ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Gap Theory โดย โฆษิต
วันนี้ผมมาคุยเรื่อง Gap ที่เกิดจากราคากระโดด(ขึ้นหรือลง) เปิดเป็นช่องว่างระหว่างแท่งเทียนสองอัน
คนที่รู้แล้วก็ไม่ต้องอ่านนะครับ รวบรวมมาไว้ให้น้องๆที่เข้ามาเล่นหุ้นใหม่ๆเอาไว้ประดับความรู้
เรื่อง Gap มีคนเขียนถึงไม่มาก เราดูกราฟแท่งเทียนบางทีก็missเฉยเลย
ฉะนั้นการดูกราฟทางเทคนิคต้องดูเป็นตัวๆติดตามอย่างใกล้ชิดทุกวัน รอคอยอย่างมีสติ อดทนรอกินคำใหญ่ๆทีเดียว
Gap แบ่งออกเป็นลักษณะใหญ่ๆได้เป็น 2 แบบ คือ
1.True Gap : เป็นGapที่เกิดช่องว่างระหว่างแท่งเทียนทั้งสอง
2.Body Gap : เป็นGapที่เกิดช่องว่างเฉพาะตัวbodyของแท่งเทียน แต่ไส้เทียนยังoverlapกันอยู่
นอกจากนี้ยังแบ่งออกตามtrendของราคาซื้อขาย
-Clean Gap : เป็นGapที่เกิดขึ้นในช่วงราคาที่ยังไม่มีการซื้อขายในเร็วๆนี้ ซึ่งอาจหมายถึงแนวโน้มที่ยังมีต่อไป
-Dirty Gap : เป็นGapที่เกิดขึ้นในช่วงราคาที่มีการซื้อขายในเร็วๆนี้ซึ่งมีมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังยืนยันการปรับตัว
ของแนวโน้มต่อไป
แต่ถ้าดูแบบdynamic เราแบ่งการเคลื่อนตัวของแท่งเทียนออกได้เป็น
-Breakaway Gap : เป็นการกระโดดของราคา(ขึ้นหรือลง)ทันทีจากช่วงราคาซื้อขายตามปกติ
volumeมีมากขึ้นอย่างทันทีทันใด ถ้าดูRSIจะยังแกว่งตัวอยู่กลางๆเพราะยังตามไม่ทันในระหว่างวัน
มักจะสัมพันธ์กับข่าววงใน ตามไปเถอะ(ซื้อหรือขาย)มักไม่ค่อยผิดหวัง
-Runaway Gap : มักเกิดตามหลัง Breakaway Gap ตลาดแน่ใจมากขึ้น volumeยังมีมาต่อเนื่อง
โอกาสยังเป็นไปได้อีก(ขึ้นหรือลง) RSIก็ยังไม่Overbought รายย่อยยังคงตามได้แต่ต้องระวังด้วย
-Exhausting Gap : มันเกือบมาถึงpeakหรือbuttomแล้ว พร้อมจะกลับตัวได้ทุกเมื่อ RSIอยู่สูงมาก
ในช่วงขาขึ้น พวกรายใหญ่มักจะปั่นราคาล่อแมงเม่า ไม่ควรผลีผลามเข้าซื้อเด็ดขาด หรือถ้าเข้าไปต้อง
ใช้กลยุทธ์เข้าเร็วออกเร็วทำกำไรช่วงสั้น
-Cluster or Island Gap : มีความสำคัญมาก บ่งบอกถึงแนวโน้มกลับตัวครั้งใหญ่
-Common Gap & Closing(Filling) the Gap : เป็นGapที่เกิดขึ้นแล้วราคากลับมาปิดในช่วงราคานั้นภายในระยะเวลา
อันสั้นไม่กี่วัน ซึ่งอาจเกิดจากหุ้นนั้นไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
รูปที่ 8
Classic Caseมากสำหรับ KMCเมื่อย้อนไปแค่ 2 ปี
คนที่รู้แล้วก็ไม่ต้องอ่านนะครับ รวบรวมมาไว้ให้น้องๆที่เข้ามาเล่นหุ้นใหม่ๆเอาไว้ประดับความรู้
เรื่อง Gap มีคนเขียนถึงไม่มาก เราดูกราฟแท่งเทียนบางทีก็missเฉยเลย
ฉะนั้นการดูกราฟทางเทคนิคต้องดูเป็นตัวๆติดตามอย่างใกล้ชิดทุกวัน รอคอยอย่างมีสติ อดทนรอกินคำใหญ่ๆทีเดียว
Gap แบ่งออกเป็นลักษณะใหญ่ๆได้เป็น 2 แบบ คือ
1.True Gap : เป็นGapที่เกิดช่องว่างระหว่างแท่งเทียนทั้งสอง
2.Body Gap : เป็นGapที่เกิดช่องว่างเฉพาะตัวbodyของแท่งเทียน แต่ไส้เทียนยังoverlapกันอยู่
นอกจากนี้ยังแบ่งออกตามtrendของราคาซื้อขาย
-Clean Gap : เป็นGapที่เกิดขึ้นในช่วงราคาที่ยังไม่มีการซื้อขายในเร็วๆนี้ ซึ่งอาจหมายถึงแนวโน้มที่ยังมีต่อไป
-Dirty Gap : เป็นGapที่เกิดขึ้นในช่วงราคาที่มีการซื้อขายในเร็วๆนี้ซึ่งมีมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังยืนยันการปรับตัว
ของแนวโน้มต่อไป
แต่ถ้าดูแบบdynamic เราแบ่งการเคลื่อนตัวของแท่งเทียนออกได้เป็น
-Breakaway Gap : เป็นการกระโดดของราคา(ขึ้นหรือลง)ทันทีจากช่วงราคาซื้อขายตามปกติ
volumeมีมากขึ้นอย่างทันทีทันใด ถ้าดูRSIจะยังแกว่งตัวอยู่กลางๆเพราะยังตามไม่ทันในระหว่างวัน
มักจะสัมพันธ์กับข่าววงใน ตามไปเถอะ(ซื้อหรือขาย)มักไม่ค่อยผิดหวัง
-Runaway Gap : มักเกิดตามหลัง Breakaway Gap ตลาดแน่ใจมากขึ้น volumeยังมีมาต่อเนื่อง
โอกาสยังเป็นไปได้อีก(ขึ้นหรือลง) RSIก็ยังไม่Overbought รายย่อยยังคงตามได้แต่ต้องระวังด้วย
-Exhausting Gap : มันเกือบมาถึงpeakหรือbuttomแล้ว พร้อมจะกลับตัวได้ทุกเมื่อ RSIอยู่สูงมาก
ในช่วงขาขึ้น พวกรายใหญ่มักจะปั่นราคาล่อแมงเม่า ไม่ควรผลีผลามเข้าซื้อเด็ดขาด หรือถ้าเข้าไปต้อง
ใช้กลยุทธ์เข้าเร็วออกเร็วทำกำไรช่วงสั้น
-Cluster or Island Gap : มีความสำคัญมาก บ่งบอกถึงแนวโน้มกลับตัวครั้งใหญ่
-Common Gap & Closing(Filling) the Gap : เป็นGapที่เกิดขึ้นแล้วราคากลับมาปิดในช่วงราคานั้นภายในระยะเวลา
อันสั้นไม่กี่วัน ซึ่งอาจเกิดจากหุ้นนั้นไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
รูปที่ 8
Classic Caseมากสำหรับ KMCเมื่อย้อนไปแค่ 2 ปี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น