คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : บทที่ 26
เช้าวันต่อมาเดียร์น่าหาโอกาสเข้าไปคุยกับการีมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาพากลับมาด้วย
เธอถือวิสาสะเข้าไปพบเขาที่ห้องทำงาน
โดยไม่ลืมที่จะล็อคประตูห้องเพื่อป้องกันการถูกรบกวน
การีมตวัดสายตามองเดียร์น่าด้วยความไม่พอใจที่เธอกล้าลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขา
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“เราไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องพูดคุยกัน”
“คุณไม่มีแต่ฉันมี
ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร คุณพาเธอมาที่นี่ทำไม”
“ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องตอบคำถามเหล่านี้
แต่ถ้าอยากรู้มากนักล่ะก็จะสงเคราะห์ให้ มุกเป็นเมียและเป็นผู้หญิงที่ฉันจะแต่งงานด้วยในเร็วๆ
นี้”
คำตอบที่ได้รับกลับมานั้นทำให้เดียร์น่าเกลียดมุกปรินทร์
ทั้งที่เพิ่งจะเคยพบหน้ากันเป็นครั้งแรก
โทษฐานที่เธอกล้ามาแย่งของรักของหวงของตนเอง เธอมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อพร้อมกับต่อว่าเขา
“ทำไมคุณถึงทำร้ายจิตใจฉันมากขนาดนี้
คุณก็รู้ดีว่าฉันคิดยังไงกับคุณ”
“ระหว่างเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน
เรื่องของเรามันจบไปตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับพ่อของฉัน”
เดียร์น่าพยายามที่จะเถียงข้างๆ คูๆ
“ตอนนั้นฉันไม่รู้จริงๆ
ว่าคุณเป็นลูกเขา ถ้าฉันรู้ฉันคงไม่รับปากแต่งงานกับกาซี และเลือกที่จะแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันรักอย่างคุณแทน”
อันที่จริงเขารู้ซึ้งมานานแล้วว่าความรักอย่างเดียวคงไม่พอ
ผู้หญิงอย่างเดียร์น่าต้องการความเป็นอยู่ที่สุขสบาย
และตัดสินคนที่เปลือกนอกมากกว่าจะดูตัวตนที่แท้จริงของเขา
เขาจึงตัดใจจากเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และย้ายออกไปอยู่เพียงลำพัง
จนกระทั่งบิดาเสียชีวิต
และระบุในพินัยกรรมว่าเขาจะได้รับทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลชาลีฟาห์
แต่เขาจะต้องแต่งงานก่อนที่จะอายุครบสามสิบสองปีบริบูรณ์
และจะต้องย้ายกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลเหมือนเดิม
อย่างน้อยก็จนกว่าจะรู้ผลว่าใครจะเป็นผู้ได้รับมรดก
ถ้าเขาทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ไม่ได้
ทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็จะตกเป็นของแม่เลี้ยงอย่างเดียร์น่า
ที่จริงเขาเองก็มีสมบัติติดตัวอยู่บ้าง
แม้จะไม่ได้รับทรัพย์สมบัติของบิดาก็ไม่เดือดร้อนอะไร
แต่ก็ไม่อยากให้ทรัพย์สมบัติที่บรรพบุรุษสร้างมาด้วยความยากลำบากต้องตกไปอยู่ในมือเดียร์น่า
เขาจึงจำเป็นต้องแต่งงานกับใครสักคนตามเงื่อนไขในพินัยกรรมของบิดา
โชคดีที่เขาได้พบกับมุกปรินทร์
ผู้หญิงที่ทำให้เขากลับมามีความสุขได้อีกครั้งในยามที่เขาได้อยู่ใกล้ชิดเธอ
และก็คิดว่าเขาตัดสินใจไม่ผิดที่ขอเธอแต่งงาน
“ยกโทษให้ฉันสักครั้งนะคะการีม
เห็นแก่ความรักที่เราเคยมีให้กัน ฉันรักคุณจริงๆ”
“เธอไม่ได้รักฉันอย่าหลอกตัวเองอีกเลย”
“ฉันรักคุณ รักมาตลอด
ไม่มีสักนาทีที่ฉันจะไม่รักคุณ”
“สิ่งที่เธอรักคือทรัพย์สมบัติของฉันต่างหาก
เมื่อรู้ว่าจะไม่ได้ครอบครองในสิ่งที่หวัง ก็เลยคิดที่จะแต่งงานกับฉันเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เธอต้องการ
เธอมันน่าสมเพช”
“ทำไมคุณถึงไม่เชื่อว่าฉันรักคุณ”
“คนรักกันเขาไม่ทำแบบนี้หรอก”
“ฉันผิดไปแล้ว ยกโทษให้ฉันนะคะการีม
ฉันรู้ว่าคุณยังรักฉันอยู่”
“หยุดหลอกตัวเองได้แล้วเดียร์น่า
ความรู้สึกนั้นมันหมดไปตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับพ่อของฉัน”
“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ
ถ้าคุณหมดรักฉันจริงทำไมคุณถึงยังไม่มีใครมาแทนที่ฉัน
ยอมรับมาเถอะค่ะการีมว่าคุณยังรักฉันเหมือนที่ฉันรักคุณ”
“ฟังให้ชัดๆ นะ
ที่ฉันไม่มีใครมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพราะฉันมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่กับเธอ
ตรงกันข้ามเธอทำให้ฉันเลิกไว้ใจผู้หญิง”
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้
ฉันรู้นะว่าคุณตั้งใจพาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อะประชดฉัน”
“อย่าเข้าใจผิด
ฉันไม่เสียสละเวลาที่มีค่าไปทำเรื่องไร้สาระเหล่านั้นหรอก
หยุดสำคัญตัวผิดคิดว่าฉันจะยินดีรับกากเดนอย่างเธอมาเป็นคู่ชีวิต มุกปรินทร์คือผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ฉันจะแต่งงานด้วย
มุกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้ฉันมีความสุข ไม่ใช่ผู้หญิงไร้ค่าไร้ยางอายอย่างเธอ
กลับไปซะ ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่อย่ามารบกวนฉันอีก”
เดียร์น่าเสียใจกับคำพูดและการกระทำของเขา
แววตาที่เธอมองเขาแสดงถึงความเจ็บช้ำ
และไม่เคยยอมรับว่าเรื่องที่ผ่านมาเป็นความผิดของตนเอง
เธอไม่เคยโทษตัวเอง
แต่โทษว่าเป็นความผิดของเขา
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเรามันเป็นความผิดของคุณ
ถ้าคุณบอกฉันตั้งแต่แรกว่าคุณเป็นใคร ฉันคงไม่ตัดสินใจแต่งงานกับกาซี
แต่เพราะคุณไม่เคยแสดงถึงฐานะและตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ฉันรู้
เราก็เลยไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างที่ควรจะเป็น
ทุกอย่างที่มันผิดพลาดไปก็เป็นเพราะคุณ
และฉันคิดว่ามันยังไม่สายที่เราจะทำเรื่องนี้ให้มันถูกต้อง”
“สุดท้ายก็เผยธาตุแท้ออกมาจนได้
เธอมันเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอาย คิดได้ยังไงว่าฉันจะใช้ผู้หญิงคนเดียวกับพ่อ
ฉันรู้สึกขยะแขยงที่จะต้องทนอยู่ร่วมกับเธอ
ออกไปให้พ้นหน้าฉันก่อนที่ฉันจะเรียกคนมาลากตัวเธอออกไป”
“ฉันไม่ไปจนกว่าเราจะพูดกันให้รู้เรื่อง”
“ใครที่อยู่ข้างนอกเข้ามาลากตัวผู้หญิงคนนี้ออกไปเดี๋ยวนี้”
คนของการีมสองคนเข้ามาในห้องและเชิญตัวเดียร์น่าออกไป
แต่ในเมื่อเธอไม่ยอมพวกเขาจึงต้องหิ้วตัวเธอ
“ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า...ฉันบอกให้ปล่อย”
“ลากออกไปให้พ้นหน้าฉัน”
“คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะการีม”
เดียร์น่าร้องโวยวายขณะที่ถูกพาตัวออกไปจากห้อง
“ปล่อยนะ ฉันบอกให้ปล่อย กล้าดียังไงมาลากตัวฉันแบบนี้
ไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นนายหญิงของที่นี่” เสียงโวยวายยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“มาริคเตรียมรถฉันมีเรื่องบางอย่างที่ต้องไปจัดการ”
“ครับคุณการีม”
ระหว่างที่มาริคไปจัดเตรียมรถการีมได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับปริภัทร
เพื่อบอกเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างเขาและมุกปรินทร์
ปริภัทรถามถึงความรู้สึกที่เขามีต่อว่ามุกปรินทร์
การีมบอกไปตามความจริงว่าเขารู้สึกมีความสุขเวลาที่อยู่ร่วมกับเธอ
และอยากที่จะอยู่กับเธอเช่นนี้ตลอดไป
ปริภัทรตอบกลับไปว่าเขาไม่คัดค้านอะไร
และรู้สึกยินดีหากมุกปรินทร์ได้แต่งงานกับการีม ชาลีฟาห์
ส่วนเรื่องการจัดเตรียมงานแต่งงานก็ขอให้ชายหนุ่มจัดการไปตามที่เห็นสมควร
จากนั้นก็วางสาย
ความคิดเห็น