คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Tokyo Love Story Part 1
... เมื่อปี 1996 และ 1997 ผมได้มีโอกาศเดินทางไปเรียนใน ระดับ มัธยม ปลายที่ ประเทศญี่ปุ่น ครับ โรงเรียนที่เรียน ตั้งอยู่แถบชานเมืองโตเกียว จะเลยออกไปทาง จังหวัด จิบะ และเป็นโรงเรียน ที่แยก นักเรียนเรียนตามแผนก คือ แผนก นักเรียนชาย และ นักเรียนหญิง ซึ่งจะถูกกั้นเอาไว้ด้วยถนน ตอนนั้น เป็นการเริ่มภาคเรียนใหม่ ถ้าจำไม่ผิด จะเป็น ช่วงต้นเดือน เมษายน..
"ผมเป็นนักเรียนใหม่ สังกัดนักเรียนต่างชาติ จะเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ ตั้งแต่วันนี้ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" คำพูด ในที่ประชุม วันเปิดภาคเรียนใหม่ของผมครับ ที่ญี่ปุ่นในทุกๆ วันเปิดภาคเรียนของทุกปี จะต้องมีการประชุม นักเรียนก่อนทุกครั้ง และทุกปีก็จะมีการแนะนำ นักเรียนใหม่ด้วยครับ ในปีนั้น มีนักเรียนต่างชาติ ย้ายเข้าไปเพียงคนเดียว ผมจึงมีความรู้สึกว่าตัวเองเด่นเป็นพิเศษ ....
ช่วงนั้นที่ญี่ปุ่น กระแสของ โฮโม เป็นเรื่องที่ ธรรมดาๆ มาก ยิ่งถ้าเป็นโรงเรียนชายล้วนด้วยแล้ว เป็นเรื่องปกติมาก ที่ ผู้ชาย ด้วยกันเองจะคบกันเป็นแฟน ซึ่งผมก็ไม่ได้ แปลกใจอะไร เพราะก่อนหน้านี้ ก็เรียนโรงเรียนชายล้วนมา และ เคยมีแฟนมาแล้ว แต่สังคมของที่ญี่ปุ่นนั้น ดูจะ อิสระมากกว่า เพราะดูเหมือนว่า กลุ่มเพื่อนๆ จะพลอยเข้าใจในความเป็นไป ของชีวิตโฮโมด้วย พูดง่ายๆ ก็คือ โฮโม สามารถ ใช้ชีวิตอยู่กับ ผู้ชายจริงๆ ได้อย่างเปิดเผย ผมใช้เวลาเรียนรู้ เรื่องราวพวกนี้แค่ 2-3 วันเองนะครับ เพราะวันแรกที่เข้าห้องไป ใครต่อใครก็มารุมถามแล้ว ว่า นายเป็น โฮโม หรือป่าว ไม่มีการรังเกียจกัน ชีวิตที่นั้น ดีจริงๆ
หอพักที่ผมพัก เป็นหอ เอกชน อยู่ห่างจาก โรงเรียนพอสมควรครับ ต้องนั่งรถไฟ 2 สาย ต่อรถไฟ 1 ครั้ง ลงที่ป้ายที่ใกล้ที่สุด แล้วเดินมาโรงเรียนก็ประมาณ 5 นาที จริงๆ ก่อนหน้านี้ ไม่เคยคิดเลยครับ ว่าขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่นจะยาก อย่างนี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ทำท่าจะไม่รอด อาทิตย์แรกแล้ว เปิดเรียนได้แค่ ยังไม่ถึงเดือน จำได้ดีว่าวันนั้น เป็น วันพุธมีเรียนพละ .......
วันนั้น คนยังไม่แน่นมาก พอหลวมๆ กำลังโหนรถไฟอยู่ดีๆ ก็มีเสียงทัก "หวัดดี-ไปโรงเรียนคนเดียว ?" ดังขึ้นมาจากข้างหลัง หันไป ก็เห็นเด็กผู้ชายคนนึง แต่งชุดนักเรียนโรงเรียนเดียวกับผม ปีเดียวกันด้วย ดูจาก ฟอร์มที่แต่งแล้ว ก็ทำให้รู้ได้ว่าคงเรียนที่เดียวกัน ผมก็ตอบไปว่า "ครับไปคนเดียว หออยู่ไกลออกไปมาก" นับว่าเป็นการเริ่มต้น บทสนทนาที่ดีทีเดียว.. หลังจากนั้นไม่นานเราก็ลง รถไฟที่ป้ายเดียวกัน เดินเข้าไปโรงเรียนพร้อมกัน กะว่า ถ้าขึ้นไปบนตึกแล้ว จะถามว่าเรียน ห้องไหน ชั้นไหน แต่ก็ยังไม่ทันจะขึ้นไปบนตึก เขาก็โดนเพื่อนเรียกไปที่ สนามเบสบอล ซะก่อน "เจอกันอีกนะ" แล้วเขาก็วิ่งไปหาเพื่อนๆ ของเขา
วันเดียวกันในช่วงบ่าย ห้องผมมีเรียนวิชา พละ เพื่อนๆ ในห้องบอกว่า ต้องลงไปเลี่ยนเสื้อผ้า ที่ห้องล๊อกเกอร์ ก็ตามๆ เขาไปครับ ที่ห้องล็อกเกอร์ ทุกคนจะมี ล็อกเกอร์เป็นของตัวเอง เอาไว้เก็บ อุปการณ์ที่จำเป็นเวลาเรียน พละ รองเท้าที่จะต้องเปลี่ยน ที่ห้องล็อกเกอร์นี่เอง ทำให้ผมได้รู้ ได้เห็น อะไรดีๆ อีก ใครอยากจะหอม อยากจะจูบกัน เค้าก็มาทำกันในนี้ ที่นี่ อ่อ ... มันเป็นแบบนี้เอง..
นักเรียน ม.ปลายปี1 ทุกคนของโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ จะต้องเรียน กรีฑา ครับ วิ่ง วิ่ง วิ่ง และ วิ่ง..
ตอนปลายภาคจะมี มาราธอน ของปี 1 ด้วย เปลี่ยนเป็นชุดพละ เรียบร้อย ก็ไป วอร์ม วิ่งๆ อยู่ในสนามได้ สักพัก ผมก็เห็นเขาคนนั้นอีกครั้ง เล่นฟุตบอลอยู่ในสนาม นั่นแหละครับ อดไม่ได้ไปเรียก เพื่อนมาถาม ซึ่งใน ขณะนั้นผมก็พอมี ซี้ในห้อง บ้างแล้ว 3-4 คน แน่นอน ทุกคนเป็น โฮโม หมด..
เขาคนนั้น ชื่อ เรียว เรียน ปี 1 เหมือนกัน แต่จบ junior แล้วมาจากโรงเรียนนี้ ก็คือเป็น ศิษย์เก่าของที่นี่ ชอบเล่นกีฬา ถึงแม้ว่าเพื่อนๆ จะถามกันอย่าง งงๆ ว่า ทำไม ผมต้องถามเกียวกับเขาคนนี้ ไม่ได้ตอบไปหรอกครับ ว่าทำไม คำถามสุดท้ายที่ถามไปคือ เขาเป็น โฮโมด้วยหรือเปล่า ซี้ทุกคนทำตาโต เหมือนจะถามว่า ผมชอบเขาหรอ ? แต่ผมก็ตอบไปว่า แค่เขาเข้ามาทักตอนนั่งรถไฟมาโรงเรียนเท่านั้น ทุกคนบอกโล่งอก เพราะนายนี่ เจ้าชู้ กะล่อนเหมือน ทะนุกิ (หมาจิ้งจอก) แล้วหัวข้อสนทนาของเราก็หยุดเพียงแค่นั้น เพราะจำเป็นต้องตั้งหน้าตั้งตา วิ่งกันต่อไป ......
เย็นวันนั้น ทั้งๆ ที่เป็น วันพุธ แต่เพื่อนในห้องก็ชวนกันไปดื่ม ไปเที่ยว ไปคาราโอเกะ ไปกันทั้งห้องนะครับ 30 คน ไม่ไปก็ไม่ได้ ก็เลยตามๆ กันไป ถ้าผมไม่ได้ออกไป กับเพื่อนวันนั้น ผมคงจะพลาดโอกาส สำคัญไป โอกาสที่ทำให้ผมมีความรัก โอกาสที่ทำให้ผม สามารถ มองเห็นโตเกียว เป็นเมืองที่แสนจะโรแมนติค และทำให้ผม บ้าคลั่ง ญี่ปุ่นมาจนถึง ปัจจุบัน....
ความคิดเห็น