ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาระ(แนว)การ์ตูน

    ลำดับตอนที่ #32 : คติธรรมการล้างแค้นจากเรื่องสาวน้อยจากนรก(Jigoku Shojo)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 277
      0
      4 ธ.ค. 52

    ผมตามเช่าอ่านสาวน้อยจากนรกมาจนถึงตอนนี้ ผมได้เห็นถึงจิตวิทยาที่แตกต่างของตัวละครที่ตั้งใจจะล้างแค้นศัตรูคู่อาฆาต ของตนให้ตกลงไปสู่ขุมนรกโดยผีสาวสวยชุดสีดำทมึนนามว่า เอนมะ(ยมฑูต) ไอ
    หลาย คนทำไปด้วยจำเป็นบ้าง แต่บางคนทำไปเพราะความผิดพลาดบางอย่าง บางคนทำด้วยเหตุผลที่งี่เง่าๆบ้าง และบางคนทำไปแล้วใช่ว่าตัวเองจะอยู่ดีมีสุขเหมือนคนทั่วไปแต่กลับต้องแบกรับ ความทุกข์เช่น คำด่าทอสาปแช่ง ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยา ฯลฯ และไม่มีหลักประกันว่าจะเมื่อล้างแค้นพาคนที่ตนเกลียดลงสู่นรกแล้ว จะไม่มีความเกลียดชังใดๆเหลืออีกเพราะตามเงื่อนไขของบริการประตูสู่นรก แล้วสามารถลากเอาวิญญาณที่ตนเกลียดลงสู่นรกได้แค่คนต่อคนเท่านั้น เข้าทำนองหนีเสือปะจระเข้
    แต่สำหรับผมซึ่งเรียนรู้ปรัชญาคำสอนแบบฉบับชาว พุทธมาจนถึงตอนนี้ ต้องยอมรับว่าหากความเชื่อมั่นหรือความอดทนที่มีต่อกฏแห่งกรรมธรรมชาติมัน เลือนหายลงไปเมื่อไหร่ เมื่อนั้นความโกรธแค้นชิงชังก็จะเข้าครอบงำจิตและทำในสิ่งที่ขัดต่อกฏแห่ง กรรมธรรมชาติเข้าให้จนได้ เพราะไม่อาจทนรอได้ว่าเมื่อไหร่กรรมชั่วนั้นจะสนองตอบต่อคนที่ตนแค้นซะที ทั้งทีความเป็นจริงแล้ว พุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า ฆ่าความโกรธได้ ย่อมอยู่เป็นสุข มันยังคงใช้ได้เสมอมา
    ถ้า เราพยายามคิดซะว่า กรรมที่เรากำลังเผชิญอยู่นี่มีเหตุมาจากชาติปางก่อน ก็ยังพอทำใจได้เพียงแต่เราไม่สามารถที่จะไประลึกชาตินี่นะว่าเราทำกรรมอะไร แย่ๆเอาไว้ เรามีแต่สร้างกรรมดีในปัจจุบันให้มากที่สุดเพื่อเป็นหลักประกันในอนาคต และต้องพยายามไม่สร้างกรรมชั่วแม้เพียงครั้งเดียว เพราะกรรมดีกับกรรมชั่วมันลบล้างกันเองไม่ได้ มันแยกกันส่งผลวิบากแยกต่างหากของมันไป
    และต้องไม่คิดสั้นหนีกรรมชั่วกัน ง่ายๆโดยการฆ่าตัวตายอย่างนี้ไม่พ้นเจอกรรมชั่วอยู่ดีซึ่งผลที่ตามมาหลังจาก นั้นก็คือการเป็นผีตายโหงเร่ร่อนบนโลกโดยไม่ได้ผุดได้เกิดจนกว่าเวลาจะครบ ตามอายุขัยของตนถึงจะไปอีกภพหนึ่ง อีกทั้งร่างกายนั้นตามหลักธรรมถือเป็นของธรรมชาติมิใช่ของๆเรา การฆ่าตัวตายจึงเป็นการละเมิดต่อกฏเกณฑ์แห่งกรรมธรรมชาติเช่นกัน

    เพราะ แม้แต่ตัวกรรมกรกระทู้เอง ยังยอมรับเลยว่ามีความแค้นต่อบุคคลที่ให้ประชาธิปไตยเราชะงักงันอยู่เรื่อย มา และพยายามศึกษากฏเกณฑ์ธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตยนี่รวมไปถึงข้อมูลข้อเท็จ จริงของทุกๆฝ่าย แต่ว่าความแค้นมันก็ไม่ค่อยจะลดลงไปสักเท่าไหร่ เลยเหลือทางเดียวก็คือเว้นวรรคปล่อยวางการติดตามข้อมูลข่าวสารเสียบ้าง และหันไปหาของบันเทิงมาเสพซะก็แค่นั้นเอง
    แต่ว่าพ่อแม่ผมนี่สิ สาวกศาสดาลิ้มตัวจริงเลยแหละ วันๆเปิดแต่AssHoleTVหรือไม่ก็เนชั่(ว)น ส่วนผมถ้าไม่เปิดD-Stationก็ไปเปิดช่องStream ABTV4เพื่อไปดูAnimeน่าสนใจที่สำนักลิขสิทธิ์ในไทยทำเป็นVCDหรือDVDขายไป แล้วอย่างนี้
    คนที่เสพสื่อได้รอบด้านต้องถือว่าเก่งกาจมากในการควบคุม อารมณ์ไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปซะก่อน ราวกับคนที่ทานอาหารผิดสำแนงไปแล้วก็อาเจียนออกมานั้นแหละ หรือแม้แต่ฟังเสียงของสื่อที่ออกมาขัดแย้งกับความคิดเห็นของตนแล้วอารมณ์มัน ขึ้นจนต้ิองอุดหูเหมือนกับกำลังอยู่ท่ามกลางกองขี้แล้วต้องอุดจมูกนั้นแหละ พ่อผมนี่ปากบอกว่าเสพสื่อรอบด้านแต่เอาเข้าจริงๆกระทั่งรายการความจริง วันนี้ก็ยังไม่ค่อยยอมตามดูเท่าไหร่เลย แล้วจะให้ผมเชื่อได้ยังไงละนี่

    เลย ตัดปัญหาโดยการแยกกันชั่วคราวจนกว่าจะดูจบ โดยผมก็นั่งเล่นเน็ตไร้สายในห้องนอนตัวเองไป ปล่อยให้คนข้างเสพสื่อของตัวเองไป ดูเหมือนพ่อแม่ผมจะไม่ห่วงลูกชายคนนี้ที่ถึงขนาดยอมอดข้าวเพราะไม่อยากนั่ง ทนฟังสื่อสวะพวกนั้นเลยนะนี่ ถือว่าตัวเองเป็นเจ้าบ้านมีศักดิ์ฐานะดีกว่าจะทำอะไรก็ทำได้ทำไปโดยไม่คำนึง ถึงสวัสดิภาพของผู้ร่วมอาศัยที่เป็นลูกชายแท้ๆด้วย
    ก็ได้แต่เอาหลักธรรม มาปลอบใจตัวเองเท่านั้นแหละครับตอนนี้ ก็บ้านมันมีแค่หลังเดียวถ้ามันย้ายได้ผมก็ย้ายไปก่อนแล้ว แถมจนถึงตอนนี้ผมก็ยังหางานใหม่ๆทำไม่ได้อีกไม่รู้ว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจแย่ หรือว่าคุณสมบัติของผมมันไม่ผ่านกันแน่
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×