ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิมานรักพยัคฆ์ร้าย

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 11

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 63




              เจติยาเลือกที่จะมาออกกำลังกายที่ฟิตเนสในช่วงบ่าย เพราะรูปร่างมีส่วนสำคัญกับงาน จึงต้องดูแลร่างกายให้ฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่เสมอ โดยเริ่มที่การยกเวทเพื่อกระชับสัดส่วนก่อนจะไปต่อด้วยคาร์ดิโอ แต่ไม่ว่าเธอจะขยับตัวทำอะไรก็จะมีสายตาของหนุ่มๆ จ้องมองมาด้วยความสนใจเสมอ เธอมอบรอยยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้พวกเขาแทนคำทักทาย หลายคนเดินเข้ามารุมล้อมเพื่อขอทำความรู้จักกับเธอ ซึ่งเธอเองก็ผูกมิตรไมตรีด้วยการพูดคุยกับพวกเขาอย่างเป็นกันเอง

              หลังจากออกกำลังกายมาได้พักใหญ่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป เพื่ออวดหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงเลกกิ้ง ที่เพิ่มความเซ็กซี่เล็กๆ ด้วยแถบซีทรู และสปอร์ตบาร์ไขว้หลังสีสดใส จากนั้นก็อัพลงโซเชียลให้เหล่าบรรดากิ๊กและแฟนคลับหนุ่มๆ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของตนเอง

              ทันทีที่อัพภาพเสร็จโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น

              “ฟื้นคืนชีพแล้วเหรอคะคุณน้องถึงได้อัพภาพลงโซเชียลได้”

              “เพิ่งรู้ว่าพี่นัตตี้ว่างมากขนาดมีเวลาโทรมากัดจิกเจนีน”

              “ใครว่าพี่ว่าง ยุ่งมากต่างหาก ที่โทรมานี่ก็เพราะจะคุยเรื่องงาน”

              “งานอะไร!

              “ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำลงปกนิตยสารอินฟินิตี้ฉบับครบรอบยี่สิบปี”

              “ปฏิเสธไปเลยพี่นัตตี้”

              “จะบ้าหรือเปล่าเจนีน มีแต่คนอยากขึ้นปกนิตยสารชื่อดังเล่มนี้ของพี่ก้องกันทั้งนั้น มีแต่เธอนี่ล่ะที่ปฏิเสธโอกาสงามๆ แบบนี้”

              “ก็เจนนีไม่อยากถ่ายชุดว่ายน้ำ”

              “รับงานนี้เถอะนะเจนีน พี่กล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่างานนี้ จะสร้างความฮือฮาให้เจติยา ดิษยาวรโชติได้แน่ รับรองดังและปังกว่าเดิมหลายเท่า”

              “ปกติเจนีนก็ดังอยู่แล้วหรือพี่นัตตี้จะเถียง”

              “ใครจะกล้าเถียงนางแบบสาวสุดฮอต เซ็กซี่สตาร์ตัวแม่อย่างเธอได้ล่ะ แต่เชื่อพี่สักครั้งนะเจนีน งานนี้ค่าตอบแทนที่เขาเสนอมาคุ้มค่าเหนื่อยของเราแน่ เพราะเป็นตัวเลขสูงถึงเจ็ดหลัก การได้ร่วมงานกับนิตยสารระดับไฮเอ็นอย่างอินฟินิตี้ฉบับครบรอบยี่สิบปีไม่ใช่เรื่องง่าย ใครปฏิเสธก็บ้าแล้ว”

              “พี่นัตตี้จะมาเซ้าซี้เจนีนทำไม ก็บอกแล้วว่าไม่อยากถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ ฟังไม่เข้าใจหรือไง” น้ำเสียงเจติยาติดจะเหวี่ยงวีน

              “กลัวอะไรแค่ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำเท่านั้น ขนาดเปลือยกายถ่ายภาพเซ็กซี่หวือหวาอย่างเมื่อคราวก่อนก็ยังเคยทำมาแล้ว” 

              “เจนีนไม่ได้เปลือยกายถ่ายแบบนะพี่นัตตี้ ภาพที่เห็นมันคือการรีทัช และที่เจนีนตัดสินใจรับงานนั้นเพราะมันเป็นการกุศล แถมยังได้ร่วมงานกับช่างภาพมืออาชีพชื่อดังอย่างไมเคิล เข้าใจไหมว่ามันเป็นงานศิลปะระดับอินเตอร์”

              “หรือว่าเธอไม่มั่นใจในรูปร่างสุดเซ็กซี่ของตัวเองก็เลยให้พี่ปฏิเสธงานนี้ ถ้าเป็นเหตุผลนี้ล่ะก็พี่พอจะเข้าใจ”

              “ใครบอกว่าไม่มั่นใจ เจนีนรับงานนี้ก็ได้ เพราะจะพิสูจน์ให้พี่นัตตี้เห็นว่าเจนีนยังสวยและแซบเหมือนเดิม”

              “พี่จะรอดู สรุปว่าตกลงรับงานนี้ใช่ไหม”

              “ใช่พอใจหรือยัง”

              “พอใจมาก พี่ยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าเราจะเดินทางไปทำงานนี้ที่เกาะมัลดีฟส์”

              “เรื่องที่จะพูดกับเจนีนมีแค่นี้ใช่ไหม”

              “เดี๋ยวสิจ๊ะ อย่าเพิ่งรีบวางสาย เรายังมีเรื่องที่ต้องเคลียร์กันอยู่อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อคืนนี้เธอนอนอยู่กับใครเจนีน”

              หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำถามนั้น

              “พี่นัตตี้รู้เรื่องนี้ได้ยังไง” เจติยาเอ่ยถาม ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนเขาถือวิสาสะรับโทรศัพท์ของเธอ

              “ก็เมื่อคืนพี่โทรหาเธอ แต่คนที่รับโทรศัพท์กลับเป็นผู้ชาย แถมยังบอกอีกว่าเธอนอนหลับอยู่ข้างตัวเขา”

              “เขาบอกพี่แบบนั้นเหรอ”

              “ก็ใช่น่ะสิ เล่ามาเดี๋ยวนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไปนอนอยู่กับผู้ชายสองต่อสองได้ อย่าบอกนะว่าเธอเสียทีโดนผู้ชายกินตับไปแล้ว”

              เจติยาถอนหายใจอย่างแรง “มันเป็นอุบัติเหตุนะพี่นัตตี้ เจนีนไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่องแบบนี้”

              “เล่าให้พี่ฟังซิว่าเธอไปพบเขาได้ยังไง ทำอีท่าไหนถึงได้ไปจบกันที่เตียงได้”

              “เราเจอกันที่ผับแล้วก็นั่งดื่มด้วยกัน เต้นรำด้วยกันอย่างสนุกสนาน เจนีนดื่มหนักไปหน่อยก็เลยไม่ค่อยมีสติ รู้ตัวอีกทีก็นอนอยู่กับเขาในสภาพเปลือย”

              “โอ้แม่เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าตัวเองคออ่อน ดื่มแอลกอฮอล์ไม่เท่าไรก็เมา แล้วทำไมไม่ระวัง”

              “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ ใครจะคิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”

              เมาแล้วรั่วเที่ยวไล่ปล้ำจูบคนนั้นคนนี้

              เป็นอาการที่เคยเกิดขึ้นกับเจติยามาแล้วหลายครั้ง มันจะเกิดขึ้นเสมอตอนที่เธอเมา และก็มักจะไม่รู้ตัวว่าตนเองได้ทำอะไรลงไป นัตตี้เคยเห็นเหตุการณ์เหล่านั้นด้วยตาของตัวเองมาแล้ว ถึงมีคำสั่งห้ามไม่ให้เธอดื่มเหล้าอีก อยู่ไกลตาทีไรเป็นแบบนี้ทุกที

              “เธอคงไม่ได้ไล่ปล้ำเขาใช่ไหมเจนีน” นัตตี้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

              “ใครจะรู้ล่ะพี่นัตตี้ก็บอกแล้วว่าเมา”

              “โธ่ ถัง กะละมัง หม้อ เจนีนนะเจนีน เธอทำแบบนี้ได้ยังไง”

              “ถึงไม่อยากทำก็ทำไปแล้ว พี่จะบ่นให้มันได้อะไรขึ้นมา ถ้าบ่นแล้วเจนีนได้ความบริสุทธิ์กลับคืนมาก็ว่าไปอย่าง อันที่จริงเรื่องแบบนี้มันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เรื่องแปลกซะหน่อย”

              “แต่สำหรับเจติยา...เรื่องเสียตัวให้ผู้ชายง่ายๆ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่”

              “ใครล่ะจะคิดว่ามันจะเลยเถิดมาจนถึงขั้นนี้”

              “งามหน้าจริงๆ เมาซะจนได้เสียเป็นเมียผัว นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ ล่ะก็จะจับมาหวดก้นซะให้เข็ด” นัตตี้เทศนาเจติยาซึ่งเขารักเหมือนน้องสาวไปหลายกัณฑ์จนอีกฝ่ายต้องเบรก

              “พี่นัตตี้จะเทศน์อะไรหนักหนาก็คนมันพลาดไปแล้ว ไว้กลับไปเราค่อยคุยกัน”

              เจติตารีบพูดตัดบทและวางสายทันที เพราะไม่อยากฟังอีกฝ่ายเทศนาสั่งสอนยืดยาว โดยที่ไม่รู้เลยว่าคริสได้ยินการสนทนาเหล่านั้นอย่างชัดเจน 




    เมาแล้วรั่วไล่ปล้ำผู้ชายแบบนี้ก็ได้เหรอเจนีน

    งานนี้ผู้ชายเขาไม่ยอมปล่อยแล้วเธอจะเอาตัว

    รอดไปได้อย่างไรต้องติดตามค่ะ...


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×