ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love is secret จุ๊ๆ อย่าบอกใครนะ!! ว่าผมรักคุณ

    ลำดับตอนที่ #1 : นักเลงแห่งวาซาบิ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 53


    chapter1...นักเลงแห่งวาซาบิ

    ปู๊นๆๆ ฉึกๆๆ  ปู๊นๆๆ ฉึกๆๆ

    "สถานีต่อไป วาซาบิ  next station wasabi ขอโปรดผู้โดยสารทุกท่านเก็บขยะออกจากรถไฟให้หมดและ............."

    เสียงคุณพี่พนักงานคนสวยดังออกมาจากลำโพงของรถไฟ =_= ซึ่งฉันก็พอจะรู้ว่า ฉันถึงที่หมายแล้ววววว^0^
    ยะฮู้ๆๆๆ รู้ไหมฉันอุส่าห์ ทนนั้งรถไฟตั้งหลายชั่วโมงกว่าฉันจะมาถึงที่นี่!!!  ที่แห่งนี้!!!!  วาซาบิ!!!

    แล้วมันน่าตื่นเต้นตรงไหน =_=

    ใช่แล้วมันน่าตื่นเต้นตรงไหน ฉันเพิ่งมาจากบ้านนอก!!  เพิ่งออกมาจากบ้านเกิดเมือนนอนของตัวเอง!! นึกแล้วมันน่าเศร้าใจนะ ที่ออกมาจากบ้านกระท่อมฟางหลังเล็กๆของฉันซึ่งคุณยายของฉันได้ปลูกเอาไว้ที่บ้านนอก T^T!!!

    โฮกกกกก T0T !!

    นึกถึงบรรยากาศที่บ้านนอกก!!! คิดถึงคุณ บุนเจิด ที่อยู่ในไร่นาของยายฉัน!! และนึกถึงหลายๆอย่าง คิดถึงพ่อ !!
    คิดถึงแม่!! คิดถึงทุกคน!! โฮกกก T0T!!!

    เอาหล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันได้แล้ว ไร้สาระมานานมากพอ =_=
    คือ เมื่อวันก่อนๆๆโน่นๆๆ ก่อนที่ฉันจะมาถึงสถานีวาซาบิ หรือ สถานีชื่อดัง ของ Bangkok กรุงเทพมหานคร เป็นย่านช๊อปปิ้งแห่งใหญ่ที่สุดในโลกๆ ๆๆ วะฮะฮ่า!! <<<ออกแนวโรคจิต =_=

    พ่อของฉันได้นำเอกสารนักเรียนแลกเปลี่ยนของโรงเรียน X.I.S โรงเรียนนานาชาติซึ่งเน้นหลักภาษาโดยเฉพาะมาให้ ฉันก็ตกกะใจ๋ สุดขีดด เนื่องจาก โรงเรียนชื่อแปลกๆคุ้นๆเหมือนชื่อวง อะไรสักอย่างนี่มันอยู่ที่ Bangkok!! กรุงเทพมหานคร!!ซึ่งห่างไกลจากบ้านเกิดเมื่องนอน ของเราสุดขีด และฉันก็เริ่มตะหงิดใจขึ้นมานิดๆ เนื่องจากฉันเป็นนักเรียนหลังเขา ไม่รู้ภาษาอังกฤษ อะไรอย่างนี้ จะมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ที่เน้นภาษาโดยเฉพาะ โดยส่วนตัวพูดได้คำเดียว Bangkok! หรือกรุงเทพมหานครนั่นเอง =_= ก็มาคิดๆดูแล้วว่าเราจะไปรอดไหมเนี่ย จนในที่สุด พ่อก็พูดว่า
    "มะก็บ่เป๊นจั่งได๋นิหลูกก ได๊ไป่เรี้ยนภาษาอังกิ้ดที่ Bangkok กรุงเทพมหานคร ก็ถื้อหว่าเป้นบุญเป้นวาสนาแหล้วอย้ากังว้ลไป่เลยยย" เท่านั้นแหละฉันก็นึกได้ว่าพ่อกับแม่ ไม่ค่อยมีเงินอยู่แล้วที่บ้านนอกเราก็ไปเรียนบวกกับทำงานด้วยเป็นไง!!
    ตอนนี้ฉันมีเงินติดตัวเยอะพอที่จะไปเช่าบ้านอยู่ได้ ดังนั้นหลังจากที่ฉันพูดประโยคนี้จบฉันก็จะไปหาแหล่งเช้าบ้านที่ย่านวาซาบินี่แหละใกล้รถไฟดีไปไหนมาไหนสะดวก อิอิ

    เอาหล่ะออกเรือได้!!!! เราไปหาที่พักกันเต๊อะะ !!!^^

    หมับ!!!!!

    "เฮ้ย!!!"ร้องเสียงดันสนั่น เมื่อรู้สึกว่าอยู่ดีดีมีคนมาควงแขนซะงั้น -_-
    "จุ๊ๆๆๆ อย่างร้องเสียงดัง!! แค่ขอเดินควง 1 นาทีเดี๋ยวจะให้เลย 1000 บาท!! จะเอามะ??"
    ฮะ เฮ้ย!! หนึ่งพันเชียวหรอ!!
    "$o$"<<สายตาของฉันมองไปยังเขา
    "เหอๆ =_="เขาสบทออกมาเบาๆ
    ทำไมหล่ะยะ!! คนมันอยากได้เงินนิ เงินทองมีค่านะถ้าคนไม่จนไม่รู้หรอก จะว่าไปหมอนี่เดินควงฉันเดินไปเรื่อยๆเเบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันสังเกตเห็น นายนี่ลอบมองไปด้านหลัง เป็นระยะๆ
    "=_= มองอะไร"แหม ไม่ค่อยมีมารยาทสักเท่าไหร่เลยนะ แต่เพิ่งสังเกตอีกอย่าง เขาคนนี้หน้าตาดีใช้ได้!  ผมสีคาลาเมลตาสีเขียวมรกต ตัวก็สูง ผิวก็ขาว ขาวกว่าฉันอีก ให้ตายเถอะ! อีกอย่างหมอนี่หล่อสุดๆๆ โฮกกก ^[]^
    "ยัยโรคจิต!! ขอบใจสำหรับแขน ส่วนหนึ่งพันอ่ะ ไว้ชาติหน้าแล้วกัน  ลาก่อน!!"
    "อ้าว!! เฮ้ย!! หนึ่งพันฉันอ่ะ!! เอาหนึ่งพันฉันมานะ!! นายสัญญาไว้แล้วอ่ะ!!"
    "0_0!!"<<<สีหน้าคนแถวนั้น มองฉันหมด ทั้งหมดเลย =_= ฉันบอกไปรึยังน้า ว่าที่เป็นย่านของคนช๊อปปิ้ง ซึ่งมีมาตรการสูงสำหรับความปลอดภัย แล้วสิ่งที่ตามมาคือ 

    "คนนั้นน่ะ หยุดแหกปากแล้วแล้ว!!!! หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!!"ไม่ยง ไม่หยุดอะไรแล้ว ค่ะพี่ ยาม T^T ให้ตายสิ! ฉันต้องวิ่งหนียามใช่ไหมเนี่ยย ทำไมมันซวยอย่างนี้!!
    แล้วฉันก็เร่งสปีดเท้าของตัวเองแล้วรีบหลบไปอยู่ในซอกตรอกเล็กๆ

    "หยุดนะ!!"พี่ยามคนนั้นยังพูดไม่จบ พร้อมกับเร่งสปีดขาตัวเองเหมือนกัน
    แต่!! 
    "ม่ายยหยุดโว้ยยยจับให้ด้ายสิ ไอยามกระจอกก อะโด่!!!"
    ตะ..แต่ เสียงนั้น มันไม่ใช่เสียงของฉัน =_= มันเป็นเสียงของ....

    โจร =_= 

    คนใส่ชุดดำกำลังถือสร้อยเพรชของ เจ๊อ้วน ถึง ดำ ที่กำลังวิ่งตามพี่ยามเพื่อที่จะมาดูเหตุการณ์ และสร้อยเพรชของตัวเอง =_= แล้วฉันจะวิ่งหนีทำไมเนี่ย!!

    ฉันค่อยๆทรุดตัวนั้งลง ใครไม่มาเป็นเหมือนฉันไม่รู้หรอก!! มันเมื่อยขานะ วันนี้ไม่ไหวแล้วอ่ะขอนั่งก่อนเถอะ!!
    พ่อจ๋า  แม่จ๋า ช่วยลูกด้วย วันนี้ลูกจะหา ที่พักได้ไหมเนี่ย!!!!!

    "เฮ้ย!!! พวกกระจอก!! คิดจะมาลองดีกับฉันงั้นหรองัย!!"

    ฮะ....เฮ้ย!! อ่ะไรอีกเนี่ย
    ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นก็พบว่า มีคน 2 กลุ่มใหญ่ๆ ประมาณ 10 คนกว่าๆ กลุ่มทางด้านซ้ายถือไม้ ท่อแป๊ป มีด อะไรเต็มไปหมด ส่วนอีกกลุ่มนึง ทางด้านขวา ไม่มีอะไรเลย =_= แต่ว่า ที่มีอยู่อย่างหนึ่งคือ หน้าตา !! แม่เจ้าไม่เคยเห็นใครหน้าตาดีเท่านี้มาก่อน และยังมีคนนึงนั้งรถเข็นคนป่วยด้วยอ่ะ เป็นผู้ชาย อยู่ในกลุ่มหน้าตาดี =_= ส่วนไอกลุ่มพกอาวุธดูเหมือนไม่มีใครหน้าตาดีเลยแต่เอ๊ะ!!

    ผมสีคาราเมล ตาสีเขียวมรกต ตัวสูง ขาว และที่สำคัญในกระเป๋ากางเกงของเขามี กระเป๋าตังค์สีเหลืองสะท้อนแสงโผล่แผลบออกมา นั้นทำให้ฉันนึก กระเป๋าตั้ง ที่มี่ตังค์ หลาย พันในอยู่ในกระเป๋ากระโปรงของฉันเมื่อ 10 นาทีก่อน และฉันก็เพิ่งสรุปได้ว่า กระเป๋าตังค์สีเหลืองสะท้อนแสงของฉันเอง ส่วนไอคนที่หล่อๆ ผมสีคาราเมลนั้น คือคนที่ขโมยกระเป๋าเงินฉัน!!

    "=_=;;;;"<<<สีหน้าฉัน

    และฉันก็มองดูพวกนักเลง 2 กลุ่มที่กำลังจะยกพวกตีกัน =_=

    "อยากจะรู้จริงๆ นักเลงแห่งย่านวาซาบิ จะมีดีแค่หน้าตารึปล่าว ^^"ไอคนหล่อเฮงซวย(ไอคนที่ขโมยของฉัน=_=)พูดขึ้น แล้วทำหน้ายี้ยวนกวยส้น ตู๊ด ตู๊ด <<เซนเซอร์ ใส่กลุ่มนักเลง วาซาบิ (เพิ่งรู้เมื่อกี้)
    "ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน...พวกนักเลงสถุนกระจอกๆ หนังหน้าไม่ดี ไม่มีเงินไป ศัลยกรรมดงเฮที่เกาหลียังจะมีปัญญามาชนะนักเลงที่มีชื่อเสียงถึงย่าน วาซาบิได้เชียวหรอ"ผู้ชายผมสีม่วงอ่อน ตาสีฟ้าเป็นประกายพูดขึ้น และข้างๆกายของเขาก็มีผู้หญิงจำนวนมากคอยรุมล้อมอยู่ ดูท่าทางจะหลั่ง ฟีโรโมนออกมาเต็มที่เลยนะเนี่ย ดูจากบุคลิกลักษณะเป็นเพลย์บอยเเน่เลย
    "นี่ๆซีดีฟว หยุดเถอะ เรากลับบ้านกันได้แล้วนะ"ผู้ชายคนที่นั้งรถเข็นพูดขึ้น
    "ก็ฉันบอกแล้วไง นายไม่ต้องมาหรอก พอมาแล้วเดือดร้อนคนอื่นเค้า แผลที่ท้องอะยังไม่หายเลย ยังจะอยากมากับพวดฉันอีก ชิ!"ผู้ชายคนนั้น บ่นออกมาด้วยหน้าตาบูดบึ้ง ไม่บอกก็รู้ว่าเขาห่วงคนที่นั้งรถเข็นนั่นขนาดไหน
    แต่....

    ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือน มีอะไรมาจั๊กจี้ที่จมูกของฉัน แตะฉันจะให้พวกนักเลงอะไรนั้นรู้ไม่ได้หรอกนะว่าฉันอยู่ตรงนี้อ่ะ T^T
    "ฮะ..."เฮ้ย ฉันหลุดมันออกไปแล้วอ่ะ ทำไงดี T^T
    "เสียงใครอ่ะ!!"ผู้ชายผมสีม่วงพูดขึ้น แล้วค่อยๆเดินตรงมาในตรอกเล็กๆที่ฉันนั่งอยู่
    ":x" ฉันพยายาม ปิดปากตัวเองเต็มที่

    ตึก ตัก ตึก ตัก

    "ฮะ...ฮัดชิ้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

    แล้วฉันก็หยุดมันไม่ได้ T^T พ่อจ้า แม่จ้า ช๋วยหลูกด้วยยยยย

    "อะอยู่นี้เองยัยตัวดี"

    หมับ!!!

    เขาชุดแขนฉันให้ลุกขึ้น
    "ไหนๆๆ ดูหน้าตาหน่อยซิ ถ้าสวยจะได้เอาไปที่คลับว่าไงบ้าง อินเฟลม" ผู้ชายผมสีม่วงคนนี้หันหน้าไปหาผู็ชายผมสี ขาวที่ใส่หมวกสีดำซึ่งตัดกับสีผิวขาวละเอียดของเขา

    "เฮ้ย!!ยัยนี่มัน แฟนแกไม่ใช้หรอวะ ทัคกี้!! เมื่อกี้ยังเห็นควงกันอยู่เลย แหมๆๆ หาที่ให้แฟนหลบไม่เนียนไปมั้ง 5555"
    ผู้ชายผมสีขาวคนที่ใส่หมวกพูดจายียวนไอคนหล่อเฮงซวย(ซึ่งถูกเรียกว่าทัคกี้ แหมชื่อจะน่ารักไปไหม =_=)
    "ยัยนี่มันไม่ใม่ใช้แฟนฉัน!!" เลิกพูดไร้สาระสักที!! เมื่อไหร่จะบุกเนี่ย!! ฉันคันไม่คันมืออยากจะฆ่าพวกแกแล้ววะ แล้วอีกอย่าง ยัยนี้หน้าตาทุเรศจะตายไป จะมาเป็นแฟนฉันได้ยังไงหน้าตามอมเเมมอย่างกับกลับมาจากบ้านนอกผมเผ้าก็ดูไม่ได้อย่างฉันเนี่ยนะ จะมีสเป....."
    "55555555 อย่าแก้ตัวไปหน่อยเลย ถ้ายังรัก ยังหวงแหน แฟนสุดที่รักคนนี้อยู่ละก็มาหาฉัน!! ที่คฤหาส์!! มาคุยอะไรกินนิดหน่อย แล้วฉันจะปล่อยตัวแฟนสุดที่รักคนนี้ไป 555555"ผู้ชายผมสี ม่วงอ่อนตนนี้พูดขึ้น แล้วฉันจะทำยังไงต่อไปเนี่ยยอนาคตของฉัน !! ที่พักของฉัน!!! bangkok กรุงเทพมหานครของฉัน!!! กระเป๋าตังค์ของฉัน!!! T^T

    "ฮือๆๆๆๆT^T ละ แล้วฉันจะทำยังไงหล่ะ ปล่อยฉันไปนะ!!! ปล่อยเดี๋ยวนี้!!! ไอผู้ชายเฮ็งซวย!! ไอทัคกี้ บ้า!! ไฮผู้ชายผมสีม่วงปัญญาอ่อน!! ไออินเฟลม พูดมาก!! ไอคนนั้งรถเข็นประสาทเสีย!!! ฮือๆๆ T^T"แล้วฉันก็ปล่อยโฮออกมากลางสนามรบ=_=
    ปรกติเวลาฉันโฮฉันจะเอาทุกคนมาเกี่ยวด้วยหมดอ่ะ =_=

    "เฮ้ย เอายาสลบมาโปะยัยนี้ดิ๊ รู้จักก็ไม่รู้จักกัน ยังจะมา ท้าทายอำนาจ"อินเฟลมพูดขึ้น ที่ฉันจำเขาได้เพราะ ไอผมม่วง คนนั้นพูดขึ้นตอนที่ ฉันถูกจับได้ว่า แอบอยู่ตรงซอกตรอกเล็กๆ =_=

    โปะ!!

    "โอ้ยยย โปะเบาๆได้ไหม!! อย่ามาโปะตรงปากดิมันขม!!เฮ้ย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไอบ้า!!" แล้วฉันก็ดิ้นสุดแรกเกิดเท่าที่จะดิ้นได้ แต่ผุ้ชายแรงควายนามว่า อินเฟลมนี่กดหัวฉัน ให้ดมกับ ผ้าเช็ดหน้าลายหมีของเค้าที่ ใส่ยาสลบไว้อยู่จนกระทั่งฉันหมดสติไป


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×