คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : NUMBERONE .
เวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ..และไม่เคยจะหยุดนิ่งเพื่อคอยใคร..ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานซักแค่ไหน ผมก็ยังจะรอให้เขากลับมา..ถึงแม้ว่า..จะไม่มีโอกาสนั้นให้ผมอีกต่อไป ..เวลาผ่านไปนานซักแค่ไหนแล้วนะ..ผมค่อยแต่เฝ้าเขียนไดอารี่เพื่อบอกเล่าวันเวลาทุกๆวันที่ผมพบเจอไว้ในสมุดเล่มนี้ ผมเขียนมาได้แล้วห้าปีหลังจากได้เจอคนๆนั้น คนที่ทำให้ผมได้เขียนทุกเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองลงในสมุดเล็กๆนี้ เพื่อซักวันหนึ่งเมื่อผมได้พบกับเขาอีกครั้ง ผมจะให้เขาได้อ่านมัน ผมไม่สนว่าจะได้เจอกันอีกไหม หรือถ้าเจอเขาจะยังจำผมได้หรือเปล่า ผมก็จะเขียนจนกว่าจะได้เจอกับเขา จนกว่าจะไม่มีแรงเขียน และจนกว่าผมจะหมดลมหายใจ ..
"รยอวุค ! นายมัวแต่เขียนอะไรอยู่น่ะหืม ? พี่เห็นนายเขียนมันมาก็หลายปีแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง" ชายคนหนึ่งเอ่ยทัก ด้วยใบหน้าที่หวานเกินหญิง จึงเป็นที่ถูกตาต้องใจใครหลายๆคนตากลมโต ปากเรียวสีชมพูอิ่ม ผมยาวประบ่า ชายคนนั้นคือ 'ลี ทงเฮ' รุ่นพี่ร่วมห้องของเขานั้นเอง
"ก็ไดอารี่นั้นแหล่ะพี่ ผมจะเขียนไปเรื่อยๆ ไม่เห็นจะน่าเบื่อตรงไหนเลย พี่ลองซิ สนุกนะ"
"เหอะๆ ไม่เอาด้วยล่ะ นายก็รู้ว่าพี่ความอดทนต่ำแค่ไหน ว่าแต่ขออ่านไม่ได้หรอ"
"ยังไงก็ไม่ได้พี่"
"ไม่อ่านก็ได้ เออจะไปทำงานพร้อมกันเลยไหม ? พี่คิดว่าจะออกไปตอนนี้เลยก่อนที่ฝนมันจะตก ยิ่งอากาศไม่แน่นอนอยู่"
"งั้นรอก่อนนะ" ผมรีบวิ่งไปที่ห้องหยิบของใส่กระเป๋าแล้ววิ่งมาหาพี่ทงเฮแล้วออกไปพร้อมกัน
ผมชื่อ คิม รยอวุค ทำงานร้องเพลงกลางคืนอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งใจกลางกรุงโซล และพี่ทงเฮก็เป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่เดียวกัน ผมจึงออกไปทำงานพร้อมกับพี่ทงเฮบ่อยๆ อย่างวันนี้ก็เหมือนกัน เหตุการณ์ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ผมนั่งรถประจำทาง พบเจอกับสิ่งมากมายตามเส้นทางเดิมๆ พี่ทงเฮก็ชวนพูดไปตามประสาคนช่างพูด
ผมก็ได้แต่มองออกไปทางหน้าต่าง คอยมองว่าจะเจอคนคนนั้นหรือไม่..แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ วัฐจักรการดำเนินชีวิตของแต่ล่ะคนนั้นก็เป็นไปตามครรลองของมัน ผมได้แต่เฝ้ามองอย่างนี้ทุกๆวัน ในยามที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า มันเป็นช่วงเวลาที่กำลังบ่งบอกถึงเวลาสิ้นสุดการทำงานของใครหลายๆคน เว้นแต่ใครบางคนอย่างเช่นผมและพี่ทงเฮ ที่มองแสงสีอัมพันลับขอบฟ้าเป็นวันเริ่มต้นของพวกเรา..
จนกระทั้งมาถึงที่ที่เราสองคนทำงาน ผมและพี่ทงเฮเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเก็บของและเตรียมตัว พี่ทงเฮเมื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบของบาร์ก็ได้เดินของไปเพื่อเช็คของ ส่วนผมก็เตรียมเพลงที่จะร้องในคืนนี้
" อุคกี้ ! สวัสดียามค่ำคืนนะ คืนนี้ยังไงท้องฟ้าก็ยังงดงามไปด้วยความแปดเปื้อนของแสงไฟอยู่ตลอดเนอะ" เมื่อชายปริศนาพูดจบก็พลางตบบ่าเบาๆ
"พี่ทึกกี้ สวัสดีฮ่ะ มาให้ตกใจอยู่เรื่อยเลย" ชายหนุ่มปริศนาหน้าหวานอีกคน 'ปาร์ค จองซู' หรือคนในวงการเรียกว่า 'ลีทึก' ดีเจผู้มีชื่อเสียง หรือ เสีย ในด้านปาก แต่ความสามารถในงานที่ทำและการมองคนนั้นดีซะจนเอามาแทนกับคำพูดที่ดูสยดสยองได้ดีทีเดียว ไม่แปลกใจเลยว่าไม่ว่าใครก็ต้องการตัวเขา
"นายน่ะนะ จะทำงานที่นี่ไปถึงเมื่อไหร่ พี่สามารถคุยกับค่ายดังๆให้นายไปเป็นนักร้องได้เลยนะ ความสามารถก็มีหน้าตาก็ใช้ได้ ทำไมนายไม่สนใจเลย"
"พี่ครับ..ตอนนี้ผมยังไม่อยากคิดเรื่องอย่างนั้นเลย คนที่มีความสามรถมากกว่าผมก็มีเยอะแยะ ผมคงสู้ไม่ได้หรอก"
"พี่ดูคนไม่เคยผิดหรอกน่า เอานามบัตรไป ไปค่ายนี้นะแล้วบอกว่าเป็นเด็กพี่ แล้วโชว์ความสามารถของนายซะ เขาต้องรับนายแน่นอน"
"มันจะดีหรอครับ พี่ก็รู้..ถึงพี่จะพูดอีกกี่ครั้งผมก็.."
"หยุดเลยๆ พี่น่ะเห็นแววในตัวนาย รับรองดังแน่ เอาล่ะ จะถึงเวลาของพี่ล่ะ พี่ออกไปก่อนนะ บ๊ายบาย~" ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดทักท้วงอะไร พี่ทึกกี้ก็เดินออกไปซะแล้ว พี่ทึกกี้พยายามให้ผมไปเทรนกับค่ายเพลง ทุกครั้งที่เจอหน้าก็จะหลอกล่อด้วยคำพูดสารพัด ซึ่งผมยังอยากอยู่เงียบๆอย่างนี้ไปอีกซักพัก ..
"สวัสดีทุกๆท่านที่มากันนะครับ ผมดีเจ ลีทึก ทึกกีทึกกี้ มารายงานตัวแล้วในสัปดาห์นี้ เอา~ ใครอยากแดนซ์กระจายเชิญมาที่หน้าเวทีได้เลย เชิญเลยครับมาแปดเปื้อนด้วยทำนองดนตรีอันเร้าร้อนในคำคืนนี้กันเลย Let's Go!!!~" หลังจากพูดจบเสียงดนตรีก็ดังขึ้น ทุกคนต่างเดินมากันตรงกลางฟอร์ บางคนเริ่มที่จะโยกตัวตามจังหวะไปเรื่อย จนเมื่อเล่นไปได้ซักพักเสียงดนตรีก็ดูกระหน่ำและรุนแรงขึ้น ลีทึกพยายามจะกระชากจิตวิญญาณของผู้คนด้วยเสียงดนตรีที่เร้าร้อนและรุนแรงและเขาก็มักจะทำสำเร็จทุกครั้ง..
ผมนั่งฟังเสียงดนตรีที่พี่ทึกกี้ถ่ายทอดออกมา ราวกับรู้ใจของผู้คนตรงหน้า พี่เขาช่างเป็นคนที่มีความพิเศษอยู่ในตัวมากมายเหลือเกิน เพราะเหตุนี้ซินะพี่ทึกกี้ถึงมีคนชื่นชมมากมาย และอีกไม่นานก็จะใกล้ถึงเวลาของผมแล้วล่ะ ผมอ่านเนื้อเพลงเพื่อเตรียมตัวจะขึ้นแสดงในวันนี้ ‘One Fine Spring Day’ คือเพลงที่ผมจะร้องในวันนี้ เป็นเพลงที่ผมต้องการจะสื่อบางสิ่งให้คนๆ นั้นได้รู้
และเมื่อใกล้จะถึงเวลาแสดงพี่ทึกกี้ก็หยุดเสียงเพลงลง
“เอาล่ะทุกท่าน ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาปรับอารมณ์ฟังเพลงสบายๆ จากหนุ่มน้อยเสียงดีกันแล้ว พบกับหนุ่มน้อยหน้าหวานเสียงทรงพลัง คิม รยอวุค ได้เลยครับ !”
“สวัสดีทุกท่านนะครับ พี่ทึกกี้ก็พูดเกินไป” ผมได้แต่หัวเราะแก้เก้อ ก่อนที่ผมจะเตรียมตัว ผมก็พูดถึงเพลงๆ นี้..
“เพลงนี้มีชื่อว่า One fine Spring Day เป็นเพลงที่ผมแต่งขึ้นมาเพื่อ..” เสียงบรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด ผมสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก่อนที่จะผ่อนลมออกสิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ผมพูดออกมาจากความรู้สึก เป็นสิ่งที่ผมต้องการให้คนๆ นั้นได้รับรู้ในสิ่งที่ผมเก็บไว้ในใจมาตลอดห้าปีตั้งแต่ที่เขาได้หายตัวไป.. “ผมแต่งเพลงนี้เพื่อใครคนหนึ่งที่ผมรอ รอมาตลอดระยะเวลาห้าปี ถามว่าทำไมผมถึงนำเพลงนี้ออกมาร้องให้ทุกคนฟังในคืนนี้ เพราะผมอยากให้เขาได้รับรู้ว่าผมยังรอเขาอยู่ ถ้าเขาบังเอิญอยู่ตรงนี้ ผมก็อยากให้เขาฟังเพลงนี้จนจบ”
เมื่อผมพูดจบ เสียงทำนองดนตรีค่อยๆ ขึ้นมาอย่างเชื่องช้า..จังหวะและทำนองยังก้องอยู่ในหัวของผม ผมหลับตาได้ซักพัก ก็เริ่มท่อนแรกออกมา ซึ่งดึงมาจากความรู้สึกที่ผมอยากจะให้จากใจของผม..
그 날처럼 따뜻한 바람 불고
คือ นันชอรอม ตันตือตาน บารัม บุลโก
ลมอุ่นพัดมาเหมือนคืนนั้น
그대가 사랑하던 화분엔 꽃이 피고
คือเดกา ซารางฮาดันฮาบุนเนน โกชี พีโก
ดอกไม้ที่คุณชอบนั้นผลิบาน
어느 샌가 또 봄날이 드리워도,
ออนึน แซนคา โต โบมนารี ดือรีวอโด
ก่อนที่ฉันรู้ว่าฤดูใบไม้ผลิได้กลับมาอีกครั้ง
아직도 난 깊은 겨울 잠을 자고 싶어
อาจิกโด นัน คีพีน คยออุล จามอึล จาโค ชีพอ
ฉันยังอยากหลับสนิทเหมือนตอนฤดูหนาว
아주 멀리, 아주 멀리 그대가 있나요
อาจู มอลรี, อาจู มอลรี คือแดกา อิดนาโย
คุณอยู่ที่ไกลมาก , ที่ไกลมาก
사실 난 그대가 매일 그리운데
ซาซิล นัน คือแดกา เมอิล คือรีวุนเด
เพื่อความจริงใจที่มีต่อคุณ ฉันคิดถึงคุณทุกๆวัน
아주 작은, 아주 작은 사소한 것들에도
อาจู จักกึน, อาจู จักกึน ซาโซ ฮัน กอดดึลเยโด
มันเป็นสิ่งที่เล็กน้อย, เป็นความคิดเพียงเล็กน้อย
매일 그대가 생각이 나
แมอิล คือแดกา แซงคักกีนา
ที่ทำให้ฉันคิดถึงคุณทุกวัน
방안 가득 남아 위로해 주던
บังกาน กาดึก นัมมา วีโรแฮ จูดอน
กลิ่นน้ำหอมของคุณที่หลงเหลืออยู่ในห้อง
그대 향기가 꽃 속에 다 흩어져
คือแด ฮยังกีกา โกด โซกเก ดา ฮึลรอจวอ
เหมือนมีดอกไม้อยู่รอบๆเต็มไปหมด
언젠가는 느낄 수 없을까 봐
ออนเจนกานึน นึกกิล ซูออบซือกา บวา
เพราะฉันกลัวว่าวันหนึ่งฉันจะไม่สามารถรู้สึกถึงมัน
그대 있던 공기라도 붙잡아 두고 싶어
คือแด อิดดอน คงกีราโด บึลจามา ดูโก ชิพพอ
ฉันอยากจะไปในที่ๆคุณเคยไป
아주 멀리, 아주 멀리 먼 곳에 있나요
อาจู มอลรี , อาจู มอลรี มอนคดเซ อิดนาโย
คุณอยู่ที่ไกลมาก , ที่ไกลมาก
사실 난 그대가 매일 그리운데
ชาชิล นัน คือแดกา แมอิล คือรีวุนเด
เพื่อความจริงใจของฉันที่มีต่อคุณ ฉันคิดถึงคุณทุกๆวัน
아주 작은, 아주 작은 사소한 것들에도
อาจู จักกึน , อาจู จักกึน ซาโซฮันกอดดึลเรโด
มันเป็นสิ่งที่เล็กน้อย, เป็นความคิดเพียงเล็กน้อย
매일 그대가 생각이 나
แมอิล คือแดกา แซงกากีนา
ที่ทำให้ฉันคิดถึงคุณทุกวัน
하루가 몇 달이 되고,
ฮารูกา มยอด ดัลรี ดเวโก
จากวันกลายเป็นเดือน
언젠가는 내 맘에도 오늘 같은 새 봄이 올 텐데
ออนเจนกานึน แน มัมเมโด โอนึล กัลรึน แซ บมมี อน เทนเด
ฤดูใบไม้ผลิครั้งใหม่เหมือนเป็นสิ่งเล็กน้อยภายในใจฉัน
아주 멀리, 아주 멀리 먼 곳에 있네요
อาจู มอลรี, อาจู มอลรี มอนโกดเซ อิดนาโย
คุณอยู่ที่ห่างไกลมาก , ที่ห่างไกลมาก ที่ที่ไกลมาก
그대의 매일은 봄날이라 믿어
คือแดเย แมอิลรึน บมนัลอีรา มิดดอ
ทุกวันในฤดูใบไม้ผลิฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ
아주 먼 날, 아주 먼 그대 나를 만나면
อาจู มอนนัล, อาจู มอน คือแด นารึล มันนามยอน
ในวันที่ห่างไกล, ในอนาคตที่ห่างไกล, ถ้าคุณได้เห็นฉัน
늘 함께였다고 얘기해 줘
นึล ฮัมเกมยอดดาโก เยกีแฮ จวอ
บอกกับฉันว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
One fine Spring Day : Kim Ryeowook of Super Junior
Album 4 Bonamana
ฟังเพลงไปด้วยแล้วจะรู้สึกถึงเสียงเพราะๆของอุค..เคลิ้มเลย แนะนำว่าอ่านไปด้วยฟังไปด้วย เศร้ามา T T
Music Playlist at MixPod.com
เมื่อเพลงจบเสียงปรบมือมากมายดังก้อง ในขณะที่ผมร้องเพลงนี้ น้ำตาของผมไหลออกมา เสียงของผมสั่น แต่ผมก็พยายามร้อง ร้องให้จบ เพื่อที่จะส่งความรู้สึกนี้ไปให้ ผมพูดขอบคุณทุกคนแล้วรีบวิ่งลงจากเวทีทันที ผู้คนต่างตกในในการกระทำของผม เสียงเซ็งแซ่มากมาย ซึ่งผมรับรู้ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่ามันดังแค่ไหน เมื่อพี่ทึกกี้เห็นผมร้องไห้ลงมาก็ได้แต่กอดปลอบผม ผมร้องไห้หนักมาก แทบจะไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ
“อุคกี้ ! อุคกี้ ! คิม รยอวุค ! นายเป็นอะไรบอกพี่มาซิ เงียบน่าอย่าร้องไปเลย” พี่ทึกกี้ได้แต่กอดปลอบผมเท่านั้น เมื่อพี่ทงเฮเห็นเหตุการณ์บนเวทีก็รีบวิ่งตรงดิ่งมาที่ผมทันที
“พี่ทึกกี้ฮะ ไม่ต้องห่วงนะฮะเดี๋ยวผมจะพารยอวุคกลับบ้านเอง ฝากวานพี่ช่วยบอกเจ้าของร้านด้วยนะครับ”
“ได้ๆ พวกนายกลับกันดีดีล่ะ ทงเฮดูแลอุคกี้ด้วยล่ะ!”
และนี่คืออีกหนึ่งวันที่ผมเขียนลงในไดอารี่สิ่งที่ผมเป็นในวันนี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าตลอดเวลาผมมีแค่เขาคนเดียว เมื่อกลับมาถึงบ้าน อาการของผมก็ดีขึ้น และผมจะต้องอยู่ต่อไปจนกว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งหนึ่ง
Ryeog9
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในที่สุดตอนหนึ่งก็เรียบร้อยแล้ววว ว
ที่มันยาวก็เพราะเพลงนั้นแหล่ะนะ -0-
เป็นไงกันบ้างกับการแต่งแนวใหม่ (?)
เนื้อเรื่องก็เป็นบทโศกมากกว่าฟิคเรื่องอื่นๆที่แต่งมา (แล้วก็ยังไม่จบ = =)
ผลโหวตเรื่องนี้เป็นที่น่าตกใจมาก แต่ยังไงก็ปล่อยให้โหวตกันเรื่อยๆจนกว่าจะเฉลยเลยแล้วกัน (?)
ขอแนะนำว่าที่บอกว่าเพลงที่เอามานั้นอุคแต่ง เป็นเพียงแค่การสมมติเฉยๆ เดี๋ยวจะตกใจกัน = =;
แต่เพลงนี้อุคร้องจริงๆ ชอบมากฟังแล้วเคลิ้ม แต่พอมาอ่านความหมาย แม่เจ้า ! มันเศร้ามาก TT[]TT
ยังไงก็ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกซอกใจกันด้วย รักอุคชอบอุคมากมายก่ายกอง (?)
แล้วเจอกันใหม่จ้า -3-
อ่อ สวนอีกสองเรื่องจะมาตามเช็ดตามถูแน่นอน รับรองว่าเร็วๆนี้ (?) จุ๊บๆ
ความคิดเห็น