ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัมผัสที่หก

    ลำดับตอนที่ #7 : หายไปไหน...

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 55


    ฉันวิ่งสำรวจรอบบ้านพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อของขวัญไปด้วย  เมื่อแน่ใจแล้วว่าขวัญไม่ได้อยู่ในบ้านฉันก็รีบหยิบกระเป๋าเงินและโทรศัพท์วิ่งออกไปข้างนอกทันที  โชคยังดีระหว่างที่ฉันกำลังวิ่งอยู่ มีรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างวิ่งผ่านมาพอดีฉันเลยโบกแล้วให้เขาไปส่งที่โรงเรียน 

                ตึง!!

                ฉันเปิดประตูห้องม.2/1ด้วยแรงที่ไม่ได้เบาเลยสักนิด สายตาฉันมองสำรวจรอบห้องว่ามีใครหลงเหลืออยู่หรือไม่ และฉันก็พบกับความว่างเปล่า  นาฬิกาที่ผนังบอกเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว  ฉันเริ่มร้อนรนอีกครั้ง หยิบโทรศัทพ์โทรเข้าเครื่องของขวัญ และมันก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น ฉันเดินไปตามเสียงก่อนจะพบโทรศัพท์ของขวัญวางไว้ใต้โต๊ะ  แต่ไม่มีกระเป๋านักเรียนหรือสิ่งอื่นๆหลงเหลืออยู่เลย  ฉันคว้าเอาโทรศัพท์ของขวัญมาเก็บไว้เองและวิ่งออกไปนอกโรงเรียน พยายามสำรวจรอบๆโรงเรียนว่ามีที่ไหนที่ขวัญจะชอบไปบ้าง แต่ทุกๆที่ที่ฉันไปกลับไร้วี่แววคนที่ฉันกำลังตามหา

                แก้ว!  มีอะไรเหรอเสียงบีมดังขึ้นใกล้ๆกับตัวฉัน  บีมนั่งอยู่บนเสาไฟฟ้า ขึ้นไปทำไมเนี่ย...

                ขวัญหายไป  ปกติเวลานี้ขวัญต้องกลับถึงบ้านแล้วฉันบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน แล้ววิ่งไปที่สวนสาธารณะแถวบ้าน แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาของขวัญเลยสักนิด  ฉันนั่งลงบนชิงช้า หอบหายใจหนักเพราะความเหนื่อย

                มีอะไรให้พวกเราช่วยรึเปล่าแก้วเสียงมินดังขึ้นด้านหลังฉัน  เธอเดินมาพร้อมกับโช  ดูจากชุดที่ทั้งสองคนใส่แล้ว คงจะเพิ่งกลับมาจากงานศพแน่ๆ  ฉันเงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดสิ่งที่ต้องการเบาๆ

                ขวัญหายไป ฉันลองไปตามหาทุกๆที่ที่คิดว่าขวัญจะไปแล้วฉันบอก  มินทำหน้าตกใจเล็กน้อยหลังจากฟังจบ  ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันต้องให้ความสนใจกับมัน

                แล้วบ้านเพื่อนๆในห้องของขวัญล่ะ ได้ไปหาบ้างรึยัง  เผื่อว่าขวัญอาจจะไปบ้านใครสักคนก็ได้นะมินว่า  ฉันรีบลุกขึ้นยืนในทันที  จริงด้วย... ฉันลืมไปซะสนิทเลย บ้านเพื่อนๆ นั่นล่ะที่ๆฉันยังไม่ได้ลองหา  ฉันแยกกับมินและโช ให้ทั้งสองคนลองไปหาที่บ้านเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ส่วนฉันกับบีมก็ไปอีกกลุ่มหนึ่ง  เพราะฉันไม่รู้ว่าใครเป็นเพื่อนสนิทของขวัญบ้าง  ดังนั้นฉันเลยต้องไปที่บ้านเพื่อนของขวัญราวๆ 7-8 หลัง เห็นจะได้  แต่ทุกๆบ้านที่ฉันลองไป  กลับไม่มีวี่แววว่าขวัญจะอยู่ที่นั่นเลย  และหลังตรงหน้าก็เป็นหลังสุดท้าย  ฉันเดินเข้าไปกดกริ่ง สักพักก็มีหญิงวัยกลางคนมาเปิดประตูให้ ดูท่าว่าจะเป็นแม่ของเพื่อนขวัญนะ  ฉันลองถามว่ามีเด็กนักเรียนโรงเรียนเอกอนันตศึกษามาที่บ้านหลังนี้บ้างรึเปล่า แต่คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้า  ฉันกล่าวขอบคุณและเดินมานั่งพักที่สวนสาธารณะแห่งเดิม ความหวังตอนนี้คือให้ทางด้านมินกับโชเจอตัวของขวัญ  ฉันมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง สองทุ่มครึ่งแล้ว... อีกไม่นานพ่อกับแม่ก็จะกลับมาถึงบ้าน  แต่ขวัญยังไม่กลับมาเลย  ฉันมองมินกับโชที่วิ่งมาจากหน้าสวนสารธารณะ  เบื้องหลังของทั้งสองคนไม่มีใครตามมา...

                ไม่เจอเลย  มีบ้านหลังไหนที่พวกเรายังไม่ได้ไปบ้างรึเปล่ามินถาม  เธอดูท่าจะเป็นห่วงขวัญมากกว่าฉันซะอีกนะ

                มีเพื่อนของขวัญคนไหนที่เธอคิดว่าขวัญน่าจะรู้จักบ้านของคนๆนั้นบ้างโชถาม  มันทำให้ฉันนึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา  คนที่ขวัญรู้จักบ้านงั้นเหรอ ถ้าที่ฉันรู้ก็มีอยู่หลังเดียวและเป็นหลังที่ยังไม่มีใครไปสำรวจ 

                บ้านของเอ็ม...ทันทีที่คำตอบหลุดจากปากฉันมินก็ลากทั้งฉันและโชขึ้นแท็กซี่ไปในทันที  ทำเอาฉันลากบีมขึ้นไปด้วยแทบไม่ทัน  ใช้เวลาเกือบสิบห้านาที  ก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะมายืนอยู่ที่หน้าบ้านของนายเอ็ม

                พี่อาร์ตสวัสดีค่ะฉันยกมือไหว์พี่ชายของนายเอ็ม  โดยมีโชกับมินไหว้ตาม  พี่อาร์ตที่กำลังกวาดพื้นหน้าบ้านอยู่เงยหน้าขึ้นมองฉัน และทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา

                อ๋อ... เพื่อนนายเอ็มนี่เอง  เอ็มอยู่บนบ้านน่ะ เห็นว่าวันนี้พาเพื่อนมาด้วย หน้าคล้ายๆน้องสาวของเธอเลยนะพี่อาร์ตว่า นั่นทำให้ฉันมั่นใจเต็มร้อยเลยว่าขวัญต้องอยู่กับนายเอ็มแน่ๆ  ฉันกล่าวขอบคุณพี่อาร์ตก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้าน  พ่อของนายเอ็มกำลังนั่งสมาธิอยู่ และฉันก็ไม่อยากกวนเขาเท่าไรนัก

                เอ็มกับเพื่อนเขาอยู่ข้างบน ขึ้นไปสิ...แต่ดูเหมือนว่าพ่อของเอ็มจะไม่รู้สึกเป็นการรบกวนเท่าไร เขาพูดออกมาทั้งบๆที่หลับตา  ฉันพาทุกคนอ้อมไปขึ้นกระไดด้านหลัง มันเป็นกระไดไม้ ถ้าลงเท้าแรงมันจะมีเสียงดังมากๆ ฉันพยายามย่องให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้  และในที่สุดฉันก็พาตัวเองขึ้นมาชั้นบนได้สำเร็จโดยไม่ทำอะไรให้เกิดเสียงดังเลยแม้แต่น้อย

                ขวัญ...ฉันเรียกขวัญด้วยน้ำเสียงที่ดังเล็กน้อย เมื่อเห็นเธอนั่งพิงไหล่ของเอ็มอยู่ เอ็มเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะทำหน้าตกใจเล็กน้อย  ฉันเดินไปหาขวัญก่อนจะฉุดตัวเธอขึ้นมา  ขวัญมองหน้าฉันอย่างงงๆ ก่อนที่ฝ่ามือฉันจะปะทะเข้ากับแก้มของเธอ

                เพี๊ยะ!!

                พี่แก้ว!! พี่แก้วตบขวัญทำไมเธอหันมาถามด้วยน้ำตานองหน้า แต่อารมณ์ตอนนี้ของฉันจะไม่มีการเห็นใจใดๆทั้งสิ้น

                ขวัญดูหน้าแก้วนะ แก้วไม่สบาย เจ็บขนาดนี้ แต่เพราะขวัญทำให้แก้วต้องออกมาตามหา ตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามแล้ว  โทรศัพท์ก็ไม่เอากลับมา  แก้วตามหาขวัญแทบตายเลยรู้ไหม แก้วไปบ้านเพื่อนของขวัญทุกคนเพื่อตามหาขวัญ  แต่ขวัญกลับมาอยู่กับนายเอ็ม  ขวัญไม่เคยเหลวไหลขนาดนี้นะ  ในฐานะพี่  แก้วขอบอกเลยนะว่าที่ขวัญทำมันไม่ถูกต้องเลยสักนิดฉันพูดรัวออกไปโดยไม่สนใจริมฝีปากที่ยังบวมเจ่อหรือร่างกายที่บอบช้ำเลยสักนิด   

    ทันทีที่ฉันพูดจบเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นมา  ฉันมองหน้าขวัญแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ชื่อที่ขึ้นมา เขียนไว้ว่า พ่อฉันมองหน้าขวัญอีกครั้งและเดินหลบไปคุยโทรศัพท์ห่างจากคนอื่นๆ

    ค่ะพ่อ... ขวัญอยู่กับแก้วค่ะ แค่ออกมาหาอะไรกิน เดี๋ยวจะกลับแล้วค่ะ.. บายค่ะพ่อฉันวางโทรศัพท์แล้วหันไปหาทุกคนอีกครั้ง  ขวัญมองหน้าฉันแบบสำนึกผิด  แต่อารมณ์นี้ฉันไม่อยากจะปลอบใจใครเลยสักนิด 

    เอ็ม... ตลอดมาฉันกลัวนายมาตลอด จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังกลัวอยู่  แต่ครั้งนี้ฉันยอมไม่ได้จริงๆ  ฉันไม่ห้ามถ้านายจะคุยกับน้องฉัน  แต่ถ้าจะพาน้องฉันมา อย่างน้อยก็ควรบอกให้ฉันรู้ หรือไม่ก็ให้ขวัญโทรมาบอก ฉันหันไปพูดกับเอ็ม ส่วนขวัญ... แก้วบอกพ่อว่าออกมาหาอะไรกินกับขวัญข้างนอก  นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่แก้วจะยอมโกหกแบบนี้  แก้วรออยู่ข้างนอก จะกลับเมื่อไรก็ตามออกไปแล้วกัน

    ฉันดึงมือมินให้ตามออกมาพร้อมๆกับฉัน เธอเดินมาตามแรงฉุดที่ไม่มากเท่าไรนัก  ฉันปล่อยมือมินเมื่อออกมาด้านนอก

    ตบไปแล้วมิน  ฉันตบขวัญไปแล้ว... ขวัญคงเสียใจมากแน่ๆ  มินช่วยปลอบเขาให้ฉันทีนะ  ขวัญคงไม่อยากเห็นหน้าฉันตอนนี้หรอกฉันพูด  มินตบไหล่ฉันเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน  ฉันมองดวงจันทร์ที่ลอยเด่นบนท้องฟ้า  แต่มันพร่ามัวเหลือเกิน  หยดน้ำใสๆไหลรินออกจากดวงตาฉัน ร้องไห้งั้นหรือ... ฉันกำลังร้องไห้...

    ไงเรา... ได้ข่าวว่าเห็นวิญญาณเหรอพี่อาร์ตเดินมานั่งข้างๆ ฉันปาดน้ำตาทิ้งไปก่อนจะหันมามองหน้าของพี่อาร์ตอีกครั้งหนึ่ง

    ร้องไปเถอะ  พี่ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่ถ้าไม่สบายใจก็ร้องออกมา จนกว่าจะไม่อยากร้องอีกนั่นล่ะฉันหัวเราะกับประโยคที่พี่อาร์ตพูดเบาๆ ฉันอยากร้องต่อนะ แต่ฉันไม่กล้าร้องต่อหน้าคนอื่น น้ำตามันไม่ยอมไหลออกมาอีกเลย  พี่อาร์ตนั่งมองพระจันทร์ไปพร้อมๆกับฉัน  แต่หน้าของบีมก็โผล่มาบังทุกอย่างหมด

    แก้ว... มองพระจันทร์เสร็จแล้วก็กลับได้เองเลยนะ คนอื่นเขาไปกันหมดแล้วบีมบอก ทำเอาฉันสะดุ้งโหย่งมองไปรอบๆทันที  ตอนนี้ทุกคนออกมายืนออกันอยู่หน้าบ้านแล้ว  ขวัญดูเหมือนจะยังไม่กล้าสบตาฉันเท่าไร  ส่วนพี่อาร์ตก็ลากนายเอ็มให้ออกไปห่างๆฉัน

    กลับกันเถอะแก้วโชเดินเข้ามาบอกฉัน  พวกเราทุกคนเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน  ไม่นานพวกเราทั้งหมดก็มายืนอยู่หน้าบ้านของฉันโดยมีพ่อและแม่นั่งคอยอยู่ในบ้านแล้ว  ฉันปลีกตัวออกมาและขึ้นมาอยู่บนห้อง นาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มครึ่ง นานเป็นบ้าเลยวันนี้  เหนื่อยจริงๆแล้วนะเนี่ย ฉันรีบอาบน้ำและลงมาด้านล่างอีกครั้ง ทุกๆคนยังไม่มีใครกลับไปเลยสักคนเดียว ที่จริงก็แค่สองคนคือมินกับโชนั่นแหละ  ฉันมองทั้งสองคนที่ยังนั่งอยู่ข้างๆขวัญก่อนจะเลี่ยงเดินเข้ามาในครัว

    แก้ว...เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้จิตใจที่ไม่ค่อยปกติเท่าไรนักของฉันสั่งให้แก้วเปล่าที่อยู่ในมือหล่นลงพื้น  โชรีบเดินเข้ามาช่วยฉันเก็บทันที

    มะ... ไม่เป็นไร นายมีอะไรรึเปล่าฉันถามแล้วก้มเก็บเศษแก้วที่ตกบนพื้น  โชเงยหน้าขึ้นมาบอกฉัน  ว่าเขากับมินจะพักที่บ้านฉันคืนนี้  โดยที่ตัวเขาจะนอนที่โซฟาข้างล่างให้มินไปนอนกับขวัญที่ห้อง  ฉันพยักหน้าตอบรับก่อนจะหยิบเศษแก้วและลุกเอาไปทิ้งขยะ  แล้วหันหลังกลับเพื่อเดินไปที่ห้องนั่งเล่น

    โอ๊ย!!”เสียงของโชดังขึ้น  เรียกให้ฉันหันไปมอง เศษแก้วขนาดใหญ่ที่ฉันไม่ทันสังเกตเห็น ตอนนี้มันแทงเท้าไปในขาของโชเต็มๆ ส่งผลให้เลือดสีแดงนั่นไหลออกมาไม่หยุด  ฉันรีบหยิบผ้าและนำมันไปซับเลือดทันที  แต่ไม่ว่าอย่างไร เลือดนั้นก็ไม่ยอมหยุดไหลเลยสักนิดซ้ำยังไหลออกมาเรื่อยๆอย่างไม่ปรากฏทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด

    เลือดไม่หยุดไหลหรอก  พยุงฉันไปที่โซฟาทีโชว่า  ฉันรีบทำตามที่เขาบอกทันที เมื่อไปถึงมินทำหน้าตกใจอย่างหนัก และขวัญเองก็หน้าซีดเมื่อเห็นหยดเลือดที่ไหลเป็นทาง

    มิน  โทรหาพี่ริวให้ที  ให้เขาเอา ยา มาให้ฉันหน่อยโชหันไปบอก มินควักโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อของโชแล้วต่อสายไปยังพี่ชายของเขาทันที  ส่วนตัวเขาเองก็วุ่นกับการเอาเศษแก้วออกจากขาและใช้ผ้าซับเลือดที่ไม่มีทางหยุดไหลนั่นไปเรื่อยๆ  โชคดีที่บ้านของฉันและโชอยู่ไม่ห่างจากกันมากนัก  พี่ชายของเขาจึงมาถึงบ้านฉันภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที  นั่นหมายถึงว่าเขาบิดรถมอเตอร์ไซค์มาแบบ 120กม./ชม. นะ

    อ่ะโช... นี่ยา รีบฉีดเถอะก่อนที่เลือดจะไหลหมดตัว หน้านายซีดหมดแล้วพี่ริวส่งยาหลอดหนึ่งให้กับโช  ก่อนที่เขาจะรับมาและฉีดเข้าไปในร่างกายของตัวเอง  ไม่นานเลือดที่ไหลมาตลอดก็ค่อยๆหยุดไหลไป  พี่ริวเดินไปนั่งข้างๆตัวของโชก่อนจะสำรวจบาดแผล

    ไปทำอีท่าไหนเข้าล่ะเนี่ย ถึงได้มีแผล ถ้าพี่มาไม่ทันนายเลือดไหลหมดตัวแน่ รู้ไหมพี่ริวพูดแล้วลงมือทำแผลให้กับน้องชายของตนเอง  จนเมื่อเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ เขาถึงได้หันมาหาทุกคน

    ไง... พี่จำเราได้นะ เคยเจอกันที่สุสานใช่ไหมพี่ริวหันมาทักฉัน  ฉันพยักหน้าแล้วยิ้มให้น้อยๆ  ส่วนขวัญก็เดินไปเอาน้ำมาให้พี่ชายของโช  กับมินดูเหมือนพี่ริวจะสนิทด้วยเป็นพิเศษเพราะถึงขนาดเล่นหัวกันได้แล้ว

      พี่ริว... โชเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมเลือดถึงไหลไม่หยุดเลยขวัญเดินมาถามเมื่อพวกเราทุกคนนั่งล้อมวงกันแล้ว  พี่ริวมองหน้าคนถามเล็กน้อยแล้วขยับตัวให้นั่งสบายกว่าเดิม  ทำให้พวกเราทุกคนต้องขยับตามไปด้วย  พี่ริวโน้มตัวมาข้างหน้าก่อนจะเริ่มเล่า

    รู้จักโรคฮีโมฟีเลียไหม... ทุกคนส่ายหน้า พี่ริวจึงเริ่มเล่าต่อ โรคฮีโมฟีเลีย เรียกภาษาชาวบ้านๆก็คือโรคเลือดไหลไม่หยุดนั่นแหละ  ถ้ามีแผลที่ส่วนไหนของร่างกายจนกว่าจะได้รับ ยาเลือดจะไม่หยุดไหลเลยพี่ริวพูดเกริ่น ทำให้พวกเราทุกคนโน้มตัวลงไปตั้งใจฟังมากขึ้น...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×