คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : อดีตในโลกปีศาจและการเรียนวันแรก
ตอน 6
อดีตในโลกปีศาจและการเรียนวันแรก
ในที่ๆมืดมิด ไร้แสงไฟหญิงสาวและเพื่อนๆอีก 4 คนนั้นล้อมวงคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาเป็นราชาแห่งโลกปีศาจ พวกเขาเป็นปีศาจที่คอยคุมโลกแห่งนี้ให้สงบสุขและมีสัตติ พวกเขามิใช่ปีศาจที่โหดร้าย แต่หากเป็นปีศาจที่อ่อนโยน สนุกสนานและมีคุณธรรมอย่างมาก
“อาเรส อีก 100 ปีพวกเราก็ต้องไปเกิดเป็นมนุษย์สินะ”เซเรียหันไปถามเพื่อนของตน
“อืม โอเทสมันไปเที่ยวที่ไหนล่ะเนี่ย”อาเรสตอบแล้วหันมองดูรอบๆห้องไร้เงาของเพื่อนตัวแสบอีกเช่นเคย
“เห็นว่าไปดูแลพวกปีศาจที่อยู่ในคุกกับชานัทน่ะ”เดลคิลที่นั่งอ่านหนังสือเงียบๆตอบออกมา
“งั้นเหรอ...”อาเรสพูดแล้วเงียบไป
“เออ... แล้วเชลนัทล่ะ”เซเรียร้องขึ้นมา
“น้องฉันมันก็คงไปป่วนบนโลกมนุษย์นั้นแหละ ก็มันไม่ใช่ราชาปีศาจเหมือนฉันนี้”เสียงชานัทดังขึ้นจากด้านหลัง
“เอาหน่า ทำใจซะเถอะ ชะตาแกกับน้องแกมันผิดกันนี้หว่า”โอเทสเดินมาตบหลังปลอบใจพร้อมเดินมาหยิบแก้วน้ำของเดลคิลขึ้นดื่ม
“ท่านแม่นะท่านแม่ ทำไมต้องให้พวกเรา 5 คนมาเป็นราชาปีศาจด้วยก็ไม่รู้ ให้พี่ใหญ่เป็นไปซะคนเดียวก็สิ้นเรื่อง”ชานัทบ่นแล้วกระแทกตัวนั่งบนเก้าอี้
“ก็แม่อยากให้พวกลูกได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระไงล่ะคะ”เสียงของหญิงงามดังขึ้น
“ท่านแม่คิดยังไงถึงลงมาที่ห้องทำงานของพวกลูก”เดลคิลถาม
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แม่แค่จะมาบอกว่าห้ามไม่ใช่เชลนัทขึ้นไปบนโลกมนุษย์อีกแล้วน่ะสิ”หญิงสาวพูด
“แล้วแม่ไม่ไปบอกกับมันเองล่ะ”อาเรสถามเสียงห้วน
“ก็แม่ขังเชลนัทไว้ที่ห้องทำงานแม่น่ะสิจ๊ะ เชลนัทเขาเล่นขึ้นไปป่วนโลกมนุษย์จนมนุษย์ปวดหัวหมดแล้ว ทางนู้นเลยบอกให้แม่ช่วยๆจัดการให้หน่อย”หญิงสาวพูดเจื้อยแจ้ว
“คร่อก!Z z z z”เสียงกรนดังขึ้นมาจากมุมๆหนึ่งของห้อง องค์ราชินีของโลกปีศาจหันไปมองก่อนจะแผดเสียงลั่น
“โอเทส!!! ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”องค์ราชินีตรัสดังลั่นโลกปีศาจก่อนจะตามมาด้วยเสียงดัง โครม!
“อู๊ย~ ท่านแม่ ถีบลูกทำไม”โอเทสเอามือลูกก้นตัวเองป่อยๆ
“บังอาจหลับตอนแม่พูดได้ยังไง แม่ไม่เคยสอนลูกแบบนี้นะ ไปเรียนมรรยาทกับแม่ใหม่เดี๋ยวนี้เลย”ราชินีเอ่ยก่อนจะบิดหูของโอเทส
“โอ๊ยๆ เสด็จแม่ ผมเจ็บบบบบบบบบ”โอเทสที่ถูกราชินีประทุร้ายร้องโอดครวญไปเรื่อยๆและถูกลากออกไปนอกห้อง
“เงียบซะที”เซเรียกล่าวพร้อมลุกขึ้นบิดขี้เกียจ
“งานเยอะจังเลย อีก 100 ปีพวกเราจะทำเสร็จทันรึเปล่าเนี้ย”ชานัทพูดแล้วหยิบหนังสืบร้องเรียนฉบับหนึ่งขึ้นมาอ่าน
“โอ๊ะโอ๋ งานเข้า!”ชานัทเอ่ยหลังอ่านจบ
“เรื่องอะไรเหรอ”อาเรสรีบเดินไปดูในทันที
“อีก 100 ปีพวกเราจะไปเกิดที่โลกมนุษย์ในครั้งนั้นเราจะมีพลังมากที่สุด ถึงคราวที่ต้องเลือกระหว่างโลกมนุษย์กับโลกปีศาจแล้วล่ะ”ชานัทพูด
“ชิ! โดนชิงตัวอีกแล้วเหรอ ตอนอยู่โลกมนุษย์ก็จำเรื่องตอนอยู่ในโลกปีศาจไม่ได้ด้วยสิ”เซเรียบ่นในทันทีที่ฟังจบ
“น่าเบื่อ”เดลคิลพูดสั้นๆแต่ได้ใจความก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
“เอาไงดีล่ะ มนุษย์หรือปีศาจ”ชานัทถาม
“ไม่รู้สิ แต่เราจะเจอกันยังไงในโลกของมนุษย์ ฉันอยากให้พวกเราเจอกันที่โรงเรียนแห่งกษัตริย์จังเลย คงน่าสนุกพิลึก ยิ่งอยู่หอมังกรเหมือนคราวที่แล้วที่แล้วด้วยนะ เจ๋งไปเลย”เซเรียกล่าว
“อืม ตอนนี้ชั้นปีของเราแสบที่สุดเลยนี้ แถมท่านแม่ยังส่งปีศาจไปเล่นงานพวกเราตั้งหลายครั้ง”อาเรสตอบ
“ตอนเราจบมา ชั้นปี 1 ที่เพิ่งเข้ามาแทน ฉันถูกชะตากับเจ้าคนที่ชื่อฟาเรลยังไงก็ไม่รู้แหะ ตอนนี้เจ้านั้นคง เพิ่งจะเรียนอยู่ปี 2 เองล่ะมั้ง คราวหน้าถ้าพวกเราไปเรียนที่นั้น เจ้านั้นคงจะอยู่ปี 4 พอดี”ชานัทพูดแล้วหลับตานึกถึงในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์
“พอเลย เลิกฝันได้แล้ว ทำงานๆ”เดลคิลพูดก่อนจะเก็บหนังสือในมือลงช่องมิติที่สร้างขึ้นมาแล้วหยิบหนังสือร้องเรียนขึ้นมาอ่าน อันไหนที่ต้องเข้าที่ประชุมจะถูกแยกไปอีกทางหนึ่งส่วนที่พวกเขาจัดการได้เอง ก็จะไปอยู่อีกส่วนหนึ่ง
“เซเรีย คราวหน้าเธอชื่อเซนนะ ฉันชอบชื่อเซนจังเลย”ชานัทหันมาพูดยิ้มๆ
“ก็เอาสิ คงได้ล่ะมั้งนะ”เซเรียตอบพร้อมหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นอนุมัติการสร้างยาพิษชนิดใหม่ขึ้นมา
“ยาพิษนี้ผสม ต้นกรีทีช พัช เกรซเทีย ราติล จีนาส ลาบาพิน สรรพคุณกัดทำลายทุกอย่างให้ละเอียดหรืออาจละลายไปเลย ดีแฮะ”อาเรสหันมาดูแล้วพูด
“ฮาๆ งั้นมั้ง”เซเรียพูดแล้วหยิบหนังสืออีกเล่มขึ้นมาอ่าน
“เฮ้ย!”ชานัทร้องตะโกนอีกครั้ง
“อะไรอีก”เดลคิลลากหางเสียงยาวบ่งบอกถึงความเบื่อ
“ดูนี้สิ”ชานัทหันกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาให้ดู
“อะไรน่ะ เสียงสายลมที่พัดโชย แววตาที่ทอดมองออกไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย จากขาวเป็นดำ จากแสงสว่างเป็นมืดมน จากดีเป็นเลว จากจริงเป็นลวง ภาพมายาที่ถูกสร้างสรรค์อย่างสวยงามนั้นคือสิ่งที่กำลังกัดกินจิตใจมนุษย์ให้เลวทรามต่ำช้าลงเรื่อยๆไป มันคืออะไร”เดลคิลอ่านกระดาษแผ่นนั้นก่อนจะขยำกระดาษแผ่นนั้นทิ้งอย่างไม่สนใจ โดยไม่รู้เลยว่า ในอีก 100 ปีประโยคทั้งหมดนี้จะเป็นวิธีปลดผนึกพลังเวทย์
กาลเวลาผันผ่านไปจนครบ 100 ปี ทั้งหมดเตรียมที่จะไปเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ ราชินีเดินเข้ามาในวงแหวนพลังเวทย์
“องค์ราชินี ในโลกมนุษย์ข้าขอให้พวกเราทั้งหมดได้พบเจอกันใหม่ในโรงเรียนแห่งกษัตริย์”อาเรสเอ่ย
“ข้าขอให้เชลนัทขึ้นไปหาพวกข้าได้ในตอนที่พวกข้าปลดผลึกพลังเวทย์ทั้งหมดแล้ว”ชานัทเอ่ยปากขอ
“ข้าขอให้พวกข้าได้ไปอยู่ในหอมังกร”โอเทสขอบ้าง
“ขอให้ข้ากับอาเรสจำเรื่องในโลกนี้ได้บางเรื่อง แค่นี้คงขอได้นะ”เดลคิลกล่าวพลางยิ้มเยาะ
“ขอให้พวกข้าได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”เซเรียขอเป็นคนสุดท้าย องค์ราชินีกวาดตามองไปรอบๆพร้อมกับเอ่ยบทคาถายาวเหยียด
“ อิสดราเวล ไปรกัลจัส โฟรแปรวิทเซล เฮอร์เมอร์เรสเดส พราโดวาเนสเฟอร์ ยาบรากรีซโซคูล คิลรานิส
ขอพลังแห่งโลกปีศาจและมนุษย์จงผนึกพลังของทั้ง 5 เอาไว้ด้วยเทิด”องค์ราชินีกล่าวพร้อมยกคทาขึ้นเหนือหัว แสงสี ส้ม ฟ้า แดง เขียว น้ำตาล พุ่งขึ้นจากคทา แสงทั้งหมดสาดลงไปยังทั้ง 5 จนเมื่อแสงหมดร่างของทั้ง 5 ก็หายไปจากตรงนั้นเสียแล้ว
ในอีก 18 ปีต่อมาในโรงเรียนแห่งกษัตริย์ ร่างของชายหนุ่มสองคนกำลังเล่นลูกไฟปาไปใส่ก้อนหินอยู่ โดยที่มีชายหนุ่มอีก 3 คนกำลังยืนมองอยู่ด้านหลัง ก่อนจะปาลูกไฟออกไปคนละลูก ลูกหนึ่งไปได้เกือบถึง อีกลูกไปถึงก้อนหิน ส่วนอีกลูกนั้นปาไกลจนเลยก้อนหินเสียแล้ว
“นี้ๆ พวกนายชื่ออะไรกันบ้าง”ชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าวิ่งเข้ามาถามพร้อมลากเอาชายอีกคนที่ยืนข้างๆมาด้วย
“โอเทส เวลนิส เมเคร่า แห่งไลท์วิล”โอเทสตอบพร้อมยิ้มทำความรู้จัก
“เดลคิล โรเฟท มิลาเคล แห่งเวเนวเกรเทส”เดลคิลตอบหน้าเรียบเฉย
“อาเรส โครอัส เซเฟย์ลิคัส แห่งโรนัทดัส”อาเรสเอ่ย
“อืม ฉันชื่อชานัท เวเฟรท ไนท์เอเนส แห่งเซโฟรเลทนะ พวกนายเก่งจังเลย”ชานัทยิ้มตอบพร้อมหันไปสะกิดชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ
“อ๊ะ... โทษที ฉันชื่อเซน เพนริว ไซโฟรเนส แห่งกราเวลด้า”เซเรียตอบ ก่อนที่เสียงจากลำโพงมี่ติดไว้ในสวนแห่งนั้นดังขึ้น ทั้ง 5 คนจึงพากันไปที่หอประชุม
...ทั้งหมดได้มาเจอกันในโรงเรียนแห่งกษัตริย์ โรงเรียนที่พวกเขาเคยสร้างวีรกรรมเอาไว้ในคราที่แล้ว...!!!!!
การแนะนำตัวของหัวหน้าแต่ละหอค่อยๆเริ่มขึ้น จนเมื่อถึงประธานหอของหอใต้หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือหอมังกร หอที่วีรกรรมของพวกเขายังคงถูกจารึกเอาไว้ที่นี้
“พี่เป็นหัวหน้าหอใต้ ชื่อฟาเรล พราเนส ชางนาส”ชื่อที่สะดุดและคุ้นหูของอาเรสและเดลคิล ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะค่อยๆหัวเราะออกมา เรื่องราวทั้งหมดเป็นไปตามคำขอที่เคยขอไว้ก่อนที่จะมาเกิดยังโลกมนุษย์ ยกเว้นคำขออีกข้อที่ยังไม่เกิดขึ้นมา คำขอข้อสุดท้าย ‘ขอให้พวกข้าได้อยู่ด้วยกันตลอดไป’... คำขอของเซเรีย
ให้ห้องพักของทั้ง 5 เซเรียที่ยังคงหลับอยู่ในชุดกระโปรงสีขาว อาเรสคอยนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ส่วนเดลคิลก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ชานัทไปส่งเอลย่ายังไม่กลับ และโอเทสรับหน้าที่ไปซื้อขนมมาให้เพื่อนๆ
“เจ็บ... เจ็บจังเลย”เสียงแผ่วเอ่ยขึ้น อาเรสรีบมองดูร่างบางตรงหน้า
“เซเรีย ฟื้นแล้วเหรอ”อาเรสถามด้วยความดีใจ
“อืม เชลนัทล่ะ ยังไม่มาอีกเหรอ”เซเรียถามคำภามที่ทำให้คนในห้องนิ่งค้างไป
“มาแล้วล่ะ แต่ตอนที่เธอหลับอยู่น่ะ”เดลคิลตอบ
“เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”อาเรสถามเสียงเรียบ
“ไม่รู้สิ อยู่ๆมันก็วิ่งเข้ามาในหัวฉันเอง”หลังจากเซเรียตอบจบ ชายหนุ่มทั้งสองคนที่อยู่ในห้องก็หันหน้ามองกันอยู่เหนื่อยหน่าย
“เป็นอะไรกันเหรอ”เซเรียถามแล้วมองหน้าทั้ง 2 อย่างงงๆ
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”อาเรสหันมายิ้มและพูดก่อนจะหันไปมองหน้าเดลคิลอีกครั้งแล้วหลุบตาลง
“มาแล้วคร้าบ ขนมมาแล้ว อ้าวเซเรีย”โอเทสที่เดินตะโกนมาจากหน้าห้องพอเห็ฯเซเรียที่ลุกขึ้นมานั่งก็ทิ้งขนมทุกอย่างลงพื้นพร้อมวิ่งถลาเข้ามาหา
“เซเรีย ฟื้นแล้วเหรอ ดีใจจังเลย ฉันห่วงแทบแย่แน่ะ”โอเทสวิ่งถลาเข้ามากอดแล้วจับแขนกับหน้าของเซเรีย
“เอ๊ะ... รอยอะไรน่ะ”เซเรียถามแล้วชี้ไปที่รอยบนหน้าอกของโอเทส... รอยสลักรูปปีกเทวดาและซาตาน
“ไม่รู้สิ แต่เธอก็มีนะ”โอเทสบอกแล้วเซเรียก็รีบก้มมองร่างตนเองในชุดกระโปรงนั้นทันที
“แล้ว... ใครเปลี่ยนชุดให้ฉันกัน”เซเรียเงยหน้าขึ้นถามเมื่อเห็นว่าชุดที่ตนใส่ถูกเปลี่ยนออกไป
“เอลย่าน่ะ”อาเรสตอบแทนโอเทส
“จริงเหรอ แล้วตอนนี้เอลย่าอยู่ไหน”เซเรียถามแล้วมองหาไปรอบๆห้อง
“เพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เอง ชานัทไปส่งยังไม่กลับมาเลย”โอเทสตอบ
“อืม...”เซเรียพยักหน้าตอบรับ
“ไปดูรูปรุ่นพี่ที่มีวีรกรรมแสบๆกันเอามั้ย เผื่อพวกเราจะได้เป็นหนึ่งในนั้น”โอเทสชวนเล่นๆ
“กลับมาแล้วคร้าบ”ชานัทตะโกนมาจากห้องแฝงน้ำเสียงดีใจจนปิดไม่มิด
“เอาสิ”เซเรียตอบเป็นเวลาเดียวกันที่ชานัทหันมาเห็นพอดี
“เซเรีย ฟื้นแล้ว เธอฟื้นซะที”ชานัทตะโกนแล้วกอดเซเรียแน่น
“พอแล้ว หายใจไม่ออก”เซเรียตอบแล้วผลักให้ชานัทออกห่างจากตัวเอง
“แหวนฉันอยู่ไหนเนี่ย”เซเรียถามแล้วมองไปรอบๆตัว
“ที่โต๊ะกระจก”เดลคิลตอบพร้อมอ่านหนังสือในมือต่อ
“ตกลงไปนะ ห้องที่มีวีรกรรมแสบๆของรุ่นพี่ปีก่อนๆน่ะ”โอเทสถาม เซเรียกับชานัทพยักหน้าตกลง ไม่ต้องถามความเห็นของอีกสองคนที่เหลือหลังจากที่เซเรียใส่แหวนเรียบร้อยแล้วก็ดันร่างของทั้งสองให้ตามออกไปด้วย
“ห้องนี้ล่ะ”โอเทสเดิมมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่งก่อนจะผลักประตูกระจกเข้าไป
“ว้าว”ทั้งหมดร้องขึ้นมาพร้อมกัน ห้องถูกตกแต่งด้วยประกาศนียบัตร รูปของรุ่นพี่ที่ถ่ายรวมๆกันตั้งแต่ที่โรงเรียนนี้ถูกสร้างมา ทั้งหมดเดินชมไปเรื่อยๆจนมาสะดุดที่ภาพๆหนึ่ง ภาพเด็ก 5 คนทำลังทำท่าปัญญาอ่อนใส่กล้อง ภาพของผู้หญิง 1 คนและผู้ชายอีก 4 คน หนึ่งในนั้นยืนนิ่งไม่มีการยิ้มหรือทำท่าอะไรเลย รูปนี้ถ่ายตอนคนทั้ง 5 อยู่ปี 6 ของหอมังกร รูปของพวกเขาทั้ง 5 เซเรียยืนมองรูปนั้นก็จะหันไปมองภาพข้างๆ ภาพการถ่ายรวมนักเรียนปี 6 หอมังกรที่จบในปีนั้น พวกเขาทั้ง 5 นั่งอยู่ตรงกลาง ที่ของหัวหน้าหอมังกร
“ทำไม...”ชานัทค่อยๆอ้าปากถาม
“ไม่รู้สิ”โอเทสตอบแล้วมองไปรอบๆบริเวณนั้น มีแต่รูปของพวกเขาทั้ง 5ประดับเอาไว้เกือบทั้งหมด มีเพียงรูปเดียวที่เป็นภาพเดี่ยว หญิงสาวที่กำลังยิ้มหวานในชุดกระโปรงสีดำ... ภาพของเซเรีย
“ภาพของใครกันนะ”เซเรียเอามือลูบภาพนั้นอยู่นาน ทุกคนต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเองจนกระทั่งเดลคิลเอ่ยปากขึ้นมา
“กลับกันเถอะ”เดลคิลเอ่ยเมื่อหันไปเห็นท้องฟ้าเริ่มที่จะไร้แสงสีทองแล้ว
“อืม”ทั้ง 4 กล่าวพร้อมกันและเดินกลับไปที่ห้องของพวกเขา
ในห้องพักของทั้ง 5 เซนนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะกระจก โอเทสกับชานัทกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่ เดลคิลก็ไม่ได้ทำอะไรเปลี่ยนแปลง นั่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม อาเรสแล้วใหญ่นอนหลับไปก่อนใครเพื่อนเลยล่ะ
“ก๊อกๆ”เสียงเคาะประตูดังขึ้น เซนสะดุ้งแล้วลุกออกไปเปิดประตู
“เอลย่า”เซนพูดเสียงเบา
“ขอคุยด้วยได้ไหม”เอลย่าพูด เซนพยักหน้าเล็กๆแล้วเดินตามเอลย่าออกมาที่สนามหญ้าหลังหอพัก
“ขอโทษนะเซน”เอลย่าพูดแล้วก้มหัวให้
“เรื่องอะไรล่ะ”เซนถาม
“ทุกเรื่อง ฉันขอโทษนะ”เอลย่ากล่าวพลางก้มหัวให้
“ฉันไม่รู้ว่าเธอขอโทษฉันเรื่องอะไร เพราะฉันไม่เคยคิดว่าเธอทำอะไรผิดเลย”เซนยิ้มกว้าง เอลย่าที่ได้ยินดังนั้นก็โผเข้ากอดเซนในทันที
“เซเรีย เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันจริงๆ”เอลย่าบอกก่อนจะหอมแก้มเซนไปหนึ่งที เซนหน้าแดงซ่านขึ้นมาเอลย่ามองแบบขำๆพร้อมกับหอมไปที่แก้มอีกข้าง
“เอลย่า!”เซนตะโกนแบบโกรธปนขำๆ ก็เขายังอยู่ในร่างของเซนเลยนี้หน่า แล้วเอลย่ามาหอมแก้มเขาแบบนี้มันก็ต้องอายกันบ้างล่ะ
“ฮาๆๆ”เอลย่าหัวเราะอย่างร่าเริง
“ไปเที่ยวกันดีกว่า”เซเนชวน
“ไปไหนดีล่ะ”เอลย่าถาม
“ป่าหลังโรงเรียน”เซนเสนอขึ้นมา
“ไม่ได้แล้วล่ะ มืดแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปเรียนอีกนะ”เอลย่าบอกก่อนจะโบกมือลาเพื่อนของตน
“บาย”เซนพูดแล้วยกมือขึ้นโบกลา
ในโลกของปีศาจที่ๆทั้ง 5 คนจากมา ปีศาจหลายตนกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ เชลนัทเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยหัวข้อในครั้งนี้คือเรื่องของทั้ง 5
“ราชาปีศาจยังไม่ยอมใจอ่อนมาที่โลกปีศาจเลยแฮะ”เชลนัทพูดขึ้นกลางวง
“พี่เวสตา พี่ว่าไงล่ะ”เชลนัทหันไปถาม
“ไม่รู้ถามท่านแม่สิ”เวสตาบ่ายหน้าหันไปถามหยิงสาวคนเดียวในการประชุม
“ท่านแม่~”เชลนัทหันไปร้องอ้อน
“ไม่ต้องเลย ปล่อยๆไปนั้นแหละ แค่ทำตามคำขอของพวกเขาแม่ก็แทบแย่แล้ว”ราชินีพูดแล้วหยิบหนังสือเสริมความงานขึ้นมาอ่าน
“ทำไมองค์ราชาถึงอยากอยู่กับพวกสวะพวกนั้นมากก็ไม่รู้”เสียงของปีศาจตนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา
“เจนัส”ราชินีหันมาพูดเสียงเข้มทำให้ผู้ถูกเรียกหน้าเสียไปนิกหน่อย
“มนุษย์ไม่ใช่พวกสวะ อีกอย่างเจ้าเองก็เคยเป็นมนุษย์ไม่ใช่รึ”ราชินีกล่าว
“ขออภัย ข้าพลั้งปากไป องค์ราชินีอย่างทรงโกรธ”เจนัสรีบกล่าวอย่างรีบร้อน
“ตบปากซะ”ราชินีสั่งเสียงเฉียบ
“ขอรับ”เจนัสรับคำก่อนจะตบปากตนเองไปเต็มแรงจนเลือดสีดำค่อยๆไหลออกมาจากมุมปาก
เพี๊ยะ!!!!!!!
“เบาไป”องค์ราชินีกล่าว
เพี๊ยะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงการตบปากดังสนั่นห้องๆนั้น เลือดสีดำสนิทไหลออกจากมุมปากมากมาย ไม่มีใครคิดห้ามและหยุดยั้ง เพราะปีศาจทุกตนรู้ว่าการลงโทษเช่นนี้ถือเป็นการลงโทษที่เบาที่สุดแล้ว ไม่ใช่นั้นปีศาจตนนี้คงไม่มีโอกาสได้เอ่ยปากอีกเป็นครั้งที่ 2
“ดีมาก แล้วก็จำไว้ด้วย อย่าคิดหยามมนุษย์อีกเป็นครั้งที่สอง ปีศาจทุกตนจงจำไว้ ก่อนที่พวกเจ้าจะมาเป็นปีศาจ ปีศาจเช่นพวกเจ้าเองก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อน มนุษย์ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง จงอย่าดูถูกมนุษย์อีกเป็นอันขาด”ราชินีตรัสเสียงดังกังวาน
“ครับ/ค่ะ องค์ราชินี”ทุกคนในห้องโค้งตัวตอบรับ ไม่เว้นแม้แต่ลูกของนางเช่น เชลนัทหรือเวสตา
“เรื่องของพวกเขาก็ปล่อยให้เป็นตามชะตาลิขิต ข้าเชื่อว่าพวกเขาต้องไม่ทำลายพวกเราแน่”ราชินีกล่าวก่อนเดินออกจากห้องนั้นไป
“พี่เวสตา ไปหาพี่พวกเรากันไหม”เชลนัทชวน
“ไม่ต้องเลย องค์ราชาไม่อยู่ พวกเราต้องรับผิดชอบงานในส่วนนั้นนะ”เวสตากล่าวพลางลากหูน้องของตนให้ไปช่วยงาน
“เออ... พี่ แล้วเรื่องปาดาส กีเอลแล้วก็ลาบอนที่มันคิดจะล้างราชวงศ์ของพวกเราล่ะ”เชลนัทถามเมื่อนึกขึ้นมาได้
“ปล่อยมันไป ยังไงองค์ราชาก็ต้องจัดการพวกมันได้อยู่แล้ว อย่าลืม... ใครก็ตามที่มันคิดจะทำลายราชวงศ์เรา พวกมันไม่เคยได้อยู่อย่างเป็นสุข”เวสตายิ้มเย็นก่อนจะเรียกให้เชลนัทช่วยงานต่อ
“เชลนัท ทำงาน”เชลนัทสะดุ้ดพร้อมหันกลับมา กะจะแวบหนีแล้วเชียว ทำไมตาดีอย่างนี้นะ เชลนัทคิดก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้อย่างจำนนหนทาง
เช้าวันรุ่งขึ้นทั้ง 5 รีบกระวีกระวาดอาบน้ำแต่งตัวด้วยความเร็ว สาเหตุมาจากข้อเดียว... พวกเขาตื่นสาย ทั้งหมดแต่งตัวด้วยความรีบร้อน อีก 5 นาที คาบแรกของวันนี้ก็จะเริ่ม ด้วยความเร็ว ทั้งหมดใช้ความสามารถที่มีอยู่ใช้เวลาที่เหลือวิ่งไปยังห้องเรียน หลังจากไปถึงก็พบเพื่อนๆของตนนั่งรออยู่ในห้องครบหมดแล้ว
“แฮกๆ”เซนหอบลิ้นห้อยก่อนจะเผ่นไปนั่งที่หลังห้อง
“สวัสดีนักเรียน ครูชื่อโฟรท เป็นครูสอนวิชาเวทย์ระดับปี 1 และปี 3”ครูโฟรทแนะนำตัว
“ครับ/ค่ะ”ทุกคนในห้องตะโกนตอบรับ
“วันนี้ครูจะให้ทุกคนเอาคทาของตัวเองออกมานะ เริ่มจากด้านหน้าเลย”ทันทีที่ครูโฟรทพูดจบ ทุกทคนก็แย่งกันในทันที แต่เป็นแย่งกันไม่ออกนะ
“แกออกไปสิ”
“นายก่อน”
“เธอนั้นแหละ อยู่หน้าสุดนี้”เสียงเจี๊ยวจ้าวดังขึ้น จบเมื่อคนที่นั่งหลังสุดอย่างเดลคิลทนไม่ได้จึงส่งสายตาอาฆาตไปด้านหน้า แล้วทุกอย่างกลับตาลปัตรทุกคนต่างแย่งชิงเพื่อที่จะได้ไปข้างหน้าให้ห่างจากรัศมีของเดลคิลให้ได้มากที่สุด
“ฉันออกก่อน เธอที่หลัง”
“เป็นสุภาพบุรุษหน่อยสิย่ะ ฉันไปก่อน”
“รอก่อนเลยทั้งสองคน ฉันออกก่อน”และเสียงทั้งหมดก็เงียบลงเมื่อเดลคิลส่งสายตาอาฆาตออกไปอีกที ทั้งหมดค่อยๆทยอยกันออกไป ห้องทั้งห้องเงียบกริบจนครูโฟรทต้องพูดขึ้นมา
“เอ้า! เอาคทาออกมาสิ”แล้วคนที่ออกไปยืนหน้าห้องก็เริ่มเสกคทาออกมา มีทั้งคทาสีส้มที่หมายถึงธาตุสายฟ้า สีแดงที่หมายถึงธาตุไฟ สีเขียวที่หมายถึงธาตุลม สีฟ้าที่หมายถึงธาตุน้ำ และสีน้ำตาลที่หมายถึงธาตุดินคละกันไป คทามีทั้งอันที่สวยและไม่สวยอันที่สวยจะหมายถึงเจ้าของมีพลังมา และถ้าอันไหนที่เก่าๆหน่อยก็จะหมายถึงเจ้าของที่มีพลังไม่มากเท่าไร
“โอเค กลับไปนั่งที่ได้แล้ว แถวที่สองออกมาสิ”ครูโฟรทพูดก่อนที่พวกที่ถูกเรียกจะเดินไปด้านหน้า พร้อมโชว์คทาของพวกเขา
“อืม กลับไปได้แล้ว แถวสุดท้ายออกมา”ครูโฟรทเรียก ตามที่ได้บอกไปเมื่อคราวที่แล้ว หอมังกรมีนักเรียนปี 1 เพียง 15 คน ดังนั้นถ้านั่งแถวละ 5 ก็จะได้ทั้งหมด 3 แถว
“คร้าบ”ทั้ง 5รับคำเหนื่อยๆพร้อมเดินออกไปด้านหน้า
“รออะไรละ เรียกคทาออกมาสิ”ครูโฟรทบอก
“ครับ”ทั้ง 5 ตอบรับพร้อมหยิบกิ่งไม้ที่มาจากไหนไม่รู้ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมา
“เป๊าะ”ทั้ง 5 ดีดนิ้วหนึ่งครั้งก่อนที่กิ่งไม้ในมือจะกลายเป็นคทาที่มีหัวเป็นธาตุต่างตัวของตน และที่ต่างไปจากทุกคนคือตรงปลายด้ามของคทามีพู่สองสีติดอยู่ด้วยกันนั้นคือสีขาวและสีดำ
“วิเศษจริงๆ กลับไปนั่งที่ได้แล้ว”ครูโฟรทชม ทั้ง 5 เดินกลับไปนั่งที่โดยปล่อยให้อีก 10 คนในห้องนั่งตะลึงค้างอยู่เช่นนั้น
“วันนี้เราจะมาเริ่มเรียนเวทย์ขั้นพื้นฐาน ทุกคนคงรู้จักเวทย์เรียกของใช่ไหม”ครูโฟรทถาม
“คร้าบ/ค่า”
“งั้นลองเรียกอะไรสักอย่างออกมาไว้ตรงหน้าของตัวเองสิ”ครูโฟรทบอกก่อนจะเดินดูผลงานที่ถูกเสกขึ้นมา บ้างเสกเสื้อผ้า บางเสกอาหาร ผิดกับทั้ง 5 ที่นั่งอยู่หลังห้อง พวกเขาเลือกที่จะเสกกระดาษขึ้นมาเพียงแผ่นเดียว
“ทำไมถึงไม่เสกแบบเพื่อนๆเขาล่ะ ในจำนวนเวทย์ทั้งหมดที่มีเวทย์เสกกระดาษถือว่าง่ายที่สุดเลยนะ”ครูโฟรทถาม ตอนนี้ในห้องหันมาสนใจทั้ง 5 หมดแล้ว
“ก็บอกให้ใช้เวทย์เรียกของขั้นพื้นฐานไม่ใช่เหรอ ก็กระดาษนี้ไงล่ะ พื้นฐานที่สุดแล้ว”โอเทสตอบ ครูโฟรทยิ้มกว้างก่อนจะเดินกลับไปที่หน้าห้องแล้วเริ่มสอนเวทย์ชนิดต่างๆ
“ฮาๆๆ”เสียงจากหลังห้องดังขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
“มีอะไรกันหรือ”ครูโฟรทเดิมเข้ามาดู
“ไม่มีอะไรครับ ฮาๆๆ”โอเทสหันมาตอบก่อนจะหันกลับไปหัวเราะอีกครั้ง
“พริสกราเดลริช”เดลคิลกล่าวก่อนที่โอเทสจะหายหัวเราะ
“เฮ้อ! ชานัทนะชานัท ร่ายเวทย์แบบนั้นใส่ฉันได้ยังไงเล่า”โอเทสเริ่มบ่นโดยมีครูโฟรทยืนดูอยู่ใกล้ๆ
“เวทย์หัวเราะน่ะเหรอ”เซนถาม
“อืม ไม่รู้เสกตอนไหนด้วยสิ แย่ชะมัด”โอเทสว่า
“ขอโทษๆ ไม่ทำแล้วๆ”ชานัทรับก่อนจะแอบก้มหน้าลงใต้โต๊ะไปอมยิ้ม
“เรียนต่อได้แล้วล่ะมั้ง”ครูโฟรทที่ยืนฟังอยู่นานเอ่ยขึ้น
“ครับ”ทั้ง 5รับคำเสียงอ่อย
“เวทย์ขั้นสูงสุดคือเวทย์ไร้เสียงไร้เงาไร้ตัวตน แต่ถ้าถามว่าเป็นเวทย์แบบไหนครูเองก็คงตอบไม่ได้เพราะครูเองก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนกัน มีผู้ใช้ได้เพียง 5 คนในโลกนี้ นั้นคือผู้ปราบปีศาจ เวทย์นี้เคยถูกใช้ไปหนึ่งครั้งที่โรงเรียนแห่งนี้ ผู้ปราบปีศาจเคยเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ และอยู่ที่หอใต้ หรือหอที่พวกเธอเคยอยู่นั้นแหละ ลองไปดูห้องที่เขาเก็บรูปรุ่นพี่ของหอใต้เอาไว้สิ รูปที่มีผู้หญิงคนหนึ่งกับผู้ชายอีก 4 คนที่อยู่ในรูป นั้นล่ะพวกเขา... ผู้ปราบปีศาจ”ครูโฟรทพูด เรื่องนี้ไปสะกิดโดนใจของทั้ง 5 ที่นั่งอยู่หลังห้องพอดี ถ้าพูดถึงรูปที่มีผู้หญิงคนหนึ่งกับผู้ชายอีก 4 คน มันก็รูปพวกเขานี้หว่า!!
++++++++++++++++
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!
จันทร์นี้เปิดเทอม ฮือๆTOT
อัพเร็วมาก ตอนนี้
สมองเเล่นมากไปหน่อย
จันทร์นี้ โฮ~
นึกแร้วเครียด ไม่อยากให้มาถึงเล้ยยยยยยยย
ตายแน่ๆ ไม่เหลือซากก่อนปิดเทอมทำไว้ซะแสบ
โดนตืบแน่เลย อ๊อก! (คนเขียนโดนตืบคอหักตายค่ะ)
จบๆ เริ่มบ้าแล้ว555+
เจอกันตอนหน้าคับ
ปล. เม้นๆด้วยนะคับ เม้นด่าเราไม่ว่า แต่จะว่าถ้าไม่เม้น คับ
บาย...(Y0Y)/
Dark_ Sniper
ความคิดเห็น