ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องเอกของเช็กสเปียร์

    ลำดับตอนที่ #2 : โรเมโอ และ จูเลียต

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 49


    เรื่องนี้เป็นผมงานเก่าของผม ซึ่งผมเคยมีนามปากกาเก่ามาก่อน นั้นก็คือ Splinter cell แต่ก็ต้องเลิกแล้ว เพราะลืมพาสเวริด ก็เลยก็อปมาเลย เพื่อโชว์ฝีมือผลงานเก่าของผม

        นครวีโรนาแต่ครั้งก่อน มีตระกูลคหบดีมั่งคั่ง ขึ้นหน้าขึ้นตาอยู่สองตระกูลๆหนึ่งชื่อว่า



    มองตาคิวและอีกตระกูลหนึ่งชื่อว่า คาปูเล็ต การที่ทั้งสองนี้มีฐานะความเป็นอยู่เท่าเทียมกันนี้เอง



    จึงก่อให้เกิดความแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันอยู่ในตัว เริ่มตั้งแต่ต้นตระกูลหลายชั่วอายุคนตลอดมาแล้ว



    ความริษยาอาฆาตระหว่างสองตระกูลนี้มีมากจนถึงกับว่า ข้าทาสบริวารของทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะพบปะกันที่ไหน



    เมื่อใด เป็นต้องริเข้าตรุมบอนกันจ้าละหวั่น จนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะย่อยยับพ่ายแพ้ไป



    เหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้นเสมอๆ เป็นการรบกวนความสงบสุขของประชาราษฎรแห่งเมืองวีโรนาตลอดมา



       เย็นวันหนึ่ง ท่านลอร์ดคาปูเล็ตได้จัดให้มีงานเลี้ยงอาหารค่ำขึ้นที่เคหาสน์ของท่าน



    ได้เชิญแขกเหรื่อทั้งขุนนางผู้มีเกียรติ สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี พ่อค้าคหบดีทั่วเมืองวีโรนาร่วมในงานเลี้ยงครั้งนี้



    เว้นแต่แห่งเดียวที่มิได้รับเชิญพรรคพวกและบริวารแห่งตระกูลมองตาคิว ซึ่งเป็นศัตรูต่อกันเท่านั้น



    และในงานนี้สาวรอสะลินด์คู่รักของโรเมโอก็ได้เชิญเข้าร่วมด้วย



       โรเมโอ บุตรชายของท่านลอร์ดมองตาคิว เมื่อทราบว่ารอสะลินด์คู่รักของเขาไปในงานนี้ด้วย



    ก็คิดที่จะไปพบปะรอสะลินด์ในงานนี้ด้วย แต่แน่หละถ้าเขาขึ้นไปปรากฏตัวให้พวกคาปูเล็ตเห็นในงานนี้ ก็หมายถึงว่า



    เขาจะต้องถูกกรุ้มรุมทำร้าย ความอยากเห็นคู่รักรอสะลินด์มีมากเท่าๆกับอันตรายที่เขาจะได้รับ



    ทำให้โรเมโอกระอักกระอ่วนใจยิ่งนัก ยังตรองไม่ตกว่าจะหาวิธีอย่างใดดี ก็พอดีพบกับเพื่อนคู่หูคนหนึ่งชื่อเบ็นโวเลียว



    หลังจากได้ปรึกษากับเพื่อนผู้นี้ดูแล้ว ก็ได้รับคำแนะนำให้โรเมโอสวมหน้ากากปลอมตัวเข้าไปเพื่อไม่ให้ใครรู้ตัว

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    "เอาอย่างงั้นหรือ?"                        โรเมโอถาม



    "จะมีใครรู้ โรเมโอเชื่อกันเถิด"          เบ็นโวเลียวยืนยัน



    "กันรู้ดีกว่าเพื่อนน่ะ อยากชมโฉมรอสะลินด์อยู่ทุกวันคืน คืนนี้เราจะได้ไปชมโฉมบรรดาพวกสาวๆสวยๆ

    มาจากทุกทิศทุกทาง หัวบ้านท้ายบ้านมาประกวดกัน ใครจะสวยกว่าใครรอสะลินด์สวยแน่รึ

    อาจมีหญิงสวยกว่ารอสะลินด์อีกมากมาย"



    "เออ กันก็ว่ารอสะลินด์น่ะสวยเป็นที่ถูกอกถูกใจยิ่งแล้ว แต่บางทีอาจมีหญิงอื่นสวยกว่านี้

    อีกเรายังทราบไม่ได้ เพราะเรายังไม่ได้เห็นทั่วทุกๆคน"    โรเมโอตอบ



    "เอาหละ!ถ้าเช่นนั้น คืนนี้เราเที่ยวชมโฉมหญิงให้ทั่วถึง แล้วลงความเห็นกันแล้วว่า

    หญิงคนใดในเมืองวีโรนาสวยสุด"          เบ็นโวเลียวพูดขึ้น



    โรเมโอตอบว่า"แม้จะมีหญิงสวยกว่ารอสะลินด์ก็ตาม แต่กันก็จะลืมรอสะลินด์เสียมิได้

    ความงามของรอสะลินด์ เป็นความงามที่ถูกอกถูกใจเสียจริงๆ"

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



        โรเมโอใฝฝันอยู่ก็แต่รอสะลินด์ จนไม่เป็นอันกินอันนอน บางครั้งเขาได้ปลีกตัวจากเพื่อนฝูงสังคม



    และใช้เวลาเหล่านั้นครุ่นคิดถึงรอสะลินด์ แต่ความรู้สึกของรอสะลินด์ซึ่งมีต่อโรเมโอนั้น เต็มไปด้วยความเย้ยหยันและดูหมิ่น



    ไม่เคยทึ่งแสดงออกให้โรเมโอมีหวังในความรักของเขาแม้แต่น้อย



        เบ็นโวเลียวรู้ใจโรเมโอกำลังครั่งใคร้ถึงรอสะลินด์เพียงใด ปรารถนาจะปลุกปลอบโรเมโอให้คลายความเศร้าหมอง



    จึงชวนโรเมโอไปเที่ยวงานคฤหาสน์คาปูเล็ตในคืนนั้น พร้อมด้วยเพื่อนคู่หูอีกคนหนึ่งชื่อ เมอคิวติโอ



    ทั้งสามสห่ยได้สวมหน้ากากแปลงร่างเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผย หาได้มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร



    ลอร์ดตาปูเล็ตเจ้าภาพเห็นสามสหายไปถึง ก็ออกมาต้อนรับด้วยอาการยิ้มย่องผ่องใส

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ทักทายขึ้นก่อนว่า"คืนนี้เราจะมีการฟ้อนรำกันอย่างไม่อั้น ท่านสุภาพสตรีเท้าคล่องๆเหล่านี้ก็รับจะเต้นจนสุดฝีมือ

    เชิญซิครับเลือกคู่เต้นตามสบาย คืนนี้เป็นคืนสนุก เชิญหาความรื่นเริงตามใจชอบ"

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ทั้งสามกล่าวขอบคุณเจ้าของบ้านแล้ว ก็แยกกันจับคู่เต้นรำ และขณะที่โรเมโอกำลังเดินหาคู่เต้นอยู่นั้นเอง



    ก็เหลือบเห็นจูเลียตเข้า ความงามแช่มช้อยของจูเลียตทำให้โรเมโอถึงกับตะลึงลาน และเสียวปลาบในใจ



    เขาได้สำนึก ณ บัดนั้นเองว่า ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งได้พบเห็นสตรีที่สวยสดงดงามถูกอกถูกใจในคืนนี้เอง



    มันช่างเป็นความงามที่ไม่มีตรงไหนสักนิดหนึ่งที่จะตำหนิได้ คิ้วคางปากคอถันสมส่วนไหล่ไม่ลักลั่น



    จะพิศตรงไหนงามตรงนั้นไปทุกส่วน ฝ่ายจูเลียตเมื่อสบตากับโรเมโอก็ดูเหมือนมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน



    แต่พยายามซ่อนความรู้สึก มิได้แสดงกิริยาอันใดออกมาให้เป็นพิรุธํได้เลย



    ศรรักสลักใจหมุ่มสาวคู่นี้แต่บัดนั้นเป็นต้นไป



    สำหรับโรเมโอนั้นเขารู้สึกว่า ราตรีนั้นมีค่ายิ่งสำหรับเขา เป็นบุญตาและบุญตัวที่ได้มาพบเพชรน้ำหนึ่งแห่งนครวีโรนา



    ซึ่งเขาไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่า สาวงามจะซ่อนอยู่ในแสงสลัวแห่งราตรีนี้



    โรเมโออยากจะทราบชื่อสตรีคนนี้ยิ่งนัก แต่ไม่รู้ว่าจะถามใคร ก็พอดีคนใช้คนหนึ่งเดินผ่านมาโรเมโอจึงถามขึ้นว่า

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    "นี้!แก ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรน่ะ"



    "ทำไมครับ คุณชอบเขาหรือ?"                      คนใช้ผู้นั้นตอบ



    "มาในงานอย่างนี้ ก็รู้จักชื่อกันไว้บ้างซีเพื่อน"   โรเมโอตอบ



    "เอ!เขาชื่อ-ชื่ออะไร-ผมไม่ทราบครับ"            ตอบแล้วเจ้าคนใช้ก็รีบเดินจากไป-ทิ้งพิศวง งง งวยให้แก่โรเมโอต่อไป

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    โรเมโอมิได้เอาใจใส่ต่อใจใส่ต่อใครๆทั้งสิ้น เขามักแต่จ้องดูความงามและความเคลื่อนไหวของสาวที่ถูกอกถูกใจผู้นั้นคนเดียว



    ขณะนั้นแม่สาวน้อยได้ไปจับคู่เต้นกับแขกอื่นๆ โรเมโอจับตามองอยู่มิเว้นว่าง



    อาการย้ายเยื้อนเคลื่อนองค์อันอ้อนแอ้นอ่อนระทวยตามจังหวะเพลง ซึ่งครึกครื้นประโคมอยู่ขณะนั้น



    ส่งให้แม่สาวสวยเพิ่มความงามเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจโรเมโอแทบจะทนนั่งอยู่ไม่ได้



    แม้ว่าหล่อนจะต้องอยู่ในขณะร่ายรำกับคู่เต้นขณะนั้นก็ตาม แต่หล่อนไม่วายชายตาประสบกับโรเมโออยู่เนืองนิจ



    เหมือนหนึ่งจะเป็นความหมายให้เข้าใจว่า ตาต่อตาเข้าใจกันแล้ว

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    "สวยเหลือเกิน แม่คุณเถิด จะพิศตรงไหนก็งามตรงนั้น"      โรเมโอพึมพำออกมาดังๆ คล้ายกับจะลืมตัว



    "สวรรค์เป็นพยานด้วย หล่อนงามถูกอกถูกใจอะไรเช่นนี้ ชาตินี้ไม่ขออะไรจากพระเจ้าอีกเลยนอกจาก--นอกจาก--



    ขอให้ได้ผู้หญิงคนนี้ไว้เป็นคู่ครอง"

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ขณะที่โรเมโอกำลังรำพึงรำพันอย่างเพ้อคลั่งอยู่คนเดียวนั้น ก็พอดีไทบอลด์หลานชายของลอร์ดคาปูเล็ตเดินผ่านมา



    ได้ยินเสียงจำได้ว่า เป็นเสียงของโรเมโออย่างแน่ชัด ไทบอลด์รู้สึกเดือดดาลเป็นที่สุด



    ที่เห็นโรเมโอสวมหน้ากากเข้ามาสำราญในงานรื่นเริงภายในบ้านของตน



    ตระกูลมองตาคิวซึ่งไทบอลด์คิดทำลายล้างอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นโอกาสที่จะฆ่าโรเมโอในคืนนั้น



    ไทบอลด์จึงรีบฉวยโอกาสทันที



        แต่พอท่านลอร์ดคาปูเล็ตทราบเรื่องเข้า จึงได้เข้าห้ามปรามทันขัดขวางไว้



    เพราะไม่อยากให้เกิดเอะอะเกรียวกราวเกรงจะทำลายความสุขสำราญของแขกหรือที่เชิญมาในคืนนี้ และอีกประการหนึ่ง



    โรเมโอนั้นเล่าว่าก็มาร่วมงานรื่นเริงในฐานะสุภาพบุรุษ ในนครวีโรนาก็ควรสรรเสริญเยินยอ



    คุณงามความดีของเขาให้ได้ยินมาตลอด



    ความกระเฮือนกระหือรือของไทบอลด์ได้ถูกระงับไว้ ไทบอลด์ถึงกับกัดฟันกรอด และสาบานว่าจะต้องแก้แค้นเจ้ามองตาคิว



    ให้ได้ในฐานที่ทะลึ่งเข้ามาถึงบ้าน โดยไม่รับอนุญาต

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    "ไว้คิดบัญชีกันวันหลังเถิดไอ้ถ่อยมองตาคิว กูต้องฟาดหน้ามึงแน่ ใครไปเชิญมึงมา ดันทะลึ่งเข้ามาได้



    ถ้ามันจะหิวน้ำข้าวกระมัง"   ไทบอลด์สาบานอย่างเอาเป็นเอาตาย



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    โรเมโอนั้นไม่พะวงสิ่งใดทั้งนั้น นอกจากต้องการใกล้ชิดกับแม่สาวงามที่ติดอกติดใจเมื่อแรกเห็น



    เขาพยายามทุกอย่างที่จะเล็ดลอดพาตัวเข้าไปหาโอกาสจับมือหล่อนเต้นรำให้ได้



    พอได้ทีก็ชวนเพื่อนเข้าไปในวงเต้นระบำ เดินเฉียดเข้าไปจนถึงตัวจูเลียต แล้วก็ขอจับมือเต้นรำ



    พอฉวยมือได้แล้วเขาก็จูงให้หล่อนเดินลัดเลาะผ่านสุมทุมพุ่มไม้และเงามือห่างไกลจากชุมชน



    แล้วชวนให้จูเลียตสนทนากับเขา



        ด้วยความรักร้อนแรงอยู่ในใจ ไม่อาจหักห้ามด้วยวิธีใด จึงจูบมือหล่อนอย่างหนักหน่วง นึกเหมือนกันว่าหล่อนอาจโกรษ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    "เธอ--เธอ โกรษผมหรือเปล่าที่ผมทำละลาบละล่วง"   โรเมโอถาม



    "ผมขอโทษด้วย--หัวใจของผมถูกฉุดกระชากอย่างแรง จึงได้กระทำลงเช่นนี้ คุณโกรษ?"



    "มิได้ค่ะ ดิฉันไม่เคยโกรษใครง่ายๆเลย"   หล่อนตอบ



    "ขอโทษ--ผมต้องขอทราบนามคุณไว้ด้วย นามคุณ...กรุณาบอกด้วย?"   โรเมโอถาม



    "จูเลียตค่ะ"   พร้อมกับเหลือบตาขึ้นสบหน้าเขา รู้สึกว่าขณะที่ตาต่อตาสบกันนั้นเอง ความหมายที่ทะลุเข้าไปถึงหัวใจ



    "คุณล่ะค่ะ บอกนามด้วย"



    "ผมชื่อ--โรเมโอ"  เขาตอบอย่างได้ยินขัด



    "อ้อ โรเมโอ เคยได้ยินเขานิยมยกย่องกันนักมิใช่หรือคะ ว่าคุณน่ะกล้าหาญชาญชัย"   จูเลียตถามขึ้น



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ขณะที่หมุ่มสาวกำลังดูดดื่มด้วยภาษารักนั้นเอง สาวใช้ก็ตามจูเลียตบอกว่า



    ท่านหญิงมารดาให้ต้องการพบจูเลียตจึงจำต้องจากไป พอจูเลียตเดินพ้นไปแล้ว โรเมโอจึงปราดเข้าไปถามสาวใช้ผู้นั้นว่า



    จูเลียตเป็นลูกเต้าเหล่าใคร นางสาวใช้บอกว่าเป็นธิดาของท่านลอร์ดคาปูเล็ต



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    "จรึงรึเธอ--จูเลียตเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านลอร์ดคาปูเล็ต"  โรเมโอถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง



    "โธ่ ดิฉันจะโกหกคุณทำไม ไม่เชื่อรองถามใครๆดูก็ได้"   นางสาวใช้ตอบแล้วก็จากไป



        โรเมโอได้ยินคำบอกของนางสาวใช้แล้ว รู้สึกแทบจะหมดหวังขึ้นมาทันที ราวกับว่าความหวังที่ไว้เต็มอก



    ได้ถล่มทลายไปหมดแล้ว จูเลียตเป็นธิดาของท่านลอร์ดคาปูเล็ต แม้จะแสนงาม แต่ความงามทั้งนี้ก็เหมือนกับแสงจันทร์



    ที่ฉายให้กระต่ายหลงระเริง สุดเอื้อมเสียแล้วที่เขาจะสอยถึง ในเมื่อหล่อนเป็นลูกศัตรูประจำตระกูลตลอดมา



        จูเลียตก็เช่นเดียวกัน เมื่อหล่อนทราบว่าโรเมโอชายที่หล่อนมั่นหมายไว้อย่างถูกใจยิ่ง



    เป็นบุตรของมองตาคิวศัตรูคู่แข่งขันกันมา หล่อนพะว้าพะวงเป็นที่สุด ความรักที่เริ่มผุดผ่องขึ้นในดวงใจนั้น



    กลับกลายเป็นความร้าวสลายเสียแล้ว



                                                             "...โอ้ว่าอนิจจาความรัก

                                                  ชั่วดีประจักษ์หรือไฉน

                                                  มีแต่จะไหลเชี่ยวเป็นเกลียวไป

                                                  ไม่มีวันได้เหลียวลับกลับมา"




    เพลงรำพันเหล่านี้จูเลียตได้ร้องขึ้นขณะที่โรเมโอกำลังเดินออกประตูไป โรเมโอเป็นคนกลับคนสุดท้ายที่จากคฤหาสน์นั้น



    ดูเหมือนโรเมโอคนเดียวเท่านั้นที่ต้องจากไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ที่สุด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×