คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ทางเลือก 2
“เฮ้อ............จบแล้วโว้ย!!!!! ลาก่อนโรงเรียนพระราชาที่ให้ที่ซุกหัวนอนแก่ขโมยผู้ต่ำต้อยมาเจ็ดปีเต็ม”
“ลาก่อนเอดินเบิร์กที่เอื้อเฟื้อแหล่งกบดานให้นักฆ่าผู้แสนกระจอก”
“ขอบคุณที่เมตตาขอทานผู้ไม่มีจะกิน” แล้วหัวขโมยผู้ต้อยต่ำ นักฆ่าผู้แสนกระจอกกับอีกหนึ่งขอทานผู้ไม่มีจะกินก็หัวเราะร่วนก้องฟ้าหลังออกจากห้องสอบที่ถือเป็นครั้งสุดท้ายกับการตรากตรำมาเจ็ดปีเต็มรอบรั้วโรงเรียนพระราชา
“ครี้ด!!!!” เสียงตวาดแหวของแม่มดนางฟ้า แองเจลีน่า โรมานอฟดังลั่นมาแต่ไกลเรียกผู้ปล่อยวางทั้งสามให้หันขวับกลับไปมอง
“อ้าก!!!!!” ตามมาด้วยเสียงโหยหวนของครี้ดที่โดนคทาฟาดเข้าให้เต็มรัก เสียงฮาครืนของเพื่อนฝูงผู้รักความสนุกทั้งหลายทั้งแหล่ในป้อมดังขึ้นจนวินาทีสุดท้าย
“เอ้าๆ มัวแต่มาทะเลาะกัน รีบไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ได้แล้ว” เสียงห้ามทัพของเจ้าแม่มาทิลด้าก็ยังคงแผลงฤทธิ์ได้จนวินาทีสุดท้ายอีกเช่นกัน อดใจหายไม่ได้เหมือนกันพลันคิดว่านี่คงเป็นคืนสุดท้ายแล้วกับป้อมอัศวิน
ท่ามกลางงานเลี้ยงหรูหราภายใต้แสงนวลตาจากเทียนนับพันเล่มที่ทอแสงอยู่ตามโต๊ะหรูที่ถูกปูด้วยผ้าคลุมสีขาวสะอาด วางทับด้วยอาหารโอชาชั้นเลิศตามแต่จะจินตนาการได้ แก้วทรงสูงบ้าง ต่ำบ้างที่บรรจุน้ำหลากสีถูกวางไว้เคียงกันล่อตาล่อใจชวนให้ลิ้มรสอยู่เนืองๆ พรมสีแดงสดถูกปูลาดตามทางเดินให้ผู้คนในชุดฟูฟ่องสวยงามได้ทอดรองเท้าหรูราคาแพงเหยียบลงอย่างถือเป็นเกียรติตลอดงาน แสงประกายแวววาวจากเหล่าเพชร นิล จินดาที่ถูกสวมใส่แนบเนื้อต่างพาล้อเล่นกับแสงเทียนอย่างนึกสนุกจนชวนแสบตา งานเลี้ยงปิดภาคดูฟู่ฟ่ากว่าที่คิดไว้เยอะ
“อะฮ้า.....เฟรินนายมาอยู่นี่เอง” ครี้ดมองเจ้าหญิงจากเดมอสอึ้งๆ แม้จะเริ่มคุ้นเคยกับดวงหน้าหวานๆของเจ้าหล่อนแล้วก็ตาม แต่วันนี้เจ้าหล่อนดูทรงเสน่ห์กว่าทุกวัน เส้นผมยาวสลวยของเจ้าหล่อนวันนี้ถูกปล่อยสยายทิ้งตัวแนบผ้าแพรชั้นดีสีขาวผ่องฟู่ฟ่อง ใบหน้าสวยหวานยามเคี้ยวไก้ในปากกร้อมๆเริ่มฉายแววกระดากพูดตื่นๆ
“แกว่าฉันดูตลกใช่ไหม ก็ยัยแองจี้จอมจุ้นนั่นแหละลากฉันไปทำอะไรแย่ๆ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ทำสีหน้าปั้นยาก ครี้ดหัวเราะขำๆกับเจ้าหญิงคนงามที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงไม่ทิ้งลายหัวขโมยจอมกะล่อน
“เออ......พวกเราให้มาตามไปนั่งที่โต๊ะแน่ะ”
“พวกแกนี่น้า ขัดลาภปากจริงๆ” เจ้าคนกระเพาะใหญ่กลั้วหัวเราะ ตัดใจหยิบไก่ชิ้นโตแล้วยัดเข้าปากเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะเดินตามครี้ดกลับโต๊ะ
“ว้าว สวยเป็นบ้าเลยว่ะเฟริน” เจคตะลึงอึ้งสนิท
“สนใจเต้นรำกับพี่ไหมน้องสาว” ครี้ดที่เดินมาด้วยกันว่าบ้าง
“นี่แน่ะ ไอ้ทะลึ่ง” หมัดลุ่นๆของสาวน้อยทุบปั้กลงกลางหัวของเพื่อนจอมเจ้าชู้
“แกก็ว่าไปครี้ด เจ้าหญิงมันก็ต้องคู่กับเจ้าชายสิ คนกระจอกอย่างเราๆอ่ะหลบฉาก” โร เปรยยิ้มๆดึงครี้ดออกมาแล้วเปิดทางให้เจ้าชายหัวหน้าป้อมคนสำคัญ
“อย่ามาซี้ซั้วน่าโร” ดวงหน้านวลหวานขึ้นสีเรื่อ
“แต่วันนี้คุณเฟรินดูสวยจริงๆนะครับ” หนุ่มน้อยซีบิลชมบ้าง
“เฮอะๆ สงสัยพวกแกจะกินมากจนเพี้ยนกันไปหมด ถ้าอยากมองของสวยๆงามๆโน่นทางปราการปราชญ์ ปราสาทขุนนางอ่ะเยอะ มีเป็นกระบุงโกย ฉันก็แอบไปเหล่ๆมาเมื่อกี้แต่ไอ้ครี้ดมันดันไปขัดซะก่อน”
“ไม่เห็นจะต้องไปเหล่ที่ไหนไกล พวกฉันเหล่นายก็พอแล้วเฟริน ทำตัวให้มันอ่อนหวานน่ารักสักวันเถอะน่า” โคลว์ผู้ชอบกินกับนอนจนขี้เกียจแม้กระทั่งจะออกไปเดินดูของสวยๆงามๆอย่างที่เฟรินมันว่าเปรยเรียบๆ
“อือจริง อย่างโคลว์ว่า” กัสที่เงียบมานานออกความเห็น
“ประสาท!!!” เฟรินแยกเขี้ยวบ่นไอ้พวกเพื่อนไม่รักดี ขี้เกียจกันตัวเป็นขน
“เรนอน แองจี้ มาทิลด้าไปไหนอ่ะ” พอเห็นว่าสาวน้อยคนสำคัญแห่งป้อมหายไป เฟรินก็เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ
“ไปเต้นรำกันหมดแล้ว” เดทว่า
“เต้นรำ!” เฟรินหัวเราะหึๆกวาดตามองไปที่ฟลอร์เต้นรำก่อนจะหันกลับมากระซิบกระซาบกับเพื่อนรัก
“ไหงโดนฉกไปได้วะไอ้คิล”
“อะไรโดนฉก” คิลถามกลับงงๆ
“ก็เรนอนอ่ะ ไปทำอีท่าไหน ถึง อึก ไอ้อิล ไอ้อ้า เอาออกไอเอี๋ยวอี๊อ๊ะโอ๊ย( ไอ้คิล เอาออกไปเดี๋ยวนี้นะโว้ย )” ไม่รอให้พูดจบ แอปเปิ้ลลูกสวยก็ถูกยัดปิดปาก เจ้าตัวยุ่งกระเถิบไปหาเพื่อนรักอีกคนพยักเพยิดขอความเห็นใจ
“หัดอยู่เงียบๆซะแต่แรกก็ไม่มีเรื่อง” คาโลเปรยเรียบๆช่วยเอาลูกแอปเปิ้ลมาจากคนปากเบา
“คาโล” น้ำคำหวานหยดย้อยของเจ้าหญิงแห่งเอเธนส์ดังขึ้น เจ้าหล่อนแย้มรอยยิ้มชวนฝัน นัยน์ตาคู่สวยหวานฉ่ำช้อนขึ้นมองหวังโปรยเสน่ห์ให้เจ้าชายผู้หล่อเหลาแห่งคาโนวาล
“แกว่านางพญาผมขาวจะยั่วไอ้เจ้าชายมาดมากขึ้นไหมวะคิล” เฟรินชักนึกขำบทเกี้ยวของหัวหน้าปราสาทขุนนาง เสียงกระซิบที่คิดว่าเบาแล้วดังแว่วถึงหูใครอีกคนที่อยู่ข้างตัว ดวงหน้าสลักคมคายเครียดขึ้นเขม็ง
“มีธุระอะไร” ถ้อยคำเรียบเรื่อยตัดรอยยิ้มหวานฉับ บอกเป็นนัยๆว่ายั่วไม่ขึ้น เจ้าหญิงคนงามอึ้งไปนิดก่อนจะขยับรอยยิ้มใหม่อีกครั้ง หัวเราะเบาๆอย่างมีจริตจกร้าน
“มานั่งอยู่เงียบๆ ไม่เบื่อบ้างหรือ ทำไมไม่หาสาวงามสักคนมานั่งเป็นเพื่อน” เจ้าหล่อนยิ้มหวาน นัยน์ตาแพรวพราวสื่อความนัยบางอย่าง
“ไม่เห็นต้องหา ก็สาวงามนั่งข้างๆมันอยู่ตั้งคน” ครี้ดหนุ่มผู้มีฝีปากกว้าไม่เปลี่ยนนึกอยากลองดีเปรยขึ้นลอยๆ เล่นเอาสาวน้อยคนเดียวสะดุ้งตัวโหยงนึกก่นด่าคนพูดในใจเมื่อนางพญาคนงามตวัดนัยน์ตาคู่สวยมามอง
“อ่า.......คือ ฉันไปเอาน้ำมาให้นะ แขกมามันก็ต้องต้อนรับกันหน่อย เดี๋ยวเค้าจะหาว่าป้อมอัศวินไม่มีมารยาท” แล้วจอมกะล่อนก็พลิกลิ้นหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง
“ด้านหน้าดูน่าสนุก ท่านไม่สนใจไปเต้นรำบ้างหรือ” เฟรินที่เงี่ยหูฟังอยู่ไม่ห่างสำลักน้ำลายพรวดนับถือในความกล้าของเจ้าหล่อนจริงๆ อย่างงี้สิคิงคู่คิง ฮ่าๆๆๆๆๆ ว่าเองหัวเราะเองจนน้ำในแก้วที่ถือกลับมากระเพื่อมขึ้นลงตามอารมณ์ขัน
“กำลังสนใจอยู่พอดี ไปเฟรินไปเต้นรำกัน” คาโลยิ้มรับไมตรีนั้นอย่างสุภาพก่อนจะหันไปคว้าแก้วเครื่องดื่มจากมือเฟรินส่งให้เจ้าหญิงแห่งเอเธนส์ที่ยืนตะลึงขบกามแน่น แล้วคว้าข้อมือบางของคนที่อึ้งไม่แพ้กันให้ออกไปข้างหน้า โรยิ้มขำๆกับคิลส่วนเพื่อนคนอื่นๆในป้อมก็พากันมองหน้ากันเลิ่กลั่กก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะกับบทจีบสาวของเจ้าชายนักรักชั้นอนุบาลที่เริ่มเองไม่เป็นจนต้องรอให้คนอื่นมาเริ่มให้
“ถ้าฉันโดนยัยเจ้าหญิงนั่นฆ่าหมกส้วมล่ะก็ ฉันจะฆ่านาย”เฟรินยิ้มเครียดกับคนที่ดึงเธอมาซวยด้วย
“เต้นรำกับฉันมันลำบากนักหรือไง” หากอีกคนกลับว่าไปอีกเรื่อง
“ลำบากสิ ลำบากมาก!” นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยไหววูบไปนิด เฟรินเลยยิ้มเจื่อนๆหัวเราะฝืดๆว่าเสียงเครียด
“ก็ถ้าไอ้ชุดบ้านี่มันทำฉันหน้าคะมำพื้นนายจะว่าไงฮะ ทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อน” คำตอบที่คาโลยิ้มอ่อนโยนรับ รอยยิ้มที่เล่นงานดวงหน้างามๆให้ขึ้นสีเรื่อชวนมอง
“อยู่ในอ้อมกอดฉัน นายยังจะกลัวอะไรอีกเฟริน” ถ้อยคำนุ่มนวลที่ถูกส่งมาตามจังหวะเพลงหวานล้ำยิ่งเพิ่มความร้อนให้สูบฉีดบนดวงหน้า ก้อนเนื้อในอกกำลังร้องอย่างบ้าคลั่ง มือไม้ก็พลันเย็นเฉียบสะบัดร้อนสะบัดหนาวราวกับจะเป็นไข้
“อย่ามาเสือกพูดให้ฉันขย้อนของเก่า ไอ้บ้านี่” คาโลถอนหายใจหนักๆกับแม่เจ้าประคุณที่ทำหน้าน่ารักได้ประเดี๋ยวเดียว
“พระจันทร์สวยเนอะ” หลังจากที่ฉากรักหวานๆถูกทำลายไม่เหลือซาก คาโลก็เลยตัดสินใจออกมาชมนกชมไม้ข้างนอกยังจะดีซะกว่า
“พระจันทร์จะสวยได้ก็ต้องมีแสงอาทิตย์คอยสาดส่อง” คาโลเปรยเนิบๆ
“พรุ่งนี้นายจะกลับคาโนวาลเลยหรือเปล่า” เฟรินเข้าประเด็นที่ทำให้ใจเธอว้าวุ่นมาร่วมอาทิตย์
“ก็คงจะอย่างนั้น นายอยากไปเที่ยวคาโนวาลสักพักไหมล่ะ” คำชวนเรื่อยๆที่คนฟังใจเต้นแรงก่อนจะหัวเราะเฝื่อนๆเกลื่อนไปตามนิสัย
“ฉันกะว่าจะไปเล่นเป็นเจ้าหญิงให้เดมอสสักพัก พอเบื่อก็ค่อยกับไปเป็นหัวขโมยอย่างเก่าบางทีอาจจะตามพ่อไปที่เกาะสวรรค์แดนใต้” นัยน์ตาคู่คมสวยตวัดมองสตรีข้างตัวฉับ
“ถ้าหากนายสนใจที่จะลองไปเล่นเป็นเจ้าหญิงให้เดมอส ทำไมนายถึงไม่ลองเอาบทพระชายาแห่งเจ้าชายคาโนวาลไปลองนึกๆดูบ้างล่ะ” ดวงหน้าหวานใสขึ้นสีแดงก่ำ เอามือลูบหน้าที่ร้อนฉ่าของตัวเองพยายามสงบสติอารมณ์ที่กระเจิงของตัวเองให้กลับเข้าที่
“เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่นะ คิดจะมาตุ๋มปรมาจารย์ยอดนักต้มอย่างฉันรึไง” เฟรินดึงหน้ากากนักต้มมาสวมอย่างรวดเร็วปกปิดหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง
“ฉันพูดจริง” คำรับหนักแน่นของคาโลทำเอาใจที่ไม่สงบอยู่เป็นเดิมยิ่งทะยานจู่โจมจนเจ้าของรู้สึกเจ็บในอก เฟรินถอนหายใจเรื่อยๆ รู้แน่ว่ามันไม่ได้พูดเล่น
“แกก็รู้ว่าฉันไม่เหมาะกับบทบ้าบออะไรพรรค์นั้น ที่ไปอยู่เดมอสน่ะก็กะจะไปตั้งหลักเฉยๆไม่ได้คิดจะไปเป็นเจ้าหญิงจริงๆจังๆตลอดไปสักหน่อย ส่วนจะไปเป็นพระชายาให้คาโนวาลอ่ะมันก็น่าสนใจไม่หยอก แต่ไอ้ที่ต้องไปอยู่ในกรงทองแบบนั้นคงจะไม่ไหว” คาโลยิ้มรับในคำตอบแม้จะรู้สึกแย่ไม่น้อยแต่บางทีนกน้อยตัวนี้อาจต้องการอิสระมากกว่า มันคงจะเห็นแก่ตัวเกินไปหากจะไปพรากความสุขของเธอให้มาทนกร่อยอยู่กับเขาในเขตรั้วพระราชวังคาโนวาล
“ฉันก็แค่อยากให้นายเก็บไปคิดดู ถ้าเบื่อที่จะนั่งเป็นตุ๊กตาให้เดมอสหรือเบื่อที่จะไปเล่นเป็นนักย่องเบาเมื่อไหร่ ขอให้รู้ว่าตำแหน่งพระชายาแห่งเจ้าชายคาโนวาลจะยังคงว่างรอนายเสมอ” นัยน์ตาสองคู่สบประสานซึ้งสื่อถึงความรู้สึกนับร้อยนับพันที่กลั่นออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ คาโลรวบร่างบางเข้ามาแนบอกซึมซับความอบอุ่นเนิ่นนานภายใต้แสงจันทร์อย่างไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงจะได้คนในอ้อมแขนกลับมาอยู่ด้วยกันแบบนี้อีกครั้ง
“แกเองก็เหมือนกันคาโล รักษาตัวให้ดี แล้วก็อย่าไปทำใจดีงี่เง่าตอนประลองเป็นคิง” มือบางลูบไล้ดวงหน้าคมคายอย่างหวังจะเก็บทุกรายละเอียดให้ตรึงไว้ในความทรงจำ
สายลมเอื่อยๆพัดผ่านหอบเอากลิ่นหอมหวานของหมู่แมกไม้ในสวนพฤกษามาฝาก เงาจันทร์สะท้อนภาพดวงหน้าสลักของเจ้าชายที่โน้มลงมาใกล้ ก่อนการประทับคำสัญญาหวานซึ้งบางเบาจะเริ่มขึ้นแล้วภาพทั้งมวลก็ถูกความมืดมิดในยามราตรีกลืนกินไปจนสิ้น.......................
+++++++++++++++++++++++++++++
“เออๆโชคดี หวังว่าตระกูลแกกับฉันคงไม่ต้องเกี่ยวพันกันทางธุรกิจนะโว้ย!” เฟรินเย้าๆเพื่อนรักขำๆ
“ธุรกิจเด็ดหัวแม่ธิดาแห่งความมืดอ่ะหรอ ไม่แน่ๆ” คำรับกวนๆที่เจ้าตัวดีแยกเขี้ยววับหัวเราะร่อชอบใจ
“ไม่ตายคงได้เจอกันว่ะไอ้คิล”
“ฉันคงจะเหงาแย่เลย ถ้าไม่มีพวกแก” คิลยิ้มหงอยๆ
“อย่ามาเสือกพูดให้ซึ้งนะไอ้บ้า แล้วก็ไม่ต้องมาทำหน้าเศร้า” เฟรินแยกเขี้ยวใส่ไอ้เพื่อนตัวแสบที่พูดพาลให้น้ำตาไหล
“เออๆ ไปแล้ว รักษาตัวนะเฟริน นายก็เหมือนกันคาโลดูแลตัวเองด้วย” คิลตบบ่าสองเพื่อนรักเบาๆ
“แกก็เหมือนกัน ถ้ามีอะไรฉันอยู่เดมอสนะโว้ย” เฟรินรับคำยิ้มกว้างส่งไป
“คาโนวาลต้อนรับนายเสมอ” คาโลยังคงเปรยสงบ
“รู้แล้วน่า ถ้าฉันตกยากเมื่อไหร่คาโนวาลของนายได้ต้อนรับนักฆ่าไส้แห้งแน่ ส่วนเดมอสนี่ก็เป็นที่กบดานได้ไม่เลวเอาไว้ว่างๆจะแวะไปหา แต่แกต้องส่งไอ้คนแคระนั่นมารับฉันนะโว้ย ไม่งั้นฉันคงได้ซี้ม่องเท่งก่อนจะเจอแกแหงๆ” คำกล่าวที่เจ้าตัวดีหัวเราะร่า คิลกระตุกบังเหียนน้อยๆ ม้าเทียมเกวียนเคลื่อนไปข้างหน้าหยอยๆ เฟรินโบกมือส่งไล่หลังจนเกวียนของตะกูลฟีลมัสลับไปจากสายตา
“ส่งเสด็จเจ้าชายแห่งคาโนวาลพระเจ้าค่ะ” เฟรินส่งคำยวนให้เจ้าชายข้างตัวบ้าง คาโลพยักหน้าเนิบๆขึ้นหลังอาชาสีดำสนิทด้วยท่าทางทรงสง่าสยบสายตาผู้คนรอบข้างที่เตรียมตัวจะกลับบ้านกลับเมืองไว้ถนัด
“โชคดีนะเจ้าชาย” เฟรินตะโกนโบกมือส่งว่าที่คิงคนใหม่แห่งคาโนวาลที่หลังม้าค่อยๆห่างไปจากสายตา รู้สึกใจหายไปเหมือนกัน แต่ก็ต่างคนต่างฝันนี่ นายไปรับใช้แผ่นดินของนายเถอะคาโล แม้ใจจริงฉันก็อยากจะชวนนายไปเที่ยวรอบโลกกับฉันอ่ะนะ แต่เกียรติยศของนายมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ฉันจะรั้งเอาไว้ได้................
“ ไง เฟริน” คำทักของคนที่ชอบมาอยู่ข้างหลังเงียบๆ ปลุกคนช่างฝันให้ตื่นก่อนจะหันไปยิ้มกว้างรับ
“ขอทานกำมะลออย่างนายจะไปอยู่ไหนหือโร”
“อากาศดีแบบนี้ เดินทางคงไม่ร้อน” แล้วขอทานเจ้าเล่ห์ก็ไพล่ตอบไปอีกเรื่อง เฟรินหัวเราะเบาๆกับนายคนที่ชอบซ่อนคม
“โชคดีโว้ยเพื่อน” เฟรินตบบ่าโรเบาๆก่อนจะหันหลังเดินไปตามทางทอดยาวที่รออยู่เบื้องหน้า
“นายก็ด้วยเฟริน” โรตะโกนไล่หลังตามมา
++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น