ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมบทความการเมือง

    ลำดับตอนที่ #13 : วิเคราะห์มาตรการปล้นฝรั่งของคณะปฏิวัติ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ม.ค. 50


    วิเคราะห์มาตรการ “ปล้นฝรั่ง”


    บังคุบขายแล้วไล่ฝรั่งกลับบ้าน สนองกระแส ไม่ขายชาติ

    มันมาอย่างกับ “จรวด” มาตรการต่างๆของทักษิณที่จะเอาไทยไปแข่งขันบนเวทีโลก จนคนบ่นกันตรึมเมือง รวมถึงผม ว่ามัน “เร็วไป” และพื้นฐานของสังคมธุรกิจไทย มันจะรับไม่ได้ จนมันจะเกิดรอยร้าวในสังคมไทย แล้วมันก็มาเร็วอย่างกับ “จรวด” เช่นเดียวกัน มาตรการยึดทรัพย์ฝรั่งและไล่ฝรั่งกลับบ้าน ที่ฝรั่งมาลงทุนในไทยกันเป็นร้อยปีแล้ว ไม่ต้องอ้อมค้อม นี่มันคือมาตรการ Nationalisation ธุรกิจต่างชาติเราดีๆนี่เอง เรากำลังบังคับเขาให้ขายธุรกิจ ให้เราคนไทย ในเวลาอันจำกัด มันปล้น ฝรั่งเราดีๆนี่เอง มันอาจจะเป็นกระแสมุมกลับ ที่ออกมาตอบโจทย์ “ไม่เอาทักษิณ ทักษิณขายชาติมากไป” หรือมันอาจจะเป็นกระแสมาจาก “ความพอเพียงและยืนบนขาตัวเอง” ที่ความพอเพียงนั้นก็มาจากรากฐานของกระแสไม่เอา โตเร็วจน “เสี่ยงล้ม” มากไป และไม่เอาไอเอมเอฟอีกที แต่จะอะไรก็ตาม มันก็มีพื้นฐานจริงๆมาจาก สิ่งที่เกิดขึ้นหลัง Washington Consensus ถูกนำมาใช้พัฒนาโลกที่สามอย่างแพร่หลาย คือทั้งหมดที่กล่าวมา มันก็มีรากอยู่กับเจ้าตัว วอชิงตั้น คอนเซนซัส นี้เอง


    วอชิงตัน คอนเซนซัส ความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

    ฉะนั้นก็ขอวิเคราะห์ วอชิงตั้น คอนเซ็นซัส ก่อนก็แล้วกัน แล้วค่อยมามองกันต่อ ถึงอนาคตไทย วอชิงตัน คอนเซนซัสนั้น บอกให้โลกที่สามและที่กำลังพัฒนา “เปิดตัวเองให้แก่ทุนและอุตสาหกรรมต่างชาติ” จุดอ่อนของวอชิงตั้น นั้นมีมากมาย เช่นแรงงานในประเทศกำลังพัฒนา กลายเป็นเพียงปัจจัยการผลิต พูดง่ายๆก็คือ “ทาสแรงงาน” นั่นเอง ไม่ได้ให้มูลค่าอะไรมากมายเลยในการผลิต ว่ากันว่ายิ่งโตยิ่งมีโรงงานมากยิ่งพัฒนาไปทางนี้มากขึ้น ยิ่ง “ไม่เจริญ” ก่อปัญหาสังคมมากมายเช่นคนหนุ่มสาวทิ้งครอบครัวเข้าโรงงานกัน แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็มีคนพูดว่า เมื่อสักยี่สิบปีที่แล้ว คนระดับกลางในไทยนะ “ไม่มีเลย” มาวันนี้คนระดับกลางเหยียบสิบล้านเข้าไปแล้ว ก็ไม่ใช่เพราะการพัฒนามาทางนี้นะหรือ คือแน่นอนมองแค่คนในโรงงาน ภาพมัน “ไม่ไหวเลย” แต่ถ้ามองภาพรวม พื้นฐานทางอุตสาหกรรมและทุนนอกที่เข้ามา มันส่งผลกระทบไปทั่ว นอกโรงงาน คือมันพัฒนากันมามากแล้วนะ จากพื้นฐานของการมีโรงงานทาสแบบนั้นเต็มไปหมด



    ความชั่วร้ายและความอ่อนแอ

    แต่ประเด็นที่สำคัญ คือมันมีสิ่งชั่วร้ายจริงๆแฝงอยู่ในวอชิงตัน คอนเซนซัส คือมันมีองค์กรระหว่างประเทศ ที่เป็นผู้นำทุกครั้งในการโจมตีประเทศที่มีจุดอ่อนให้เห็น คือเราด่า โซรอสกัน แต่จริงๆมัน “บัดซบ” กว่านั้นมาก คือไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ถึงขนาดองค์กรนี้ จะออกบทวิจัยเท็จ มาใช้เพื่อโจมตีคนอ่อนแอ ปัญหามันคือ แล้วใครปล่อยให้ไทยอ่อนแอหละ “ถ้าไม่ใช่คนไทยด้วยกันเอง” คือถ้าเรามั่นคง ใครจะมาโจมตีเราได้ หรือปัญหาทางการค้าที่มันจะเกิดขึ้นมากมาย เพราะเราไปไล่เขาออกจากไทย แล้วการท่องเที่ยวที่พึ่งฝรั่ง “ที่รักเรา” อีก



    ราคาของ มาตรการ ไม่ขายชาติ แต่ปล้นฝรั่งแทย

    ผมจะไม่แตะมากนักนะครับ ถึงผลกระทบต่อการได้โบนัส เงินเดือนขึ้น หรือเงินค่าแรงงานขั้นต่ำ หรือคนหนุ่มสาวที่ต้องการมีสิ่งแบบบ้าน รถ และ อีกสารพัด จะต้องเลิกล้มความคิดไปกันกี่คน ที่ทุกอย่างมันจะชะลอตัวเพราะเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงอย่างมาก จากนโยบายไล่ฝรั่งกลับบ้าน และผมจะไม่พูดถึงมากนะครับว่าไทยตอนนี้นั้น ปัญหาจริงๆมันคือ “มั่นคงเกินไป” ฉะนั้นจะเอาพอเพียงมาสร้างความ “ไม่เสี่ยงอะไร” ขึ้นไปอีกเพื่ออะไร ในระบบใหญ่นะครับ แต่ในระบบเล็กๆแล้ว ระดับตัวบุคคล ผลก็เห็นด้วยที่ใช้จ่ายพอตัว ก็มีส่วนดีนะครับ หรือในระยะยาว ฝรั่งหนีไทยหมด มันจะวกมาสร้างความ “ไม่มั่นคงได้มากขนาดไหน” เวลาเท่านั้นที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น แต่อยากจะพูดในประเด็นหลักจริงๆ คือคนไทยพร้อม “ไม่พึ่งไม่ร่วมมือกับฝรั่งหรือยัง”



    คนไทยพร้อมยืนบนขาตัวเองหรือไม่

    ก็หมายความว่า คระปฏิวัติ เลือกให้เราคนไทยหัด “ยืนอยู่บนขาตัวเอง ชนิดไม่เอาฝรั่งแล้ว” คือราคาของมาตรการนี้ คือมันมีมากมายนักอย่างที่ผมกล่าวถึงไปแล้ว แล้วสิ่งที่เราจะได้มาหละมันคืออะไร คือผลดี ของการ “ยึดทรัพย์ฝรั่งแล้วไล่เขากลับบ้าน” มันคืออะไร คือมันต้องมีดีบ้างสิ ไม่อย่างนั้น คณะปฏิวัติอันชาญฉลาดจะออกมาตรการนี้มาเพื่ออะไร คือมันเหมือนกับการหยุดนาฬิกาไว้ หยุดการแข่งขันไปข้างหน้า ปิดประเทศ ต่อทุนโลกและการลงทุนโลก ที่ทำให้คนไทยที่ก็รู้ๆกันว่า ค่อนข้างจะไม่สนใจการทำงานหนักอย่างมุ่งมั่นเท่าไหร่ ยิ่ง “เฉื่อย” เข้าไปอีก


    ประเด็นในการตัดสินใจครั้งสุดท้าย จริงๆแล้ว มันก็คือคนไทยพร้อมหรือยังที่จะ “พัฒนาประเทศด้วยตัวเอง” คนกล้าตอบคำถามนี้มีไม่มากหลอกครับ เพราะจะถูกด่ายับ แต่ถ้าเราแยกเศรษฐกิจการเมืองออกจากกัน เราก็พอเห็นถึงความแตกแยกของคนไทย ในกระบวนการพัฒนาการเมืองไปแล้วนะครับ ที่ก็ยังไม่จบวันนี้ และก็ระเบิตกันไปเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ส่วนภาคธุรกิจ เราพร้อมขับเครื่อนตัวเองไปข้างหน้าหรือยัง มันก็น่าคิดนะครับ คือ “เงาตามตัว” คนไม่เดินไปข้างหน้า มันก็คือการตกงาน และความจนนะครับ “เงาตามตัวของระบบที่เดินไปข้างหน้า” คือมีงานทำ และความอยู่ดีกินดี ผมรู้นะครับว่าคณะะปฏิวัติกำลังคิดอะไรอยู่ แต่มันเป็นไปไม่ได้หลอกครับ ที่คนตกงานเป็นล้านเป็นแสน จะหันกลับเข้าสู่ระบบเกษตรพอเพียง เพื่อเลี้ยงชีวิต คือเกษตรพอเพียง เลี้ยงคนตกงานมากมายไม่ได้หลอกครับ ที่ดินว่างมันไม่พอครับ ระบบเศรษฐกิจจะเดินไปข้างหน้าได้หรือไม่ ด้วยมือนักธุรกิจคนไทยล้วนๆ มันก็เป็นไปได้นะครับ คณะปฏิวัติคงบอกว่าคนไทยทำได้ แต่ลองมองไปทั่วโลกสิครับ ว่าระบบ”ปิด” และจำกัด แบบที่ท่านวาดไว้ มันออกมาเป็นอย่างไร และระบบที่เปิดให้ทุนนอก ค้าขายและแข่งขันกับโลก ในที่สุดมันเป็นอย่างไร



    วัฒนธรรมไทยจะรุ่งเรือง แต่องค์ความรู้รวมจะตกต่ำ

    แต่สิ่งที่ผมกังวลที่สุด คือในขณะที่องค์ความรู้ของโลกมันพัฒนาไปข้างหน้า ด้วยการค้าขายและร่วมมือและการลงทุนระหว่างประเทศ องค์ความรู้ของสังคมไทยจะเป็นอย่างไร เมื่อเราหันหลังให้โลก ไล่เขากลับบ้าน ยึดทรัพย์สินเขา ก็แน่นอนว่าวัฒนธรรมไทย คงจะกลับมารุ่งอีกที กระแสวัฒนธรรมโลกคงจะกระทบไทยน้อยลง แต่ลองมองไปรอบตัวท่านเองดูสิครับ ว่าสิ่งต่างๆที่พัฒนามาจากต่างประเทศ มันทำให้ชีวิตเราก็ดีขึ้นด้วยนะครับ คือเราด่าแต่เด็กๆใส่สายเดี่ยว และเวปโป้ มันมาจากฝรั่งทั้งนั้น แต่อย่างอื่นหละครับ องค์ความรู้เราก็พัฒนากันขึ้นมากแล้วนะครับ ในหลวงท่านส่งคนไทยไปเรียนต่างประเทศทุกปี เพราะอะไรหละครับ ไม่รู้กี่รัชการต่อกี่รัชการ รีบพัฒนาเมืองไทยให้ทันสมัยอย่างอารียประเทศ เพราะอะไรหละครับ ไม่รู้กี่รัชการต่อกี่รัชการ ในราชวงไทยไม่รู้ต่อกี่ราชวง สนับสนุนการค้าเสรีและการเปิดประเทศให้ค้าขายกับต่างประเทศ ก็เพื่ออะไรหละครับ ทั้งหมดก็เพื่อให้คนไทยและ เมื่องไทย “เจริญขึ้น มีความรู้ความสามารถ เท่าเทียมต่างชาติ” นะครับ


    ภายใต้ แนวความคิดที่ไปทาง วอชิงตัน คอนเซนซัส ทั้งหลาย เราเจริญขึ้นจริงหรือไม่


    ผมก็ผู้ใหญ่พอที่จะสรุปว่า ขอให้ท่านผู้อ่านสรุปกันเอาเองก็แล้วกัน ถ้าท่านคิดว่าที่ผ่านมาก็เจริญขึ้น ท่านก็สมควรต่อว่าคณะปฏิวัติ ที่มาอัดฝรั่งยับ เพราะเขาเป็นส่วนสำคัญ ที่เรามาถึงจุดนี้ได้ แต่ถ้าท่านคิดว่าที่ผ่านมา ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ฝรั่งเป็นตัวปัญหา และสมควรหาทางอื่น เช่นการหักดิบฝรั่งมายืนบนขาตัวเอง ท่านก็ควรจะสนับสนุนคณะปฏิวัติ


    แต่คนรวยคิดหนัก ที่รวมหัวกันไม่เอาทักษิณ “แตกเป็นเสี่ยงๆ”

    บางวงการแบบก่อสร้าง ชอบมากที่ฝรั่งจะไม่เข้ามาแข่งขันด้วย ภายใต้ เอฟทีเอ ของทักษิณ แต่วงการเงินและทุน “มึนตืบ” ภายใต้มาตรการไม่เอาทุนฝรั่ง เพราะการหมุนเวียนของเงินจะชะลอตัวลง จนรายได้ชะลอตัวไปด้วย ถึงแม้ว่าในระยะแรก คนไทยจะต้องไปกู้เงินมาซื้อกิจการจากฝรั่ง สัดส่วนหนี้ของธุรกิจไทย และหนี้ส่วนตัวจะสูงขึ้น ส่วนที่ดิน กระแสฝรั่งซื้อคอนโด หาย และคนระดับกลางซื้อบ้าน หาย จะวูบจนที่ดินวูบไปด้วย ตรงนี้จะกระทบ “ผู้ดีเก่า” ชนิด เลือดขึ้นหน้า ธนาคารชาติจะมึนตืบไปด้วยเพราะฝรั่งจะโยกเงินออกนอกประเทศ จากการต้องขายกิจการให้คนไทย จนเงินสำรองหด สรุปคือการเปลี่ยนแปลง ทางพื้นฐานเศรษฐกิจไทยครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้น และจะกระทบต่อ การเมือง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    จากคุณ : ทันคนทันข่าว - [ 9 ม.ค. 50 21:13:39 A:203.209.117.138 X: ]
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×