คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 14
“ติเยาะห์ยืนยันได้เพราะเธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น”
โยเซฟจึงสั่งให้คนไปตามตัวนางเข้ามาสอบถาม
“เจ้ายืนยันกับข้าได้ไหมติเยาะห์ว่าเจ้าเห็นอาลีปลุกปล้ำนางหาใช่นางที่เป็นฝ่ายเริ่ม”
ติเยาะห์ไม่กล้าตอบตามความจริง เพราะหันไปเห็นสายตาที่เปล่งประกายวาวโรจน์ของอาลี สายตาที่บ่งบอกว่าถ้ากล้าพูดความจริงออกมาระวังจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก ติเยาะห์หันไปสบตามุกปรินทร์ราวกับจะบอกว่า
‘อภัยให้ข้าด้วยที่ข้าไม่สามารถพูดความจริงได้’
“ข้าไม่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็เลยไม่กล้าที่จะยืนยันอะไร”
อาลียิ้มเยาะเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของติเยาะห์
“ทำไมถึงไม่พูดความจริง” มุกปรินทร์เอ่ยถาม
สุดท้ายเธอก็เข้าใจเมื่อหันไปเห็นสีหน้าและแววตารวมถึงรอยยิ้มของอาลี นางคงกลัวอาลีและไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวจึงไม่ยอมพูดในสิ่งที่เห็น
“เจ้าออกไปได้แล้ว”
“ข้าขอตัวก่อน” หญิงสาวเอ่ยก่อนจะเดินออกไปจากกระโจม
“ไหนๆ เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วก็ให้แล้วไปเถอะนะการีม ข้าว่ามันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิด อย่าถือสาหาความเลยนะจะผิดใจกันเปล่าๆ”
แม้โยเซฟจะรู้จักนิสัยของบุตรชายในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะหลายต่อหลายครั้งที่เขาต้องคอยไกล่เกลี่ยเรื่องทำนองนี้ของอาลี แต่ก็ยังคงเข้าข้างเขาอยู่ดี และหันไปกำชับอาลีว่าอย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก
“มันไม่ใช่ความผิดของข้านะท่านพ่อ นางนั่นแหละที่พยายามให้ท่าข้าตลอดเวลาที่อยู่ลับหลังไอ้การีม”
“ลูกผู้ชายเขาไม่พูดปัดสวะให้พ้นตัวด้วยการป้ายสีความผิดให้ผู้หญิงหรอก คนขี้ขลาดเท่านั้นที่ทำแบบนี้”
“นี่เจ้ากล้าด่าข้าเหรอ”
“พอกันที ทั้งคู่นั่นแหละ หยุดทะเลาะกันต่อหน้าข้าได้แล้ว”
“อย่างที่ข้าบอกนะการีมให้เรื่องนี้มันจบไปเถอะ”
“ได้ แต่ท่านต้องให้ลูกชายของท่านขอโทษมุกต่อหน้าทุกคน”
“แค่เอ่ยปากขอโทษเมียเจ้าต่อหน้าข้าก็น่าจะเพียงพอ อย่าให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเกินจำเป็นเลยนะ”
“อาลีขอโทษพวกเขาซะเรื่องจะได้จบ”
“เหตุใดท่านพ่อจึงบังคับให้ข้าขอโทษทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของข้า”
“นี่คือคำสั่ง หรือเจ้าจะขัดคำสั่งข้า” โยเซฟประกาศกร้าว
อาลีจึงจำใจยอมเอ่ยปากขอโทษการีมและมุกปรินทร์ตามคำสั่งของบิดา
“ลูกชายข้าได้เอ่ยปากขอโทษตามที่เจ้าขอแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ถือสาหาความ”
การีมหันไปสบตามุกปรินทร์ เธอพยักหน้าเป็นเชิงบอกเขาว่าแค่นี้พอแล้ว เพราะเห็นอยู่ว่าโยเซฟย่อมเข้าข้างอาลีมากกว่าตนเอง
“เราขอตัวไปพักผ่อนก่อน”
โยเซฟพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
ทันทีที่สองหนุ่มสาวเดินออกจากกระโจมอาลีได้หันไปโวยวายใส่บิดาทันที
“เหตุใดท่านพ่อจึงบังคับให้ข้าขอโทษพวกมัน ข้ารู้สึกเสียหน้าและเจ็บแค้นจนอกแทบระเบิด”
“ที่ข้าต้องสั่งให้เจ้าทำเช่นนี้เพราะต้องการให้เรื่องมันจบ เจ้าไม่เห็นท่าทีของการีมเหรอว่ามันพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเมียของมัน และมันจะไม่ถอยถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ”
“คนอย่างข้าไม่เคยกลัวใคร”
“แต่สิ่งที่เจ้าทำลงไปวันนี้มันผิด ที่ผ่านมาข้าไม่เคยตำหนิเจ้าแต่ไม่ใช่ครั้งนี้ เจ้าไม่ควรไปยุ่งกับผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว”
“ข้ารู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี แค้นนี้ต้องชำระ”
โยเซฟเข้าใจความรู้สึกของอาลีเป็นอย่างดี เขาตบบ่าของบุตรชาย
“เจ้าจะแก้แค้นอย่างไรก็ได้ข้าไม่ว่า แต่ต้องปกปิดร่องรอยให้มิดชิด อย่าให้สาวมาถึงตัวหรือสร้างความเดือดร้อนให้เราได้เด็ดขาด”
“หยามกันขนาดนี้ข้าไม่เก็บมันไว้แน่ สบโอกาสเมื่อไรข้าจะลงมือทันที”
อันที่จริงโยเซฟก็รู้สึกเสียดายการีมเพราะหน่วยก้านดี หนักเอาเบาสู้แถมยังค้าขายเก่ง แต่ถ้ามีเรื่องกับอาลีและทำให้อาลีต้องอับอายก็ไม่ควรปล่อยไว้
ไม่ว่ายังไงลูกย่อมสำคัญกว่าคนอื่น เลือดย่อมข้นกว่าน้ำเสมอ
อันตรายกำลังจะมาถึงตัวสองหนุ่มสาว
การีมจะพามุกปรินทร์ให้รอดพ้นจาก
อันตรายเหล่านี้ได้หรือไม่ต้องติดตามค่ะ...
ความคิดเห็น