ตอนที่ 4 : [รีอัพ] หมอต้าคนอ่อย : Chapter 3


3
Tar Talk
ผมยืนมองรถของแรลลี่จบลับตาก่อนจะหมุนตัวเดินข้ามถนนกลับไป ผมบอกเธอว่าจอดรถแถวนี้แต่ความจริงมันไม่ใช่ รถของผมจอดอยู่ข้างๆร้านนั่นแหละ
วันนี้ผมนัดแรลลี่ให้มาเอากระเป๋าที่ร้านใกล้ๆกับมหา’ลัยของเธอ พอผมเห็นเธอในลุคนักศึกษาผมนี่แทบจะกระโดดไปหาเธออยู่แล้ว
ผู้หญิงอะไรใส่ชุดนักศึกษาได้น่าฟัดชะมัด
Rrrr
พอผมขึ้นมานั่งบนรถได้ไม่นานโทรศัพท์ก็แผดเสียงขึ้น หน้าจอแสดงชื่อของคนที่โทรมาว่า ‘เพทาย’ เพื่อนสนิทของผม ไม่รอช้าก็เชื่อมกับหูฟังไร้สายแล้วกดรับ
“ไง”
[มางงมาไงอะไรล่ะไอ้คุณหมอ] เสียงปลายสายอันคุ้นเคยตอบมาแทบจะในทันที
“แล้วจะให้ทักว่าไร ไอ้เวรอย่างงี้เหรอ?” ผมตอบกลับไปในขณะที่กำลังเลี้ยวรถออกจากซอย
[เป็นหมอแล้วแม่งควรจะสุขุมกว่านี้ป่ะ? ไม่ใช่กวนตีน]
“แล้วมีกฎหมายมาตราไหนเขาบอกว่าเป็นหมอแล้วห้ามกวนตีนวะ?” ไอ้คนที่นิยามว่าหมอต้องใส่แว่น อยู่เรียบร้อยสุขุมนุ่มลึกนี่ใครวะเพราะแม่งโคตรจะตรงกันข้ามกับผมและกลุ่มเพื่อนหมอของผมโดยสิ้นเชิง
[พอๆ นี่มึงอยู่ไหน?] น้ำเสียงระอาดังออกมาผ่านหูฟัง
“เพิ่งออกมาจากร้านนั้น”
[ร้านไหนวะ?] มันตอบกลับมาทันที
“ร้านนั้น”
[เออ! นั่นแหละร้านไหน?] ผมถอนหายใจออกมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องอธิบายชื่อร้านให้ไอ้ทายฟัง ก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าของร้านแม่งจะตั้งชื่อให้มันสับสนทำไม
“ร้านนั้นข้างมอ.S อะ” หลังจากอธิบายจบมันก็ร้องอ๋อออกมา
[อ๋อ...แล้วมึงไปทำไรแถวนั้นวะ?]
ไปเต๊าะเด็ก!
“เรื่องของกู มึงมีไร?” เรื่องไรจะบอก เดี๋ยวแม่งมาแย่งลี่ไปผมไม่ขาดใจตายเหรอ?
[นี่มึงลืมแล้วไงว่าวันนี้นัดเจอ] เออว่ะ ลืมไปเลยว่าวันนี้มันนัดกันดื่มที่ผับที่มันกับลูกพี่ลูกน้องของมันหุ้นกัน นี่คิดแต่มุกที่จะมาอ่อยลี่จนลืมไปแล้วเนี้ย
“ก็กำลังไปเนี้ยไง” โกหกนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก เพื่อนกันหยวนๆ
[เออ มาเร็วๆเลยไอ้หมอ] พูดจบมันก็วางสายไปผมจึงมีสมาธิในการขับรถร้อยเปอร์เซ็น ปกติเวลานี้เป็นเวลาทำงานของผมแต่วันนี้ไม่ใช่ กว่าจะหาเวลาว่างได้นี่มันไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในบ่อเข็มเลยแหละสำหรับคนที่ทำอาชีพหมอ แต่ก็นะ ทำสิ่งที่ตัวเองรักต่อให้ทำจนไม่ได้พักเลยก็ไม่เหนื่อยหรอก...
ไม่อะ...โคตรเหนื่อย
เนื่องด้วยผับของไอ้เพทายกับมหา’ลัยอยู่กันไม่ห่างกันมากนักทำให้ผมใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึง ผมเลี้ยวรถเข้าไปในโซนจอดรถวีไอพีที่มีแต่คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะมาจอดที่นี่ได้ ก็มีเพื่อนไอ้เพทายกับเพื่อนน้องมันนั่นแหละ พวกนั้นแม่งโคตรวีไอพี
“กว่าจะมาได้นะ” เสียงทักทายดังมาทันทีหลังจากที่ผมเดินเข้าไปในโซนประจำของพวกเรา ผับนี้เป็นผับที่ใหญ่พอสมควรแถมยังมีชื่อเสียงทำให้ถึงแม้ว่าเวลานี้ผับจะเพิ่งเปิดก็มีคนเข้ามาใช้งานไม่น้อยเลยทีเดียว
ผมหันไปมอง ‘กาย’ เพื่อนสนิทของผมอีกคนที่มันยักคิ้วมาให้ทีหนึ่ง ข้างๆมันก็คือไอ้เพทายเจ้าของผับนี่แหละ เราสามคนเป็นเพื่อนมัธยม พอขึ้นมหา’ลัยก็ดันเรียนที่มหา’ลัยเดียวกันอีกทำให้พวกผมยิ่งสนิทกันเข้าไปใหญ่ถึงแม้ว่าเราจะเรียนกันคนละคณะก็ตาม พอจบมาแล้วเราก็จะหาเวลาว่างมานั่งดื่มกันเหมือนวันนี้ ผมเป็นหมอ ไอ้เพทายเป็นผู้บริหารธุรกิจของครอบครัวมันส่วนไอ้กายเป็นนักการทูต อาชีพของพวกเราจะหาเวลาว่างนี่แทบไม่มีแถมดันเป็นเวลาที่ตรงกันอีกนี่บอกเลยว่ายากมาก
“อย่าว่าไป เดี๋ยวพอมึงเข้าโรง’บาลแล้วไอ้ต้ามันไม่ยอมรักษามึงจะทำไง?” เสียงไอ้เพทายพูดติดตลก ผมหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับไอ้กายแล้วยกแก้วใสบรรจุแอลกอฮอล์ที่บริกรเพิ่งมาเสิร์ฟขึ้นดื่ม
“กูไม่ใจดำแบบมึง” พอผมพูดจบไอ้เพื่อนเวรทั้งสองคนก็หัวเราะออกมา ไอ้เพทายเป็นคนที่ร่าเริงแต่เห็นแบบนี้มันก็เป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองสุดๆ ส่วนไอ้กายคนอื่นจะมองว่ามันเงียบๆแต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าไอ้นี่น่ะมันเจ้าเล่ห์แค่ไหน
“เป็นไร?” เพราะอยู่ๆไอ้เพทายก็เงียบขึ้นมาแถมยังทำท่าทางเครียดๆ คิ้วขมวดเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ ไอ้กายมันเลยถามขึ้นมา จริงๆถ้ามันไม่ถามผมก็จะถามนะคนอย่างเพทายเครียดจริงๆจังๆแบบนี้มันหายาก
“กูกำลังคิด”
“คิด?” ผมทวนคำ
“ว่าอะไรจริงอะไรหลอก” จบคำพูดมันก็ยกยิ้มมุมปาก ผมกับไอ้กายพยักหน้าอย่างเข้าใจ ช่วงนี้เพทายมันกำลังเคลียร์กับผู้หญิงของมันอยู่ เห็นมันบอกว่าเธอท้องแต่เธอบอกไม่ท้องอะไรนี่แหละ ขี้เกียจจำ
“เดี๋ยวมา” อยู่ๆไอ้กายก็คว้าโทรศัพท์แล้วลุกออกไปข้างนอก พวกผมไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของมันสักเท่าไหร่หรอกแต่ดูจากแววตาเมื่อกี้แล้วคงจะมีแผนเจ้าเล่ห์บางอย่างแน่ๆ
“มองแต่โทรศัพท์จนจะทะลุเข้าไปแล้วมั้ง” เสียงของไอ้เพทายฉุดผมให้เลิกมองหน้าจอแล้วเงยหน้าไปมองมัน มันยิ้มให้ผมเป็นเชิงหยอกล้อส่วนผมได้แต่ยิ้มให้มันก่อนจะก้มลงมาดูเวลาต่อ อืม...คงจะถึงแล้วมั้ง
ผมเปิดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นไลน์แล้วยิ้มในใจ
เขาว่ากันว่าผู้หญิงชอบผู้ชายเอาใจใส่
Tar End Talk
ติ๊ง!
พอมาถึงห้องได้ไม่นานเสียงข้อความไลน์ก็ดังขึ้น ฉันก้มลงหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวนอนแล้วมาเปิดดูว่าใครเป็นคนส่งเข้ามา
Tar Tar : ถึงห้องยังคะ?
นี่สรุปหมอต้าเขาจะรุกฉันจริงๆใช่มั้ยเนี้ย?
แล้วคิดว่าฉันจะตอบเหรอ...
แรลลี่ไงจะใครล่ะ : ถึงแล้วค่ะ
ตอบสิ นั่นคนหล่อนะ...
ติ๊ง!
ฉันที่กำลังจะเดินไปเปิดโทรศัพท์เพื่อหยิบแอปเปิ้ลที่ปอกไว้เมื่อเช้ามากินก็ต้องหยุดความคิดลงเมื่อมีเสียงไลน์ดังขึ้นอีกครั้ง พอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นคนเดิมที่คุยกันเมื่อกี้ อะไรกันฉันเพิ่งจะตอบกลับไปเอง อ่านเร็วไปแล้วมั้ง
Tar Tar : พรุ่งนี้อย่าลืมมาตามนัดนะคะ
จริงด้วย ลืมไปเลยว่าเคยมีนัด ความจริงฉันก็แค่ต่อมทอนซิลอักเสบเองนะ คิดว่าไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากด้วยแค่เล็กๆน้อยๆ แต่หมอต้าเนี่ยสิ นัดฉันยังกะว่าเป็นทอนซิลอักเสบขั้นรุงแรงแบบจะบวมเป่งและแตกภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างนั้นแหละ แต่ก็นะ...ถ้าไม่ติดว่าหมอหล่อฉันไม่ไปหรอก!
วันต่อมา
เอาล่ะ วันนี้ไม่มีเรียนซึ่งปกติฉันก็คงจะออกไปเที่ยวห้าง ดูหนัง ฟังเพลงอะไรแบบนี้แล้ว แต่ก็ไม่ใช่สำหรับวันนี้ อย่าลืมสิว่าวันนี้ฉันมีนัดที่โรง’บาลนะ นัดสิบเอ็ดแต่ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรง’บาลแล้วล่ะ...ในเวลาสิบโมง
ก็มันว่างนิ...ไม่ได้อยากจะมาเจอหมอต้าเร็วๆหรอกนะ
“รอสักครู่นะคะ” ทันทีที่ฉันยื่นบัตรนัดให้พยาบาลสาวเธอก็พูดตอบกลับมายิ้มๆ ฉันยิ้มตอบให้เธอแล้วเดินไปรอที่เก้าอี้รอตรวจ ที่นี่เป็นโรง’บาลใหญ่ทำให้คนเยอะพอสมควร ฉันนั่งได้ไม่นานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกม เป็นพวกที่อยู่เฉยๆไม่ได้มันเบื่อต้องหาอะไรมาทำตลอด นี่กว่าจะหาเกมสนุกๆที่ไม่ใช้เน็ตได้นะเนี้ย ไม่รู้ทำไมเกมสมัยนี้ต้องใช้เน็ตกันทั้งนั้นเลย เห็นใจคนไม่มีเงินเติมเน็ตอย่างฉันบ้าง
เดี๋ยวแม่ก็รับสมัครผัวรวยซะเลยนี่! แบบถ้าหล่อจะรับพิจารณาเป็นพิเศษ
“อ๊ะ” ฉันเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองเพราะเมื่อยคอแต่ก็ต้องหยุดชะงักและถูกตรึงไว้ด้วยออร่ารัศมีความหล่อของคนที่อยู่เบื้องหน้า รัศมีที่ตอนแรกฉันคิดว่ามีเฉพาะพวกห้าเทพที่มหา’ลัยแต่กลับหมอต้าและคนตรงหน้านี่มันดันมีรัศมีนั้นอยู่ด้วย!
“มองหน้าผมนานไปแล้วนะครับ มีอะไรรึเปล่า?” อา...อายจังโดนเขาจับได้ว่าแอบมองซะงั้น
“อะ เอ่อ...คือว่า” ฉันลุกขึ้นยืนพยายามจะหาข้ออ้าง
“อ้าวไอ้เพทาย มาแล้วเหรอ?” ก่อนที่ฉันจะนึกคิดคำแก้ตัวว่าไม่ได้มองเขาก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาแทรกพร้อมกับการปรากฏตัวของบุคคลที่ฉันมาหาในชุดกาวน์ดูดีลุคคุณหมอสุดอปป้า เขาเดินออกมามองผู้ชายตรงหน้าฉัน ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจฉันแต่พอหันมาเห็นฉันเท่านั้นแหละ...รีบเดินมาฉุดมือฉันไว้เลยจ้า
“ทำไมมาเร็วจังคะ?” โอ้ว ท่าทางแบบนี้มันเหย้ายวนใจเหลือเกิน
“อ้าว นี่มึงรู้จักน้องคนสวยคนนี้ด้วยเหรอวะไอ้หมอ?” คนที่หมอต้าเรียกว่าเพทายมองหน้าฉันก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองมือฉันที่ถูกหมอต้ากุมไว้สลับกับหน้าฉันและหมอต้าไปมา
“เรื่องของกู มึงไปสนใสเมียกับลูกมึงเหอะ” อ้าว พี่เพทายสุดหล่อมีลูกมีเมียแล้วเหรอคะ? แรลลี่คนสวยเสียดายจังเลยค่ะ
“เออ ไอ้เมียน่ะสนอยู่แล้ว...แต่ลูกยังหาไม่เจอ” คุยไรกันอะ? อิลี่งงค่ะบอกเลย
“มึงไปรอในห้อง ลี่ตามหมอมาก่อนนะคะ” ต้นประโยคคุยกับพี่เพทายเสร็จก็หันมาพูดกับฉันพร้อมกับดึงข้อมือฉันให้ตามเขาไปอีกทาง ฉันที่ยังงงๆอยู่ก็เดินตามไปเงียบๆ ฉันไม่รู้ว่าหมอต้าจะพาฉันไปไหนแต่เขาคงไม่พาฉันไปทำมิดีมิร้ายหรอก หน้าออกจะแอ๊บแบ๊วใสซื่อขนาดนั้นแถมนี่ยังอยู่ในเขตโรง’บาลอีกด้วย
ไม่นานหมอต้าก็พาฉันมาหยุดอยู่ที่ห้องๆหนึ่ง ฉันเงยหน้าขึ้นมองถึงได้รู้ว่ามันเป็นห้องส่วนตัวของหมอ เขาผลักประตูเข้าไป ในห้องเป็นห้องใหญ่ที่มีโต๊ะทำงานอยู่สามตัว ร่างสูงดึงฉันไปที่โต๊ะริมสุดติดกำแพง
“เหลืออีกตั้งชั่วโมง อยู่รอที่นี่ก่อนนะคะ ข้างนอกคนมันเยอะเดี๋ยวพอถึงเวลานัดแล้วหมอจะไลน์มาบอกนะคะ” พูดจบหมอต้าก็ลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน สัมผัสที่อบอุ่นทำเอาตัวฉันแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งเขาเดินออกไปฉันก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
อะไรกันลี่ หมอต้าก็แค่ลูบหัวเองทำอย่างกับว่าไม่เคยโดนผู้ชายลูบหัวอย่างนั้นแหละ...พ่อไง พ่อแกเคยลูบหัวแกนะ!
หลังจากที่ฉันตั้งสติได้ก็กลับมาสนใจโต๊ะตัวที่ฉันยืนอยู่ข้างหน้าต่อ โต๊ะนี้คงจะเป็นโต๊ะของหมอต้าเพราะบนโต๊ะมีรูปเขาวางไว้อยู่ ฉันหยิบมันขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ ในรูปมีผู้ชายอยู่สามคน คนทางซ้ายคือพี่เพทายคนที่ฉันเจอเมื่อกี้ คนตรงกลางคือหมอต้าและคนถัดไปคือใครไม่รู้ฉันไม่รู้จักแต่ที่รู้คือหล่อมาก! ทั้งสามคนหล่อแบบกันกินไม่ลงเลยทีเดียว ยิ่งกอดคอยิ้มแฉ่งแบบนั้นมันยิ่งเพิ่มออร่าความหล่อขึ้นเป็นทวีคูณ จำเป็นต้องหล่อขนาดนี้มั้ยคะพ่อคุณ
หมอต้าให้ฉันมารอที่นี่ งั้นฉันก็มีสิทธิ์นั่งที่โต๊ะเขาใช่มั้ย?
ดูเหมือนเจ้าของโต๊ะที่เหลือจะไม่อยู่ นั่งๆไปเหอะฉันไม่ได้เข้ามาโดยพลการสักหน่อย หมอต้าสุดหล่อเป็นคนพามาต่างหาก
แต่ว่านะ...นี่สาบานว่าโต๊ะคุณหมอ?
ที่เก้าอี้มีแจ็กเก็ตหนังสีดำพาดไว้อยู่ บนโต๊ะก็มีถุงมือสีดำที่เข้าชุดกับแจ็กเก็ตวางริมโต๊ะส่วนข้างๆคือหมวกกันน็อคทรงที่พวกบิ๊กไบค์ชอบใส่แถมยังมีหูฟังสีแดงยี่ห้อดังวางอยู่กลางโต๊ะอีกต่างหาก ถ้าไม่ติดว่ามีปฏิทินที่เขียนเวลานัดคนไข้ โน๊ตบุ๊คที่มีโน๊ตอะไรต่อมิอะไรติดอยู่และเอกสารกองโตที่วางอยู่ใต้โต๊ะฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นหมอหรอกนะ
‘ถึงหมอต้าที่รักกก’
ฉันเหลือบไปเห็นซองจดหมายสีขาวที่วางอยู่กลางโต๊ะ สายตาก็ไล่อ่านตัวอักษรที่เขียนไว้หน้าซองคิ้วฉันก็ขมวดเข้าหากันทันที
คือวางอยู่บนโต๊ะหมอต้า
จ่าหน้าซองก็ถึงหมอต้า
มันเป็นของส่วนตัวของหมอต้า
ฉันไม่ควรที่จะยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขา...
‘หมอต้าคะ ตอนนี้รู้สึกไม่สบายตัวจังเลย อยากมีหมอหล่อๆอย่างหมอต้ามาคอยดูแล เพราะว่า...’
รู้ตัวอีกทีก็เปิดอ่านซะแล้ว...
อ่านข้อความในจดหมายแล้วก็ต้องเบะปาก นี่มันจดหมายรักชัดๆ! ความจริงมันก็แล้วแต่เขานะว่าจะมีใครมาจีบเพราะเขาก็เป็นหนุ่มหล่อ แต่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกหงุดหงิดแบบนี้ล่ะ?
ปึก!
ฉันทุ้งศอกเข้าไปที่โต๊ะอย่างหัวเสีย โดยไม่รู้ว่ามันทำให้ลิ้นชักเปิดออกอย่างไม่รู้ตัว ฉันก้มลงไปมองด้วยความอยากรู้ พอเห็นว่ามีอะไรสีชมพูฉันก็ดึงลิ้นชักออก ภาพตรงหน้าที่ปรากฏคือจดหมายนับสิบๆซองวางเรียงกระจัดกระจายอยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้จดหมายสีชมพูพวกนั้นคืออะไรถ้ามันไม่ใช่จดหมายรัก
ที่สงสัยคือนี่มันสมัยไหนกันแล้ว ยังใช้จดหมายกันอยู่เหรอ?
โอ๊ย...คนสวยเพลีย
Tar Talk
“มึงรู้จักน้องคนสวยนั้นได้ยังไงวะ?” คำถามหลุดออกจากปากไอ้เพทายทันทีที่ผมกลับมาในห้องตรวจหลังจากไปส่งแรลลี่ที่ห้องพักของผมและพี่ๆอีกสองคน ก่อนหน้านี้ผมนัดเธอสิบเอ็ดโมงแต่เธอดันมาก่อนหนึ่งชั่วโมงและที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือผมเห็นเธอคุยกับไอ้เพื่อนตัวแสบนี่เนี่ยสิ
“เสือก” ด่าเสร็จก็เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ วันนี้ช่วงสิบโมงถึงสิบโมงครึ่งผมว่าง ไอ้เพทายจึงมาหาผมเพราะมีเรื่องวานให้ช่วย มันมองหน้าผมแล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม
“น้องเขามีแฟนยังอะ?” เพทายก็คือเพทาย มันยังคงพูดต่อไม่สนใจคำด่าของผม อยู่กับพวกผมนี่แม่งโคตรกวนตีนพออยู่กับคนอื่นนี่มาดขรึม
“…”
“ถ้ากูจะจีบ...”
“อยากตายก็ลองดู” ผมพูดขัดก่อนที่มันจะพูดประโยคไร้สาระนั่นต่อ ในมือก็ควงปากกาเล่นอย่างที่ชอบทำ อยากจะอัดเสียงไปให้เมียมันฟังเหลือเกินไอ้ประโยคเมื่อกี้
“ใจเย็นดิกูล้อเล่น” มันยกมือเป็นเชิงห้ามทัพ “กูมีลูกมีเมียแล้วนะเฮ้ย ถึงไม่รู้ว่าลูกจะอยู่ที่ไหนก็ตามเหอะ”
“ถ้ามึงจะมาพูดเรื่องไร้สาระก็เชิญกลับครับ ไม่ได้ว่างตลอดเวลา” คิดว่าเป็นหมอนี่มันว่างนักรึไงหะ! อยากจะด่าเป็นภาษาเยอรมันแต่ติดที่ว่าพูดไม่เป็น
“เฮ้ย...อย่าไล่” เพทายรีบพูดก่อนจะยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลมาให้ผม “นี่ที่กูวานให้หาคนส่งให้หน่อย กูอยากรู้ว่าเป็นใคร”
ผมรับซองนั่นมาก่อนจะเปิดดูเอกสารข้างใน มันคือข้อมูลของการพูดคุยกันระหว่างคนสองคน
อ๋อ...ลืมบอกไปสินะว่านอกจากหมอแล้วผมเป็นแฮกเกอร์
แล้วไอ้เพทายมันก็อยากให้ผมหาว่าคนที่อยู่ในบทสนทนานี้นอกจากมันแล้วคือใคร
“เออๆ แต่อาจจะนานหน่อยเพราะช่วงนี้กูยุ่ง” ผมใส่เอกสารไว้ในกระเป๋าเป้ของตัวเอง หลังจากสิบโมงครึ่งผมก็มีนัดกับคนไข้ยาวเลย แต่ตอนนี้กำลังใจจดใจจ่อกับคนไข้ที่นัดตอบสิบเอ็ดโมง
“ยุ่งกับน้องคนสวยนั่นเหรอ?” ไม่ทันไรมันก็แซวผมด้วยแววตาหยอกล้อ ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนผมคงจะฉีดยาชาให้มันไปแล้ว เอาให้ชาไปทั้งปากจนพูดไม่ได้
“แซวกูอีกรอบกูไม่หาให้”
“ใช่เรื่อง กูจะให้มึงหา” นิสัยเอาแต่ใจมาอีกแล้ว “กูจะบอกว่านานๆสิดี กูจะได้มีข้ออ้างอยู่กับวานานๆ” มันหมายถึงเอวาเมียมันน่ะ
“เออๆ ไปได้แล้วกูจะทำงาน”
หลังจากที่ผมไล่ไอ้เพทายไปได้ซึ่งกว่ามันจะไปได้นี่ก็แทบจะให้ยามมาลากไปอยู่แล้ว ผมก็ให้พยาบาลเรียกคนไข้ที่นัดมาตามเวลา กว่าจะผ่านแต่ละเคสไปได้เล่นเหงื่อตกไปหลายรอบโดยเฉพาะคนไข้ผู้หญิง บางคนก็ไม่เท่าไหร่หรอกแต่บางคนเนี่ยสิ เหมือนจะมาตะครุบหัวผมอยู่แล้ว ถึงจะโดนคนไข้อ่อยมานับไม่ถ้วนแต่เจอบางกรณีมันก็รับไม่ไหวหรอกนะ
เวลาล่วงเลยมาจนผมเหล่มองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้ใกล้จะสิบเอ็ดแล้ว จะถึงเวลานัดของผู้หญิงแสนสวยที่นั่งรออยู่ในห้อง ระหว่างรอคนไข้คนก่อนจะถึงแรลลี่ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
Tar Tar : จะถึงนัดแล้วนะคะ
เงียบ...
ไร้การตอบรับ ไม่ขึ้นว่าอ่านด้วยซ้ำ
Tar Tar : มารอหมอที่หน้าห้องตรวจได้เลยนะคะ
พอลองส่งไปอีกครั้งเลยรอสักพักก็ผลตอบรับเหมือนเดิม เงียบเชียบสุดๆ ผมขมวดคิ้วมองโทรศัพท์ในมือก่อนจะวางลงบนโต๊ะเพราะคนไข้ที่กำลังเดินเข้ามา ใช้เวลาไม่นานเคสนี้ก็จบลงเนื่องด้วยคนไข้รายนี้เจ็บคอเพราะใช้เสียงมากไปหน่อยเลยให้ยาไปกินรักษาแทน
ผมเดินออกมานอกห้อง บอกพยาบาลว่าจะไปทำธุระแล้วก็ตรงดิ่งมาที่ห้องพักของตัวเองทันที ผมหยุดอยู่ที่หน้าประตูก่อนจะผลักมันเข้าไปเบาๆ และภาพตรงหน้าทำเอาผมชะงัก
อะ...อ้าว
[อัพครบ]
อ่านเรื่องของกาย คลิก
ดูแลตัวเองกันด้วยนะค่าาาา เป็นห่วงเด้อ
แรลลี่จ๋าาา หนูอย่าไปกังวลไป หนูน่ะตัวจริง! ท่องไว้ลูกๆ
ส่วนคุณหมอหวงเบอร์แรง กับเพื่อนยังหวง5555555
แปะเมจกายกับเพทายหน่อยย
เพทาย
CAST : Mino
กาย
CAST : S.coups
ตอนนี้เรื่องหลักของไรท์จะเป็น2เรื่องนี้นะคะ ยังไงก็ฝากด้วยเด้อออ เป็นแนวฟีลกู๊ดไร้สาระเช่นเดิมค่ะ5555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เป็นหมอแล้วยังเป็นแฮกเกอร์ด้วย หมอคะ? จะเก่งไปไหนคะหมออออ
รอออออออต่อปายยยยยยย หมอขี้อ่อย