คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : มหัศจรรย์ จิตใจ หัวใจ ลี้ลับ
ตอน1
มหัศจรรย์ จิตใจ หัวใจ ลี้ลับ
คุณเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับรึเปล่า มันมีจริงๆนะ ในโลกใบนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างมากมายที่คุณยังไม่เคยรับรู้ แต่สำหรับฉัน ในห้วงเวลานี้ที่ฉันได้ก้าวผ่านสัมผัสของมนุษย์ปกติ ที่มีรับรู้ได้โดย หู ตา จมูก ลิ้นและการสัมผัส ในตอนนี้ฉันมีสัมผัสที่มากกว่าคนอื่นๆ หรือที่ทุกคนเรียกกันว่าสัมผัสที่หกค่ะ ฉันสามารถมองเห็นและพูดคุยกับวิญญาณได้ทุกประเภท อ่อ... คุยเพลินไปหน่อย ฉันขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ ฉันชื่อแก้วค่ะ ชื่อจริงคือ จิตใส เพชรมรกต อายุ 14 ปีค่ะ ฉันเรียนที่โรงเรียนสหศึกษา แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นี่แหละค่ะ แต่ถึงฉันจะเรียนที่ไหนก็ไม่มีใครสนใจฉันหรอกค่ะ เพราะตั้งแต่ที่ฉันจำได้ จะว่าไปมันก็ไม่กี่ปีเท่าไร เนื่องจากความทรงจำของฉันหายไปตั้งแต่อายุ10 ปี และอีก4ปีต่อมาที่ฉันยังจำได้อยู่ ฉันไม่เคยมีเพื่อนเลยสัก “คน” แต่ฉันมีเพื่อนเป็น “วิญญาณ” ค่ะ เธอชื่อบีม เธอเป็นวิญญาณที่น่ารักมาก จนฉันอดคิดไม่ได้ว่าตอนมีชีวิตเธอจะมีผู้คนรุมล้อมมากมายขนาดไหนกัน
“แก้ว แก้วๆๆ เฮ้! หลับแล้วงั้นเหรอ”เสียงของบีมดังเข้ามาในโสตประสาทของฉัน เธอใช้วิธีพูดผ่านความคิดของฉันน่ะค่ะ อันที่จริงฉันเองก็สามารถคิดตอบกลับไปก็ได้ แต่จะสนทำไม ในเมื่อฉันไม่จำเป็นต้องสนใจใครอยู่แล้ว ดังนั้นฉันเลย...
“หือ... ยังหรอก มีอะไรเหรอ”ฉันพูดออกมาคนเดียว ผู้คนรอบตัวฉันมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ แต่ฉันก็ชินเสียแล้วล่ะค่ะ บีมลอยมาอยู่ข้างๆฉันแล้วจับมือฉันเอาไว้ ฉันได้บอกทุกคนไปรึยังนะ ว่าฉันสัมผัสและทำทุกอย่างกับวิญญาณได้เหมือนกับวิญญาณเป็นมนุษย์คนหนึ่ง บีมบีบมือฉันเบาๆ ฉันลุกแล้วมองลงไปที่หน้าต่าง วิญญาณหลายสิบดวงกำลังลอยผ่านผู้คนมากมาย จะมีใครสักคนไหม ที่จะรับรู้มันได้แบบฉัน
“หึหึหึ ฉันไงล่ะ”เสียงอีกเสียงดังผ่านโสตประสาทการรับฟังของฉัน ทันทีที่ฉันหันกลับไปก็ต้องพบกับคนๆหนึ่ง บุคคลซึ่งตามล่าตัวฉันมาตลอก 3 ปีเต็ม
“เอ็ม!!!”ฉันโผล่งออกไปด้วยความตกใจ เอ็มเลิกคิ้วน้อยๆเหมือนสงสัย พลางค่อยๆย่างสามขุมเข้ามาหาฉัน ตัวของฉันแข็งทื่อไม่สามารถขยับไปไหนได้ ความรู้สึกแปลกๆ มวนอยู่ในท้องของฉัน บอกไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไร แต่ความหวาดกลัวของฉันก็บังเกิดขึ้นเสมอเมื่ออยู่ใกล้คนๆนี้ คนที่มีสัมผัสที่หกแบบเดียวกับฉัน!!
“ไง บีม เจอกันอีกแล้วนะ”เสียงของเขาลอดผ่านประสาทหูของฉันไป ฉันค่อยๆย่างก้าวเข้าไปทีละก้าวด้วยความไม่มั่นคง ร่างกายฉันไม่รับรู้อะไรอีกแล้วนอกจากการบังคับให้ตัวเองเดินไปข้างหน้าและห้ามล้มเด็ดขาด เพราะฉันรู้ดี คนอย่างเอ็มจะต้องซ้ำเติมฉันแน่หากฉันผิดพลาดอะไรสักอย่าง
“แต่ฉันไม่อยากเจอนายสักนิด”บีมส่งความคิดออกมาและฉันก็รู้ว่าเอ็มคงได้ยินมันเพราะฉันเองก็ได้ยินเช่นกัน เอ็มหัวเราะเบาๆแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างๆใบหูของฉัน มันแผ่วเบา และเย็นเยียบ!!
“ระวังตัวด้วยล่ะ หึหึหึหึ”ฉันไม่รู้ว่าฉันก้าวผ่านห้องนั้นมาได้อย่างไร ตอนนั้นฉันคิดแค่ว่าต้องออกไปจากที่แห่งนั้นให้เร็วที่สุด เมื่อรู้สึกตัวอีกที ฉันก็มานั่งที่ข้างมุมตึก สถานที่ๆไม่ค่อยมีคนผ่านไปมา เนื่องจากขึ้นชื่อด้วยว่ามีวิญญาณอาศัยอยู่เยอะ ฉันละอยากตะโกนบอกให้ทุกคนได้รับรู้จริงๆว่าวิญญาณมันมีอยู่ทุกที่นั้นแหละ เพียงแค่พวกเขามองไม่เห็นเท่านั้นเอง
“เธอ... เธอเห็นฉันรึเปล่า”เสียงหวานๆดังขึ้นข้างๆตัว ฉันพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าฉันได้ยินสิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่ในความคิดของฉัน บีมลอยมานั่งข้างๆฉัน วิญญาณที่ฉันได้เจอคราวนี้เป็นเด็กผู้หญิงชั้นม.ต้น เธอยิ้มอ่อนหวานให้ฉันและส่งผ่านมันไปให้บีมด้วย
“ฉันดีใจมากเลยนะ ในที่สุดฉันก็สามารถติดต่อกับใครสักคนได้ เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม”จะบอกว่าชินก็คงใช่ ตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา ฉันได้ให้ความช่วยกับวิญญาณหลายรูปแบบตั้งแต่สวยงามจนกระทั่งเน่าเฟะเลยก็มี ฉันพยักหน้าไปตามแกน พวกเธอคงหาที่พึ่งไม่ได้จริงๆนั่นแหละ ถึงต้องมาขอร้องฉัน ฉันค่อยๆหลับตาและฟังสิ่งที่เธอเล่าไปเรื่อยๆ เธอบอกว่าเธอแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักบาสโรงเรียน เขาคนนั้นอยู่ชั้นม.4 ชื่อ อิทธิพล เอกองอาจ และเธอต้องการให้ฉันช่วยเหลือเธอ
“เธอจะให้ฉันช่วยอะไรล่ะ บอกมาสิ”ฉันถาม ก่อนจะสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเมื่อมีเสียงกรี๊ดดังมาจากด้านหลัง ฉันรีบหันกลับไปมอง เด็กผู้หญิง... ที่ฉันจำได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องของฉัน กับผู้ชายอีกคนที่ชื่อ... อะไรนะ ฉันจำไม่ได้แล้วแฮะ อาจเป็นเพราะฉันขี้เกียจจำก็เป็นได้
“โช เมื่อกี้... เมื่อกี้ฉันเห็นแก้วพูดกับใครก็ไม่รู้”เสียงของเด็กผู้หญิงคนนั้นดังขึ้น ฉันเหลือบมองชื่อของทั้งสองคนที่ปักอยู่บนอกเสื้อ ภาวิณี วงศ์ตระกูล กับ ไตรภพ เอกองอาจ งั้นรึ เอกองอาจ!! ฉันรู้แล้วว่าฉันควรจะช่วยเธอคนนั้นอย่างไรดี
“เธอ... เธอน่ะ นายอิทธิพลอะไรนั่นมีน้องชายด้วยใช่ไหม”ฉันลองถามเป็นกระแสจิตกลับไป เธอคนนั้นพยักหน้า ใช่แล้ว... ฉันมีวิธีช่วยเธอคนนี้แล้วจริงๆด้วย ฉันมองบีมแล้วก็หันไปมองหน้าของคนที่ชื่อภาวิณี ก่อนจะเลยผ่านไปยังนายไตรภพ
“นี่ๆ นายน่ะ นายนั่นแหละ มีผู้ชายอยู่คนเดียวไม่ใช่รึไง”ฉันเรียก นายไตรภพอะไรนั่นชี้หน้าตัวเองอย่างงงๆ ฉันเดินไปลากให้นายไตรภพมานั่งข้างๆ ปล่อยผู้หญิงอีกคนให้เดินตามมานั่งอย่างไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไรนัก
“ฉันมีเรื่องจะให้นายช่วยหน่อย ห้ามปฏิเสธ ฟังให้ดีแล้วทำตามซะ”ฉันสั่ง ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่ได้ฟังมาจากเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกที ไตรภพฟังไปแล้วก็พยักหน้าไป มีบ้างช่วงแรกๆที่นายไตรภพสะดุ้งแทบตกเก้าอี้ พอฉันบอกว่า เธอ กำลังนั่งอยู่ข้างๆ จะว่าไปแค่นายไตรภพทนฟังให้จบได้ก็ว่าบุญโขแล้ว เพราะคนปกติที่ไหนจะกล้าอยู่ต่อกันถ้าเกิดรู้ว่าข้างๆมีวิญญาณลอยอยู่ ไหนจะคนที่ชื่อ ภาวิณีอีก เป็นผู้หญิงที่ใจกล้าไม่เบาแถมตอนพูดเรื่องสัมผัสที่หก เธอคนนี้ก็ทำท่าสนอกสนใจจนออกนอกหน้านอกตา
“ตกลงที่เธอเล่ามาทั้งหมด เธอต้องการให้ฉันพาพี่ไปที่หลุมศพของเด็กคนนี้ใช่ไหม”ไตรภพชี้มือมั่วๆมายังที่ๆเด็กผู้หญิงคนนั้นลอยอยู่ ฉันพยักหน้า เข้าใจอะไรง่ายๆก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายอะไรมากมาย บีมยิ้มให้ฉันแล้วลอยมาเกาะคอของฉันเอาไว้ จะมีใครรู้บ้างไหมนะ ว่ามัน... หนัก อย่างน้อยวิญญาณมันก็เป็นพลังงานชนิดหนึ่งล่ะนะ
“บีม... ฉันหนัก ลงไปนะ”ฉันไล่เบาๆ พร้อมกับโน้มคอลงให้บีมลอยออกไปได้สะดวกๆ ดูนายไตรภพจะตกใจมากกว่าเก่าเมื่อเห็นว่าฉันคุยกับวิญญาณได้ บีมลอย
ออกไปแต่โดยดี แต่ก็ยังไม่วายหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาให้ฉัน ซึ่งในความคิดฉัน มันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด ออกแนวน่ารักเสียด้วยซ้ำไป บีมลอยไปคุยกับวิญญาณเด็กผู้หญิงที่แทบจะถูกลืมไปแล้วก่อนที่ทั้งสองจะแอบหัวเราะคิกคักออกมา ที่แบบนี้ล่ะดันไม่ยอมให้ฉันได้ยินเรื่องที่คุยด้วยเลยนะ
“เธอนี่น่าสนุกดีนะ ฉันชื่อมิน คนนี้ชื่อโช แล้วเธอชื่ออะไรเหรอ”มินโผล่หน้ามาถาม ถึงฉันจะไม่ตกใจกับวิญญาณก็จริง แต่กับคนปกติที่โผล่งออกมาแบบนี้ฉันก็ตกใจเป็นนะ ฉันมองหน้าแล้วพูดออกไปเบาๆ นานเท่าไรแล้วนะ ที่ไม่มีใครถามชื่อฉันแบบนี้
“แก้ว... ฉันชื่อแก้ว”ฉันตอบ มินยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ แบบที่ฉันไม่เข้าใจว่าเธอจะหัวเราะไปทำไม แต่เสียงๆหนึ่งก็เรียกให้ฉันเงยหน้าขึ้นมา
“พี่แก้ว จะหมดเวลาพักแล้วนะ ขึ้นไปเรียนได้แล้ว”ขวัญแก้ว หรือ ขวัญ น้องสาวคนเดียวของฉันเองค่ะ แต่เพราะเธอเข้าโรงเรียนก่อนกำหนด ทำให้ตอนนี้ฉันกับเธอเรียนอยู่ในระดับชั้นเดียวกัน ผิดแต่ฉันเรียนอยู่ห้อง 3 ส่วนเธอเรียนอยู่ห้อง 1 ซึ่งเป็นห้องของคิงของโรงเรียนค่ะ
“ฉันต้องไปแล้วนะ อย่าลืมล่ะ วันเสาร์ตอน บ่ายโมง ต้องพาพี่นายไปให้ได้นะ บีม ไปกันได้แล้ว”ฉันหันไปบอกนายโชอีกทีกันลืม แล้วท้ายประโยคฉันก็คุยแบบกระแสจิตบอกให้บีมกลับมาได้แล้ว ขวัญเป็นอีกคนหนึ่งที่เกลียดสัมผัสที่หกของฉันมากๆ ยิ่งเวลาที่ฉันถามถึงอดีตที่ฉันลืมไป เธอก็ยิ่งบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบสักที เพราะอะไรกันนะ อดีตของฉัน มันแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ...
ฉันกลับมาที่ห้องด้วยความเบื่อหน่าย เสียงผู้คนพูดคุยกันไม่ขาดปาก จะมีใครรู้บ้างไหมนะว่าจิตใจที่แท้จริงของทุกคนมันเป็นอย่างไร แต่ก็ช่างปะไร มันไม่ใช่ธุระอะไรของฉันที่จะต้องไปรู้เรื่องในใจคนอื่นเขานี่ และวันนี้ฉันก็ได้เพื่อนใหม่อีกคนคือ ฟ้า ก็วิญญาณที่ฉันคุยด้วยเมื่อกี้ไงคะ พอดีบีมกับฟ้าเขาคุยกันถูกคอเลยพากันลอยมาคุยต่อในห้องเรียน ไม่นานก่อนอาจารย์จะเข้าห้อง ฉันเหลือบไปเห็นมินกับโชเดินเข้ามาในห้อง ทั้งสองมองฉันแล้วยิ้มให้ฉันเล็กน้อย แต่ฉันมีเหรอที่จะสนใจ ฉันฟุบหน้าลงกับโต๊ะ รอเวลาเลิกเรียน กว่าจะหมดเวลาได้ก็ทำเอาฉันหลับไปได้หลายตื่นเลยทีเดียว
“แก้ว... กลับบ้านกัน วันนี้ฟ้ากลับด้วยนะ”บีมพูดกับฉันแล้วหันไปจูงมือฟ้าเอาไว้ ฉันเองก็พยักหน้าตอบไป
“อือ... แล้วแต่สิ”บีมหัวเราะดีใจใหญ่ แต่ทำไมฉันถึงไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยนะ ความรู้สึกที่ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับเพื่อนของตัวเอง ฉันไม่รู้หรอกว่ามันเรียกว่าอะไร แต่ถ้าให้ฉันเดา ความรู้สึกของฉันตอนนี้คงจะเป็น... หวง ฉันหวงเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันและฉันก็ไม่ต้องการให้ใครมาแทนที่ฉันด้วย
“ขวัญ แก้วกลับแล้วนะ”ฉันโผล่หน้าไปบอกขวัญที่ห้องหนึ่งแล้วเดินลงกระไดทางด้านซ้ายมือของตึก ผ่านสนามของโรงเรียนแล้วเดินออกนอกประตูโรงเรียน บีม
ลอยออกมาได้อย่างสบาย แต่วิญญาณอีกตนหนึ่งที่กำลังจะลอยออกมา กลับถูกอะไรบางสิ่งขวางกั้นเอาไว้ ฉันมองไปบนกำแพงโรงเรียน ผ้ายันต์สีแดงมันถูกซุกซ่อนอยู่ในซอกหลืบของกำแพง ฉันเดินไปหยิบมันออก แล้วนำมันเดินไปในซอกตึกที่ไม่มีใครสังเกต นำมันลอดใต้กระโปรงของฉัน เขาว่ากันว่าถ้านำของขลังลอดใต้กระโปรงหรือของต่ำของผู้หญิง ของขลังมันจะเสื่อมค่ะ ฉันไม่เคยลองดู แต่จะลองครั้งนี้ครั้งแรกจะเป็นอะไรไป แต่ทันทีที่ฉันนำมันลอดกระโปรงเสร็จและกำลังจะจุดไฟเผามันใครคนหนึ่งก็เดินตามฉันเข้ามาทันที ฉันทำผ้ายันต์ร่วงลงพื้นโดยไม่รู้ตัว ลมที่ไม่รู้พัดมาจากไหนพัดมันให้หายไปจากสายตาของฉัน
“รู้ทันอีกจนได้ แก้เกมฉันทันอีกแล้วนะแก้ว”เอ็มพูด คราวนี้ฉันพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแล้วเดินผ่านหน้าของเอ็มไป แต่แล้วคำพูดสุดท้ายของเขาก็ทำเอาฉันนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน
“ระวังเด็กที่ชื่อฟ้าเอาไว้ให้ดีแล้วกัน ฉันเตือนด้วยความหวังดีนะ หึหึหึ”ฉันขนลุกชันทันที แล้วพยามกลั้นใจเดินจากเอ็มออกมา ฟ้ากับบีมลอยออกไปปะปนกับผู้คนนอกโรงเรียนได้แล้ว ฉันเดินตามออกมาสมทบ ก่อนจะโบกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านของฉัน เสียงหัวเราะคิกคักของฟ้ากับบีมทำเอาฉันปวดประสาทหูไปหมด ไหนจะคำเตือนที่เอ็มพูดให้ฉันฟังเมื่อครู่ ตอนนี้ทุกอย่างในหัวฉันมันสับสนปนเปกันไปหมดแล้ว เรื่องไหนจริง เรื่องไหนปลอม ฉันไม่แน่ใจเลยว่าควรจะเชื่อใครดี
คืนวันนั้นเอง ฉันนั่งอยู่ในห้องคนเดียว ย้ำว่าคนเดียว เพราะอีกสองร่างที่อยู่ในห้องกันฉันเป็น วิญญาณ ที่ไม่ใช่คน ฉันมองกรอบรูปในสมัยก่อนของตัวเอง ภาพของฉันและขวัญ ข้างๆกันมีเด็กผู้ชายหน้าตาละม้ายคล้ายกับใครสักคนในความทรงจำที่ฉันนึกไม่ออก แต่ก่อนฉันเป็นคนอย่างไรนะ ฉันมองเห็นวิญญาณได้แบบนี้รึเปล่า ฉันชอบอะไร ฉันนิสัยแบบไหน ฉันมีเพื่อนบ้างไหม และฉัน... เป็นใครกันแน่
“แก้ว ฉันขอบใจเธอมากๆเลยนะ ที่วันนี้เธอช่วยอะไรฉันตั้งหลายอย่างแหนะ”ฟ้าลอยเข้ามาใกล้ๆ บีมจับมือฟ้าเอาไว้ ฉันเบนสายตาหนีภาพนั้นพยักหน้าแทนการตอบรับ พลางหยิบสมุดไดอารี่ของตัวเองขึ้นมา ฉันเปิดไปหน้าล่าสุด และเริ่มเขียนไดอารี่ของตนเอง มันเป็นข้อความสั้นสำหรับฉันถึงตัวฉันเอง เพราะบางทีถ้าฉันลืมความทรงจำนี้ไปอีก ฉันจะได้ย้อนกลับมาอ่านไดอารี่เล่มนี้ได้
‘ วันศุกร์ 13-02-xx เวลา 23:50 น.
ฉันเจอกับฟ้า วิญญาณอีกหนึ่งดวงและพรุ่งนี้ฉันต้องทำให้เธอเจอกับรุ่นพี่อีกคนให้ได้ เอ็มแวะเข้ามาหาถึงสองครั้ง โชคร้ายสุดๆเลย คนชื่อมินกับโชนี่แปลกพิลึก ’
.
.
.
.
.
.
(ภาพ)
ความคิดเห็น