อคสวมเข้าที่หัวกลมด้วยมือของคนตรงหน้า
*****************************
ยามาฮ่าฟีโน่สีหวานแหววที่ขัดกับหน้าตาของเจ้าของ ถูกเทียบจอดอีกครั้งที่ริมแม่น้ำฮันดวงตาคมทอดมองยังแผ่นหลังบางที่กำลังหันหน้าเข้าหาแม่น้ำรับสายลมที่เย็นสบาย
“นี่!!”เสียงใสที่ลอยมาตามลมทำให้ร่างสูงออกจะภวังค์ ดวงตาคมเข้มสบเข้ากับดวงตาเรียวเล็ก
“มีอะไร”
“ฉันเห็นนายเงียบตั้งแต่มาแล้วนะ มีอะไรเหรอ”ร่างบางเอ่ยถามพร้อมกับก้าวเดินมาทางคีบอม
“ฮยอกแจ...นายคบกับฉันได้ไหม”
______________________________
เอาน้ำจิ้มๆมาให้อ่านก่อนนะ เนื้อหาในรูปเล่มอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
แล้ว อาจารย์ฮยอกแจจะตอบว่ายังไง ติดตามในรูปเล่มนะค่ะ ^^
ปล.เนื่องจากยังไม่ได้ตรวจคำผิด ต้องขอโทษมา ณ.ที่นี้ด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น