คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ความผิด...?
งานโรงเรียนผ่านมาหลายเดือนแล้ว การสอบปลายภาคเองก็ผ่านไปแล้วด้วย วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของม.3 ฉันยังไม่รู้เลยว่าอยู่ห้องอะไร ฉันเดินไปดูที่บอร์ดใต้ตึก อืม... จิตใส เพชรมรกต อยู่ห้องไหนนะ เนื่องจากช่วงที่ฉันไปมันเช้ามาก มากจนยังไม่มีใครไปดูรายชื่อเลย ตอนนี้เลยมีแต่ฉันที่ไล่ดูชื่อของตัวเองอยู่เพียงลำพัง อ๊ะ... ขวัญแก้ว อยู่ห้อง 1 สินะ จิตใสๆ... ฉันไล่นิ้วตามรายชื่อก่อนจะพบว่าฉันได้อยู่ห้อง 2 เก่งขึ้นรึไงนะเรา หึหึ แต่ฉันก็ต้องสะดุดกับชื่อของใครอีกคนที่อยู่ใต้ชื่อฉันไม่กี่คน... อรรถพันธ์ เหล่าภัคดี นี้มันวันซวยของฉันรึไงนะ ฉันไล่ดูชื่อคนในกลุ่ม และก็พบว่ามินกับโชอยู่ห้อง3 นายเต้อยู่ห้อง1 ห้องเดียวกับขวัญ ฉันแบกกระเป๋าที่เบาหวิวเนื่องจากฉันยังไม่ได้จัดตารางสอนเลยสักวิชาขึ้นไปบนห้องและโยนกระเป๋าลงที่เก้าอี้หลังห้อง ริมหน้าต่าง วิวดีแฮะ... ฉันลงมาซื้อขนมอะไรเล็กน้อยแล้วเดินไปยังที่ประจำของฉัน ซึ่งมีบีมนั่งรออยู่ เดี๋ยวนี้หายหน้าหายตาบ่อยจังเลยนะ
“อยู่ห้องสองใช่ป่ะ เก่งขึ้นอีกแล้วนะ”บีมอมยิ้ม ฉันโคลงหัวเบาๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับบีม ฉีกถุงขนมปังที่ซื้อไว้มากัดคำเล็กๆ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง
“เออบีม.. เมื่อวานแก้วไปเจอคนๆหนึ่งมา”ฉันเปิดเรื่อง บีมหันมาให้ความสนใจกับฉันมากยิ่งขึ้น “เขาชื่อลัคนา แก่กว่าแก้วนะ คือพี่ลัคนาเนี่ย... เขามีน้องอยู่คนหนึ่งน้องเขากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามาได้ 4 ปี น้องของเขาชื่อลวัศย์สร”ฉันพูดเนิบๆ เพราะไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นเรื่องจริงรึเปล่า
“อย่าคิดจะไปหาเชียว ถ้าเธอไม่อยากให้วิญญาณของเพื่อนเธอต้องถูกขังอยู่บนโลกมนุษย์ตลอดไป”เสียงเย็นๆที่ฉันไม่ได้ยินมาเกือบเดือนทำเอาฉันสะดุ้งอีกครั้ง ก่อนจะถอยร่นที่ให้เอ็มเดินเข้ามานั่ง
“ยินดีที่ได้รู้จักนะเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของฉัน”เสียงเอ็มดังขึ้นเย็นๆอีกครั้ง ฉันไม่ค่อยชอบเสียงแบบนี้เลย ขนมปังในมือถูกยกขึ้นมากินไปอีกหนึ่งคำเล็กๆ เอ็มก็ยังคงเป็นเอ็ม ทำให้ฉันกลัวเขาได้เสมอไป นายนั่นมองไปรอบๆก่อนจะยกยิ้มเล็กๆ
“เวทย์วงแหวน กางมันเอาไว้ตลอดนะ”อาจจะลืมกันไปบ้างแล้ว ฉันขอย้อนไปอธิบายอีกครั้งว่าคนที่มีสัมผัสพิเศษแบบฉันหรือเอ็มจะมีเวทย์วงแหวนกางไว้รอบตัวเพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณมาย่างกราย ซึ่งฉันก็กางมันตั้งแต่เรื่องของฟ้านั่นแหละค่ะ ฉันเดินไปเพื่อทิ้งกล่องนมกับถุงขนมปัง
“ไงแก้ว ปีนี้อยู่คนละห้องกันแล้วนะ”เสียงโชทัก วันนี้รุ่นพี่ไม่มีสักคนที่ตามมา เลยเหลือแต่นักเรียนม.2 ที่ตอนนี้กลายสภาพไปอยู่ม.3แล้ว
“วันนี้จะมีการล่ารายชื่อรุ่นพี่ ยังไงก็ช่วยเซ็นชื่อให้น้องม.1ด้วยแล้วกันนะ”โชพูดก่อนจะเดินนำฉันกลับไปยังที่เดิม แต่ระหว่างทางก็มีเสียงทักขึ้นทำให้คนถูกทักต้องหยุดเดินแล้วหันกลับไปด้านหลังตามเสียงเรียน
“พี่แก้วจริงด้วย หนูนึกว่าทักคนผิดซะอีก”เสียงของเด็กม.1ทักขึ้น ฉันหันไปมองแล้วก็ต้องใช้เวลาไตร่ตรองสักนิดก่อนจะจำได้ว่าเธอเป็นคนเดียวกับที่เคยเข้ามาทักฉันตอนงานโรงเรียน
“อืม... ขอบใจที่จำพี่ได้นะ แต่พี่จำน้องไม่ได้จริงๆ”ฉันปฏิเสธนิ่มๆ เธอคนนั้นทำหน้าซึมๆก่อนจะยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
“หนูซอลไงพี่ ที่เรียนอยู่รัตนวิทยาน่ะ”คำตอบทำให้ฉันจำเธอได้ทันที เด็กคนที่เคยบอกว่ารู้จักฉันตอนนั้นน่ะเอง ฉันยิ้มทันทีที่จำได้จะว่าไป... ฉันเองก็ไม่ได้ติดตามเรื่องความทรงจำเก่าๆของฉันเลย ไม่แน่ถ้าซอลไม่ทัก ฉันอาจลืมไปแล้วก็ได้ว่าฉันตั้งใจจะค้นหาอดีตของตัวเอง
“อืม... พี่จำได้แล้ว แล้วสอบติดที่นี่เหรอ”ฉันไม่น่าถามคำถามแปลกๆแบบนั้นเลย ในเมื่อซอลก็ใส่ชุดนักเรียนปักคำว่า อ.อ. ที่ย่อมาจากเอกอนันตศึกษา ชัดซะขนาดนั้น ซอลพยักหน้ารับแล้วเดินมาข้างๆโช
“พี่ชื่ออะไรคะ”ซอลเข้าไปใกล้โช ดูท่าทางคงไม่ได้อยากมีแฟนตั้งแต่เข้าม.1หรอกนะ ฉันภาวนาให้เป็นอย่างนั้น ไม่งั้นฉันมีหวังโดนมินกินหัวที่พารุ่นน้องให้มาจีบเพื่อนเธอแน่ๆ
“พี่ชื่อโชครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ รุ่นน้อง”โชออกตัวอย่างเรียบง่ายและปฎิเสธอย่างนุ่มนวล ดีมากเลยโช นายทำให้ฉันรอพ้นจากกว่าที่จะถูกมินกินหัวไปอย่างหวุดหวิดเลยเชียว
“ซอล พี่ๆเขาเรียกแล้ว รีบไปเหอะ”และแล้วน้องซอลก็ถูกเพื่อนๆเรียกไปหารุ่นพี่ อ่อ...โรงเรียนนี้เวลาเปิดเทอมวันแรก น้องๆม.1จะมีรุ่นพี่คอยดูแลในแต่ละห้องน่ะค่ะ เดี๋ยวม.5ฉันก็ต้องไปทำด้วยเหมือนกันและนี้ก็เป็นบทสรุปของการเจอกันของฉันกับซอลค่ะ หลังจากนี้ฉันกับนายโชก็เดินไปที่เดิม ขออย่าให้มีรุ่นน้องคนไหนเข้ามาปั่นหัวฉันอีกเลย แค่นี้ก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว
การเรียนในวันแรกไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เมื่อนายเอ็มมันโผล่มานั่งข้างฉันไปซะเฉย จนเพื่อนผู้หญิงในห้องเขม่นฉันซะเกือบตาย แต่มันก็แปลกๆนะ ทั้งเขม่นทั้งกลัวฉัน บอกไม่ถูกเลยว่ามันเป็นยังไง ฉันจะกลัวพวกนั้นดีหรือพวกนั้นจะกลัวฉันดีก็ไม่รู้สิ แต่ก็เอาเหอะ... ฉันเองก็ไม่ได้อยากใส่ใจอะไรมากนักหรอก นอกจากกลุ่มเดิมๆที่ฉันอยู่แล้ว กับคนอื่นฉันก็ยังไม่ต่างจากตอนที่ยังไม่เจอใครเลย พูดง่ายๆว่าทุกคนยังกลัวฉันอยู่นั้นเอง
“แก้ว.... บีมคิดถึงอ่ะ”ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อบีมลอยเข้ามากอดฉันแน่น แถมตายังแดงๆเหมือนกับผ่านการร้องไห้มา ฉันรีบดึงเธอลงมาก่อนจะกอดเธอกลับ บีมยิ่งร้องไห้จ้าจนฉันไม่รู้จะปลอบยังไง
“เดี๋ยวก่อนๆ... อย่าเพิ่งร้องนะ บอกแก้วสิว่ามีอะไร หืม”ฉันลูบหลังบีมเบาๆ ตอนนี้คนทั้งห้องเริ่มมองฉันแปลกๆ เหลือแต่นายเอ็มที่หลุดขำออกมา ฉันหันไปเบ้ปากใส่แล้วกลับมาสนใจบีมต่อ
“ว่าไง... เกิดอะไรขึ้น ฮึ!”ฉันยิ้มปลอบใจ บีมปาดน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาแล้วส่ายหน้าเบาๆไม่ยอมเล่าอะไรสักอย่าง ฉันไม่รู้จะทำยังไง บีมเป็นคนที่ไม่ยอมเล่าเรื่องอะไรให้ใครฟังถ้าเธอไม่ยินยอมเอง ถามไปก็เท่านั้นเดี๋ยวบีมก็แต่งเรื่องโกหกมาหลอกอีก รอเธออยากเล่าเดี๋ยวเธอก็เล่าให้ฉันฟังเองแหละ ฉันดึงบีมให้มานั่งตักของฉันโดยที่ฉันกอดเธอเอาไว้หลวมๆแล้ว คนในห้องหันกลับไปสนใจเรื่องเรียนแล้ว ก็ดี... ฉันก็ไม่อยากให้ใครสนใจฉันมากนักหรอก
‘ ฉันรู้เหตุผลที่เพื่อนๆกลัวเธอแล้วล่ะ ยัยบ๊อง ’
เศษกระดาษสมุดที่ถูกฉีกแล้วเขียนคำสั้นๆส่งมาให้ฉันจากคนข้างๆ นายเอ็มนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว ฉันเลยเขียนตอบกลับไปสั้นๆแบบได้ใจความเลยว่า
‘ แล้วไงล่ะ นายอรรถพันธ์ ’
เอ็มมองกระดาษที่ฉันส่งคืนไปให้ก่อนจะหัวเราะน้อยๆแล้วขยำมันปาใส่ใต้โต๊ะตัวเอง อย่างน้อยนายก็ยังไม่ทิ้งมันลงพื้น ไม่งั้นเวรวันนี้คงจะต้องมีขยะเพิ่มขึ้นอีกชิ้นแน่ๆ
“เรามีเรื่องจะคุยกับนาย ช่วยมาที่หลังหอประชุมตอนพักกลางวันทีนะ”นายเอ็มอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้าโทรศัพท์ในระหว่างคาบที่อาจารย์ยังไม่เข้าก่อนจะขมวดคิ้วแน่น เบอร์ที่ถูกส่งเข้ามาเป็นเบอร์ๆที่ไม่ได้ถูกเมมเอาไว้ในเครื่อง ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมฉันถึงรู้ลึกขนาดนี้ มันเป็นเพราะนายเอ็มหันหน้ามาด้านข้างๆ ฉันเลยได้อานิสงค์อ่านข้อความพวกนั้นไปด้วย
“ใครส่งมาวะ”นายเอ็มพึมพำอย่างหัวเสียก่อนจะลบข้อความนั้นทิ้งไปทันที ให้ฉันเดา คงเป็นแฟนคลับของนายเอ็มบางคนแน่ๆ ก็ฉันบอกแล้วว่าหมอนี่มันหล่อมากยืนยันจากรางวัลป๊อบปูล่าร์โหวต ที่หมอนี่ได้มาตอนม.2เลย คะแนนของหมอนี่นำโด่งแซงคนอื่นมาเกือบแปดสิบคะแนน เอาเป็นว่า ผู้หญิงเกือบทั้งโรงเรียนชอบหมอนี่ก็แล้วกัน แต่สำหรับนักเรียนชายแล้ว หมอนี่ก็เป็นศัตรูตัวฉกาจเช่นกันนั้นแหละ
ตอนพักกลางวันนายเอ็มก็หายหน้าไปเลยจากกลุ่ม คงจะไปตามนัดสินะ ฉันมองข้าวในจานแล้วเดินหาโต๊ะ ไม่น่าลงมาช้าเลยแฮะ ไม่เหลือที่นั่งเลย ฉันเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่มีคนหนึ่งอยู่สองคน
“เอ่อ... ขอโทษนะ โต๊ะนี้มีคนนั่งต่อรึเปล่า”ฉันถาม เธอสองคนเงยหน้ามองฉันก่อนจะพร้อมใจลุกขึ้นจากโต๊ะทั้งๆที่ข้าวยังไม่พร่องเลยสักนิด ฉันมองตามด้วยความสงสัยก่อนจะนั่งลงแทนที่ ทันทีที่ฉันนั่งลง รอบตัวฉันก็เงียบสนิท หลายคนหันไปซุบซิบกับเพื่อน หลายคนมองฉันแปลกๆ ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งแทรกดังขึ้นมา
“ยัยแม่มด ออกไปนะ”และตามมาด้วยหลายๆเสียงที่ดังขึ้นรอบตัว ฉันมองคนพวกนั้นอย่างงงๆ ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นใครตอบฉันได้บ้างไหมเนี่ย แล้วน้ำเย็นๆแก้วหนึ่งก็ถูกเทลงมาจากด้านบนจนเปียกหัวฉันไปหมด
“ยัยแม่มด ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอใช้วิธีไหนเอ็มถึงไปหลงเสน่ห์เธอ แต่พวกฉันไม่ยอมแน่”เสียงแหลมแสบแก้วหูที่ฉันเกลียดมากๆดังขึ้น พอฉันหันไปมองเธอก็สะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินเชิดๆไปเข้ากับกลุ่มเพื่อนของเธอที่ดูแรงไม่แพ้กันเลยทีเดียว ฉันลูบน้ำออกจากหัวก่อนจะลุกเอาจานไปเก็บ ระหว่างที่ฉันเดินกลุ่มคนที่มุงดูอยู่ก็แตกฮือออกเป็นวงกว้าง ฉันเก็บจานและกำลังจะหันกลับไปที่เดิมก็มีน้ำแดงสาดใส่เสื้อนักเรียนฉันจนเลอะเละเทะไปหมด ฉันเงยหน้ามองกลุ่มคนที่มุงดูอยู่ แต่ทุกคนก็หลบสายตาจนไม่รู้ว่าใครทำกันแน่ ฉันมองเสื้อตัวเองอีกครั้ง คงต้องไปล้างในห้องน้ำแล้วล่ะนะ
“เฮ้อ...”ฉันถอนหายใจแต่ก็ทำให้หลายคนถอยหนีแทบไม่ทัน ฉันเกือบจะหันหลังกลับ แต่ก่อนที่ฉันจะเดิน หางตาของฉันเหลือบไปเห็น กลุ่มๆหนึ่งอยู่ในฝูงคน โช มิน เต้ ขวัญ... คำว่าเพื่อน สุดท้ายมันก็แค่อากาศสินะ...
“แก้ว... ฉันขอโทษ”เสียงที่ดังมาจากหน้าห้องน้ำ เป็นเสียงที่ฉันคุ้นเคย เธอที่เคยเข้ามาช่วยฉันตอนที่ฉันถูกหาเรื่อง เธอที่เคยมาคุยกับฉันเป็นคนแรก เธอที่ยอมเป็นเพื่อนกับฉัน เธอที่ฉันเรียกว่า... เพื่อน
“แก้ว... ฉันขอโทษ ก็เพื่อนมันรั้งตัวฉันเอาไว้ ฉันอยากจะเข้าไปช่วยนะ แต่...”มินทำท่าจะพูดต่อแต่ก็ถูกฉันขัดขึ้นมา
“พอเถอะมิน ไม่มีเหตุผลไหนที่จะทำให้ฉันกลับไปคบกับเธอได้อีกแล้วล่ะ เธอกลับไปอยู่กับเพื่อนของเธอเถอะ”ฉันแทรกตัวแล้วเดินหนีมา ด้านหลังฉันได้ยินเสียงร้องไห้ก่อนจะเห็นนายโชรีบวิ่งสวนกับฉันไป
“คนโชคร้าย... ขอโทษที่ไม่ได้เข้าไปช่วยนะ”นายเต้ยิ้มให้ฉันแล้วเดินตามนายโชไปติดๆ เหลือแต่ขวัญที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าฉัน ตัวเธอสั่นเหมือนกำลังจะร้องไห้
“ไม่ต้องห่วงหรอก แค่กลับไปเหมือนเดิม... ขวัญอยู่กับเพื่อนๆไปเถอะนะ”ฉันพูดโดยไม่ให้ขวัญได้พูดอะไรเลย ฉันรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับไปที่เดิมของฉัน ที่ๆเหมาะกับฉันที่สุด... ที่ๆไม่มีใครเลย...
“ดูท่าเธอจะแย่นะ”เสียงนายเอ็มดังขึ้นด้านข้างฉัน ฉันหันไปมองก่อนจะกล่าวเสียงเย็น
“ออกไปซะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก”ฉันพูดแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับหมอนั่น นายเอ็มก็จ้องฉันกลับ ดวงตาของเขามืดมิดมาก จนดูเหมือนกับกำลังจะจมดิ่งลงไปสู่ก้นเหวลึกที่มองไม่เห็นอะไรเลย
“งั้นฉันถามอะไรอย่างหนึ่งก่อนที่ฉันจะไป...”นายเอ็มกล่าวเสียงเย็นไม่ต่างจากฉัน ดวงตาของเขายังจ้องมองฉันไม่วางตา
“ฉันผิดอะไร...?”
ความคิดเห็น