คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : โรงเรียนแห่งกษัตริย์
ตอน1
โรงเรียนแห่งกษัตริย์
ค่ำคืนหนึ่งในยามดวงจันทรากำลังส่องสว่างทั่วผืนนภา ผู้คนหลับใหลหากแต่ยังมีคนๆหนึ่งที่กำลังนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องต่างๆที่เคยทำสัญญาเอาไว้
“ขอให้เจ้าทำตามสัญญาด้วยนะ กษัตริย์แห่งโรนัทดัส”ชายคนหนึ่งพูดกขึ้นก่อนจะหันไปมองห้องที่อยู่เยื้องกับห้องของตน แสงไฟในห้องยังเปิดสว่างอยู่ ถ้าเขาเดาไม่ผิดคนในห้องนั้นคงกำลังฝึกซ้อมการต่อสู้อยู่แน่ๆ
“แล้วคงได้เจอกันนะ”ชายคนนั้นพูดก่อนจะกรอกข้อมูลต่างๆลงในกระดาษแผ่นหนึ่งจนเสร็จแล้ว เดินกลับเข้าไปในห้องของตน
ยามรุ่งสางหญิงสาวผู้หนึ่งเดินออกมาจากห้องก่อนจะเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างถูกวางลงบนพื้น ซองจดหมายเล็กๆถูกจ่าหน้าส่งมาถึงนาง
“อะไรกัน”นางพึมพำเบาๆแล้วก้มลงหยิบซองจดหมายขึ้นมาจากพื้นก่อนจะแกะออกอ่าน เนื้อความด้านในทำให้นางร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษา โรงเรียนแห่งกษัตริย์โรงเรียนที่ทุกคนฝันอยากเข้ามาที่สุด โรงเรียนนี้จะรับแต่คนที่จะเป็นกษัตริย์ต่อไปในอนาคตเท่านั้น กษัตริย์ในตอนนี้ต่างก็ไปเรียนที่โรงเรียนกษัตริย์แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นท่านตาหรือท่านพ่อของเธอเอง หญิงสาวยิ้มร่าเดินเข้าไปกอดพ่อของตน
“ท่านพ่อ ข้าได้ไปเรียนโรงเรียนกษัตริย์แล้วนะ”หญิงสาวยิ้มแล้วชูจดหมายในมือขึ้นให้ชายตรงหน้าดู
“หืม ต้องสอบก่อนไม่ใช่หรือ พ่อว่าเจ้าเตรียมตัวไปสอบก่อนจะดีกว่านะ อีกไม่กี่วันแล้วนี้”พ่อของนางบอกแล้วแกะซองจดหมายออกมาอ่าน
“อีก 1 อาทิตย์ งั้นข้าเตรียมไปเก็บของเดินทางดีกว่า”หญิงสาวบอกแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน
ผู้เป็นพ่อมองตามหญิงสาวผู้เป็นลูกของตนลับหายเข้าไปในปราสาท ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ เมื่อก่อนตอนเขาได้รับจดหมายเขาก็มีอาการเช่นเดียวกับลูกสาว แต่จะว่าไปในตอนนั้นก็สอบเข้าก็โหดใช่เล่น ถ้าไม่เก่งจริงก็ไม่สามารถเข้าไปเรียนได้ต่อให้เป็นลูกหลานกษัตริย์ใหญ่มากจากไหนก็เถอะ ขนาดเขายังสอบเข้าไปได้แบบฉิวเฉียด และได้ทำสัญญากับเพื่อนทั้ง 4 คนเอาไว้ คนที่เปรียบเป็นเพื่อนสนิทที่สุดตอนที่เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนกษัตริย์แห่งนั้น แต่สิ่งที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดหาใช่เรื่องที่โรงเรียนไม่ หากแต่เป็นฝีมือของลูกสาวตนเอง เท่าที่เขาได้เห็นฝีมือการต่อสู้ของนาง บอกได้คำเดียวว่า... อ่อนหัด ตอนเขาไปสอบเข้าโรงเรียนกษัตริย์เขายังมีฝีมือมากกว่านางในตอนนี้เสียอีก สุดท้ายก็คงต้องอวยพรให้เจ้าสอบเข้าโรงเรียนกษัตริย์ให้ได้... เซเรีย
“อืม... มีดพกล่ะ”หญิงสาวพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้และมองไปรอบๆ ก่อนที่จะมีมือๆหนึ่งยืนมีดสั้นของเธอมาไว้ตรงหน้า เซเรียหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนจะยิ้มให้และรับมีดสั้นมาเก็บไว้
“พ่อมีอะไรหรือคะ”หญิงสาวถาม
“ใส่สิ่งนี้ไว้ซะ”พ่อบอกแล้วยืนสิ่งๆหนึ่งมาให้เธอ มันเป็นต่างหูเล็กๆสีดำสนิท ลวดลายของมันดั่งเปลวเพลิงที่พร้อมจะมอดไหม้ทุกสิ่งที่แตะต้องโดน
“ค่ะ”หญิงสาวบอกแล้วหยิบมาใส่ ร่างของหญิงสาวค่อยๆเปลี่ยนสภาพจากหญิงสาวตัวเล็กๆเป็นชายหนุ่มที่สูงประมาณ185 ซม. นัยต์ตาสีดำมองไปเบื้องหน้าอย่างไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด ผมสีดำที่ตอนนี้สั้นจนกลายเป็นทรงรากไทรปลิวตามแรงลมที่พัดเข้ามา
“ขอบคุณครับพ่อ”เซเรียพูด นางปรับตัวได้ดีเพราะชอบนำต่างหูนี้มาใส่เล่นอยู่บ่อย หญิงสาวยิ้มแล้วมองตนเองในกระจกอีกครั้ง ชุดของเธอถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อสีดำแขนยาวกับกางเกงขางยาวสีดำเช่นกัน
“รีบไปเถอะ เซเรีย แล้วก็อย่าถอดต่างหูนี้โดยเด็ดขาดนะ จำไว้ตอนนี้ลูกคือ เซน เพนริว ไซโฟเนส แห่งกราเวลด้า ลูกคนที่ 2 ของกษัตริย์กราเวลด้า”พ่อบอก ‘โรนัทดัส เวเนวเกรเทส ไลท์วิล เซโฟรเลท ข้าทำตามสัญญาแล้วนะ หวังว่าลูกของพวกเจ้าคงเป็นบุรุษทุกคนนะ’ กษัตริย์กราเวลด้าคิดแล้วมองบุตรสาวที่อยู่ในร่างชายน้อยๆ
“ข้าจะไม่ถามเหตุผลของท่านพ่อ เพราะข้ารู้ว่าข้าคงมิได้คำตอบอีกเช่นเคย”เซนพูนแล้วเดินออกมาจากปราสาทไปที่คอกม้า เซนเลือกมาสุดโปรดของตนที่เป็นสีดำสนิท นางตั้งชื่อมันว่า เกวนัส
“ไปกันเกวนัส”เซนร้องแล้วกระตุกบังเหียนแรงๆ จนม้าวิ่งออกไป
ทางด้านปราสาทของกษัตริย์โรนัทดัส องค์กษัตริย์ก็กำลังยืนมองบุตรชายสุดที่รักที่กำลังหัวเสียอย่างมาก แล้วยิ้มน้อยๆ เพียงแค่มีจดหมายมาบอกว่าให้ไปเรียนที่โรงเรียนกษัตริย์เท่านั้นแหละ เจ้าลูกสุดที่รักก็อาละวาดอย่างหนัก แต่ก็ยังเดินไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องพร้อมเสียงดังปึงปังจนเขาทนไม่ไหวเลยต้องมายืนเฝ้าอยู่ในตอนนี้ ส่วนที่บุตรชายหัวเสียเรื่องอะไรเข้าก็จนใจจะถาม
“แต่ก่อนท่านพ่ออยู่ที่หออะไร”อาเรสหันมาถามจนกษัตริย์โรนัทดัสที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับสะดุ้ด
“หอใต้”กษัตริย์โรนัทดัสตอบแล้วหันไปมอง บุตรชายที่หยิบดาบมาเหน็บไว้ที่ข้างเอว เสื้อแขนสั้นสีขาวสบายๆกับกางเกงขายาวสีขาว เป็นชุดโปรดของลูกชายนี้เอง
“อืม งั้นข้าไปล่ะ”อาเรสบอกแล้วกระโดดลงจากหน้าต่างไปที่ม้าของตนพอดี
“เก่งจริงๆ แล้วลูกของพวกเจ้าล่ะ เก่งกันรึเปล่า ไลท์วิล เซโฟรเลท เวเนวเกรเทส กราเวลด้า”กษัตริย์แห่งโรนัทดัสพูดเบาๆตามหลังบุตรชายที่ขี้ม้าออกไปนอกปราสาทจนลับตา
ณ ปราสาทไลท์วิท
โอเทสกำลังเก็บเสื้อผ้าลงในกระเป๋าสัมภาระต่างๆ ทันทีที่ได้รับจดหมายจากโรงเรียนแห่งกษัตริย์ โอเทสยิ้มร่าหน้าบานรีบวิ่งมาเก็บเสื้อผ้าทันที รู้นะว่าต้องสอบก่อน แต่มันดีใจนี้หน่า โอกาสแบบนี้มันหาได้ง่ายๆซะที่ไหนกัน โอเทสยิ้มแล้วก้มมองชุดตนเอง เสื้อสีน้ำตาลแขนกุดกางเกงขายาว 4 ส่วน เสร็จซะที โอเทสยิ้มแล้วคิดในใจ
“อีก 3 วันจะสอบแล้ว รีบไปเถอะ”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังที่โอเทสไม่ต้องหันไปมองก็รู้ดีว่าใคร พ่อของเขา... กษัตริย์ไลท์วิท
“คร้าบ งั้นข้าไปล่ะนะ”โอเทสบอกแล้วหอมแก้มพ่อของตนไป 2 ที ก่อนจะโอ้ลั้ลล้าวิ่งลงกระไดด้วยความเร็วที่มองตามไม่ทันไปที่คอกม้า เลือกม้าสีขาวปลอดก่อนจะกระโดดขึ้นขี้ แล้วบังคับให้วิ่งออกไปนอกปราสาท
“หวังว่าคงจะเป็นเพื่อนกันได้นะ เซโฟรเลท กราเวลด้า โรนัทดัส เวเนวเกรเทส”กษัตริย์ไลท์วิลพูดตามหลังเจ้าลูกชายตัวดีไปแล้วหันหลังเดินออกจากห้อง เหลือบมองไปที่กรอบรูปใหญ่ รูปของเพื่อนๆในโรงเรียนแห่งกษัตริย์ หอใต้ในปีนั้นมีคนน้อยที่สุด คือ19คน 1ในนั้นก็คือเขาเอง กษัตริย์แห่งไลท์วิลยิ้มให้กับทุกคนในรูป แล้วเดินจากไป
เสียงปึงปังดังมาจากห้องๆหนึ่งในปราสาทหลังใหญ่ กษัตริย์แห่งเซโฟรเลทเดินเข้าไปในห้องนั้นแล้วก็ต้องรีบก้มหัวหลบอย่างเร็วเพราะมีเสื้อตัวหนึ่งลอยปลิวเข้ามาหาเขา
ปัง!!
เสียงปิดกระเป๋าดังขึ้น กษัตริย์เซโฟรเลทเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะลุกขึ้นยืนพลางกระแอ่มไอกลบเกลื่อน บุตรชายยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า เหงื่อไหลท่วมตัว ตอนนี้เขาอยู่ในชุดสีฟ้าสดใส เสื้อมีฮู้ดแขนกุดกับกางเกงขา 2 ส่วน
“ไปเถอะ โรงเรียนแห่งกษัตริย์น่ะ แล้วเจ้าจะรู้ซึ้งถึงคำว่า... อันตราย”กษัตริย์แห่งเซโฟรเลทพูดขู่พร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ลูกชาย
“ครับ พอข้าสอบเข้าได้ข้าก็จะไปอยู่หอใต้แบบท่านพ่อให้ได้”ชานัสพูดแล้วก้มตัวเล็กน้อยก่อนจะหยิบผ้าในมือของกษัตริย์เซโฟรเลทมาเช็ดหน้า
“งั้นข้าไปล่ะนะ ท่านพ่อ”ชานัสพูดแล้วหยิบเป้กระโดดลงกระไดทีละ 2 ขั้นไปเรื่อยๆ หันมายิ้มให้กษัตริย์เซโฟรเลทอีกครั้งก่อนจะหันไปเลือกมาสีน้ำตาลอ่อนมา 1 ตัวก่อนกระโดดขึ้นขี่ แล้วบังคับให้มันวิ่งออกไปนอกปราสาท
“ขอให้ได้เจอกันนะ พวกลูกๆทั้งหลาย หึหึ”กษัตริย์เซโฟรเลทพูดด้วยน้ำเสียงแฝงแววขบขับไว้เต็มที่ ในตอนที่เขาเรียนที่โรงเรียนแห่งกษัตริย์ทุกคนต่างขนานนามเขาว่า ปีศาจจอมเจ้าเล่ห์ แล้วเขาก็ปฏิเสธไม่ได้เสียด้วย เพราะมันคือเรื่องจริง
เดลคิลยืนอ่านจดหมายตรงหน้า ใบหน้าเรียบเฉยแฝงแววดีใจจนปิดไว้แทบไม่มิด โอกาส1ใน100ที่จะได้เข้าเรียนในโรงเรียนกษัตริย์แห่งนี้ กษัตริย์เวเนวเกรเทสยืนมองลูกชายอยู่จากทางด้านหลัง ยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงตนเองในสมัยก่อน ป่านนี้เพื่อนๆเขาคงจะส่งลูกๆเข้าเรียนกันหมดแล้วมั้ง ยังไงก็ขอให้ได้เจอกันล่ะนะ กษัตริย์เวเนวเกรเทสยืนมองอยู่พักใหญ่จนเดลคิลอ่านจบ เขาหันมามองกษัตริย์เวเนวเกรเทสด้วยแววตาดีใจอย่างสุดๆแม้จะมีสีหน้าเรียบเฉยอยู่ก็ตาม
“มีโอกาสสอบแล้วสินะ ไปเก็บเสื้อผ้าสิ เดี๋ยวพ่อจะไปหาม้ารอไว้ให้”กษัตริย์เวเนวเกรเทสพูด เดลดิลมองหน้าเล็กน้อยแล้วก้มตัวเล็กๆให้แทนคำขอบคุณก่อนจะเดินขึ้นกระไดไปอย่างช้าๆ
“ม้าที่เหมาะกับเจ้ามันไม่ได้อยู่ในคอกหรอกนะ”กษัตริย์เวเนวเกรเทสพูดแล้วเดินไปอีกทางกับคอกม้า ห้องเล็กๆที่พอจะมีแสงสว่างส่องเข้าไปได้ถึงนิดหน่อยถูกเปิดออก สัตว์ที่อยู่ด้านในเงยหน้าขึ้นมองและลุกขึ้นยืนก่อนจะย่อตัวทำความเคารพคนตรงหน้า
“ถึงเวลาที่เจ้าจะได้ออกไปด้านนอกแล้วล่ะ”กษัตริย์เวเนวเกรเทสพูดก่อนจะจูงสัตว์ที่อยู่ด้านในออกมา ไม่นานเท่าไรนักเดลคิลก็เดินออกมานอกปราสาทมีเป้ใบเล็กๆสะพายอยู่บนบ่าข้างขวา เสื้อแขนสั้นสีน้ำตาลแดงกับกางเกงขายาวสีเดียวกับเสื้อ กษัตริย์เวเนวเกรเทสมองบุตรชายอย่างชื่นชม เดลคิลเดินมาตรงหน้าก่อนจะก้มหัวให้หนึ่งทีก่อนจะจูงม้าเดินออกมานอกวังโดยมีกษัตริย์เวเนวเกรเทสเดินตามมาส่ง
“ขอให้เจ้าโชดดี”กษัตริย์เวเนวเกรเทสตรัสบอก
“ครับ ท่านพ่อ”เดลคิลพูดแล้วขึ้นขี่ม้าก่อนจะบังคับให้มันวิ่งออกไปนอกปราสาท
“แล้วคงได้เจอกันนะ”กษัตริย์เวเนวเกรเทสพูดตามก่อนจะเดินกลับเข้าไปในปราสาท
ณ โรงเรียนแห่งกษัตริย์
ผู้คนมากมายกำลังเดินกันให้ว่อน รุ่นพี่ปี2 ยืนอยู่หน้าประตูคอยต้อนรับผู้คนและกษัตริย์จากเมืองต่างๆที่พาลูกมาส่งที่โรงเรียนแห่งกษัตริย์ รุ่นพี่ปี3 นั่งอยู่ที่โต๊ะลงทะเบียน ส่วนรุ่นพี่ปี4 ปี5 และปี6 ก็ยืนรออยู่ในหอประชุม เนื่องจากการสอบจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ วันนี้ทุกคนเลยต้องมาพักที่ห้องประชุมใหญ่ ส่วนกษัตริย์จะต้องเดินทางกลับในวันนี้ ไม่สามารถรออยู่ที่นี้ได้
“เฮ้อ! คนเยอะเป็นบ้าเลย ลงทะเบียนตรงไหนเนี่ย”เซนเดินฝ่าผู้คนไปลงทะเบียนได้จนสำเร็จแล้วเดินหลบออกไปนั่งพักที่สวนหย่อมข้างๆ
“เฮ้! นายชื่อะไรเหรอ”ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมานั่งข้างๆเซนแล้วยิ้มกว้างให้
“เซน เซน เพนริว ไซโฟรเนส แห่งกราเวลด้า”เซนพูดแล้วหันไปมองหน้าชายที่ถาม ดูแล้วน่าจะสูงประมาณ190 ซม. อายุก็น่าจะพอๆกับเขา ผมสีฟ้าสดใส กางเกงขา 2 ส่วนกับเสื้อมีฮู้ด
“อืม ฉันชื่อชานัส เวเฟรท ไนท์เอเนส แห่งเซโฟรเลท”ชานัสแนะนำตัวก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“ชานัสงั้นเหรอ ไปตรงนู้นกันดีกว่านะ”เซนชวน ชานัสพยักหน้าตกลง ทั้ง2เดินฝ่าผู้คนออกไปจนถึงประตูหน้า แล้วก็ไปยืนมองดูผู้คนที่กำลังเดินเข้ามาในประตูโรงเรียน ม้าของพวกเขาถูกนำไปเก็บไว้ที่คอกม้า ส่วนสัมภาระต่างๆก็นำไปไว้ที่หอประชุมเรียบร้อยแล้ว
“คนเยอะจะตาย นายชอบเหรอ”ชานัสถามก่อนจะเบียดผู้คนออกมายืนด้านนอก
“ไม่ชอบหรอกแต่มันไม่มีอะไรทำ”เซนบอกแล้วยิ้มกว้าง
“งั้นตามมานี้สิ”ชานัสพูดก่อนจะเดินนำมายังสวนหย่อมที่เดิม จนถึงตอนนี้ก็มีผู้คนมานั่งรออยู่ที่นี้เพียงเล็กน้อย คนส่วนใหญ่มักจะไปอยู่ที่หอประชุมเสียมากกว่า
“ดูนะ”ชานัสบอกก่อนจะเรียกลูกไฟเล็กๆมาไว้ในมือ แล้วปามันออกไปที่ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่อีกฟากของสวน
“แข่งกัน ใครปาถึงก่อนชนะ”ชานัสพูดแล้วเรียกลูกไฟอีกลูกมาไว้ในมือแล้วปาเล่นอย่างสนุกสนานแต่มันไปได้เพียงแค่กลางทางก็หายไปเสียแล้ว
“ว้า~ ลูกที่สิบแล้วนะ”ชานัสบ่นแล้วปาออกไปอีกลูก โดยที่เซนได้แต่ยืนมองเฉยๆ ก็พลังเธอมันอ่อนหัดจะตาย ใครจะกล้าโชว์ล่ะ
“อ้าวเซน ทำไมไม่ปาล่ะ”ชานัสหันมาถาม เซนได้แต่ยิ้มแห้งๆก่อนจะเรียกลุกไฟมาไว้ในมือแล้วปาออกไป ลูกไฟไปได้เพียงแค่ เศษ1ส่วน4เท่านั้นก็หายไป
“ฮิฮิ มีฝีมือแค่นี้ยังกล้ามาสอบอีกเหรอเนี่ย”เสียงจากผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังพูดขึ้น ชานัสหันไปมองเล็กน้อยก่อนจะต้องหันไปมองที่ก้อนหินอีกครั้งเมื่อมีลูกไฟวิ่งผ่านหน้าเขาไปพร้อมกันถึง 3 ลูก ลูกหนึ่งไปได้ เศษ3ส่วน4 คนที่ปาใส่เสื้อแขนกุดกับกางเกงขาวยาว4ส่วน ลูกไฟอีกลูกพุ่งไปจนถึงก้อนหิน คนที่ปาใส่ชุดเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาลแดงกับกางเกงขายาว ลูกไฟลูกสุดท้ายปาออกไปจนถึงก้อนหินแล้วเลยผ่านก้อนหินออกไปอีก คนที่ปาใส่ชุดสีขาว เสื้อแขนสั้นกับกางเกงขายาว เซนกับชานัสมองอย่างอึ้งๆ หญิงสาวที่ว่าเซนเมื่อกี้ก็ดูจะงงเหมือนกัน ชานัสที่ตั้งสติได้ก่อนรีบเดินเข้าไปหาทั้ง 3 พร้อมกับลากเซนไปด้วย
“นี้ๆ พวกนายชื่ออะไรกันบ้าง”ชานัสถาม
“โอเทส เวลนิส เมเคร่า แห่งไลท์วิล”ชายที่อยู่ด้านซ้ายสุดตอบ
“เดลคิล โรเฟท มิลาเคล แห่งเวเนวเกรเทส”ชายที่อยู่ตรงกลางตอบแล้วมองไปที่คนที่ยืนอยู่ด้านขวาสุด
“อาเรส โครอัล เซเฟย์ลิคัส แห่งโรนัทดัส”ชายด้านขวาสุดตอบ
“อืม ฉันชื่อชานัส เวเฟรท ไนท์เอเนส แห่งเซโฟรเลทนะ พวกนายเก่งจังเลย”ชานัสพูด ก่อนจะหันไปสะกิดเซนเบาๆ
“อ๊ะ... โทษที ฉันชื่อเซน เพนริว ไซโฟรเนส แห่งกราเวลด้า”เซนตอบ
“ประกาศ ประกาศ ขอให้ผู้สมัครทุกคนไปรวมตัวกันที่หอประชุมใหญ่ค่ะ”เสียงจากลำโพงที่ถูกติดไว้ที่สวนหย่อมดังขึ้น ทั้ง 5 มองหน้ากันสลับไปมาและเดินไปที่หอประชุมพร้อมกัน
“เอาล่ะ ทุกคน หาที่นั่งกันตามสบายนะ”เสียงจากชายชราที่ยืนอยู่บนเวทีพูดขึ้น ทั้ง 5 เลือกที่จะเดินไปนั่งมุมๆหนึ่งที่มองเห็นเวทีได้ชัดเจน
“ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีทุกคนที่มีโอกาสได้มานั่งอยู่ ณ ที่นี้ ฉันชื่อราเชล เป็นครูใหญ่ของโรงเรียนนี้”เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่งห้องประชุมทันทีที่ชายบนเวทีพูดจบ
“เงียบๆกันหน่อย ก่อนอื่นฉันจะแจ้งเรื่องต่างๆในโรงเรียนนี้ให้ฟัง”ราเชลพูดแล้วเหลือบมองไปยังทั้ง 5 ที่ยังนั่งเฉย
“โรงเรียนแห่งนี้มีหอพักทั้งหมด 4 หอ คือ หอใต้ หอเหนือ หอตะวันออก และหอตะวันตก การสอบเข้าที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ จะไม่มีการสอบเขียนโดยเด็ดขาด การสอบเข้าจะแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มใหญ่ อาจารย์จะเป็นผู้คุมสอบยกเว้นหนึ่งกลุ่มที่รุ่นพี่ปี4 จะเป็นผู้คุม หัวหน้าหอจะขึ้นมากล่าวอะไรนิดหน่อยกับทุกคนนะ”ราเชลพูดก่อนที่จะมีรุ่นพี่ปี 4 สี่คนเดินขึ้นมาบนเวที
“พี่เป็นหัวหน้าหอตะวันออก ชื่อเคลวิล กราเทส โพเทร่า”เคลวิลพูดจบก็เดินออกไปรออีกทางหนึ่งปล่อยให้ทั้ง 3 คนพูดต่อ
“พี่เป็นหัวหน้าหอใต้ ชื่อฟาเรล พราเนส ชางนาส”ฟาเรลพูดแล้วเดินออกไปอีกทางหนึ่ง
“หัวหน้าหอเหนือ ราชัท จางคิล ไรโครเวท”ราชัทพูดแล้วเหลือบมองฟาเรลนิดๆ
“พี่เป็นหัวหน้าหอตะวันตกชื่อ นิสดริว เจนทัส แพนโทเรสจ้ะ”นิสดริวพูดแล้วโยนไมค์ให้หัวหน้าหอใต้พูดต่อ
“ชิ! เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนคงรู้จักกันบ้างแล้ว งั้นวันนี้จบแค่นี้ล่ะ พรุ่งนี้เจอกัน อ่อ... ผู้หญิงนอนทางซ้าย ผู้ชายนอนทางขวานะ”ฟาเรลพูดแล้วดีดนิ้วหนึ่งที ผ้าปูที่นอนก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ด้านหนึ่ง ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้หัวหน้าหอเหนือ ราชัทก็ดีดนิ้วหนึ่งครั้งมีหมอนกองอยู่อีกทางหนึ่ง เคลวิลดีดนิ้วอีกครั้ง ผ้าห่มถูกเสกขึ้นมากองตรงหน้า
“สุดท้าย ผู้ชายทุกคนในที่นี้ต้องช่วยกันปูที่นอนพวกนี้นะจ๊ะ ส่วนผู้หญิงไปอาบน้ำแล้วก็ไปเดินเล่นกันได้เลยจ้ะ”นิสดริวพูดแล้วผลักผู้ชายบนเวทีทั้งสามคนให้ลงมาอยู่ด้านล่าง ยักคิ้วให้หนึ่งทีก่อนจะเดินออกจากหอประชุมไป
“เอาล่ะ รีบๆทำกันเถอะ”ฟาเรลร้องตะโกนให้ได้ยินทั่วๆก่อนจะเดินไปหยิบผ้าห่มมาปู ทั้งหมดช่วยกันทำยกเว้น คน 5 คนที่นั่งอยู่มุมๆหนึ่ง
“ชานัส โอเทส อาเรส เดลคิล พวกนายไม่คิดจะลุกไปช่วยหรือไง”เซนพูดแล้วทำท่าจะลุกขึ้นไปช่วยแต่ก็ถูกฉุดแขนเอาไว้เสียก่อน
“ไม่จำเป็นหรอกหน่า เดี๋ยวเจ้าอาเรสมันก็ทำเองล่ะ พวกเรานั่งรอเฉยๆเถอะ”โอเทสพูดแล้วเสมองไปยังคนที่ถูกพาดพิง
“ใช่ไหมล่ะ”โอเทสพูดอีกครั้ง เป็นเวลาเดียวกันกับที่รุ่นพี่ทั้ง 3 หันมาเห็นพอดี
“ทุกคนหยุดก่อน”เคลวิลร้องตะโกนให้ได้ยินกันทั่วๆก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้ง 5 คน
“ทำไมไม่ไปช่วยคนอื่น”เคลวิลเดินเข้ามาถาม ทั้ง4คนได้แต่มองหน้ากันก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งไม่ยอมพูดอะไรมานานแล้ว
“พวกนายคิดว่าตัวเองเก่งนักหรือไง ถึงได้ไม่มาช่วยเพื่อนน่ะ”ราชัทพูด อาเรสหันไปมองแล้วหันไปมองของตรงหน้า ฟาเรลมองหน้าทั้ง 5 คนเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา ‘ปีนี้รู้สึกจะมีพวกใจกล้ามาอีกแล้วสิเนี่ย’
ฟาเรลคิดแล้วเดินเข้าไปหาทั้ง 5 คน
“จะใช้เวทย์ก็ใช้สิ ไม่มีใครห้ามซะหน่อย”ฟาเรลพูดแล้วมองไปที่อาเรส ทันใดนั้นของทุกอย่างในห้องก็ลอยขึ้นมาก่อนจะหายไปแล้วปรากฏขึ้นมาใหม่ตามจุดต่างๆที่ต้องปูผ้า ฟาเรลมองแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ
“แน่ดีนี้ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน”ประโยคสุดท้ายฟาเรลก้มลงมาพูดให้ได้ยินกันแค่ 6 คนด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
อาเรสยักไหลน้อยๆอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะลุกขึ้นเดินนำออกไปด้านนอก
“ไปกินข้าวกันเถอะ”ชานัสชวนพร้อมกับลากทุกคนไปที่ห้องอาหารกลาง
“ฉันเอาวีว่า พวกนายล่ะ”ชานัสถามแล้วหันไปสั่งกับแม่ครัว
“ฉันเอาเฟรส”เซนพูดแล้วหันไปมองหน้าสามคนที่เหลือ
“กราเวน”อาเรสพูด
“งั้นฉันเอา... ลีคัส ล่ะกัน น่ากินดี”โอเทสพูด
“นาวา”เดลคิลพูดแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะๆหนึ่ง ไม่นานอาหารที่ทุกคนสั่งก็มาอยู่ตรงหน้า ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตากินไม่มีใครพูดอะไรจนเสร็จ
“เฮ้อ อิ่มจังเลย”โอเทสพูดขึ้นมาคนแรกหลังจากก้มหน้าก้มตากินอยู่นาน
“อะไรกัน ใกล้ค่ำแล้ว รีบไปกับเหอะ”เซนบอกหลังจากมองดูนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ถูกแขวนไว้บนผนังห้องอาหาร
“เอาสิ”โอเทสบอกแล้วลุกขึ้นยืน
ทั้ง 5 คนพากันเดินไปที่หอประชุมใหญ่ก่อนจะเลือกนอนทางริมขวาสุด ในขณะที่คนอื่นๆกำลังหลับใหลกลับมีใครคนหนึ่งลุกขึ้นมามองท้องฟ้าในยามค่ำคืน เซเรียนั้นเอง เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าสีดำก่อนจะเดินกลับไปนอนที่เดิม ทุกครั้งก่อนจะนอนเธอจะต้องทำแบบนี้ประจำ แม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไม แต่มันก็เป็นสิ่งที่เธอทำเป็นปกติอยู่แล้ว
ในเช้าวันรุ่งขึ้น ทั้ง 5 ที่ตื่นเช้ากว่าคนอื่นๆพากันไปรอที่หอประชุม ในช่วงเช้าทุกคนต่างกำลังทำธุระส่วนตัว รุ่นพี่ทั้ง 4 และอาจารย์ใหญ่ ที่น่าจะมาเป็นกลุ่มสุดท้ายกลับมาเป็นกลุ่มที่ 2 ต่อจากกลุ่มของเซน
“ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนแห่งกษัตริย์นะ พวกรุ่นน้อง”ฟาเรลนั้นเองที่เป็นคนพูดประโยคนี้กับทั้ง 5
“พวกเรายังไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนนี้ซะหน่อย”โอเทสแย้ง
“เชื่อเซ้นซ์ข้าสิ ไม่เคยพลาดอยู่แล้ว ไม่นานพวกเจ้าต้องได้มาเป็นรุ่นน้องข้าแน่ๆ”ฟาเรลพูดแล้วเดินออกไปอีกทาง เซนเห็นรุ่นพี่ราชัทยกมือตบหัวรุ่นพี่ฟาเรลหนึ่งที รุ่นพี่ฟาเรลหันมาส่งสายตาอาฆาตให้แล้วเดินตามหลังอาจารย์ใหญ่ไปที่ข้างเวที ตอนนี้ทุกคนเริ่มที่จะทยอยมาที่หอประชุม และสายตาของเซนก็ไปปะทะกับสายตาของคนๆหนึ่งเข้า หญิงสาวที่เขาเจอตอนเล่นลูกไฟนั้นเอง หญิงสาวคนนั้นหันมามองเซนอย่างหยามๆแล้วเดินออกไปทางอื่น ตอนนี้อาจารย์ราเชลเดินขึ้นไปบนเวทีแล้วก้มหัวให้ทุกคนเล็กๆ ก่อนจะเสกกล่องเล็กๆมากล่องหนึ่ง
“ในกล่องนี้จะมีหมายเลข1 2 3 และ 4 ให้ทุกคนจับกลุ่ม 5 คนแล้วส่งตัวแทนมาจับหมายเลขในกล่องนี้”อาจารย์ราเชลพูดจบก็มีนักเรียนบางคนเดินหากลุ่มขณะที่กลุ่มของเซนมีครบ 5 คนแล้วจึงไม่จำเป็นต้องหาใครอีก ทั้ง 5 คนต่างกำลังเถียงกันว่าจะให้ใครเป็นคนขึ้นไปจับฉลากในกล่อง
“นายนั้นแหละ ชานัส ไปจับเลย”เซนพูดแล้วดันเพื่อนของตนให้ไปที่เวที
“ไอ้บ้า นายก็ไปจับเองสิวะ”ชานัสพูดแล้วหันไปดันหลังเซนแทน
“พอโว้ย! ข้าตัดสินให้ แกนั้นแหละไปจับ เซน”โอเทสพูดแล้วผลัก เอ่อ... เรียกว่าถีบจะดีกว่า เซนขึ้นไปบนเวที
“จับสิ”อาจารย์ราเชลพูด แล้วยื่นกล่องใบนั้นให้เซน เซนยืนมองก่อนจะกลืนน้ำลายดังเอื๊อก แล้วค่อยๆล้วงมือเข้าไปในกล่องนั้นแล้วเดินลงมาจากเวที
“เบอร์ไรวะ เปิดสิ เซน”โอเทสที่นานๆจะเปิดปากพูดสักครั้งพูด เซนค่อยๆคลี่กระดาษแผ่นนั้นออก เบอร์ที่อยู่ในนั้นคือเบอร์ 3
“เบอร์ 3 อะไรวะ”ชานัสพูดแล้วเสียงของอาจารย์ใหญ่ก็ดังขึ้นก่อน
“เอาล่ะ จับกันครบทุกกลุ่มแล้วนะ งั้นฉันจะบอกว่ากลุ่มไหนต้องไปเจอกับพวกรุ่นพี่นะ”อาจารย์ราเชลพูด
“กลุ่มที่ต้องอยู่กับรุ่นพี่ในปีนี้ก็คือ กลุ่มที่จับได้เบอร์ 3”หลังจากอาจารย์ราเชลพูดจบก็มีเสียงถอดหายใจบ้าง เสียงตกใจบ้าง อาจารย์ราเชลยิ้มแล้วมองไปที่กลุ่มของเซน
“อาจารย์ราเชลครับ ไหนตอนแรกจะเอาเบอร์ 2 ให้ไปเจอกับกลุ่มรุ่นพี่ไงล่ะครับ”รุ่นพี่เคลวิลเดินเข้ามากระซิบกับอาจารย์ราเชล
“เฮ้อ! งั้นฉันขอยืมคำพูดของเจ้าฟาเรลหน่อยแล้วกัน เชื่อเซ้นซ์ข้าสิ ไม่เคยพลาดอยู่แล้ว”อาจารย์ราเชลพูดแค่นั้นแล้วหันไปทางกลุ่มของเซนอีกที ประวัติศาสตร์คงซ้ำรอยเดิมอีกครั้งแล้วสิเนี่ย อาจารย์ราเชลคิด ในขณะที่กลุ่มของเซนที่นึกขึ้นมาได้ว่ากลุ่มพวกตนได้เบอร์ 3
“เฮ้ย”เสียงของทั้ง 5 ร้องขึ้นมาพร้อมกัน
“กลุ่มเราได้เบอร์อะไรนะ”เซนพูดแล้วมองไปที่หน้าของแต่ละคน โอเทสนั่งเหงื่อตก เดลคิลที่ไม่ค่อยจะแสดงท่าทางอะไรนั่งเอามือกุมหัว ชานัสทำท่าจะร้องไห้ ดูท่าคนที่ไม่หยี่ระอะไรกับเรื่องนี้ดูจะมีแค่คนเดียว... อาเรส
“เบอร์ สะ... สาม”โอเทสพูดตะกุกตะกัก เขาก็พอจะรู้เรื่องของโรงเรียนนี้มาบ้างล่ะ ก็กลุ่มที่โดนรุ่นพี่คุมการสอบเข้าทุกทีม ไม่เคยมีทีมไหนผ่านเข้าไปเรียนได้เลยในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา
“เอาล่ะนะ กลุ่มที่จับได้เบอร์ 3 ไปหารุ่นพี่คนไหนก็ได้ที่อยู่ในหอประชุมแห่งนี้ แต่ให้รีบหน่อยล่ะ เพราะรุ่นพี่ 1 คนจะรับรุ่นน้องได้กลุ่มเดียว”หลังจากที่อาจารย์ราเชลพูดจบกลุ่มที่จับได้เบอร์ 3 ก็รีบลุกวิ่งขึ้นไปหารุ่นพี่ที่อยู่ในหอประชุมทันที ยกเว้นก็แต่กลุ่มของนักเรียนชาย 5 คน ที่นั่งอยู่ด้านในสุดของหอประชุม ที่ยังนั่งเงียบๆ รุ่นพี่หลายคนสังเกตแล้วก็เดินผ่านไป ยกเว้นรุ่นพี่คนหนึ่งที่เดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงข้าง
“หวัดดี ทำไมไม่ไปหารุ่นพี่ล่ะ”รุ่นพี่คนนั้นพูด
“รู้ได้ไงว่าพวกผมได้เบอร์ 3”อาเรสถาม
“ความสามารถน่ะ”ทันทีที่รุ่นพี่คนนั้นพูดประโยคนี้จบ เซนก็หันควับมาทันที
“พี่รานอฟ!!!”เซนร้องตะโกนขึ้นมา รุ่นพี่คนนั้นหันมามองแล้วยิ้มให้
“เอาล่ะ ขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อรานอฟ เอ็กซ์ตร้า ไอเกลซิส แห่ง เฮลฟ์เวยาน่า ยินดีที่ได้รู้จัก รุ่นน้องทุกคน”รุ่นพี่รานอฟบอกแล้วหันไปยักคิ้วให้เซน
“ต่อจากนี้ไป ฉันจะเป็นผู้ดูแลพวกนายเอง ไม่ต้องห่วง ฉันไม่โหดหรอก”รุ่นพี่รานอฟพูด ในขณะที่เซนทำหน้าตาเหยเก อยากเชื่อตายล่ะ เนี่ยนะไม่โหด เซนคิด
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวไปสอบช้าจะโดนหักคะแนนเอานะ”รุ่นพี่รานอฟพูดแล้วลุกขึ้น ก่อนที่คนอื่นๆจะลุกตาม
“จริงสิพวกนายชื่ออะไรกันบ้างล่ะ”รุ่นพี่รานอฟพูด
“อาเรส”อาเรสพูดแล้วก้มหัวให้
“ชานัส”ชานัสพูดแล้วก้มหัวให้เล็กน้อย
“โอเทสครับ”โอเทสพูดแล้วก้มหัวให้
“เดลคิล”เดลคิลพูดแล้วโค้งหัวให้
“เซน”เซนพูดแล้วส่งสายตาดุเดือดไปให้
“อ้าว ไม่ได้ชื่อเซเรียหรอกเหรอ”รุ่นพี่รานอฟพูดแล้วแกล้วทำหน้าบ้องแบ้ว
“ชิ! พวกนายรอตรงนี้ก่อนนะ”เซนพูดแล้วลากแขนรุ่นพี่รานอฟออกมาจากตรงนั้น
“พี่รานอฟ”เซนพูดแล้วมองหน้ารุ่นพี่รานอฟอย่างหาเรื่อง
“อะไรครับ น้องเซน ฮ่าๆๆๆ”รุ่นพี่รานอฟพูดแล้วหัวเราะ
“พี่-รา-นอฟ”เซนพูดอีกครั้งแล้วกดเสียงต่ำ
“โอ๋ๆ พี่ขอโทษ อย่าโกรธน้า~”พี่รานอฟพูดแล้วหยิกแก้มเซนอย่างมันเขี้ยว
“พี่รานอฟมาทำอะไรที่นี้”เซนพูด
“มาเที่ยวมั้ง พี่เป็นนักเรียนที่นี้นะ”พี่รานอฟพูด
“ว่าแต่เราเถอะ ทำไมท่านอาต้องให้ใส่ต่างหูอันนั้นด้วยล่ะ”พี่รานอฟถาม
“ไม่รู้ ไร้เหตุผลเหมือนเดิม”เซนพูด
“งั้นเหรอ พี่ว่าตอนนี้เราออกมานานเกินไปแล้วนะ รีบกลับเถอะ เดี๋ยวไปสอบไม่ทัน”พี่รานอฟพูดแล้วเดินนำเซนเข้าไปในหอประชุมอีกครั้ง
“เอาล่ะนะ ที่พี่จะพาพวกน้องไปคือด้านหลังโรงเรียน”พี่รานอฟพูดแล้วพาทุกคนเดินอ้อมไปด้านขวาของหอประชุม
“ถึงแล้วล่ะ เฮ้~ ไซครอส”พี่รานอฟพูดแล้วหันไปเรียกใครสักคน
“อ้าว กลุ่มสุดท้ายมาพอดี”รุ่นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาหาพี่รานอฟ
“ไซครอส แล้วกลุ่มอื่นล่ะ”พี่รานอฟพูด
“รออยู่ทางโน้นแหนะ ไปเถอะ”รุ่นพี่ไซครอสพูดแล้วเดินนำไปด้านในที่ลึกกว่าเดิม
ความคิดเห็น