ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Real life is not 'that' beautiful..[BuHik//KeiDai//NakaYama]

    ลำดับตอนที่ #7 : #Chapter 6

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 55


     #Chapter 6

     

     

     

    "เคย์ตื่น" ไดกินั่งปลุกอีกคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง

     

    "ไม่เอา ไม่ตื่น รู้มั๊ยเมื่อคืนนานอ้อนฉันซะหมดแรงเลย" อิโนโอะดึงอีกคนให้ลงมานอนด้วย

     

    "บ้าหรอ ฉันอ้อนตรงไหนกัน"

     

    "อ้อนบ่อยๆซิ น่ารักดีออก"

     

    "ไม่เอาแล้ว นายปล่อยเลย ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว ถ้าไปเรียนสายนะ จะด่าจริงๆด้วย"

     

    "วันนี้วันเสาร์นะไดจัง"

     

    "จริงดิ!!!!" ไดกิตีหน้าเซ็งขึ้นมา "แล้วฉันจะรีบปั่นรายงานทำไมวะ!?"

     

    "ทำเสร็จแล้วก็ดีออก ไปเที่ยวดีกว่า"

     

    "แล้วทำไมนายไม่บอกก่อนเล่า ปล่อยให้ฉันใส่ชุดนักเรัยนเฉย"

     

    "ทำไมต้องบอกหละ ฉันไปเที่ยวกับฮิคารุ ไม่ได้ไปกับนาย"

     

    “อ๋อ โอเคๆ งั้นเช้านี้จะกินอะไร เดี๋ยวไปทำให้กิน” สีหน้าของไดกิเปลี่ยนไปทันที จนอีกคนรู้สึกได้

     

    “งอน? มางอนทำไม เดี๋ยวเย็นนี้ไปกินข้าวข้างนอกกัน”

     

    “ไปกินกับฮิคารุของนายเหอะ ฉันคงไปหายาบุ ถ้าฮิคไปเที่ยวกับนายแสดงว่ายาบุก็ว่าง” ไดกิพูดขึ้นมาเสียงเรียบๆ

     

    “อย่ามางี่เง่าไดกิ นี้ง้อดีๆแล้วนะ จะเล่นตัวก็เรื่องของนาย แต่ยังไงวันนี้ฉันนัดฮิคารุแล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะพลาดนัดครั้งนี้หรอก”

     

    “เราก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิ แค่ถามว่ากินอะไรจะได้ทำให้”

     

    “หน้านายมันฟ้องทุกอย่างไดกิ ช่างเถอะ นัดฮิคกินข้าวเช้าไว้ นายอยากกินไรก็ทำกินเหอะ” อิโนโอะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เป็นการตัดปัญหายุติบทสนทนา ขืนยังคุยกันต่อ เขาคงเผลอทำอะไรไดกิอีกแน่ๆ

     

     

     

     

    “ไม่กินข้าวเช้า?”

     

    “เรานัดอิโนะจังไว้ว่าจะไปกินข้าวเช้าด้วยกัน” ฮิคารุตอบยาบุที่นั่งกินข้าวเช้าอยู่ที่เคาน์เตอร์ห้องครัว

     

    “สงสัยเมื่อคืนจะเบาไป นายเลยมีแรงลุกไปหาผู้ชายคนอื่น”

     

    “คุณก็คิดได้แต่เรื่องแบบนี้ สร้างสรรค์คิดเป็นมั๊ยครับ?”

     

    แคร้งงงง!!

     

    ยาบุกระแทกส้อมที่กำลังจิ้มแพนเค้กลงบนจานตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นมายืนประจันหน้ากับอีกคน

     

    “ปากกล้าขึ้นเยอะนะ ไปทำอะไรมา?”

     

    “เปล่าหรอกครับ ผมขอโทษครับ”

     

    “ทำไมไม่ปากกล้าให้เหมือนเมื่อกี้หละ? ชีวิตมีสีสันดีออกไม่ใช่หรอฮิค นายคงมีแผลไปโรงเรียนทุกวันแน่ๆ” ยาบุบีบแก้มอีกคนแล้วกดจูบลงที่ริมฝีปากแดง ปากที่ไม่ว่าเห็นกี่ครั้งเขาก็ยังอยากที่จะบดขยี้มัน ปากที่เป็นของเขาคนเดียว

     

    “รีบไปรีบกลับมาแล้วกัน จะรอกินข้าวเย็น ถ้ากลับมาช้า พรุ่งนี้วันอาทิตย์ไม่ต้องคิดจะลุกออกจากเตียง เข้าใจมั๊ยที่รัก”

     

    ยาบุจูบเข้าที่หน้าผากอีกครั้ง ก่อนจะยอมปล่อยตัวฮิคารุให้ไปหาอิโนโอะ

     

    แต่ยังไม่ทันที่เขาจะกินแพนเค้กต่อ เสียงออดก็ดังขึ้นซะก่อน

     

    “ครับ? ไดจัง มาไงกันเนี้ย?”

     

    “มาระบายเรื่องอิโนะ ตั้งแต่ฮิคมาอยู่ด้วย เราไม่รู้จะคุยกับนายยังไง”

     

    “เข้ามาซิ ฮิคเพิ่งออกไปหน่ะ” ยาบุเดินนำอีกคนเข้ามานั่งที่โซฟาในห้อง

     

    “สวนกันที่ลิฟต์ นายกินข้าวเช้าอยู่หรอ?” ไดกิมองไปยังจานแพนเค้กที่ตั้งอยู่

     

    “อื้อ ช่างมัน กินไปคุยไปได้ ว่ามาซิ มีเรื่องอะไร?” ยาบุยกจานมานั่งกินตรงโซฟาข้างไดกิ ที่ทำหน้าเบื่อโลกอย่างเห็นได้ชัด

     

    “ก็เคย์หน่ะซิ พอมันได้ฉันเมื่อคืน ตอนเช้ามันแล่นไปจีบฮิคอีกแล้ว เบื่อแล้วนะเว้ย เป็นเพื่อนกันแท้ๆแต่มันไม่เกรงใจกันเลยวะ ไม่ว่าฉันจะเจ็บลากเลือดยังไงแม่งก็ไม่หยุด เราเบื่อแล้วนะยาบุ ลาออกจากร้านนายได้มั๊ยเนี้ย? นายจะโกรธรึเปล่า คุณท่านจะว่ามั๊ยอ่ะ”

     

    “สรุป ที่มาวันนี้คือจะมาคุยเรื่องจะลาออกจากร้านฉันใช่มั๊ย?”

     

    “ใช่!!!!

     

    “คิดดีแล้วนะไดจัง เพราะตอนนี้ค่าใช้จ่ายของนายทุกอย่างเคย์เป็นคนดูแล ถ้านายลาออกจากร้านฉัน นายต้องหาเลี้ยงตัวเองนะ จะไหวรึเปล่า?”

     

    “ไหวซิ แค่ทำงานมันไม่ยากหรอกนะ แต่ต้องมาคอยทนเคย์มันเหนื่อย!

     

    “เคย์มันอะไรขนาดนั้น?” ยาบุกลืนแพนเค้กคำสุดท้ายลงคอ

     

    “นายก็รู้อยู่แล้ว รอยช้ำบนตัวฉันมันก็ฝีมือไอ้เคย์มันทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะรอยอะไรก็ฝีมือมันทั้งหมด”

     

    “เข้าใจแล้ว เดี๋ยวลองคุยกับพ่อให้แล้วกันนะ แต่ตอนนี้พ่อไม่อยู่ญี่ปุ่น นายรีบรึเปล่า?”

     

    “ก็อยากให้เร็วที่สุดหน่ะแหละ แต่รอให้คุณท่านกลับมาก่อนก็ได้ เราไม่อยากรบกวน” ไดกิพูดอย่างเกรงใจ

     

    ความจริงแล้วเขาเคารพและนับถือพ่อของยาบุมาก ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว แต่เด็กที่ร้านทุกคนเคารพหมด พวกเขาทุกคนทำที่ร้านอย่างเต็มใจ ไม่มีการข่มขู่ใดๆทั้งสิ้น จริงๆแล้วหากไม่มีคุณท่านพวกเขาคงถูกขายออกไปเป็นทาสที่ประเทศอื่นไปแล้ว คุณท่านเลยเปรียบเสมือนพระเจ้าของหลายๆคน

     

    “โอเคๆ งั้นถ้าพ่อกลับมาจะขอให้แล้วกันนะ” ยาบุยิ้มให้อีกคน

     

    “ขอบใจนะ ว่าแต่นายเถอะ ช่วงนี้ทำตัวดีกับฮิครึเปล่า”

     

    “ดีหรือไม่ดี นายตัดสินไม่ได้หรอกนะ”

     

    “ระวังซักวันฮิคจะหนีนายไปถ้านายยังทำตัวอย่างนี้อีกยาบุ ฉันเข้าใจความรู้สึกของฮิคารุดี”

     

    “อะไรทำให้นายมั่นใจอะไรขนาดนั้น”

     

    “เพราะฮิคบอกกับฉันว่า ตอนนี้เรารักคนอื่นไง” ยาบุแทบจะสำลักน้ำพรวดทันทีที่ได้ยิน ตอนแรกนึกว่าฮิคประชดเล่นๆซะอีก

     

    “เล่ามาให้หมดเลย!

     

    “ก็ตอนแรกเรานึกว่าฮิคก็ชอบเคย์เหมือนกันไง วันนั้นที่คุยกันอ่ะ ที่ฮิคบอกว่ารักเคย์หน้าโรงเรียนอ่ะ เราก็ได้ยิน แล้วเมื่อวานที่ฮิคมาบ้านเรา คือเรากับเคย์เพิ่งเสร็จ เราก็เลยไม่กล้าบอกว่าเคย์นอนอยู่ในห้อง แล้วฮิคก็บอกว่าเราไม่ได้ชอบเคย์ เรามีคนอื่นที่ชอบอยู่แล้ว”

     

    “แล้วไงต่อ?”

     

    “ก็เท่านั้นแหละ แต่นายก็รู้ว่าฮิคไม่โกหกเราแน่ๆ ไม่มีทาง”

     

    “ฮิคก็พูดกับเรา ตอนแรกเรานึกว่าฮิคประชดเราเล่นๆซะอีก แต่เรื่องจริงหรอเนี้ย?” ไดกิพยักหน้ารับ “แย่แล้วเรา”

     

    “ถ้านายไม่เลิกทำตัวแย่ๆกับฮิค ฮิคหายไปจากชีวิตนายแน่ๆรับรอง”

     

    “แล้วนายรู้มั๊ยว่าฮิคชอบใคร?”

     

    “ไม่รู้อ่ะเรื่องนี้ คงไม่มีทางเป็นลูกค้า หรือจะเป็นเด็กที่โรงเรียน?”

     

    “ไม่รู้เหมือนกันวะ เรารู้แค่ว่าฮิคเป็นของเรา เป็นของเล่นของเรา ใครมาแตะฉันเล่นหนักแน่”

     

     

     

     

     

     

     

    “นายอยากไปไหนต่อรึเปล่าฮิค?” อิโนะโอะเอ่ยถามหลังจากออกมาจากโรงหนัง

     

    “เย็นแล้ว เรากลับก่อนดีกว่า ยาบุรอกินข้าวด้วยหน่ะ”

     

    “งั้นหรอ? ว่าจะชวนกินข้าวซักหน่อย”

     

    “นายบอกเราตอนเช้าไม่ใช่หรอว่านัดไดจังกินข้าวเย็น”

     

    “เออเนอะ ลืมไปเลย” ให้ตายซิเขาลืมไปได้ยังไงนะ ถ้าไดกิรู้ว่าเขาลืม มีหวังได้ปะทะกันอีกรอบแน่ๆ

     

    “งั้นเรากลับบ้านก่อนนะ”

     

    “เดี๋ยวซิ เราไปด้วย เห็นไดกิบอกว่าจะไปหายาบุหน่ะ”

     

    “งั้นเรียกแท็กซี่ไปแล้วกัน”

     

     

     

     

    “เข้ามาก่อนซิเคย์”

     

    “ไม่มีใครอยู่หรอ ห้องมืดเชียว”

     

    “อยู่ซิ ก็ไม่ได้บอกว่าจะออกไปไหน อ๊ะ” ฮิคารุต้องร้องออกมาเมื่อเปิดไฟห้อง แล้วเห็นยาบุนอนกอดไดกิอยู่ที่พื้น

     

    “ทำไม? เฮ้ย!!!!!

     

    เสียงของอิโนะดังพอที่จะทำให้คนที่นอนหลับทั้งสองคนตื่นได้

     

    “อิโนะจัง?” ไดกิลืมตาขึ้นมองอย่างงัวเงีย ก่อนจะเอานิ้วสะกิดยาบุ “ปล่อยได้แล้ว หมอนข้างตัวจริงนายกลับมาแล้ว”

     

    “หือ?”

     

    “บอกว่าฮิคกลับมาแล้วเว้ย ปล่อย!” ยาบุรีบปล่อยตัวไดกิทันที ก่อนจะตบลงบนหัวอีกฝ่าย

     

    “จะตะโกนทำไมวะ กลับบ้านไปเลย! ตอนแรกว่าจะอนุญาติให้ค้าง แต่ตอนนี้กลับบ้านไปเลย”

     

    “ไม่เอาไม่กลับ ไม่ง้อนายก็ได้ ฮิคารุจัง~ เราค้างที่นี่ได้มั๊ย” ไดกิรีบโผจะเข้าไปกอดฮิคารุ แต่ก็โดนขัดด้วยเสียงอีกคนซะก่อน

     

    “ไม่ต้อง กลับบ้าน! อย่าให้ฉันหงุดหงิด”

     

    “เคย์...”

     

    ไม่ทันทีไดกิจะได้พูดอะไร เคย์ก็ลากอีกคนออกไปนอกห้องซะก่อน

     

    “กระเป๋า....”

     

    ปังงงงง!!!!!!

     

    “อะไรของพวกนั้น?” ฮิคารุถามมาอย่างงงๆ

     

    “คนมันหวงของที่ไม่เคยเหลียวแลไง ทำอาหารเย็นได้แล้ว”

     

    “ครับๆ ขอผมเปลี่ยนชุดก่อนนะ”

     

     

     

    “ยั่วกันท่าไหน ยาบุมันถึงมานอนกอดนาย?”

     

    “ไม่ได้ยั่วซะหน่อย ง่วงก็เลยนอน แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆยาบุถึงมากอด สงสัยนึกว่าฮิคมั๊ง” ไดกิอยากจะออกจากลิฟต์ให้เร็วที่สุด ใครมันคิดให้ประตูลิฟต์เป็นกระจกเงาวะ อาริโอกะ ไดกิอยากร้องไห้

     

    “นายก็เลยหลับสบายหลับเพลินเลยซินะ กอดของยาบุมันอุ่นมากใช่มั๊ย”

     

    “ก็มันง่วง เราก็เลยนอน ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น เข้าใจมั๊ยเคย์”

     

    ติ๊ง!

     

    ไดกิอยากจะขอบคุณพระเจ้าที่ในที่สุดลิฟต์ก็เลื่อนมาถึงชั้นล่าง

     

    “กลับไปนายตายแน่ไดกิ”

     

    “นายซิตาย ใครว่าฉันจะกลับ คืนนี้จะไปนอนที่ร้าน”

     

    “นอนที่ร้านแล้วคิดว่าจะรอดพ้นจากฉันหรอ?” เคย์คว้าแขนอีกคนเอาไว้ แต่ไดกิก็สะบัดออกได้ทันก่อนที่มันจะบีบแน่น

     

    “เรื่องของนาย” ไดกิกระโดดขึ้นแท็กซี่ สั่งให้แท็กซี่ขับออกไปก่อนที่เคย์จะตามไปทัน

     

    “ถ้าคิดว่าหลบไปนอนค้างที่ร้านแล้วนายจะรอดพ้นจากฉัน นายก็คิดผิดแล้วไดกิ จะเอาให้หนักเป็นสองเท่าเลย!!

     


    *****************
    หลังๆนี้เคย์ไดออกมาเยอะแหะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ตอนหน้าว่าจะแรงแล้วหละ แต่ไม่ยังไม่รู้จะแรงถึงขนาดไหนดี

    เรื่องนี้แต่งไปแต่งมาก็งงตัวเองแหะ  - -" เราแต่งอะไร ฮ่าๆๆๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×