ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เปลว สีเงินปฏิบัติการแค้นฝังเหลี่ยม+ใบตองแห้ง ถึก เที่ยงถึง
โดย คุณรักในหลวงห่วงลูกหลาน
ที่มา บอร์ดฟ้าเดียวกัน
5 พฤษภาคม 2552
อัน นี้ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนให้พี่เปลวเปลี่ยนคติ ของแกจากที่ว่ากูขอเป็นฝ่ายค้านด่าทุกรัฐบาล มาเป็นว่ากูจะขอจองเวรไอ้เหลี่ยมให้ตายกันไปข้าง(แกประกาศกับลูกน้องคนสนิท ที่ร้านข้าวต้มอนันต์แถวพระราม6 ตอนนั้นผมเมาๆออกจากห้องน้ำมาได้ยินประมาณนี้)
โรจน์ งามแม้น(เปลว สีเงิน)
สำหรับค่ายไทยโพสต์นี่ คนสงสัยกันมากว่าแค้นเหลี่ยมมาแต่ชาติปางไหน ตามบี้เช็ดเหลือเกิน
คือพี่เปลวนี่แกเป็นนักเลงโบราณนะครับ ใครดีมาก็ดีด้วย ใครร้ายก็ร้ายตอบให้เหลือแสน...
แก เคยทำงานไทยรัฐยุคป๊ะกำพลมานาน จนป๊ะตาย แกก็ออกมาทำสยามโพสต์ แกถือคติว่าคนหนังสือพิมพ์ต้องทำตัวเป็นฝ่ายค้านกับทุกรัฐบาล ตอนแกทำหนังสือพิมพ์สยามโพสต์ใหม่ๆ รัฐบาลนายชวนแกก็ด่าครับ ด่ามาด่าไปดร.ไตรรงค์ฉุน ลูกน้องดร.ไตรรงค์ตัวเหี้ยๆเยอะ(เสธ.แดงบอกว่าได้วิชาเหี้ยศาสตร์มาจากดร. ไตรรงค์นี่แหละ) ก็บุกโรงพิมพ์แกจะไปเอาเรื่องก็เคยมาแล้ว นอกนั้นก็โดนฟ้องนัวเนีย จนปิดสยามโพสต์ลง
มาเปิดหัวใหม่ไทยโพสต์ พอดีเหลี่ยมมาเป็นรัฐบาล แกก็ด่าตามคติแกคือคนหนังสือพิมพ์ต้องทำตัวเป็นฝ่ายค้านด่าแม่งทุกรัฐบาล แต่เหลี่ยมไม่ยอมรับคตินี้ก็เอาคืนแก ทั้งให้ตำรวจ ให้สตง.ตรวจสอบบัญชีเงินทอง ทั้งไปบีบโรงพิมพ์ของพี่วิ(ระวิ โหลทอง สยามกีฬา)ไม่ให้รับพิมพ์ไทยโพสต์ พี่วิก็ไม่อยากมีศัตรู ประกอบกับพี่เปลวก็ไปพิมพ์กับพี่วิก็ต๊ะไว้ดะ หนี้สะสมชักบานด้วย...
อัน นี้ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนให้พี่เปลวเปลี่ยนคติของแกจากที่ว่ากูขอเป็นฝ่ายค้าน ด่าทุกรัฐบาล มาเป็นว่ากูจะขอจองเวรไอ้เหลี่ยมให้ตายกันไปข้าง(แกประกาศกับลูกน้องคนสนิท ที่ร้านข้าวต้มอนันต์แถวพระราม6 ตอนนั้นผมเมาๆออกจากห้องน้ำมาได้ยินประมาณนี้)
เรื่องของเรื่องก็เป็นงี้แหละครับ บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระให้สาสม
ส่วนใบตองแห้ง เขียนคอลัมน์ว่ายทวนน้ำ อันนี้คนก็สงสัยว่าเขียนไปคนละโทนกับพี่เปลวเลย ทำไมพี่เปลวยังเลี้ยงไว้ทำซากอีก?
คือไอ้นี่ คงเป็นไอ้ถึกเพื่อนผมครับ ไอ้นี่ในชีวิตมันกวนตีน มันมีจุดยืนเป็นนักวิชาชีพเป็นกลาง ใครห้ามมาสั่งกูซ้ายหันขวาหัน
ฉายา มัน"ถึกเที่ยงถึง" คือหากไม่เที่ยงไอ้นี่ไม่เคยถึงโรงพิมพ์ เพราะดึกๆแม่งดูหนังโป๊ทั้งคืน แล้วเสือกตัดต่อหนังโป๊เองไว้เป็นคอลเล็กชั่นด้วย
พี่เปลวแกก็นักเลง พอตัว ก็ปล่อยไอ้ถึกไว้เขียนแบบเป็นตัวของตัวเอง ก็ดีออก ใครเกลียดแม้วก็อ่านเปลว ใครรักแม้วก็อ่านใบตองแห้ง ได้แม่งทั้งขึ้นทั้งล่อง....ดีกว่าเอียงไปข้างเดียวแบบผู้จัดการ กับเนชั่น...
หากผมเป็นพี่เปลวผมก็ทำแบบแกนี่แหละ คือจะกวนตีนใครก็กวนไป แต่อย่าเสือกมากวนตีนกูก็พอ ซึ่งไอ้ถึกมันไม่กล้าไปกวนตีนพี่เปลวหรอกเท่าที่ผมรู้...วีรกรรมไอ้ถึกเยอะ ครับ สมัยหนึ่งมันไปอยู่รายวันเล่มนึง ไอ้เทือกเข้ามาเสือกมาสั่งนายทุนให้เชียร์มันหน่อย แล้วช่วยด่าไทยรัฐที่กำลังถล่มไอ้เทือกเรื่องสปก.ให้ด้วย ไอ้ถึกมันไม่ยอม นายทุนบอกมึงไม่ยอม มึงกับกูอยู่กันไม่ได้
ไอ้ถึกไม่เสียดมเสียดายเงินเดือนหลายหมื่นเลย แม่งเก็บของได้ก็ไปจากโรงพิมพ์เหี้ยนั่นเลย...
คราวก่อนเขียนถึงใบตองแห้ง ทำเอามันเสียภาพลักษณ์เมพ หาว่ามันชอบดูหนังโป๊จนดึก เลยตื่นสายเข้าโรงพิมพ์เที่ยงทุกวัน จนมีฉายาถึก เที่ยงถึง (แต่ผมก็ชมมันไปเยอะว่ามันเป็นคนมีอุดมกาม เอ๊ย!อุดมการณ์ในวิชาชีพ) วันนี้ผมขอบูชาๆยอวาทีมันซักนิด เพื่อให้มันมีภาพลักษณ์เป็นเมพ
จะได้ บูชาๆๆ
ใบตองแห้ง
เป็นนามปากกาคอลัมนิสต์ใหญ่ค่ายไทยโพสต์ ของไอ้ถึก-อธึกกิต แสวงสุข
ไอ้ ถึกเกิดในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นครู หัวดีแต่ขี้เกียจ จบ ม.ศ.5 ร.ร.เตรียมอุดม เข้าธรรมศาสตร์ปี 2517 ก็หลัง14ตุลาปีเดียว ทำกิจกรรมชุมนุมวรรณศิลป์ วันๆไม่ค่อยได้เรียนหรอก เอาแต่เคลื่อนไหว จนติดโปร 3 ครั้ง จ่อรีไทร์
พอเกิด 6 ตุลา 2519 เพื่อนสนิทของถึกคือ อนุวัตร อ่างแก้ว ตาย แต่ถึกก็ไม่ได้เข้าป่าทันที ลาออกจากธรรมศาสตร์ พ่อแม่ก็เข็นให้สอบเอนทรานซ์ใหม่ติดวิศวะจุฬาฯ แต่ถึกทำใจไม่ได้ เลยเผ่นเข้าป่าที่เชียงราย ภูชี้ฟ้า สถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน
สหายถึกออกป่ารุ่นท้ายๆ ปี 2525 ไม่ยอมเรียนต่อ อีเหละเขละขละอยู่หลายปี ทำโรงพิมพ์ สำนักพิมพ์ แล้วก็ไปเริ่มทำหนังสือพิมพ์ที่แนวหน้าแบบเรียนลัด เพราะไปเป็นรีไรเตอร์โดยไม่เคยทำข่าวภาคสนาม ต่อมาพรรคพวกในทีม ยกทีมออกจากแนวหน้าหลังไล่ รสช.ตอนพฤษภาทมิฬเสร็จ ก็มาอยู่ INN กับต้อยสนธิญาณ หนูแก้ว อยู่ได้ไม่นานก็ตามพรรคพวก คือพวกอายุธ ประทีป ณ ถลาง ออกมาสยามโพสต์ของพี่เปลว แล้วก็เกาะชายผ้าเหลืองเถ้าแก่เปลวมาอยู่ไทยโพสต์มานี่ก็จนหนวดหงอกพอดี
ถึก บอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเอาถ่านอะไรนัก อยู่ในขบวนการนักศึกษาก็เป็นผู้ตามธรรมดาๆ อยู่ป่าก็ไม่ใช่พวกขยันทุ่มเทเพื่ออุดมการณ์สุดตัว ตอนที่นักศึกษาขัดแย้งกับ พคท. พวกที่ทุ่มเทมากๆ จะสติแตก ผิดหวัง hurt ร้องห่มร้องไห้ แต่ถึกไม่เสียใจคิดมากขนาดนั้น แม้จะเลือกข้างอยู่ในกลุ่มนักศึกษาที่ "ก่อกบฎ" แต่ก็พยายามทำความเข้าใจฝ่ายนำ จนได้ข้อสรุปว่าเป็นปัญหาทัศนะของคนดีที่ล้าหลัง ระบบที่รวมศูนย์อำนาจ แล้วก็อุดมการณ์ที่ไม่สอดคล้องความเป็นจริงของสังคม
ถึกเขียนไว้ถึงตัวเองตอนหนึ่งว่า นับแต่ออกจากป่าก็ไม่เคยคิด "ปฏิวัติสังคม" อีกเลย
.......
ข้าง ต้นนั่นเป็นอัตชีวประวัติฉบับย่อของใบตองแห้ง ชายผู้มีนัยน์ตาเยิ้มประดุจว่ากรึ่มกัญชาอยู่เป็นนิจ ริมฝีปากคล้ำอยู่เสมอเพราะแม่งซี๊ดส์บุหรี่มวนต่อมวน และเป็นเจ้าของคอลเล็กชั่นหนังXXXที่น่าดูที่สุดในโลก....(อ้าว ไอ้ห่า ไหนว่าจะแก้ภาพลักษณ์ให้กู--ไอ้ถึกบ่น)
อ้อ ไม่ใช่ สรุปใบตองแห้ง ของเค๊าดีจินๆครับ ไอ้กระพ้มรับรอง
Noteจากธนาพลแห่งฟ้าเดียวกัน : ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟนคุณ "ใบตองแห้ง" ทั้งในส่วนของการตอบจดหมายหน้า 5 หรือบทสัมภาษณ์วันอาทิตย์ ที่คุณใบตองสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม
ทืี่ ผ่านมา "ใบตองแห้ง" เป็นเสมือนเครื่องสำองค์ชั้นดีที่ทำให้หนังสือพิมพ์ฝ่ายขวาแบบไทยโพสต์ ดูดี อย่างน้อยก็เปิดกว้างให้มีความเห็นต่าง
ล่าสุด เปลว สีเงิน เจ้าของและบก.ใหญ่สั่งห้ามคุณ "ใบตองแห้ง" เขียนคอลัมน์การเมืองทุกคอลัมน์ในไทยโพสต์ ส่งผลให้คุณ "ใบตองแห้ง" ยื่นใบลาออกจากไทยโพสต์แล้ว
ในฐานะคนอ่านไทยโพสต์คนหนึ่ง
ผมคิด ว่าการหายไปของใบตองแห้ง มิได้เป็นการสูญเสียคอลัมนิสต์และนักสัมภาษณ์ฝีมือดีของไทยโพสต์เท่านั้น แต่เป็นการสูญเสียจิตวิญญาณการทำงานในวิชาชีพของไทยโพสต์ด้วย
หลังจากนี้ไทยโพสต์ก็กลายเป็นดาวสยามสมบูรณ์แบบสมใจเปลว สีเงิน และมวลชนพันธมิตร
ปล. ถ้าสมาคมนักข่าวมีแถลงการณ์ประณามนายทุน(เปลว) แทรกแซงสื่อ (ใบตองแห้ง) ผมจะยอมกราบตีนคุณประสงค์หรือกรรมการท่านอื่น ๆ เล
ที่มา บอร์ดฟ้าเดียวกัน
5 พฤษภาคม 2552
อัน นี้ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนให้พี่เปลวเปลี่ยนคติ ของแกจากที่ว่ากูขอเป็นฝ่ายค้านด่าทุกรัฐบาล มาเป็นว่ากูจะขอจองเวรไอ้เหลี่ยมให้ตายกันไปข้าง(แกประกาศกับลูกน้องคนสนิท ที่ร้านข้าวต้มอนันต์แถวพระราม6 ตอนนั้นผมเมาๆออกจากห้องน้ำมาได้ยินประมาณนี้)
โรจน์ งามแม้น(เปลว สีเงิน)
สำหรับค่ายไทยโพสต์นี่ คนสงสัยกันมากว่าแค้นเหลี่ยมมาแต่ชาติปางไหน ตามบี้เช็ดเหลือเกิน
คือพี่เปลวนี่แกเป็นนักเลงโบราณนะครับ ใครดีมาก็ดีด้วย ใครร้ายก็ร้ายตอบให้เหลือแสน...
แก เคยทำงานไทยรัฐยุคป๊ะกำพลมานาน จนป๊ะตาย แกก็ออกมาทำสยามโพสต์ แกถือคติว่าคนหนังสือพิมพ์ต้องทำตัวเป็นฝ่ายค้านกับทุกรัฐบาล ตอนแกทำหนังสือพิมพ์สยามโพสต์ใหม่ๆ รัฐบาลนายชวนแกก็ด่าครับ ด่ามาด่าไปดร.ไตรรงค์ฉุน ลูกน้องดร.ไตรรงค์ตัวเหี้ยๆเยอะ(เสธ.แดงบอกว่าได้วิชาเหี้ยศาสตร์มาจากดร. ไตรรงค์นี่แหละ) ก็บุกโรงพิมพ์แกจะไปเอาเรื่องก็เคยมาแล้ว นอกนั้นก็โดนฟ้องนัวเนีย จนปิดสยามโพสต์ลง
มาเปิดหัวใหม่ไทยโพสต์ พอดีเหลี่ยมมาเป็นรัฐบาล แกก็ด่าตามคติแกคือคนหนังสือพิมพ์ต้องทำตัวเป็นฝ่ายค้านด่าแม่งทุกรัฐบาล แต่เหลี่ยมไม่ยอมรับคตินี้ก็เอาคืนแก ทั้งให้ตำรวจ ให้สตง.ตรวจสอบบัญชีเงินทอง ทั้งไปบีบโรงพิมพ์ของพี่วิ(ระวิ โหลทอง สยามกีฬา)ไม่ให้รับพิมพ์ไทยโพสต์ พี่วิก็ไม่อยากมีศัตรู ประกอบกับพี่เปลวก็ไปพิมพ์กับพี่วิก็ต๊ะไว้ดะ หนี้สะสมชักบานด้วย...
อัน นี้ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนให้พี่เปลวเปลี่ยนคติของแกจากที่ว่ากูขอเป็นฝ่ายค้าน ด่าทุกรัฐบาล มาเป็นว่ากูจะขอจองเวรไอ้เหลี่ยมให้ตายกันไปข้าง(แกประกาศกับลูกน้องคนสนิท ที่ร้านข้าวต้มอนันต์แถวพระราม6 ตอนนั้นผมเมาๆออกจากห้องน้ำมาได้ยินประมาณนี้)
เรื่องของเรื่องก็เป็นงี้แหละครับ บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระให้สาสม
ส่วนใบตองแห้ง เขียนคอลัมน์ว่ายทวนน้ำ อันนี้คนก็สงสัยว่าเขียนไปคนละโทนกับพี่เปลวเลย ทำไมพี่เปลวยังเลี้ยงไว้ทำซากอีก?
คือไอ้นี่ คงเป็นไอ้ถึกเพื่อนผมครับ ไอ้นี่ในชีวิตมันกวนตีน มันมีจุดยืนเป็นนักวิชาชีพเป็นกลาง ใครห้ามมาสั่งกูซ้ายหันขวาหัน
ฉายา มัน"ถึกเที่ยงถึง" คือหากไม่เที่ยงไอ้นี่ไม่เคยถึงโรงพิมพ์ เพราะดึกๆแม่งดูหนังโป๊ทั้งคืน แล้วเสือกตัดต่อหนังโป๊เองไว้เป็นคอลเล็กชั่นด้วย
พี่เปลวแกก็นักเลง พอตัว ก็ปล่อยไอ้ถึกไว้เขียนแบบเป็นตัวของตัวเอง ก็ดีออก ใครเกลียดแม้วก็อ่านเปลว ใครรักแม้วก็อ่านใบตองแห้ง ได้แม่งทั้งขึ้นทั้งล่อง....ดีกว่าเอียงไปข้างเดียวแบบผู้จัดการ กับเนชั่น...
หากผมเป็นพี่เปลวผมก็ทำแบบแกนี่แหละ คือจะกวนตีนใครก็กวนไป แต่อย่าเสือกมากวนตีนกูก็พอ ซึ่งไอ้ถึกมันไม่กล้าไปกวนตีนพี่เปลวหรอกเท่าที่ผมรู้...วีรกรรมไอ้ถึกเยอะ ครับ สมัยหนึ่งมันไปอยู่รายวันเล่มนึง ไอ้เทือกเข้ามาเสือกมาสั่งนายทุนให้เชียร์มันหน่อย แล้วช่วยด่าไทยรัฐที่กำลังถล่มไอ้เทือกเรื่องสปก.ให้ด้วย ไอ้ถึกมันไม่ยอม นายทุนบอกมึงไม่ยอม มึงกับกูอยู่กันไม่ได้
ไอ้ถึกไม่เสียดมเสียดายเงินเดือนหลายหมื่นเลย แม่งเก็บของได้ก็ไปจากโรงพิมพ์เหี้ยนั่นเลย...
คราวก่อนเขียนถึงใบตองแห้ง ทำเอามันเสียภาพลักษณ์เมพ หาว่ามันชอบดูหนังโป๊จนดึก เลยตื่นสายเข้าโรงพิมพ์เที่ยงทุกวัน จนมีฉายาถึก เที่ยงถึง (แต่ผมก็ชมมันไปเยอะว่ามันเป็นคนมีอุดมกาม เอ๊ย!อุดมการณ์ในวิชาชีพ) วันนี้ผมขอบูชาๆยอวาทีมันซักนิด เพื่อให้มันมีภาพลักษณ์เป็นเมพ
จะได้ บูชาๆๆ
ใบตองแห้ง
เป็นนามปากกาคอลัมนิสต์ใหญ่ค่ายไทยโพสต์ ของไอ้ถึก-อธึกกิต แสวงสุข
ไอ้ ถึกเกิดในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นครู หัวดีแต่ขี้เกียจ จบ ม.ศ.5 ร.ร.เตรียมอุดม เข้าธรรมศาสตร์ปี 2517 ก็หลัง14ตุลาปีเดียว ทำกิจกรรมชุมนุมวรรณศิลป์ วันๆไม่ค่อยได้เรียนหรอก เอาแต่เคลื่อนไหว จนติดโปร 3 ครั้ง จ่อรีไทร์
พอเกิด 6 ตุลา 2519 เพื่อนสนิทของถึกคือ อนุวัตร อ่างแก้ว ตาย แต่ถึกก็ไม่ได้เข้าป่าทันที ลาออกจากธรรมศาสตร์ พ่อแม่ก็เข็นให้สอบเอนทรานซ์ใหม่ติดวิศวะจุฬาฯ แต่ถึกทำใจไม่ได้ เลยเผ่นเข้าป่าที่เชียงราย ภูชี้ฟ้า สถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน
สหายถึกออกป่ารุ่นท้ายๆ ปี 2525 ไม่ยอมเรียนต่อ อีเหละเขละขละอยู่หลายปี ทำโรงพิมพ์ สำนักพิมพ์ แล้วก็ไปเริ่มทำหนังสือพิมพ์ที่แนวหน้าแบบเรียนลัด เพราะไปเป็นรีไรเตอร์โดยไม่เคยทำข่าวภาคสนาม ต่อมาพรรคพวกในทีม ยกทีมออกจากแนวหน้าหลังไล่ รสช.ตอนพฤษภาทมิฬเสร็จ ก็มาอยู่ INN กับต้อยสนธิญาณ หนูแก้ว อยู่ได้ไม่นานก็ตามพรรคพวก คือพวกอายุธ ประทีป ณ ถลาง ออกมาสยามโพสต์ของพี่เปลว แล้วก็เกาะชายผ้าเหลืองเถ้าแก่เปลวมาอยู่ไทยโพสต์มานี่ก็จนหนวดหงอกพอดี
ถึก บอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเอาถ่านอะไรนัก อยู่ในขบวนการนักศึกษาก็เป็นผู้ตามธรรมดาๆ อยู่ป่าก็ไม่ใช่พวกขยันทุ่มเทเพื่ออุดมการณ์สุดตัว ตอนที่นักศึกษาขัดแย้งกับ พคท. พวกที่ทุ่มเทมากๆ จะสติแตก ผิดหวัง hurt ร้องห่มร้องไห้ แต่ถึกไม่เสียใจคิดมากขนาดนั้น แม้จะเลือกข้างอยู่ในกลุ่มนักศึกษาที่ "ก่อกบฎ" แต่ก็พยายามทำความเข้าใจฝ่ายนำ จนได้ข้อสรุปว่าเป็นปัญหาทัศนะของคนดีที่ล้าหลัง ระบบที่รวมศูนย์อำนาจ แล้วก็อุดมการณ์ที่ไม่สอดคล้องความเป็นจริงของสังคม
ถึกเขียนไว้ถึงตัวเองตอนหนึ่งว่า นับแต่ออกจากป่าก็ไม่เคยคิด "ปฏิวัติสังคม" อีกเลย
.......
ข้าง ต้นนั่นเป็นอัตชีวประวัติฉบับย่อของใบตองแห้ง ชายผู้มีนัยน์ตาเยิ้มประดุจว่ากรึ่มกัญชาอยู่เป็นนิจ ริมฝีปากคล้ำอยู่เสมอเพราะแม่งซี๊ดส์บุหรี่มวนต่อมวน และเป็นเจ้าของคอลเล็กชั่นหนังXXXที่น่าดูที่สุดในโลก....(อ้าว ไอ้ห่า ไหนว่าจะแก้ภาพลักษณ์ให้กู--ไอ้ถึกบ่น)
อ้อ ไม่ใช่ สรุปใบตองแห้ง ของเค๊าดีจินๆครับ ไอ้กระพ้มรับรอง
Noteจากธนาพลแห่งฟ้าเดียวกัน : ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟนคุณ "ใบตองแห้ง" ทั้งในส่วนของการตอบจดหมายหน้า 5 หรือบทสัมภาษณ์วันอาทิตย์ ที่คุณใบตองสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม
ทืี่ ผ่านมา "ใบตองแห้ง" เป็นเสมือนเครื่องสำองค์ชั้นดีที่ทำให้หนังสือพิมพ์ฝ่ายขวาแบบไทยโพสต์ ดูดี อย่างน้อยก็เปิดกว้างให้มีความเห็นต่าง
ล่าสุด เปลว สีเงิน เจ้าของและบก.ใหญ่สั่งห้ามคุณ "ใบตองแห้ง" เขียนคอลัมน์การเมืองทุกคอลัมน์ในไทยโพสต์ ส่งผลให้คุณ "ใบตองแห้ง" ยื่นใบลาออกจากไทยโพสต์แล้ว
ในฐานะคนอ่านไทยโพสต์คนหนึ่ง
ผมคิด ว่าการหายไปของใบตองแห้ง มิได้เป็นการสูญเสียคอลัมนิสต์และนักสัมภาษณ์ฝีมือดีของไทยโพสต์เท่านั้น แต่เป็นการสูญเสียจิตวิญญาณการทำงานในวิชาชีพของไทยโพสต์ด้วย
หลังจากนี้ไทยโพสต์ก็กลายเป็นดาวสยามสมบูรณ์แบบสมใจเปลว สีเงิน และมวลชนพันธมิตร
ปล. ถ้าสมาคมนักข่าวมีแถลงการณ์ประณามนายทุน(เปลว) แทรกแซงสื่อ (ใบตองแห้ง) ผมจะยอมกราบตีนคุณประสงค์หรือกรรมการท่านอื่น ๆ เล
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น