คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่1:ตัวยุ่ง! =[]=++
บทที่1:ตัวยุ่ง! =[]=++
“คาราวะ ยัยเจ้ปากหมา! วันนี้ก็ยังน่ากลัวเหมือนเดิมนะคร้าบบบบบ”เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวพร้อมไอควันพุ้งกระจายไปทั่วห้องจะตามมา คนในห้องทุกคนถึงกับต้องตะลึง เงาของใครสักคนพุ่งตะคุบเงาของร่างอีกร่างทันที หมอกค่อยๆหายไป ปรากฏให้เห็น เทียร์ที่กำลังกะชากคอเสื้อ สหายคนสุดท้ายที่หายหัวไปร่วมเดือนและโผล่มาแทรกอย่างได้จังหวะ
เด็กสาวที่ตัวเตี้ยที่สุดในกลุ่มด้วยความสูงเพียงแค่ 149 ซม. ถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามที่จะสูงให้ได้มากกว่านี้แต่นั้นก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ร่างกายของเจ้าหล่อนอยู่ๆก็หยุดเจริญเติบโตไปซะเฉยๆ ผิวขาวซีดจนเกือบจะขาวเป็นกระดาษ พร้อมเส้นผมเงางามยาวสยายปิดตาข้างซ้ายจนเผยให้เห็นแค่ดวงตาสีโลหิตข้างขวา และที่สำคัญ...แขนซ้ายที่เป็นแขนเทียม สร้างขึ้นโดยถอดแบบมาจากตุ๊กตาไม้อย่างดี ทว่ามีรูป 13 โรมันกลับหัวสลักอยู่บนหลังมือ พร้อมกับไม้กางเขนสีดำอีกหนึ่งชิ้นซ้อนทับกัน
“ไอ้บ้า ห้าร้อยเยน แกทำบ้าอะไรฮะ”เทียร์ในสภาพสะบักสะบอม หัวหระจุยแถมมีเศษน้ำแข็งเกาะอยู่ไม่น้อย ถามด้วยความโกรธสุดๆ ไม้แพ้โรคแพ้อากาศหนาวที่กำเริบขึ้นมา
“อ้าว แหมๆ ก็กำลังสนุกกันนิ ฉันแค่ขอแจมด้วยเฉยๆ เอาน่า นี่มันไม่ใช่ เอ็นชาร์ของเธออย่าคิดมากเลยน่านะ นะ”ว่าแล้วเจ้าตัวดีก็เอ่ยแก้ขัดขึ้นมาซะเฉยๆ ในมือยังมีสิ่งช่วยชีวิตเพื่อนๆทั้ง 5 เอาไว้ นั้นคือ....ก้อนคริสตอลสีฟ้าอ่อนซึ่งบรรจุพลังงานแสงเอาไว้ เมื่อกระทบกับวัตถุที่ให้พลังงาน จะดูดพลังงานนั้นและระเบิดเป็นพลังงานน้ำแข็งอย่างที่เกาะอยู่บนตัวของเทียร์ซึ่งเป็นหลักฐานได้อย่างดีว่าเจ้าตัวคงจะยัดไอ้คริสตอลที่ว่าเข้าไปในกระบอกปืน แหงแซะ = =+
“ไม่ใช่เอ็นชาร์แต่มทันแพงนะเว้ย!!!”เทียร์ยังคงตะคอกใส่อีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องขณะที่ เจ้าตัวก่อเหตุทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ซะเฉยๆ
“โอเน่ กลับมาแล้วเหรอคะ”ซิลฟิลกระโจนเข้าไปหาผู้มาใหม่และสวมกอดให้หายคิดถึงทันที
“กลับมาแล้วเหรอ บราสท์”คนอื่นๆเองก็เอ่ยทักอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้น มุกิที่อยู่ห้องข้างๆและเทียร์ที่พยายามแกะซิลฟิลออกจากแม่ตัวดีก่อนที่ยัยบราสท์จะขาดใจตายเสียก่อน มุกิเปิดประตูตามมาบราสท์จึงหันไปหาเพื่อนรักทั้ง 6 และ
“ไงทุกท่าน ฉันกลับมาแล้ว”บราสท์เอ่ยตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ดูสดใส แต่ทว่า.....
“ยังจะมาเก็กอีก”เทียร์ตะโกนลั่นพรางยกหมัดขวาอัดใส่ท้องน้อยของบราสท์ทันทีพร้อมตะโกนด่าลั่นคฤหาสน์ด้วยเสียงเหี้ยมเกรียมว่า “หล่อนหายไปไหนมาร่วมเดือนฮะ”
“เอ๋.....”บราสท์ทำท่าใช้ความคิดเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอย่างใสซื่อให้เพื่อนทั้ง 6 [ทำไมวันนี้อีนี่มันสตอบอแหลจังฟะ!]
“นี่ฉันหายไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ ทุกคน”
จึก
“เออสิวะ” 6 เสียงประสานกันในบัดดล จากท่าทางอันยินดีที่แม่ตัวแสบประจำก๊กกลับมา มันจะได้กลายเป็นศึกนองเลือด V2 บราสท์คนเดียวปะทะก๊ก 6 คนซะละมั้ง เพราะรังศีมาคุที่ปล่อยออกจากทั้ง 6 ช่างแรงกล้าเสียเหลือเกิน
“เหรองั้นก็โทษทีนะ พอดีว่าลอยชายไปเรื่อย มันเบื่อๆอะแบบว่าไงดีละ ไปเที่ยวที่ วิฮาร่ามา ละมั้ง”ปึดดดดดดด วิฮาร่า ดินแดนฝึกวิชาที่แม่ตัวดีชอบหายหัวไปบ่อยๆ ชอบทิ้งเพื่อนไว้เฉยๆแล้วหนีไปเที่ยวคนเดียว มันก็น่า.....ที่จะมาพิพากษากันละนะ
“ยำมัน”มุกิออกความเห็นเสียงเรียบก่อนจะหยิบขวานเหล็กกล้าขึ้นมาในท่าเตรียมสับใครบางคน
“เฮ้ย!”บราสท์ถึงกับเหงื่อตกเมื่อไอ้เพื่อนเวรมันชักอาวุธมาประจันหน้ากันเห็นๆ ทั้งๆที่ผ่านมาอย่างมากก็แค่....ลงโทษกันนิดๆหน่อยๆแต่...เธอคงโผล่มาไม่ถูกเวลาจริงๆสินะ ถ้าย้อนไปได้ จะไม่แหวกมิติมาช่วยก็ดีแล้ว
“พร้อมเสมอก้าบผม”ทีรับคำอย่างว่าง่ายพรางยกลูกดิ่งมรณะนั้นออกมาอีกครั้ง
“วันนี้ ไม่ได้เห็นไส้ไอ้บราสท์กองกับพื้น....ฉันนอนไม่หลับแน่”เทียร์ซึ่งมีอารมณ์แค้นตกค้างอยู่แล้วเอ่ยเสนอเพื่อนๆผู้น่ารักทุกคนเพราะคงไม่มีใครใจร้ายอำมหิตทำให้ม่นางเทียร์ เพื่อนรักผู้แสนดีนอนไม่หลับหรอกจริงมั้ย [บราสท์:แล้วตูละ =[]=””” ไอ้พวกทรยศ]
“ใจเย็นเพื่อน ฉันยืดเส้นยืดสายมาเยอะแล้ว อยากพักมากกว่านะ”บราสท์โบกมือไปๆมาๆหวังขอความเห็นใจแต่มันคงใช้การไม่ได้ซะแล้วเมื่อทั้ง 6 ลากอาวุธมาเตรียมเฉาะกะบาลแม่นี่ซะเต็มที่แบบนี้...
“ได้พักแน่ พักจนวันตายไง โอเน่~”ว่าแล้วนู๋ซิลก็กระโจนตัวเอาไม้หน้าสีแดงฟาดใส่บราสท์ทันที ดีที่เธอเอี่ยวตัวหลบทันและไม่โง่พอจะยืนเฉยๆแบบที แต่วิ่งหายจ๋อมเข้าห้องของนานะในทันที แต่ถึงกระนั้นทั้ง 6 ก็ไม่วายจะยกโขยงตามไปถล่มไอ้เพื่อนบ้าแบบไม่คิดชีวิต
“เฮ้ย ไม่เอาน่า”บราสท์เอ่ยปรามอย่างหมดทาง เธอในตอนนี้ไม่มีอารมณ์มาซัดกับใครหรอกนะ แถม.....นี่มันห้องแกไม่ใช่เหรอนานะ ฉันอุส่าคิดว่าแกจะๆไม่ยำห้องตัวเอง แต่นี่มัน.....อะไรก๊าน~
“หยุดตรงนั้นแหละ ถ้าแกหลบตาย!!!”บราสท์ถึงกับสะดุ้งตัวโยนในทันใดเมื่อเจ้าแม่น้ำตานองตวัดมือยิงกระสุนพลังอัคคีสามนัดติดหมายจะให้ตับไตไส้พุงร่วงออกมาในทันที ถึงแม้น้ำเสียงจะกำชับให้เชื่อฟังคำสั่งสดๆร้อนๆของแม่หล่อนแต่....ใครมันจะบ้าเชื่อละฟะ =[]=
บราสท์เหวี่ยงตัวหลบไปทางซ้าย ปลายผมอันยาวสลวยเฉียดกระสุนไฟแบบเส้นใยแดงผ่าแปด แต่นั้นก็เป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุเฮงซวยซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นอันแสนน่าประทับใจของเหล่า spiffy นั้นเอง
“เฮ้ย! ข้างหลังอะ ไม่ทันแล้วขอรับบบบบบบ”นานะตะโกนสุดเสียงแต่ช้าไปเมื่อกระสุนอัคคีไซต์มหึมาอัดเข้าใส่ลูกแก้วสีม่วงสดใสซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ในห้องที่จัดขึ้นพิเศษเพื่อนานะโดยเฉพาะ.....
เพล้ง!
เสียงนรกแตกดังก้องในหูทั้ง 14 ข้างของบุคคลซึ่งมีชีวิตกึ่งตายเพราะความช็อคทั้งๆที่มันเป็นเสียงลูกแก้วปริแตก เศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยตกกระจายไปทั่ว ทำให้เหลือโครงลูกแก้วชิ้นเก่าเพียงแค่ครึ่งลูก
“ลูกแก้ว ข้าพเจ้า......”ทุกสรรพสิ่งเป็นอันหยุดนิ่งในท่วงท่าเดิม ไม่มีการไหวติง....เหตุเพราะเมื่อคำนึงถึงความสามารถโยกย้ายมิติของลูกแก้วมหาประโยชน์ที่มักก่อคุณประโยชน์และโทษให้เสมอๆนั้น....มนุษย์และอมนุษย์ทั้ง 7 ก็ถึงกับสันหลังวาบในทันที
“เออ.....เอาแล้วไงต่อดีเจ้าคะ”ไอกะยิ้มแหยๆส่งให้เพื่อนๆรอบข้างก่อนจะค่อยๆกร้ำกรืนคำพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะบัดนี้ลำคอขาวองอ่าของเจ้าตัวแห้งผากและมีของหนืดกระจุกอยู่จนการพูดคุยกลายเป็นเรื่องยากลำบากไปเสียแล้ว แต่กระนั้น เสียงหวานใสของไอกะก็ส่งไปยังประสาทรับรู้ของพรรคพวกอีก 6 คนอยู่ดี ทว่าก่อนที่ใครจะได้เริ่มทำอะไรนอกจากการถูกแช่แข็ง มันก็บังเกิดเหตุมหัศจรรย์ขึ้นในซากของลูกแก้วสีวายนั้น
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”เด็กสาวทั้ง 7 ร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆโพลงรูโบ่ที่ยัยเจ้สุดที่เลิฟ วารันเทียร์ เป็นคนสร้างขึ้นแม้จะไม่ตั้งใจก็เกิดประจุไฟฟ้าสปาค์กขึ้นดวงใหญ่ จากนั้นมันก็บิดเกลียวเข้าหากันกลายเป็นพายุหมุนขนาดย่อมๆ กลางห้อง แรงดูดอันมหาศาลของมันทำเอาสาวน้อยทั้ง 7 ถึงกับเซอีเร่เท่ไปตามๆกัน มุกิรีบเอาขวานจามกับผนังเป็นที่ยึดเกาะชั่วคราวทันที ณ จุดนี้เองที่วารันเทียร์หิ้วปีก ซิลฟ์และจับส่วนปลายที่เลยมาของขวานนั้นไว้ ขนาดที่ตัวเธอเอียงกะเท่เร่ไม่เป็นท่า บราสท์โดดเกาะหน้าต่างซึ่งอยู่ติดกับลูกแก้วทันทีตามมาด้วยนานะและไอกะสองคู่หูที่เกาะกันอยู่บนตู้เย็นสูงติดเพดานที่อัดแน่นไปด้วยเสบียงมื้อดึกของทั้งสอง ดูท่าทางทั้ง 3 ก็ไม้น่าจะรอดได้นักเท่าไหร่เพราะทั้งหน้าต่างและตูเย็นต่างก็สั่นไหวเพราะแรงดูดไปตามๆกัน
“มันดูดตรู~”เสียงหนึ่งดังขึ้นจากบุคคลที่ถูกโลกลืมอย่างที เจ้าหล่อนสูญเสียแว่นตาไปกับพายุหมุนเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงใช้ลูกดิ่งนรกงัดพื้นขึ้นมาเกาะทั้งๆที่พายุมหึมานั้นอยู่ห่างไปเพียงแค่สองคืบเท่านั้น
“นานะ ทำอะไรสักอย่างสิ!”เสียงออกคำสั่งของเจ้เทียร์ดังขึ้นแทรกมากับเสียงตู้เสื้อผ้ารวมๆของพวกเราที่ลอยเฉียดหัวและหน้าของทีและบราสท์เข้าไปในพายุหมุน ทั้งสองต้องถึงกับกลืนน้ำลายเอือก ด้วยความตกใจสุดขีด หน้าตาที่ขาวซีดยิ่งกว่าที่เป็นอยู่หันมามองเพื่อนรักคนอื่นๆอย่างหมดความหวัง
...........จบงานนี้ คงต้องไปซื้อเสื้อกันใหม่หมดซะแล้วละนะ = =+
..
“ก็จะให้ข้าพเจ้าทำอะไรได้ละครับ!!!”นานะตะโกนโหวกเหวกอย่างขาดสติเพราะโรคปอดแหกกำเริบ น้ำใสๆเหมือนจะระเบิดออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้างที่เบิกกว้างจนเกือบจะเท่าไข่ห่าน ปากเรียวอ้าขึ้นร้องลั่นอย่างหมดความอดกลั้นใดๆจนไอกะเองก็อยากจะลองทรยศเพื่อนโดยการส่งมันเข้าไปในพายุให้รู้แล้วรู้รอดซะเลย ติดแค่ว่า....
“ก็มันเป็นเอ็นชาร์ของแกไม่ใช่รึ เจ้าคะ”ไอกะหยีตามองพายุมรณะที่กำลังขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว พรางประคองนานะที่กำลังต้านแรงดึงดูดสุดชีวิต เธอเริ่มรู้สึกตัวว่า ปลั๊กของตู้เย็นซึ่งเธอกำลังยืนอยู่นั้น มันเริ่มสั่นไหวจนเหมือนจะหลุดออกมาทั้งยวง = +” คงจบไม่สวยแน่งานนี้
“แว้ก! หลุดแล้วโว้ย!!!”ผู้ประสบวิบากกรรมรายแรกได้ปรากฏตัวขึ้น เมื่อแรงดูดของพายุนั้น มากขนาดทำให้พื้นไม้ซึ่งมีทีเกาะอยู่ปริแตกออกจากกันเป็นชิ้นๆแล้วลอยละลิ่วเข้าหาพายุหมุน พร้อมกับทีที่กลิ้งเป็นลูกขนุนราคาถูกเข้าหาพายุ
“เฮ้ย! ที!”เพื่อนสาวทั้ง 6 ถึงกับต้องผงะ เมื่อกำลังจะสูญเสีย ที น้อยๆไป บราสท์กระโจนจากหน้าต่างพร้อมงัดเอาถุงมือแมวชนิดเล็บแหลมสีดำมาสวมที่มือซ้ายซึ่งเป็นมีเทียมอยู่แล้วตะปบพื้นจนเกิดเสียงดัง เศษไม้กระเด็นไปคนละทางเพราะความรุนแรง เจ้าตัวสอดครึ่งแขนเข้าไปในร่องพร้อมรวบเอวบางของทีเอาไว้ก่อนที่ทีจะหายเข้าไปในพายุหมุน แต่สภาพที่คนอื่นเห็นนั้นช่างน่าอนาถมาก เมื่อส่วนหัวของทีได้หายเข้าไปในพายุมรณะนั้นแล้ว มีแต่ส่วนล่างของร่างกายที่ดิ้นตะกุกตะกักอยู่กับบราสท์ แถมเท้างามๆของคุณเธอยังเตะป้าบเข้าที่ใบหน้าของบราสท์อีก คาดว่า....อาจจจะมีการโบะแตกนอกรอบเกิดขึ้นก็ได้....
ขณะที่พรรคพวกอีก 5 รายที่เหลือได้แต่มองตามภาพนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูก ตู้เย็นที่ร่อแร่เต็มทนก็ล้มตึง สายปลั๊กหลุดออกพร้อมร่างสองร่างที่กระทบกัน และกระเด้งเข้าไปหาเพื่อนรักบราสท์และทีอย่างแรงจนบราสท์เกือบจะสลบไปเฉยๆ
“ไอ้พวกบ้าทั้งสอง!!!”บราสท์ซึ่งถูกลูกกระสุนยักษ์ของเพื่อนรักสองคนเข้าไปเต็มๆถึงกับจุกจนแทบจะปล่อยมีไป แต่ก็ทำไม่ได้ซะทีเดียวเพราะรู้ตัวว่าขณะนี้ตนนั้นกำลังประคองชีวิตของเพื่อนรักทั้ง 3 เอาไว้ ไอกะและนานะที่เกาะตัวบราสท์เอาไว้ถึงกับน้ำตาพรากเมื่อเจ้าหล่อนพยายามตะเกียกตะกายหนีไอ้พายุมรณะเพื่อพวกเขา[?] อย่างเต็มที่ แต่สวรรค์ก็กลั่นแกล้งอีกครั้งเมื่อ...
“จ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”ซิลฟ์ เทียร์ และมุกิ ที่มีแนวโน้มรอดสูงที่สุด ลอยละลิ่วเมื่อมุกิก้าวพลาดทำให้ปล่อยมือจากขวานอย่างฉับพลันส่งผลให้เอ็นชาร์แหลกสลายเป็นไอกลับสู่ร่างวิญญาณในทันใด มุกิปลิวมาติดที่ฮู๊ทของนานะเหมือนกับคนอื่น ยิ่งเพิ่มภาระแรงยึดเหนี่ยวให้สาวเจ้า แต่นั้นยังไม่พอเมื่อเทียร์ซึ่งพยายามตะปบพื้นที่ตนนั้นเพิ่งสั่งให้ไอกะและนานะขัดและลงแว็กจนมันวาวเพื่อยึดเกาะ แต่....พลังของความมันนั้นช่างมีอนุภาพมากกว่านัก เธอลื่นฟรืดดดดดดดด ตามแรงดูดของพายุเป็นทาง แม้จะเอาหอกกางเขนขนาดเท่าผ่ามือจิ้มไม้ไว้....แต่มันกลับขูดกับไม้เป็นทางยาวจนสุดท้ายเธอก็ต้องทิ้งไอ้หอกปัญญาอ่อนที่ฝากรอยแผลให้กับพื้นไม้มาเกาะเอว บราสท์ไว้แทน
“โอเน่~”ซิลฟิลมองบราสท์ด้วยดวงตาเป็นประกาย หมายจะบอกเป็นความนัยน์ว่า สุดจะซึ้งกับความพยายามที่ทำเอาสาวเจ้าหน้าแดงและมีรอยปูดตั้งแต่แขนจนถึงหน้าขนาดนี้
“ไม่ใช่เวลามาซึ้ง เอาหัวไอ้ทีมันออกมาสิ!!!”บราสท์ตะโกนสั่ง เทียร์ค่อยๆตะเกียกตะกายเข้ามาหาใกล้ๆ พรางเอามือของตัวเองสอดไปในโพรงไม้ที่บราสท์สร้างขึ้นและพยายามแบ่งเบาภาระของร่างจิ๋วนี้บ้าง แต่...
“เหอ เคี๊ยก~”ไม่ทันไร โพลงไม้นั้นก็กรอบและแตกออกอย่างรวดเร็วจนในที่สุดทั้ง 7 คนก็ไร้ซึ่งที่ยึดเหนี่ยวใดๆ ร่างทั้ง 7 กระจัดกระจายเข้ามาในพายุอันไร้ขอบเขตนั้น รู้ๆกันอยู่ว่าลูกแก้วของนานะนั้นสร้างขึ้นเพื่อใช้โยกย้ายมิติ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะถูกกระแสมิติปั่นป่วนจนเกิดแรงดันมหาศาล แต่ดูเหมือนสองสาวคู่กัดตลอดกาลจะยังมีสติพอ
“เกาะกันไว้สิวะ”บราสท์ตะโกนขึ้นด้วยสุดเสียงพรางก็รวบเอวทีและซิลฟ์ไว้ด้วยแนบตัว
“ขว้าหัวคนใกล้ตัวไว้”เจ้เทียร์ กระโจนตัวเพื่อจะคว้ามือของบราสท์ไม่ให้แยกออกจากกัน โดยมีมุกิเกาะอยู่ที่เอว พ่วงมาด้วยนานะและไอกะที่ถูกมือของมุกิรวบหัวเอาไว้เรียบร้อย
“จะวาปละคะ~”ไอกะตะโกนขึ้นด้วยเสียงร่าเริง ขณะที่เทียร์ถูกพายุอีกลูกซัดให้ออกห่างจากบราสท์ ทีและซิลฟิลมากกว่าเดิม
“ไปเยย”ซิลฟ์ ตะโกนเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าทั้ง 7 ได้เข้ามาใกล้ใจกลางพายุหรือลูกแก้วโยกย้ายมวลสารข้ามมิติมากจนถึงขั้นหนึ่งแล้ว
“นี่ไม่ได้กะจะหนีตั้งแต่แรกแล้วสินะ ไอ้อีโมแบบนี้นะ”เทียร์ตะโกนด่าขึ้นอย่างหัวเสีย เมื่อทำยังไงๆก็ดูท่าจะต้องแตกกลุ่มขึ้นมาจริงๆ แต่เธอก็ยังไม่ละความพยายามเพียงแค่นั้น
“ก็แหม น่าสนุกดีออกขอรับ”นานะออกความเห็นและเกือบในทันทีที่เทียร์ถอดรองเท้าเตะฟาดหัวนานะจนเกิดรอยปูดขึ้นทันที
“รองเท้า ตรู!!!!”ด้วยความที่มวลสารนั้นมีน้อยกว่า รองเท้าสีชมพูฮ็อทพิ้งค์ของเทียร์ถูกดูดหายไปในความมืดมิดทันที นั้นส่งผลให้เจ้าตัวหัวเสียขึ้นแบบทวีคูณ
“เอาน่า....ได้ฤทธิ์เปลี่ยนบ้านแล้วละ เหอะๆ”หลังจากที่หายหัวไปนาน ทีก็เอ่ยหวังจะปลอบใจเพื่อนทั้ง 6 ทำเอาบราสท์ หัวเราะคิกคักอย่างถูกใจเพราะเดิมทีเธอนั้นก็เป็นโรคชอบหนีเที่ยว เตร็ดเตร่ไปทั่วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะดีใจเมื่อจะได้ไปเที่ยวทริปพิเศษพร้อมเพื่อนๆยกก๊ก
“ฉันก็อยากหาของมาสะสมอยู่พอดีเลย เพราะฉะนั้น”บราสท์เว้นช่วงไปครู่หนึ่งก่อนจะละมือที่พยายามจับเทียร์ไว้ให้ได้เปลี่ยนไปจับ ทีและซิลฟิลให้แน่นแทน
“ถ้าโชคดีก็วาร์ปไปที่เดียวกันนะ ยัยเจ้ปากหมา แบร่~” ไม่ว่าเปล่าเจ้าหล่อนแลบลิ้นใส่เทียร์แล้วน้อมรับการล่วงหล่นลงสู่เส้นทางของความมืดมิดไร้จุดสิ้นสุดนั้นทันที ด้วยเหตุที่ฝ่ายนู้นมีแค่ 3 คนจึงทำให้การร่วงหล่นรวดเร็วมากกว่าทางด้านเทียร์
“ไอ้พวกบ้า ฉันจะฆ่าพวกแกแน่คราวนี้”เทียร์ร้องลั่นก่อนร่างของเธอและเพื่อนอีก 3 ตัวจะร่วงหล่นเข้าไปในความมืดมิดนั้นเช่นเดียวกัน
สิ่งที่พบผ่านดวงตาคู่นั้น มีเพียงความมืดมิด ไร้การสิ้นสุด เหมือนกับสิ่งของที่ตกลงไปยังมหาสมุทร ไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่แห่งใด ทั้งอึดอัด และ ชวนให้ขนลุกแปลกๆ
.
.
.
ตุบ
เฮือก!
ความคิดเห็น