คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 10 [Lunatic] : ละเมอ
####################################################################
บทที่ 10 [Lunatic] : ละเมอ
“...อืม เข้าใจแล้ว...อืม...ทำงานได้ดีมาก แค่นี้นะ”
ร่างสูงค่อยๆลดมือลง หลังจากที่ยกขึ้นทาบทับใบหูจิ้งจอกเป็นนานสองนาน เพื่อติดต่อสั่งการกับผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วอาณาจักร
“ทางข้างนอกนั่น จัดการปิดข่าวเรียบร้อยแล้วล่ะ”ไคน์หันมาบอกฟรอสมอนท์
“โล่งอกไปที”กีลเลียสกลับดูเดือดเนื้อร้อนใจยิ่งกว่าตัวฟรอสมอนท์เองเสียอีก
“...แต่ถึงจะปิดข่าวไว้ได้...พวกชาวเมืองก็กดดันข้าน่าดูเลย”ไคน์ทำหูลู่หางตก “...พวกเขาบอกว่า ไหนๆก็ไหนๆ มันก็ต้องมีค่าปิดปาก...”
“แลกเปลี่ยนกับอะไรล่ะ”ฟรอสมอนท์เอ่ยถาม
“พวกเขาอยากพบคุณน่ะ”ไคน์ว่า “...ประมาณว่า จะยอมปิดปากเงียบให้ก็ได้ แต่ไหนๆก็รู้แล้ว ก็อยากจะรู้ให้ละเอียดแล้วก็ลึกมากพอน่ะน้า~”
“แน่ใจรึเปล่าว่าจะปิดเงียบได้จริงน่ะ”กีลเลียสถาม
“พวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งข้าหรอก ในลูนาติคแห่งนี้...ข้าคือกฎหมาย”ไคน์ยิ้มอย่างมั่นใจ
“......”เชดด์วางมือลงบนไหล่ของฟรอสมอนท์ พร้อมกับพยักหน้าให้น้อยๆเมื่อฟรอสมอนท์หันมา
......คำพูดของไคน์...เชื่อถือได้......
“...เข้าใจแล้ว”ฟรอสมอนท์ถอนหายใจ “...จะอย่างไร ท่านเดเมียสกับท่านคลาริสก็ไม่ได้สั่งห้ามข้า...ไม่ถือว่าขัดคำสั่ง”
“ถ้างั้น เพื่อความปลอดภัย...เชดด์ เจ้าไปกับเทพฟรอสมอนท์แล้วกัน”ไคน์สรุป
“......”เชดด์พยักหน้ารับ ร่างสูงของเทพแห่งเงาก้าวเดินนำ ทำให้ฟรอสมอนท์ต้องรีบวิ่งตามไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะช่วงความสูงที่ต่างกันมากทำให้การก้าวเดินของเชดด์เรียกว่าเร็วเกินไปสำหรับฟรอสมอนท์จริงๆ แต่เทพแห่งน้ำแข็งก็ยังไม่วางใจ หันกลับมามองกีลเลียสที่ยังทำหน้าตามึนๆอยู่
“กีลเลียส...ลุกได้แล้ว”
“ไม่เอาล่ะครับ...พวกเขาไม่ได้สนใจผมอยู่แล้ว ที่เขาสนใจคือ “เทพแห่งตำนานอันว่างเปล่า” อย่างคุณต่างหาก...เพราะงั้นตัวหลักคือคุณนะ คุณฟรอสมอนท์”กีลเลียสส่ายหน้า ร่างบางยิ้มอย่างซุกซนก่อนจะกระโดดลงไปกลิ้งกับโซฟายาวตัวนุ่ม ทำตัวเป็นแมวจอมซนที่กำลังสำรวจบ้านใหม่
“ไปสิครับ แหม...คุณไม่อยากไปกับเทพแห่งเงาแค่สองต่อสองเหรอ?”กีลเลียสเร่ง
“ไม่อยาก”ทั้งเชดด์และฟรอสมอนท์ต่างตอบพร้อมเพรียงกัน
“อ้าว! ไหงงั้น?”กีลเลียสอ้าปากค้าง
“คิก...คิกๆ...เชดด์เขามีห่วงคล้องคอแล้วน่า”ไคน์หัวเราะร่วน “แต่เอ...เขาคล้องเจ้าหรือเจ้าเป็นคนไปคล้องเขากันนะ? ท่าทางว่าฟิวเรียสจะไม่ค่อยเห็นชอบเท่าไหร่เสียด้วยสิ”
“......”เชดด์ยักไหล่ไม่แยแส
“อ๊ะ รอด้วย”ฟรอสมอนท์รีบตามเชดด์ไป หากแต่ก็ยังมิวายหันกลับมาคาดโทษเอาไว้
“กีลเลียส! ก่อนที่ข้าจะกลับมา...ถ้าเจ้ากล้าหนีไปให้ข้าหาตัวไม่เจอล่ะก็ น่าดู!”
ตึกๆๆๆ
“...พวกเขาไปแล้ว”ไคน์หันกลับมาหากีลเลียส
“...ขอบใจนะ”กีลเลียสถอนหายใจ
“เพราะงั้น...ก็เลิกทำตัวฝืนสภาพแล้วนอนลงไปเสียทีจะได้มั๊ย”
“...นั่นสินะ”กีลเลียสยิ้มบางๆ
ตุบ!
“ไม่ไหวแล้วล่ะ...เหนื่อย...จนไม่อยากจะขยับตัวเลย”กีลเลียสครางเสียงอ่อน
“ได้ยินมาว่าอดีตหัวหน้าหน่วยโลหสนธยาแห่งเซนต์ นาวิสเชี่ยวชาญการใช้ดาบมาก...วันนี้เห็นกับตากลับรู้สึกเสียดายจริงๆ”ไคน์เปรย จิ้งจอกหนุ่มหันกลับมามองกีลเลียส
“เสียดายอะไรล่ะ”กีลเลียสย้อนถาม
“เสียดายที่พลังกายของเจ้าในตอนนี้ไม่เพียงพอในการใช้ดาบอีกต่อไปแล้ว”ไคน์พูดตรงๆโดยไม่อ้อมค้อมอีก “ไม่แค่เพลงดาบเพลงกระบี่...แต่พลังเวทย์ของเจ้าก็ลดลงจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้ครอบครองอาวุธเทพด้วยซ้ำ”
“แทบใจดำจังนะ”กีลเลียสครางอ่อยๆ “...น่ะ...ยังไง...”
ความอ่อนล้าค่อยๆทำให้ดวงตาสีมรกตหนักอึ้ง กีลเลียสงึมงำเบาๆก็รู้สึกว่าใช้แรงกายไปมากแล้ว
“...ยังไง...มันก็...แค่...ของที่ไม่ใช่...ของชั้นอยู่...ดี”
“ว่าไงนะ?”
ฟี้...
“...กีลเลียส โคลว์?”ไคน์ขมวดคิ้ว แต่ก็รับรู้ได้ทันทีว่าร่างบางนั้นหลับไปแล้ว...แถมยังไม่ใช่การหลับแบบแกล้งๆด้วย แต่เป็นการหลับลึกเสียจนต่อให้เอาน้ำมาสาดก็คงไม่ยอมตื่นด้วยซ้ำ
......ผิดปรกติเกินไปแล้ว......ไคน์ถอนหายใจ
......สภาพแบบนี้...ทำไมถึงยังฝืนตัวเองอยู่อีก......
“นี่มันสภาพของคนใกล้ตายชัดๆ”
......นี่กลับมาในฝันแสนสนุกอีกแล้วเหรอเนี่ย......ร่างบางหัวเราะคิกคัก เพราะเป็นไปตามที่คาดเดาจริงๆว่าต้องกลับมาที่นี่อีกแน่ๆ
‘เจ้าอีกแล้วหรือ?’
......ทักด้วยคำอื่นหน่อยสิ...แหม......
......ว่าแต่...ครั้งนี้นายจะบอกได้รึยังว่านายคือใครกันแน่น่ะ!......กีลเลียสรีบทวงถามก่อน
‘......’
......นี่!!!......
‘ข้าว่า...ข้าไม่ควรบอกนามของข้าให้แก่เจ้า’
......เอ๋! ทำไมล่ะ!......
‘พอข้าจะบอกนามตัวเองทีไร มักมีเสียงรบกวน หรืออะไรซักอย่างรบกวนให้เจ้าตื่นอยู่ดีราวกับเป็นคำสาป ไม่คิดว่าแปลกบ้างรึอย่างไร’
......อาจจะแค่ความบังเอิญก็ได้!...ลองดูสิ!......
‘...ดื้อเหมือนแต่ก่อนไม่มีผิด’
......แต่ก่อน? พูดถึงอะไรน่ะ?......
‘เปล่าหรอก...เดี๋ยวก่อน’
แม้ว่ารอบด้านจะมืดสนิท แม้ว่ากีลเลียสจะไม่อาจเห็นอีกฝ่ายได้ แต่เจ้าของสถานที่และเสียงปริศนานี้กลับสามารถ “เห็น” ร่างบางได้อย่างชัดเจน
‘รอยเลือดกับรอยไหม้พวกนั้นมันอะไรกัน!?!’
......เลือด? อ๋า!!!......
......ขนาดในฝันยังเห็นด้วยเหรอ! ไม่จริงน่า!!!......
กีลเลียสลองยกแขนตนเองขึ้นมาดู แม้จะมีความรู้สึกว่ายกแขนตัวเองขึ้น แต่ดวงตากลับมองไม่เห็น ถึงขนาดที่ว่าลองเอามือลูบแก้มตัวเอง เอามาจ่อหน้าก็ยังมองไม่เห็น ราวกับถูกปิดตาเอาไว้มากกว่าจะเป็นการตกอยู่ในความมืดธรรมดาเสียแล้ว
‘เจ้าไปก่อเรื่องอะไรอีกแล้ว’ เสียงนั้นเข้มขึ้นกะทันหันจนกีลเลียสสะดุ้งเฮือก ก่อนที่จะรับรู้ได้ว่า...มีมือหนาของใครบางคนคว้าจับข้อมือของตนเอาไว้
......ทั้งๆที่รู้สึก แต่กลับมองไม่เห็น...แปลกจัง......กีลเลียสพึมพำ แต่ในความฝันเช่นนี้อีกฝ่ายย่อมต้องได้ยิน
‘นี่มัน...บาดเจ็บภายใน? เจ้าไปทำอะไรมา!’
......โห...รู้ได้ทันทีเลยเหรอเนี่ย......
‘อย่ามาทำบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนเรื่องนะ! ตอบ!’ อีกฝ่ายพูดด้วยเสียงที่ราวกับโกรธจัด แต่มืออีกข้างที่สัมผัสตนเองกลับแผ่วเบา...ราวกับกลัวจะทำให้เจ็บไปกว่าเดิม
......อ่า...คือ...มีเรื่องนิดหน่อยเองน่ะ แหะๆๆๆ......
......แต่ไม่เป็นไรหรอก! ชั้นมีเรื่องทุกวันจนชินแล้วล่ะ! บาดเจ็บแค่นี้เดี๋ยวเดียวก็หาย!!!......
‘......’
......นะ เชื่อชั้นสิ......กีลเลียสอ้อน ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปอ้อนกับคนในความฝัน...ที่อย่างไรก็ยังคงเป็นแค่ความฝันที่ไม่มีทางมีตัวตนอยู่จริงอยู่แล้ว
‘...ไม่อยากจะเชื่อ...ซักนิด’ น้ำเสียงของเขามีแววเจ็บปวด
......หา?......
‘ทั้งๆที่รู้...ว่าเจ้าไม่ใช่เขาแท้ๆ...กีลเลียส โคลว์’
......หา???......
‘แต่คล้ายกันมากจริงๆ...เจ้า...กับเขาคนนั้น’ เสียงนั้นทอดถอนใจ ‘เมื่อเจ้าลืมตาตื่น...ขอให้มันจงเป็นเพียงแค่ความฝัน...จำเอาไว้เสียล่ะ’
......เดี๋ยวก่อน! จะให้ชั้นตื่นแล้วเหรอ! แล้วชื่อของนาย......
‘อย่าติดอยู่ในความฝันนานเกินไป...ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจอ่อนแอจนตาย...กีลเลียส’
......เดี๋ยวก่อนสิ! ว่าแต่ชั้น! นายเองก็เปลี่ยนเรื่องพอๆกันนั่นแหละ!!!......
‘เจ้ายังอยากจะทดลองอีกหรือ?’
......ก็บอกแล้วไงว่าสองครั้งที่ผ่านมามันต้องบังเอิญแน่ๆ...ครั้งนี้นายก็ลองบอกชื่อมาสิ!......
‘...เด็กดื้อ...’ เสียงนั้นมีแววเหนื่อยใจ ‘ก็ได้...’
......เย้!......
‘ข้ามีนามว่า...’
“กีลเลียส โคลว์!!!”
ปึง!!!
เสียงเซอร์ราวด์ที่มาพร้อมแรงกระแทกอย่างรุนแรง ทำเอาคนที่ไม่อยากตื่นก็ต้องตื่นขึ้นมาจนได้
......บ้าจริง! จะบังเอิญอะไรก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยได้มั๊ย!!!......กีลเลียสหัวเสียอย่างหนัก
ทั้งๆที่อยากจะว๊ากให้ลั่น แต่พอเห็นสีหน้าคนปลุกเท่านั้นล่ะ กีลเลียสก็ต้องขมวดคิ้วทันที
“...ก...เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”กีลเลียสถามตะกุกตะกัก เมื่อเห็นว่าทั้งเชดด์ ทั้งไคน์ หรือแม้แต่ตัวคนปลุกอย่างฟรอสมอนท์กลับจ้องเขาเสียตาไม่กระพริบ
“ปลอดภัยแล้วล่ะ...เฉพาะตอนนี้นะ”ไคน์เม้มปาก
“เจ้าบ้าเอ๊ย!”ฟรอสมอนท์เงื้อมือขึ้นสูง
โป๊ก!
“โอ๊ย! ทำไมอยู่ๆมาเขกหัวกันได้ล่ะ!!!”กีลเลียสประท้วง
“ทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงแค่ไหน รู้ตัวบ้างมั๊ย!”ฟรอสมอนท์ตวาด ก่อนจะลดเสียงลงจนกลายเป็นเสียงสั่นเครือ “...คิดว่าสภาพเจ้าเมื่อครู่นี้เป็นยังไงกัน...”
“เกิดอะไรขึ้น...ไม่เห็นเข้าใจเลย”กีลเลียสงงวูบ เขารีบหันไปหาเชดด์และไคน์เพื่อขอคำอธิบาย
“เจ้าหลับไป...ทีแรกข้าก็คิดว่าแค่พักผ่อนเพราะความอ่อนเพลียเฉยๆ...แต่...แต่อยู่ๆเจ้าก็ร้องเสียงดังลั่นขึ้นมา”
“ร้อง? ผมเนี่ยนะ?”กีลเลียสขมวดคิ้ว เขาจำไม่เห็นได้เลยว่าไปร้องลั่นอะไรเอาตอนไหน จะบอกว่าละเมอ...ในฝันนั่นเขาก็ไม่ได้ร้องอะไรด้วย
“ใช่ ร้องเหมือน...เหมือนเจ็บปวดมากๆ”ฟรอสมอนท์พูดเสียงสั่น “...ทีแรกก็คิดว่าเจ้าฝันร้าย...แต่...แต่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น”
“ดูสภาพรอบๆสิ”เชดด์ผายมือไปรอบห้อง ซึ่งห้องพักเจ้าเมืองที่เคยสวยงามกลับยับเยินไม่มีชิ้นดี รอยดาบกรีดทำลายม่านดิ้นทองจนขาดเป็นเส้นทะแยงมุมเกินครึ่งของความยาวเดิม โซฟารับแขกก็ถูกฟันขาดสองซีก ชั้นหนังสือแหว่งเป็นรอยระเบิดไปมุมหนึ่ง ซึ่งต้นเหตุนั้นไม่ได้อยู่ไหนไกลเลย...
......แต่เป็นดาบทองคำลิเวียธารในมือของเขาเอง......
“...อะ...อะไรกัน...เนี่ย”กีลเลียสไม่เข้าใจเลย
......เกิดอะไรขึ้น...ทำไม......
ฟิ้ว...ฟิ้ว...
ภายนอกหน้าต่าง เหนือขึ้นไปยังชั้นบนสุดของระฆังกลางเมือง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกำลังมองพวกเขาจากระยะไกล...ที่ไกลเกินกว่าสายตามนุษย์จะมองเห็นได้แน่ๆ
“ไม่ได้นะ กีล”เขาหัวเราะเบาๆ นามที่ใช้ได้เฉพาะคนรู้จักคุ้นเคยในระดับหนึ่งถูกเอ่ยออกมา
......ยังไม่ถึงเวลา...ที่จะรับรู้ถึง “นาม” ของเขาผู้นั้น......
“...อย่าทำให้ “กฎ” ต้องถูกทำลายสิ”ชาเรเพียร์ซหัวเราะเบาๆ เส้นผมสีเงินสว่างสะบัดพลิ้วตามแรงลม แขนสองข้างกางออกราวกับกำลังสุนทรีย์กับการยืนรับลมเล่น
“กว่าจะทำให้เขาตกลงสู่ใยแมงมุม...ชั้นถึงกับลงทุนออกหน้าเองเชียวนะ...เพราะงั้น...ก็อย่าเพิ่มทำให้มันหมดสนุกนักสิ”
......เพื่อชีวิตที่เหลืออยู่ของนายเอง......
......เศษเสี้ยวแห่งสล็อท...ที่ไม่อาจเป็นสล็อทได้......
“ชั้นคนนี้ต่างหาก ที่เป็น “สล็อท” ไม่ใช่นายซะหน่อย...กีล”เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบนิ่ง
......เพราะงั้น...เศษเสี้ยวของสล็อทที่อยู่กับนาย...ซักวัน...มันก็ต้องกลับมาหาเจ้าของ......
......และก็ใกล้จะถึงวันที่ว่านั้นเต็มทนแล้ว......
“เพราะงั้น...ก็จงใช้ชีวิตในฐานะของ “กีลเลียส โคลว์” ต่อไปเถอะกีล...จงอย่าได้...อย่าได้ก้าวเข้ามาเป็นสล็อทคนที่สองเลย”ชาเรเพียร์ซยื่นมือไปข้างหน้าคล้ายจะคว้าจับบางสิ่ง แต่ก็ปล่อยมือไป...
......การให้นายได้พบกับ “เขาคนนั้น” ถือเป็น...ความสงสารจากชั้น......
“...นายไม่ใช่สล็อท...และไม่มีทางเป็นสล็อทได้...จงลืมตาตื่นและยอมรับความจริงได้แล้ว”
ตึก...
“ที่ทำทุกอย่าง...ก็เพราะแบบนั้นสินะ ชาเร”
“อย่าเรียกด้วยชื่อนั้นสิ...นั่นมันของสงวนนะ”ชาเรเพียร์ซยิ้มบางๆ ไม่ได้หยี่ระซักนิดที่มีคนข้ามาประชิดตัวเขาได้...แถมยังมีมีดสั้นจ่อเข้าที่หลังของตนเองแล้วด้วย
“...แล้ว...ตามหาชั้นทำไมล่ะ...เฮอร์เมส”
แคว่ก...
“อย่ายั่วโมโหกันจะดีกว่านะ สล็อท”เสียงจากคนที่จ่อมีดอยู่ด้านหลังหงุดหงิดสุดๆ แถมเพราะเรียกชื่อแบบนั้น...ทำให้เขาเผลอแทงมีดลงไปจนตัดผ้าคลุมขาดออกเสียแล้ว
“กีลเลียส โคลว์คือเศษเสี้ยวเล็กๆเท่านั้น...เศษเสี้ยวที่มีหน้าที่วางแผนการกำจัดเคออส ไม่มีความจำเป็นต้องลงสนามต่อสู้หรือใช้แรงงานใดๆ ใช้เพียงมันสมอง...ดังนั้นข้าจึงไม่คิดว่านั่นจะเป็นเศษเสี้ยวหลัก”ผู้ถูกเรียกด้วยนามในอดีตเอ่ย “...และข้ารู้ด้วยว่าสล็อทไม่มีทางทอดทิ้งไพรด์...หากกีลเลียส โคลว์ไม่ได้มีหน้าที่ในการคุ้มครองไพรด์...งั้นก็เหลือเพียงเจ้า”
“...จะตามหาท่านไพรด์หรือ...คงยากอยู่นะ”ชาเรเพียร์ซหัวเราะ “...ก่อนที่จะทำแบบนั้น...ลองถามตัวเองดูก่อนเป็นไง...ว่าทำไมต้องไปเข้าข้างบลัดด์วอร์ที่ประกาศชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับวราทต์ด้วยล่ะ”
“...อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”เขาว่า “...ที่ข้าสนในตอนนี้ น่าจะเป็นเจ้ามากกว่า สล็อท”
“ทำไม”
“เจ้า...คิดจะทำอะไรกับเศษเสี้ยวนั่น...คิดจะทำอะไรกับกีลเลียส โคลว์...ถึงขนาดแทรกแซงจิตใต้สำนึกและควบคุมร่างกายของเขา...ยั่วยุให้พวกนั้นกลับมา”
“สมกับเป็นเงาของวราทต์ ผู้แข็งแกร่งที่สุดในพวกเรา...มองปราดเดียวก็ออกเลยนะ”ชาเรเพียร์ซหัวเราะ
“ตอบ!”
“ก็แค่ว่า...ของที่ไม่มีประโยชน์ต่อแผนการ แถมยังเป็นตัวถ่วงคอยขัดแข้งขัดขา ตัวหมากที่ใช้การไม่ได้แล้ว...คิดว่าสล็อทจะทำอะไรกับมันต่อไปล่ะ?”
####################################################################
ความคิดเห็น