ตอนที่ 8 : [รีอัพ] หมอต้าคนอ่อย : Chapter 6


6
“ไม่ปล่อยค่ะ” ผมบอกเสียงนิ่ง “หยุดดิ้นได้แล้ว”
“ไม่!” ร่างบางตอบฉับพลัน เธอตวัดสายตามามองผมที่ก้มมองอยู่ก่อนแล้ว แววตานั้นดูหงุดหงิดแต่ไม่ใช่เรื่องผมที่ไปขัดจังหวะเธอกับผู้ชายคนนั้นแน่ผมมั่นใจ
แต่หงุดหงิดเรื่องอะไรวะ?
นี่กูทำอะไรผิด?
อ้าว...เชี่ยแล้วไอ้ต้า
“เป็นอะไรคะ?” ผมถามแต่ยัยตัวดีกลับไม่ตอบ หนำซ้ำยังกระชากมือออกจากการกอบกุม ผมไม่ได้ขัดขืนอะไรเธอเลยชักมือออกไปง่ายดาย ยัยเด็กขี้งอนดึงถุงบราวนี่ไปจากมือของผม เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะไม้หินอ่อนใกล้ๆก่อนจะลงมือแกะถุงนำบราวนี่ขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆ
โมโหหิว?
“ค่อยๆกินสิคะ” ผมบอกพลางทรุดตัวนั่งลงตรงข้ามเธอ ดูเหมือนผู้หญิงตรงหน้าจะหงุดหงิดจนลืมไปเลยว่าผมไปเอาเงินที่ซื้อบราวนี่มาจากไหน ซึ่งมันก็ดีขี้เกียจโกหก
“…” ไม่ตอบ
คงไม่ใช่โมโหหิว...
“ลี่เป็นอะไรบอกหมอหน่อยได้มั้ยคะคนดี?” เพราะพ่อเคยสอนไว้ว่าเวลาจะง้อใครให้พูดเสียงเพราะๆ
“…” นอกจากไม่ตอบแล้วยังกินบราวนี่นั้นโดยไม่ชวนอีก
นี้ผมมาถึงจุดๆนี้ได้ยังไง?...
...จุดที่บราวนี่สำคัญกว่าคนหล่ออย่างผม!
“ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นเลยไม่ตอบสินะคะ”
ควับ!
ทีแบบนี้แล้วหันมาเร็วเชียว
“สนิทกันดีนะคะ” พูดแล้วเคืองไม่หาย ทั้งๆที่ผมจีบเธออยู่แท้ๆแต่เธอดันไปอ่อยผู้ชายคนอื่น...ต่อหน้าผมเลยด้วยซ้ำ! ยัยผู้หญิงขี้อ่อย!
“ก็ไม่ได้ไปยืนกอดผู้หญิงคนไหนแบบหมอนี่คะ!” แรลลี่พูดกระแทกกลับมา แทนที่ผมจะโกรธเธอแต่รู้ไรมั้ย? ว่าผมรู้สึกเนื้อเต้นสุดๆ มุมปากก็เผลอยกยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
“หึงเหรอคะ?”
ตอนแรกก็ไม่อยากให้หงุดหงิด ไม่อยากให้งอน แต่พอแสดงท่าทีว่าหึงผมก็อยากให้เธอเป็นแบบนี้ต่อไป...
...รู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มเข้าไปอยู่ในชีวิตของเธอทีละนิด
“คะ...ใครหึงกันคะอย่ามามั่วนะ!” ไอ้ท่าทางเลิ่กลั่กของเธอมันทำเอาผมกลั้นหัวเราะเอาไว้แทบไม่อยู่ ผู้หญิงอะไรเวลาไปต่อไม่ถูกนี้น่ารักชะมัด
อยากจับมาฟัดซะให้เข็ด
...เอาให้ลุกไม่รอด
คิดไรของมึงวะต้า! พอ! เลิก!
“น้ำหวานเป็นน้องของเพื่อนหมอค่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแค่ทักทายเฉยๆ” ผมอธิบายไปโดยไม่สนใจว่าร่างบางตรงข้ามจะต้องการฟังหรือไม่
“ไม่ได้ถามสักหน่อย” เธอบ่นอุบอิบแต่ผมดันได้ยินไง พอดีเป็นคนหูดี...อย่าผวนนะ
“แล้วผู้ชายคนนั้นละคะ?” ผมบอกแล้วว่าน้ำหวานเป็นใคร เธอก็ต้องบอกผมว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร
ตอบให้ดีนะ ตอบไม่ดีมีข้ามขั้น
ไม่จงไม่จีบมันแล้ว...
“เพื่อนที่มหา’ลัยค่ะ”
“แล้ว?”
“แล้ว?” แรลลี่เอียงคอมองผม หัวใจผมเต้นกระหน่ำกับท่าทางนั้น นี่เธอจงใจอ่อยผมหรือไม่รู้กันแน่ว่าไอ้ที่เธอทำอยู่เนี้ยมันน่ารัก!
“ทำไมต้องเอาหน้าไปใกล้เขาขนาดนั้นคะ?”
“เอาหน้าไปใกล้ยังไงคะ?” เธอยังคงถามต่อ
“อย่างงี้ไงคะ” ไม่รอให้เธอตั้งตัว ผมก็สาธิตโดยการยื่นหน้าเข้าไปใกล้ร่างบางจนปลายจมูกเราชนกัน ผมรับรู้ว่าลมหายใจของแรลลี่สะดุด ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยคู่นั้นที่สั่นระริก มันช่างดึงดูดผมเหลือเกิน ผมค่อยๆเอียงคอให้ได้องศาแล้วเลื่อนริมฝีปากเข้าไปใกล้ริมฝีปากบางของคนตรงหน้า
“มะ...ไม่ได้ชิดกันขนาดนี้สักหน่อย” แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรแรลลี่ก็สะบัดหน้าหนีทำให้ผมพลาดเป้าไปจูบที่แก้มของเธอแทน แก้มเนียนนุ่มของเธอเริ่มขึ้นสีระเรื่อ ตาเบิกกว้าง
อา...หอมจัง
ฟอด!
“งั้นเหรอคะ” ผมสูดลมหายใจแรงๆแล้วตีหน้าซื่อกลับมานั่งที่เดิม ยอมรับว่าแค่หอมแก้มเธอมันกลับทำใจหัวใจพองโตอย่างน่าประหลาด
จะทนต่อไปได้นานแค่ไหนวะเนี้ย?
Tar End Talk
สองวันผ่านไป
“หล่อสุดอะ” ฉันเปิดรูปนักร้องน้องใหม่วงบอยแบนด์ให้ยัยแองเจลดู แต่นอกจากเธอจะไม่สนใจแล้วยังมานั่งเหม่ออีกต่างหาก
กำลังอวดผู้อยู่นะอย่ามาเมินกันสิ!
“ยัยแองเจล!” ฉันขยับตัวไปตะโกนข้างๆหูเพื่อนสนิท เธอสะดุ้งแล้วหันมาค้อนใส่ฉัน ฉันยักไหล่อย่างไม่แยแส เธอกล้ามาเมินการชมผู้ชายของฉันก่อนทำไมล่ะ ผู้ชายหล่อสำคัญมากนะเฮ้ย
ตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยจนมาถึงวันนี้ที่เป็นวันนัดไปพบเขาที่โรงพยาบาลตอนหกโมงเย็น ใจหนึ่งฉันก็ไม่อยากไปเพราะกลัวว่าเวลาเจอหน้าเขาแล้วจะทำตัวไม่ถูก ก็วันนั้นเขาเหมือนจะจูบฉันแต่ฉันหลบได้ทันเลยโดนแค่แก้ม แต่ถึงอย่างนั้นมันจะทำตัวไม่ถูกอยู่ดีนั่นแหละ
“ก็แกไม่ยอมตอบอะ ดูน้องจูเนียร์ของฉันสิ” ฉันยื่นโทรศัพท์ที่ยังคงเปิดรูปสมาชิกในวงไปใกล้ๆแองเจลจนนางต้องดันมันออกเพราะใกล้เกินไป เธอมองโทรศัพท์ฉันแวบหนึ่งก่อนจะถอนหายใจ
“ก็ใช้ได้”
“ใช้ได้อะไร นี่มันโคตรหล่อเลยนะเฮ้ย!” แถมกำลังดังสุดๆอยู่เลยด้วย เรดาห์ตรวจทานคนหล่อของเธอมันหายไปไหนหมดแล้วหะยัยแองเจล
ครืด ครืด
การสั่นระยะสั้นของโทรศัพท์ในมือบ่งบอกว่ามีข้อความส่งมาเพราะเมื่อกี้เพิ่งเรียนมาฉันเลยเลือกที่จะปิดเสียง ฉันชักมือกลับมาดูข้อความในโทรศัพท์ของตัวเองก็พบว่ามันเป็นไลน์ของกลุ่มคณะ
“ตีมของคณะเราคือแฟนตาซีนะจ๊ะทุกคน อย่าลืมไปหาชุดด้วยเพราะงานเริ่มจะถึงแล้ว” ฉันอ่านข้อความในไลน์ออกมาเสียงดังเล็กน้อยให้ยัยแองเจลได้ยินด้วยเพราะเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเล่นไลน์สักเท่าไหร่ถ้าฉันไม่บอกมีหวังไม่รู้แหง คนบ้าอะไรอยู่ได้โดยไม่เล่นไลน์วะ
“ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์แล้วทับด้วยแจ็กเก็ตได้มั้ย? ดูแฟนตาซีดีออก”ยัยเพื่อนตัวดีพูดออกมาเสียงเบื่อหน่าย แองเจลเป็นคนที่แต่งตัวเป็นนะแต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าไอ้เสื้อยืดกางเกงยีนส์แล้วทับด้วยแจ็กเก็ตมันแฟนตาซีตรงไหน?
“ไม่ได้ยะ งานนี้เราต้องสวย จะได้ไปแอ๊วหนุ่ม”
งานที่พวกฉันกำลังพูดถึงคืองานกระชับความสัมพันธ์ของคณะบัญชีและคณะวิศวะที่จะจัดขึ้นภายในเร็วๆนี้ ซึ่งแต่ละคณะก็จะมีตีมไม่เหมือนกันส่วนคณะฉันคือตีมแฟนตาซี
“แอ๊วได้ที่ไหน” แองเจลบ่นงุบงิบแต่ฉันไม่สนใจ ยังคงกดเลื่อนรูปผู้ชายต่อไปเรื่อยๆ
“งั้นพรุ่งนี้ไปเช่าชุดกัน” พรุ่งนี้ไม่มีเรียนพอดีฉันจึงรีบชวนยัยแองเจลไปเลือกชุด ให้ไปเลือกช้ากว่านี้มีหวังร้านเต็มแน่ๆ มีเตรียมไว้ก่อนไม่เสียหายอะไร
“ทำไมไม่ไปวันนี้?” อยู่ๆยัยแองเจลก็หันมาถามทำเอาฉันสะอึกไปเลย
“ก็...ก็” ก็วันนี้ฉันมีนัดกับหมอต้าไงเล่า
“…” ยัยแองเจลเงียบ จ้องหน้าฉันด้วยสายตาจับผิดสุดๆ
“เดี๋ยวพ็อตเตอร์จะมารับไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่อยากขัดขวางพวกหล่อนหรอกนะยะ” เมื่ออับหนทางฉันก็ถือวิสาสะแซวเพื่อนไปในตัว เดี๋ยวนี้จะไปไหนมาไหนพ็อตเตอร์ก็จะไปรับไปส่งเธอประจำ ผัวในมโนSOLD OUT ไปอีกหนึ่งคน
“ขัดขวางบ้าอะไรเล่า” แองเจลหลบสายตาก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ไปห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา”
“เคๆ” ยัยแองเจลเดินออกไป ฉันจึงก้มลงเลื่อนรูปดูต่อไป คนนี้ก็หล่อ คนนู้นก็งานดี เลือกไม่ถูกค่ะ ไม่รู้จะมโนคนไหนก่อนดี เครียดมาก!
“เธอๆ” ระหว่างที่กำลังหวีดผู้อยู่ดีๆก็มีเสียงนุ่มที่ปนหอบดังมาจากข้างหลัง
“…” ไม่รู้ว่าเรียกใคร นั่งดูรูปผัวต่อไปค่ะ
“เฮ้! เธอน่ะ”
“…” คนนี้ก็หล่อง่ะ
“เรียกไม่ได้ยินอ๋อ?” แรงสะกิดที่หัวไหล่ทำให้ฉันละสายตาจากโทรศัพท์ ผู้ชายหน้าหล่อคนหนึ่งยืนทำหน้าบึงตึงอยู่ข้างๆฉัน เขาคือใครอะ ทำไมหล่อจัง?
“…” ดูใบหน้าเนียนขาวกับปากอมชมพูนั้นสิ
“เธอๆ เฮ้! ยังอยู่มั้ย?” เขาใช้มือปัดไปปัดมาข้างหน้าฉัน
“ยะ...อยู่ มีอะไร?” ฉันหลุดจากภวังค์พลางทำเป็นเล่นโทรศัพท์ แต่สายตาก็เหลือบมองเขาเป็นระยะๆ หล่อจริงเลยเว้ยพ่อคู้ณณณ!
“เธอลืมของไว้ ฉันหาตั้งนาน” ฉันเงยหน้าขึ้นมองกระเป๋าเงินของตัวเองที่เขายื่นมาให้ นี่ฉันลืมกระเป๋าเงินอีกแล้วเหรอเนี้ย? เดี๋ยวเปลี่ยนกระเป๋าตามสีมงคลซะเลย
“ขอบใจนะ ฉันนี่ทำตกทุกทีเลย” ฉันรับมาไว้แล้วหัวเราะแห้งๆ
“ฉัน ‘แดน’ นะ เธอ...” เขาแนะนำตัว
“แรลลี่” ฉันก็เลยบอกชื่อตัวเองไปเท่านั้น ไม่รู้จะคุยอะไรต่อดี แดนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินมาลูบหัวฉัน
“เจอก็ทักได้ เรียนคณะเดียวกัน” พูดจบก็เดินห่างออกไป ทิ้งฉันให้ตกภวังค์อยู่คนเดียว สัมผัสจากฝ่ามือเขายังคงอยู่หากแต่มันแตกต่างกับอีกคนหนึ่งที่ชอบลูบหัวฉันอย่างสิ้นเชิง
ของหมอต้าอบอุ่นกว่า...
แล้วฉันจะไปคิดถึงเขาทำไมเนี้ย!?
ว่าแต่ทำไมช่วงนี้ถึงได้มีแต่ผู้ชายมาลูบหัวฉันล่ะ…ให้ตาย
“มาช้าค่ะ”
ทันทีที่ฉันเปิดประตูห้องตรวจเข้ามาร่างสูงที่อยู่ในชุดกาวน์ก็ทักในทันใด ฉันก้าวเท้าเข้าไปใกล้ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงเก้าอี้เลื่อนตรงข้ามกับเขา
“รถติดค่ะ” ฉันตอบยิ้มๆ มาช้าไปเกือบสิบนาที ตอนแรกคิดว่าคงข้ามคิวฉันไปแล้วแน่ๆแต่กลับไม่ใช่เมื่อฉันยื่นบัตรนัดพยาบาลสาวก็บอกว่าให้ฉันเข้าไปเลยหมอรออยู่ก่อนแล้ว
“ยาหมดรึยังคะ?” หมอต้าหยิบเอกสารมาอย่างขึ้นมามองก่อนจะเลื่อนแมสขึ้นปิดใบหน้า เขาเอื้อมไปหยิบแท่งสแตนเลสบางๆมาถือไว้
“เหลืออีกไม่กี่เม็ดค่ะ” คือความจริงมันควรจะหมดตั้งนานแล้วแหละถ้าไม่ติดว่าฉันลืมเกือบทุกที
“อ้าปากค่ะ” ฉันทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย หมอต้าใส่แท่งนั้นเข้ามาสำรวจในโพล่งปากเล็กน้อย เมื่อสำรวจจนพอใจเขาจึงดึงมันออกแล้วเลื่อนแมสลง “แอบไปกินน้ำแข็งมาใช่มั้ยคะ? นอกจากมันจะไม่หายแล้วยังแย่ขึ้นด้วย”
ฉันหน้าจ๋อยลงทันทีที่เขาจับได้ สาเหตุที่มาช้านอกจากรถติดแล้วคือการที่ฉันแวะซื้อน้ำโกโก้ปั่นข้างทางด้วย จะให้คนติดของหวานอย่างฉันเลิกกินพวกน้ำแข็งพวกนี้ไม่ได้หรอกนะ
“ละ...ลี่แค่รู้สึกอยาก” ฉันสารภาพเสียงอ่อย
“ถ้าอยากมากก็ห้ามกินไปก่อนสิคะ ทนไม่กินไปแป๊บเดียวดีกว่าพอแย่ก็จะไม่ได้กินเลยดีกว่านะคะ หัดอดทนให้ได้มากกว่านี้หน่อย ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” หมอต้าบอกเสียงดุ บ่นเป็นพ่อเลยแง้
“…ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับคำของเขา ไอ้ความรู้สึกที่เหมือนเด็กโดนผู้ใหญ่ดุข้อหาแอบลักลอบกินลูกอมนี่มันคืออะไร?
“ถ้ามันแย่กว่าเดิมคงอาจผ่าตัด...”
“ผ่าตัด!” ฉันโพล่งออกมาก่อนที่หมอต้าจะพูดจบ ไม่เอาไม่ผ่าตัด!
“ไม่อยากผ่าตัดก็หายไวๆสิคะ ห้ามกินน้ำแข็งอีกแล้วเข้าใจมั้ย?” คำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้าของฉัน “หรืออยากให้หมอเป็นคนไปดูแลแทนคะ?”
“...” นี่เขาอ่อยฉันอยู่เหรอ?
“หมอโอเคนะคะถ้าลี่ต้องการให้หมอไปอยู่ดูแล ไปวันนี้เลยยังได้” ชัดเลย แบบนี้กำลังอ่อยฉันอยู่ชัวร์
คนอะไรอ่อยด้วยหน้าตาน่ารักแบบนั้นกัน
เดี๋ยวหัวใจฉันมันก็ทรยศเข้าสักวันแล้วฉันเผลอปล้ำเขาจะทำยังไง?
วี๊ดดด คิดบ้าอะไรของแกเนี้ยอิลี่!
“ไม่ต้องเลยค่ะหมอ อย่ามาแอ๊วซะให้ยาก”
“หวา รู้ตัวด้วยแฮะ” ไอ้ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเขามันทำเอาฉันอยากจะเข้าไปตะกุยหน้าหล่อๆนั้นสักสองสามที แต่ติดที่ว่าถ้าทำฉันก็จะไม่มีอาหารตาแถมยังอาจจะโดนแฟนคลับเขาฆ่าให้สักวัน
“คราวหลังอย่ามาอ่อยกันแบบนี้อีกนะคะหมอ”
“ทำไมคะ?”
“เดี๋ยวหลง” พูดอย่างเดียวไม่พอฉันจึงส่งสายตาแพรวพราวไปให้เขาแต่ก็ต้องเกือบหงายหลังตึงกลับประโยคที่ร่างสูงตอบกลับมา
“ยอมให้หลงค่ะ”
เอาแล้วไง ไม่น่าไปเปิดทางให้เขาสวนกลับได้เลย
ดาเมจช่างรุนแรงเหลือเกินค่ะหมอขา ฮือออ...
“เดี๋ยวหมอให้ยาไปเพิ่มนะคะ” หลังจากที่เงียบมานานหมอต้าก็เป็นฝ่ายพูดขึ้น เขากดพิมพ์อะไรยุกยิกลงบนแป้นพิมพ์ซึ่งฉันคาดว่าน่าจะเป็นรายการยา ฉันจึงลุกขึ้นยืนแล้วโค้งตัวเล็กน้อย
“งั้นลี่กลับก่อนนะคะ จะได้ไม่กินเวลานัดคนอื่นด้วย”
“คนอื่นที่ไหนคะ” ก่อนที่ฉันจะได้หมุนตัวกลับไปหมอต้าก็ชิงพูดดักขึ้นก่อน “หมอเลิกเวรแล้วค่ะ ลี่เป็นคนสุดท้าย”
‘ลี่เป็นคนสุดท้าย’
‘ลี่เป็นคนสุดท้าย’
คำพูดนั้นวนลูปอยู่ในหัวฉันอย่างกะคนเปิดเล่นวิดีโอซ้ำๆ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เขาพูดมันคนละเรื่องกับที่ฉันคิดแต่คนเพ้อฝันแบบฉันจะเหลือเหรอ คิดไกลไปถึงกาแล็กซี่แอนโดเมดาร์แล้วจ้า
ฉันมองหน้าหล่อๆด้านข้างของเขาเพราะกำลังรัวแป้นพิมพ์อยู่
อา...หล่อจังเลย ด้านข้างยังหล่อ
“คนสุดท้ายจริงเหรอคะ?” ไอ้ปากไม่รักดี ไปหลุดถามเขาแบบนี้ได้ยังไงหะ
กึก และเหมือนว่าเขาจะชะงักกับคำพูดของฉัน ร่างสูงผละมือออกจากแป้นพิมพ์ก่อนจะค่อยๆหันหน้ามามองฉัน
“มะ...ไม่ต้องสนใจหรอกคะลี่แค่...” ฉันเริ่มลนลาน
“อยากให้เป็นคนสุดท้ายมั้ยล่ะคะ?” แต่คำถามของหมอต้าทำเอาฉันช็อคกลางอากาศ กลืนคำแก้ตัวเมื่อกี้ทั้งหมดลงคอกลับไป ไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือเล่นเพราะแววตาคู่นั้นเดายากเหลือเกิน
“คนสุดท้ายก็ดีสิคะ” ฉันยิ้มบาง “หมอจะได้ไม่เหนื่อย” แล้วจึงเฉไฉพูดถึงความหมายที่แท้จริงของคำพูดนี่ หมอต้ายืนนิ่งพักหนึ่งเขาจึงยอมพูดออกมา
“อ๋อ” ร่างสูงถอนแมสปิดปากออก
“…” ฉันยื่นนิ่งอยู่กับที่ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องมายืนมองเขาอย่างนี้แทนที่จะเดินออกไปแบบคนไข้รายอื่นๆ
“ลี่รอข้างนอกแป๊บนะเดี๋ยวหมอออกไป” เขาพูดแล้วถอดเสื้อกาวน์ออก คำพูดของเขาทำเอาฉันเอียงคอฉงน
“รอ? รอทำไมคะ?” หรือเขาจะตรวจเจอว่าฉันเป็นโรคร้ายแรงเลยจะพาไปเอ็กซเรย์!
ไม่นะฉันไม่พร้อมจะเป็นโรคร้ายแรงตอนนี้
…ผัวยังหาไม่ได้เลยค่ะ!
“กลับบ้านพร้อมกันค่ะ
[อัพครบ]
100% : กรี๊ดดด ฉันอยากได้หมอ!
ใครอยากได้หมอก็อย่าลืมสั่งหนังสือนะคะ ขอพื้นที่ขายของแป๊บบบ55555
พรุ่งนี้ไรท์จะเปิดกิจกรรมแจกหนังสือในเพจน๊า อย่าลืมไปติดตามไว้ล่ะอิอิ
"กลับบ้านด้วยกันมั้ยครับ?..."
70% : กรี๊ดดด อยากเป็นนางเอกอะ5555555 อิจฉาสุดไรสุด
40% : นั่นสิคะจะทนไปได้ขนาดไหน55555555
หมอต้าเปิดพรีอยู่น๊าใครยังไม่มีมาสอยนางไปเร็วววว
ส่วนอีบุ๊คไรท์เพิ่มตอนพิเศษให้แล้วนะคะใครซื้อไปแล้วก็อย่าลืมไปอ่านน๊าา
ตอนนี้เรื่องหลักของไรท์จะเป็นเรื่องนี้นะคะ ยังไงก็ฝากด้วยเด้อออ เป็นแนวฟีลกู๊ดไร้สาระเช่นเดิมค่ะ5555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เค้าอยากอ่านนนน อัพๆๆๆๆ พลีสสสสส
เอ่อ.....ลี่เอ้ยยย ถ้าหมอจะอ่อยขนาดนี้..จับทำหลัวเลยลูก...อ่อยเบอร์แรงงงงงงงมากกก