คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ทำอาหาร
เด็กหนุ่มสามคนในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยยองนัม มหาวิทยาลัยชื่อดังของเกาหลีกำลังเดินอย่างตั้งใจในตลาดที่วุ่นวายยามเช้าเนื่องจาก วันนี้เป็นวันชุมนุมทำให้ทั้งสามคนต่างต้องออกมาหาวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารเพราะเขาทั้งสามคนอยู่ชุมนุมคหกรรม ชุมนุมที่เป็นที่ขึ้นชื่อของมหาลัย
“ดงเฮเมื่อไหร่จะซื้อครบซักทีอ่ะ เมื่อยแล้วนะเดินมาจะครบชั่วโมงและอ่ะ เมื้อยสุดๆเลย” เด็กหนุ่มผมดำที่ชื่อดงเฮ หันมามองหน้าเพื่อนแล้วอมยิ้ม ก่อนจะพูดว่า
“ถ้าไม่อยากให้พี่แจจุง ตวาดจนลั่นห้องชุมนุมล่ะก็ ทำไปอย่าบ่นนะจ๊ะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของ ดงเฮ หันมายิ้มให้เพื่อน ดวงหน้าหวานติดจะสวยนั้นถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชาย ก็คงจะหลงคิดว่าเป็นผู้หญิงไปเต็มๆ ผิวขาวอมชมพูดูน่า ทะนุถนอมร่างบางเล็กนั้นคอยๆเดินผ่านฝูงคนไปอย่างไม่เดือดร้อน ผิดกับอีกคนหนึ่งที่บ่นพึมพำอยู่ข้างหลัง
“ดงเฮรอหน่อยดิ จะรีบเดินไปไหนนะ มาซื้อของทีไร เป็นงี้ทุกทีเลย ฮยอกนายช่วยฉันหน่อยดิ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลออกแดงๆ นั้นหันมามองแล้วก็หัวเราะ ดวงหน้าติดจะหวานเหมือนคนแรก แต่กลับแฝกความคมคายอยู่ไม่น้อย รูปร่างบางแต่สูงกว่าคนแรก แม้จะดูบอบบางแต่ก็ไม่เก้งกร่าง ผิวขาวนั้นดูสะอาดตา
“ซองมิน นายนะหัดลดความอ้วนได้แล้วนะ จะได้เดินตามคนอื่นทัน” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลไหม้นั้น ทำแก้มป่องจนน่าขัน รูปร่างดูอวบกว่าเพื่อนแต่กลับดูดีและน่ารัก อ้วนที่ไหนกันเขาเรียกว่ากำลังดูดีต่างหาก ไอ้พวกเหลือแต่กระดูก ชิ คิดได้แต่ในใจเท่านั้น เพราะถ้าพูดไปมีหวังโดน ฮยอกแจเขกมะเหงก แน่ๆ
“ก็แค่ฟักทองเอง มันจะทำให้อ้วนตรงไหนอ่ะ” ซองมินบ่นพึมพำอยู่ข้างหลัง
“ไอ้ที่กินมันฟักทองก็จริง แต่มีทั้งพายฟักทอง ฟักทองกวนและอีกมากมายที่เป็นฟักทอง มันไม่อ้วนจะไปอยู่ไหนได้ฮ่ะ ซองมิน” ฮยอกแจว่า แล้วก็แอบหัวเราะ ถ้าที่กินนะแค่ฟักทองเฉยๆฉันจะไม่บ่นซักคำ “แล้วรีบๆเดินได้แล้ว นังหมวยดงเฮมองตาเขียวมาแล้ว เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง” ฮยอกหันไปบอกกับซองมิน
“มองมาจริงด้วยอ่ะ รีบไปเร็วฉันกลัวจะเป็นกระต่ายอบฟาง” ซองมินรีบคว้ามือฮยอกแจเพื่อเดินไปหาดงเอให้เร็วที่สุด
“นายสองคนมั่วทำอะไรอยู่ฮะ ฉันยืนรอตั้งนาน แล้วมาทำพูดให้เรารีบๆ ตัวเองเดินคุยกันหนุงหนิง กันอยู่สองคน จะช่วยเราหน่อยก็ไม่มีอ่ะ เดี๋ยวเถอะถึงห้องชุมนุมฉันจะฟ้องพี่แจจุง ให้โดนด่าซะให้เข็ด เชอะ” ดงเฮเห็นเพื่อนแล้วก็บ่น ซะยาวพลางทำหน้างอนเพื่อนทั้งสอง แต่หน้าหมวยๆนั้นกับแฝงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ไม่น้อย
“ดงเฮอ่ะ อย่างอนเราเลยนะเราก็แค่เดินดูนั้นนิดนี้หน่อยเองอ่ะ แล้วที่ว่ากระหนุงกระหนิงกับไอ้ไก่ ฉันเป็นเคะนะ ไม่ใช้เมะจะได้พิศวาสไอ้ไก่” ฮยอกแจหน้าตึงขึ้นมาทันที พลางถวายมะเหมกให้ ซองมินไปหนึ่งที
“ทำไมฉันเป็นเคะแล้วผิดตรงไหนไม่ทราบฮ่ะ!!!!!!” ฮยอกแจพูดเสียงดัง งอนแก้มป่อง ซองมินเห็นแล้วอดขำไม่ได้
“อย่างอนเขาเลยนะตนเอง เขาขอโทษนะตัวเองนะ ยกโทษให้เขานะ” ซองมินเอาแก้มไปถูที่แขน ฮยอกแจอย่างน่ารัก ทำให้คนมองหลายคนทั้งชายและหญิงเขินไปตามๆกัน แทนคนที่ถูกกระทำ
“แกเลิกทำได้แล้ว ฉันขยะแขยง อี๋ทำเขาไปได้ไม่อายชาวบ้าน” ฮยอกแจว่า พลางผลักหัวซองมิน ออกไป ดงเฮมองแล้วก็อดขำตามไม่ได้ไม่ว่าจะที่ไหนเมื่อไร เพื่อนของเขาทั้งสองคนก็สามารถที่จะทะเลาะกันได้ นี้แหละสีสันของชุมนุม
“รีบๆไปกันเถอะเดี๋ยวพี่แจจุงจะรอแย่”ดงเฮพูดพลาง เดินขึ้นรถคันงามของตน
ณ ห้องชุมนุมคหกรรม มหาวิทยาลัยยองนัม
“เด็กพวกนั้นไปไหนกันนะ ช้าจัง”เสียงใสของคนอาวุโสที่สุดในชุมนุมกล่าวขึ้น แจจุงหรือพี่แจจุงนั้นเป็นนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 รูปร่างเล็กบอบบาง ผิวขาวเนียนละเอียด ดวงหน้านั้นติดจะสวยและดูดีถึงแม้ว่าจะทำหน้ายุ่งอยู่ก็ตาม
“มาแล้วครับ พี่แจจุงรอนานป่าว” ซองมินตะโกนมาแต่ไกล ถึงแม้จะไม่เห็นตัวคนพูดแต่แจจุงก็รับรู้ได้ว่าเป็นใคร
“นานมากๆๆ พี่รอเราตั้งแต่แปดโมงนี้ปาเข้าไปจะสิบเอ็ดโมงแล้ว กว่าจะมาได้”แจจุงบ่นให้ น้องทั้งสามคน
“ก็ซองมินกับฮยอกนั้นแหละครับ มั่วแต่เล่นกันผมดิซื้อของคนเดี๋ยวมันเลยช้า”ดงเฮโยนความผิดให้เพื่อนทั้งสองคนพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ แปลได้ว่า ขอฉันเอาคืนบ้างนะ ซองมินและฮยอกอ้าปากค้าง นังหมวยแกเอาตัวรอดคนเดียวได้ไงอ่ะ นังเคะทรยศ แต่ก็ได้แค่คิด เพราะเป็นความผิดของทั้งสองคนจริงๆก็ถ้าเขาช่วยดงเฮซื้อของมันก็คงจะเร็วกว่านี้ (มั้ง)
“เอาละ อย่ามายืนเถียงกันเลยไปเตรียมของทำอาหารกันดีกว่า เสียเวลามากแล้ว เดี๋ยวจะไม่ทัน” แจจุงพูดเสร็จก็นำของที่ซื้อมาออกมาเตรียมเพื่อตรวจสอบ และดูว่าขาดตกบกพร่องตรงไหนบ้าง
“ขอบคุณครับ”ทั้งสามพูดพร้อมกัน ฮยอกแจกับซองมินหันมาเขกมะเหงก ดงเฮคนละที
“ข้อหาเป็นเคะทรยศ นังหมวย” ทั้งสองพูดพร้อมกัน ดงเฮได้แต่ลูบหัวป้อยๆ แล้วไม่สนใจอะไรเดินไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไป
ผ่านไปชั่วโมงกว่า อาหารหลากหลายชนิดว่างอยู่บนโต๊ะกลางของห้องชุมนุม ทั้งกลิ่นและสีสัน ต่างเชิญให้คนที่ได้กลิ่นเข้ามาลิ้มลองรสชาติ ทั้งอาหารคาวและหวาน รวมทั้งเครื่องดื่มอีกหลายรายการ
“พี่แจจุงครับ เราทำมากมายแบบนี้แล้วจะกินกันหมดหรอ”ดงเฮหันมาถามคนที่เป็นหัวหน้าชุมนุม
“จริงครับพี่ ผมว่าขนกลับไปกินบ้านอีกสามวันก็ไม่หมด”ซองมินว่าพลางกันขนมปังไส้ฟักทอง อย่างเอร็ดอร่อย
“ไอ้กระต่าย!! แกทำอาหารเกี่ยวกับฟักทองอีกแล้วใช้ไหมฮะ”ฮยอกแจว่าพลางตบหน้าผากตัวเอง เป็นงี้ทุกทีไอ้กระต่ายอ้วน ซองมินได้ยินก็หันมายิ้มหน้าบานให้กับฮยอกแจ
“พี่ว่าเอางี้ดีกว่า เราก็เรียกเพื่อนมากินด้วยเป็นไง จะได้มีคนมากินข้าวร่วมกับเราเยอะๆ สนุกดีและอาหารจะได้มีคนมาวิจารณ์ด้วย ถือซะว่าเป็นการพัฒนาในการทำอาหารครั้งต่อไปด้วยดีไหม”
“ก็ดีนะครับ ดงเฮแกโทรเรียกเรียวอุคมาดิ ปล่อยมันนั่งเอ๋อคนเดียวเดี๋ยวโดนไอ้เยซองหน้าซาลาเปาไส้ไข่เค็มนั้นงาบหรอก” ซองมินหันมาบอกดงเฮ
“งั้นก็ตามแฟนแกมาด้วยดิ ไอ้คยูอ่ะสงสัยหลับตายขึ้นอืดเป็นหมูเหมือนแกแล้วมั้ง”ฮยอกแจพูดพลางกัดซองมินได้ตรงจุด
“แฟนที่ไหนกัน ไม่ใช้ซะหน่อย”ซองมินพูดเสียงเบาๆอ่อนๆ
“ไม่ใช่แฟนแต่ไปด้วยกันทุกเย็น ไม่ใช่แฟนแต่ป้อนข้าวกัน ไม่ใช่แฟนแต่แอบร้องไห้เวลาเขาเจ็บ ไม่ใช่แฟน....” ฮยอกแจกำลังจะพูดตอแต่เสียงหนึ่งขัดขึ้นมาเสียก่อน
“หอมจังวันนี้มีไรกินบ้างอ่ะ”เสียงทุ้มนุ่มดังลอดเขามา
“ยุนโฮ ฉันว่ากำลังจะโทรหานายพอดีเลยมาได้ไงอ่ะ แล้วไปทำไรมาถึงเหงื่อออกเต็มตัวแบบนี้”
“แจจุงจะเอาคำตอบไหนก่อนอ่ะครับ”ว่าพลางเดินมาหอมแก้ม ชายหนุ่มผมดำร่างสูงโปร่งดูแข็งแรงกับกล้ามที่เป็นมัดๆกระชากใจสาวไม่น้อย บวกกับผิวขาวนั้นแล้วชวนอยากให้จับจอง
“หรือว่าอยากจะได้คำตอบจากหัวใจ ผมก่อนดี”
“บ้าพอได้แล้วยุนโฮ เกรงใจเด็กๆหน่อยสิ”แจจุงตีเบาๆที่แขนของคนรักเป็นการเตือน
“ไม่เป็นไรครับพี่ พวกผมรับได้ อิ อิ”ซองมินหัวเราะเบาๆ
“มาแล้วครับ รอกันนานป่าว”เสียงทุ้ม ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆตรงมุมปาก
“ใครโทรเรียกคยูมาอ่ะ” ดงเฮหันไปถามเพื่อนทั้งสองคน
“ฉันเองแหละ”เป็นคำตอบที่ได้รับจากฮยอกแจ ที่มาพร้อมกับสายตาค้อนวงโตของซองมิน
“ไม่มีไรทำหรือไง ถึงได้มาที่นี้เร็วนักอ่ะ”ซองมินหันไปถามคยูที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู
“ก็คิดถึงตัวเองไง เขาเลยรีบมาเห็นบอกมีเรื่องสำคัญ”คยูบอกซองมินตามตรงหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากฮยอกแจ
“เรื่องสำคัญไรอ่ะ ฮยอกแกบอกไรคยูฮะ”ซองมินหันไปถามเสียงเรียบ
“ก็แบบว่า แกมีเรื่องให้มันช่วย ไรงี้”ฮยอกแจรีบแกตัวทันควัน จะบอกได้ไงว่ามันรีบตกปากรับคำตั้งแต่บอกว่าแกทำอาหารอ่ะ ซวยตูดิแล้วยังไปบอกมันว่าแกมีปัญหาสำคัญงี้ ตูจิตายก่อน
คยูฮยอนเป็นนักคณะวิศวกรรมศาสตร์ อยู่ชุมนุมว่ายน้ำเขาเป็นเดือนของคณะต่อจากยุนโฮ ผิวขาวตามแบบฉบับลูกผู้ดีมีเงิน แต่งการเรียบร้อยพูดจาสุภาพพร้อมกับรอยยิ้มน้อยนั้น ที่ซองมิน เรียกว่ารอยยิ้มหมาป่า เพราะมันดูแสยะยิ้มมากกว่า และดวงตาที่ดูเจ้าเล่ห์แสนกลนั้นอีก ที่ทำให้ใครๆต่างมองและหลงใหลกับนัยน์ตาคู่นั้น
“เมื่อไรเรียวอุคจะมาซักทีเนี้ย”ดงเฮบ่นพึมพำก็เขาโทรหาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วเห็นบอกว่าที่ชุมนุมไม่มีไรอีกสิบนาทีถึง แล้วผ่านมาครึ่งชั่วโมงยังไม่มาซักที
“มาแล้ว มาแล้วครับ รอนานไหมครับ”เด็กหนุ่มผมสีดำวิ่งมาแล้วหยุดหายใจที่หน้าห้อง เห็นได้ชัดว่าวิ่งมาไกลเพราะตอนนี้เจ้าตัวออกอาการหอบแฮกๆ
“นานมาก!!!”เสียงของเพื่อนทั้งสามตะโกนพร้อมกัน “ทำไมพึ่งมาไหนบอกว่าที่ชุมนุมไม่มีอะไรไง หรือแกแอบไปทำอะไรกับใครมา บอกฉันมาเดี๋ยวนี้คิมเรียวอุค”ซองมินตั้งตัวเป็นผู้พิพากษาแต่ก่อนที่จะได้คำตอบนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“เรียวอุคอ่ะ จะรอฉันหน่อยไม่ได้หรอ เห็นมั้ยอ่ะฉันวิ่งมาจนเหนื่อยเลยนายต้องรับผิดชอบด้วย”
“ไอ้ซาลาเปาไส้ไข่เค็ม/เยซอง”เสียงแรกเป็นของซองมินและอีกสามเสียงเป็นของคยู ฮยอกแจและดงเฮ
“เอาละมาครบกันทุกคนแล้วนะ งั้นไปกินข้าวกันสงสัยเย็นหมดแล้ว”เสียงขึ้นแจจุงดังขึ้นก่อนที่ ซองมินจะได้สอบสวนจำเลย ในระหว่างกินข้าวบรรยากาศเป็นไปตามปกติ แต่มีเพียงสายตาของซองมินที่คอยจับผิดเยซองอยู่บ่อย จนหลายคนส่ายหน้าขำๆ ใครๆต่างก็รู้ถึงกิตติศัพท์ความหวงเพื่อนของซองมินดี เลยไม่มีใครคิดจะห้ามเพราะห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์
“รีบๆกินแล้วแกก็ไปให้พ้นจากเพื่อนฉันซะ ไอ้ซาลาเปาไส้ไข่เค็ม”ซองมินพูดขึ้นในที่สุด
“แล้วถ้าฉันไม่ไปละ ไอ้กระต่ายฟักทองอ้วน”เยซองทำหน้าล้อเลียนแลบลิ้นให้ซองมิน
“แกตายไอ้ซาลาเปา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”ซองมินลุกขึ้นหวังจะคว้าคอเสื้อของเยซอง แต่ฝ่ายนั้นไหวตัวทันเลยหลบฉาก จึงทำให้พลาดคว้าได้แต่อากาศยังไม่พอโดนนิ้วมือของเรียวอุคที่กำลังยกมือขึ้นห้ามจิ้มเข้าที่ตาอีก
“ซองมินเป็นไงบ้างอ่ะ”เรียวอุคลุกจากที่นั่งมาดูเพื่อน
“ก็เจ็บอะดิถามมาได้”ซองมินตอบกลับไป พลางชี้นิ้วฝากแค้นไว้กับคนต้นเหตุ
“ให้ทุกข์แกท่านทุกข์นั้นถึงตัว ฮ่า ฮ่า”เยซองหัวเราะลั่น แล้วก็กลับมานั่งตามเดิม
“ไม่กงไม่กินมันแล้ว คยูกลับ”ซองมินหันไปสั่งคนที่นั่งข้างๆอย่างเคยตัว
“แต่เขายังไม่อิ่มเลยอ่ะ”คยูพูดเสียงอ่อน
“ถ้าจะอยู่กินก็ไม่ต้องพูดกับฉันอีก แล้วไม่ต้องเจอกัน”ซองมินเดินกระทืบเท้าออกไป คยูจึงต้องรีบโค้งขอโทษแทนแล้ววิ่งตามไป
“เป็นงี้ทุกที่”เพื่อนทั้งสามคนถอนหายใจพร้อมกันก่อนส่ายหน้าช้า
ความคิดเห็น