ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ล้วงไส้นักเขียนการ์ตูนการเมือง+บุคลากรสื่อฝั่งเสื้อแดง+เสื้อขาวกันบ้าง
โดย คุณรักในหลวงห่วงลูกหลาน
ที่มา บอร์ดฟ้าเดียวกัน
7 พฤษภาคม 2552
สมชาย กรุสวนสมบัติ
ซูม เป็นนามปากกาของสมชาย กรุสวนสมบัติ ขรก.สภาพัฒน์ เข้าใจว่าแกมาเกษียณในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาสภาพัฒน์ ยุคดร.สุเมธหรือเปล่าผมก็เลือนๆ
พี่ซูมเขียนคอลัมน์เหะหะพาทีในไทย รัฐมานานตั้งแต่ยุคป๊ะกำพลครับ แกก็ออกแนวกลางๆเพราะเป็นข้าราชการ แล้วก็เป็นพวกบูโรแครต แต่ตัวหนังสือแกอารมณ์ดีร่าเริงมองโลกแง่ดี แกก็จะไม่เข้าใครออกใครว่าไปตามกระแสเป็นหลัก แกจะออกมาแนวตัวอย่างสำรวจของพวกABAC POLLนี่แหละคือไปเรื่อยๆตามกระแสแฟชั่นช่วงนั้นๆ
ศักดา แซ่เอียว(เซีย ไทยรัฐ)
ส่วน เซียหรือศักดาก็เริ่มเป็นการ์ตูนนิสต์จากรายสัปดาห์อย่างพวกอาทิตย์ของชัชริ นทร์ เคยเขียนอยู่อีกหลายเล่ม จนมาปักหลักหน้า3ไทยรัฐ เซียก็จะออกแนวซ้ายๆเห็นอกเห็นใจคนยากคนจนมาแต่ไหนแต่ไร จนป่านนี้ก็ยังไม่ย้ายจุดยืน
เขียนมาเขียนไปก็จนพวกพรรคประชาวิบัติ ออกโรงมาเอาเรื่องนี่แหละ ไปฟ้องสภาการหนังสือพิมพ์ว่าเซียนี่แม่งจ้องด่าไอ่มาร์คกับพรรคประชาวิบัติ ท่าเดียว...แต่พวกเสื้อแดงก็เชียร์นายเซีย เพราะตอนนี้คนหนังสือพิมพ์ที่อยู่ข้างพวกเสื้อแดงนี่นับหัวได้ไม่ครบ5นิ้ว มือ
หากเซียเผอิญได้ร่วมงานกับปีย์ แล้วก็รับบรี๊ฟจากพระองค์ท่านผู้ทรงพระราชนิพนธ์พระมหาชนก หรือวาดหมาคุณทองแดงนี่มันก็ไม่แน่...อาจจะเขียนไปทางเดียวกับชัย ราชวัตร ไปแว้วก็ได้
ศุภรัตน์ นาคบุญนำ
เริ่มที่อิ๋ว-ศุภรัตน์นะฮะ
อิ๋ว ก็เป็นคนที่สนิทกับติ๋ว-ศันศนีย์ นาคพงศ์มากคนหนึ่ง ตอนที่เคยเป็นผู้อ่านข่าวทางโทรทัศน์ช่อง7สีด้วยกัน แล้วก็เพราะอยู่ช่อง7นี่เอง ชาวบ้านเห็นหน้าค่าตาบ่อย มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ หน้าตาก็ขึ้นกล้องก็เลยพลอยได้เกิด
ต่อมา ติ๋วศันศนีย์ออกมาเล่นการเมืองในไทยรักไทยก่อน ได้เป็นส.ส.กรุงเทพฯสมใจ แล้วก็เรียกว่าอยู่วงในของทักษิณคนหนึ่ง(แต่จริงๆในเรื่องกิจกรรมทางการ เมืองติ๋วจะสนิทมาทางจาตุรนต์มากกว่าขั้วอื่น รวมทั้งขั้วสายเจ๊หน่อย ในระยะหลังๆนี้การร่วมงานกับจาตุรนต์บ้านเลขที่111ดูจะใกล้ชิดกันขึ้น)
ติ๋ว เป็นผู้อ่านข่าวรุ่นพี่ในช่อง7อย่างที่ว่ามา แล้วออกมาเล่นการเมืองก่อน ต่อมาก็ลากอิ๋วมาลงเรียนโทที่นิด้าด้วยกัน หลักสูตรเดียวกัน อึดอัดกับพฤติการณ์ของอาจารย์ที่ชื่อดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ที่ด่าเหลี่ยมเป็นอาชีพหลัก สอนหนังสือเป็นงานอดิเรกด้วยกัน(แต่ก็ฝืนๆเขียนข้อสอบให้มันผ่านๆไปด้วยกัน) ทั้งคู่รับปริญญาโทพร้อมกันในปี2548
หลังรัฐประหาร19กันยา49และมี เลือกตั้ง23ธันวา50 ติ๋วซวยเพราะอยู่บ้านเลขที่111 ส่วนอิ๋วลงสมัครส.ส.แบบเปิดซิงที่เขตสวนหลวง ผลคือกินแห้วท่ามกลางความสงสัยพอประมาณ เพราะผลexit pollนั้นสอบได้ แต่คะแนนออกมาจริงเสือกสอบตก แต่รัฐบาลสมัครให้รางวัลปลอบใจเป็นรองโฆษกรัฐบาล
อิ๋วบอกว่าก็ไม่ได้ เสียดมเสียดายกับอาชีพผู้อ่านข่าวช่อง7เท่าไหร่หรอกว่าไปแล้ว เพราะก็อ่านงี้มาเป็น10ปีแว้ว และหากยังนั่งรากงอกอยู่ต่อไป ก็พอดีพวกรุ่นน้องมันก็ไม่ได้เกิด ก็ได้เวลามาทำงานสายการเมือง เพราะถึงจะจบตรีวารสารธรรมศาสตร์ แต่จบโทก็หลักสูตรการบริหารภาครัฐและเอกชนนิด้า ถือว่าก็อยากลองของจากที่เรียนมาพอดี
อิ๋วที่ผมรู้จักทั้งส่วนรวมและ ส่วนตัวเนี่ย มันยังหามุมด่าเขาไม่เจอหวะ ใครที่ลุ้นให้กูด่าเลยท่าจะกินแห้ว...แบ่บว่าคนมันมีใจให้กันอยู่เป็นทุนอ่ะ นะจ๊ะอิ๋วจ๊ะ คะขาครับผม
จิรายุ ห่วงทรัพย์
จิรายุ-ไอ้นี่มันก็เป็นคนใช้ได้คนหนึ่งหนะว่าไปแล้วนะ
ไอ้ ยุนี่เดิมมันเป็นนักข่าวสายรถยนต์ครับ ตั้งแต่สมัยมันอยู่ฐานเศรษฐกิจ แล้วก็ผ่านรายวันมาหลายเล่ม มันทำด้านข่าวรถยนต์มาตลอด เรียกว่าในวงการข่าวสายยานยนต์นี่มันเป็นตัวพ่อคนหนึ่ง ค่ายรถยนต์ต่างๆนี่จะเกรงใจมันเป็นพิเศษ
จริงๆมันก็บ้าเล่นรถด้วย พอดีที่บ้านรวย พ่อมันเป็นตำรวจใหญ่คนหนึ่ง มันก็จัดว่าเป็นคนหนู เรียนจบมาเป็นนักข่าวนี่ขับบีเอ็มมาโรงพิมพ์ บก.ของมันยังโหนรถเมล์ นั่งวินมอไซค์อยู่เลย ไอ้ห่านี่ล่อบีเอ็มมาซะเรี่ยม เพราะงั้นสาวๆนี่แม่งก็เลยตรึม ประกอบกับมันเป็นคนหน้าตาก็ใช้ได้
สมัย มาทำITVใหม่ๆนี่ นรากรเลยเสร็จมันตามระเบียบ ตอนแรกมันก็บอกกลับดึกเป็นห่วงไปส่ง...ต่อมาก็เลยกลายเป็นแม่ย่านางประจำรถ ไอ้ยุไปเรียบร้อย ตอนแรกๆมันก็ทำข่าวสายรถยนต์ ทดลองขับห่าเหี้ยอะไรไปตามเรื่อง
แต่มันก็เหมือนพวกITVโดยทั่วไป คือโดนตื้บบ่อย ตื้บหน้าตื้บหลัง โดนยึดITVหนีมาช่อง11โดนไอ้โจรศรีวิชัยบุกตื้บอีก สุดท้ายโดนปลดอีก มันก็เลยต้องออกมาเป็นรองโฆษกพรรคเพื่อไทยนี่แหละ
ที่รู้จักไอ้ยุ ผ่านๆมันก็เป็นคนใช้ได้ ถึงมันจะเป็นคนหนูนะ บอกเฮ้ย!ยุ ชงกาแฟหน่อยวะ มันก็ชง(อันนี้หมายถึงซักราวๆ15ปีมาแล้วนะ ตอนนี้มันก็โตแล้ว มันคงใช้ไม่ได้แล้ว แล้วอีกอย่างจะไปใช้มันงี้ก็คงไม่ถูกเรื่อง)
สรุป ว่า2ตัวเนี่ยคืออิ๋วกับไอ้ยุก็ไม่ได้เป็นคนเลวระยำหมามาจากไหน อิ๋วเขาก็เป็นคนมืออาชีพในวงการมานาน ก่อนมาเล่นการเมืองตามคำชักชวนของติ๋ว เขาก็ไปอัพเกรดจบโทด้านการบริหารจัดการอะไรมาแล้ว ส่วนไอ้ยุมันก็จริงๆมีโอกาสให้มันเหี้ยตลอดนะ ทำข่าวยานยนต์นี่ คิดดูง่ายๆค่ายรถยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกันก็ต้องเอาใจมันทั้งนั้น ไหนจะข้อเสนอขายรถให้ราคาถูกเป็นขี้ ให้ไปดูงานเมืองนอก ให้อะไรสารพัด แต่ที่ผมเห็นมันผ่านตามาก็ไม่ได้เห็นว่ามันเอาอาชีพนักข่าวไปทำมาหาแดกเลย
เดี๋ยวจะหาว่าแหมพอนักข่าวสายเสื้อแดงมึงไม่ด่า ดันเชียร์ซะงั้น...ก็มันไม่เหี้ย จะให้ด่าว่ามันเหี้ย กูก็เหี้ยซะเองดิ๊
ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล
ปลื้มนี่เขาแข็งนอกอ่อนในนะ
คนอาจคิดว่าเขาเป็นเหมือนอเมริกันที่พกพาความมาดมั่นไว้มากๆ
แต่ จริงๆเขาก็มีอะไรที่เป็นไทยๆอยู่มาก มือไม้อ่อน เจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไหนมันยกมือไหว้ดะ บางทีผมเอ่อไปขี้อยู่ ขี้เสร็จเดินออกมา ปลื้มแม่งหันขวับมาเจอไหว้ป๊าบ...สัดดด กรูกำลังรูดซิปอยู๊ ขอโต้ดเลยไม่ได้รับไหว้มึง
ผมว่าหากหม่อมอุ๋ยส่ง ปลิ้มไปเรียนอังกฤษเหมือนพวกผู้ดีทั่วไป ก็คงกลับมาเมืองไทยเหมือนๆพวกไอ้มาร์ค หรือกรณ์ หรือไอ้โชคคือแม่งก็กลายเป็นชนชั้นปกครองอะไรกันไป แต่การไปเรียนอเมริกา มันก็ทำให้คนมีวิถีชีวิต วิธีคิดแบบอเมริกัน คือความมีหลักมีเกณฑ์ ความที่ว่าบ้านเมืองมันต้องให้โอกาสกับคนได้แสดงศักยภาพ หรือให้โอกาสที่ใครก็จะแจ้งเกิดหรือเติบโตได้
มันกลับมาเมืองไทยก็ ดันมาเจอบ้านเมืองเชี่ยๆอย่างนี้ มันก็คงจะเบื่อ และเกิดการต่อต้าน และอยากเปลี่ยนแปลงให้มันดีขึ้น มันมาเจอคนแบบไอ้เผือก-สรยุทธ์นี่มันก็แอนตี้พอสมควรว่า ไอ้นี่อาศัยระบบว่ากูเก๋ากว่า ขี่ได้เป็นขี่ เรื่องจริงเอามาล้อเล่น ความที่ไม่มีจุดยินนโยบายอะไร หลักลอยเอาตัวรอดไปวันๆ เก่งแต่ปาก แต่กลวงใน ปลื้มมันก็รับไม่ไหว ก็ทำงานกับไอ้เผือกไม่ได้
เสียดายว่า รีบลงการเมืองเร็วไปนิดนึง คือตอนนั้นมันเห็นชื่อหม่อมสุขุมพันธ์ลงเลือกตั้งผู้ว่า มันก็คิดว่ามันสู้ได้แหงๆ แต่ปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยเสือกส่งแซมยุรนันท์ลงแข่งด้วย คนที่จะเลือกปลื้มก็เลยเปลี่ยนใจ คนกรุงเทพฯ6แสนกว่าคะแนนเสียงอยากเลือกปลื้ม แต่การไปเลิกแซมมันเป็นอะไรที่จะท้าทายชนชั้นนำและประชาธิปัตย์ว่ากูไม่เอา ด้วยกับพว
กมึง ปลื้มเลยได้คะแนนมาเกือบๆ3แสนเท่านั้น
ก็พูดง่ายๆ ว่าโดนตัดคะแนนกันเอง แทนที่จะแข่งกับหม่อมสุขุมพันธ์ ดันต้องมาแย่งคะแนนกลุ่มเป้าหมายเดียวกันคือพวกที่ต่อต้านอำมาตย์กับปชป. ก็เลยกอดคอกันสอบตกทั้งคู่แหละ
แต่อายุยังน้อย ยังมีเวลาอีกมากหนะ ก็สู้ใหม่แล้วกัน หาจังหวะดีๆแล้วกัน...
กิตติ สิงหาปัด
เป็นมือดีคนหนึ่ง เป็นเด็กสร้างของดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
ลี่-กิตติ เป็นคนขอนแก่น มาจบเกษตรศาสตร์ เลยสมัครทำงานเป็นนักข่าวสายเกษตรกับอาจารย์ดร.สมเกียรติ แล้วขยับมาทำข่าวด้านสิ่งแวดล้อม แรกๆมีคู่หูอีกคนคือสุริยน จองลีพันธ์ (ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหน..รุ่นๆนี้ที่จำได้มีเพชรี พรมช่วยอีกคน) ทำข่าวด้านสิ่งแวดล้อมได้น่าสนุกน่าติดตามมาก
จากนั้นก็มาเป็นคนอ่าน ข่าวทางITVตั้งแต่ยุคหยุ่นบุกเบิก แล้วก็เหนียวมาก ใครมาใครไปก็อยู่มายาว จนถึงขั้นเปลี่ยนชื่อเป็นTITVก็ยังอยู่ แต่ก็จวนตัว ลูกเมียปากท้องต้องหากิน เงินเดือนไม่มีเลยเผ่นมาตั้งหลักช่อง9พักนึง สุดท้ายก็มาตั้งบริษัทผลิตรายการให้ช่อง3
ดูประว้ติว่าอยู่ITVมาได้ทุกยุคนี่ก็คงเห็นแล้วว่าลี่เขามีทีเด็ดคืออาจจะเข้ากับใคร
ก็ ได้ หรือไม่ยอมเป็นพวกใครที่เฮกันไปเฮกันมา แต่ขนาดนั้นยังไม่วายโดนพวกม้อบเหี้ยเหลืองกำปั้นชกหน้านะ ตอนที่เหี้ยเหลืองบุกยึดโทรทัศน์ช่อง11NBT วันนั้นไอ้ยุกับตวงพรอยู่ในห้องส่งเผ่นหนีทัน แต่ไอ้ลี่กิตติขับรถมาป้วนเปี้ยนจะมาทำรายการ พวกเหี้ยเหลืองก็ชกเข้าให้ เพราะมันนึกไว้ก่อนว่าพวกช่อง11นี่คือศัตรูมัน
จอม เพชรประดับ
จอมก็ทำงานกับITVมานาน แล้วก็ไปอยู่เมกาพักใหญ่ แต่ยังเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษให้ไอทีวี
ผม ชื่นชมคนแบบจอมมากคือเขาเป็นมืออาชีพ ตรงไปตรงมา อย่างตอนเหลี่ยมโดนรัฐประหารหนีหัวซุกไปเมืองนอก จอมก็พยายามตามไปสัมภาษณ์ ก่อนลุงนวมทองจะฆ่าตัวตาย ไม่มีสื่อคนไหนสนใจ(จนแกต้องไปฆ่าตัวตายหน้าไทยรัฐ)จอมก็ไปสัมภาษณ์ก่อน มาจัดช่อง11ตัวจริงชัดเจน ก็ไม่จำเป็นต้องเอาใจรัฐบาล
เสียดายว่าคนที่ดีๆมืออาชีพยังงี้ ดันไม่ค่อยมีที่ว่างให้เท่าไหร่ในบ้านนี้เมืองนี้ ฟังแล้วแม่งเศร้า
หากผมมีพันล้านจะเปิดทีวีซักช่อง ผมจะคิดถึงจอมเป็นคนแรกๆ
ชิบ จิตนิยม
คนนี้ซี้กับจอม เพชรประดับ
เล่าข่าวต่างประเทศทางไอทีวีมาก่อน ตอนจบนี่มีเหน็บเหี้ยเหลืองเป็นประจำ
ผมชอบขานี้ แกแซวพันธมิตรได้แสบๆ
เคยเห็นแกไปงานศพท่านผู้หญิงพูนศุขกับจอมด้วยนะ
ไม่ได้ไปเพราะหน้าที่นักข่าว แต่ไปเพราะเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อยากไปส่งท่านผู้หญิง
กฤษณะ ไชยรัตน์
กฤษณะหากผมจำไม่ผิดเป็นคนขอนแก่นบ้านเดียวกับกิตติ-บัญชา
เคย เป็นนักข่าวสนามมาก่อน อยู่หนังสือพิมพ์มาก่อน มาเจออุบัติเหตุปี40ต้องมาเป็นมนุษย์ล้อ จัดรายการทัวร์บ้านนักการเมืองผู้หลักผู้ใหญ่ให้พวกนี้ช่วยเข็นไปทำรายการไป น่ารักดี ชื่อกฤษณะชวนชม
ผมว่ากฤษณะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้พิการได้ มาก และสร้างแรงบันดาลใจให้คนครบ32อย่างเราๆว่าหากจะคิดสั้นให้ดูมนุษย์ล้อคนนี้ เป็นตัวอย่างไว้ เขาขาเสียอย่างนี้ แต่ใจไม่เสีย ยังเฮฮาหัวเราะ ทำงานทางสร้างสรรค์ได้
ในบรรดาคนเนชั่นผมชอบดูมนุษย์ล้อคนนี้มากที่ สุด ไม่ใช่เพราะเขาพิการ แต่เพราะเขาพิการแล้วไม่ยอมแพ้ แถมทำเอาเราคนครบ32ที่เวลาประสาทแดกได้ฮาสัดดดๆๆไปด้วย
นรากร ติยายน
ต๊ะเป็นสาวเจียงใหม่หนะ มีชีวิตที่เหมือนนิยายเศร้าเคล้าน้ำตา ผมเห็นเธอตั้งแต่มาอ่านข่าวITVใหม่ๆไอ้ยุ-จิรายุควงไปไหนมาไหน
แต่ ภาพที่ผมประทับใจสุดคือวันที่เธอกล่าวถ้อยอำลาITVวันสุดท้ายก่อนจอมืด เปลี่ยนเป็นTPBS ผู้หญิงคนนี้ช่างงดงามซะนี่กระไร มาดมั่นเข้มแข็งมั้กมาก...ชายฉกรรจ์โฉดๆอย่างผมยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่ต๊ะไม่มีไหลซักหยด แต่หลังจอITVมืดมิดลง ผมก็ไม่รู้ว่าต๊ะจะกลั้นไว้ไหวมั๊ยนะ
เทียบกับติ่ง-มัลลิกา ฉายานักข่าวสาว(น่อง)เหล็กนี่ ต๊ะตัวเล็กๆแถมน่องไม่เหล็ก แต่ใจเหล็กกว่ากันแยะ
บัญชา ชุมชัยเวทย์
เป็น คนขอนแก่นเหมือนกิตติ เด็กๆเรียนดีจบสาธิต ขอนแก่น แล้วมาจบตรีเอแบค โทศศินท์ แล้วไปได้โทเมกาด้วย กลับมาอ่านข่าวเศรษฐกิจทางช่อง9 เลยมาได้กับรุ่งนภา ลูกน้องเด็กสร้างของหยุ่นที่ตาออกเหล่ๆหน่อย แล้วก็ไปอ่านข่าวพวกเศรษฐกิจมันนี่ แชนัล ของตลาดหลักทรัพย์ กับมาอ่านข่าวเศรษฐกิจช่วงเย็นของช่อง3 และเป็นคนเล่าข่าวเศรษฐกิจทางรายการข่าวเด่นประเด็นร้อน96.5
ผมชอบ เวลาบัญชาเล่าข่าว มันดูactiveดี เหมือนๆพวกออกหน้าจอCNBC BLOOMBERGที่พวกนี้จะกระฉับกระเฉง ทำให้เรื่องเศราฐกิจหนักๆน่าดูน่าฟัง น่าสนุกไปด้วย
ศศินา วิมุตตานนท์(สุทธิถวิล)-น้องอ้อ
เขา ก็มีเส้นทางจากการประกวดนางงาม จากนั้นมาอ่านข่าวช่อง7 แล้วก็แจ้งเกิดจากการอ่านมุกสะเก็ดข่าวที่ตอนจบแต่ละข่าวมีเสียงอะวะว้า วอ๊าวๆๆๆ แล้วน้องอ้อเขาจะยิ้มขำๆอ้ะ
น้องอ้อมีลูกคนหนึ่งชื่อเด็กชาย"พอเพียง"
น้อง อ้อเขาถือเป็นศิษย์ธรรมกายคนดังด้วยคนหนึ่ง เวลามีงานใหญ่ๆนี่ทางวัดชอบจับน้องอ้อแต่งตัวเป็นอย่างนางวิสาขาอะไรแบบนี้ เชิญพุ่มพานดอกไม้ ก็ดีครับเข้าทางวัดทางวาดีกว่าทำชั่วนะว่าไปแล้ว
สายสวรรค์ ขยันยิ่ง-หนิง
หนิงจบนาฏศิลป์มานะ เวลาอ่านข่าวเลยจะออกแนวหวานๆเหมือนพวกเราได้ดูรำไทย ก็น่ารักดี
ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ
แก จบหมอที่อังกฤษ เคยอยู่อังกฤษนาน10กว่าปี แล้วกลับมาเป็นอาจารย์หมอพระมงกุฎ แล้วก็อ่านข่าวช่อง5 แกเคยเล่นการเมืองลงสมัครส.ส.พรรคไทยรักไทยของเหลี่ยม แต่กินแห้ว แล้วก็ไปได้กับทุกขั้วอำนาจ สมัยเหลี่ยมแกก็ไปเข้ากับเหลี่ยม พอเหลี่ยมโดนปฏิว้ติ แกก็มาเป็นโฆษกคมช.
ใครจะขี้ช้างมาขี่ม้าไป แกก็มีรายการทำที่ช่อง5 แบ่บว่าแกเหนียว
จักรพันธุ์ ยมจินดา
จักรพันธ์ก็เคยเป็นส.ส.ไทยรักไทยระยองนี่นะ
แล้วเคยถูกวางตัวให้ลงส.ส.เขตบางกอกน้อยเพื่อดับรัศมีโย่งองอาจ คล้ามฯ
ตอน หลังช่วงทำเล่าข่าวช่อง5ดูแกก็วางตัวลำบากนะ จะยังไงก็โดนด่า คือเข้าข้างเหลี่ยมก็กลัวหลุดช่อง5 เข้าข้างทหารเดี๋ยวก็โดนด่าว่าเนรคุณเหลี่ยม ก็คงทำตัวลำบากหนะ
ที่มา บอร์ดฟ้าเดียวกัน
7 พฤษภาคม 2552
สมชาย กรุสวนสมบัติ
ซูม เป็นนามปากกาของสมชาย กรุสวนสมบัติ ขรก.สภาพัฒน์ เข้าใจว่าแกมาเกษียณในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาสภาพัฒน์ ยุคดร.สุเมธหรือเปล่าผมก็เลือนๆ
พี่ซูมเขียนคอลัมน์เหะหะพาทีในไทย รัฐมานานตั้งแต่ยุคป๊ะกำพลครับ แกก็ออกแนวกลางๆเพราะเป็นข้าราชการ แล้วก็เป็นพวกบูโรแครต แต่ตัวหนังสือแกอารมณ์ดีร่าเริงมองโลกแง่ดี แกก็จะไม่เข้าใครออกใครว่าไปตามกระแสเป็นหลัก แกจะออกมาแนวตัวอย่างสำรวจของพวกABAC POLLนี่แหละคือไปเรื่อยๆตามกระแสแฟชั่นช่วงนั้นๆ
ศักดา แซ่เอียว(เซีย ไทยรัฐ)
ส่วน เซียหรือศักดาก็เริ่มเป็นการ์ตูนนิสต์จากรายสัปดาห์อย่างพวกอาทิตย์ของชัชริ นทร์ เคยเขียนอยู่อีกหลายเล่ม จนมาปักหลักหน้า3ไทยรัฐ เซียก็จะออกแนวซ้ายๆเห็นอกเห็นใจคนยากคนจนมาแต่ไหนแต่ไร จนป่านนี้ก็ยังไม่ย้ายจุดยืน
เขียนมาเขียนไปก็จนพวกพรรคประชาวิบัติ ออกโรงมาเอาเรื่องนี่แหละ ไปฟ้องสภาการหนังสือพิมพ์ว่าเซียนี่แม่งจ้องด่าไอ่มาร์คกับพรรคประชาวิบัติ ท่าเดียว...แต่พวกเสื้อแดงก็เชียร์นายเซีย เพราะตอนนี้คนหนังสือพิมพ์ที่อยู่ข้างพวกเสื้อแดงนี่นับหัวได้ไม่ครบ5นิ้ว มือ
หากเซียเผอิญได้ร่วมงานกับปีย์ แล้วก็รับบรี๊ฟจากพระองค์ท่านผู้ทรงพระราชนิพนธ์พระมหาชนก หรือวาดหมาคุณทองแดงนี่มันก็ไม่แน่...อาจจะเขียนไปทางเดียวกับชัย ราชวัตร ไปแว้วก็ได้
ศุภรัตน์ นาคบุญนำ
เริ่มที่อิ๋ว-ศุภรัตน์นะฮะ
อิ๋ว ก็เป็นคนที่สนิทกับติ๋ว-ศันศนีย์ นาคพงศ์มากคนหนึ่ง ตอนที่เคยเป็นผู้อ่านข่าวทางโทรทัศน์ช่อง7สีด้วยกัน แล้วก็เพราะอยู่ช่อง7นี่เอง ชาวบ้านเห็นหน้าค่าตาบ่อย มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ หน้าตาก็ขึ้นกล้องก็เลยพลอยได้เกิด
ต่อมา ติ๋วศันศนีย์ออกมาเล่นการเมืองในไทยรักไทยก่อน ได้เป็นส.ส.กรุงเทพฯสมใจ แล้วก็เรียกว่าอยู่วงในของทักษิณคนหนึ่ง(แต่จริงๆในเรื่องกิจกรรมทางการ เมืองติ๋วจะสนิทมาทางจาตุรนต์มากกว่าขั้วอื่น รวมทั้งขั้วสายเจ๊หน่อย ในระยะหลังๆนี้การร่วมงานกับจาตุรนต์บ้านเลขที่111ดูจะใกล้ชิดกันขึ้น)
ติ๋ว เป็นผู้อ่านข่าวรุ่นพี่ในช่อง7อย่างที่ว่ามา แล้วออกมาเล่นการเมืองก่อน ต่อมาก็ลากอิ๋วมาลงเรียนโทที่นิด้าด้วยกัน หลักสูตรเดียวกัน อึดอัดกับพฤติการณ์ของอาจารย์ที่ชื่อดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ที่ด่าเหลี่ยมเป็นอาชีพหลัก สอนหนังสือเป็นงานอดิเรกด้วยกัน(แต่ก็ฝืนๆเขียนข้อสอบให้มันผ่านๆไปด้วยกัน) ทั้งคู่รับปริญญาโทพร้อมกันในปี2548
หลังรัฐประหาร19กันยา49และมี เลือกตั้ง23ธันวา50 ติ๋วซวยเพราะอยู่บ้านเลขที่111 ส่วนอิ๋วลงสมัครส.ส.แบบเปิดซิงที่เขตสวนหลวง ผลคือกินแห้วท่ามกลางความสงสัยพอประมาณ เพราะผลexit pollนั้นสอบได้ แต่คะแนนออกมาจริงเสือกสอบตก แต่รัฐบาลสมัครให้รางวัลปลอบใจเป็นรองโฆษกรัฐบาล
อิ๋วบอกว่าก็ไม่ได้ เสียดมเสียดายกับอาชีพผู้อ่านข่าวช่อง7เท่าไหร่หรอกว่าไปแล้ว เพราะก็อ่านงี้มาเป็น10ปีแว้ว และหากยังนั่งรากงอกอยู่ต่อไป ก็พอดีพวกรุ่นน้องมันก็ไม่ได้เกิด ก็ได้เวลามาทำงานสายการเมือง เพราะถึงจะจบตรีวารสารธรรมศาสตร์ แต่จบโทก็หลักสูตรการบริหารภาครัฐและเอกชนนิด้า ถือว่าก็อยากลองของจากที่เรียนมาพอดี
อิ๋วที่ผมรู้จักทั้งส่วนรวมและ ส่วนตัวเนี่ย มันยังหามุมด่าเขาไม่เจอหวะ ใครที่ลุ้นให้กูด่าเลยท่าจะกินแห้ว...แบ่บว่าคนมันมีใจให้กันอยู่เป็นทุนอ่ะ นะจ๊ะอิ๋วจ๊ะ คะขาครับผม
จิรายุ ห่วงทรัพย์
จิรายุ-ไอ้นี่มันก็เป็นคนใช้ได้คนหนึ่งหนะว่าไปแล้วนะ
ไอ้ ยุนี่เดิมมันเป็นนักข่าวสายรถยนต์ครับ ตั้งแต่สมัยมันอยู่ฐานเศรษฐกิจ แล้วก็ผ่านรายวันมาหลายเล่ม มันทำด้านข่าวรถยนต์มาตลอด เรียกว่าในวงการข่าวสายยานยนต์นี่มันเป็นตัวพ่อคนหนึ่ง ค่ายรถยนต์ต่างๆนี่จะเกรงใจมันเป็นพิเศษ
จริงๆมันก็บ้าเล่นรถด้วย พอดีที่บ้านรวย พ่อมันเป็นตำรวจใหญ่คนหนึ่ง มันก็จัดว่าเป็นคนหนู เรียนจบมาเป็นนักข่าวนี่ขับบีเอ็มมาโรงพิมพ์ บก.ของมันยังโหนรถเมล์ นั่งวินมอไซค์อยู่เลย ไอ้ห่านี่ล่อบีเอ็มมาซะเรี่ยม เพราะงั้นสาวๆนี่แม่งก็เลยตรึม ประกอบกับมันเป็นคนหน้าตาก็ใช้ได้
สมัย มาทำITVใหม่ๆนี่ นรากรเลยเสร็จมันตามระเบียบ ตอนแรกมันก็บอกกลับดึกเป็นห่วงไปส่ง...ต่อมาก็เลยกลายเป็นแม่ย่านางประจำรถ ไอ้ยุไปเรียบร้อย ตอนแรกๆมันก็ทำข่าวสายรถยนต์ ทดลองขับห่าเหี้ยอะไรไปตามเรื่อง
แต่มันก็เหมือนพวกITVโดยทั่วไป คือโดนตื้บบ่อย ตื้บหน้าตื้บหลัง โดนยึดITVหนีมาช่อง11โดนไอ้โจรศรีวิชัยบุกตื้บอีก สุดท้ายโดนปลดอีก มันก็เลยต้องออกมาเป็นรองโฆษกพรรคเพื่อไทยนี่แหละ
ที่รู้จักไอ้ยุ ผ่านๆมันก็เป็นคนใช้ได้ ถึงมันจะเป็นคนหนูนะ บอกเฮ้ย!ยุ ชงกาแฟหน่อยวะ มันก็ชง(อันนี้หมายถึงซักราวๆ15ปีมาแล้วนะ ตอนนี้มันก็โตแล้ว มันคงใช้ไม่ได้แล้ว แล้วอีกอย่างจะไปใช้มันงี้ก็คงไม่ถูกเรื่อง)
สรุป ว่า2ตัวเนี่ยคืออิ๋วกับไอ้ยุก็ไม่ได้เป็นคนเลวระยำหมามาจากไหน อิ๋วเขาก็เป็นคนมืออาชีพในวงการมานาน ก่อนมาเล่นการเมืองตามคำชักชวนของติ๋ว เขาก็ไปอัพเกรดจบโทด้านการบริหารจัดการอะไรมาแล้ว ส่วนไอ้ยุมันก็จริงๆมีโอกาสให้มันเหี้ยตลอดนะ ทำข่าวยานยนต์นี่ คิดดูง่ายๆค่ายรถยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกันก็ต้องเอาใจมันทั้งนั้น ไหนจะข้อเสนอขายรถให้ราคาถูกเป็นขี้ ให้ไปดูงานเมืองนอก ให้อะไรสารพัด แต่ที่ผมเห็นมันผ่านตามาก็ไม่ได้เห็นว่ามันเอาอาชีพนักข่าวไปทำมาหาแดกเลย
เดี๋ยวจะหาว่าแหมพอนักข่าวสายเสื้อแดงมึงไม่ด่า ดันเชียร์ซะงั้น...ก็มันไม่เหี้ย จะให้ด่าว่ามันเหี้ย กูก็เหี้ยซะเองดิ๊
ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล
ปลื้มนี่เขาแข็งนอกอ่อนในนะ
คนอาจคิดว่าเขาเป็นเหมือนอเมริกันที่พกพาความมาดมั่นไว้มากๆ
แต่ จริงๆเขาก็มีอะไรที่เป็นไทยๆอยู่มาก มือไม้อ่อน เจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไหนมันยกมือไหว้ดะ บางทีผมเอ่อไปขี้อยู่ ขี้เสร็จเดินออกมา ปลื้มแม่งหันขวับมาเจอไหว้ป๊าบ...สัดดด กรูกำลังรูดซิปอยู๊ ขอโต้ดเลยไม่ได้รับไหว้มึง
ผมว่าหากหม่อมอุ๋ยส่ง ปลิ้มไปเรียนอังกฤษเหมือนพวกผู้ดีทั่วไป ก็คงกลับมาเมืองไทยเหมือนๆพวกไอ้มาร์ค หรือกรณ์ หรือไอ้โชคคือแม่งก็กลายเป็นชนชั้นปกครองอะไรกันไป แต่การไปเรียนอเมริกา มันก็ทำให้คนมีวิถีชีวิต วิธีคิดแบบอเมริกัน คือความมีหลักมีเกณฑ์ ความที่ว่าบ้านเมืองมันต้องให้โอกาสกับคนได้แสดงศักยภาพ หรือให้โอกาสที่ใครก็จะแจ้งเกิดหรือเติบโตได้
มันกลับมาเมืองไทยก็ ดันมาเจอบ้านเมืองเชี่ยๆอย่างนี้ มันก็คงจะเบื่อ และเกิดการต่อต้าน และอยากเปลี่ยนแปลงให้มันดีขึ้น มันมาเจอคนแบบไอ้เผือก-สรยุทธ์นี่มันก็แอนตี้พอสมควรว่า ไอ้นี่อาศัยระบบว่ากูเก๋ากว่า ขี่ได้เป็นขี่ เรื่องจริงเอามาล้อเล่น ความที่ไม่มีจุดยินนโยบายอะไร หลักลอยเอาตัวรอดไปวันๆ เก่งแต่ปาก แต่กลวงใน ปลื้มมันก็รับไม่ไหว ก็ทำงานกับไอ้เผือกไม่ได้
เสียดายว่า รีบลงการเมืองเร็วไปนิดนึง คือตอนนั้นมันเห็นชื่อหม่อมสุขุมพันธ์ลงเลือกตั้งผู้ว่า มันก็คิดว่ามันสู้ได้แหงๆ แต่ปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยเสือกส่งแซมยุรนันท์ลงแข่งด้วย คนที่จะเลือกปลื้มก็เลยเปลี่ยนใจ คนกรุงเทพฯ6แสนกว่าคะแนนเสียงอยากเลือกปลื้ม แต่การไปเลิกแซมมันเป็นอะไรที่จะท้าทายชนชั้นนำและประชาธิปัตย์ว่ากูไม่เอา ด้วยกับพว
กมึง ปลื้มเลยได้คะแนนมาเกือบๆ3แสนเท่านั้น
ก็พูดง่ายๆ ว่าโดนตัดคะแนนกันเอง แทนที่จะแข่งกับหม่อมสุขุมพันธ์ ดันต้องมาแย่งคะแนนกลุ่มเป้าหมายเดียวกันคือพวกที่ต่อต้านอำมาตย์กับปชป. ก็เลยกอดคอกันสอบตกทั้งคู่แหละ
แต่อายุยังน้อย ยังมีเวลาอีกมากหนะ ก็สู้ใหม่แล้วกัน หาจังหวะดีๆแล้วกัน...
กิตติ สิงหาปัด
เป็นมือดีคนหนึ่ง เป็นเด็กสร้างของดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
ลี่-กิตติ เป็นคนขอนแก่น มาจบเกษตรศาสตร์ เลยสมัครทำงานเป็นนักข่าวสายเกษตรกับอาจารย์ดร.สมเกียรติ แล้วขยับมาทำข่าวด้านสิ่งแวดล้อม แรกๆมีคู่หูอีกคนคือสุริยน จองลีพันธ์ (ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหน..รุ่นๆนี้ที่จำได้มีเพชรี พรมช่วยอีกคน) ทำข่าวด้านสิ่งแวดล้อมได้น่าสนุกน่าติดตามมาก
จากนั้นก็มาเป็นคนอ่าน ข่าวทางITVตั้งแต่ยุคหยุ่นบุกเบิก แล้วก็เหนียวมาก ใครมาใครไปก็อยู่มายาว จนถึงขั้นเปลี่ยนชื่อเป็นTITVก็ยังอยู่ แต่ก็จวนตัว ลูกเมียปากท้องต้องหากิน เงินเดือนไม่มีเลยเผ่นมาตั้งหลักช่อง9พักนึง สุดท้ายก็มาตั้งบริษัทผลิตรายการให้ช่อง3
ดูประว้ติว่าอยู่ITVมาได้ทุกยุคนี่ก็คงเห็นแล้วว่าลี่เขามีทีเด็ดคืออาจจะเข้ากับใคร
ก็ ได้ หรือไม่ยอมเป็นพวกใครที่เฮกันไปเฮกันมา แต่ขนาดนั้นยังไม่วายโดนพวกม้อบเหี้ยเหลืองกำปั้นชกหน้านะ ตอนที่เหี้ยเหลืองบุกยึดโทรทัศน์ช่อง11NBT วันนั้นไอ้ยุกับตวงพรอยู่ในห้องส่งเผ่นหนีทัน แต่ไอ้ลี่กิตติขับรถมาป้วนเปี้ยนจะมาทำรายการ พวกเหี้ยเหลืองก็ชกเข้าให้ เพราะมันนึกไว้ก่อนว่าพวกช่อง11นี่คือศัตรูมัน
จอม เพชรประดับ
จอมก็ทำงานกับITVมานาน แล้วก็ไปอยู่เมกาพักใหญ่ แต่ยังเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษให้ไอทีวี
ผม ชื่นชมคนแบบจอมมากคือเขาเป็นมืออาชีพ ตรงไปตรงมา อย่างตอนเหลี่ยมโดนรัฐประหารหนีหัวซุกไปเมืองนอก จอมก็พยายามตามไปสัมภาษณ์ ก่อนลุงนวมทองจะฆ่าตัวตาย ไม่มีสื่อคนไหนสนใจ(จนแกต้องไปฆ่าตัวตายหน้าไทยรัฐ)จอมก็ไปสัมภาษณ์ก่อน มาจัดช่อง11ตัวจริงชัดเจน ก็ไม่จำเป็นต้องเอาใจรัฐบาล
เสียดายว่าคนที่ดีๆมืออาชีพยังงี้ ดันไม่ค่อยมีที่ว่างให้เท่าไหร่ในบ้านนี้เมืองนี้ ฟังแล้วแม่งเศร้า
หากผมมีพันล้านจะเปิดทีวีซักช่อง ผมจะคิดถึงจอมเป็นคนแรกๆ
ชิบ จิตนิยม
คนนี้ซี้กับจอม เพชรประดับ
เล่าข่าวต่างประเทศทางไอทีวีมาก่อน ตอนจบนี่มีเหน็บเหี้ยเหลืองเป็นประจำ
ผมชอบขานี้ แกแซวพันธมิตรได้แสบๆ
เคยเห็นแกไปงานศพท่านผู้หญิงพูนศุขกับจอมด้วยนะ
ไม่ได้ไปเพราะหน้าที่นักข่าว แต่ไปเพราะเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อยากไปส่งท่านผู้หญิง
กฤษณะ ไชยรัตน์
กฤษณะหากผมจำไม่ผิดเป็นคนขอนแก่นบ้านเดียวกับกิตติ-บัญชา
เคย เป็นนักข่าวสนามมาก่อน อยู่หนังสือพิมพ์มาก่อน มาเจออุบัติเหตุปี40ต้องมาเป็นมนุษย์ล้อ จัดรายการทัวร์บ้านนักการเมืองผู้หลักผู้ใหญ่ให้พวกนี้ช่วยเข็นไปทำรายการไป น่ารักดี ชื่อกฤษณะชวนชม
ผมว่ากฤษณะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้พิการได้ มาก และสร้างแรงบันดาลใจให้คนครบ32อย่างเราๆว่าหากจะคิดสั้นให้ดูมนุษย์ล้อคนนี้ เป็นตัวอย่างไว้ เขาขาเสียอย่างนี้ แต่ใจไม่เสีย ยังเฮฮาหัวเราะ ทำงานทางสร้างสรรค์ได้
ในบรรดาคนเนชั่นผมชอบดูมนุษย์ล้อคนนี้มากที่ สุด ไม่ใช่เพราะเขาพิการ แต่เพราะเขาพิการแล้วไม่ยอมแพ้ แถมทำเอาเราคนครบ32ที่เวลาประสาทแดกได้ฮาสัดดดๆๆไปด้วย
นรากร ติยายน
ต๊ะเป็นสาวเจียงใหม่หนะ มีชีวิตที่เหมือนนิยายเศร้าเคล้าน้ำตา ผมเห็นเธอตั้งแต่มาอ่านข่าวITVใหม่ๆไอ้ยุ-จิรายุควงไปไหนมาไหน
แต่ ภาพที่ผมประทับใจสุดคือวันที่เธอกล่าวถ้อยอำลาITVวันสุดท้ายก่อนจอมืด เปลี่ยนเป็นTPBS ผู้หญิงคนนี้ช่างงดงามซะนี่กระไร มาดมั่นเข้มแข็งมั้กมาก...ชายฉกรรจ์โฉดๆอย่างผมยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่ต๊ะไม่มีไหลซักหยด แต่หลังจอITVมืดมิดลง ผมก็ไม่รู้ว่าต๊ะจะกลั้นไว้ไหวมั๊ยนะ
เทียบกับติ่ง-มัลลิกา ฉายานักข่าวสาว(น่อง)เหล็กนี่ ต๊ะตัวเล็กๆแถมน่องไม่เหล็ก แต่ใจเหล็กกว่ากันแยะ
บัญชา ชุมชัยเวทย์
เป็น คนขอนแก่นเหมือนกิตติ เด็กๆเรียนดีจบสาธิต ขอนแก่น แล้วมาจบตรีเอแบค โทศศินท์ แล้วไปได้โทเมกาด้วย กลับมาอ่านข่าวเศรษฐกิจทางช่อง9 เลยมาได้กับรุ่งนภา ลูกน้องเด็กสร้างของหยุ่นที่ตาออกเหล่ๆหน่อย แล้วก็ไปอ่านข่าวพวกเศรษฐกิจมันนี่ แชนัล ของตลาดหลักทรัพย์ กับมาอ่านข่าวเศรษฐกิจช่วงเย็นของช่อง3 และเป็นคนเล่าข่าวเศรษฐกิจทางรายการข่าวเด่นประเด็นร้อน96.5
ผมชอบ เวลาบัญชาเล่าข่าว มันดูactiveดี เหมือนๆพวกออกหน้าจอCNBC BLOOMBERGที่พวกนี้จะกระฉับกระเฉง ทำให้เรื่องเศราฐกิจหนักๆน่าดูน่าฟัง น่าสนุกไปด้วย
ศศินา วิมุตตานนท์(สุทธิถวิล)-น้องอ้อ
เขา ก็มีเส้นทางจากการประกวดนางงาม จากนั้นมาอ่านข่าวช่อง7 แล้วก็แจ้งเกิดจากการอ่านมุกสะเก็ดข่าวที่ตอนจบแต่ละข่าวมีเสียงอะวะว้า วอ๊าวๆๆๆ แล้วน้องอ้อเขาจะยิ้มขำๆอ้ะ
น้องอ้อมีลูกคนหนึ่งชื่อเด็กชาย"พอเพียง"
น้อง อ้อเขาถือเป็นศิษย์ธรรมกายคนดังด้วยคนหนึ่ง เวลามีงานใหญ่ๆนี่ทางวัดชอบจับน้องอ้อแต่งตัวเป็นอย่างนางวิสาขาอะไรแบบนี้ เชิญพุ่มพานดอกไม้ ก็ดีครับเข้าทางวัดทางวาดีกว่าทำชั่วนะว่าไปแล้ว
สายสวรรค์ ขยันยิ่ง-หนิง
หนิงจบนาฏศิลป์มานะ เวลาอ่านข่าวเลยจะออกแนวหวานๆเหมือนพวกเราได้ดูรำไทย ก็น่ารักดี
ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ
แก จบหมอที่อังกฤษ เคยอยู่อังกฤษนาน10กว่าปี แล้วกลับมาเป็นอาจารย์หมอพระมงกุฎ แล้วก็อ่านข่าวช่อง5 แกเคยเล่นการเมืองลงสมัครส.ส.พรรคไทยรักไทยของเหลี่ยม แต่กินแห้ว แล้วก็ไปได้กับทุกขั้วอำนาจ สมัยเหลี่ยมแกก็ไปเข้ากับเหลี่ยม พอเหลี่ยมโดนปฏิว้ติ แกก็มาเป็นโฆษกคมช.
ใครจะขี้ช้างมาขี่ม้าไป แกก็มีรายการทำที่ช่อง5 แบ่บว่าแกเหนียว
จักรพันธุ์ ยมจินดา
จักรพันธ์ก็เคยเป็นส.ส.ไทยรักไทยระยองนี่นะ
แล้วเคยถูกวางตัวให้ลงส.ส.เขตบางกอกน้อยเพื่อดับรัศมีโย่งองอาจ คล้ามฯ
ตอน หลังช่วงทำเล่าข่าวช่อง5ดูแกก็วางตัวลำบากนะ จะยังไงก็โดนด่า คือเข้าข้างเหลี่ยมก็กลัวหลุดช่อง5 เข้าข้างทหารเดี๋ยวก็โดนด่าว่าเนรคุณเหลี่ยม ก็คงทำตัวลำบากหนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น