คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การสอบสุดหฤโหด
ตอน 2
การสอบสุดหฤโหด
ทันทีที่ทั้ง 5เดินมาถึงด้านหลังโรงเรียนก็เห็นนักเรียนหลายกลุ่มนั่งกันอยู่เป็นจุดๆ พี่รานอฟนำทุกคนไปอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง
“พี่ไซครอสเป็นหัวหน้าระดับชั้นปี 4น่ะ”พี่รานอฟพูดแล้วหันไปยกนิ้วให้ไซครอสที่อยู่ด้านหน้า
“รุ่นพี่ทุกกลุ่มมาหาฉันหน่อย”พี่ไซครอสพูดแล้วรุ่นพี่จากทุกกลุ่มก็เดินไปหายกเว้นกลุ่มเดียว พี่รานอฟที่ยังนั่งคุยกับเซนอย่างได้อารมณ์
“ท่านลุงเป็นยังไงบ้างล่ะ พี่รานอฟ”เซนถาม ขณะที่พี่ไซครอสเริ่มทำตาขวาง
“สบายดี ยังมีแรงวิ่งไล่ทหารองครักษ์อยู่แล้วกัน”พี่รานอฟพูด
“งั้นเหรอ”เซนพูดแล้วพยักหน้าหงึกๆ
“ไอ้รานอฟ!!!”เสียงของพี่ไซครอสที่ดังขึ้นทำให้พี่รานอฟหันไปตะโกนใส่
“อะไรวะ แกก็บอกคนอื่นไปสิ ลืมแล้วเรอะ ว่าคนคิดฐานน่ะ มันแกกับฉัน”พี่รานอฟตะโกนบอก พี่ไซครอสดูจะอารมณ์เสียแต่ก็หันไปบอกคนอื่นแต่โดยดี
“ไปเถอะ ได้เวลาการทดสอบแล้วล่ะ”พี่รานอฟพูดขึ้นหลังจากเห็นคนอื่นเริ่มทยอยลุกขึ้น
“ฐานของพวกนายอยู่ตรงนี้ล่ะ เดี๋ยวไปหาพี่ไซครอสก่อนแล้วกัน”พี่รานอฟพูดแล้วเดินนำทุกคนไปหารุ่นพี่ไซครอส
“ไงล่ะ กลุ่มไหนที่ทำให้ปีศาจรานอฟอย่างนายชอบได้กัน”รุ่นพี่ไซครอสพูดแล้วหันหน้ามามองทั้ง 5
“หน้าตาไม่ได้ส่อแววที่จะทำให้นายถูกใจได้เลยนี้”รุ่นพี่ไซครอสพูดแล้วตบไหล่พี่รานอฟเบาๆ
“ไงๆก็อย่าออมพลังแล้วกัน”รุ่นพี่ไซครอสพูดแล้วดันทั้ง 6 ให้เข้าไปในช่องมิติที่เปิดออกมา
“เฮ้ย”เซนร้องออกมาหลังจากเข้ามาอยู่ในมิติแล้ว
“การทดสอบที่หนึ่ง เริ่มได้”ทันทีที่พี่รานอฟพูดจบ ก็มีร่างแปลงของปีศาจ 25 ตัวออกมา 5ตัวแรก มีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนเซนไม่ผิด 5ตัวมีหน้าตาเหมือนชานัส 5ตัวมีหน้าตาเหมือนเดลคิล 5ตัวมีหน้าตาเหมือนโอเทส และอีก 5 ตัวสุดท้ายมีหน้าตาเหมือนอาเรส
“ฆ่าปีศาจซะ เลือกตัวที่เป็นปีศาจล่ะ อย่าเผลอไปฆ่าเพื่อนตัวเอง หรือปีศาจที่เป็นตัวเองเข้านะ พี่เตือนก่อนแล้วกัน”พี่รานอฟพูดแล้วเดินไปนั่งรอข้างสนาม ทั้ง 5 คนกับอีก25ตัว มองหน้าสลับกันไปมา ก่อนจะเริ่มลงมือต่อสู้ เซนเลือกฆ่าปีศาจที่เป็นร่างแปลงของอาเรส และก็มีปีศาจตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาด้านหลังของเซน เซนหันไปมองร่างแปลงของเดลคิลก่อนจะตวัดมีดสั้นของตนลงไปบนใบหน้าของปีศาจตัวนั้น
“อ๊าก”ปีศาจตัวนั้นร้องขึ้นก็จะกลายเป็นไอน้ำระเหยไป
“อ๊าก/อ๊าก”เสียงร้องของปีศาจดังขึ้นพร้อมกัน เซนหันไปมอง อาเรสกำลังกำจัดปีศาจที่เป็นร่างแปลงของชานัสลงพร้อมกัน 2 ตัว ตอนนี้เหลือ ปีศาจอยู่ประมาณ 10 ตัว เป็นร่างแปลงของเธอ ประมาณ 2 ตัว ของอาเรส 2 ตัว ของชานัส 2ตัว ของเดลคิล 2 ตัว และของโอเทสอีก 2 ตัว
“เฮ้ย”เซนร้องเมื่อมีใครบางคนจะเอาดาบมาแทงจากด้านหลัง เซนหันไปมองแล้วพบว่าเป็นเดลคิล
“ชิ! คนเหรอเนี่ย”เดลคิลบ่นเล็กน้อย แล้ววิ่งไปทางอื่น เซนมองตามอย่างงงๆแล้วหันไปจัดการร่างแปลงของอาเรสอีกตัวที่วิ่งเข้ามาหา
“ฉัวะ... ”เสียงมีดสั้นของเซนที่ฟันลงไปที่หน้าอกปีศาจตัวนั้นอย่างจัง
“อ๊าก~”ปีศาจตัวนั้นร้องก่อนจะระเหยกลายเป็นไอ ในขณะเดียวกันที่เซนหันไปเห็นร่างแปลงของตนกำลังวิ่งเข้าไปหาชานัส เซนรีบวิ่งเข้าไปทันที
“โอ๊ย”เสียงของเซนร้องขึ้นเมื่อรอยมีดที่ตนเองฟาดลงไปที่แขนของปีศาจตัวนั้นกลับปรากฏขึ้นบนแขนของตนเอง
“เซน”ชานัสที่หันมาเห็นพอดีหันดาบไปฟันร่างแปลงของเซนแล้วหันมาพยุงเซนเอาไว้
“ไว้ไหม”ชานัสถามแล้วหันดาบไปฟันปีศาจอีกตัวที่วิ่งเข้ามาหาพอดี
“อืม ยังไหว”เซนบอกแล้วปามีดสั้นของตนไปด้านหลังของชานัสเมื่อเห็นว่ามีร่างแปลงของชานัสวิ่งเข้ามาหาเธอ
“เหลืออีก 5 ตัวสุดท้าย รีบจัดการเหอะ”เซนบอกแล้ววิ่งไปเก็บมีดสั้นของตน
“ฉัวะ... ฉัวะ... ฉัวะ... ฉัวะ... ฉัวะ...”เสียงดาบ 4 เล่มและมีดสั้นอีก 1 เล่ม ที่ฟันลงไปบนร่างของปีศาจทั้ง 5 ดังขึ้นพร้อมกัน
“อ๊าก~!!!”เสียงร้องโหยหวนของปีศาจทั้ง 5 ดังขึ้นพร้อมกันก่อนที่จะระเหยกลายเป็นไอไปทั้งหมด
“แปะๆๆ”พี่รานอฟที่นั่งดูอยู่ลุกขึ้นมาตบมือให้แล้วหันไปมองแขนของเซนที่ตอนนี้อาบไปด้วยสีแดง
“พี่เตือนก่อนแล้วนะ เอาแขนมาสิ”พี่รานอฟพูดแล้วจับแขนเซนขึ้นมา แล้วพึมพำอะไรบางอย่าง แผลที่อาบไปด้วยเลือดสีแดงสดค่อยๆจางหายไป
“เสร็จแล้ว พร้อมจะไปด่านที่สองหรือยัง”พี่รานอฟพูด ทั้ง 5 คนพร้อมใจกันพยักหน้าอย่างช้าๆ เนื่องจากความเหนื่อยที่เกิดจากการต่อสู้เมื่อสักครู่
“เดินตรงไปอีกหน่อย”พี่รานอฟบอก
“เอาล่ะถึงแล้ว การทดสอบที่สอง เริ่มได้”พี่รานอฟพูดแล้วเดินไปนั่งข้างๆ
“โอ๊ย!!”ชานัสร้องขึ้นแล้วหันไปมองหลังของตนที่เป็นรอยฟันด้วยดาบที่ตอนนี้อาบไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม
“อั่ก!!!”เสียงโอเทสที่กระอักเลือดออกมา
“ปีศาจเงา”เซนพึมพำเบาๆ ปีศาจเงาเป็นปีศาจที่เกิดจากเงาของตัวเอง ที่ถูกทำให้มีชีวิตขึ้นมา การต่อกรกับปีศาจเงาเป็นอะไรที่ทำได้ยากมาก เพราะถ้าเกิดเราทำอะไรกับเงาของตน ก็จะเกิดแผลขึ้นบนร่างกายของตนเองด้วย
“เดลคิลระวัง!”เซนร้องบอกแล้ววิ่งไปตรงที่ไม่มีแสง
“อยู่ตรงที่ไม่มีแสง ปีศาจเงาพวกนี้จะทำอะไรไม่ได้”เซนตะโกนบอก ทุกคนต่างวิ่งเข้าไปหลบในที่มืดทันทีที่เซนพูดจบ
“พี่ลืมบอกอะไรไปรึเปล่า การทดสอบก็มีกำหนดเวลานะ”พี่รานอฟบอก
“มีวิธีไหนที่จะสู้กับปีศาจเงาได้บ้างไหม”โอเทสร้องถาม
“วิธีน่ะ... มี แต่พวกนายจะกล้ารึเปล่าล่ะ”เซนบอก
“วิธีอะไรล่ะ”ชานัสถาม
“เอ่อ...ดื่มเลือดตัวเองน่ะ”เซนบอกตะกุกตะกัก ก็เธอรู้มาแบบนี้นี้หน่า แล้วมันก็เป็นวิธีเดียวที่ได้ผลด้วย
“จะบ้าเหรอ มันไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอไง”โอเทสร้องบอกก่อนจะหันไปมองเดลคิลที่กรีดแขนตัวเองเพื่อดื่มเลือด
“เอาจริงอ่ะ”ชานัสถามอีกครั้งเมื่อเห็นอาเรสกำลังกรีดแขนตนเอง
“อยากผ่านไหมล่ะ”เซนบอกแล้วมองแขนตัวเองอย่างชั่งใจแล้วหยิบมีดพกของตนมากรีดลงไปที่แขน เลือดสีแดงค่อยๆไหลซึมออกมา ชานัสกับโอเทสก็กำลังหยิบดาบของตนมากรีดเลือดที่แขนเหมือนกัน
“อึก!”เซนที่กำลังดื่มเลือดตนเองทรุดลงไปที่พื้น ใช้พลังเกินขีดจำกัดแล้วเหรอเนี่ย เซนคิดก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น
“ลองออกไปกันเถอะ”อาเรสพูดแล้วก้าวออกมาจากมุมมืด แสงส่องกระทบออกมาจนเกิดเป็นเงา แต่ที่แปลกคือ... เงานั้นกลับเป็นเงาธรรมดาที่ไม่มีอะไรแปลกประหลาดเกิดขึ้น
“สำเร็จแล้วนะ”เดลคิลบอกหลังจากก้าวออกมาจากความมืด
“ไปด่านต่อไปเถอะ”โอเทสพูดแล้วก้าวออกมาจากมุมมืดๆ
“ลุยไปเลย”ชานัสพูดแล้วก้าวตามออกมาจากอีกมุมหนึ่ง
“ไปเถอะ”เซนพูดขึ้นมาเป็นคนสุดท้ายก่อนจะเดินออกมา ทุกคนที่เห็นสภาพของเซนต่างอึ้งกันไปเป็นแถบๆ เลือดที่กระจายเต็มพื้น ใบหน้าซีดจนเกือบเป็นสีขาว ริมฝีปากแห้ง ร่างกายที่เซจนแทบล้ม พร้อมทั้งยังไอออกมาเป็นเลือดอยู่แทบตลอดเวลา
“เซน!”โอเทสที่ได้สติเป็นคนแรกรีบวิ่งเข้าไปพยุงเซน พี่รานอฟก็ดูจะอึ้งไปเหมือนกัน
“รีบไปเถอะ ฉันยังไหว”เซนบอกแล้วหันไปเรียกพี่รานอฟ
“ไปกันเถอะครับ เหลืออีกกี่ด่าน”เซนถามแล้วกระอักเลือดออกมา
“เอ่อ... อีก 3 ด่าน นายจะไหวเหรอ”พี่รานอฟถามแล้วมองดูเซนอย่างเป็นห่วง
“ยังไงก็ต้องไหวล่ะหน่า”เซนบอกแล้วพยุงตัวเองให้ยืนอยู่โดยไม่ล้ม
“รีบไปเถอะหน่า”เซนบอกแล้วเดินไปหาพี่รานอฟ
“รีบเถอะครับ เดี๋ยวจะเสียเวลานะ”เซนพูด
“เซน หันหน้ามาหน่อยสิ”อาเรสบอก
“แวบ~”แสงสีขาวส่องไปทั่วห้องชั่วขณะหนึ่งก่อนจะจางหายไป
“ดีขึ้นหรือยัง”อาเรสถาม
“อืม ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ”เซนตอบแล้วหันไปยิ้มให้
“งั้นไปกันต่อนะ”พี่รานอฟพูดแล้วเดินนำไปอีกนิดหน่อย
“ด่านที่สาม เริ่มได้”พี่รานอฟพูด แล้วมิติที่ทั้ง 6 อยู่ก็เริ่มบิดเบือน จากฟ้าเป็นเขียว จากเขียวเป็นแดง จากแดงเป็นส้ม จากส้มกลายเป็นสีรุ้งต่างๆ วนไปเวียนมาจนสุดท้ายก็กลายเป็นผืนป่าสีเขียว
“ที่ไหนเนี่ย”เดลคิลถามแล้วมองไปรอบๆ
“ทุกคน อยู่รวมตัวกัน เร็วเข้าสิ”พี่รานอฟบอกแล้ววิ่งเข้ามาหาทั้ง 5คน
“อ้าว นี้เป็นการทดสอบไม่ใช่เหรอ”ดอเทสทำหน้างง
“ใช่ซะที่ไหนล่ะ การทดสอบมันไม่ได้ออกจากมิติหรอกนะ”พี่รานอฟพูดแล้วกำดาบในมือให้แน่นขึ้น
“โฮก!!!”เสียงร้องดังขึ้นจากด้านหลังเซน ก่อนที่ทุกคนจะทันได้วิ่งเข้าไปห้ามหรือช่วยเซนออกจากตรงนั้น หมาป่าตัวนั้นก็กระโดดเข้าใส่เซนพร้อมทั้งฝังเขี้ยวลงไปที่ไหล่ข้างขวา
“ไม่ทันเหรอเนี่ย”อาเรสสถบออกมาพร้อมกับท่องคาถาบทหนึ่งขึ้นมา
“ในนามของข้า เจ้าชายอาเรส โครอัล เซเฟย์ลิคัส แห่งโรนัทดัส รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งโรนัทดัส ขอจงสร้างกำแพงไฟขึ้นมาด้วยเถิด”ทันทีที่พูดจบอาเรสก็วาดมือออกไปเป็นวงกลมปรากฏกำแพงไฟขึ้นมาด้านหน้าในพริบตา
“ในนามแห่งข้า เจ้าชายเดลคิล โรเฟท มิลาเคล แห่งเวเนวเกรเทส รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งเวเนวเกรเทส ขอพลังข้าจงสร้างกำแพงลมขึ้นมาด้วยเถิด”พูดจบ เดลดิลก็วาดมือออกไปด้านหน้าเหมือนอาเรสและก็เกิดกำแพงลมขึ้นมาด้านหน้า สายลมที่รุนแรงผสานเป็นหนึ่งเดียวกับกำแพงไฟของอาเรสก่อนที่ทั้งสองจะพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“ไปซะ”ทั้งสองตะโกนขึ้นมาพร้อมกันแล้วกำแพงไฟและลมของทั้งสองก็ล้อมรอบหมาป่าตัวนั้นและกันเซนให้ออกมาด้านนอกก่อนจะอัดพลังลงไปที่ตัวหมาป่าตัวนั้นจนตาย
“เซน”ชานัสร้องแล้วเข้าไปพยุงตัวเซนเอาไว้
“โฮก~”เสียงของหมาป่าอีกหลายตัวดังขึ้นจากด้านหลังของทุกคน โอเทสหันไปมองแล้วก็พบว่ามีหมาป่าประมาณ 100 กว่าตัวยืนออกันอยู่ด้านหลัง
“เอาไงดี”พี่รานอฟหันมามองทั้ง 5 แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อมีแสงเรืองรองออกมาจากตัวของคนทั้ง 5 อาเรสมีสีแดงห่อหุ้มตัวอยู่ คนอื่นๆก็เหมือนกันเว้นเสียแต่ว่ามีสีแตกต่างกันไปเท่านั้น เดลคิลเป็นสีเขียว ชานัสเป็นสีน้ำตาล โอเทสเป็นสีฟ้า และเซนเป็นสีส้ม ทั้ง 5 คนดูเหมือนจะหลับลงไปและไม่นานนัก ทั้ง 5 ก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกันและพลังของทั้ง 5 ยังดูเหมือนว่าจะมีเพิ่มขึ้นมามากอีกด้วย แต่คนที่ดูจะมีพลังมากที่สุด คือคนที่ดูย่ำแย่ที่สุด... เซน
“อะ...อะไรกัน”รานอฟพูดตตะกุกตะกักแล้วมองแสงที่ห่อหุ้มตัวของทั้ง 5 กำลังแตกออก แววตาที่สามารถฆ่าสามารถฆ่าคนๆหนึ่งได้อย่างง่ายดาย มีดสั้นของเซนลอยผ่านหน้าของรานอฟไปอยู่รวดเร็วแล้วปักลงบนหน้าผากของหมาป่าตัวหนึ่ง อาวุธของทุกคนแตกต่างกันไป อาเรสยังคงเป็นดาบอยู่เหมือนเดิม เซนก็ยังเป็นมีดสั้น แต่อาวุธของโอเทสกลับกลายเป็นง้าวใหญ่ อาวุธของชานัสกลายเป็นธนู และเดลคิลที่ต่อสู้ด้วยมือเปล่า รานอฟได้แต่มองทั้ง 5 อย่างอึ้งและทึ้ง โอเทสสามารถฆ่าหมาป่าได้ที่ละเป็นสิบสิบตัวจากการฟาดง้าวลงไปเพียงครั้งเดียว ชานัสที่ใช้ธนูก็ยิงได้รวดเร็วและแม่นยำ อาเรสและเซนที่ใช้มีดและดาบก็ตวัดเพียงเล็กน้อยก็สามารถฆ่าหมาป่าได้ทีละเป็นสิบตัว ส่วนเดลคิลที่สู้ด้วยมือเปล่าก็ไม่น้อยหน้าใครเพียงแค่ใช้สันมือตวัดลงไปที่คอของหมาป่าตัวไหน หมาป่าตัวนั้นก็คอขาดลงไปได้อย่างง่ายดาย
“ปะ...ปีศาจชัดๆ”รานอฟที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้านนอกพูดออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา เพียงเวลาไม่กี่นาทีที่ทั้ง 5 คนกลายเป็นอีกคนหนึ่งจะสามารถฆ่าหมาป่า 100 กว่าตัวได้ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์นั้น
“อ๊าก!”ทั้งทีที่ทั้ง 5 คนสามารถฆ่าหมาป่าพวกนั้นได้หมดแล้ว ทั้ง 5 ก็ร้องขึ้นมาพร้อมกันก่อนจะล้มลงไปนอนที่พื้น รานอฟที่มองอยู่นาน ทันทีที่เห็นทั้งหมดล้มลงไปก็รีบเรียกมิติออกมาและดันทั้ง 5 ให้เข้าไปในมิตินั้นทันที
รานอฟที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่ห้องพยาบาลมองทั้ง 5 คนอย่างเป็นห่วงโดยเฉพาะเซน หลังจากที่เขานำทั้ง 5 กลับมายังด้านหลังหอประชุมแล้วก็พบว่ายังไม่มีกลุ่มไหนกลับออกมาเลย นอกจากไซครอสที่นั่งรอทุกคน ทันทีที่ไซครอสได้เห็นสภาพของทั้ง 5 ก็ร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษา โชคดีที่รานอฟรีบบอกให้ไซครอสพาทุกคนไปห้องพยาบาลและตนเองรีบไปบอกอาจารย์ใหญ่ อาจารย์ราเชลก็ทำหน้าหนักใจทันทีที่เห็นสภาพของทั้ง 5 ก่อนที่เขาจะถูกเรียกตัวเข้าไปสอบสวน และหลังจากถูกปล่อยตัวมาเขาก็รีบวิ่งมานั่งเฝ้าทั้ง 5 เรื่องนี้ถูกนำเข้าสภาทันที ดังนั้นตอนนี้จึงไม่เห็นอาจารย์คนใดมาเดินป้วนเปี้ยนแถวนี้เลย แล้วยังเรื่องการสอบเข้าที่ถูกเลื่อนออกไปในทันที เรื่องนี้แปลกประหลาดมาก เพราะโรงเรียนนี้ถูกก่อตั้งมาเกือบสองหมื่นปี เพิ่งจะเคยมีเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรก กษัตริย์กราเวลด้า กษัตริย์โรนัทดัส กษัตริย์เวเนวเกรเทส กษัตริย์ไลท์วิล และกษัตริย์เซโฟรเลท รีบเดินทางมาทันทีที่ทราบข่าว
“ขออภัยที่กระหม่อมมิได้ออกไปต้อนรับฝ่าบาท”รานอฟลุกขึ้นก้มหัวให้กษัตริย์ทั้ง 5 คนที่เข้ามาอยู่ในห้องพยาบาล
“ช่างมันเถอะ ว่าแต่ลูกข้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ”กษัตริย์กราเวลด้าถามแล้วชะเงอคอมองไปที่เตียงของเซน
“น้องหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นพะย่ะค่ะ”รานอฟพูดแล้วเดินนำไปที่เตียงของเซน
“มีอะไรประหลาดประหลาดเกิดขึ้นก่อนที่ทั้งหมดจะสลบไหม”กษัตริย์ไลท์วิลถาม
“มีพะย่ะค่ะ ทั้งหมดเหมือนถูกอะไรบางอย่างครอบคลุมพะย่ะค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็สามารถสู้กับหมาป่าทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย คนที่ดูเหมือนจะมีพลังมากที่สุดหลังจากที่เอ่อ.. โดนสิ่งนั้นครอบคลุมแล้ว คงจะเป็น น้องหญิงเซเรียพะย่ะค่ะ”รานอฟพูด
“งั้นคงไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ สีที่เจ้าเห็นคือสีแดง ฟ้า เขียว น้ำตาล แล้วก็ส้มใช่ไหมล่ะ”กษัตริย์โรนัทดัสพูด
“เอ่อ... ทรงทราบได้อย่างไรพะย่ะค่ะ”รานอฟถามแล้วไซครอสกับอาจารย์ใหญ่ก็เข้ามาสมทบ
“ท่านอาจารย์ใหญ่ ข้าว่า พวกเรามีเรื่องอะไรบางอย่างที่ต้องคุยกันเป็นการส่วนตัวแล้วนะ”กษัตริย์เซโฟร
เลทพูดหลังจากหันไปดูอาการลูกของตน
“งั้น... เชิญที่ห้องรับรอง”อาจารย์ราเชลพูดแล้วเดินนำไปที่ห้องรับรอง
“แค่กๆ อืม... น้ำ ขอน้ำ”เสียงที่ดังจากเตียงของอาเรส ทำให้รานอฟรีบรินน้ำให้อย่างด่วน หลังจากที่อาเรสฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน คนอื่นๆก็ค่อยๆทยอยฟื้นขึ้นมา
“พวกนายรู้ไหมว่าจะทำให้ฉันหัวใจวายไปแล้ว ตอนเห็นแสงพวกนั้นคลุมตัวพวกนายอยู่น่ะ”รานอฟพูดแล้วรับแก้วน้ำคืนจากชานัส
“แสง? แสงอะไร พวกผมจำไม่เห็นได้”โอเทสพูด
“พวกนายจำได้ถึงตอนไหนกันบ้าง”รานอฟถามแล้วเดินไปนั่งกอดอกที่เก้าอี้ข้างเตียง
“ก็ก่อนที่จะเจอหมาป่าเกือบ 100 ตัวนั้นแหละ ตอนแรกนึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว”เซนพูดแล้วถอนหายใจปิดท้าย
“เอาเถอะๆ งั้นเดี๋ยวฉันไปบอกพ่อพวกนายก่อนแล้วกันว่าพวกนายฟื้นแล้ว”รานอฟบอกแล้วตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้องพยาบาล
“อะไรนะ ท่านพ่อมางั้นเหรอ”โอเทสร้องตะโกนแล้วกระโดดลงจากเตียงทันที
“เออ... พี่รานอฟ แล้วการสอบล่ะ”ชานัทร้องถาม
“อาจารย์ย้ายให้ไปสอบวันมะรืนน่ะ ดูท่าคงจะเปลี่ยนเป็นข้อสอบเขียนแล้วล่ะ”รานอฟตอบ
“อืม งั้นข้าไปหาท่านพ่อนะ”โอเทสพูดแล้วเดินออกมาจากห้องพยาบาล
“เดี๋ยว...”รานอฟร้องห้ามแล้วจับไหล่โอเทสไว้
“อะไรล่ะครับ”โอเทสถาม เขาอยากจะไปหาท่านพ่อจะแย่แล้วนะ
“อาจารย์ใหญ่บอกว่าให้พวกนายขึ้นไปที่ห้องพักของตัวเองก่อน”รานอฟบอกแล้วดีดนิ้ว ช่องมิติเปิดขึ้นรานอฟดันสัมภาระต่างๆของทุกคนลงไปในช่องมิตินั้น
“ไปกันเถอะ”รานอฟพูดแล้วเดินนำทุกคนเดินกระไดไป 3 ชั้นก่อนที่จะเลี้ยวขวาแล้วมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง
“อาจารย์ใหญ่จะให้พวกนายพักอยู่ที่หอใต้นี้ล่ะนะ เข้าไปสิ”รานอฟพูดแล้วไขกุญแจเข้าไปในห้อง
“ฉันจะพักอยู่ห้องข้างๆพวกนายนะ มีอะไรก็ไปเรียกแล้วกัน”รานอฟพูดก่อนจะดีดนิ้วอีกครั้งช่องมิติปรากฏขึ้นตรงหน้าก่อนที่รานอฟจะหยิบสัมภาระทุกคนออกมาวางไว้ด้านนอก
“งั้นพี่ไปแล้วนะ”รานอฟบอกแล้วโยนกุญแจให้อาเรสก่อนจะเดินออกไป
“เฮ้อ! มีใครจำอะไรได้บ้างไหม”โอเทสถามแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ ทั้ง 4 ส่ายหน้าแล้วยกสัมภาระของตนไปไว้บนเตียงแต่ละเตียง
“ไปกันเถอะ”ชานัทพูดแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ
“ไปไหน”อาเรสถามแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดผ้าม่าน
“สำรวจโรงเรียนในตำนานน่ะสิ”ชานัทยิ้มแล้วเฉลยออกมา
“เอาสิ ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว”เดลคิลตอบก่อนจะลุกไปยืนข้างๆอาเรส
“โอเทสกับเซนล่ะ”ชานัทหันไปถาม
“ลองดูก็ไม่เสียหายนี้นะ”โอเทสตอบแล้วลุกขึ้นจากเตียง
“นาย...”ชานัทพูดแล้วหันมาจ้องเซน
“เสียใจ แต่ฉันไม่อยาก”เซนพูดแล้วหยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมา
“เชิญพวกนายตามสบาย”เซนพูดปิดท้ายแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“ไปกันเถอะ”โอเทสพูดแล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นก่อนจะจบลงด้วยเสียงปิดประตูดัง ปัง!
“เฮ้อ!”เสียงของคนที่เพิ่งเดินเข้าห้องน้ำไปเมื่อสักครู่ดังขึ้นมา ก่อนที่ประตูห้องน้ำจะเปิดออกมาปรากฏร่างของเด็กสาวในชุดสีน้ำเงินเข้มผมสีดำมันวาวถูกปล่อยสยายตามแรงลม
“ใครว่าข้าจำเรื่องนั้นไม่ได้กันล่ะ”ใช่... นางจำได้ นางรู้ว่าตนเองได้ทำอะไรลงไป นางรู้ว่านางถูกอะไรบางอย่างเข้ามาอยู่ในร่างกาย นางรู้ว่านางฆ่าหมาป่าพวกนั้นได้โดยไม่ลำบากอะไรมากมาย นางรู้และจำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง!
“เฮ้ย!”เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง เซเรียหันไปมองดูความรวดเร็วชานัทยืนมองเธอดูความหงุดงง
“เธอ... เธอเป็นใคร แล้วเซนหายไปไหนเนี่ย”ชานัทเดินเข้ามาใกล้ๆเธอมากยิ่งขึ้น
“เอ่อ... ข้าเป็นน้องสาวท่านพี่เซน ข้าชื่อเซเรีย”เซเรียรีบตอบแล้วถอยหลังกรูไปติดกำแพง
“น้องเซนงั้นเหรอ แล้วเซนล่ะ”ชานัทถามแล้วเดินเข้ามาหยิบกระดาษบางอย่างในกระเป๋าตนเอง
“ข้าไม่รู้ พี่เซนให้ข้ารออยู่ที่นี้แล้วเดินออกไปด้านนอก”เซเรียรีบบอกแล้วเดินไปนั่งที่เตียงตนเองอย่างหวาดๆ
“อืมๆ งั้นข้าไปล่ะนะ เดี๋ยวคนอื่นจะรอนาน”ชานัทบอกแล้วเดินออกไปนอกห้อง
“เฮ้อ! เกือบไปแล้วนะเซเรีย”เซเรียถอนหายใจกับตัวเอง
ก๊อกๆ
“ใครครับ”เซเรียร้องถามแล้วรีบเต่างหูมาใส่
“พี่เอง รานอฟ”เสียงรานอฟดังจากหน้าห้องเซนรีบเดินไปเปิดประตูให้ทันที
“พี่รานอฟมีอะไรกับฉันหรือคะ”เซนถามในร่างของเด็กผู้ชาย
“พี่ขอร้องนะ ถอดต่างหูนั้นออกได้ไหม พี่รับไม่ได้จริงๆ”รานอฟพูดอย่างขำๆ เซนทำหน้างอแต่ก็ยอมถอด
“แล้วพี่รานอฟมีอะไรคะ”เซเรียถามแล้วหยิบมีดสั้นของตนออกมาเล่น
“พี่ถามเราจริงๆนะ จำเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไหม”รานอฟถาม เซเรียปล่อยมีดออกจากมือแล้วเงยหน้าสบตารานอฟอย่างช้าๆก่อนจะพยักหน้ารับ
“ค่ะ เซเรียเห็นและรู้ทุกอย่าง”เซเรียตอบแล้วนิ่งเงียบจนรานอฟรู้สึกเป็นห่วง
“เซเรีย พี่ขอโทษต่อไปถ้าเราไม่อยากบอกพี่ก็จะไม่ถามอีกแล้ว”รานอฟพูดแล้วโอบกอดเซเรียเอาไว้หลวมๆ
“ช่างเถอะค่ะพี่รานอฟ แล้วมีเรื่องอื่นอีกรึเปล่าคะ”เซเรียถามแล้วหันไปมองหน้าพี่รานอฟอีกครั้ง
“มีค่ะ พอดีว่าอีก 1 อาทิตย์จะมีงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ปี 6 ที่จบแล้ว พี่อยากให้เราไปเป็นคู่ควงเต้นรำกับพี่ได้ไหมค่ะ”รานอฟพูดอย่างอ้อนๆ
“ก็ได้ค่ะ แต่ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ คราวหน้าพี่ต้องหาคู่เองแล้วนะ”เซเรียบอกแล้วลุกขึ้นใส่ต่างหู
“เอาล่ะ งั้นเดี๋ยวฉันออกไปด้านนอกหน่อยนะ พี่รานอฟจะไปด้วยกันรึเปล่า”เซนหันไปถามขณะก้มใส่รองเท้า
“ก็ได้ เดี๋ยวพี่จะได้แนะนำสถานที่ด้วยเลย”รานอฟบอกแล้วลุกขึ้นไปยืนข้างๆ
“ไปกันเถอะ”วิธีการไปของทั้งสองช่างแตกต่างกันคนอื่นๆอย่างมาก ทั้งสองกระโดดออกจากหน้าตาห้อยโหนกิ่งไม้ต้นโน้นต้นนี้ไปเรื่อยๆ ถึงฝีมือการต่อสู้ของเธอจะอ่อนแต่ก็ไม่ได้หมายถึงความสามารถในการติดตามหรือตามล่านี้หน่าและยังใช้เป็นวิธีการหนีเวลาสู้ไม่ได้อีกด้วยแม้เธอจะไม่เคยใช่ก็เถอะ
“พี่นำไปเลย”เซนบอกแล้วชะลอความเร็วในการกระโดดลงเพื่อให้รานอฟนำหน้าไปก่อนจะกระโดดตาม
“ฮึบ!”เซนร้องก่อนจะกระโดดถอยหลังตามด้วยกระโดดไปอีกกิ่งๆหนึ่งและลงมาอยู่ด้านล่างได้อย่างสวยงานรานอฟที่เห็นอย่างนั้นก็กระโดดตามลงมา
“อะไรเหรอ”รานอฟถามแล้วมองไปที่มือของเซนที่กำอะไรบางอย่างอยู่
“นี่ เข็มพิษ”เซนพูดแล้วหยิบเข็มเล่มหนึ่งออกมาจากมือที่ถูกกำไว้อยู่ เข็มเล่มเล็กที่มองแทบไม่เห็นแต่ถ้าโดนเข้าไปแล้วหายาแก้ไม่ทันก็ถึงกับเสียชีวิตได้ใน 5 นาทีแรกเลย
“จะไปต่อหรือกลับห้อง”รานอฟหันไปมองหน้าคนที่ตนเรียกว่าน้อง เซนทำหน้านิ่วเล็กๆแล้วหันมายิ้มให้รานอฟ
“ไปต่อสิพี่ ไหนๆก็มาแล้ว แต่คราวนี้ไปด้านล่างนะ”เซนบอกแล้วหักเข็มเล่มนั้นทิ้ง
“ไปเลย!”รานอฟพูดแล้วออกตัววิ่ง ทั้งสองวิ่งด้วยความเร็วเหนือเสียงและแสง ไม่มีใครตามได้ทัน มันเหมือนการหายตัว แต่มันเร็วกว่าการหายตัว ไม่ถึงถึง 1 นาที ทั้งสองก็ออกวิ่งไปแล้วเกือบ 10 กิโลเมตร
“พี่จะพาฉันไปไหนเนี่ย”เซนถามขณะวิ่ง
“ตามมาเถอะหน่า”รานอฟบอกปัดแล้วเร่งสปีดเพิ่มขึ้นอีก
“ก็ได้ๆ”เซนพูดแล้วเร่งสปีดตาม ไม่นานทั้งสองก็มาอยู่ที่หน้าสายน้ำแห่งหนึ่ง เซนมองไปรอบๆ มีแต่ต้นไม้ ต้นไม้และต้นไม้ มันคือป่าดีดีนี้เอง
“มาทำไมเนี่ย”เซนถามแล้วมองหน้ารานอฟ
“เรายังไม่มีภูตสินะ”รานอฟบอกแล้วมองไปรอบๆป่า
“อืม ทำไมล่ะ”เซนถาม
“หลับตา เปิดจิตให้ว่าง ยื่นมือออกมาด้านหน้า แล้วร้องออกมา”รานอฟบอกแล้วทำเป็นตัวอย่าง หลังจากที่รานอฟร้องออกไปแล้วก็มีภูตตัวหนึ่งบินเข้ามาหารานอฟ มันเป็นภูตระดับกลางแต่ก็ยังถือว่าอยู่อันดับต้นๆของภูตระดับกลางอยู่ดี
“ไง เจ้าเนี่ยชื่ออีฟ พี่ตั้งให้มันเองล่ะ”รานอฟบอกแล้วหันไปให้เซนทำตาม
“หลับตาก่อนใช่ไหม”เซนถาม รานอฟพยักหน้าแล้วยืนมองเซนทำตามที่ตนเองสอน เซนค่อยๆหลับตาลงแล้วเปิดจิตให้ว่าง และยื่นมือข้างขวาออกมาตรงหน้าตัวเองและอ้าปากร้องออกมา
“กรี๊ซ”แปลก... สิ่งแรกที่รานอฟคิดได้ เสียงของเซนดังออกมาเหมือนเสียงร้องของมังกร ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ร้องออกมาเป็นเสียงของสัตว์ภูตที่เหมือนๆกับคนอื่น แต่เซนกลับแปลกออกไป
“กรี๊ซ”เสียงร้องจากอีกฝั่งดังขึ้นมาก่อนที่เจ้าของเสียงนั้นจะมาก้มหมอบลงตรงหน้า
“มังกรรัตติกาล”รานอฟร้องตะโกนขึ้นมา มังกรสีดำสนิท ดวงตาสีเหลืองอ่อนหันมามองมันก่อนจะหันกลับไปมองเซนอีกที
“รีช ต่อไปเจ้าชื่อรีช”เซนบอกแล้วเอามือลูบหัวมังกรรัตติกาลโดยที่มันก็ยอมให้เซนลูบหัวได้อย่างง่ายดายเป็นการยอมรับเจ้านายอย่างเซน
“มังกรรัตติกาล สัตว์ภูตที่ติดอันดับ1ใน5 สัตว์ภูตอันดับ 1”รานอฟพูดขึ้นมาโดยที่ยังตกใจไม่หาย
“กลับกันเถอะพี่ ฉันจะไปที่ห้องแล้ว”เซนบอกแล้วลองกระโดดขึ้นบนหลังของรีช
“ไปกันเถอะนะ รีช”ทันทีที่เซนสั่งจบ มังกรรัตติกาลก็สยายปีกของตนออกแล้วพาร่างของตนและเจ้านายหายไปในอากาศ
“เราก็ไปกันบ้างสิ อีฟ”รานอฟมองเซนจนลับตาแล้วหันมาสั่งกับภูตของตน อีฟเปลี่ยนร่างกลายเป็นลูกพายุขนาดย่อมๆแล้วพาร่างของตนไปประสานกับร่างของรานอฟแล้วพายุลูกนั้นก็ค่อยๆเล็กลงๆจนหายไปและไปโผล่อยู่ที่ห้องของรานอฟ
เซนที่กลับมาถึงห้องของตนสั่งให้มังกรรัตติกาลเปลี่ยนร่างตัวเองให้เล็กลงและเกาะบ่าของเซนเข้าไปในห้อง เดลคิล อาเรส ชานัท โอเทส กำลังนั่งค่อยอยู่ในห้องบนเตียงของตน
“เซน แล้วน้องสาวเจ้าล่ะ”ชานัทถามขณะนั่งเล่มหมากรุกกับโอเทส
“อยู่กับท่านพ่อ”เซนตอบแล้วปล่อยให้มังกรรัตติกาลลงจากไหล่ของเธอ
“อะไรน่ะ”โอเทสร้องถาม
“รุกฆาต!”เสียงของชานัทร้องเมื่อสามารถกำจัดคิงของโอเทสได้
“มังกรรัตติกาล”เซนตอบ
“พวกนายมีภูตกันรึยังน่ะ”เซนถาม โอเทสเลิกสนใจกับหมากรุกและหันมาส่ายหน้า
“ไม่มีอ่ะ”ชานัทบอกแล้วเก็บหมากรุกที่ถูกโอเทสปัดทิ้งไป
“ไม่มี”เดลคิลตอบแล้วหันไปสนใจหนังสือในมือต่อ
“ฉันก็... ไม่”อาเรสตอบแล้วหันไปเรียกลูกไฟขึ้นมาเล่นๆ
“งั้นพรุ่งนี้เราไปดูกันไหม ว่างนี้หน่า”เซนชวนแล้วทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
“เย็นแล้ว พวกเราไปโรงอาหารกันดีกว่านะ”อาเรสบอกแล้วหันไปฉุดแขนของเดลคิลที่ยื่นมาให้
“เอานาวานะ เมื่อวานเห็นเดลคิลกินแล้วอยาก”ชานัทพูดขึ้นมาเป็นคนแรก
“เอาด้วยๆ”โอเทสร้องขึ้นมาแล้วจูงแขนชานัทวิ่งไปที่โรงอาหาร
ทั้ง 5 เดินไปสั่งอาหารและไปนั่งที่โต๊ะๆหนึ่ง สักพักทางเดินทั้งหมดก็ถูกแหวกออกจนถึงโต๊ะที่ทั้ง 5 คนนั่งอยู่
“ไงพวกลูกๆทั้งหลาย”เสียงกษัตริย์ไลท์วิลดังขึ้นมา โอเทสหันไปมองทันที กษัตริย์ทั้ง 5 คนต่างยืนมองลูกๆของตน
“เป็นไงบ้าง ใกล้หายกันรึยัง”กษัตริย์กราเวลด้าถาม ทั้ง 5 คนพยักหน้ารับ
“จะเป็นอะไรไหม ถ้าพวกพ่อๆจะนั่งกินข้าวด้วย”กษัตริย์เซโฟรเลทถามแล้วไม่ต้องรอคำตอบ กษัตริย์ทั้ง 5 คนเดินเข้าไปนั่งข้างๆลูกของตน
“เอาแบบนี้อีกชุดหนึ่งนะ รีน่า”กษัตริย์โรนัทดัสตะโกนบอก ทั้งโรงอาหารเริ่มกระมาจอแจอีกครั้งหลังจากที่เมื่อกี้เงียบลงไป
“พ่อตอนอยู่หอใต้น่ะเหรอ ไม่อยากพูดถึงเลยล่ะ ได้ฉายาว่าตัวป่วนประจำหอเลยนะ”กษัตริย์กราเวลด้าพูดทุกคนทิ้งคราบกษัตริย์ผู้เก่งกาจเหลือเพียงคนธรรมดาที่กลับมาเยี่ยมโรงเรียนเก่า “ไงก็ดีกว่า เซโฟรเลทแล้วกัน ปีศาจจอมเจ้าเล่ห์จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน”กษัตริย์ไลท์วิลพูด
“พูดเหมือนนายดีนักล่ะ ไอ้อัจฉริยะคาบเส้นเอ๊ย”กษัตริย์เซโฟรเลทพูดแล้วหันไปแยกเขี้ยวให้กษัตริย์ไลท์วิล
“พอๆ กัดกันไม่เลิกนะ ไม่อายเด็กๆกันบ้างรึไง”กษัตริย์โรนัทดัสห้าม ในขณะที่กษัตริย์กราเวลด้าและกษัตริย์เวเนวเกรเทส ต่างกำลังก้มหน้าก้มตากินอาหารไม่สนใจโลกภายนอก
โครม! โครม!
เสียงหัวของคนสองคนจุ่มลงไปในชามข้าวแต่ยังถือว่าโชคดีหน่อยที่เบี่ยงหัวหลบทันเลยไม่จุ่มลงในชามข้าวแต่โขกกับโต๊ะกินข้าวแทน
“อู๊ย~/ซี๊ด~”เสียงของทั้งสองคนร้องขึ้นพร้อมกันพร้อมกับลูบหัวที่ปูดเป็นลูกมะกรูด
“ไอ้โรนัทดัส”ทั้งสองพูดกันเสียงเย็นแล้วหันไปมองตัวต้นเหตุที่ตอนนี้นั่งกินข้าวไม่รู้ไม่ชี้
“งั้นเดี๋ยวพวกพ่อไปกันก่อนแล้วกันนะ ไปได้แล้ว แกมีเคลียร์กับฉันแน่”กษัตริย์กราเวลด้าบอกแล้วลากกษัตริย์โรนัทดัสออกจากโรงอาหาร โดยมีอีกสามคนเดินตามอยู่ห่างๆ
“พ่อพวกเราน่ากลัวจัง นายว่างั้นไหม อาเรส”เซนหันไปถามอาเรส โดยทั้ง 4 พยักหน้ารับพร้อมกัน และก้มลงกินข้าวของตนเอง
“อิ่มแล้วคร้าบ~”โอเทสเงยหน้าขึ้นมาพูดคนแรกแล้วเดินเอาจากไปเก็บก่อนจะหยิบจานที่ทุกคนกินเสร็จหมดแล้วไปเก็บให้
“ไปกันเถอะ”โอเทสพูดแล้วเดินนำทุกคนไปในห้อง
“รีช มาเล่นกันเถอะ”โอเทสพูดแล้วกระโดดลงไปเล่นกับมังกรรัตติกาล
“ฮาๆๆ”น่าแปลกที่ทุกคนก็เข้ากับมังกรรัตติกาลได้ดีไม่เว้นแม้แต่เดลคิลที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครถ้าไม่จำเป็น
“นี้ๆ ต้นไม้ที่ใช้ปรุงยาพิษมีกี่ชนิดเหรอ”เซนพูดขึ้นมา
“อืม ฉันรู้จักแค่1054 ชนิดเองอ่ะ”ชานัทพูด
“ฉันรู้แค่ 1280 ชนิด”โอเทสพูดแล้วหันไปเล่นกับมังกรรัตติกาลต่อ
“เดลคิลนายล่ะ”เซนถาม
“1758 ชนิด”เดลคิลตอบแล้วหันไปอ่านหนังสือในมือ
“2468 ชนิด ต้นไม้ที่มีพิษแรงสุดคือ ต้นดาร์กอาย”อาเรสตอบ
“โห! รู้จริงนะเนี่ย”โอเทสพูด
“แล้วต้นที่มีพิษน้อยที่สุดล่ะ”เซนถามแล้วทำท่าตั้งใจฟังมากยิ่งขึ้น
“ต้นกรีเทซ มีพิษทำให้หลอดเสียงถูกทำลายทำให้กลายเป็นใบ้ไปชั่วขณะ แต่ไม่เกิน 2 วัน ยาพิษจะหมดฤทธิ์ คนที๋โดนพิษจะกลับมาพูดได้อีกครั้ง หาได้ในสวนสมุนไพรทุกแห่งเพราะมันมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการ ช็อค
หรือหมดสติได้”อาเรสตอบพร้อมบอกสรรพคุณของมันไปด้วย
“ขอนิดเดียวให้ซะยาวเฟื้อยเชียวนะ”เซนบอกแล้วเดินไปนอนบนเตียง แต่ก่อนหน้านั้นก็เดินออกไปที่ระเบียงเพื่อมองท้องฟ้าในยามค่ำคืน ก่อนจะกลับมานอนและผล็อยหลับไปในที่สุด
ในเช้านี้ทุกคนต่างเร่งรีบที่จะตื่นมาทำธุระส่วนตัวอย่างเร่งด่วน และเนื่องจากห้องน้ำมีเพียงห้องเดียว เซนจึงเสนอเกมการจับไม้สั้นไม้ยาว ผู้ที่จับได้ไม้ยาวจะมีโอกาสอาบน้ำก่อน
“โหย~ ไม้สั้นอ่ะ”เซนร้องแล้วล้มตัวนอนรอบนเตียง
“แกโกงรึเปล่าเนี่ย ฉันถึงได้ไม้สั้น”โอเทสร้องโวยวายกับชานัทเมื่อจับได้ไม้สั้น
“เอาล่ะ ขอฉันจับก่อนล่ะกันนะ”ชานัทพูดแล้วหยิบไม้ขึ้นมา
“เฮ้อ~ ไม้สั้น เดลคิลจับเร็วๆ”ชานัทเร่ง
“ไม้ยาว”เดลคิลบอกแล้วหยิบไม้ขึ้นมาโชว์ทุกคน อาเรสทำหน้าเซ็งๆแล้วหยิบหมอนขึ้นมานั่งกอด
“อาบช้าแกโดน!~”อาเรสพูดขู่ก่อนจะไล่ให้เดลคิลเข้าห้องน้ำ
“กรี๊ซ”เสียงของมังกรรัตติกาลร้อง มันส่ายหัวไปมาเล็กน้อยเนื่องจากเพิ่งตื่นนอน
“ไง ตื่นแล้วเหรอรีช วันนี้ไปที่ป่าอีกรอบนะ”เซนหันไปคุยด้วยแล้วมันก็พยักหัวตอบรับอย่างช้าๆ
“เดลคิลโว้ย ออกมาได้แล้ว”โอเทสเดินไปเคาะประตูห้องน้ำเสียงดังปึงปัง สักพักประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก
“เออ ลืมไป พวกนายอาบน้ำที่นี้ไปแล้วกันนะ ฉันจะไปอาบห้องพี่รานอฟ”เซนบอกแล้วถืออุปกรณ์อาบน้ำออกจากห้องไป
“ไอ้บ้า~ ฉันเข้าก่อนโว้ย~”เสีงชานัทดังออกมาจากในห้องก่อนจะมีเสียงดังปึงพร้อมกับเสียงทุบประตูตามออกมา
ก๊อกๆ
“เข้ามา”เสียงจากด้านในดังออกมา เซนเปิดประตูเข้าไปแล้วพบว่า รานอฟยังคงนอนงัวเงียอยู่บนเตียงในชุดนอนลายพระจันทร์เสี้ยวและหมวกบนหัว
“พี่รานอฟ ขอให้ห้องน้ำหน่อยนะ”เซนร้องถามเบาๆ
“เชิญตามสะดวก เสร็จแล้วปลุกด้วยละกัน”รานอฟพูดแล้วหันไปกอดหมอนข้าง
“คร้าบๆ”เซนพูดแล้วเดินเข้าห้องน้ำ สักพักเซนก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกันชุดสีดำที่มีชายเสื้อลากยาวลงไปถึงพื้น
“พี่รานอฟๆ”เซนเรียกแล้วเดินไปเขย่าตัวรานอฟอย่างแรง
“อืมๆ ตื่นแล้วๆ”รานอฟพูดแล้วลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้มหาวหวอดๆ
“วันนี้พี่พาพวกเราไปป่าได้ป่ะ เพื่อนฉันมันจะไปหาภูตกันน่ะ”เซนถามแล้วเดินไปรอที่ประตู
“เสียใจนะ แต่วันนี้พี่ถูกเรียกตัวไปช่วยงานน่ะ”รานอฟพูดแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เซนก็เดินกลับห้องของตน
“ไปกันรึยัง”เซนโผล่หน้าไปถาม ทุกคนอยู่ในชุดที่พร้อมจะเดินทางกันแล้ว
“จะเดินไปหรือไปทางลัด”เซนถามแล้วเดินไปมองที่หน้าต่าง
“ทางลัดสิ ว่าแต่... ทางไหนอ่ะ”โอเทสถาม
“หน้าต่างไง”เซนยิ้มแล้วกระโดดลงจากหน้าต่าง โหนกิ่งไม้แถวนั้นก่อนจะพาตัวลงมายืนอยู่ที่พื้น
“โห! งั้นไปทางนี้กันดีกว่านะ”ชานัทพูดแล้วกระโดดตามเซนลงมา
“ไปกันเถอะ”โอเทสพูดแล้วดันอาเรสกับเดลคิลให้ลงไปทางหน้าต่าง
Dark_ Sniper
ความคิดเห็น