คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : #8
#8
“หงุดหงิดเว้ยยยยยยย”
“บ่นเชี่ยไรของมึงอิโนะ กูจะอ่านหนังสือ”
“เพราะพวกมึงนั้นแหละไอ้สามีภรรยา ถ้าวันนั้นมึงไม่ลงโทษกันนะ กูก็ไม่ต้องมาเป็นแฟนกับไอ้ยูโตะมันหรอก” อิโนโอะจ้องหน้าทั้งสองคนอย่างอาฆาต เพราะพวกมันแท้ๆ ทำให้เขาต้องกลับบ้าน แล้วขอบคุณนรกที่ดลบันดาลให้พ่อเขาบังคับให้เขาคบกับยูโตะ แลกกับการมีอิสระในชีวิตหรือไม่งั้นก็ต้องมารับช่วงโรงฝึกต่อจากที่บ้าน เป็นใครมันก็ต้องเลือกอิสระของตัวเองใช่มั๊ยหละ แถมจะซัดเจ้านาคาจิม่าก็ทำไม่ได้ เพราะพ่อดันอยู่ฝ่ายมันอีก ขืนต่อยกับพ่อมีหวังเดี้ยงเข้าโรงพยาบาลแน่ๆ
“ก็อิโนะจังเลือกเองอ่ะ พ่อนายก็ให้เลือกแล้วไม่ใช่หรอ?”
“ฮิคารุก็รู้อ่ะว่าเราเกลียดการต่อสู้มากแค่ไหน เราอยากเป็นสถาปนิกไม่ได้อยากเป็นไฟท์เตอร์”
“งั้นมันก็เรื่องของนายแหละวะ ว่าแต่รุ่นน้องพักแล้ว เดี๋ยวสุดที่รักนายก็มาหานายที่ห้องแน่ๆ” ยาบุมองไปที่นาฬิกาแล้วหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้
“สุดที่รักพ่อง...”
“เคย์ ผมมาแล้ว กินข้าวกันเถอะครับ”
“เอามันออกไปที แง๊งๆ” ยาบุกับฮิคารุนั่งขำกับท่าของประธานนักเรียน หมดมาดซะงั้นเพื่อนของเขา
แต่ดูๆไป...
สองคนนี้มันก็น่ารักดีนะ
อีกคนก็ตามตื้อรักจริงหวังแต่งถึงจะดูเด็กแต่เอาเข้าจริงๆกลับดูเป็นผู้ใหญ่
ส่วนคุณเพื่อนของเขาก็เอาแต่หนีลูกเดียว ไม่ยอมเปิดใจรับแม้แต่น้อย ถึงภายนอกจะดูเป็นผู้ใหญ่แค่ไหนแต่พออยู่กับยูโตะกลับกลายร่างเป็นเด็กน้อยเอาแต่ใจขี้วีนอย่างไม่น่าเชื่อ
“ยาบุ ฮิคารุ ช่วยฉันที” ถ้ามีอิโมติคอนแปะอยู่บนหน้าอิโนโอะ ทั้งสองคนเชื่อว่าคงมีแต่อิโมร้องไห้แปะทั่วใบหน้าเป็นแน่
“อื้อ~ ไดจัง...ไม่ได้ไปเรียนอีกแล้วหรอ?”
“ไปเรียนได้ยังไงหละ นายตัวร้อนจี๋ไม่สบายซะแบบนี้ แม่นายก็ไม่อยู่ แล้วใครจะดูแลนายกันถ้าเราไม่หยุด”
“แต่ว่านายปีสามแล้วนะ หยุดอย่างนี้จะดีหรอ?”
“เอาหน่า เสียงนายยังแหบอยู่เลย นอนต่อมั๊ย?” ไดกิลูบหัวคนป่วยที่นอนแหมบอยู่บนเตียง
“เรียวจังไม่เป็นไรแล้ว นอนมาเยอะแล้ว ไดจังเถอะ ดูแลเราทั้งวันเลย เราเกรงใจ”
“เราเต็มใจดูแลนายนะ เรียวจังหิวข้าวรึเปล่า เราได้ลงไปอุ่นข้าวต้มให้กิน”
“ไม่เอา ไดจังอย่าไปนะ อยู่ข้างๆเรา” ยามาดะรีบคว้าแขนอีกคนเอาไว้แน่น
“ป่วยทีไรขี้อ้อนตลอดเลยนะ” ไดกิจูบลงบนแก้มนุ่มเบาๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแกล้งขังยามะจังไว้ตรงระเบียงในวันที่ฝนตกจนยามะจังเปียกโชก ยามะจังก็คงจะไม่ป่วยหนักขนาดนี้หรอก แต่ก็เอาเถอะ เขาชอบเวลายามาดะป่วยที่สุด ขี้อ้อนไม่มีใครเกิน แถมยอมให้เขากอดหอมแก้มแบบไม่มีข้อแม้อะไรเลย เหมือนกับว่าเวลายามะจังป่วยอาการสกินชิพของยามะจังจะพุ่งสูงพรวดจนไม่มีใครหยุดได้ นอกจากเขา
“ไดจัง นอนกอดเค้าที”
“ได้ทีอ้อนใหญ่ ถ้าเกิดไม่ใช่เราป่านนี้นายโดนปล้ำไปแล้วมั๊งเนี้ย” ถึงแม้ปากจะบ่น แต่ตัวก็แทรกลงไปนอนใต้ผ้าห่มกอดอีกคนไว้แน่นเรียบร้อย
“แล้วไดจังไม่อยากปล้ำเค้าหรอ? หรือว่าเขาไม่น่ารักพอสำหรับไดจัง” ยามาดะเงยหน้าจ้องอีกคนตาแป๋ว จนไดกิใจกระตุกไม่ระวังตัวเองเอาซะเลยว่าอีกคนแทบจะปล้ำนายอยู่แล้วนะ
“ว่าไงไดจัง...เรียวจังไม่น่ารักพอสำหรับไดจังหรอ ไดจังถึงไม่อยากปล้ำ”
“นอนได้แล้วเด็กดี” ไดกิลูบหัวคนในอ้อมกอดแทนที่จะตอบคำถามนั้น แต่ยามาดะกลับผละตัวเองออกจากกอดนั้น
“ทำไม...”
“ไดจังมีคนที่ไดจังรักอยู่แล้วใช่มั๊ย?”
“พูดเรื่องอะไรยามะจัง”
“ขอโทษนะที่ทำให้ลำบากใจ” ยามาดะฝืนตัวเองลุกขึ้นนั่ง น้ำตาคลอเต็มเบ้า มองหน้าไดกิที่ยังคงนอนเอ๋ออย่างตัดพ้อ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืนเดินออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันถึงประตูห้องทั้งร่างก็ทรุดลงไปนั่งอย่างหมดแรง จนไดกิตกใจรีบเข้าไปประคอง
“ปล่อยเค้านะ ปล่อยเรียวจัง”
“เป็นอะไรไปครับเรียวจัง ไม่สบายก็ไปนอนที่เตียงดีกว่านะ”
“อย่ามาแตะเค้านะ” ยามาดะใช้แรงที่มีทั้งหมดสะบัดแขนไดกิออกก่อนจะฟุบลงไปอีกรอบ จนไดกิถอนหายใจเฮือก ทำไมดื้ออย่างนี้
“ใช่เรียวจัง พี่มีคนที่พี่รักอยู่แล้ว นี้ใช่มั๊ยสิ่งที่เรียวจังอยากได้ยิน”
“ฮึก...เราขอโทษที่รั้งตัวไดจังไว้กับเรา”
“เอ้า ร้องไห้อีกซะงั้น นายป่วยทีนี้ธาตุแม้เปิดเผยหมดเลยนะ ร้องไห้แบบนี้ อย่าบอกนะว่านายรักพี่หน่ะ”
“แล้วยังไงหละ ฮึก แต่นายไม่ได้...รักเรา ฮึก...ฮึก” น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย แต่ใจไดกิกลับโลดแล่น
“คิดเองเออเอง นิสัยนี้แก้ไม่เคยหาย ถ้าคิดว่าพี่ไม่รักเรียวจัง แล้วพี่จะหยุดเรียนสามวันรวดเพื่อดูแลเรียวจังหรอ ถ้าพี่ไม่รักเรียวจัง พี่จะมานอนกอดหาเรื่องหอมแก้มแล้วก็อ้อนเรียวจังทุกวี่ทุกวันหรอ?”
“ไดจังจะบอกว่าไดจังรักเรียวจังหรอ?”
“ถ้ายังคิดไม่ได้ ต้องให้ใช้ร่างกายบอกมั๊ยครับเรียวสุเกะ” ไดกิซับน้ำตาให้อีกคนที่นั่งช็อคอย่างเบามือ
“ถ้าเงียบแบบนี้ ไดจังคงจะต้องใช้ร่างกายบอกแล้วหละนะ” พูดจบก็เชิดหน้าอีกคนให้ขึ้นมารับจูบของตัวเอง
จูบที่แนบแน่นดูดดื่มถ่ายทอดความรู้สึกจากคนหนึ่งไปให้อีกคน
แม้ว่าในตอนแรกยามาดะจะยังงงๆค้างๆกับการกระทำของอีกคน แต่พอสติกลับเข้ามา แขนที่ไร้เรี่ยวแรงก็เลื่อนขึ้นโอบโน้มคออีกคนให้แนบแน่นยิ่งขึ้นไปอีก...
“รักนะ ไดกิรักเรียวสุเกะ ความหลังห้ามคิดว่าไม่รักนะ”
“อื้อ รักเหมือนกัน ขอโทษนะที่คิดไปเอง”
“ถ้าอย่างนั้น เป็นแฟนกันนะครับ”
“อื้ม~”
“อะไรของนายหน่ะ ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”
“ทำไมครับพี่เคย์ เราคบกันมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ คู่อื่นๆเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แค่จับมือนี้ไม่ได้เลยหรอ”
“ฟังพี่ให้ชัดเลยนะยูโตะ พี่ไม่ได้ชอบนาย ไม่ได้รักนายเลยแม้แต่น้อย นายก็รู้ดีว่าทำไมพี่ถึงยอมคบกับนาย พี่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ หรือว่ามันยังไม่เคลียพอ?”
“แต่ว่าพี่เคย์ หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาพี่ไม่...”
“พี่ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ยูโตะยอมแพ้กับพี่เถอะ พี่พูดจริงๆ อย่าให้เรื่องมันไปมากกว่านี้เลย”
“พี่เคย์...ผมรักพี่นะ”
“แต่พี่ไม่ได้รักเรา เคลียมั๊ย พอซักทีเถอะ ปล่อยพี่ไปได้แล้ว”
ยูโตะมองหน้าอีกคนอย่างหงอยๆ เพื่อนเขาสมหวังในรักทั้งหมด ทำไมถึงมีแค่เขาที่ผิดหวังกับความรัก
“ขอโทษที่กวนใจพี่นะครับ”
“อย่าทำหน้างั้นซิ แต่เราก็ยังเป็น...”
“อย่าพูดคำว่าพี่น้องออกมาเลยครับ มันไม่ได้ทำให้บรรยากาศและความรู้สึกของผมดีขึ้นหรอก”
“ยูโตะ...พี่...”
“ขอตัวก่อนนะครับอิโนโอะซัง ยินดีที่ได้รู้จักกันนะครับ”
“มึงแม้ทำร้ายจิตใจเด็ก แล้วมึงเป็นคนบอกเลิกเขา มึงมาแดกเหล้าเมาที่ห้องกูทำไม”
“ก็กูไม่อยากกลับบ้าน นู้นไอ้ยูโตะมันไปบอกพ่อกูเรียบร้อยแล้วว่าเลิกกัน แถมขอโทษขอโพยยกใหญ่พอมันกลับบ้านพ่อกูก็โทรมาสวดกูซะยกใหญ่ ให้กูกลับไปโดนพ่อทุ่มหลังเดาะฟาดหัวแบะหน่ะซิ”
“แล้วมาเมาเหล้ามันเกี่ยวอะไรด้วย พรุ่งนี้มีเรียนนะ กินซะเป็นขวดๆ” ฮิคารุแย่งขวดเหล้าในมืออิโนโอะมาถือเอาไว้แน่นไม่ยอมให้อีกคนได้มันกลับไป
“โคตะโทรไปบอกที่บ้านอิโนะจังหน่อยว่าเคย์มันอยู่นี้ เดี๋ยวพ่อมันเกิดคึกเป็นห่วงลูกชายหน้าสวยที่ไม่ยอมกลับบ้านซักทีแล้วยกเด็กที่โรงฝึกออกมาตามหา”
“ไม่เอาอย่าโทรบอกพ่อกูนะ ไม่งั้นพ่อกูมาลากคอกูถึงนี้แน่ๆ นะ นะ”
“กูให้โอกาสมึงเลือก จะให้กูโทรหาพ่อมึงหรือจะให้กูโทรหายูโตะ”
“มึงอ่า...ไม่โทรหาใครไม่ได้เลยหรอ?” เคย์ทำหน้าอ้อนวอนเพื่อนรักที่ในมือถือโทรศัพท์ของเขาเอาไว้
“เคย์ กูกับฮิคเป็นเพื่อนมึงมานานแล้วนะเว้ย แค่ความรู้สึกของมึงทำไมพวกกูจะดูไม่ออก รู้สึกดีกับเด็กนั่นแต่ไปพูดตัดขาดไร้เยื่อใยซะขนาดนั้น มึงต้องการอะไรวะ”
“ยุ่งหน่า”
“โอเค งั้นกูโทรเรียกยูโตะ”
ยังไม่ทันที่อิโนโอะจะเอ่ยห้าม เพื่อนรักเขาก็กดโทรศัพท์หารุ่นน้อง ฟ้องว่าเขามาเมาเหล้าอยู่ที่ห้องแถมบอกที่อยู่ให้เสร็จสรรพให้มารับตัวกลับบ้านด้วย
“โคตะ เอ้า แปรงขนให้บลิสหน่อยเร็ว ลูกมาหาแล้วนะ” ฮิคารุส่งตัวกระต่ายน้อยไปให้โคตะพร้อมกับหวีแปรงขน
“โอเค แล้วถ้ายูโตะมา ฝากที่รักเปิดประตูให้น้องด้วยนะ”
“อื้อ ทีนี้แปรงขนให้ลูกได้แล้ว จะได้ให้ลูกนอนซักที ดึกแล้ว”
“ฮิคารุจัง ไม่เอานะ อย่าเปิดประตูให้ยูโตะนะ”
“ส่วนคนเมา รอคนของแกมารับ ตอนนี้ก็เงียบๆไป”
“ฮิคารุจังอ่า...”
ทั้งสองคนนั่งสวีทใส่กันไม่นานพอจะให้อิโนโอะเลี่ยนจนอ้วก เสียงออดก็ดังขึ้น
ฮิคารุรีบพุ่งไปเปิดประตูรับรุ่นน้อง
“มาเร็วจังแหะ”
“บ้านผมอยู่แถวๆนี้หน่ะฮะ นี้รีบปั่นจักรยานมาเลย”
“เอ้า ปั่นจักรยานแล้วจะพาเจ้าเคย์มันกลับได้ยังไงเนี้ย”
“ก็...นั่นซิเนอะ ลืมคิดไปเลย” ฮิคารุยิ้มขำออกมา ยาบุเลยบอกให้อยู่ค้างที่นี่ไปเลยแล้วดูแลคนเมาที่นั่งจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่องอีกด้วย
“งั้นผมขอโทรบอกที่บ้านก่อนนะครับ” ยูโตะแยกตัวออกไปโทรศัพท์หาคนที่บ้าน ส่วนอิโนโอะได้แต่ส่งสายตาเว้าวอนเพื่อน
“มึงไม่ให้กูโทรหาพ่อมึงเองนะอิโนโอะ สมน้ำหน้า”
***********
หายไปนานเวอร์ ซอรี่~ เพิ่งสอบกลางภาคเสร็จ T_T
แล้วยังมีงานอีกมากมายหลายแสนรออยู่ เลยจะหายไปอีกรอบ ต้องไปนั่งปั่นรีวิวหนังสามเรื่อง อ๊ะๆ เป็นภาษาอังกฤษ T______T
ยังไงก็อย่าเพิ่งลืมอาริยามะนะคะ กับนาคาเคย์ด้วย ฮ่าๆๆๆๆ
มาฝากเพจอาริยามะ http://www.facebook.com/AriyamaThailandFanclub
ตามไปไลค์กันด้วยนะ >< ขอบคุณคะ
อ่อ ขอฝากอีกเพจอันนี้เพจบุฮิคเน้อ http://www.facebook.com/YabuHikasUniverseYabuXHikaru
ความคิดเห็น