คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : First JUMP
First JUMP :: part1AriYama
ยะฮู้~!
ตอนนี้ตามตารางงานแล้ว ผมได้มาประเทศไทยแหละ!!
"ไดจัง ถ่ายรูปกันๆ เอาของนายก็ได้"
ผมกระตือรือร้นมากที่จะถ่ายรูป แม้ว่าเวลา ณ ตอนนั้นพวกเราจะเพิ่งตื่นหลังจากการสลบเหมือดบนเครื่องก็ตาม
ไม่น่าเชื่อ แค่วินาทีแรกที่พวกเราก้าวออกจากเกท เสียงแฟนคลับก็กระหึ่มกรี๊ด
พวกเราถูกห้อมแทบจะทันที มองไปทางไหนก็เห็นแต่แฟนคลับ
แล้วไดจังของผมอยู่ไหน!?
"นายรีบเดินไปเถอะยามะจัง เราเดินตามหลังอยู่" แม้เสียงที่ได้ยินจะเบาแทบเท่าเสียงกระซิบเมื่อเทียบกับเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ แต่ผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน รู้สึกอุ่นใจทันทีที่ได้ยินเสียง อยากจะเดินให้ช้าลงเพื่อไปเดินเคียงคู่อีกคน แต่สถานการณ์ตอนนี้มันทำไม่ได้หนะสิ
พวกเรารู้ตั้งแต่ก่อนลงจากเครื่องแล้วว่ารถตู้ที่จะต้องมารับพวกเรายังไม่มา เนื่องจากไฟล์ทของพวกเราดันลงเร็วกว่าที่กำหนดไว้
ทางทีมงานก็เลยบอกว่าพอพวกเราเดินออกมา เดี๋ยวต้องเดินกลับไปนั่งรอรถตรงประตูสิบ เนื่องจากเ้ก้าอี้อยู่ตรงนั้น
พอนั่งลงที่เก้าอี้ ไดจังก็ไม่รอช้านั่งลงข้างผมทันที แล้วก็ตื่นเต้นหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปแฟนคลับกันใหญ่ ก็แหง๋หละ จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง ตอนนี้เวลาของประเทศไทยคือ ตีห้ากว่าๆ แต่แฟนคลับกลับมารอรับพวกเรากันเยอะขนาดนี้
ผมได้แต่นั่งโบกมือแล้วก็ยิ้มให้แฟนคลับ สักพักคนข้างๆก็แอบสะกิดเบาๆ พร้อมกับยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปลี่ยนเป็นโหมดกล้องหน้า แล้วก็บันทึกภาพของพวกเราสองคนลงไปทันที
พวกเรานั่งเป็นเป้านิ่ง...ย้ำเลยว่าเป้านิ่งให้แฟนคลับรุมกระหน่ำถ่ายรูป แต่ก็โอเคแหละ อย่างน้อยก็ไม่ได้เข้ามาประชิดตัว ยังคงเหลือระยะห่างอยู่
ผมได้แต่หันไปรอบๆ หน้าในวงแต่ละคนมากันคนละสไตล์ มีทั้งจะหลับ ทั้งร่าเริง บางคนก็หน้านิ่งๆแบบเพิ่งตื่น แต่ผมแอบสะดุดกับคุณพี่ใหญ่ เพราะเห็นเฮียแกเอาแต่เล่นไอโฟนมาตั้งแต่ลงจากเครื่อง มือพิมพ์ๆจิ้มๆไป ไม่รู้ว่าเล่นเกมหรือกำลังคุยกับใคร
"รถมาแล้วครับ เชิญทางนี้เลยครับ"
พวกเราทั้งหมดลุกขึึ้นเฮโลกันออกจากสนามบิน แน่นอน ตามด้วยแฟนคลับอีกเช่นเคย
ผมเหลือบไปมองข้างหลังก็เห็นไดจังส่งยิ้มกลับมาให้
ท่ามกลางคนเยอะๆแบบนี้ ผมออกจะประหม่าและหงุดหงิดได้ง่าย
แต่เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของไดจัง...
ของคนที่ฉากหน้าเป็นเพื่อนสนิท...แต่หลังฉากรักเป็นคนรักกัน
แค่นี้ผมก็มีความสุขยิ้มออกมาได้จากใจอย่างง่ายดาย
*****************************************
*****************************************
First JUMP :: part2 NakaKei
"ยูโะตะ ไม่สบายหรอ?"
"เอ๋? ใครไม่สบายครับ ผมก็สบายดี" เสียงอู้อี้ที่ดังลอดออกมาจากหน้ากากอนามัยทำเอาผมยู่หน้า แล้วชี้ไปยังหน้ากากที่เจ้าตัวรีบหยิบมาใส่ตั้งแต่ออกจากเกท
"อ๋อ นี้หนะหรอ? กันไว้ดีกว่าแก้"
ผมได้แต่งงกับคำพูดของอีกฝ่าย อะไรคือกันไว้ดีกว่าแก้?
ไม่เก็ทเด็กนี้จริงๆ
กรี๊ดดดดดดดดดด...
ผมเข้าใจแล้วหละ...ว่ากันไว้ดีกว่าแก้ของไอ้เจ้าเด็กนั้นมันคืออะไร
กันแฟนคลับนี้เอง...สงสัยกลัวซ้ำรอย....
พวกเราเดินกลับเข้ามานั่งในตัวสนามบินอีกรอบ
ผมได้แต่นั่งถอนหายใจเพลียๆ
เหนื่อยก็เหนื่อย อยากนอนจะแย่อยู่แล้ว นอกจากเครื่องจะลงเช้า ยังต้องฟังเสียงกรี๊ดแต่เช้า
แต่ก็เอาเถอะ เพื่อแฟนคลับที่อุตส่าห์มารอรับ...
เอ้า ยิ้ม~~~~~
"ไหวมั้ยพี่?" ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินกระซิบดังใกล้หู ตอนที่พวกเราเตรียมลุกขึ้นเดินไปขึ้นรถ
แน่นอนไม่ต้องหันก็รู้ว่าใคร เมื่อกี้เหมือนผมจะเดินอยู่กับยาบุดีๆก็มีคนมาแทรกกลางซะแล้ว
"ไหว นายซิที่ต้องทำหน้าที่ป่วย ไม่ใช่พี่"
"คนแอคทีฟอย่างผมถ้าป่วยนี้เรื่องใหญ่แล้วหละ ว่าแต่พี่เถอะ ตั้งแต่ส่งโปรเจคไปก็ลุยซ้อมลุยงานต่อเลยหนิ แทบจะไม่ได้พักเลยไม่ใช่หรอ?"
"รู้ด้วยรึไง?" ผมถามกลับเบาๆ แต่ใจข้างในกลับเต้นรัว
"รู้ซิ ก็ผมมองพี่อยู่ตลอด...ไม่ให้รู้ได้ยังไง"
"มอง...ตลอด?"
"ใช่ฮะ มองตลอด พี่มาเดินกับผมแล้วกันนะ เผื่อล้มลงไป ผมจะได้รับทัน"
ผมได้แต่มองดวงตาที่ยิ้มตาหยี แล้วก็พยักหน้าตกลงอย่างไม่รอช้า
อ่า รู้สึกถึงความเหนื่อยความล้าที่มีมานาน...
มันหายไปหมดเลยแหะ >////<
*****************************************
*****************************************
First JUMP :: part3 YabuHikaru
ผมว่าต้องมีหลายคนสงสัยแน่ๆ ว่าทำไมผมถึงขึ้นเวทีในสภาพนี้
ผมจะมาเฉลยให้คุณฟัง
"ยาบุอยู่ไหน" เสียงห้าวแมน แต่ฟังดูทุ้มหูกำลังเรียกผมอยู่
"มาแล้วๆ มาแล้วครับ"
"นายนี้มันจริงๆเลย เกิดไปงานสายมันจะไม่ดีนะ"
"เอาหน่าๆ แต่อย่างน้อยรถก็ยังไม่ออกไม่ใช่หรอ?" ผมหันไปยิ้มตาหยี ก่อนมือที่ชอบจับคอร์ดเบสตบผลั๊วะเข้ามาที่หัวของผม
"เขารอนายกันทั้งคันแหละ ต้องอันเชิญซันเซซังมาสวดนายป่ะ? อ๊ะ!!! ทำบ้าอะไรหน่ะ ขึ้นรถไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้บ้า!!!!!!"
ผมหันไปยิ้มให้คุณพ่อของวง(แค่ในนามเท่านั้นแหละ พ่อตัวจริงมันผมต่างหาก) ก่อนจะเดินขึ้นรถตู้ไปตามที่ฮิคารุสั่ง แล้วเขาก็เดินขึ้นมานั่งๆพร้อมกับสต๊าฟซังปิดประตูรถให้
"นิ่มดีนะ..." ผผมพูดขึ้นมาลอยๆ แต่คนข้างๆหันขวับ
"ทำบ้าอะไรไม่รู้จักคิด คนอื่นมาเห็นเข้าจะว่าไง"
"ว่าไงไร ฉันตีก้นยูโตะออกบ่อย"
"เออ งั้นก็ไปทำกับน้องเลยไป!" ผมหันไปมองคนขัางๆที่เขยิบตัวไปนั่งแทบชิดประตู แขนผมก็คว้าตามอัตโนมัติ ดึงอีกคนมาหวังจะง้อ แต่ดันลืมไปว่า...พอออกจากโรงแรมปุ๊บ มันก็ถึงแยกเลี้ยวพอดีเลยหนะซิ
ผลก็ออกมาง่ายๆ...
ฮิคารุจะไปอยู่ไหนถ้าไม่ใช่ในอ้อมกอดผม...อ๊า โคตะสุขใจ
เอ๊ะ แล้ว...หน้าของสุดที่รักผมอยู่ไหน? ทำไมผมมองเห็นแต่เส้นผมและแผ่นหลัง
"โคตะ..." เสียงดังแผ่วขึ้นมาเบาๆ เล่นเอาผมใจกระตุกวูบ...
ทะ...ทะ...ท่านี้...มัันล่อแหลมมากเลยนะ
ภาพที่ฮิคารุ ค่อยๆ เอ่อ...ค่อยๆ...เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม แถมใบหน้านั้นก็แดงแจ๋...
ภาพที่สวยที่สุดที่ผมเคยเห็นในชีวิตนี้เลย!!!
มันยิ่งกว่าตอนที่ผมกับฮิคไปแช่ออนเซ็นด้วยกันอีก
"จ้อง...อะไรของนาย...จะกอดอีกนานมั้ย ฉันจะลุก" ดูเหมือนฮิคารุจะได้สติก่อนผม เลยรีบพูดเสียงเขียว...แหม๋ ถ้าอยู่กันสองต่อสอง จะอ้อนให้ทำให้แล้วนะเนี้ย...
แต่เผอิญ...
"เฮ้ย ทำไรเกรงใจกันหน่อยดิเว้ย!!" มาแล้วไงไอ้มารก่อกวน
"เกรงใจน้องๆกันหน่อยซิครับพวกพี่...จะมาแฟนเซอร์วิสอะไรตอนนี้ครับ~" ไอ้เสียงนี้ผมไม่นับเป็นมาร เพราะมันสนับสนุนคู่ผมอยู่
"ปล่อยเราได้แล้ว ยาบุ..." ผมยิ้มรับคำก่อนจะปล่อยมืออกจากอีกคน ปล่อยให้เขาพยุงตัวขึ้นมานั่ง
แต่...
ดูเหมือนวันนี้โชคจะเข้าข้างผม...
เมื่อรถกำลังเลี้ยวเข้าห้างที่ใช้จัดงาน...แน่นอน...เลี้ยวซ้าย....
แล้วหน้าฮิคจะไปไหนพ้น...ถ้าไม่ใช่ที่เดิม....
แต่ที่มันมากกว่านั้น คือ งวดนี้...โดนเต็มๆเลยหนะซิ
แล้วจะเป็นไงหละ...เมื่อคนที่ผมรักกำลังเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมใบหน้าที่แดงจัดยิ่งกว่าเดิม...
เมื่อกี้ริมฝีปากนั่นซินะที่สัมผัส...
อยากจะตะโกนกู่รัองให้ก้องโลก!!!!
ยาบุ โคตะ โคตรฟินเลยครับงานนี้ !!!!!!!
อยากจะตะโกนบอกคนขับรถ พี่ครับ หักซ้ายแรงๆอีกรอบ!
"โคตะบ้า ไม่ช่วยจับเลยใช่ป่ะ รู้นะทำหน้าหื่นขนาดนี้คิดอะไรอยู่" ผมรีบหันไปมองในรถ ว่างเปล่าครับ
"ไปไหนกันแล้วอ่ะ"
"ลงกันไปหมดแล้วไอ้หน้าหื่น เพราะนายไม่ยอมปล่อยฉันสักที พวกนั้นเลยบอกจะลงไปแอบส่องงาน" มิน่าหละถึงยอมทำตัวหวานใส่ผมได้ (แม้จะนิดนึงก็เถอะนะ) แต่ในเมื่อคุณยาโอโตเมะ บอกว่าผมหน้าหื่นแล้ว ก็ขอหื่นอีกหน่อยแล้วกัน
"ฮิค...ปวด..."
"เรื่องของนาย" หง่ะ คนข้างๆไม่สนใจผมเลย
"ลงไปสภาพนี้ จะดีหรอ...คนอื่นตกใจแย่เลยนะ..." ผมแกล้งพูดเผื่อเขาจะสนใจ แต่เปล่าเลย เจ้าตัวกลับเปิดประตูรถ แล้วเดินลงไปหน้าตาเฉย...
ปล่อยผมนั่งค้างแบบไม่สนใจโลก...
มันปวดนะเว้ย!!!
กลับญี่ปุ่นก่อนนะจะจัดการให้เข็ด!!!!
เอวัง...ก็มีประการละฉะนี้แล
สาเหตุที่ทำให้ผม...
เอ่อ...สภาพนี้ขึ้นเวที...
*****************************************
*****************************************
First JUMP :: part4 TakaChii
ไม่เก็ท
ไม่เข้าใจ
และที่สำคัญไม่ชอบด้วย!
อะไรคือพ้อยท์ของการที่เรามาดูแฟนเราไปเล่นบทรักกับคนอื่น
ถึงจะเป็นเพราะเป็นคำถามของแฟนคลับก็เถอะ
แต่ทำไมต้องเป็นยูโตะ ที่คนเขาจิ้น จับคู่กันยกใหญ่
แถมยังมียามาดะอีก!
เมื่อไหร่ลัทธิพวกนี้จะจบซักที
จะบอกให้ว่า ทาคาชี่ เรียลที่สุดแล้วเว้ย
ทาคาคิ ยูยะกำลังหงุดหงิดครับ
หงุดหงิดมากๆด้วย บอกตรงๆ
ไม่ปลื้ม!
"เป็นไรวะ?" ผมหันไปมองคนที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายของผม
"นั้นแฟนกู...กูควรหงุดหงิดป่ะหละ"
"เอาหน่าเพื่อแฟนคลับ ยอมๆไปเหอะ"
"แล้วถ้าอิโนะจังกับฮิคารุเล่นอย่างนี้กันบ้างหละ?"
"กูจะเดินไปจับแยกทั้งสองคนออก แล้วจะจูบฮิคารุให้ดูต่อหน้าทุกคนเลยด้วย"
ผมได้แต่พยักหน้ารับนิ่งๆ ก็นั้นแหละ อารมณ์ของผมตอนนี้
อยากจะเข้าไปแยกเจ้าตัวเล็กออกจากสองคนนั้นจริงๆ
สต๊าฟซังก็เหมือนจะรู้ เล่นวางบล็อคจับพวกเราแต่ละคู่แยกกันซะ!
"ยูยัง...โกรธอะไรเรารึเปล่า?" ผมเหล่มองคนตัวเล็กข้างๆที่ตอนนี้แอบเนียนมายืนข้างผมซะแล้ว
"ทำไมต้องไปเล่นแบบนั้นด้วย ก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบ"
"ก็แฟนคลับขอมาทั้งทีนี่นา พวกเราเองก็เพิ่งจะเคยมาไทยกันนะ"
"แต่นายก็รู้ว่าคนจิ้นนายกับพวกนั้นเยอะแค่ไหน จะทำให้พี่ประสาทตายเพราะมัวแต่หึงมัวแต่หวงเราหรอ" ผมพูดติดตะคอกเล็กน้อย ก็มันหงุดหงิดจริงๆอ่ะ
"ยูยังไม่เชื่อใจกันบ้างเลยรึไง? อีกอย่างนะ ทำไมต้องแคร์ว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง เราก็เป็นอย่างที่เป็นตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมารับรู้ด้วยนี่นา"
"แต่ว่านายก็เข้าใกล้..."
"ยูยัง เราก็ผู้ชายนะ จะไม่ให้มีเพื่อนผู้ชายเลยคงไม่มีทางเป็นไปได้ จะให้มีเพื่อนผู้หญิงก็ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เอาเหอะ ขี้เกียจจะเถียงแล้ว สรุปว่าถ้าไม่เชื่อใจกัน ก็เลิกๆกันไป ไม่ต้องคบ"
"อ้าว เฮ้ย ทำไมพูดงี้"
"ก็นายทำตัวแบบนี้ใครจะอยากคบด้วย เราเป็นคนไม่ใช่สิ่งของที่นายจะเป็นเจ้าของ เรามีความรู้สึกมีสมองคิดเองเป็น" แย่แล้ว ทำไมจู่ๆสถานการณ์มันกลายเป็นอย่างนี้ไปได้หละเนี้ย ไม่ได้ๆต้องรีบง้อรีบขอโทษไอ้ตัวเล็กก่อนเรื่องจะบานปลายแล้วรู้ไปถึงหูของคนอื่นในวง
"โหย ยูริ พี่ก็แค่...หึงเท่านั้นเอง เลยพูดไปแบบนั้น ขอโทษนะครับ คราวหลังจะหึงแบบมีลิมิตแล้ว"
"จำคำพูดของตัวเองไว้ให้ดีแล้วกัน...อ๊ะ ตาผมหรอ? งั้นจิเน็น ยูริจะไปแล้วนะครับ~"
ผมมองตามคนตัวเล็กที่เปลี่ยนสีหน้าและน้ำเสียงได้อย่างฉับพลัน เดินลงจากเวทีไปหาแฟนคลับเพื่อถามคำถาม
ปล่อยให้ผมยืนหน้านิ่งอยู่คนเดียว ก็ดูซิ เอาอีกแล้ว ยิ้มหวานแบบนั้นให้แฟนคลับ เดี๋ยวแฟนคลับก็หลงกันยิ่งกว่าเดิมหรอก!
โอ๊ย แล้วไปให้เขาจับมือทำไม ทั้งยิ้มทั้งจับมือนุ่มๆ(สำหรับผม)นั้นอีก จะมากไปแล้วนะ
ทาคาคิ ยูยะ อยากพ่นไฟเว้ย!!! แง๊ง!!!!
*****************************************
*****************************************
First JUMP :: part5 OkaRyuu
งอน…
งอนมากๆ...
ไปไทยตั้งหลายวัน ไม่มีความคิดถึงที่จะโทรหาหรือไลน์หรือเมล์มาหากันบ้างรึไงนะ!
แต่ทำไงได้หละ...
ก็มือถือของผม ดันสัญญาณขัดข้องบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ไม่มีสัญญาณแม้แต่น้อยนิด
เคย์โตะจะขาดใจตาย คิดถึงเจ้าเด็กเกรียนชะมัดยาด
แน่นอนว่า สิ่งที่ผมทำอย่างแรก ตั้งแต่กลับถึงญี่ปุ่นคือ...
กลับบ้านตัวเองครับ...
กลับบ้าน นอน สายๆค่อยไปหาริวจัง
ขืนไปหาตอนนี้โดนไล่กระทืบแน่ๆ เช้าซะขนาดนี้
เอาหล่ะ...อาบน้ำนอนดีกว่า คร่อก!
ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง...
"ครับ~" ผมได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากในบ้าน ไม่นานเจ้าของเสียงก็โผล่ตัวออกมา "อ้าว เคย์โตะคุง กลับมาแล้วหรอฮะ?"
"กลับมาแล้วๆ นี้ของฝาก ฝากเอาไปแจกจูเนียร์คนอื่นๆด้วย เขียนชื่อติดไว้หมดแล้ว"
"โอ๊ะ ขอบคุณมากฮะ ของฟรี...ชินทาโร่และผองเพื่อนไม่ปฏิเสธแน่ๆ ว่าแต่เคย์โตะคุงมาหานี่จังหรอ?"
"อื้ม อยู่รึเปล่า?"
"นอนอยู่ในห้องนู้น เห็นว่าวันนี้ขี้เกียจไปเรียน เพราะจูริ โฮคุโตะคุง กับไทงะคุงติดงาน ไม่มีใครไปเลย นี่จังเลยบอกหยุดดีกว่า"
"แล้วนายไม่ไปทำงานรึไง?"
"เดี๋ยวก็ไปแล้ว รอคุณจูริมาก่อน เห็นว่าจะเอาของมาให้นี่จัง งั้นเคย์โตะคุงขึ้นไปหานี่จังได้เลยนะ เดี๋ยวผมรอเต่าอยู่ข้างล่าง"
ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะเดินไปยังห้องประจำที่ผมชอบมาบ่อยๆ...
ห้องนอนของ โมริโมโตะ ริวทาโร่ นั่นเอง!
พอเดินมาถึงหน้าห้องผมก็ได้ยินเสียงต๊อกแต๊กๆเสียงคลิ๊กเหมือนกำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ แสดงว่าริวจังตื่นแล้วซินะ
งั้นเซอร์ไพรส์โลด!!!
"ริวจัง!!!"
"เฮ้ย!!!!" ริวทาโร่หมุนเก้าอี้กลับมามองผมก่อนจะหงายหลังตกเก้าอี้ไป ผมเลยรีบเข้าไปดึงตัวอีกคนให้ลุกขึ้นมา
"ตกใจอะไร แค่คิดถึง เลยจะเอาของฝากมาให้ อ่ะนี่" ผมยื่นถุงในมือให้ ก่อนจะถามต่อ "แล้วทำไรอยู่อ่ะ เห็นชินทาโร่บอกโดดเรียน..."
"ไม่มีไรหรอกๆ" ริวทาโร่พูดลนๆ แล้วรีบเอาตัวบังหน้าจอเอาไว้
ท่าทางแบบนี้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ
เคย์โตะ พนันด้วยกีต้าร์ของคุณพ่อเคนอิจิเลย!!!!
"ไหนๆ หลบซิ" ผมรีบจับตัวริวทาโร่หลบ ให้ผมมองเห็นจอมอนิเตอร์
แล้วก็ต้องกลายเป็นผมเองที่นิ่งค้าง...
หน้าที่เปิดค้างไว้...อีเมล์ของริวทาโร่ ที่ส่งคุยกับคุณพี่ใหญ่ของวง...
ผมไม่รอช้า รีบเลื่อนอ่านอีเมล์ทันที ไล่ตั้งแต่วันแรกตั้งแต่ล่าสุด
2013/02/28
"พวกพี่ถึงที่ไทยกันแล้วนะ แต่ดูเหมือนโทรศัพท์ของเคย์โตะจะมีปัญหาเรื่องสัญญาณ ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง พี่เลยบอกให้เขาเอาไว้ถ่ายรูปแทน ส่วนเวลาจะโทรให้ใช้ของพี่"
-งั้นหรอครับ ไม่น่าหละ พี่เคย์โตะเงียบไปเลย ทั้งๆที่บอกว่าจะเมล์มาหาผมทันทีที่ถึง สุดท้าย เที่ยวให้สนุกนะครับพี่ๆ เที่ยวเผื่อผมด้วยนะ-
"แน่นอน ริวจังเองก็อย่าลืมไปเรียนหละ พวกพี่ไม่อยู่ อย่าอู้เด็ดขาด ไม่งั้นกลับไปจะจับติวรายวิชาเลยดีมั้ย?"
-ยาบุคุงพูดงี้...ผมกล้าอู้โดดเรียน ก็บ้าเต็มทนแล้วหละ แต่จริงๆก็แอบขี้เกียจแหะ-
"เอานี่ เป็นกำลังใจของนายในการเรียนไปแล้วกัน"
ผมคลิ๊กเข้าไปดูภาพที่ส่งมา...
เป็นภาพของผมที่ยาบุคุงแอบถ่ายตอนอยู่ที่สนามบิน
ยิ่งผมเลื่อนอ่านไปเรื่อยๆ
ก็เจอแต่ข้อความและรูปภาพของผมตอนต่างๆ ไม่ว่าจะตอนทำงาน ตอนฟรี หรือแม้แต่หลังเวที
พร้อมกับคำบรรยายละเอียดยิบจากยาบุคุง
แน่นอน คำตอบเมล์ของริวจังแต่ละอัน เล่นเอาผมหน้าแดงเถือก
หันไปมองหน้าอีกฝ่ายทันทีหลังจากที่อ่านจบ
"จะทำให้พี่หลงรักเราไปถึงไหนริวจัง..." ผมพูดพร้อมกับดึงอีกคนเข้ามากอดแน่น แล้วก็ได้ยินเสียงกระซิบตอบกลับมาเบาๆ
"จนกว่าพวกเราจะแยกจากกัน..."
ผมได้แต่เขินกับคำพูดนั้น
ยิ่งนึกถึงอีเมล์ที่ริวทาโร่ส่งคุยกับยาบุคุง ก็ยิ่งเขินเข้าไปใหญ่...
ก็ทุกครั้งที่ตอบกลับ ต้องแอบใส่ปัจฉิมลิขิตตลอด
ปล.ที่ว่า...
ฝากบอกเคย์โตะด้วยว่า ผมรักเคย์โตะคุงนะ
ความคิดเห็น