คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : wondertime chapter1
wonder time in wonderland :
love fantasy ( by squareroot ) - - - - -
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!"
แผละ!
"หมดกันอาหารของฉัน - -"บี1เอ่ย
"โต๊ะของฉัน เลอะไปหมด..."บี2เอ่ยตาม
บี1 และบี2(ในความคิดของฉัน)เอ่ยขึ้นหลังจากที่ฉันตกแผละมาจากท่อ และลงมานั่งจุ้มปุ๊กหยั่งถ้วยซุปใบใหญ่ ใหญ่มากจนขนาดที่สามารถใส่หมูได้3ตัวเลยทีเดียว และไม่ต้องสงสัยถึงเรื่องปริมาณอาหาร! เพราะยังไงก็แน่นอนว่ามันต้องเยอะมากแน่ ๆ
"จะรับผิดชอบกับของของฉันยังไงห๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!"
บอกตามตรงเลยว่าฉันตกใจ... แต่ไม่ได้ตกใจเรื่องของผู้ชายสองคนตรงหน้า หากแต่ตกใจในสิ่งรอบตัว ทั้ง ๆ ที่ตกลงมาจากท่อหลังโรงเรียนแท้ ๆ แต่ทำไมที่นี่ถึงมีทั้งท้องฟ้า ต้นไม้ อะไรต่าง ๆ นา ๆ ที่เหมือนกับอยู่ในนิยายแฟนตาซี ไหนจะโต๊ะอาหารสุดคลาสสิคที่มีถ้วยชามพร้อมกับอาหารต่าง ๆ นา และผู้ชายสองคนนี้อีก มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์จริง ๆ แต่คงจะต่างกันตรงที่ฉันไม่ได้ตกลงไปในโพรงกระต่ายแต่เป็นท่อน้ำหลังโรงเรียนเท่านั้นแหละ
"นายไม่น่าไปดุเธอเลยนะโลกิ! เห็นมั้ยว่าเธอหน้าเหวอแล้วน่ะ"
"โทษฉันงั้นเหรอ! นายเองก็เหมือนกันนั่นแหละ!"
"นายต่างหากที่ตะคอกใส่เธอ!"
"นายนั่นแหละโอดิน!"
ฉันนั่งกระพริบตาปริบ ๆ มองคนสองคนที่เข้าใจผิดดคิดว่าเป็นบี1 บี2 ทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะเรื่องขึ้นเสียงใส่ฉัน โลกิ โอดิน ชื่อของเทพทางฝั่งยุโรปทั้งนั้นเลยนี่นา โลกินี่คือคนที่ใส่เสื้อสูทสีแดง ผมสีขาวทอง สวมหมวกทรงสูงสีดำ แล้วโอดินก็คงจะเป็นคนที่ใส่ชุดสูทสีดำ ผมยาวดำตั้งทรงสูงสินะ...
"เอ่อ โอดิน โลกิ พวกนายอย่าทะเลาะกันเลยนะ"ฉันพูดชึ้นเผื่อทั้งสองคนนี้จะหยุดทะเลาะกันเพราะเรื่องไร้สาระ
"นี่เธอรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอ"หันมามองอย่างพร้อมเพรียงและพูดอย่างพร้อมเพรียงเช่นกัน
"ก็เมื่อกี้นาย... กับนาย เพิ่งพูดออกมาน่ะ"ฉันพูดพลางชี้ไปทั้งสองคน
"เห็นมั้ย! โลกิแกนี่มันโง่จริงๆ"
"ฉันงั้นเหรอ! แกเองก็ด้วยไม่ใช่รึไง"
เข้าใจล่ะ... ฉันจะไม่(พยาม)ห้ามพวกนายอีกแล้ว
"เดี๋ยวก็เจอเผาหรอก!"โอดินตะโกนขึ้นพร้อมกับลูกไฟที่อยู่เหนือมือ
ฉันยืนทึ่งด้วยความตกตะลึงกับเปลวไฟของโอดิน ที่นี่มันที่ไหนกันนี่!!!!
"แกเคยเผาฉันได้สักทีมัั้ย! มา ๆ ให้เผาก้นก่อนเลยเอ้า!"โลกิพูดพลางหันก้นเข้าหาโอดิน
"แกดูถูกฉันเหรอโลกิ ตูดแกเกรียมแน่!"
"หยาบคาย มาพูดตูดเติดได้ไงกัน ไอ้สังฆัง"
"อ๊ากกกกกก! มันจะมากไปแล้วนะไอ้ขี้กลาก"
"เอ่อ พอเถอะ...."ฉันพูดก่อนที่ทั้งสองคนจะลากเอาเชื้อทุเรศมาอ้างอีก ในขณะที่ฉันเดินเข้าไปกันทั้งสองคนออกจากกันแล้ว ฉันจึงหันไปหาโอดินเพื่อบอกให้เค้าดับไฟก่อนที่มันจะ...
ฟรึ่บ!
มันจะลุกขึ้นเสื้อฉันเหมือนในตอนนี้ยังไงล่ะ!!!!!!!!!!
"ฟะ ฟะ ไฟ! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"ฉันกรี๊ดลั่นก่อนจะวิ่งไปรอบ ๆ แต่ไม่นานนักไฟนั่นก็หายไปเอง พร้อมกับรอยโหว่ที่เสื้อ ซึ่งตอนนี้มันทะลุจนมองเห็นชุดชั้นในของฉัน
"อู้วววว! เกาะเหล็กหรือนั่น ทำไมถึงไม่ถูกไฟของเจ้าโอดินเผาล่ะ แต่มันก็น่าแปลกนะ ปกติไฟของโอดินไม่สามารถผาอะไรได้เลย แต่ทำไมเธอถึงจะโดนย่างสดซะล่ะ น่าทึ่งจริงๆ"โลกิพูดในขณะที่มอง...
มองชุดชั้นในสีขาวของฉัน!
ผลัวะ!
ด้วยความที่มือไวกว่าสมอง มันทำให้ฉันเผลอใช้สันมือฟาดไปที่หน้าของโลกิทันที
"._. แม่สาวถึก ช่างกล้าเสียนี่กะไร"โอดินพูดในขณะที่มองฉันตาปริบๆ
มันหมายความว่าไงที่ว่าฉันกล้า ?
"มันก็หมายความว่าเธอกำลังจะถูกฉันโบกไงเล่า!"โลกิพูดพร้อมกับที่ดึงหมวกบนหัวลงมาด้วย
ความฉุนเฉียวก่อนที่มันจะค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นจนฉันเองก็ตกใจ.... มันใหญ่มากจริง ๆ
"หวา! โชคดีนะแม่สาวถึก"โอดินพูดก่อนจะเดินถอยหลังไปสามก้าวแล้วหายไปทันที
นี่มันเรื่องอะไรกัน!!!!!!!!!!
"ไม่ต้องคิดหนีหรอก..."โลกิพูดในขณะที่ฉันสังเกตุเห็นเส้นเลือดบนขมับของเค้าปูดขึ้น"เพราะฉันจะโบกเธอแล้ว!!!!!!!!"โลกิพูดพลางพัดหมวกใบใหญ่ขึ้นลง ทันใดนั้นร่างกายฉันก็ค่อย ๆ ลอยเหนือพื้นขึ้นมาทุก ๆ อย่างค่อย ๆ เล็กลง ฉันลอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ซะเมื่อไหร่ล่ะ - - ไม่เห็นจะมีอะไรเลย! ใหญ่แต่เขือสินะไอ้หมวกใบนี้
"เป็นไปได้ไง!"จู่ ๆ โอดินที่หายตัวหนีไปก็โผล่พรวดพราดวิ่งตรงไปดูที่หมวกใบใหญ่ของโลกิทันที
"นอกจากโต๊ะน้ำชาแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะถูกพัดไปหมดนี่"โอดินพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก จะทึ่งทำไม มันก็ใหญ่แค่ขนาด แต่ประโยชน์ใช้สอยนี่เหลือแต่เขือ!
"ถึกไม่พอยังแปลกประหลาดอีกนะเธอ"โลกิพูดโดยที่มองฉันอย่างทึ่ง ๆ
"แต่คุยตั้งนานก็ลืมถาม แม่สาวถึกเอ๋ย เอ่ยนามของเจ้ามา..."โลกิพูดพลางหัวเราะลั่น ราวกับว่าลืมเรื่องเมื่อกี้ไปหมดแล้ว
"อลิซ...."ฉันตอบก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองโลกิกับโอดินที่ตอนนี้ลอยอยู่เหนือหัวฉันเรียบร้อย
"คงจะไม่ใช่คนของที่นี่งั้นสินะ..."
"ไอ้โง่! ถ้าเป็นคนของที่นี่แม่นั่นจะล่วงลงมาจากนภาแห่งอรุณมั้ยล่ะ!"โลกิตะคอกใส่โอดินก่อนจะตบหัวแรง ๆ แถมให้อีกหนึ่งที
"เอ่อ ขอโทษนะ... แต่ไอ้นภาแห่งอรุณนี่คืออะไรเหรอ"ฉันถามอย่างสงสัย ไม่อยากจะบอกเลยว่าชื่อเช๊ยเชย!
"โอ้ ลืมไปเลยว่าแม่สาวอลิซของเราเค้าไม่บ้านใน"โอดินพูดก่อนจะหัวเราะอย่างดูแคลน
"ในโลกของเรามีท้องฟ้าอยู่หลายประเภทจะเรียกยังไงก็ตามแต่ละสถานที่ ที่นี่คือดินแดนใบไม้ร่วง ไม่มีกลางคืน ไม่มีฝน วันเวลาไม่เปลี่ยน ที่นี่ท้องฟ้าของเราถูกเรียกว่านภาแห่งอรุณ เพราะเป็นเพียงแสงแดดอ่อน ๆ ไม่สว่าง และไม่มืดจนเกินไป ไม่ว่าจะปลูกอะไรผลที่ได้ก็จะเป็น สีส้ม สีเหลือง และสีแสดเท่านั้น"โลกิอธิบายโดยที่ไม่สนใจการก่อกวนของโอดินแม้แต่น้อย
แปลกประหลาดจริง... ไม่มีกลางคืนงั้นเหรอ
"ไม่ต้องสงสัยหรอก พวกเราไม่เคยนอน ทุกคนในดินแดนนี้ไม่เคยนอน"เมื่อโลกิพูดขึ้น ความสงสัยของฉันก็คลายหายไปในทันที
"แล้วฉันจะกลับบ้านยังไง ?"ทันทีที่ฉันพูด ทั้งโลกิและโอดินห็หายแว้บไปนั่งอยู่บนเก้าอี้พลางถือถ้วยกาแฟจิบไปพลาง ๆ
"ไม่รู้สิ.... เรื่องนี้พวกเราเองก็ไม่เคยเจอเหมือนกัน"โอดินเอ่ย
"แต่ฉันเองก็สนใจโลกของเธอนะ... โอดินว่าไง"โลกิหันไปถามโอดิน
"ก็ดี ฉันอยากจะออกไปเปิดหูเปิดตาสักที!"โอดินพูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจไปมา
นั่นก็หมายความว่า...
"พวกเราจะพาเธอกลับบ้านเอง"โลกิยิ้ม ก่อนที่จะถอดเสื้อนอกของตัวเองแล้วยื่นมันมาให้ฉัน
ฉันสวมมันก่อนจะเดินตามพวกเค้า... แปลกใจจริง ๆ ทั้งที่รู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงแต่กลับจะช่วยฉัน...
3 ชั่วโมงต่อมา
ฉันมองสถานที่ตรงหน้าด้วยความตกใจ หลังรั้วไม้นั่น ทุกอย่างกลับกลายเป็นสีขาวไปหมด มีหิมะตกและมีท้องฟ้าเป็นสีเงิน!
"นี่สุดของAutumแล้ว ข้างหน้านั่นเป็นWinterฉันเคยไปเมื่อ20ปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนจะมีอะไรแปลกไปนะ ฉันว่าเธอควรจะสวมนี่เข้าไปอีก"โลกิพูดพลางกระชากเสื้อนอกของโอดินออกมาแล้วยื่นมาให้ฉัน
"แล้วพวกนายล่ะ?"
"ด้วยความเคยชิน ฉันไม่รู้สึกอะไรกับอากาศหนาวหรอก"โลกิพูดพลางเปิดประตูรั้วแล้วก้าวผ่านไป
"รีบมาล่ะอลิซ..."เสียงของโลกิดังขึ้นก่อนที่ร่างของเค้าจะหายไปหลังจากที่มีสายลมพัดผ่านตัว
"แกไม่เป็นแต่ฉันเป็นโว๊ย! เอ้า รีบเข้าไปสิเธอ"โอดินพูดอย่างหัวเสียก่อนที่จะผลักฉันเข้าไป ฉันหลับตาด้วยความตกใจ แต่ไม่นานก็ต้องสะดุ้งลืมตาเพราะอากาศที่เปลี่ยนไปกะทันหัน
"มาคราวนี้อากาศดีกว่าคราวที่แล้วเยอะเลย"โลกิพูดพลางยิ้มระรื่น ในขณะที่ฉันมองไปรอบ ๆ ด้วยความตกใจ
"เมื่อกี้.... เราไม่ได้อยู่ตรงนี้นี่"ฉันหันไปถามโลกิ เท่าที่ฉันจำได้ ถ้าเดินผ่านรั้วของautumมาก็ต้องเจอกับป่าก่อนสิ แต่ไหงถึงมาอยู่ในตัวเมืองที่มีผู้คนเดินไปมาได้กันล่ะ
"ความลับ"โลกิพูดพลางมองนาฬิกาตรงข้อมือ ก่อนที่โอดินจะเดินออกมาจากพุ่มไม้
"บ้าจริง! เกลียดที่นี่สุด ๆ เรารีบ ๆ ออกไปจากที่นี่ได้มั้ยเนี่ย"โอดินพูดพลางปัดหิมะบนไหล่ของเค้า
"ทำไมล่ะ ฉันว่าที่นี่มันก็ดีนะ"
"ก็นั่นมันแกไม่ฉัน! แล้วฉันก็ไม่ถูกกับ...."ยังไม่ทันที่โอดินจะพูดจบ จู่ ๆ เค้าก็หมดสติไป
"เฮ้ย!!! ขนาดนี้เลยหรอวะ"โลกิพูดพลางวิ่งมาช่วยพยุงฉันจึงรีบไปช่วยหิ้วปีกอีกข้างอย่างทุลักทุเล อื้อหือ! คนหรือหมีป่ากันนะหมอนี่!
"เราไปหาโรงแรมกันก่อนเถอะ ดูท่าว่าคงต้องรอให้ไอ้หมอนี่มันดีขึ้นเท่านั้นแหละ"โลกิว่า และฉันก็เห็นด้วย จะให้แบกโอดินไปตลอดก็คงจะไม่ไหว เพราะตัวของเค้ามันเบามากกกกก ก (ประชด)
หลังจากนั้นเราก็เดินเข้าไปในซอยที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนักก่อนที่โลกิจะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาหลายรอบจนฉันแทบจะเป็นลมล้มพับตามโอดินไปอีกคน
"ถึงแล้ว"แต่ยังไม่ทันได้เป็นลมก็มาถึงที่หมายเสียก่อน แต่...
"ทางตันนี่"ฉันพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าข้างหน้าเป็นแค่กำแพงอิฐธรรมดาๆที่เต็มไปด้วยหิมะ ให้ตายเถอะนี่มันกี่องศากันนะ ปากฉันต้องกลายเป็นสีฟ้าไปแล้วแน่ๆ
โลกิไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ใช้มือปัดหิมะที่เกาะตามกำแพงออก
เฮ้ย! ประตูมันโผล่มาจากไหน คนสวยงง O_O
"ไปกันเถอะ ก่อนที่เธอจะเป็นลมไปอีกคน รับรองฉันทิ้งพวกเธอไว้ที่นี่แน่ -___-"โลกิพูดพลางเปิดประตูเข้าไป
และพระเจ้า! ทันทีที่ฉันก้าวขาเข้าไปราวกับว่าถูกตัดฉากแบบในหนังที่ดูบ่อยๆ ที่อยู่ตรงหน้าฉันเหมือนโรงแรมแนวคลาสสิคในเทพนิยายปรัมปราที่ฉันเคยอ่านในสมัยก่อน มันสวยกว่าในหนังสือซะอีกนะเนี่ย
"เฮียโซล ดูเพื่อนผมหน่อย มันเอาอีกแล้ว แย่กว่าครั้งก่อนด้วย"โลกิพูดพร้อมกับผลักร่างของโอดินลงไปกับพื้นก่อนที่จะมีผู้ชายหน้าตาดี สีผิวซีดเซีว ตัวสูงโปร่งเดินเข้ามาจับไปที่ชีพจรของโอดิน เอ่อ นี่โอดินยังไม่ตายนะ ไม่ต้องเช็คหรอก โลกิก็บอกไม่ใช่เหรอ =__=;
"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวอีกสองวันมันก็ตื่น แต่สาวน้อยคนนี้ใครเอ่ย"โซลที่ตอนแรกนั่งยองๆอยู่ข้างๆโอดินแต่แค่เพียงฉันพิบตากับมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว
แต่นี่ใกล้ไปแล้วนะเฮ้ย -*-
"ตกมาจากท้องฟ้าแห่งอรุณน่ะ"โลกิตอบพร้อมกับถอดเสื้อเผยให้เห็นซิคแพ็กขาวๆ =.,=
"อุ๊ยหรอ น่ารักจัง เฮียชอบนะ อิอิ >3<"แล้วเขาก็เผยธาตุแท้ออกมา - - คนหล่อที่โลกใต้ท่อนี่มันสติไม่ดีกันทุกคนเลยรึไง?
"อย่านะเฮีย ผมขอกุญแจห้องด้วย ขอห้องชั้น1นะที่นอนได้แบบ2คนหนึ่งห้อง กับชั้น2ที่นอนได้หนึ่งคนให้ไอ้โอดิน"โลกิพูดขัดเฮียของเค้าก่อนจะเดินมาโอบไหล่ฉันก่อนจะรับกุญแจมาจากโซลที่ยังทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยใส่ฉัน
แต่เอ่อ... ห้องเดี่ยวให้โอดิน แล้วฉันล่ะ!?
"เราจะนอนห้องเดียวกัน ถ้าเธอยังไม่อยากมีลูก"และนั่นทำให้ฉันถึงกับหายสงสัยเลยทีเดียว หมายความว่าไงนอกจากเฮียโซลแล้วฉันยังไม่เห็นคนอื่นเลยนะ!
"แต่ถ้าเธออยากมีสามีเป็นเฮียโซลจะเปิดห้องให้อีกห้องหนึ่ง คงเป็นห้องนอนเฮียไปเลย"
"งั้นฉันนอนกับโอดินก็ได้ อีกสองวันเค้าจะตื่นไม่ใช่เหรอ"
"ถ้าเธออยากถูกมันเผาจนเกรียมก็ตามสบาย โชคดี - -"แล้วเค้าก็เดินขึ้นไปแบบไม่ง้อ แต่แอบเห็นนะเว้ยว่างอนน่ะ!
"ล้อเล่นๆ รอฉันด้วยสิเฮ้ย!"ฉันรีบตะโกนก่อนจะวิ่งตามโลกิไป เกิดมันหายไปเฉยๆฉันก็ซวยแย่น่ะสิ ทุกคนก็รู้ใช่มั้ยคะ ว่าที่นี่มันพิลึก - -
ฉันวิ่งมากอดคอโลกิราวกับสนิทกันมาสามชาติ เค้าหันมามองหน้าฉันเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะเดินต่อไป ไม่รู้ว่าฉันละเมอหรือว่าตาฝาดที่เห็นบันไดมันเลื่อนขึ้น @_@
"เธอไม่ต้องเดินหรอก เสียแรงเปล่า เกาะฉันแน่นๆก็พอ"โลกิพูดก่อนจะเดินต่อ สรุปฉันมีโลกิเป็นแรงขับเคลื่อนสินะ อุ๊ว๊ะฮ่าฮ่า ฉันชักอยากจะสนิทกับหมอนี่มากๆแล้วล่ะ ชีวิตนี้คงสบายไปทั้งชาติ =.,=
หัวเราะในใจได้ไม่ทันไรรู้ตัวอีกที ก็มาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่งซะแล้ว เฮ้ย นังคนแต่งเขียนอะไรให้มันรู้เรื่องหน่อยได้มั้ย เดี๋ยวก็ไปโผล่ที่นั่นที่นี่อยู่นั่นแหละ - -
"อย่าเกาะนาน ฉันถือตัวนะ พ่อแม่ฉันมี ฉันเสียหายหมด"โลกิพูดพลางส่งสายตารังเกียจมาให้ฉัน ฉันจึงรีบปล่อยแขนออกจากคอเค้าทันที
ไอ้หมอนี่ อารมณ์ไหนกันฟระ!
"แล้ววันหลังอย่ามาหลงสเน่ห์ฉันละกันไอ้โทรศัพท์โลก๋อยเอ๊ย!"ฉันบ่นเบาๆพลางแอบแลบลิ้นใส่ คนอะไรหน้าตาดีซะเปล่าแต่สมองพิการ -*-
ฉันเดินเข้าไปในห้องและไม่แปลกใจ คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นห้องแบบในเรื่องนิทานไม่ก็เทพนิยายสักเรื่องแน่นอน และฉันก็เดาไม่ผิด ฉันจำได้แม่นเลย ห้องนอนแบบนี้น่ะ มันห้องนอนของโฉมงามกับเจ้าชายอสูรเวอร์ชั่นคลาสสิค และมันสวยมาก
"เอ่อ.. นี่เราต้องนอนเตียงเดียวกันมั้ย?"ฉันถาม แต่ก็เห็นนะว่ามีเตียง2ตัว เผื่อจะเป็นแบบในนิยายไง ที่พระเอกกับนางเอกจะนอนเตียงเดียวกันเสมอน่ะ เผื่อตาโลกินี่จะดึงเตียงฉันมาใกล้ๆเพราะแอบชอบฉันก็ได้ ฮิฮิ >///<
"ไม่ เธอกับฉันจะนอนคนละเตียงเพราะฉันถือตัว มีอะไรจะถามอีกมั้ย ถ้าไม่มีฉันจะได้นอน"
แล้วก็พูดได้ตัดเยื่อใยกันมาก เห็นฉันเป็นคนยังไงกัน -*-
"เอ่อ... ที่นี่มีห้องน้ำมั้ยโลกิ ถ้ามีห้องน้ำอยู่ที่ไหนเหรอ"ฉันถามก่อนที่หมอนั่นจะทิ้งตัวลงเตียง
"มี ทางนั้น"หมอนั่นพูดพลางชี้ไปทางประตูห้องน้ำทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ให้ตายเถอะ จะง่วงอะไรขนาดนั้นกันนะ - -
"งั้นฉันขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
"....."
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผ้าเช็ดตัวพันเป็นมัมมี่ (อันที่จริงมันปิดตัวฉันนิดเดียวเอง T T) อย่าให้ได้เล่าถึงห้องน้ำ เพราะฉันไม่มีอะไรจะเล่าเพราะมันก็เหมือนห้องน้ำสวยๆคลาสสิคๆทั่วไป แต่เรื่องที่สำคัญกว่าการจะมานั่งพูดถึงสภาพห้องน้ำคือ...
ฉันจะหาอะไรใส่?
เสื้อผ้าชุดเก่าก็เปียก ชุดชั้นในฉันก็ซักไปแล้วซะด้วย
"เอ่อ โลกิ..."ในเมื่อไม่มีทางเลือกฉันจึงต้องกลั้นใจปลุกหมอนั่น นี่ฉันก็กลัวนะ เผื่อหมอนั่นเกิดมีอารมณ์เพราะเห็นหุ่นและผิวขาวๆใสๆของฉันกันล่ะ T^T
พรึ่บ!
"มีอะ... เฮ้ย! O_O"
"เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย!!!! O.O"
"กรี๊ดดดดดดดดด ด!"ฉันกรีดร้องเสียงดัง ทำไมผ้าขนหนูเจ้ากรรมมันถึงมาหลุดตอนไอ้หมอนี่มันลืมตาพอดี ที่เลวร้ายกว่านั้นไอ้คนที่ควรจะนอนสลบสไหลอยู่อีกห้องถึงเปิดประตูเข้ามาได้จังหวะแบบนี้!
"ไอ้โอดิน! มองอะไรวะ หันไปเลยนะ!!!"โลกิพูดพลางลุกพรวดขึ้นมาบังร่างกายฉันอย่างเก้ๆกังๆ
"หลบไปเลยนะเว้ย! นี่แกคิดจะดูคนเดียวรึไง ไม่ได้ ฉันจะดูด้วย!!!"โอดินร้องเสียงดังก่อนพยายามจะชะเง้อมามองหุ่นอันงดงามฉันให้ได้ แต่เสียใจฉันเอาผ้าขนหนูมาปิดอย่างเดิมแล้ว พร้อมกับจับผ้าขนหนูแน่นราวกับว่ากลัวมันจะลอยหายไป นั่นแหละเลยทำให้ทั้งสองหันมามองฉันก่อนจะนั่งลงบนเตียง
"นี่เธอปลุกฉันให้มาดู.... อะ อะไรเนี่ย -////-"โลกิพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย เฮ้ยหน้าแดงแบบนี้คิดอะไรลามกใช่มั้ย!!
"แกไม่อยากดูหรอ ฉันอยากดูนะ รีเพลย์อีกรอบได้มั้ย ได้เห็นแป้ปเดียวเอง =.,="โอดินพูดพร้อมกับส่งสายตาหื่นๆไปทั่วร่างกายฉัน กรี๊ดดด ด T T ดีนะที่ไม่คิดจะนอนกับหมอนี่ คนอะไร ฮอร์โมนเพศเยอะที่สุด!
"เอ่อ โทษที พอดีฉันเป็นคนตรง"โอดินหันมาขอโทษเมื่อเห็นฉันทำหน้าเหมือนอยากจะกินหัวเค้าใจจะขาด
ส่วนฉันจะทำอะไรนอกจากร้องไห้กันล่ะ T^T
"ร้องอยู่นั่นแหละ จะร้องอะไรนักหนา - -"โลกิหันมาตะคอกฉัน หมอนี่นี่! ถ้ามีใครมาเห็นโลกิจูเนียร์ของนายมั่งล่ะ จะรู้สึกยังไง
พอคิดอย่างงั้นฉันก็ร้องไห้หนักเข้าไปอีก อายยิ่งกว่าโลกที่สามซะอีกในตอนนี้
"เพราะนาย นายทำให้อลิซร้องไห้"โอดินพูดก่อนจะมานั่งข้างฉันแล้วลูบหลังฉันเบาๆอย่างเอาใจ ดีใจจัง เค้าเรียกชื่อฉันด้วย แทบจะไม่มีใครเรียกชื่อฉันเลยนะ จนจะลืมชื่อตัวเองไปแล้วเนี่ย T T
"เออ ขอโทษ จะให้รับผิดชอบใช่มั้ย"ในที่สุดสิ่งที่ฉันต้องการก็หลุดออกมาจากปากเค้าแล้ว เยส! (อ้าง นังนี่ -*-)
ฉันพยักหน้าหงึกๆพร้อมกับโอดินที่เห็นด้วย สารภาพตามตรงแอบชอบแล้วก็เกลียดหมอนี่ไปในตัว - -
"ได้ ยื่นมือมา"หมอนั่นว่าอย่างอารมณ์เสีย"เอามาสิเฮ้ย!"เค้าตะโกนเสียงดังฉันจึงรีบยืนพร้อมกับรอดูอย่างใจจดใจจ่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฟรึ่บ!
เสียงบางอย่างถูกสวมเข้ามาที่นิ้วนางของฉัน เฮ้ยแหวนนี่หว่า!
"รับผิดชอบแล้วนะ -*-"หมอนั่นว่าพลางจะทำท่าล้มตัวลงนอน แต่โดนฉันกระชากคอเสื้อไว้ก่อน
"นี่มันหมายความว่ายังงง๊ายยยย ย!"ฉันร้องเสียงหลงพร้อมกับโอดิน แต่ไอ้หมอนี่มันจะตกใจด้วยทำไม -*-
"หมายความว่าฉันรับผิดชอบเธอโดยการรับเธอเป็นภรรยาไง"โลกิพูดเสียงเรียบ รู้สึกจะหน่ายเต็มที
"เฮ้ย!!"และนี่ก็คือเสียงฉันกับโอดินร้องขึ้นพร้อมกัน
"มีอะไรอีก -*- จะเอาลูกเลยใช่มั้ย ได้มาม๊ามา! ป๊ะป๋าจัดให้"โลกิพูดพลางดึงฉันส่วนมืออีกข้างก็พยายามจะแกะผ้าขนหนูที่อยู่บนตัวฉัน แต่โอดินก็เข้ามาตีมือโลกิก่อนจะดึงฉันลงไปนั่งที่เดิม
"นั่นมันแหวนคำมั่นสัญญานะเว้ย นี่แกเอามาใช้กับผู้หญิงคนนี้เนี่ยนะ คิดดีแล้วหรอวะ!"โอดินพูด แต่เอ๊ะ หมายความว่าไงกันไอ้ประโยคหลังเนี่ย -*-
"เออ คิดดีแล้ว ถึงในใจฉันจะรู้สึกอยากกระโดดหน้าผาให้ตายก็ตามเถอะ"
"แต่นั่นมันเท่ากับว่าแกจะมีอลิซได้แค่คนเดียวในทั้งชีวิตเลยนะเว้ย!"ทันทีที่โอดินพูดจบ ฉันก็ถึงกับ...
ตึง!
เป็นลมค่า T^T
"เฮ้ยๆ ยัยบ้ามาโชว์อะไรอีกรอบล่ะ เฮ้ย!!! โอดินแกหันไปเลยนะเว้ย!"และนั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน อลิซขอลาตาย
ความคิดเห็น