คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 15
หลังออกมาจากกระโจมของโยเซฟ การีมได้พามุกปรินทร์ไปอาบน้ำที่แหล่งน้ำ
“หายตกใจหรือยัง” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงเอื้ออาทร
มุกปรินทร์พยักหน้าแทนคำตอบ เธอพยายามที่จะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เพราะไม่ต้องการให้เขาถึงความอ่อนแอของตนเอง การีมจับไหล่บอบบางทั้งสองข้างของเธอเพื่อให้เธอหันมาเผชิญหน้าเขา
“คุณไม่จำเป็นต้องทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าผมหรอกนะมุก รู้สึกยังไงก็แสดงออกมา อยากร้องไห้ก็ร้องอย่ากลั้นมันไว้”
คำพูดของการีมทำให้น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลลงมาไม่ขาดสาย
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมฉันต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้หลายต่อหลายครั้ง”
จะให้เขาบอกเธอได้อย่างไรว่ารูปร่างหน้าตาของเธอนั้นมันเด่นสะดุดตาผู้ชาย สิ่งเหล่านี้นำพาอันตรายมาสู่ตัวเธอ ขนาดตัวเขาเองซึ่งปกติไม่คอยให้ความสนใจผู้หญิง ยังรู้สึกสะดุดในความสวยที่โดดเด่นแม้ในยามที่ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอาง เขาดึงตัวเธอเข้ามากอดและลูบหลังเธอเบาๆ แทนการปลอบโยน เธอเองก็สวมกอดเขาไว้แน่น
“ร้องออกมาจนกว่าคุณจะสบายใจ ไม่จำเป็นต้องสะกดกลั้นมันไว้”
เขาปล่อยให้เธอร้องไห้จนพอใจก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เธอ
“ผมไม่น่าทิ้งคุณไว้คนเดียวเลย น่าจะพาคุณกลับไปที่กระโจมก่อน ที่คุณต้องเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ก็เป็นเพราะผม”
“ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ คุณอย่าโทษตัวเองเลยนะคะ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของคุณ ฉันอยากขอบคุณที่คุณคอยอยู่เคียงข้างและปกป้องฉันเสมอ”
“ฟังผมให้ดีนะมุก คืนนี้คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อม ผมจะพาคุณหนีไปจากที่นี่”
“ทำไมเราต้องหนีด้วยคะในเมื่อเราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด”
“ที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเรา อย่าลืมสิว่าเรามีเรื่องกับลูกชายหัวหน้ากองคาราวาน มีหรือที่เขาจะเก็บเราไว้ มันอาจจะไม่เป็นไปอย่างที่ผมคิด แต่ผมไม่อยากที่จะประมาทเราจึงต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
“ตกลงค่ะ ไม่ว่าคุณจะพาฉันไปไหนฉันก็จะไปกับคุณ เจ็บมากไหมคะ”
เธอเอ่ยถามพร้อมกับลูบไล้ใบหน้าที่ปรากฏร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้ของเขา
“แค่นี้ผมทนได้ คุณต่างหากที่เจ็บ”
การีมตอบก่อนจะโน้มใบหน้าไปจูบบาดแผลบริเวณมุมปากของเธออย่างบางเบา
“เรารีบอาบน้ำและกลับไปเตรียมตัวเก็บของเพื่อออกเดินทางกันเถอะ”
“ตกลงค่ะ”
สองหนุ่มสาวรีบจัดการทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว เพื่อกลับไปเตรียมการที่จะหลบออกไปจากที่นี่
กลางดึกคืนนั้นในขณะที่ทุกคนกำลังหลับการีมพามุกปรินทร์หลบหนีไป เดินทางกันมาได้สักพักมุกปรินทร์ก็เอ่ยถาม
“เรากำลังจะไปไหนกันคะ”
“ผมจะพาคุณไปขออาศัยอยู่กับเจ้าของร้านเสื้อที่ผมพาคุณไปวันนี้”
“มันจะปลอดภัยเหรอคะการีม ในเมื่อกองคาราวานของโยเซฟก็ต้องไปขายของที่นั่น”
“ไม่เคยได้ยินเหรอว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัย ใครจะคาดคิดว่าเราจะย้อนกลับไปหลบอยู่แถวนั้น เราคงต้องเดินทางกันอีกพักใหญ่ และต้องใช้อีกเส้นทางหนึ่งซึ่งจะอ้อมไกลกว่าเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับตัว ไหวนะมุก”
มุกปรินทร์พยักหน้าก่อนที่จะตอบ “ไหวค่ะ”
การีมนับถือในความอดทนของหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินอยู่ข้างตัวเขา
“คุณเคยนึกกลัวบ้างไหมที่ต้องหนีมากับผมตอนกลางดึกแบบนี้ทั้งที่อากาศก็หนาว”
“ตราบใดที่มีคุณอยู่ด้วยฉันก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
“ขอโทษนะมุกที่ผมพาคุณมาลำบาก”
มุกปรินทร์หันไปสบตาเขาก่อนจะส่งรอยยิ้มที่สดใสไปให้
“มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ฉันต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่คุณไม่ทิ้งฉัน ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำตัวให้เป็นภาระของคุณ”
“ผมไม่เคยเห็นคุณเป็นภาระเลยสักครั้ง และยินดีเสมอที่จะทำหน้าที่ปกป้องคุณ”
การีมจูงมือมุกปรินทร์เดินทางรอนแรมไปตามเส้นทางที่ตรงไปยังตลาดพื้นเมือง กว่าจะไปถึงที่นั่นก็ใช้เวลาอีกนานหลายชั่วโมง
“พักสักครู่ก่อนไหม”
“เราต้องเดินทางกันอีกนานไหมคะกว่าจะไปถึง”
“ถ้าเร่งเดินทางเราก็อาจจะไปถึงตอนรุ่งเช้า”
“ฉันว่าเรารีบเดินทางให้ถึงที่หมายไวไวดีกว่าค่ะ”
เขาพาเธอเดินทางต่อโดยไม่หยุดพักเพราะต้องแข่งกับเวลา แม้มุกปรินทร์จะเหนื่อยและล้าแต่ก็ไม่ปริปากบ่น เธออดทนได้มากกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก
“อดทนอีกหน่อยนะใกล้จะถึงแล้วพอไปถึงผมจะให้คุณพัก”
เมื่อไปถึงร้านดังกล่าวการีมเข้าไปติดต่อกับเจ้าของร้าน เพื่อขอหลบพักอาศัยอยู่ชั่วคราว รอจนกว่าคนของเขาจะตามมา และได้กำชับว่าหากคนในกองคาราวานของโยเซฟมาถามหา ก็ให้ตอบไปว่าไม่รู้ไม่เห็น
เจ้าของร้านเสื้อรับคำ “ข้าจะทำตามที่ท่านบอกทุกอย่าง”
การีมส่งเงินค่าตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่เขา
“นี่ค่าตอบแทนของท่าน”
อัลวารับเงินนั้นพร้อมกับรีบเข้าไปจัดห้องพักให้สองหนุ่มสาว โดยไม่ลืมที่จะจัดเตรียมอาหารเช้าเข้ามาให้ด้วย หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จการีมก็บอกให้มุกปรินทร์นอนพักเอาแรง
“เราคงต้องหลบอยู่ที่นี่สักพักรอจนกว่าคนของผมจะตามมาพบ ไม่ต้องห่วงนะผมจะดูแลความปลอดภัยของคุณเอง”
“คุณเองก็เหนื่อยมานอนด้วยกันสิคะ”
“ก็ดีเหมือนกัน” การีมล้มตัวลงนอนข้างตัวเธอ
ถึงจะเหนื่อยจากการเดินทางไกลแต่ทั้งคู่กลับนอนไม่หลับ มุกปรินทร์ทำลายความเงียบด้วยการชวนเขาคุย
“หลับหรือยังคะ”
“ยัง”
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงช่วยชีวิตฉันไว้จากพวกโจรถ่อย”
“ผมเคยถามตัวเองเช่นนี้เหมือนกันว่าทำไมถึงช่วยคุณ โดยปกติแล้วผมมักจะไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่นแต่กลับตรงเข้าไปช่วยเหลือคุณโดยไม่ลังเล อาจเพราะมันเป็นเหตุการณ์คับขัน ไม่ว่าใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ต้องทำเหมือนที่ผมทำ”
“ไม่ทุกคนหรอกค่ะการีม ขอบคุณนะคะสำหรับทุกอย่างที่คุณทำเพื่อฉัน”
สองหนุ่มสาวสบตากันพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น แม้จะได้อยู่ใกล้ชิดกันเพียงไม่กี่วันแต่กลับสร้างความผูกพันให้ทั้งสองฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
มุกปรินทร์รู้สึกอุ่นใจเมื่อมีเขาอยู่เคียงข้าง การีมเองก็รู้สึกอยากปกป้องเธอจากภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
นับเป็นครั้งแรกหลังจากผิดหวังในเรื่องของความรักที่การีมรู้สึกอยากจะปกป้องใครบางคน
เขาโอบกระชับตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดซึ่งมุกปรินทร์ก็ไม่ขัดขืน หลังจากนั้นไม่นานสองหนุ่มสาวต่างก็หลับไปในอ้อมแขนของกันและกัน
ความเอื้ออาทรนำพามาซึ่งความรักใช่ไหม
หรือกามเทพจะแผลงศรใส่สองหนุ่มสาวเข้า
ให้ซะแล้ว จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้างต้องติดตามค่ะ
ความคิดเห็น