ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ทำมือ+E-book] Drink On Me | NEED

    ลำดับตอนที่ #14 : ไออุ่นของคิว : Chapter 12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 901
      99
      2 ส.ค. 64






    12

      

    “สวัสดีตอนกลางคืนครับ” 

    น้องคิว! 

    “ง...ไง” ฉันฉีกยิ้มถึงแม้ในใจจะยังคงมีคำถามว่าเขามาที่นี่ทำไมแต่ก็ไม่กล้าพูดมากเพราะยังมีคดีติดตัวอยู่เมื่อคืน 

    น้องคิวชูกระดาษเอสี่สามใบให้ฉันดู “ช่วยเลือกแบบชุดให้หน่อยได้ไหมครับ? 

    “ด..ได้ เข้ามาก่อนสิ” ฉันจัดการเปิดประตูรั้วให้อีกฝ่ายเข้ามาก่อนจะเดินนำไปนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ แรงยุบฮวบบ่งบอกว่าน้องคิวได้นั่งลงข้างๆเป็นที่เรียบร้อย 

    “พอดีออกแบบไว้เยอะแต่ไม่รู้จะเลือกอันไหนดีเลยคิดว่าให้นางแบบเป็นคนเลือกเลยน่าจะดีกว่า” เขาเข้าประเด็นไม่มีการอ้อมค้อมใดๆฉันจึงหยิบกระดาษสามใบนั้นมาดูอย่างพินิจพิจารณา 

    ทั้งสามชุดดูสวยกันไปคนละแบบเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไมเขาถึงเลือกไม่ได้ นี่คงจะคัดมาแล้วแหละ ภาพแรกเป็นออกแนวชุดราตรีสีฟ้าสวยแบบสง่าส่วนชุดที่สองเป็นเอี๊ยมกระโปรงออกแนวสาวขี้เล่นแต่ชุดที่สะดุดตาฉันมากที่สุดคงจะเป็นชุดเจ้าสาวสีม่วงของใบที่สาม คือมันก็ไม่ได้เป็นชุดเจ้าสาวจ๋าขนาดนั้น อารมณ์แบบใช้ชุดเจ้าสาวเป็นแบบมั้งฉันก็ไม่รู้ 

    “ชุดนี้” ฉันจึงยื่นส่งมันไปให้คิว แต่ว่า...  

    “อยากแต่งงานเหรอครับ? อีกฝ่ายก้มมองกระดาษแผ่นนั้นแล้วเอียงคอเล็กน้อย ไอ้ความน่ารักโดยไม่เสแสร้งนี่มันคืออะไรกัน 

    “เปล่าซะหน่อย มันสะดุดตาดี” อ๋อ ลืมบอกไปว่าอาจารย์ของน้องคิวบอกจะจัดเป็นงานประกวดร่วมด้วยเลย แบบทั้งส่งไฟนอลและประกวดไปในเวลาเดียวกัน 

    “นึกว่าพี่ไออุ่นอยากแต่งงาน” ร่างสูงยกยิ้มมุมปาก “ผมจะได้เป็นเจ้าบ่าวให้” 

    หัวใจฉันเต้นผิดจังหวะในทันที 

    หมับ! 

    น้องคิวใช้ช่วงเวลาที่ฉันเผลอรวบร่างของฉันให้ไปอยู่ในอ้อมกอดส่งผลให้ใบหน้าของฉันจมลงไปกับอกแกร่ง  

    นี่มันอะไรกัน ฉันกำลังถูกน้องคิวกอดงั้นเหรอ...  

    ...ทำไมถึงไม่ผลักน้องเขาออกไปล่ะ แล้วนี่จะมากอดฉันทำไม ในหัวฉันเต็มไปด้วยคำถามหมดแล้วนะ 

    “เอ่อ...” 

    “พี่ไออุ่นสัญญากับผมสิครับว่าต่อไปนี้จะไม่ยั่วผู้ชายคนไหนอีก” 

    “ยั่ว? ฉันทวนคำเสียงอู้อี้ อยากจะถามมากกว่านี้แต่พอจะพูดริมฝีปากก็โดนเข้ากับกล้ามเนื้ออกของอีกฝ่ายจนได้ ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อกั้นไว้แต่มันบางมากๆเลยนะ 

    ว่าแต่ฉันไปยั่วใครตอนไหนกัน?  

    ฉับพลันภาพในอดีตที่ฉันไปเต้นบนเวทีก็ฉายขึ้นมาทำเอาใบหน้าฉันเห่อร้อนอย่างห้ามไม่อยู่ เขาหมายถึงเรื่องเมื่อคืนใช่ไหม? ต้องใช่แน่ๆ แต่รู้ไหมว่าอะไรทำให้ใบหน้าฉันเห่อร้อนมากกว่าเดิม...ก็คำพูดของเขาหลังจากนี้ไง 

    “ยั่วผมแค่คนเดียวก็พอ” 

    ตึกตัก ตึกตัก 

    ไม่อยู่...ฉันห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้เต้นดังขนาดนี้ไม่อยู่จริงๆ 

    น้องคิวคลายอ้อมกอดโดยใช้มือจับที่ต้นแขนฉันเอาไว้แทน “พี่อุ่นกำลังใจเต้น? 

    บ้าจริงเขาได้ยินจนได้ นี่มันดังขนาดนั้นเลยรึไง “ใจไม่เต้นก็ตายสิ” 

    “หรือว่า...” น้องคิวไม่สนคำแถข้างๆคูๆของฉันหนำซ้ำยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนพลันใจเจ้ากรรมดันเต้นหนักกว่าเดิม 

    “อ...อะไร?” ฉันผลักอีกฝ่ายออกในตอนที่ใบหน้าเราใกล้ชิดกันเกินไปก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน น้องคิวลุกขึ้นตาม  

    “พี่...” 

    “ได้คำตอบแล้วก็กลับไปสิ” ฉันรวบรวมกระดาษทั้งสามใบแล้วยัดไปในมือของอีกฝ่ายจากนั้นจึงดันหลังให้เขาเดินออกไป อาจจะเพราะอาการของฉันที่เป็นอยู่ทำให้น้องคิวยอมเดินแต่โดยดี  

    “ฝันดีครับ” เขาโบกมือให้ในตอนที่อยู่นอกรั้ว ฉันกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะรีบกลับเข้าบ้านไปในที่สุด 

    ทั้งอาการที่เป็น ความรู้สึกที่ได้รับ 

    ฉันว่าฉัน...ชอบเขาเข้าให้แล้วล่ะ 

     

    “ยิ้มแบบนี้อีกแล้วกูขนลุกนะเนี้ย” เสียงทุ้มส่งผลให้ฉันที่กำลังเหม่อเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของประโยคที่กำลังทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้หินอ่อนข้างตัว 

    “ไม่กวนกูสักวันมันจะตายรึไงวะพี่ม่อน” มาก็มาช้ายังจะว่าฉันอีก 

    “ตัวตลกของกลุ่มนี่เนอะ” ซีโพล่งออกมา 

    “สีสันเถอะมึง ใช้คำว่าตัวตลกแล้วรู้สึกแปลกๆว่ะ” พี่ม่อนเถียงกลับเสร็จจึงหันหน้ามาหาฉันพร้อมกับเท้าคางลงกับโต๊ะ “ว่าแต่มึงเถอะ ยิ้มแบบนี้มีเรื่องอะไรแน่ๆ” 

    รู้ทันอีก 

    “ไอ้มีมันก็มีนั่นแหละ” ฉันอมลมในปากพลางคิดไปถึงเรื่องเมื่อสองวันก่อนแล้วฉีกยิ้มออกมา “มึงกูชอบน้องคิว” 

    “…” หากแต่ผิดคาดกับที่ฉันคิดไว้เมื่อทุกคนนั่งมองหน้าฉันนิ่งไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือตกใจอะไรกับสิ่งที่ฉันบอกแม้แต่น้อย 

    “พวกมึงไม่ตกใจเหรอ? ฉันเลิกคิ้ว “กูมีความรักเลยนะเว้ย” 

    “อา พวกกูก็พอเดาได้อยู่” เรย์เป็นคนแรกที่ตอบก่อนนางจะหันไปสนใจสิ่งที่ทำอยู่ก่อนหน้านี้ 

    “ตามนั้น” กราฟกับซียกไหล่อย่างไม่ยี่หระ 

    “ดูไม่ออกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วแหละ” เคนตะชูโทรศัพท์ที่ค้างอยู่หน้าแชทในอินสตาแกรมของน้องคิวซึ่งฉันเป็นคนคุยไว้ ปิดท้ายด้วยพี่ม่อนที่ตบบ่าฉันอย่างให้กำลังใจ  

    อะไรกัน แปลว่าทุกคนรู้ว่าฉันชอบน้องคิวก่อนฉันจะรู้ตัวเองเหรอ...ไม่ยุติธรรมอะ!

      ฉันจิ๊ปากอีกรอบก่อนจะก้มเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยอย่างเคย 

    “จะว่าไปได้ยินไออุ่นพูดถึงน้องบาเทนเอร์คิวอะไรนั่นของมันทุกวันเลยแต่ยังไม่เคยเห็นตัวจริงสักทีเลยว่ะ” หลังจากเงียบอยู่นานกราฟก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนและคำถามนั้นส่งผลให้ฉันกลายเป็นจุดรวมสายตาของทุกคน 

    “กูเคยเห็นแล้ว” พี่ม่อนตอบ 

    “กูเซม” ตามด้วยเคนตะ 

    “แต่พวกกูไม่” เรย์ กราฟและซีโพล่งออกมาพร้อมกันอย่างกับนัดมาก่อนทำเอาฉันกระพริบตามองพวกมันอย่างงงๆ ก็อิแค่หน้าน้องคิวทำไมถึงได้สนใจกันขนาดนั้นวะ

    “งั้นเอางี้” พี่ม่อนเสนอ “วันนี้ก็บุกไปร้านที่ไอ้น้องนั่นอยู่เลย” 

    และเพราะแบบนั้นตอนนี้ทั้งฉันและเดอะแก็งค์ถึงได้มาปรากฏอยู่ภายในร้านเป็นที่เรียบร้อยท่ามกลางความมึนงงของฉัน จำได้ว่าพยายามห้ามแล้วแต่ไงล่ะ ผลที่ได้คือการที่เลิกเรียนเสร็จก็แว็บไปดูหนังก่อนจะมาที่นี่น่ะสิ 

    “โห้ ร้านใหญ่จังวะ” เรย์ที่หันซ้ายหันขวาอ้าปากกว้าง แน่สิที่นี่ใหญ่กว่าร้านประจำของพวกเรากันตั้งหลายเท่า 

    “คนเยอะด้วย” กราฟพึมพำส่วนผู้ชายอีกสามคนไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์อย่างเดียวจนฉันต้องร้องประท้วง 

    “ทำไมไม่เปิดโต๊ะวะ? ฉันยื่นหน้าเข้าไปถามในตอนที่พวกมันนั่งลงบนเก้าอี้ของบาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือเข้าใจปะว่ามากันตั้งหกคนแถมโต๊ะว่างก็มีเสือกเดินมานั่งตรงบาร์ 

    “ถ้าไม่มานั่งตรงนี้...” ซีเว้นประโยคให้ดูน่าเร้าใจ “จะเห็นคนที่ทำให้เพื่อนกูผิดคำพูดเหรอวะ” 

    นี่ก็ย้ำจังไอ้ที่ฉันบอกจะไปสนใจผู้ชายในร้านเหล้าเนี้ย 

    “เออ อยากนั่งก็นั่งไปเลย” ฉันกระแทกเสียงใส่พร้อมกับกระโดดขึ้นนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆเรย์ประจวบเหมาะกับที่มีบาเทนเดอร์เดินมารับออเดอร์พอดีแต่ไม่ใช่น้องคิวหรอกนะ 

    “คนนี้เหรอ? หลังจากสั่งเสร็จแล้วซีก็เอนหน้ามากระซิบถาม 

    “ไม่ใช่” แต่ฉันไม่ได้เป็นคนตอบ ให้ทายสิว่าเป็นใคร...ไอ้พี่ม่อนไง 

    “อ้าว น้องไออุ่น” บาเทนเดอร์คนเดิมหันมาทางฉันพลางเลิกคิ้วราวกับเพิ่งเห็นหน้า เขาทักทายก่อนจะทิ้งท้ายไว้แล้วหมุนกลับไปที่เดิม “เดี๋ยวพี่ไปเรียกคิวมันมาให้นะ” 

    “แม่งรู้จักทั้งร้านแล้วมั้ง” กราฟยังมาทำหน้าไม่อยากจะเชื่อใส่ฉัน ไม่สิทุกคนเลย...ทุกคนหันมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นหมดเลย 

    “จะช็อคกว่านี้ถ้ามึงรู้จักเจ้าของร้าน” ซีกลั้วหัวเราะ  

    ฉันรู้จักบาเทนเดอร์คนนั้นจริงแต่ไม่ถึงกับรู้จักเจ้าของร้านปะวะ ก็ฉันมาบ่อยอะแถมพักหลังมานี้ยังมานั่งอยู่แต่เคาน์เตอร์อีก ความจริงฉันรู้จักบาเทนเดอร์คนอื่นด้วยนะแต่แบบไม่ได้จำชื่ออะ จำแค่น้องคิวคนเดียวก็พอ 

    “น้องเขาจะมาทำงานรึเปล่า” ฉันหันไปมองฝั่งที่เรย์และกราฟนั่งแล้วหันกลับมามองซี พี่ม่อนและเคนตะก่อนจะไหวไหล่เบาๆพร้อมย่นจมูกไปด้วย “น้องเขาอาจจะรู้ว่าพวกมึงมาเลยชิงลาไปก่อนงี้” 

    “มาครับ” 

    “ว๊ายแม่!” ฉันสะดุ้งโหยงในตอนที่หมุนศีรษะกลับมาเหมือนเดิมแล้วปะทะกับใบหน้าหวานที่ก้มลงมาให้อยู่ในระยะเดียวกันพอดี 

    ตึกตัก...ตึกตัก พลันใจก็เต้นแรงขึ้นมา 

    “ดีใจจังที่พี่ไออุ่นมา” มุมปากทั้งสองระบายยิ้มอย่างเริงร่าจากนั้นจึงยืดตัวขึ้นพร้อมกับหันไปมองเพื่อนๆของฉัน “สวัสดีครับผมชื่อคิวนะครับ กำลังจีบพี่ไออุ่นอยู่ ฝากตัวด้วยนะครับ” พูดเสร็จก็ฉีกยิ้มจนตาหยี 

    “น้องมันเอาจริงว่ะ” กราฟชูหัวแม่โป้งให้รุ่นน้องตรงหน้าทำเอาน้องคิวหัวเราะแหยะๆอย่างคนทำตัวไม่ถูก 

    เรย์เขยิบเข้ามาใกล้ก่อนจะยื่นหน้ามากระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคนว่า “น่ารักอะ” 

    “ของกูอย่ายุ่ง” ฉันกระซิบกลับเสียงลอดไรฟัน อาการหวงของแล่นแปร๊ดเข้ามาในทันทีเล่นเอาอีกฝ่ายเบ้ปากมองบนไปมา 

    “โอ๊ย! กูไม่ยุ่งหรอกสัส” 

    หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ฉันกับเดอะแก็งค์ก็นั่งดื่มไปคุยไปตามปกติส่วนน้องคิวก็ไปทำงานบ้างปลีกตัวมาหาฉันบ้างแบบที่เขาชอบทำ ถึงมันจะไม่มีอะไรแต่ทำไมในใจฉันมันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกไม่รู้ อารมณ์แบบขอแค่ได้เห็นหน้าเขาเท่านั้นก็พอ อ๋อ...ลืมบอกไป ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่าตัวเองชอบน้องคิว 

    และถ้าฉันชอบใคร...ฉันจะรุกคนๆนั้นให้ถึงที่สุด 

     

    สองวันผ่านไป 

    ฉันนั่งเล่นโทรศัพท์ตามปกติเนื่องจากวันนี้ไม่มีเรียนบ่าย ไม่มีเรียนมันก็ดีแต่ติดที่ว่าหากไม่มีแพลนหรือจะทำอะไรก็คือว่างเลย ว่างแบบไม่มีอะไรทำ ว่างแบบน่าเบื่อ 

    ฉันนั่งเลื่อนฟีดข่าวตามปกติ เห็นรูปที่เพื่อนๆในเฟสบุ๊คอัพลงว่าได้ไปเที่ยวก็เริ่มรู้สึกอิจฉา ฉันน่ะก็อยากไปเที่ยวบ้างนะ อยู่แต่ในบ้านแบบนี้มันน่าเบื่อ... ระหว่างที่กำลังจะเลื่อนผ่านโพสต์ๆหนึ่งไปพลันต้องหยุดชะงักซะก่อนพร้อมกับอ่านข้อความในนั้น มันเป็นสิ่งที่เพื่อนสมัยมัธยมของฉันคนหนึ่งแชร์มา 

    ‘สถานที่ดูพระอาทิตย์ตกดินในประเทศไทย’ 

    ในนั้นมีสถานที่เยอะแยะไปหมด ฉันนั่งไล่ดูไปเรื่อยๆด้วยความสนอกสนใจภาวนาขอให้มีที่ใกล้ๆเพราะแค่เห็นภาพฉันก็อยากไปแล้วและเหมือนสวรรค์เข้าข้างเมื่อรูปสุดท้ายดันเป็นสถานที่ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากนี้เอง 

    ฉันนึกอะไรบางอย่างออกจึงจัดการแคปหน้าจอนั้นแล้วเปิดเข้าแชทไลน์ในทันที 

    ‘คุณ : ส่งรูปภาพ’ 

    ‘คุณ : น่าไปเนอะ’ 

    ฉันนั่งเฝ้าหน้าจอประมาณสองหน้าที่ได้ข้อความก็ถูกขึ้นว่าอ่านพร้อมกับการตอบกลับของใครอีกคน 

    ‘เจ้างูน้อย : ครับ’ 

    ใช่แล้ว...ฉันทักไปหาน้องคิว 

    ...เมื่อไม่นานมานี้ฉันเปลี่ยนชื่อไลน์เขานิดหน่อยน่ะ 

    ว่าแต่ครับงั้นเหรอ? ฉันส่งไปแบบนี้ก็น่าจะรู้ตัวแล้วปะว่าฉันชวนเขาอะหรือว่าฉันยังไม่เคลียร์? งั้นทักไปอีกหน่อยก็ได้  

    ‘คุณ : อยากไปจังแต่ไม่มีเพื่อนไป’ 

    ข้อความถูกขึ้นว่าอ่านในทันทีแต่รอเกือบสามนาทีก็ไม่ได้รับอะไรกลับมาจนฉันถอนหายใจ ไหนว่าจีบฉันไง โอกาสทองแบบนี้ควรจะคว้าไว้ไม่ใช่? โอ๊ย อยากจะบ้าตาย ...ฉันกดพักหน้าจอก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน 

    ติ๊ง! 

    หมับ! 

    และพอแจ้งเตือนข้อความดังฉันก็รีบคว้ามาเปิดดูตาลีตาเหลือก 

    ‘เจ้างูน้อย : ผมก็อยากพาพี่ไออุ่นไปแต่ไม่อยากไปในฐานะเพื่อน’ 

    ....ริมฝีปากฉันระบายยิ้มอย่างอัตโนมัติ… 

    แค่นี้ก็หลงหัวปักหัวปักแล้วพ่อคุณ! 

     

    ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง 

    แสงสีส้มสุดขอบฟ้ากำลังค่อยๆหายลงไปอย่างเชื่องช้าปล่อยให้ฉันนั่งชมความงดงามของมัน ยามมองไปทำให้จิตใจเริ่มสงบและผ่อนคลาย หัวใจฉันเต้นเร็วและรัวขึ้นไม่ใช่เพราะได้มาดูพระอาทิตย์ตกแต่เพราะได้มาดูพระอาทิตย์ตกกับคนที่ชอบต่างหาก บรรยากาศในตอนนี้น่ะโรแมนติกสุดๆถ้าไม่ติดตรงที่ว่า... 

    “พี่ผมไม่ไหวแล้วผมง่วง” 

    หมดกันความโรแมนติกฉัน 

    เสียงที่งัวเงียนั้นบ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดเล่นแต่อย่างใด ก็แน่ล่ะฉันมาที่นี่ตั้งแต่สี่โมงกว่าๆจนตอนนี้หกโมงแล้ว เออฉันมันผิดเองที่คิดว่าการมาดูพระอาทิตย์ตกดินมันจะทำให้ตื่นเต้นไม่ใช่ง่วงนอนแบบนี้ 

    “งั้นกลับกันเลยก็ได้พระอาทิตย์ตกพอ...อ๊ะ!” ฉันสะดุ้งเมื่อมีแรงจำนวนหนึ่งพุ่งลงมาที่ตักในตอนที่ฉันกำลังชวนเขากลับ พอมองลงไปก็เห็นว่าแรงนั่นเป็นศีรษะของน้องคิว  

    เดี๋ยวนะแสดงว่าตอนนี้...น้องคิวกำลังนอนตักฉัน! 

    “ขอผมงีบสักแป็บนะครับไม่งั้นขับรถกลับไม่ไหวแน่” เสียงงัวเงียดังออกมาจากคนที่ยังคงหลับตาพริ้มอยู่ ฉันมือไม้แข็งทื่ออย่างคนทำตัวไม่ถูกเลยได้แต่นั่งให้อีกฝ่ายซุกตัวเข้ามาหา เล่นทำแบบนี้ฉันก็ต้องแขม่วพุงเลยอะดิไม่งั้นเดี๋ยวเขาจะล้อว่าฉันมีพุงหมาน้อย...ไม่สินั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่าลมหายใจร้อนอุ่นกำลังรดผ่านเสื้อบริเวณหน้าท้องฉันต่างหาก 

    จั๊กจี้ชะมัด... 

    เหมือนเห็นว่าลมหายใจของคนบนตักเริ่มสม่ำเสมอแล้ว ฉันจึงผ่อนลมหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปลูบผมของน้องคิวอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมากลางคัน 

    น่ารักจัง เล่นเอาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้เลย 

     

    หลายวันต่อมา 

    “เฮ้ยๆเอากรรไกรมานี่ดิ” 

    “ใครก็ได้ใส่ด้ายให้ทีกูมองไม่เห็น!” 

    “กรี๊ด ไอ้คิวเอางูมึงออกไปไกลๆเลยกูขนลุก!” 

    “โอ๊ย ใครมันเอาสีดำมาแทรกตรงนี้วะ!” 

    ฉันนั่งมองสามหนุ่มหนึ่งสาวที่กำลังส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวายในขณะที่มือยังคงตั้งใจจัดการเย็บชุดตามที่ร่างในแบบไว้อย่างขมักขเม้น 

    วันนี้ฉันมานั่งดูกลุ่มน้องคิวทำชุดกันน่ะ ความจริงฉันมาดูตั้งแต่สามวันที่แล้วแล้วล่ะจนฉันสนิทกับเพื่อนๆเขาไปแล้ว ในกลุ่มเขามีสี่คนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งชื่อน้องแก้วและผู้ชายอีกสามคือน้องคิว น้องทัชและน้องยักษ์ที่ฉันเคยเจอแล้วครั้งหนึ่ง 

    “พี่ไออุ่นกลับบ้านเลยไหมครับเดี๋ยวผมไปส่ง? น้องคิวละสายตาจากผ้าในมือแล้วเดินเข้ามาหาฉันที่นั่งอยู่บนโซฟา ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะขมวดคิ้ว 

    “เพิ่งสองทุ่มเอง” ปกติบางวันฉันก็กลับสี่ทุ่มนู้นแหละ คืออยู่ห้องก็ไม่มีอะไรทำไงเลยมานั่งดูเขาเผื่ออะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยๆไป อ๋อ...พวกเขาทำชุดกันที่บ้านน้องคิวน่ะ ช่วงนี้เห็นเขาบอกว่าลางานที่ร้านไว้แล้ว 

    “แต่วันนี้พวกนี้มันนอนที่นี่” น้องคิวบุ้ยหน้าไปทางเพื่อนข้างหลังของเขา 

    “แล้ว? 

    “วันนี้พี่มาตั้งแต่เช้าแล้ว อยู่กับพวกนี้นานไปแล้ว” เสียงเขาเริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจ 

    “หวง? 

    “ครับ” ตั้งแต่คราวไปดูพระอาทิตย์ตกดินครั้งนั้นความสัมพันธ์เราก็เริ่มดีขึ้น เห็นไหมฉันคิดถูกแล้วที่พาเขาไป ฉันพยักหน้าก่อนร่างสูงจะเดินไปหยิบตู้ที่ภายในมีแซงเกรียอยู่ยื่นมาให้ฉัน “งั้นผมฝาแซงเกรียหน่อยนะครับ พอดีแก้วมันไม่ค่อยถูกกับงูเท่าไหร่อีกอย่างเหมือนแซงเกรียจะชอบพี่ด้วย” 

    “ได้สิ” ฉันรับปาก น้องคิวระบายบิ้มกว้างพลางโน้มเข้ามาใกล้ 

    “น่าอิจฉาจังนะครับ ทั้งสัตว์เลี้ยงทั้งเจ้าของต่างชอบพี่หมดเลย” 

    ให้ตายสิ น้องคิวกำลังทำฉันคลั่งเขาขึ้นทุกวัน 

    ร่างสูงไม่พูดอะไรต่อ เขาผ่านหน้าฉันไปฉันจึงเดินตามเขาไปยังรถมอเตอร์ไซค์คันโต ใช้เวลาไม่นานน้องคิวก็พาฉันมาส่งยังบ้าน 

    “อยากอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้จัง” พร้อมกับงอแงกลับมาด้วย 

    ไหนบอกว่าวันนี้ฉันมาตั้งแต่เช้าแล้วไงยะ “ก็อยู่สิ” 

    “หือ...” ผู้ชายตรงหน้าเลิกคิ้ว เดี๋ยวนี้ฉันหยอดเขาประจำแหละไม่อยากจะโม้ “นี่พี่ไออุ่นชวนผมเข้าบ้านเหรอ? 

    “ก็ไม่ได้ห้ามนะ” ฉันเบนหน้าไปทางประตูรั้วที่เปิดอ้าไว้อยู่ น้องคิวส่งสายตาแพรวพราวขึ้นมาแว็บหนึ่งก่อนจะหายไป 

    “เฮ้ยพี่ ผมคิดจริงนะเนี้ย” น้ำเสียงนั้นฟังดูยานคางกว่าปกตินิดหนึ่ง 

    “ฮ่าๆกลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว” สุดท้ายก็จบลงที่ฉันโบกมือข้างที่ว่างไล่เขา อย่างที่ว่าวันนี้เขาทำงานมาทั้งวันแล้วคงจะเหนื่อยแย่ฉันเลยไม่อยากจะรบกวนอีกฝ่ายอีก แค่เขามาส่งฉันโดนรถไม่ล้มได้นี่ก็บุญแล้ว 

    “ครับ” ร่างสูงส่งยิ้มมาให้พลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ช่วงนี้ผมต้องทำชุดเลยไม่ค่อยว่าง”  

    “...” 

    “ไว้เสร็จเมื่อไหร่ผมจะมาอ่อยมาหยอดพี่อีกนะครับ” 





    [อัปครบ]

    100% : โอ๊ยย น้องคิวคนน่ารักกกกกก
    ทางโรงพิมพ์บอกว่าหนังสือจะมาถึงไรท์วันที่7นี้นะคะ รอกันหน่อยน้าาา
    แล้วก็ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายที่ไรท์จะอัปลงเว็บนะคะ ยังไงก็ขอฝากเรื่องใหม่ที่จะลงต่อจากนี้ด้วยน้าาา


    Next, Say Hy สุภาพมากมั้ง!



    เพราะได้ยินเสียงข้างห้องมีอะไรกันจนไม่ได้หลับได้นอน 
    วันต่อมาฉันจึงตัดสินใจท้าวสะเอวยืนด่าเจ้าห้องห้อง520โดยไม่ลืมหูลืมตาและไม่รอให้เขาได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น
    ใครมันจะไปรู้ว่าหลังจากนั้นฉันกลับเจอเขาในฐานะเพื่อนสนิทของพี่ชายที่แสนสุภาพนามว่า 'ฮาย'
    พี่ฮายเขาหล่อ พี่ฮายเขาเก่ง พี่ฮายเขาเพอร์เฟคแต่เสียอย่างเดียว...พี่เขานิสัยดีเกินไป! 
    "สโนว์ไม่ชอบอะไรในตัวพี่ครับ?"
    "พี่นิสัยดีเกินไปว่ะแม่ง มันดูตอแหล"
    "เอาอีกแล้วนะครับ พูดไม่เพราะอีกแล้วไม่น่ารักเลย"

    "ถ้าพี่จูบสโนว์แล้วสโนว์สุภาพขึ้นมาได้...พี่จะยอมจูบสโนว์ทั้งวันเลยครับ"




    66% : ไออุ่น เธอมันร้าย!
    เรื่องนี้ไรท์อัปลงในเว็บไม่หมดนะคะ เดี๋ยวจะอัปอีกไม่กี่ตอนก็จะหยุดอัปแล้ว น่าจะหลังส่งหนังสือสักสี่ห้าวันค่ะ 


    37% : เขารู้กันทั่วแล้วไออุ่นนน มีแต่เธอนั่นแหละ!
    ปล.ทางโรงพิมพ์บอกว่าส่งเล่มตัวอย่างมาให้แล้วนะค้าา ได้เล่มเมื่อไหร่จะมาแจ้งน้า


    0% : มาเปิดเจิมกันค่าา ช่วงนี้อาจจะมาไม่ถี่เท่าไหร่นะค้าาา


    1 เมนต์ = 1กำลังใจน๊า

    พูดคุยกันได้ที่
     Facebook : Black Paradises คลิก
    Twitter : @black_paradises #ไออุ่นของคิว

    Drink on me SET ]




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×