ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Spiffy Story - The ยำมั่ว ภาคพิเศษ = =+

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ-เรื่องวุ่นวายในคฤหาสน์

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 51


     

    แรกแย้มเบ่งบานอย่างงดงาม

    เสื่อมสลายดับสูญจนหมดสิ้น

    เสียงรำไรกล่าวเอ่ยเอยคนึงหา

    บุคคลนั้นผู้อยู่ใน

    ห้วงคำนึงนึก

    .

    .

    .

    บทนำ-เรื่องวุ่นวายในคฤหาสน์

     

    เฮ้ออออออออ”เสียงถอนหายใจของใครสักคนดังขึ้นเป็นรอบที่พันของวัน ทั้งๆที่เจ้าของเสียงถอนหายใจอันแสนจะเบื่อหน่ายนั่งอยู่บนหลังคาของชั้นสูงสุดของคฤหาสน์ หากแต่เสียงนั้นกลับยั่วกระตุกต่อมอารมณ์ของใครบางคนที่นั่งอยู่ในห้องได้อย่างดี

    “ซิลฟ์ แกจะนั่งถอนหายใจอีกนานมั้ยวะ! นั่งอยู่ตรงนั้นนานๆเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”เด็กสาวผมยาวในทรงบ็อบเทสีม่วงเข้มโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างด้านหลังเจ้าของเสียงหายใจนั้น พร้อมตวาดแว็ดๆๆราวผีบ้าก็ไม่ปาน ดวงตากลมโตสีม่วงอ่อน หลังกรอบแว่น แฝงแววหงุดหงิดอย่างรุนแรง ชุดเสื้อยืดกางเกงผ้าสีเทาสลับดำลูลมจนเกือบแนบเนื้อ เผยให้เห็นสัดส่วนที่เหมือนเด็กผู้ชายก็ไม่ปานของเจ้าตัว

    “หวัดดี ที แหม เดี๋ญวนี้รู้จักเป็นห่วงกันด้วยนะ”เจ้าของเสียงถอนหายใจ หรือ ที่ทีเรียกว่า ซิลฟ์ ซึ่งนั่งห้อยขาตากลมเล่นอย่างไม่มีอะไรทำ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆไม่สมกับเป็นเจ้าตัวพูดมากประจำก๊วนเลยสักนิด เด็กสาวผมยาวมัดเป็นสองแกะสีดำสนิทลู่ไปตามแรงลม ดวงตาสีแดงสดเหมือนลูกเบอรี่กรอกไปมาเหมือนเด็กที่กำลังตามหาของเล่นชิ้นใหญ่อยู่ก็ไม่ปาน ใบหน้าแสดงอารมณ์เบื่อโลกอย่างแรง แต่ไม่วายที่เสียงเอื่อยเฉื่อยจะแอบกัด คู่กัดตลอดกาลของตนเอง

    “ไม่ได้ห่วงแกโว้ย ผมรำคาญ เมื่อไหร่จะหยุด!” ปึด เสียงอะไรบางอย่างในตัวซิลฟ์ตอบสนองต่อคำพูดตะโกนด่าของที ทำให้เจ้าหล่อนหันหน้ากลับไปจ้องตากับทีจังๆ

    เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

    เหมือนมีกระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าปะทะกันผ่านดวงตากลมโตสีแดงสด และดวงตากลมโตสีม่วงอ่อนทันที ภายในตัวทั้งคู่เริ่มเกิดอาการที่เรียกว่าเดือดดาลขึ้นอีกครั้ง หากแต่ทั้งคู่ยังสงบใจคุยกันต่อไป

    “ก็พี่บราสท์ไม่กลับมาสักทีนิ”ซิลฟ์พูดพรางทำแก้มป่องอย่างงอนๆ ส่วนทีก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อได้ยินชื่อของตัวต้นเหตุ น่าจะดีใจมากกว่าที่ไม่กลับมา อย่างยัยนั้นนะเรอะ ไม่มาอะดีแล้ว นรกจะกินกะบาลตาย

    “เดี๋ยวก็กลับมาละนา ป่านี้คงไปคุ้ยหาของเล่นชิ้นใหม่ๆมาอีกอะสิ....อุก”ไม่ทันทีทีจะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ สาวน้อยที่ความสูงห่างกับเขาเพียงแค่ 2 ซม.ก็ใช้มือที่ดูเหมือนจะบอบบางซัดปาบเข้าที่ท้องจน เขาต้องจุกกิน

    “ห้ามว่า โอเน่นะ เจ้านกปากมาก”ซิลฟ์ยืนขึ้นประจันหน้ากับทีด้วยสีหน้าหงุดหงิดสุดๆ  กระโปรงลายสก็อตพริ้วไหวตามแรงลม เมื่อยืนขึ้น ทำให้เผยส่วนของเลกกิ้งสีดำออกมา เสื้อแขนยาวผูกโบที่คอเสื้อพริ้วไปมาผิดกับบรรยกาศรอบข้างที่แย่ลงเรื่อยๆ

    “เฮ้ย! หาเรื่องนี่หว่า ไอ้เพนกวิน!”ปึด ทียืนขึ้นกะข่มอีกฝ่ายด้วยความสูงที่มากกว่าถึง 2 ซม.พร้อมตะโกนสุดเสียงใส่รูหูข้างซ้ายของอีกฝ่าย

    “แล้วจะทำไม! อีนกแก้ว!” ปึด ทั้งคู่จ้องหน้ากัน เมื่อสายลมเริ่มรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว และนั้นก็นับว่าเป็นเรื องปกติเมื่อเหล่า spiffy เริ่มจะตกลงกันไม่ได้ ก็มีแต่การตัดสินแบบพิสดาลเท่านั้น

    “สงสัยงานนี้คงจะต้องอัดกันสักรอบ ให้หายแค้นแล้วละ ทีที่ร้าก~”ซิลยิ้มพร้อมพูดด้วยเสียงอาฆาตแค้น แล้วเอื้อมมือไปที่กระเป๋าสะพายข้างหลังเพื่อหยิบพวงกุญแจสีลูกกวาดออกมา มันมีลักษณะเหมือนไม้กอฟท์หลากสี 7 อันที่ร้อยเข้าด้วยกัน .....เอ็นชาร์ ล็อตเต้..... เครื่องลางติดตัวของ ซิวฟิล สาวน้อยที่ไม่ได้มีดีแค่น่ารัก ขณะเดียวกัน ทีอันเทียร์ ก็เอื้อมมือหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเลือกดึง ไม้กอฟท์สีแดงสดออกมาจากพวง

    “รับคำท้าคร้าบ ผมเองก็กำลังตึงมือไม่ได้อัดใครมาสักพักเหมือนกันละครับ”ทีรับคำทันควัน แล้วคว้าสร้อยสีเงินรูปตัว S สองตัวไคว้กันโดยมีอัญมณีสีแดงฝังอยู่ตรงกลางออกมา .....เอ็นชาร์ เซล็อต....... ขึ้นมา

    “เตรียมตัวน็อคเอ้าท์ได้เลย ทีอันเทียร์เอ่ย”ซิลว่าพรางอัดพลังเวทย์ใส่เจ้าพวงกุญแจอันจิ๋ว เธอโยนมันขึ้นและรับมาควงด้วยความคล่องแคล้ว พวงกุญแจอันจิ๋วขยายขนาดขึ้นมาเป็นหน้าไม้ขนาดพอมือ ด้ามจับสลักลายขนนกสีทองพุ้งกระจาย หัวไม้มีขนาดใหญ่กว่าไม้กอฟท์ปกติชนิดที่ใครโดนคงเหลือปแต่บ่าเปล่าๆกลับบ้านชัวร์ แต่น่าแปลกที่เมื่ออยู่บนมือของซิลฟ์แล้ว มันกลับเบาและถนัดมือเด็กสาวเจ้าของจนไม่น่าเชื่อ เจ้าตัวตั้งท่าเตรียมพุ่งเข้าไปอัดอีกฝ่ายด้วยหน้าไม้ประจำตัวพร้อมใบหน้าเหี้ยมๆที่ใครมองมีต้องเหวอชัวร์ๆ

    “ไอ้คำนั้น ผมขอคืนให้เต็มๆเลยครับ”ทีพูดพรางเหวี่ยงสร้อยสีเงินเป็นวงกลม มันค่อยๆขยายขนาดขึ้นจนมีขนาดเท่าลูกเบสบอล จากนั้นปลายทั้ง 4 ของตัว s ก็งุ้มเข้าหากันและเกาะกันแน่นจนกลายสภาพเป็นเสมือนลูกดิ่งสีเทาใสๆที่มีอัญมณีสีแดงอยู่ตรงกลาง ปลายนิ้วของทีมีเส้นใยสีขาวเรือๆพันอยู่ ทีเหวี่ยงลูกดิ่งของตนเป็นวงกลมบนอากาศ มันส่งเสียง แปลกๆทันทีที่เสียดสีกับอากาศ ทำเอาเสียสมาธิอย่างแรง

    “ตายซะ!!!!!!”สิ้นเสียงทั้งซิลก็พุ่งเข้าหาทีด้วยความเร็วพร้อมฟาดหน้าไม้ลงไปอย่างแรงจนกระเบื้องแตกละเอียดเพราะทีกระโดดหลบไปด้านข้างก่อนหน้านั้นแล้ว ซิลยังคงไม่หยุดความพยายาม เธอเหวี่ยงหน้าไม้เป็นวงกลมซัดเข้าสีข้างของทีเต็มๆ แต่อีกฝ่ายก็เอาแขนซ้ายรับไว้ได้เลยไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก แต่เมื่อซิลพุ่งเข้ามาเตรียมซัดสาวแว่นอีกรอบ เจ้าตัวก็เลยกระโดดเหยียดหัวของซิลตีลังกาหลบไปด้านหลังทำเอาคนถูกเหยียบเซไม่เป็นท่า ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะเล่นเหยียบหัวกันแบบนี้

    “ไอ้บ้าเอ้ย หน้าฉัน....”ซิลฟิลครางด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเป็นรอยจั้มสีแดงแจ๋ แต่ไม่ทันที่จะบ่นอะไรไปมากกว่านี้ ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสภาพของลูกดิ่งมรณะของทีที่ตอนแรกมีขนาดเท่าลูกเบสบอล เมื่อเสียดสีกับอากาศจนดูดพลังงานเข้ามามาก มันก็เกิดอาการที่เรียกว่าขยายใหญ่ขนาดเท่าลูกโป่งยักษ์ชนิดทีโดนทีเดียวคงได้หลับทั้งอาทิตย์ทั้งอาทิตย์แหง ทีขยับยิ้มเหี้ยมแล้วปาลูกบอลยักษ์ของเธอเข้าหาซิลฟ์ทันที

    “เจ้ย! ล็อตเต้!”ซิลฟ์ตะโกนพรางกระโดดหลบลูกดิ่งมรณะขึ้นบนฟ้าแต่เวรกรรมยังไม่จบเมื่อทิศทางการควบคุมของทีนั้นเป็นอิสระยิ่งนัก ไอ้ลูกดิ่งมรณะเปลี่ยนทิศทางทันทีที่ซิลกระโดดขึ้นไป มันวกกลับพุ่งตามซิลฟ์ขึ้นไปบนฟ้าทันที

    อั้กถึงแม้ซิลจะพยายามใช้บาเรียของล็อตเต้กันไว้แต่แรงปะทะกลางฟ้าก็สอยเธอล่วงลงบนหลังคาทันที แรงปะทะของร่างเล็กกับหลังคาก็เล่นเอาคนที่ยืนอยู่ด้วยนั้น เซไม่เป็นท่า ด้วยความที่คฤหาสน์สร้างมานานและกระเบื้องเริ่มเปราะ เป็นผลให้ทั้งคู่.....

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”ล่วงตามแรงโน้มถ่วงของหลังคาที่ทลายลงมาสู่ชั้นล่างทันที

    โครมคราม โครามคราม โครมคราม โครามคราม

    เด็กสาวทั้งสองยังคงสู้กันต่ออย่างเมามันทำเอาชั้น 4 ของคฤหาสน์ระเนระนาดไม่เป็นท่า รวมทั้งส่งเสียงดังไปทั่วคฤหาสน์ มันคงไม่เป็นไรหากว่า ไอ้เสียงโครมคราม ที่ดังเซ็งเซ่จะไม่ไปกระตุกอารมณ์ของนางปีศาจประจำบ้านพักหลังนี้เข้า

    “ให้ตายเซ่ เพิ่งกลับบ้าน ทำไมมันโหวกเหวกแบบนี้ฟะ คนจะหลับจะนอน นะเฟ้ย!”เฟย์ วารันเทียร์ นักล่าเงินรางวัลจอมโหด โฉด ตะโกนลั่นในห้องนั่งเล่นอย่างไม่เกรงใจ คู่ดูโอ้อาชีพเดียวกันที่นั่งจิบชาสบายใจเฉิบด้วยหน้าตายๆ เทียร์เป็นเด็กสาวที่มีร่างค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคนรอบข้าง ผมสีชมพูอ่อนของเธอถูกมัดไว้ด้วยริบบิ้นแสนสำคัญลายลูกไม้สีขาว ดวงตาสีช็อคพิ้งกวาดสายตาไปทั่วอย่างรำคาญใจ

    -โครมคราม ต่อไป อย่างไม่ใส่ใจ-

     “ซูดดดดดดดดด”มุราซากิ ซาโตเอะ หรือ มุกิ ยังคงกระซวกน้ำชาต่อไปอย่างไม่สนใจคนข้างๆที่ลุกเป็นไฟ มุกิเป็นสาวใจเย็นที่สุดในกลุ่ม เธอเป็นคนที่สูงรองจากเทียร์ ดวงตาของเธอเป็นสีฟ้าใส ส่วนเส้นผมเป็นสีน้ำตาลไหม้ซอยสั้น ข้างแก้มทั้งสองข้างมีส่วนของปกเสื้อปิดอยู่ ทำให้มองไม่เห็นลอยสลักสีดำบนใบหน้า แต่เป็นปกเสื้อสีขาวปิดไว้แทน ดวงตาของมุกิยังคงนิ่งเฉยแม้ว่าเบื้องหน้า เทียร์จะเริ่มคลั่งแล้วก็ตาม

    ตุบ ดั่งฟ้ากลั่นแกล้ง ร่างเล็กๆที่ฟัดกันจนสะบอมตกตุบมาตรงหน้าเทียร์ มุกิกรอกตามองอย่าหมดอารมณ์เมื่อเทียร์เข้าโหมดทำลายล้างซะแล้ว

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก อยากตายนักรึไง ไอ้สองตัวนี้นิ”เทียร์พูดเสียงเหี้ยมพรางกระชากปืนคู่ใจออกมาขู่เด็กทั้งสอง

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกก เทียร์คลั่งแล้วเจ้าค่า”ซิลฟ์ตะโกนพร้อมน้ำตาที่พรากออกมาจากเบ้าตาทั้งสอง พรางก็ถูกทีกระชากแขนให้ออกวิ่ง

    “เผ่นเว้ย!” ทีว่าพรางใส่เกียร์หมาโกยออกไปอย่างรวดเร็ว

    “ไอ้พวก (!&(&#*^!)!*!*!_(!(+_)_+)+_)_!(&^#!*!_(&@)+!!+_ หยุดนะเฟ้ย”เทียร์ตะโกนสวดด่าอย่างไม่เป็นภาษาพรางวิ่งไล่ตามไปอย่างรวดเร็วจนมุกิถึงกับสบถด้วยเสียงเรียบๆว่า

    “รสชาชืดเลย เฮ้ออออออ”ว่าแล้วก็กระซวกชาต่อไป

    อีกด้านหนึ่ง

    “ออกกำลังกายเพื่อความฟิตอยู่เหรอเจ้าค่า”ร่างสูงของสาวโอตาคุเคลื่อนมาขนาบข้างซิลพรางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเบิ่กบานไม่เข้าจังหวะ

    “บ้าสิขอรับ นั้นนะฆ่ากันมากกว่านะ ขอรับ”แม่สาวในฮู๊ทดำอันแสนมืดมนคู่หูของแม่นางโอตาคุ วิ่งมาขนาบข้างทีพร้อมกระโจนออกจากห้องส่วนตัวที่โดนเทียร์ตะลุมจนเละ ย้อนไปเมื่อ 5 นาทีก่อนในห้องโอ่โถ่งที่มีสองคู่หู ไอกะ และนานะ นั่งนอนเล่นเกมกินขนมอย่างสบายใจ อยู่ๆ เจ้าสองหน่อ เพนกวินและนกแก้วก็พรวดเข้ามาอย่างไม่บอกไม่กล่าว พร้อมเทียร์ที่ไล่ยิงทั้งคู่ด้วยกระสุนของจริงอย่างไม่ใยดีต่อตัวคฤหาสน์สักนิด เป็นผลให้สองคนที่พยายามห้าม พลัดลูกพลัดหลงต้องโกยตามมาด้วย

    “อ้าวเหรอคะ อิฉันก็นึกว่าทั้งสามท่านกำลังเล่นสนุกกันซะอีกนะเจ้าคะ”ไอกะ สาวโอตาคุ หุ่นเพรียว ร่างบาง จนชายหนุ่มหลายคนต้องเคลิ้ม แต่ด้วยความที่เจ้แกเป็นสาวโอตาคุทำให้ชายหนุ่มต้องอกหักกันระนาวด้วยความที่สเป็คของแม่คุณช่างไม่มีอะไรแน่นอน ดวงตากลมโตสีน้ำเงินเข้ม กับผมติดลอนตรงปลายสีน้ำตาลอ่อนสะบัดพริ้ว ชุดลอลิต้าสีม่วงขาวที่ดูจะเคลื่อนไหวลำบากนั้น เธอกลับใส่จนชินทำให้เคลื่อนไหวได้เกือบจะเร็วกว่านานะด้วยซ้ำ

    “กระผมว่านั้นนะ ฆ่ากันเห็นๆนะขอรับ”นานะ ไอ้หนูนา ผมสั้นประบ่าสีเหลืองทองกับดวงตาสีเหลืองอ่อนแฝงไว้ด้วยความปอดแหกล้วนๆ ใบหน้ามีตราเวทย์สีเขียวมรกตแต้มไว้ใตตาเป็นรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ แม่สาวคนนี้ค่อนข้างจะเตี้ย ถึงจะไม่เท่าบราสท์แต่ก็เตี้ยอยู่ดี เจ้าตัวมักไปไหนมาไหนกับไอกะสองคนเสมอ แต่มักไม่เป็นจุดสนใจเนื่องจากใช้ฮู๊ทสีดำคลุมตัวไว้ทั้งตัวทำให้ไม่ค่อยมีใครสังเกตุ หรือจะพูดง่ายๆว่าถูกเมินกันตลอดเวลา

    “อย่ามัวแต่พูดสิ ใครก็ได้ ช่วยหยุด เทียร์ที ให้ตายเหอะ”ซิลฟ์ตะโกนโหวกเหวกอย่างหมดอารมณ์ ขนาดเดียวกันทางเทียร์นั้น...

    “โว้ย ลองหยุดสิ แม่จุยิงให้พลุนเลย”เจ้แกบ้าไปแล้ว เทียร์สาดกระสุนปืนอย่างบ้าคลั่งทำเอาบ้าทั้งหลังแทบพังระเนระนาดลงมาพร้อมๆกัน

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”เสียงร้องอย่างสติแตกของนานะตะโกนขึ้นเมื่อเริ่มจะไม่มีที่ให้หนี

    เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

    “เหอ....ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กระสุนสำนึกบาป!!!”ทีตะโกนลั่นเมื่อสังเกตุได้ว่ามีเสียงแปลกๆลอดมาจากเทียร์ ทันใดนั้นเองพวกเขาก็ถึงกับต้องชะงักเมื่อแม่สาวโหดที่พร้อมจะฆ่าเพื่อนแบบไม่เหลือซาก งัด 1 ในไม้เด็ดปราบปีศาจออกมา กระสุนทำลายล้าง ที่มีระยะทำลายล้างค่อนข้างจะหลบยากออกมาบรรจุ และท่าทางเจ้แกคงจะยิงจริงๆ

    “เฮ้ยๆ! ไอ้เทียร์ บ้านพังนะเว้ย ถ้าแกยิงอะ”ซิลฟ์ ตะโกะห้ามแต่ช้าไปแล้ว ปีศาจเทียร์ได้ทำการนับถอยหลังเพื่อยิงกระสุนพิเศษนี้เข้าซะแล้ว

    3

    “อ้ากกกกกกกกกกกก ตายโหงละงานนี้”นานะตะโกนโหวกเหวกอย่างขาดสติ

    2

    “ เฮ้ยๆ! ผมยังไม่อยากเละด้วยน้ำมื่อเพื่อนนะครับ”

    1

    สวบ

    “เอ๋ เสียงๆหนึ่งดังขึ้น เหมือนจะหยุดทุกอย่าง เทียร์ที่กำลังเดือดดานถึงกับหน้าซีด เมื่อบุคคลที่โผล่มาไม่ถูกเวลา เอานิ้วสอดเข้าไปในปากกระบอกปืนแล้ว ถอยห่างไปไกลๆด้วยความรวดเร็ว

    ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×