ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซเรีย เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล

    ลำดับตอนที่ #8 : แววตาสีเลือด

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 52


    ตอน 7

    แววตาสีเลือด

              หลังจากการเรียนคาบแรกหมดไป  คาบที่สองก็คือการฝึกการใช้ดาบ  อาจารย์พิคเมียนเป็นผู้สอน  โดยจะสอนที่โรงยิมของโรงเรียนแห่งนี้

    เอาล่ะ  ดาบจะมีทั้งหมด  5 รูปแบบ  หนึ่งคือดาบธรรมดา  สองคือดาบที่เรียกลมได้  สามคือดาบที่เรียกสายน้ำได้  สี่ดาบที่เรียกได้ทั้งสองอย่าง และสุดท้ายดาบที่มองไม่เห็นหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ  ดาบไร้รูปร่างไร้ตัวตนนั้นแหละอาจารย์พิคเมียนอธิบาย

    แล้วดาบแบบไหนที่หาอยากที่สุดค่ะเสียงของผู้หญิงในหอดังขึ้น

    ก็ต้องดาบไร้รูปร่าง ไร้ตัวตนน่ะสิครูพิคเมียนบอก

    แล้ววันนี้ครูก็จะให้ทุกคนลองหลับตาแล้วนึกภาพดาบในมโนสำนึกของตัวเอง   ดาบทุกเล่มที่ออกมา  แท้จริงแล้วมันเป็นดาบที่เรานึกขึ้นมาเองทั้งนั้น  เพียงแค่เราไม่รู้ตัวครูพิคเลียนกล่าว  เซนหันไปกระพริบตาให้เพื่อนๆอีก 4 คน  เป็นอันรู้กัน  คาบนี้ได้ป่วนอีกแล้ว

    จับคู่ 2 คน  วันนี้ครูจะให้ประลองดาบในมโนสำนึกซะ  ใครที่เรียกดาบออกมาได้เร็วที่สุด ก็คือผู้ชนะ  หรือถ้าเรียกได้พร้อมกัน  ผู้ที่ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้ก่อนเป็นผู้ชนะครูพิคเลียนบอก  แล้วเมื่อเหลือคนสุดท้ายที่เป็นเศษก็จะต้องไปคู่กับอาจารย์พิคเลียน   ในคราวนี้เซนคู่กับอาเรส  ชานัทคู่กับโอเทส  และเดลคิลคู่กับอาจารย์พิคเลียน  เมื่อครูพิคเลียนให้สัญญาณในการเริ่ม  เดลคิลก็เรียกดาบออกมา  ดาบของเดลคิลในมโนสำนึกคือดาบธรรมดาที่ไม่ธรรมดา  ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่  แต่มันสามารถทำให้อาจารย์พิคเลียนบาดเจ็บได้ใน 1 นาที  ชานัท  โอเทส  อาเรสและเซน ก็เอาแต่เล่นเพราะทั้ง 4 เรียกแต่ดาบห่วยๆที่ฟันโดนกันแล้วก็หักออกมาเรื่อยๆ

    เป๊าะ! เป๊าะ!

    โอ๊ะ! หักอีกแล้วเซนพูดขำๆพร้อมเรียกดาบอีกเล่มออกมา 

    เป๊าะ!  เป๊าะ!

    ฉันก็หักเหมือนกันล่ะ  เอาใหม่นะชานัทพูดแล้วเรียกดาบออกมาอีกเล่ม  สลับกันไปเรื่อยๆจนทุกคนในหอเริ่มสู้กันเสร็จและทั้ง 4 เองก็เริ่มเบื่อกับการเล่นแบบนี้แล้ว

    เป๊าะ! เป๊าะ! เป๊าะ! เป๊าะ!

    ดาบทั้ง 4 เล่มหักลงพร้อมกัน  ก่อนที่ทั้งหมดจะเรียกดาบใหม่ออกมาอีกครั้ง  แต่ในคราวนี้  ดาบที่ทั้ง 4 ถือกลับเป็นดาบสวยงาม  ที่เป็นเงามันวาว และคมกริบ   นักเรียนในหอที่สู้กันเสร็จแล้วต่างหันมาให้ความสนใจกับทั้ง 4 ที่เริ่มต่อสู้กัน  สลับกันรุกสลับกันรับ  ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำให้แก่ใคร  วิถีดาบที่ถูกฟันลงไปแทบมองตามไม่ทันด้วยสายตาคนธรรมดา   แต่ไม่ใช่ด้วยสายตาของทั้ง 4 เป็นแน่ เพียงแค่ 1 วิ ดาบในมือก็ถูกฟันและตั้งรับไม่รู้กี่สิบครั้งแล้ว

    ฉัวะ!  ฉัวะ!  ฉัวะ! ฉัวะ!

    เป็นอีกครั้งที่ทั้ง 4 ลงดาบของตนไปโดนอีกฝ่ายและก็โดนอีกฝ่านลงดาบใส่เช่นกัน  ไร้รอยเลือด  ไร้ร่องรอยการบาดเจ็บ มีเพียงแขนเสื้อเท่านั้นที่มีรอยขาดเป็นทางยาว  ทุกคนในหอต่างมองกันตาค้าง    ขนาดลงดาบไปเร็วขนาดนั้นยังหลบได้จนโดนแค่แขนเสื้อแล้วถ้าเป็นพวกเขาจะไม่ตายตั้งแต่ยังไม่เรียกดาบเลยเหรอไงกัน  ทุกคนในหอต่างคิดไปในทางเดียวกันและมองทั้ง 5 อย่างแหยงๆ  ใครกล้ามีเรื่องกัน 5 คนนี้ก็บ้าเต็มทน  โดยเฉพาะเดลคิลที่สามารถล้มอาจารย์ผู้สอนได้ตั้งแต่ 1 นาทีแรก

    เก่งมากๆ  สมแล้วที่เป็นหัวหน้าหอมังกร  หอที่ได้ชื่อว่า  โหดสุดๆ แต่ดูท่านักเรียนรุ่นนี้คงได้โหดกว่ารุ่นพี่รุ่นก่อนๆแน่ครูพิคเลียนหัวเราะอย่างชอบใจ    

    อืม...  เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง  งั้นเดี๋ยวลงไปที่สนามกันนะคริคเลียนบอกแล้วเดินไปรอข้างล่าง  แม้จะบอกว่าเดิน  แต่อาจารย์พิคเลียนก็ใช้เวลาเพียง 30 วินาทีในการลงจากชั้น 10 ไปที่สนาม

    ไปกันเถอะอาเรสหันมาบอกก่อนจะก้าวเดินลงกระได

    ชานัท  นายว่าถ้าฉันกระโดดจากชั้นนี้ไปข้างล่างจะได้มั้ยโอเทสถามเมื่อเดินอยู่ที่ชั้น 6

    ไม่ได้ชานัทตอบเสียงเด็ดขาด

    งั้นถ้าฉันโดดได้  นายเลี้ยงข้าวฉันมื้อหนึ่งโอเทสพนัน

    เอาสิ  ถ้านายกล้านะไม่ทันที่ชานัทจะพูดจบ  ร่างของโอเทสก็ล่อยละลิ้วลงไปยืนอยู่ด้านล่างอย่างสวยงาม

    สำเร็จ  เลี้ยงข้าวฉันด้วย ตามสัญญาโอเทสหัวเราะอย่างชอบใจ  เขาจะบอกทำไมว่าเขาใช้น้ำค้างจากต้นหญ้าแถวนั้นให้รองรับเขาอยู่ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย

    ไอ้โอเทสแต่มีหรือที่คนอย่างชานัทจะไม่รู้  เขารีบกระโดดตามลงไปในทันที  และก็ไม่บาดเจ็บอะไรเลยเนื่องจากบังคับให้พื้นดินแถวนั้นยืดหยุ่นได้

    อ๊าก~  เซนช่วยฉันด้วยโอเทสร้องลั่น  อีกสามคนที่เหลือก็มองดูอย่างเหนื่อยใจ  ทะเลาะกันได้ทุกวันให้ตายสิ   แล้วหลังจากที่ทั้งหมดลงมาถึงชั้นล่างก็รีบวิ่งมาหาครูพิคเลียนทันที  ในคราวนี้  ครูพิคเลียนบังคับให้นำดาบของตัวเองออกมาโชว์  และก็เป็นที่หนักใจอีกครั้งทั้ง 5 อีกครั้ง  เนื่องจากดาบของทั้ง 5 คือดาบที่หายากที่สุด  ดาบที่มองไม่เห็นดาบที่ใช้จิตใจในการสัมผัส

    ไหนล่ะดาบ  เอาออกมาสิเมื่ออาจารย์พิคเลียนเดินดูจนครบและวนมาถึงทั้ง 5 ก็เอ่ยถาม

    เอ่อ...  คือว่า...โอเทสกล่าวอ้ำอึ้ง  ผิดกับเดลคิลที่เรียกดาบธรรมดาที่สร้างจากมโนสำนึกขึ้นมาให้ดู  แล้วทั้ง 4 คนที่เหลือก็รีบทำตามทันที  จนเมื่ออาจารย์พิคเลียนเดินจากไปแล้ว  เซนก็หันมายกนิ้วโป้งให้เดลคิล

    เจ๋งไปเลย   ขอบใจว่ะเดลคิลโอเทสทันไปกระซิบกระซาบกับเดลคิล

     เออเดลคิลตอบกลับก่อนจะหันไปฟังครูพิคเลียนพูดต่อ

    เซนอาเรสหันมากระซิบเบาๆกับเซน

    รู้แล้วล่ะ  เฉยไว้ก่อนแล้วกันเซนตอบกลับเสียงเบาพอกัน

    ในการใช้ดาบเพื่อการต่อสู้กับอีกฝ่าย   การกะแรงต้องแม่นและรวดเร็ว  เช่นถ้าอีกฝ่ายรุกมา 40% และรับ 60% เราก็ต้องใช้พลังสัก 35% รับและอีก 65% ที่เหลือใช้ในการรุก   ยิ่งการมอง มองได้เร็วเท่าไรยิ่งได้เปรียบต่อฝ่ายเรามากขึ้นเท่านั้น ทุกคนอาจคิดว่าช่วงจังหวะการก้าวเทาหรืออื่นๆอาจไม่สำคัญให้การต่อสู้  แต่จริงๆแล้ว  สิ่งพวกนี้ล่ะที่จำเป็นมากที่สุด  เช่นจังหวะในการหลบหรือหลีก  ถ้าเราใช้จังหวะในการก้าวขาไม่ถูกก็จะทำให้หลบได้ไม่พ้น   และเมื่อต้องการรุก  ถ้าเรากะจังหวะพลาดก็จะทำให้เราเป็นฝ่ายโดนรุกแทนครูพิคเลียนเองก็พูดไปเรื่อยๆ ส่วน 5 นด้าหลังก้เอาแต่สังเกตด้านหลังตัวเอง  รังสีที่กระหายในรสเลือด  แผ่กระจายจนทั้ง 5 ต่างก็สัมผัสได้  จนเมื่อออดหมดเวลาดังขึ้น

    ออด~

    เอาล่ะ  ไปเรียนคาบ 3 ที่ห้องได้แล้วอาจารย์พิคเลียนไล่  จนเมื่อทั้งสิบเดินลับสายตาไปแล้ว  5 คนที่เหลือก็หันไปมองครูพิคเลียนเล็กน้อยก่อนจะกันให้ไปอยู่ด้านหลัง

    นี้ หมดคาบแล้ว  ทำไมพวกนายถึงยังไม่กลับอีกอาจารย์พิคเลียนบอก

    อาจารย์เองก็รู้สึกได้ใช่ไหมล่ะครับ  รังสีความกระหายเลือดนั้นน่ะอาเรสพูด ทำให้ผู้ที่ไล่ทุกคนเมื่อครู่สะอึกไปสักที

    โอเทส ชานัท  ป้องกันอาจารย์ด้วยเซนตะโกนส่งเมื่อรังสีนั้นค่อยๆขยายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

    หึหึ  สวัสดีเจ้าสวะปีศาจตนนั้นพูด  มันคือปีศาจที่หน้าน่าเกลียดที่สุดเท่าที่ทั้ง 5 เคยเจอมา  เพราะเชลนัทที่เป็นปีศาจเองก็หน้าตาดี  เขี้ยวแหลมโค้งงอออกนอกปาก มันวาวและเงาจนสะท้อนภาพทั้ง 5 กลับมาได้

    ใช้ดาบหรือเวทย์เซนถาม

    ดาบ   เวลาแบบนี้ถ้าใช้เวทย์โรงเรียนนี้พังกันพอดีอาเรสตอบกลับแบบขำๆ  แล้วทั้ง 5 ก็เรียกดาบจริงของตนเองออกมา

    ดาบที่มองไม่เห็นครูพิคเลียบเพ้อมื่อไม่เห็นดาบที่ทั้ง 5เรียกออกมา

    พร้อมนะอาเรสถาม

    อืมอีก 4 คนตอบรับพร้อมกัน  ก่อนที่ เซน  อาเรส  เดลคิลจะวิ่งเข้าหาปีศาจ

    กลิ่นเลือดแบบนี้คงจะเก่งหน้าดูสินะปีศาจตัวนั้นพูดก่อนจะใช้เล็บมือที่งอกยาวตวัดเข้าใส่ทั้ง 3

    เคร้ง!

    โอ๊ะโอ๋  ขอโทษนะเซนพูด  ช่วงจังหวะที่ปีศาจตัวนั้นตวัดเล็บแหลมเข้าใส่  เซนก็เรียกดาบในมโนสำนึกออกมาก่อนจะใช้เป็นตัวกัน  แม้จะบอกว่าเป็นดาบในมโนสำนึก  แต่มันก็เป็นดาบเนื้อดีที่สามารถฟันเหล็กกล้าให้ขาดออกจากกันได้ง่ายๆ

    ถ้าขยับมีดสั้นเล่มนี้จะหันคอแกให้ขาดเซนพูดเสียงเย็น  ไม่มีใครมองทันในจังหวะที่เซนเรียกดาบในมโนสำนึก  ดาบที่มองไม่เห็นถูกเก็บไปและสิ่งที่กลับมาคือมีดสั้นที่เซนใช้ถนัดยิ่งกว่า

    ใครส่งแกมาไม่ใช่เสียงของอาจารย์พิคเลียน  ไม่ใช่เสียงของทั้ง 5 แต่มันคือเสียงของปีศาจที่ชอบขึ้นมาป่วนบนโลกมนุษย์และปีศาจอีกหนึ่งตนที่ทุกคนไม่เคยเห็นหน้า

    ท่านเชลนัท  ท่านเวสตาปีศาจตัวนั้นครางเสียงอ่อย

    ใครส่งแกมาเชลนัทถามอีกครั้งแล้วคราวนี้ก็กดเสียงให้ต้ำลงกว่าเดิม  โดยเฉพาะมีดสั้นในมือของเซนก็ยิ่งกดลึกเข้าไปในลำคอมากกว่าเดิม

    ท่าน... ท่านปาดาสครับ    ท่านปาดาสส่งข้ามาปีศาจตัวนั้นละลักละลำพูดอย่างไม่เป็นภาษา

    อืมเซนพยักหน้ารับเมื่อได้คำตอบก่อนที่มีดสั้นอันนั้นจะทำให้คอของปีศาจหลุดออกมา  และระเหยกลายเป็นไอ

    นายชื่อเวสตางั้นหรืออาเรสหันไปถาม  โอเทสกับชานัทก็เดินเข้าไปหาทุกคนแล้ว

    อาจารย์พิคเลียนครับก่อนที่ครูพิคเลียนจะเดินต่อไป  เดลคิลก็เรียกไว้และร่างเวทย์ลบความทรงจำให้แก่ครูพิคเลียน

    วันนี้ฉันมีเรียน  แล้วเจอกันวันอื่นนะอาเรสพูดแล้วลากทุกคนไปที่ห้องเรียนในทันที

     

                    ในคาบที่ 3 ซึ่งเป็นคาบสุดท้ายของวันนี้  ทั้ง 5 เอาแต่นอนโดยไม่ได้ฟังเลยสักนิด   แล้วไม่มีใครว่าด้วย  ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของคาบประวัติศาสตร์  เซนเงยหน้าขึ้นมามองห้องเรียนแล้วฟุบหน้าลงไปอีก  วันนี้เข้าโดนเล็บของเจ้านั้นมันกรีดเอาจนเป็นแผลเลยน่ะสิ   แต่ว่าเขายังไม่ได้บอกใครหรอกนะ  ทุกคนเห็นว่าเขาใช้ดาบกั้นก็จริง  แต่ว่าปลายเล็กของมันก็กรีดมาโดนแถวๆข้อศอเขาอยู่ดี  เป็นแบบนี้ประจำเลยล่ะ  กันได้แต่กันไม่หมด  เพราะเหตุนี้  พ่อของเขาจึงชอบบอกว่าฝีมือเขาอ่อนหัดอยู่เสมอ  แม้พลังจะตื่นขึ้นมาแล้วก็เถอะ  ตอนนี้ตรงแผลก็เริ่มชาขึ้นมาแล้ว  ขนาดเอามือไปแตะตรงแผลยังไม่รู้สึกอะไรเลย

    เซนๆ  หมดคาบแล้วนะหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเซนเมื่อเสียงออดหมดเวลาดังขึ้น

    หืม  ขอบใจนะเฮร่าเซนบอกแล้วหันไปปลุกคนอื่นต่อ  โดยใช้มือซ้ายข้างที่ไม่ถนัดปลุก เพราะมันเป็นข้างที่ไม่เป็นแผล

    อาเรส  โอเทส  ชานัท  เดลคิลตื่นได้แล้ว  ไปกินข้าวกันเซนปลุกทั้ง 4

    หือ  อืมๆโอเทสเงยหน้ามามองแล้วลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ

    ตื่นแล้วๆอาเรสกัญชานัทลุกขึ้นมาพร้อมกัน  ส่วนเดลคิลเองก้ลุกขึ้นมานานแล้ว

    ไปกินข้าวกันเถอะเซนบอกก่อนจะเดินนำไปที่โรงอาหาร

    ชานัท  ตามสัญญาโอเทสทวง

    เออๆ  งั้นแกไปซื้อนะชานัทบอก

    โอเทส  ฝากซื้อให้ฉันจานหนึ่งเซนตะโกนบอกพร้อมโยนเงินไปให้

    เดี๋ยวซื้อให้โอเทสตะโกนกลับมาแล้วเดินไปเข้าแถวซื้ออาหาร และสักพักก็เดินกลับมาพร้อมอาหาร 3 จาน  เดลคิลกับอาเรสก็เดินตามมาทีหลังโดยในมือมีจานข้าว คนละจานพร้อมแก้วน้ำคนละ 2-3 ใบ

    กินเลยนะชานัทบอกแล้วลงมือกิน 

    เคร้ง! เสียงช้อนของเซนตกกระทบกับจาน  เซนหันมามองหน้ทุกคนแล้วยิ้มเจือนๆ  ก่อนที่จะใช้มือที่สั่นของตนค่อยๆหยิบช้อนขึ้นมาใหม่

    วันนี้พวกนายจะไปไหนกันรึเปล่าเซนถามแล้วเปลี่ยนมือจับช้อนเมื่อเห็นว่าไม่สามารถใช้มือขวาได้

    ไม่นะ  หรืออาจจะไปป่าหลังโรงเรียนอีกก็ได้  ว่าจะปรุงยาพิษขึ้นมาอีกน่ะ  คราวที่แล้วก็ใช้ไปแล้วด้วยอาเรสตอบ  โดยที่ยังมีสองคนที่ก้มหน้าก้มตากินแบบไม่สนใจใครอยู่

    อืม  งั้นฉันขอกลับหอนะ  ไม่อยากไปน่ะเซนตอบยิ้มๆ  แล้วพยายามใช้มือข้างซ้ายตักข้าวขึ้นมากิน  โชคดีที่ทุกคนต่างรีบกินอาหารในจาน  จึงไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจากเซน

    เอิ๊ก~ อิ่มจังโอเทสที่กินเสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดพร้อมเรอ 1 ที

    อ้าว~  เซน  ไม่กินเหรอโอเทสเอ่ยถามเซนที่วางช้อนแล้วแต่อาหารในจานยังคงพูนอยู่เหมือนเดิม

    ไม่เอาแล้วล่ะ  ไม่หิวเซนบอกแล้วใช้มือซ้ายยกจานข้าวไปเก็บ  โอเทสมองตามอย่างงงๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

    เซน  นายจะไม่ไปจริงๆเหรอชานัทถามมาเรื่อยๆตั้งแต่โรงอาหารจนถึงห้องพัก  เซนเองก็ปฎิเสธอยู่เรื่อยๆเช่นกัน

    ไม่เอา  ไม่ไป ฉันอยากนอนเซนบอกแล้วเปิดประตูห้องพักเข้าไป

    แน่ใจนะชานัทยังคงถามอีกครั้ง

    แน่-ใจเซนย้ำทีละคำก่อนจะปิดประตูห้อง

    ปัง!

    ภายในห้องพัก  เซนเดินไปที่เตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนเหงื่อไหลซึมทั่วร่าง  ใบหน้าซีดเซียว  ก่อนที่เซนจะพยายยามเอ่ยปากเรียกภูตของตัวเอง

    รีชเพียงไม่นาน มังกรตัวจิ๋วก็โผล่มาอยู่ตรงหน้า  ไม่ต้องรอให้สั่งต่อ  รีชรีบเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นมนุษย์และยกบาดแผลของเซนขึ้นมาดู

    ท่านเซเรีย  แผลท่าน...รีชกล่าวชะงักไว้แค่นั้นแต่เซนก็ค่อยๆพยักหน้าลงอย่างยากลำบาก

    ท่านเซเรีย  ทำตามที่ข้าบอกนะ   หลับตาลง ตั้งจิตให้แม่นยำ  รีดพลังจากตัวของท่านออกมาให้ได้มากที่สุดนะเซนค่อยๆทำตามที่รีชบอกทีละขั้นตอน

    แค่กๆแล้วเซนก็ไอออกมาเป็นเลือดสีดำ  แต่เมื่อมันออกมาได้ไม่มาก  รีชก็ทำสีหน้าเครียดขึ้นมาอีกครั้ง

    ไม่ไหวแล้ว  มีพิษในร่างกายมากเกินไปรีชพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วเรียกมังกรของโอเทส  ชานัท  อาเรส และเดลคิลมาหาตนเอง

    ท่านพี่มีอะไรรึเปล่าเรชในร่างของมนุษย์ผู้ชายถาม

    ท่านเซเรีย  โดนพิษจากเล็บของปีศาจ  รีดพลังแล้วก็ยังช่วยได้ไม่มาก  พวกนายต้องไปเรียกท่านเดลิล  ท่านอาเรส  ท่านโอเทส  ท่านชานัท มาที่นี้โดยด่วน  ไม่เช่นนั้นพลังของท่านเซเรียอาจจะต้านไว้ไม่อยู่รีชส่ง  แต่ก็ถูกเซนจับมือไว้ก่อน

    ไม่ต้อง...  ไม่ต้องไป   ฉันไม่เป็นไรเซนเอ่ยเสียงแผ่วพลางพยายามยิ้มให้ดูเหมือนสบายมากที่สุด

    แต่ท่าน...รีชพยายามจะเถียง

    ไม่ต้องไป  แค่กๆเซนกล่าวคล้ายจะตะโกนแก็ไอเอาเลือดสีดำออกมาเสียก่อน

    ข้ารักษาเองได้เซนเอ่ยแล้วพยายามรีดพลังออกมาจนหน้าซีดลงไปกว่าเดิม

    อั๊ก!”จนสุดท้ายเมื่อร่างกายทนรับพลังทั้งหมดไม่ไหว  เซนก็กระอักเลือดสีดำออกมาเปื้อนผ้าปูที่นอนสีขาวแล้วล้มพับลงไปกับเตียง

    รีบไปเรียกทุกคนมาเร็วรีชหันไปบอกเพื่อนและน้องของตน  ก่อนจะย้ายให้เซนไปนอนที่เตียงของอาเรส  แล้วถอดเสื้อนอกออกทำให้เซนเปลือยด้านบน  รอยสลักค่อยๆเปล่งแสงสีขาวและดำตรงจุดที่มีรอยสลักปีกสีดำและขาวเกิดขึ้น   เซนเหงื่อออกท่วมตัว  ริมฝีปากที่เคยเป็นสีแดงสดตอนนี้กลับแห้งผากและซีดเซียว

    ท่านเซเรียรีชกล่าวแล้วนำมือไปวางแทบบนหน้าอกของเซน  เสียงหัวจที่เต้นแผ่วจนเกือบเหมือนจะหยุดเต้น ให้มังกรรัตติกาลในร่างของรีชต้องรีบถ่ายพลังสีดำของตัวเองให้แก่เซนโดยเร็วที่สุด

    ข้ารอท่านมากว่า 300 ปี  ข้าไม่มีทางให้ท่านตายแน่ๆรีชเอ่ยไปพลาง  ถ่ายพลังไปพลาง

    ปัง!  เสียงประตุถูกเปิดอย่างแรง  ชายทั้ง 4 คนรีบกรูกันเข้ามาหาคนที่นอนอยู่บนเตียง  ไม่เว้นแม้แต่เดลคิลที่ไม่ค่อยจะสนใจใครยังอดห่วงและวิ่งมาโดยเร็วมาโดยเร็วไม่ได้

    เซนเป็นอย่างไรบ้าง รีชอาเรสถามด้วยความเป็นห่วง

     อาการแย่มาก  พิษผสมไปกับเลือดในร่างกายแถมยังรีดพลังมากเกินจนร่างกายรับไม่ไหว  ยิ่งทำให้พิษออกฤทธิ์ได้มากยิ่งขึ้นรีชกล่าว

    เรช  ออกมาอาเรสเรียกมังกรตะวันของตนออกมา

    ไปเรียนเรื่องนี้ให้กษัตริย์กราเวลด้าทราบโดยด่วน   รีช นายไปแจ้งข่าวให้กับอาจารย์ใหญ่ราเชลซะอาเรสสั่ง

    ครับ/ครับมังกรรัตติกาลกับมังกรตะวันับคำสั่งก่อนจะเปลี่ยนร่างให้เป็ฯมังกรและบินออกไปด้านนอกจากทางหน้าต่าง

    เซนอาเรสรีบวิ่งเข้ามาหาเซนและให้มืออังหน้าผากของตนและเซน

    พลังธาตุแปรปวน    และพิษก็วิ่งอยู่ในเส้นเลือดจนห้ามไม่ได้แล้วเดลคิลพูดเสียงเคร่งเครียดขึ้นมา

    ชานัทจับเซนให้ลุกขึ้นนั่ง เสร็จแล้วขึ้นมานั่งจับมือกันให้เป็นวงกลมเดลิลสั่ง  หลังจากทำทุกอย่างจนครบ  อาเรสจับมือข้างขวาของเซนและเดลคิลเป็นคนจับมือข้างซ้ายของเซน  ทั้งหมดค่อยๆถ่ายพลังของตัวเองให้แก่เซน  จากนาทีเป็นชั่วโมง  จากชั่วโมงเป็นวัน  จากวันเป็นคืน จนกระทั่งผ่านไป 1 วัน  เซนค่อยๆกระอักเอาเลือดทั้หมดที่เป็นพิษออกมา

    แค่กๆ อั๊ก!!!” แล้วเซนก็ปรือตาขึ้นมองทุกคน  อาเรสเป็ฯคนแรกที่สังเกตเห็น  เขากอดเซนอย่างดีใจ  เดลคิลเองก็ยิ้มพลางยีหัวเซนจนฟู  ชานัทกับโอเทสถึงกับร้องไห้ เซนมองหน้าทุกคนอย่างงงๆแต่ก็ค่อยๆยิ้มออกมา

    เซน  นายทำบ้าอะไรของนาย  รู้ตัวบ้างไหมเดลคิลกล่าวว่า

    ขอโทษนะ  แต่ฉันไม่อยาให้ทกคนเป็นห่วงน่ะเซนสารภาพหน้าจ๋อย

    แล้วแบบนี้ฉันไม่เป็นห่วงมากกว่ารึไง  ถ้าบอกตั้งแต่แรก  ก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้แล้วเดลคิลพูดอีก 

    โอเทสกี่โมงแล้วเซนแกล้งไม่สนใจเดลคิลแล้วหันไปมองหน้าโอเทส

    บ่ายโมง วันอังคารโอเทสหันไปดูนาฬิกาแล้วบอก 

    เฮ้ย  นี้พวกนายดูแลฉัน 1 วันเต็มๆเลยเหรอเซนตะโกน

    ก็ใช่น่ะสิทั้ง 4 ประสานเสียงพร้อมกัน  ทำให้เซนหน้าจ๋อยลงไปยิ่งกว่าเดิม

    ผ่านแล้วก็ผ่านไป  แต่คราวหน้าเอาแล้วนะอาเรสเอ่ย

    อืมเซนตอบรับแล้วยิ้มให้

    ฮาๆ  เอาเถอะ  แต่ที่แน่ๆ พวกเราต้องให้เหตุผลกับอาจารย์ที่สอนในวันนี้ด้วยชานัทบอก

    เฮ้อแล้วก็เป็นอีกครั้งที่ทั้งหมดต้องถอดหายใจอีกครั้ง

     

                    ในเย็นวันนั้นกษัตริย์กราเวลด้าก็เดินทางมาที่โรงเรียนแห่งกษัตริย์ เซนเองได้เจอกับกษัตริย์กราเวลด้าพ่อของตนเพียงไม่นานเพราะหลังจากนั้น  กษัตริย์กราเวลด้าก็เข้าไปคุยกับอาจารย์ราเชล

    สวัสดีทุกคนเสียง 4 เสียงดังขึ้นพร้อมกันจากด้านหลังของทั้ง 5

    ท่านพ่อ 4 คนประสานเสีงพร้อมกัน  จะเว้นเซนเอาไว้คนเดียวเพราะพ่อของเขาเดินทางมาถึงคนแรก

    กษัตริย์โรนัทดัส  กษัตริย์เซโฟรเลท  กษัตริย์ไลท์วิล  กษัตริย์เวเนวเกรเทส  ถวายบังคมพะย่ะค่ะเซนรีบทำความเคารพในทันที  และคนอื่นๆก็ทำตามกันต่อไป

     ฮาๆ  เอาเถอะ  ว่าแต่กษัตริย์กราเวลด้าอยู่ที่ไหนล่ะกษัตริย์โรนัทดัสถาม

    เข้าไปในห้องประชุมกับอาจารย์ราเชลครับอาเรสตอบ

    ไปกันเถอะกษัตริย์เวเนวเกรเทสบอกก่อนจะเดินนำกษัตริย์ทุกคนออกไป

    อะไรของเขานะโอเทสส่ายพลางหยิบขนมมากิน

    ไปไหนต่อดีล่ะเซนถามหลังกินข้าวเย็นเสร็จ

    พอเลย  ฉันขี้เกียจหาข้ออ้างให้แล้วนะชานัทรีบเบรกทันที  เขาคิดข้ออ้างอย่างง่ายๆว่า  พวกเขาท้องเสียจึงไม่สามารถมาเรียนได้  และที่สำคัญอาจารย์ทุกท่านก็เชื่อเสียด้วยสิ

    เซน  มากับฉันหน่อยสิโอเทสเดินเข้ามาหาเมื่อทั้ง 5 กลับมาถึงห้องพักแล้ว

    อ๊ะ...  อืมเซนหันไปดูแล้วเดินตามโอเทสไปที่ระเบียง

    มีอะไรเหรอเซนถาม

    เธอเป็นผู้หญิงจริงๆนะโอเทสถามอย่างไม่แน่ใจ

    ก็จริงน่ะสิเซนพูดขำๆ  ทำไมโอเทสถึงไม่เชื่อว่าเราเป็นผู้หญิงล่ะ

    งั้นเอาหูมานี้หน่อยได้ไหมโอเทสขอร้อง  เซนมองหน้าโอเทสแบบงงๆ  แต่ก็ยอมหันหูไปหาโอเทส

    คือว่า...โอเทสเริ่มกระซิบ

    นายคิดว่าความรู้สึกนั้นเป็นรักแท้สินะหลังจากฟังจบเซนก็เอ่ยขึ้นมา

    ฉันคิดว่าแบบนั้นนะ  แต่ก็ไม่เคยรักใครแบบนี้ก็เลยมาถามนายโอเทสตอบแล้วทำหน้านิ่ง

    งั้นนายคงต้องดูความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วยล่ะนะ  สำหรับความรักของนาย  ฉันว่าคงบอกตอนนี้ไม่ได้หรอกเซนพูดนั้นก่อนจะเดินกลับไปให้ห้องแวเข้าสู่ห่วงนิทราเพื่อรอเช้าวันต่อไป  โดยหารู้ไม่ว่ากำลังมีแววตาของปีศาจร้ายกำลังจับจ้องร่างของทั้ง 5 อยู่!!!

     

                    โอเทสที่ยังนอนไม่หลับเดินไปมาที่ระเบียงอย่างไม่เป็นสุข   ถ้าความรู้สึกนั้นเป็นเรื่องจริงเขาคงต้องเสียใจอย่างมากแน่   เขาเหม่อมองท้องนภาที่กว้างไกลจนไม่เห็นสุดปลายขอบนภา  พลางถอดหายใจเฮือกใหญ่

    กลุ้มอะไรอยู่รึเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง  โอเทสหันไปมองก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา

    ชา...นัทเสียงชายหนุ่มสั่นอย่างเบาๆ แต่ก็ไม่พ้นความสามารถในการฟังของชานัท

    นายไม่สบายหรือไงชานัทถามแล้วนำหน้าผากของตนไปแนบกับหน้าผากของอีกฝ่าย

     เฮ้ย! ออกไปนะ  ฉันไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อยโอเทสร้องลั่นก่อนจะผลักชานัทออกอย่างแรงจนเซไปชนกับระเบียง

    นี้  มันเจ็บนะ  ข้ารึอุตส่าห์เป็นห่วง  กลัวจะเป็นหวัด  เจ้ายิ่งร่างกายบอบบางอยู่ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ในจิตใจของชานัทเริ่มเป็นห่วงคนตรงหน้าทั้งๆที่แต่ก่อนแกล้งกันจนได้รับบาดเจ็บแทบตาย เขาก็ยังสามารถหัวเราะร่าได้อยู่เลย 

    ข้ามิได้ขอให้เจ้าเป็นห่วงข้าโอเทสตอบแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น

    งั้นก็ขออภัยด้วย  ที่ข้าไปยุ่งมิเข้าเรื่อง  ทำให้ต้องทรงเคืองพระหทัยชานัทพูดด้วยเสียงแข็งกระด้าง  และสรรพนามที่ใช้เรียกก็ถูกเปลี่ยนเป็นคำราชาศัพท์ทั้งหมด

    นายเป็นอะไรไปชานัท  ใครทำให้นายเป็นแบบนี้โอเทสถามด้วยความเป็นห่วง

    หามีไม่  ท่านเวลนิสเองก็ควรไปบรรทมได้แล้วนะพะย่ะค่ะชานัทเรียกโอเทสแทนด้วยชื่อกลางแทนที่จะใช้ชื่อต้นที่มีแต่คนที่ได้รับอนุญาตให้เรียกเท่านั้น

    เจ้า...  เป็นอะไรกันแน่ไร้ซึ่งคำตอบของคำถามนี้  เพราะผู้ที่โอเทสต้องการให้ตอบได้เดินหันหลังเข้าไปในห้องเสียแล้ว

    ข้ามันช่างบ้าเสียจริงที่ไปอารมณ์เสียใส่เจ้า  ข้าขอโทษชานัทพูดในความมืดมิดก่อนจะหลับลงด้วยความอ่อนเพลีย

     


    ++++++++++

    ในโลกนี้ มีรักหลากหลายแบบ

    ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหนเราก็ควรจริงใจกับมัน

    555+

    ขึ้นมาแบบเศร้าเลยครับ  งงล่ะสิ  โอเทสกระซิบอะไรกับเซน

    ชานัทเริ่มแปลกแล้วเนอะว่ามั้ย...

    เข้าเรื่องอีกนิ๊ส

    เรื่องนี้มีชื่อว่า เซเรีย  เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล

    อนิจา  พึ่งรับรู้ว่าชื่อนิยายตัวเองไปคล้ายกับนิยายที่ได้ตีพิมพ์แล้ว

    มันคือเรื่อง  เซเรน ธิดาแห่งรัตติกาล

    ผมเพิ่งได้รับรู้ก็วันนี้เอง  เซเรียดูแล้วมัยช่างคล้ายกับเซเรนอย่างกับแกะ

    แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าที่แต่งจบแล้ว

    Dark_ Sniper



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×