ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ SF ] wonhyuk as always

    ลำดับตอนที่ #2 : 1st short fiction : BLANK SPACE #2 end

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 58


    BLANK SPACE #2

                “พี่ฮยอกแจครับ คบกันไหม

                “หนึ่งเดือนเอง แน่ใจเหรอยิ้มแบบติดตลกส่งไปให้

                “แน่ใจครับ ผมชอบพี่ ชอบอยู่กับพี่ ชอบคุยกับพี่ซีวอนเม้มปากจนเห็นลักยิ้ม เอามือจับชายเสื้อเชิ้ตตัวเก่ง

                “เคยได้ยินคนพูดเรื่องพี่มาบ้างไหมก็บอกแล้วว่าเขาคบคนมาเยอะ ไม่ได้เจ้าชู้ ฮยอกแจไม่ชอบคนเจ้าชู้ แค่คนที่มาคบรับนิสัยเขาไม่ได้เฉยๆ 

    เคยครับ มินโฮเพื่อนผมบอกว่าเคยคบกับพี่ตอนอยู่ไฮสคูล

     

    เขาบอกว่าพี่เป็นไงบ้างล่ะเขาถามทุกคนที่เคยคบกับเขาอย่างนี้ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกันก่อน

                “เขาก็บอกว่าพี่เยอะ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ขี้วีน เหวี่ยง เอาแต่ใจ....ครับคุณชายซีวอนเงยหน้าขึ้นพูดพร้อมสบตาเขา

                “แล้วนายจะรับได้ใช่ไหมฮยอกแจกอดอก ยิ้มมุมปากนิดๆ

                “ผมชอบพี่ครับ

                “พี่เตือนนายแล้วนะ ถือว่ารับรู้” 

    ครับ แล้วคำตอบคือ...?” 

                “พูดมาขนาดนี้ก็ต้องตกลงดิ ฮ่าๆๆ คุณชายของฮยอกแจ(อันนี้ชอบมาก)พอได้ยินทำท่าอ้ำๆอึ้งๆ เหมือนลังเลอะไรสักอย่างจนฮยอกแจต้องถามว่าเอาอะไรอีกไหม

                “กอดได้ไหมครับ

                ฮยอกแจหัวเราะเบาๆในลำคอ กางแขนออกเป็นเชิงว่าเข้ามาสิ ซีวอนก็พุ่งเข้ามากอดแบบแน่นๆ จนขาฮยอกแจลอยขึ้นมานิดหนึ่ง

                “ขอบคุณครับพี่ ผมชอบพี่นะครับ ชอบมาก

                “ฉันก็ชอบนาย

     

     

     

    สามเดือนต่อมา

               

                “ซีวอน” ฮยอกแจที่นั่งดูรายการที่ทางสถานีเอามาฉายเนื่องในโอกาสวันหยุดยาวเก้าวันเรียกซีวอนที่ถ่ายรูปบั๊กซี่กับช็อคโก้ในชุดวู้ดดี้ด่วยกล้องโปรอยู่ตรงมุมห้อง เห็นว่าจะเอาไปแปะบอร์ดรวมกับรูปของเขาและซีวอนในห้องนอนของเขา

                “ครับฮยอกแจ” เดินมาพร้อมกับกล้องในมือที่ถ่ายรูปฮยอกแจตอนกินป๊อกกี้ชาเขียวไปรูปหนึ่ง

                “มานั่งนี่ดิ้” ซีวอนยิ้มๆวางกล้องบนโต๊ะหน้าโทรทัศน์ คบกันมาสามเดือน ซีวอนก็ยังรู้สึกว่าฮยอกแจยังน่ารักเหมือนเดิม เขาเริ่มตัดคำว่าพี่ทิ้งตอนประมาณเดือนที่สองเพราะฮยอกแจบอกว่ามันดูสนิทกันดี

                “ว่าไงครับ” เอนหัวลงบนบ่าคนตัวเล็กกว่า

                “สองสามวันก่อน ฉันไปเดินรอนายหน้าคณะอะ มีคนพูดกันว่านายไปเที่ยวกับดาวบริหารเหรอ” กัดป๊อกกี้แท่งใหม่ไปด้วย

                “วันไหนครับ”

                “วันที่นายบอกว่ามีควิซตอนเช้าอะ”

                “อ๋อวันนั้น เซมีรถของบ้านเสียครับ เธอนัดกับเพื่อนคณะอื่นไว้ แล้วผมทำข้อสอบเสร็จหลังเธอพอดีก็เลยไปส่งให้ครับ เห็นเธอทำหน้าจะร้องไห้” จูบลงเบาๆที่แก้มขาวหลังจากพูดเสร็จ ฮยอกแจเป็นคนอ่านง่าย ที่มินโฮบอกมาทั้งหมด เขาว่ามันก็จริง ไม่เถียง

                อยู่กันมานานพอสมควร ซีวอนก็รู้ว่าฮยอกแจชอบให้หอมแก้ม มันทำให้ฮยอกแจรู้สึกน่ารัก ฮยอกแจชอบให้ตามใจ แค่อย่าเถียง ฮยอกแจขี้หึง ก็แค่ต้องอธิบายให้ชัดเจน เน้นย้ำให้ฮยอกแจเห็นว่ารัก ว่าใส่ใจ (เอาจริง ซีวอนก็ชอบให้ฮยอกแจหึงแหละ ดูฮยอกแจก็ใส่ใจเขาเหมือนกัน)

                “แล้วทำไมต้องซีวอนอ้ะ เซมีไม่มีเพื่อนอ่อ” มาละ ปากยู่ๆ บางทีก็ชอบแกล้งให้ฮยอกแจงอนนิดๆเหมือนกัน มันน่าจูบ

                จุ้บ!

                “งั้นวันหลังโทรขอฮยอกแจก่อนเลยดีไหม” เอาปากแตะลงบนปากยู่ๆนั่นหนักๆแล้วค่อยเสนอทางเลือก

                “หื้อ ส่งข้อความมานะ แล้วจะไปก็ไป อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าอยู่ไหน” เสียงหื้อ นี่เสียงตอนซีวอนเอาปากออก

                “โอเคครับ พรุ่งนี้ไปเที่ยวป้ะ”

                “เที่ยวไหน” หันหน้าเข้าหาซีวอนแล้วกัดป๊อกกี้อีกำหนึ่ง

                “ตามใจเลย รวมพรุ่งนี้ก็เหลืออีกห้าวันแหน่ะ มีงานต้องทำอะไรหรือเปล่าครับ”

                “เสร็จหมดแล้ว จะอยู่กับซีวอนทั้งวันเลย” ชูสองแขนจนสุดแล้วทุ่มตัวลงทับซีวอนที่ปล่อยตัวเอนลงตามน้ำหนักของคนตัวเล็ก

                “ไปหาคุณพ่อคุณแม่ฮยอกแจไหม ตอนนี้ท่านอยู่อังกฤษใช่ไหมครับ”

                “ไม่เอาอะ ขี้เกียจนั่งเครื่อง เมื่อย เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็กลับแล้วมั้ง”

                “ไปเดินห้างไหมครับ”

                “ก็ได้ จะดูหนัง” เอาป๊อกกี้ที่เหลืองครึ่งแท่งยัดเข้าปากซีวอนแล้วลุกไปกินน้ำที่ตู้เย็นแทน

                “งั้นตอนเช้าเอาบั๊กซี่กับช็อคโก้ไปฝากจีวอนก่อนนะครับ” หยิบกล้องบนโต๊ะมาถ่ายตอนฮยอกแจกินน้ำไปอีกรูป

                “ถ่ายอยู่นั่นแหละ เมมเต็มแล้ว” พูดอย่างนั้นแต่ก็ชูสองนิ้วให้กล้องอยู่ดีนั่นแหละอี ฮยอกแจ

     

     

                “ดูหนังผีดีป้ะ” เอานิ้วชี้ข้างซ้ายจิ้มๆคาง แขนข้างขวาคล้องแขนซีวอนเอาไว้

                “ไม่ดูหนังบู๊เหรอครับ ชอบนางเอกคนนี้ไม่ใช่เหรอ”

                “ไม่เอาอ้ะ ไม่ชอบขี้หน้าพระเอก งั้นดูเรื่องนี้ ไม่บู๊มาก สืบสวนๆ”

                “โอเคครับ ที่นั่งฮันนีมูน ป๊อปคอร์นรสชีสสองถัง น้ำแป๊ปซี่เหมือนเดิมนะครับ” พากันเดินไปช่องขายตั๋ว ฮยอกแจชอบนั่งทีนั่งฮันนีมูนเพราะฮยอกแจขี้หนาว ตั้งซุกๆกับซีวอนเอาไว้ ซีวอนเคยถามว่าก่อนจะคบกันนั่งยังไง ฮยอกแจบอกว่าพกผ้าห่มติดรถเอาไว้ตลอด

                “อ้าว ซีวอน” เจ้าของชื่อกับคนข้างๆหันไปมองต้นเสียง ก็เจอกับคิม เซมีที่ต่อแถวอยู่ข้างหลังพวกเขา

                “หวัดดี เซมี” ยิ้มให้พอเป็นพิธีแล้วหันไปยิ้มให้ฮยอกแจที่จิกเล็บลงบนแขนเขา คนอื่นอาจจะโกรธแต่ซีวอนไม่คิดอย่างนั้น ตอนแรกมือฮยอกแจอยู่ตรงท้องแขนเขาที่มันไม่มีแขนเสื้อ แต่นี่ฮยอกแจเลื่อนมือมาตรงที่ปลายแขนเสื้อถูกพับเป็นทบอยู่ ฮยอกแจอาจจะโกรธ แต่ก็ยังใส่ใจ

                ฮยอกแจเหมือนฝันกลางวันสำหรับซีวอน ดีเกินกว่าที่คาดคิด

                “เข้าโรงเลยไหม ไปดูตัวอย่างหนังกัน ฮยอกแจชอบนี่นา” ดึงแขนออกจากแขนฮยอกแจ แล้วเอามือไปจับมือบางแทน กระชับแน่นๆแล้วเดินเข้าโรงไป

     

                 พอเข้าโรงปุ๊ปฮยอกแจก็จับแขนซีวอนมาโอบตัวเองเอาไว้ ขาสองข้างยกขึ้นมาวางบนตักซีวอนทันที ฮยอกแจขี้หนาวมากจริงๆ ดูตัวอย่างหนังได้ยี่สิบนาที ตัวหนังก็มาฮยอกแจยกมือสองข้างที่ซุกๆไว้ตรงช่องว่างระหว่างหลังซีวอนกับพนักที่นั่ง(ความจริงไม่มีแต่ฮยอกแจเอามือเบียดๆเข้าไป ซีวอนจะเอาหลังออกก็ไม่ให้ บอกให้นั่งทับมามันอุ่นๆเย็นๆนิดๆ ฮยอกแจชอบ)ขึ้นมาทำท่าจะชกเข้าที่อกซีวอนเพราะแค้นที่พี่สาวพระเอกทำตัวโง่

                ฮยอกแจเอาตัวซุกๆ ดันๆซีวอนตลอดทั้งเรื่อง ยิ่งฉากน่ากลัวเลือดสาดคนตัวขาวก็ร้องซื้ดๆเอาเล็บกรีดๆตามหลังซีวอนไปตามเรื่องราว พอหนังจบก็เดินตรงไปที่ร้านอาหารอิตตาเลี่ยนร้านประจำแบบไม่วอกแวกเพราะหัวหน้าใหญ่ของพระเอกดันมอบหมายงานให้ที่ร้านอาหาร ทำเอาฮยอกแจหิวมาตั้งแต่ต้นเรื่อง

                “สองท่านนะคะ” พนักงานบริการพาสองคนเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลมที่นั่งได้ประมาณสี่คน ฮยอกแจรีบสั่งพาสต้ากุ้งทันทีแล้วก็สั่งพิซซ่าซีฟู้ดถาดเล็กสำหรับแบ่งกินกับซีวอนแล้วเพยิดหน้าให้ซีวอนสั่งต่อ นั่งคุยกันเรื่องหนังที่ดูมาสักพักก็หันไปดูหน้าร้านเพราะได้ยินเสียงคุ้นหู

                “สองท่านนะคะ” ลูกค้าคนนั้นคือเซมีกับเพื่อนสาวของเธอนั่นเอง พนักงานพยักหน้าเข้าใจแล้วพาเธอไปที่โต๊ะที่ห่างจากโต๊ะซีวอนเพียงหนึ่งเมตรไปทางขวาเท่านั้น

                “อ้าว ซีวอนสวัสดี” เซมีทำเหมืนเจอซีวอนกับฮยอกแจโดยบังเอิญทั้งๆที่เธอตั้งใจเลือกที่นั่งในโรงหนังให้อยู่ข้างหลังที่นั่งฮันนีมูนของซีวอน เดินนำพนักงานมาที่โต๊ะเองทั้งๆที่เธอจะต้องได้นั่งอีกมุมหนึ่ง

                “หวัดดีเซมี” ซีวอนหันไปทักทายเซมีกลับแล้วก้มหัวเล็กน้อยเพื่อทักทายเพื่อนของเซมีที่อยู่คณะอื่นด้วย

                “เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” คุณชายบอกกับแฟนตัวเล็กก่อนเดินออกไปห้องน้ำที่อยู่ไกลจากร้านนี้ไม่มาก

                “พี่ฮยอกแจสินะคะ” เซมีและเพื่อนของเธอก้มหัวทักทายฮยอกแจเล็กน้อย ฮยอกแจพยักหน้าให้ก่อนจะไปสนใจอาหารที่ถูกยกมาเสิร์ฟ

                “ฉันชื่อเซมีนะคะ เพื่อนฉันชื่อเยอึนค่ะ”

                “อื้อ”

                “พี่จะไม่คุยกับฉันหน่อยหรือคะ” ยิ้มอย่างกับนางสาวเกาหลี จะเอาอะไรวะ ฮยอกแจคิดพลางเอาส้อมจิ้มน้ำพาสต้ามาชิมเล่นๆ

                “คุยอะไรอ้ะ” อันนี้กวนตีนนิดๆแหละ จะคุยอะไร ไม่ได้รู้จักมักจี่ด้วยซะหน่อย

                “ซีวอนนี่ตลกดีนะคะ” ชักจะแหม่งๆแล้วนะเฟร้ย

                “ก็ตลกบ้าง แป้กบ้างอ้ะ”

                “นั่นสิคะ พอเจอหน้ากันชอบมาเล่นมุขตลกใส่เซมีอยู่เรื่อยเลย คิกคิก” คิกอะไรนักหนาวะ

                “อ้อ”

                เซมีพูดมาเรื่อยๆ แล้วเหมือนจะพูดถึงแต่ซีวอน ว่าทำอย่างนี้กับตัวเอง ทำอย่างโน้นกับตัวเอง ฮยอกแจก็ได้แต่อืม อือ อื้อ เหรอ ไปเพื่อให้ไม่น่าเกลียดมาก(เหรอ)

                “แล้วน้องสาวเขาเป็นไงบ้างคะ”

                “ก็สบายดี เมื่อเช้าเพิ่งไปฝากบั๊กซี่กับช็อคโก้ไว้ แล้วรู้จักจีวอนด้วยเหรอ”

                “เคยเจออยู่ครั้งหนึ่งค่ะ” ซีวอน แกมาเคลียร์สิ ฉันได้ข่าวว่าน้องแกเรียนอยู่ไฮสคูลปีสามนะ ยายนี่มาเจอได้ไงฟร้ะ เดี๋ยวเจอออออ

                “เจอได้ไงอ้ะ”

                “คุยอะไรกันครับ” ซีวอนเดินเข้ามาพอดีก่อนที่ฮยอกแจจะได้คำตอบ ปากแดงยู่เหมือนทุกครั้งที่โดนขัดใจ

                “เรื่องทั่วไปอะแหละ แล้วนี่เราไปนั่งโต๊ะเดียวกับซีวอนได้ป่าว คุยกับพี่ฮยอกแจสนุกมากเลย”

                ฝัน บอกเลยว่าผู้หญิงพวกนี้ยังไม่ตื่น คิดว่าฮยอกแจจะยอมไหม ขอย้ายโต๊ะนี่แกปักแบนเนอร์ประกาศศึกใช่ไหม เดี๋ยวจัดให้

                “พี่ไม่อยากคุยครับ” ซีวอนหันขวับไปมองคนพูดทันที สาบานได้ นอกจากกับคนที่อาวุโสกว่า เขาไม่เคยได้ยินคำว่าครับจากปากฮยอกแจมาก่อน

                กริบคงเป็นคำเดียวที่นิยามสถานการณ์ได้ในตอนนี้ ผู้หญิงสองคนที่ตอนนี้ถือกระเป๋าค้างเอาไว้เตรียมย้ายโต๊ะได้แต่ยืนค้างยิ้มอยู่อย่างนั้น

                “ซีวอนนั่งเร็วครับ พี่หิวแล้ว” ฮยอกแจยิ้มหวาน(แบบซีวอนเสียวสันหลัง)

                “ครับ”

                “พิซซ่ามันมีหอย แต่พี่เขี่ยออกไปบ้างแล้ว ซีวอนก็เลือกชิ้นเอานะครับ แล้วก็ รีบ กิน

                จบประโยคนั้นไม่ถึงสิบนาที อาหารก็ถูกจัดการเรียบร้อย ฮยอกแจรีบยื่นเครดิตการ์ดตัดหน้าซีวอน ทำเอาซีวอนเหวอไปนิดหนึ่ง เมื่อชำระเสร็จก็เดินนำซีวอนไปที่รถออดี้สีขาว แบมืออกมาตรงหน้าซีวอน

                “กุญแจรถ”

     

                ซีวอนไม่เคยคิดว่าจากห้างมาถึงคอนโดฮยอกแจจะใช้เวลาน้อยขนาดนี้มาก่อน ระหว่างทางไม่มีการพูดคุยกัน ไม่มีการเปิดเพลง ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศเป็นจังหวะเดียวกับเส้นชีพจรชีวิตเขาในอนาคตอย่างไรอย่างนั้น

                ร่างสูงได้แต่ยืนแบบโง่ๆ เพราะทำตัวไม่ถูก มองฮยอกแจที่นั่งหน้านิ่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวที่มีแจกันวางอยู่กลางโต๊ะได้สองนาทีแล้ว

                “มีอะไรจะอธิบายไหม”

                “เรื่องอะไรครับ” ซีวอนเป็นคนซื่อ อันนี้ทุกคนรู้ แต่ถ้าถามฮยอกแจที่ปรอทใกล้แตกแล้วล่ะก็...

                “หึ” เสียงหัวเราะในลำคอแบบแกนๆดังขึ้นมาชวนให้บรยากาศดูอึมครึมขึ้นอีกสามระดับ

                “พี่บอกผมมาสิครับ” ซีวอนทำใจกล้าเดินเข้าไปใกล้พี่ฮยอกแจอีกหน่อย

                “นี่ไม่รู้จริงป้ะ” หันหน้าไปทางกำแพง หลีกเลี่ยงที่จะมองหน้าอีกคน

                “ผมไม่รู้จริงๆครับ” ซีวอนเอามือจับชายเสื้อเชิ้ตของตัวเอง เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฮยอกแจ

                บางทีมันก็ตลกไปไหม วันที่ซีวอนสารภาพรักกับเขา เขาจำได้ว่าซีวอนก็เอามือจับชายเสื้ออย่างนี้แหละ แต่วันนี้กลับเป็นวันที่พวกเขาจะทะเลาะกัน

                “งั้นฉันจะบอกว่าฉันไม่พอใจอะไร” หันมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แต่ไม่มีเสียงสะอื้น คำพูดของพี่เยซองลอยอยู่ในหัวซีวอนเหมือนในหนังเวลาพระเอกจำอะไรได้

             ฮยอกแจมันแปลกนะ เวลามันร้องแบบไม่มีเสียงอ้ะ ระวังไว้เลยเพราะมันกำลังโมโหมาก อย่าลองของ ถ้าทำให้มันหยุดร้องก่อนที่มันจะสะอื้นไม่ได้นะ เตรียมตัวเหอะ ตายแน่ แต่มันก็เป็นไม่บ่อยนะ จะเป็นแค่เฉพาะเวลารู้สึกเหมือนจะโดนแย่งของไปอะไรแบบนี้

                ซีวอนก็ได้แต่เครียดเพราะไม่รู้ว่าฮยอกแจโกรธอะไร แล้วจะไปทำให้หยุดได้อย่างไร แล้วไอคำว่าไม่รู้ของเขาเหมือนจะไปกระตุ้นต่อมโมโหเข้าอย่างจังซะด้วยสิ

                “พี่โกรธมากที่เซมีเอาแต่พูดว่าซีวอนทำอย่างนู้นกับเขา ทำอย่างนี้กับเขา ที่สำคัญเซมีเคยเจอจีวอนด้วยเหรอ!!!?” ฮยอกแจรู้สึกเหมือนกับว่าซีวอนกำลังจะถูกแย่งไป

                “ก็เคยเจอครับ” เหมือนเป็นเชื้อเพลิงที่โยนเข้ากองไฟ

                เพล้ง! แจกันที่อยู่บนโต๊ะกลิ้งตกลงบนพื้นเพราะฮยอกแจลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเตะอย่างแรงที่ขาโต๊ะ

                “แม่งเอ้ย” ฮยอกแจสบถออกมา เดินไปเดินมาเหมือนจะหาที่ระบายอารมณ์ ซีวอนเดินไปจับฮยอกแจให้อยู่เฉยๆ ฮยอกแจก็ดิ้นไปมาเหมือนไม่อยากให้ร่างสูงแตะ เสียงสะอื้นหลุดออกมาเล็กน้อย แต่มือหนาก็ไม่ปล่อยพร้อมก้มลงหยิบเศษแจกันขึ้นมา

                “พี่เสียใจ พี่โกรธ พี่โมโหใช่ไหมครับ”

                “....” ร่างบางหยุดดิ้นแล้วพยักหน้า เสียงสะอื้นเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

                “ผมเป็นต้นเหตุใช่ไหม”

                “....” ครั้งนี้ไม่มีคำตอบ เศษแจกันที่ซีวอนถืออยู่เลื่อนมาอยู่ตรงท้องแขนของซีวอนข้างที่จับบ่าเล็กเอาไว้ กดลงไปไม่ลึกมากแต่ก็มีเลือดซึมๆ ฮยอกแจเอามือที่เป็นอิสระข้างหนึ่งปัดเศษแก้วออก ตากลมเบิกกว้างตวาดลั่นห้องครัว

                “กรีดทำไม!! ฮึก ฮึก” พุ่งเข้าซบอกแกร่งของอีกคน ทุบลงไปแรงๆ

                “พี่ดูโมโห อยากระบาย แล้วต้นเหตุก็คือผม” ลูบหัวกลมเบาๆ

                “ซีวอนให้เซมี ฮึก เจอจีวอนทำไม ฮึก” ช้อนตาขึ้นมอง

                “วันนั้นผมลืมรายงานที่ต้องส่งครับ เลยให้จีวอนเอามาให้เพราะน้องจะมาเจอเพื่อนที่อยู่แถวมหาวิทยาลัยพอดี” จูบเบาๆลงบนหน้าผากฮยอกแจเป็นการบอกให้หยุดร้องกลายๆ

                “แล้ว ฮึก ทำไมไม่ห้ามตอน ฮึก เซมีจะย้ายมานั่งกับเรา”

                “ก็ผมเห็นพี่คุยกับเขา ก็เลยไม่ได้ห้าม กลัวพี่จะโกรธน่ะครับ”

                “นี่ซื่อบื้อหรือเปล่าเนี่ย” มือขาวผละจากเอวหนามาแนบที่หน้าคม สายตาสบกันอยู่สักพักจนฮยอกแจหยุดสะอื้น

                “ผมก็เป็นของผมอย่างนี้แหละ ไม่ชอบเหรอครับ”

                “เออ ไม่ชอบ”

                “อ้าว” ผละฮยอกแจออกมา เรื่องนี้นี่ต้องเคลียร์

                “รักเลยคนเนี้ย” กระโดดขึ้นเกาะซีวอนทั้งตัวจนคนตัวสูงเซนิดๆ ปากที่แดงมากกว่าปกติเพราะร้องไห้จูบไปทั่วหน้าของซีวอนแรงๆจนได้ยินจุ้บ จุ้บ จุ้บดังขึ้นมาไม่หยุด

                “รักเหมือนกันครับ” กระชับขาของฮยอกแจให้เกี่ยวเอวเอาไว้ เดินพาไปที่โซฟา แล้วทิ้งฮยอกแจลงไป จากนั้นก็ทาบตัวทับ เปลี่ยนเป็นฝ่ายจูบไปทั่วหน้าฮยอกแจบ้าง

                “หื้อ” ดันหน้าซีวอนออกเพราะนึกได้ว่าซีวอนมีแผลที่แขนอยู่ “มาทำแผลก่อน”

                “ไม่ต้องทำหรอกครับ มันเป็นซอสมะเขือเทศ” จูบไปตามแขนของฮยอกแจ

                “ตลก มาทำแผล” ตบปากซีวอนเบาๆ ดันร่างหนาออกแล้วไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล

                “รู้ทันอีก จูบต่ออีกหน่อยก็ไม่ได้เหรอครับ”

                “เดี๋ยวให้จูบ มาทำแผลก่อน” จูบปลายจมูกโด่งทีหนึ่งก่อนจะเริ่มทำแผล

                ฮยอกแจกับซีวอนเหมือนกันตรงที่ชอบสกินชิปกับชอบให้สนใจเนี่ยแหละ

                “ว่าแต่ หึงแรงนะเนี่ย”

                “เออ แรง ถ้ามีกิ๊กจริงนะ เดี๋ยวจะอามีดมากรีดซ้ำไอรอยนี้เลย ดีป้ะ”

                “ไม่มีหรอก รักฮยอกแจคนเดียวนะครับ”

                “เอาให้จริง ไม่จริงเดี๋ยวให้ป๋ามายำเลย” อันนี้ไม่ขู่ ฮยอกแจพูดจริง

                “โอ่เอ้นะ” กอดฮยอกแจเอาไว้ ให้หัวของคนตัวเล็กซุกอยู่ที่อก

                ฮยอกแจอาจจะเหมือนฝันร้ายสำหรับแฟนเก่าคนอื่นๆ แต่ฮยอกแจเป็นฝันกลางวันของชเว ซีวอนก็แล้วกัน  <3

     

     

     

     

     

     

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    พยายามแต่งให้เหมือนเพลง blank space นะ เหมือนไหมมมม(จะหลอกตัวเองว่าเหมือน)
    มันเป็นฟิคปีใหม่ก็เลยลงภายในวันหยุดปีใหม่(เนื้อหามันเกี่ยวไหม ไม่เลย)
    สติลจัดหน้าไม่เป็นเอาเถอะ มันต้องเป็นสักวันแหละ เอ็นจอยรีดดิ้งโน้ะ                    

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×