ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ryeowook's in memory diary . สมุดบันทึกความทรงจำของผม

    ลำดับตอนที่ #1 : NUMBERONE .

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.พ. 55


    เวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ..และไม่เคยจะหยุดนิ่งเพื่อคอยใคร..ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานซักแค่ไหน ผมก็ยังจะรอให้เขากลับมา..ถึงแม้ว่า..จะไม่มีโอกาสนั้นให้ผมอีกต่อไป ..เวลาผ่านไปนานซักแค่ไหนแล้วนะ..ผมค่อยแต่เฝ้าเขียนไดอารี่เพื่อบอกเล่าวันเวลาทุกๆวันที่ผมพบเจอไว้ในสมุดเล่มนี้ ผมเขียนมาได้แล้วห้าปีหลังจากได้เจอคนๆนั้น คนที่ทำให้ผมได้เขียนทุกเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองลงในสมุดเล็กๆนี้ เพื่อซักวันหนึ่งเมื่อผมได้พบกับเขาอีกครั้ง ผมจะให้เขาได้อ่านมัน ผมไม่สนว่าจะได้เจอกันอีกไหม หรือถ้าเจอเขาจะยังจำผมได้หรือเปล่า ผมก็จะเขียนจนกว่าจะได้เจอกับเขา จนกว่าจะไม่มีแรงเขียน และจนกว่าผมจะหมดลมหายใจ ..

    "รยอวุค ! นายมัวแต่เขียนอะไรอยู่น่ะหืม ? พี่เห็นนายเขียนมันมาก็หลายปีแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง" ชายคนหนึ่งเอ่ยทัก ด้วยใบหน้าที่หวานเกินหญิง จึงเป็นที่ถูกตาต้องใจใครหลายๆคนตากลมโต ปากเรียวสีชมพูอิ่ม ผมยาวประบ่า ชายคนนั้นคือ 'ลี ทงเฮ' รุ่นพี่ร่วมห้องของเขานั้นเอง

    "ก็ไดอารี่นั้นแหล่ะพี่ ผมจะเขียนไปเรื่อยๆ ไม่เห็นจะน่าเบื่อตรงไหนเลย พี่ลองซิ สนุกนะ"

    "เหอะๆ ไม่เอาด้วยล่ะ นายก็รู้ว่าพี่ความอดทนต่ำแค่ไหน ว่าแต่ขออ่านไม่ได้หรอ"

    "ยังไงก็ไม่ได้พี่"

    "ไม่อ่านก็ได้ เออจะไปทำงานพร้อมกันเลยไหม ? พี่คิดว่าจะออกไปตอนนี้เลยก่อนที่ฝนมันจะตก ยิ่งอากาศไม่แน่นอนอยู่"

    "งั้นรอก่อนนะ" ผมรีบวิ่งไปที่ห้องหยิบของใส่กระเป๋าแล้ววิ่งมาหาพี่ทงเฮแล้วออกไปพร้อมกัน

    ผมชื่อ คิม รยอวุค ทำงานร้องเพลงกลางคืนอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งใจกลางกรุงโซล และพี่ทงเฮก็เป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่เดียวกัน ผมจึงออกไปทำงานพร้อมกับพี่ทงเฮบ่อยๆ อย่างวันนี้ก็เหมือนกัน เหตุการณ์ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ผมนั่งรถประจำทาง พบเจอกับสิ่งมากมายตามเส้นทางเดิมๆ พี่ทงเฮก็ชวนพูดไปตามประสาคนช่างพูด

    ผมก็ได้แต่มองออกไปทางหน้าต่าง คอยมองว่าจะเจอคนคนนั้นหรือไม่..แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ วัฐจักรการดำเนินชีวิตของแต่ล่ะคนนั้นก็เป็นไปตามครรลองของมัน ผมได้แต่เฝ้ามองอย่างนี้ทุกๆวัน ในยามที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า มันเป็นช่วงเวลาที่กำลังบ่งบอกถึงเวลาสิ้นสุดการทำงานของใครหลายๆคน เว้นแต่ใครบางคนอย่างเช่นผมและพี่ทงเฮ ที่มองแสงสีอัมพันลับขอบฟ้าเป็นวันเริ่มต้นของพวกเรา..

    จนกระทั้งมาถึงที่ที่เราสองคนทำงาน ผมและพี่ทงเฮเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเก็บของและเตรียมตัว พี่ทงเฮเมื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบของบาร์ก็ได้เดินของไปเพื่อเช็คของ ส่วนผมก็เตรียมเพลงที่จะร้องในคืนนี้

    " อุคกี้ ! สวัสดียามค่ำคืนนะ คืนนี้ยังไงท้องฟ้าก็ยังงดงามไปด้วยความแปดเปื้อนของแสงไฟอยู่ตลอดเนอะ" เมื่อชายปริศนาพูดจบก็พลางตบบ่าเบาๆ

    "พี่ทึกกี้ สวัสดีฮ่ะ มาให้ตกใจอยู่เรื่อยเลย" ชายหนุ่มปริศนาหน้าหวานอีกคน 'ปาร์ค จองซู' หรือคนในวงการเรียกว่า 'ลีทึก' ดีเจผู้มีชื่อเสียง หรือ เสีย ในด้านปาก แต่ความสามารถในงานที่ทำและการมองคนนั้นดีซะจนเอามาแทนกับคำพูดที่ดูสยดสยองได้ดีทีเดียว ไม่แปลกใจเลยว่าไม่ว่าใครก็ต้องการตัวเขา

    "นายน่ะนะ จะทำงานที่นี่ไปถึงเมื่อไหร่ พี่สามารถคุยกับค่ายดังๆให้นายไปเป็นนักร้องได้เลยนะ ความสามารถก็มีหน้าตาก็ใช้ได้ ทำไมนายไม่สนใจเลย"

    "พี่ครับ..ตอนนี้ผมยังไม่อยากคิดเรื่องอย่างนั้นเลย คนที่มีความสามรถมากกว่าผมก็มีเยอะแยะ ผมคงสู้ไม่ได้หรอก"

    "พี่ดูคนไม่เคยผิดหรอกน่า เอานามบัตรไป ไปค่ายนี้นะแล้วบอกว่าเป็นเด็กพี่ แล้วโชว์ความสามารถของนายซะ เขาต้องรับนายแน่นอน"

    "มันจะดีหรอครับ พี่ก็รู้..ถึงพี่จะพูดอีกกี่ครั้งผมก็.."

    "หยุดเลยๆ พี่น่ะเห็นแววในตัวนาย รับรองดังแน่ เอาล่ะ จะถึงเวลาของพี่ล่ะ พี่ออกไปก่อนนะ บ๊ายบาย~" ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดทักท้วงอะไร พี่ทึกกี้ก็เดินออกไปซะแล้ว พี่ทึกกี้พยายามให้ผมไปเทรนกับค่ายเพลง ทุกครั้งที่เจอหน้าก็จะหลอกล่อด้วยคำพูดสารพัด ซึ่งผมยังอยากอยู่เงียบๆอย่างนี้ไปอีกซักพัก ..

    "สวัสดีทุกๆท่านที่มากันนะครับ ผมดีเจ ลีทึก ทึกกีทึกกี้ มารายงานตัวแล้วในสัปดาห์นี้ เอา~ ใครอยากแดนซ์กระจายเชิญมาที่หน้าเวทีได้เลย เชิญเลยครับมาแปดเปื้อนด้วยทำนองดนตรีอันเร้าร้อนในคำคืนนี้กันเลย Let's Go!!!~" หลังจากพูดจบเสียงดนตรีก็ดังขึ้น ทุกคนต่างเดินมากันตรงกลางฟอร์ บางคนเริ่มที่จะโยกตัวตามจังหวะไปเรื่อย จนเมื่อเล่นไปได้ซักพักเสียงดนตรีก็ดูกระหน่ำและรุนแรงขึ้น ลีทึกพยายามจะกระชากจิตวิญญาณของผู้คนด้วยเสียงดนตรีที่เร้าร้อนและรุนแรงและเขาก็มักจะทำสำเร็จทุกครั้ง..

    ผมนั่งฟังเสียงดนตรีที่พี่ทึกกี้ถ่ายทอดออกมา ราวกับรู้ใจของผู้คนตรงหน้า พี่เขาช่างเป็นคนที่มีความพิเศษอยู่ในตัวมากมายเหลือเกิน เพราะเหตุนี้ซินะพี่ทึกกี้ถึงมีคนชื่นชมมากมาย และอีกไม่นานก็จะใกล้ถึงเวลาของผมแล้วล่ะ ผมอ่านเนื้อเพลงเพื่อเตรียมตัวจะขึ้นแสดงในวันนี้ ‘One Fine Spring Day’ คือเพลงที่ผมจะร้องในวันนี้ เป็นเพลงที่ผมต้องการจะสื่อบางสิ่งให้คนๆ นั้นได้รู้

    และเมื่อใกล้จะถึงเวลาแสดงพี่ทึกกี้ก็หยุดเสียงเพลงลง… “เอาล่ะทุกท่าน ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาปรับอารมณ์ฟังเพลงสบายๆ จากหนุ่มน้อยเสียงดีกันแล้ว พบกับหนุ่มน้อยหน้าหวานเสียงทรงพลัง คิม รยอวุค ได้เลยครับ !”

    สวัสดีทุกท่านนะครับ พี่ทึกกี้ก็พูดเกินไป” ผมได้แต่หัวเราะแก้เก้อ ก่อนที่ผมจะเตรียมตัว ผมก็พูดถึงเพลงๆ นี้..

    “เพลงนี้มีชื่อว่า One fine Spring Day เป็นเพลงที่ผมแต่งขึ้นมาเพื่อ..” เสียงบรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด ผมสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก่อนที่จะผ่อนลมออกสิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ผมพูดออกมาจากความรู้สึก เป็นสิ่งที่ผมต้องการให้คนๆ นั้นได้รับรู้ในสิ่งที่ผมเก็บไว้ในใจมาตลอดห้าปีตั้งแต่ที่เขาได้หายตัวไป.. ผมแต่งเพลงนี้เพื่อใครคนหนึ่งที่ผมรอ รอมาตลอดระยะเวลาห้าปี ถามว่าทำไมผมถึงนำเพลงนี้ออกมาร้องให้ทุกคนฟังในคืนนี้ เพราะผมอยากให้เขาได้รับรู้ว่าผมยังรอเขาอยู่ ถ้าเขาบังเอิญอยู่ตรงนี้ ผมก็อยากให้เขาฟังเพลงนี้จนจบ”

    เมื่อผมพูดจบ เสียงทำนองดนตรีค่อยๆ ขึ้นมาอย่างเชื่องช้า..จังหวะและทำนองยังก้องอยู่ในหัวของผม ผมหลับตาได้ซักพัก ก็เริ่มท่อนแรกออกมา ซึ่งดึงมาจากความรู้สึกที่ผมอยากจะให้จากใจของผม..

    날처럼 따뜻한 바람 불고

                  คือ นันชอรอม  ตันตือตาน บารัม บุลโก

                  ลมอุ่นพัดมาเหมือนคืนนั้น

     

                   그대가 사랑하던 화분엔 꽃이 피고

                  คือเดกา ซารางฮาดันฮาบุนเนน โกชี พีโก

                 ดอกไม้ที่คุณชอบนั้นผลิบาน

     

                   어느 샌가 봄날이 드리워도,

                   ออนึน แซนคา โต โบมนารี ดือรีวอโด

                 ก่อนที่ฉันรู้ว่าฤดูใบไม้ผลิได้กลับมาอีกครั้ง

     

                 아직도 깊은 겨울 잠을 자고 싶어

                   อาจิกโด นัน คีพีน คยออุล  จามอึล จาโค ชีพอ

                   ฉันยังอยากหลับสนิทเหมือนตอนฤดูหนาว

     

                 아주 멀리, 아주 멀리 그대가 있나요

                 อาจู มอลรี, อาจู มอลรี คือแดกา อิดนาโย

                 คุณอยู่ที่ไกลมาก , ที่ไกลมาก

     

                 사실 그대가 매일 그리운데

                 ซาซิล นัน คือแดกา  เมอิล คือรีวุนเด

                 เพื่อความจริงใจที่มีต่อคุณ ฉันคิดถึงคุณทุกๆวัน

     

                 아주 작은, 아주 작은 사소한 것들에도

                 อาจู จักกึน, อาจู จักกึน ซาโซ ฮัน กอดดึลเยโด

                 มันเป็นสิ่งที่เล็กน้อย, เป็นความคิดเพียงเล็กน้อย

     

    매일 그대가 생각이

                   แมอิล คือแดกา แซงคักกีนา

                   ที่ทำให้ฉันคิดถึงคุณทุกวัน

     

                 방안 가득 남아 위로해 주던

                 บังกาน กาดึก นัมมา วีโรแฮ จูดอน

                   กลิ่นน้ำหอมของคุณที่หลงเหลืออยู่ในห้อง

     

                 그대 향기가 속에 흩어져

                 คือแด ฮยังกีกา โกด โซกเก ดา ฮึลรอจวอ

                 เหมือนมีดอกไม้อยู่รอบๆเต็มไปหมด

     

                 언젠가는 느낄 없을까

                   ออนเจนกานึน นึกกิล ซูออบซือกา บวา

                 เพราะฉันกลัวว่าวันหนึ่งฉันจะไม่สามารถรู้สึกถึงมัน

     

                   그대 있던 공기라도 붙잡아 두고 싶어

                   คือแด อิดดอน  คงกีราโด บึลจามา ดูโก ชิพพอ

                 ฉันอยากจะไปในที่ๆคุณเคยไป

     

                 아주 멀리, 아주 멀리 곳에 있나요

                 อาจู มอลรี , อาจู มอลรี มอนคดเซ อิดนาโย

                 คุณอยู่ที่ไกลมาก , ที่ไกลมาก

     

                 사실 그대가 매일 그리운데

                 ชาชิล นัน คือแดกา แมอิล คือรีวุนเด

                   เพื่อความจริงใจของฉันที่มีต่อคุณ ฉันคิดถึงคุณทุกๆวัน

     

                 아주 작은, 아주 작은 사소한 것들에도

                 อาจู จักกึน , อาจู จักกึน ซาโซฮันกอดดึลเรโด

                 มันเป็นสิ่งที่เล็กน้อย, เป็นความคิดเพียงเล็กน้อย

     

                 매일 그대가 생각이

                 แมอิล คือแดกา แซงกากีนา

                 ที่ทำให้ฉันคิดถึงคุณทุกวัน

     

                 하루가 달이 되고,

                 ฮารูกา มยอด ดัลรี ดเวโก

                 จากวันกลายเป็นเดือน

     

                 언젠가는 맘에도 오늘 같은 봄이 텐데

                 ออนเจนกานึน แน มัมเมโด โอนึล กัลรึน แซ บมมี อน เทนเด

                 ฤดูใบไม้ผลิครั้งใหม่เหมือนเป็นสิ่งเล็กน้อยภายในใจฉัน

     

                 아주 멀리, 아주 멀리 곳에 있네요

                 อาจู มอลรี, อาจู มอลรี มอนโกดเซ อิดนาโย

                 คุณอยู่ที่ห่างไกลมาก , ที่ห่างไกลมาก  ที่ที่ไกลมาก

     

                 그대의 매일은 봄날이라 믿어

                 คือแดเย  แมอิลรึน บมนัลอีรา มิดดอ

                   ทุกวันในฤดูใบไม้ผลิฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ

     

                 아주 , 아주   그대 나를 만나면

                 อาจู มอนนัล, อาจู มอน  คือแด นารึล มันนามยอน

                   ในวันที่ห่างไกล, ในอนาคตที่ห่างไกล, ถ้าคุณได้เห็นฉัน

     

    함께였다고 얘기해

                   นึล ฮัมเกมยอดดาโก เยกีแฮ จวอ

    บอกกับฉันว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

    One fine Spring Day : Kim Ryeowook of Super Junior

    Album 4 Bonamana
    ฟังเพลงไปด้วยแล้วจะรู้สึกถึงเสียงเพราะๆของอุค..เคลิ้มเลย แนะนำว่าอ่านไปด้วยฟังไปด้วย เศร้ามา T T


    MusicPlaylist
    Music Playlist at MixPod.com

    เมื่อเพลงจบเสียงปรบมือมากมายดังก้อง ในขณะที่ผมร้องเพลงนี้ น้ำตาของผมไหลออกมา เสียงของผมสั่น แต่ผมก็พยายามร้อง ร้องให้จบ เพื่อที่จะส่งความรู้สึกนี้ไปให้ ผมพูดขอบคุณทุกคนแล้วรีบวิ่งลงจากเวทีทันที ผู้คนต่างตกในในการกระทำของผม เสียงเซ็งแซ่มากมาย ซึ่งผมรับรู้ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่ามันดังแค่ไหน เมื่อพี่ทึกกี้เห็นผมร้องไห้ลงมาก็ได้แต่กอดปลอบผม ผมร้องไห้หนักมาก แทบจะไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ

    “อุคกี้ ! อุคกี้ ! คิม รยอวุค ! นายเป็นอะไรบอกพี่มาซิ เงียบน่าอย่าร้องไปเลย” พี่ทึกกี้ได้แต่กอดปลอบผมเท่านั้น เมื่อพี่ทงเฮเห็นเหตุการณ์บนเวทีก็รีบวิ่งตรงดิ่งมาที่ผมทันที

    “พี่ทึกกี้ฮะ ไม่ต้องห่วงนะฮะเดี๋ยวผมจะพารยอวุคกลับบ้านเอง ฝากวานพี่ช่วยบอกเจ้าของร้านด้วยนะครับ”

    “ได้ๆ พวกนายกลับกันดีดีล่ะ ทงเฮดูแลอุคกี้ด้วยล่ะ!”

     

    และนี่คืออีกหนึ่งวันที่ผมเขียนลงในไดอารี่สิ่งที่ผมเป็นในวันนี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าตลอดเวลาผมมีแค่เขาคนเดียว เมื่อกลับมาถึงบ้าน อาการของผมก็ดีขึ้น และผมจะต้องอยู่ต่อไปจนกว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งหนึ่ง

    Ryeog9

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ในที่สุดตอนหนึ่งก็เรียบร้อยแล้ววว ว
    ที่มันยาวก็เพราะเพลงนั้นแหล่ะนะ -0-
    เป็นไงกันบ้างกับการแต่งแนวใหม่ (?)
    เนื้อเรื่องก็เป็นบทโศกมากกว่าฟิคเรื่องอื่นๆที่แต่งมา (แล้วก็ยังไม่จบ = =)
    ผลโหวตเรื่องนี้เป็นที่น่าตกใจมาก แต่ยังไงก็ปล่อยให้โหวตกันเรื่อยๆจนกว่าจะเฉลยเลยแล้วกัน (?)
    ขอแนะนำว่าที่บอกว่าเพลงที่เอามานั้นอุคแต่ง เป็นเพียงแค่การสมมติเฉยๆ เดี๋ยวจะตกใจกัน = =;
    แต่เพลงนี้อุคร้องจริงๆ ชอบมากฟังแล้วเคลิ้ม แต่พอมาอ่านความหมาย แม่เจ้า ! มันเศร้ามาก TT[]TT
    ยังไงก็ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกซอกใจกันด้วย รักอุคชอบอุคมากมายก่ายกอง (?)
    แล้วเจอกันใหม่จ้า -3-
    อ่อ สวนอีกสองเรื่องจะมาตามเช็ดตามถูแน่นอน รับรองว่าเร็วๆนี้ (?) จุ๊บๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×