ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์

    ลำดับตอนที่ #1 : ตีแผ่ละครน้ำเน่าไทยโดยคุณHellHound

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 49


    ตีแผ่ “ละครน้ำเน่าไทย”
    กระทู้นี้เกิดจากการนั่งอ่านหนังสืออยู่บนบ้าน แล้วได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ดออกมาอย่างโหยหวนจากข้างล่าง ด้วยความตกใจนึกว่าคนในบ้านเป็นอะไรหรือคนในบ้านเจอประสบการณ์สยอง ประเภทผีมาขอส่วนบุญ หรือไม่ก็คิดว่าเป็นเสียงสัมภเวสี จึงรีบวิ่งลงไปดู พบว่าเสียงกรี๊ดนั่นเป็นเสียงนางอิจฉาในละครน้ำเน่าเรื่องหนึ่งกำลังกรีดร้องอย่างหน้ามืดตามัว ด้วยความแค้นที่หลงคิดว่าจะเจอประสบการณ์สยองกลับเป็นเรื่องบ้าๆแบบนี้เลยกลายเป็นกระทู้นี้เกิดขึ้น
    ละครน้ำเน่าหรือหนังน้ำเน่า มีรากศัพท์มาจากคำว่า “Soap opera” หมายถึงในอเมริกาสมัยก่อนที่จะมีโทรทัศน์ แม่บ้านมักจะนั่งฟังวิทยุซึ่งจะมีรายการละครโอเปร่า ซึ่งรายการนี้จะมีบริษัทสบู่เป็นสปอนเซอร์ เล่นได้สักพักก็ตัดเข้าโฆษณา เหมือนหนังขายยาบ้านเรา และเนื้อหาของละครโอเปร่าก็น้ำเน่านั่นแหละ ประเภทรักๆใคร่ๆ ตบตีแย่งสามีภรรยาชาวบ้าน ชาวบ้านเลยเรียกว่า “Soap opera”
    กลับมาที่เมืองไทย ละครน้ำเน่าของไทยเริ่มตอนไหนไม่รู้ แต่คาดว่าน่าจะมีมาตั้งแต่เริ่มมีวิทยุ เพราะจะมีพวกละครที่ออกอากาศทางวิทยุ(ประมาณคณะสยามเกศทิพย์) ซึ่งความเป็นละครน้ำเน่าในช่วงแรกๆส่งผลมาถึงละครน้ำเน่าในสมัยปัจจุบัน คือเคยเน่ายังไงก็เน่าอย่างนั้น ปัจจุบัน เจ้าแห่งละครน้ำเน่า มีอยู่สองเจ้า คือ เจ้าตลาดหมอชิต(ช่อง 7) กับวิกหนองแขม (ช่อง 3) เฉลี่ยแล้วละครของช่อง 7 มีอัตราความน้ำเน่าสูงกว่าช่อง 3 อยู่หลายขุม และต่อไปนี้คือสิ่งที่สรุปได้จากละครน้ำเน่าไทย
    1.ศัพท์เกี่ยวกับละครน้ำเน่า
    เป็นคำศัพท์ที่พูดกันขณะดูละคร ถ้ามีคนพูดประโยคเหล่านี้ออกมาแสดงว่าเป็นละครน้ำเน่าแน่ๆ
    -ไม่มียุงเลยฟ่ะ(น้ำเน่ายุงไม่วางไข่)
    -เอาไปแช่น้ำเด๊ะ(ดูว่าแช่แล้วน้ำเน่าหรือเปล่า)
    -มีกลิ่นแล้ว(น้ำเน่ามีกลิ่น)
    -อูแหวะ!! อ้วก!!!!! โอ้ก!! (น้ำเน่าขั้นสูง)
    -หวาย เลี่ยนๆ เอาพริกกะเกลือมากินแก้เลี่ยนเด๊ะ(หวานจนเลี่ยน)
    2.วิธีดูว่าหนังสือที่จะซื้อเป็นนิยายน้ำเน่าหรือเปล่า
    ถ้าเวลาไปซื้อหนังสือแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นหนังสือละครน้ำเน่าหรือเปล่า นี่เป็นวิธีพิสูจน์
    -เอาไปแช่น้ำ ถ้าน้ำเน่าหรือมีกลิ่นก็มั่นใจได้
    -ลองเปิดอ่าน ถ้ามีกลิ่นโชยออกมาก็ชัวร์
    -ถ้าลองเปิดหนังสือแล้วรู้สึกร้อน(อิจฉาตาร้อน) มดกัด(หวานจนเลี่ยน มดขึ้น) รู้สึกเหมือนถูกตบ(ตบตีแย่งผัวเมียชาวบ้าน) ก็แน่นอน
    3.รูปแบบของตัวละครน้ำเน่า
    -พระเอก ต้องเป็นหนุ่มหล่อลูกครึ่ง(ครึ่งลูกหรือครึ่งผีครึ่งคนไม่เอา)นักเรียนนอก(นอกประเทศไทยอย่างลาว พม่า กัมพูชา อย่าหวังเกิด) ลูกชายมหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าของกิจการหลายสิบแห่ง เพิ่งกลับมาจากการเรียนต่อต่างประเทศ เนื่องจากเรียนจบแล้วหรือเพราะทางบ้านเรียกตัวกลับกระทันหัน
    -นางเอก ลูกสาวผู้มีอันจะกินคนหนึ่ง ไม่เศรษฐีก็พวกมีสี เป็นสาวสวยหน้าใสนิสิตมหาวิทยาลัยมีชื่อ หรือไม่ก็สาวน้อยในสลัมที่โตมากับเด็กๆในสลัม แต่ความจริงเป็นลูกสาวเศรษฐีที่ถูกลักพาตัวมาไม่ก็พลัดพรากจากกันตั้งแต่เด็ก
    -ตัวอิจฉา สาวเปรี้ยว สวย(มั้ง) รวย หุ่นสบึม ทั้งชีวิตทำเป็นแต่ร้องกรี๊ดๆ แหกปากแว้ดๆเป็นอย่างเดียว เสียงมีความดังเกินกว่า 140 เดซิเบล ต่ำกว่านี้หมดสิทธิ์ ชอบไล่ตบตี นางเอก วันๆเอาแต่ตามผู้ชาย(โดยเฉพาะผู้ชายหล่อๆรวยๆ) งานการไม่มีทำหาเหยื่ออย่างเดียว เป็นนักวางแผนชั้นเยี่ยมเปรียบได้กับกุนซือ โดยเฉพาะแผนแย่งลูกแย่งผัวชาวบ้านเขาเนี่ย เมื่อโกรธหรือไม่พอใจขึ้นมาสามารถแปลงร่างเป็นนางยักษ์ขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ มีคนกล่าวว่า การเป็นนางอิจฉาในละครน้ำเน่าต้องใช้พลังงานมากกว่าการทำงานเป็นกรรมกรในเหมืองถ่านหินถึง 100 เท่า
    -ตัวประกอบ คนใช้ชื่อแจ๋ว คนสวนชื่อชม คนขับรถชื่อชิต ผิดจากนี้มาเตะ(คนข้างๆ)ได้ พ่อแม่นางเอก พ่อแม่พระเอก เพื่อนนางเอก เพื่อนพระเอก
    มีแค่นี้ก็พอสร้างละครน้ำเน่าได้หนึ่งเรื่องแล้ว
    4. Style ละครน้ำเน่า
    เป็นสไตล์ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันก็ยังใช้อยู่
    4.1 นางเอกเป็นสาวในสลัม คอยพระเอก(เมาเหล้า)ขับเซฟิโร่มาเกย(ชน)
    4.2 พระเอกมีปานแดงรูปหัวใจที่ซอกแก้มก้นด้านซ้ายเอียงทำมุม 45 องศากับพื้นโลก แสดงหลักฐานเป็นทายาทมรดกหลายพันล้าน ถ้าเป็นนางเอกก็ปานแดงรูปหัวใจที่ เอ่อ.. เอ่อ…. อยู่ที่ต่ำกว่ากระดูกไหปลาร้าข้างซ้ายลงมาประมาณ 10 เซน (จะบอกว่าเนินอกก็ไม่ได้ เพราะนางเอกบางคนก็ไม่มีหน้าอก เป็นที่ราบเห็นๆ)
    4.3 นางเอกเป็นลูกสะใภ้ของพ่อผัวแม่ผัวใจร้าย ข่มเหงต่างๆนานา โดยที่ตัวผัวเองไม่รู้เรื่องเลย(ปัญญาอ่อนไม่ก็ติงต๊อง เป็นง่อย อัมพาต อัมพฤกษ์)
    4.4 พระเอกหรือนางเอกเป็นลูกคนจนโดนทิ้งไว้หน้าบ้านมหาเศรษฐีที่ไม่มีลูกเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ปัจจุบันพ่อแม่ที่แท้จริงร่ำรวยและกำลังตามหาลูกตัวเองอยู่
    4.5 พระเอกเป็นหนุ่มหล่อลูกครึ่งจบจากต่างประเทศทายาทมรดกหลายพันล้าน ที่มีสาวๆรุมตอมรุมทึ้งกันให้หึ่ง
    4.6 มาแบบแฮมเล็ท พระเอกนักเรียนนอกที่กลับมาเมืองไทยหลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้วพบว่าปะป๊าม่องเท่งไปแล้ว ถูกญาติพี่น้องบังคับให้แต่งงานกับสาวที่ไม่รู้จักหรือไม่ก็สาวใหญ่คราวแม่
    4.7 นางเอก(หรือนางเอก)เข้ามาในบ้านของพระเอกเพื่อทวงสิทธิของตนในบ้านของพระเอก(หรือนางเอก) ไม่ก็ปลอมตัวเป็นคนใช้เข้ามาหาข้อมูลทำวิทยานิพนธ์
    4.8 พระเอกเป็นปลัดไม่ก็นายอำเภอ ที่เข้าไปช่วยนางเอกที่เป็นสาวแก่นลูกสาวอาโกร้านขายกาแฟในตลาดต่อยชายโฉดที่มาแซว 10 กว่าคน ไม่ก็นางเอกสาวแก่นถูกชายโฉดฉุดไปหมายข่มขืน พระเอกจะขับรถจี๊ปตามมาช่วยทัน
    4.9 พระเอกที่เป็นมหาเศรษฐีที่ปลอมตัวเป็นคนใช้หรือคนความจำเสื่อมเพื่อมาหารักแท้(ในบ้านนางเอก)
    4.10 พระเอกกะนางเอกเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านอยู่ติดกัน สุดท้ายก็รักกัน
    5.ข้อสังเกตของละครน้ำเน่า
    1. ละครน้ำเน่ามักจะแข่งกันที่วัตถุ สมัยก่อนรถของพระเอกแค่เซฟิโร่ก็หรูแล้ว ปัจจุบันต้องเบนซ์แล้วก็ S class เท่านั้น E class น่ะกระจอกไปแล้ว หรือไม่ก็รถที่ชาวบ้านไม่ค่อยขับกัน อย่าง อัลฟ่าโรมิโอ เกียร์ sales speed ปอร์เช่เปิดประทุน BMW z3 จากัวร์หน้าสิงโต อย่างต่ำก็เปอร์โยต์ ไม่มีก็ต้องหาหยิบยืมมาเข้าฉากให้ได้ อะไรจะสิ้นเปลืองขนาดนั้น ไม่มีทางที่รถบ้านราคาต่ำกว่า 2 ล้านจะได้เข้าฉากหรอก อนาคตคงไม่พ้น เฟอร์รารี่ แม็คลาเลน แลมโบกินี่ ละมั้ง
    2.พระเอกกะนางเอกมักจะขับรถไปเสียตอนฝนตกในถนนเปลี่ยว แล้วเจอกระท่อมร้างพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก(ฟูก หมอน ผ้าห่ม ตะเกียงหรือเทียน ไม้ขีดไม่ก็ไฟแช็ก)จึงเข้าไปหลบฝน(นั่งในรถก็ได้ไม่นั่ง) หลังจากทั้งคู่นั่งมองตาในกระท่อมได้สักพัก ฟ้าผ่าหมาตายไม่ก็ผ่ายอดมะพร้าวหรือยอดสน ทั้งสองผวาเข้าหากัน (เหมือนนักมวยรอระฆังเลยแฮะ) แล้วพระเอกกะนางเอกก็ได้กัน
    3. คนใช้ในบ้านของพระเอกหรือนางเอกงานการมีไม่ทำ มานั่งสุมหัวนินทาเจ้านายตัวเอง ดีไม่ดีก็นินทาตัวเองด้วย
    4. ในกรณีที่นางเอกถูกพระเอกข่มขืน ฉากมักจะเป็นห้องนางเอกเปิดไฟสีส้มโรแมนติค พระเอกจะผลักนางเอกลงไปบนเตียง แล้วพระเอกก็จะใช้ฟลายอิ้งบอดี้แอ็กแท็กตามลงไป จากนั้นพระเอกจะจับนางเอกกดให้ไหล่ติดที่นอน นางเอกจะหนีไม่ได้เพราะเจอใช้ฟลายอิ้งบอดี้แอ็กแท็กของพระเอกเข้าไปยังจุกอยู่ ภาพจะตัดให้เห็นขานางเอกถีบผ้าปูที่นอนไปมาจนผ้าปูที่นอนร่วงจากเตียง พร้อมกับแหกปากว่า “ไม่ๆ, อย่านะ ,หยุดเถอะ ,ได้โปรด”แล้วก็ค่อยๆช้าลงๆ จนกระทั่งหยุดไปเอง (ดีไม่ดีขานางเอกอาจจะกอดเอวพระเอกอยู่ก็ได้) ภาพจะเลื่อนจนไปหยุดที่โคมไฟหัวเตียง แล้วฉากก็ตัดไปตอนเช้า ซึ่งแยกได้เป็นแบบที่ 4.1 ไม่ก็ 4.2
    4.1.กรณีที่พระเอกตื่นก่อน พระเอกจะลุกมาแต่งตัวไม่ก็สูบบุหรี่ นางเอกจะร้องไห้กระซิกๆอยู่บนเตียง พระเอกจะพูดว่า “คุณจะร้องไปทำไม ในเมื่อคุณก็มีความสุขเหมือนผม”
    4.2. กรณีที่นางเอกตื่นก่อน จะมีทางเลือก 2 ทาง
    4. 2.1 ในมือของนางเอกจะมีไม้เบสบอลหรือไม้กอลฟ์หวังฆ่าพระเอก ไม่ก็มีดหรือกรรไกรเพื่อหวังตัดให้สูญพันธุ์ ขณะที่นางเอกจะลงมือจะพูดว่า”คนชั่ว!” พร้อมเปล่งรังสีอำมหิตออกมา พระเอกซึ่งรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตจะหลบทัน แล้วตรงเข้ารวบตัวนางเอกก่อนจะปฏิบัติการแบบข้อ 4 อีกครั้ง
    4.2.2 นางเอกตื่นก่อนแต่ยังร้องไห้อยู่บนเตียง พระเอกจะหันมากอดแล้วพูดว่า”ผมจะรับผิดชอบคุณเอง”
    5.บ้านของพระเอกหรือนางเอกในสมัยก่อนก็แค่บ้านสองชั้น ปัจจุบันต้องคฤหาสน์ไม่ก็ทำเนียบขาว ไม่รู้จะเอาใหญ่โตไปทำไมนักหนา
    6.ตอนจบมักขึ้นว่า”จบบริบูรณ์”หรือไม่ก็”อวสาน” หรือไม่ก็”สวัสดี” ทั้งๆที่บางเรื่องมันทำต่อภาคสองหรือไม่ก็สามารถเอามาสร้างใหม่ได้อีกต้องหลายสิบรอบ อย่างบ้านทรายทองเงี้ย ทำไมไม่ขึ้นว่า”คอยพบกับบ้านทรายทองเวอร์ชั่น 2002 สร้างครั้งที่ 21 “ หรือไม่ก็ “โปรเจ็กท์หน้า พบกับบ้านทรายทอง ภาค 2 เวอร์ชั่น รีรัน ตอนบ่าย3 วันจันทร์ถึงศุกร์ “
    7.นางเอกมักจะเรี่ยวแรงน้อยสู้ใครไม่เป็น ถ้าไม่มีมือที่สามหรือพระเอกมาช่วยก็ทำอะไรใครเขาไม่ได้ อย่างถูกตัวร้ายหมายจะข่มขืน ทำเป็นอย่างเดียวคือแหกปาก
    8.กรณีที่พระเอกกะนางเอกเข้าใจกันและจัดงานแต่งงานอยู่ นางอิจฉาซึ่งผิดหวังและเกิดอาการเล็กๆมักจะเข้ามาในงานพร้อมด้วยปืน 1 กระบอก ซึ่งหนีไม่พ้น ปืนอัตโนมัติ ไม่มีทางเป็นรีวอลเวอร์ไปได้ จากนั้นตัวอิจฉาจะประสบชะตากรรม 1 ในต่อไปนี้
    -ถูกตำรวจจับ
    -ตกบันไดตาย
    -ทำปืนลั่นตาย
    -เป็นบ้า
    9.ในกรณีที่พระเอกต่อยกับตัวโกงที่จับนางเอกมา พระเอกจะทำตัวเป็นนักมวยสากล(ใช้หมัดอย่างเดียว) ตัวโกงจะเป็นนักมวยไทย(ใช้ทุกอย่างให้คุ้มค่า) ซึ่งพระเอกมักจะพลาดท่าเสียทีตัวโกงอยู่เสมอ นางเอกจะไม่ทำอะไรนอกจากแหกปากเชียร์และร้องวี้ดว้ายไปมาไม่ยอมไปเรียกคนมาช่วยหรือแจ้งตำรวจ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ถูกมัด และจะวิ่งเข้าไปรับกระสุนของคนร้ายแทนพระเอก (เป็นผมไม่เข้าไปขวางหรอก ถีบมันให้พ้นทางก็พอ)
    10.หนวดปลอม แว่นดำ หมวกหนึ่งใบ สามารถทำให้คนเราเปลี่ยนไปจนคนรู้จักจำไม่ได้
    อาจจะมีบางอย่างที่หลงหูหลงตาไปบ้าง ขออภัยไว้ ณ. ที่นี้ ข้อมูลส่วนมากผมคิดเอง บางส่วนหยิบยืมมาจากขายหัวเราะกะกระทู้ ‘ Something about “นางเอก” ภาค ละครน้ำเน่าในไทย’ ที่ท่านวอลก็อปเขามา ขออภัยที่หยิบยืมมาโดยไม่บอกกล่าว โครงการหน้า ผมจะตีแผ่”หนังจักรๆวงศ์ๆ”

    โดย : HellHound [ 5 ส.ค. 2544 , 14:45:12 น. ] แห่งPocketschoolครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×