คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Meter
Meter :: BuHik…Happy Birthday to Yabu Kota
ผมเหนื่อย...
เหนื่อยกับไอ้คนที่เกาะผมติดหนึบไม่ปล่อย!!!
อะไรของมันนักหนาวะ!?
"เป็นไรของมึงเนี้ย เกาะกูหนึบอย่างกับติดกาวตาช้าง!"
"ก็ทำไมอ่ะ อยู่ด้วยไม่ได้หรอ?"
"ป่าว แต่คุณโคตะครับ คุณจะไม่ปล่อยให้ผมมีชีวิตเป็นของตัวเองเลยหรอ?"
"ก็งะ ฮิคารุ~ โกรธหรอ?" ว่าแล้วมันก็กอดผมแน่น
ให้ตายซิ!!!!!!
ถ้าไม่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก
กูนึกว่าบ้านมึงทำกาวตาช้างขายแล้วนะเนี้ย!!!!!!
"เฮ้ย สองคนนั้นหนะ จะปล่อยกันได้รึยัง จะได้เริ่มถ่ายแม็กกาซีน" ผู้จัดการที่คงเห็นสีหน้าผมว่ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกแค่ไหนรีบเดินมาแยกตัวยาบุออกจากผม ก่อนจะไล่ให้ไปเข้าฉากที่ทางสตูดิโอเซตไว้
"โอ๊ย โคจัง!!! ฉันทำอาหารไม่ได้นะ!" ผมหันไปโวยยาบุเบาๆแต่ใส่อารมณ์เต็มที่
"ก็อยากกอดอ่ะ ตัวหอมๆ...งะ อย่างอนซิ"
"ยาบุ โคตะ ถ่ายรายการอยู่ อย่าเพิ่งเล่นได้ป่ะ"
"โหย คุณแฟน เราเป็นแฟนกันนะ ก็อยากอยู่ใกล้กันบ้าง"
"เออ กูเข้าใจว่าเป็นแฟนกันก็ต้องอยู่ใกล้กัน แต่นี้มันเกินไป ถอยออกไปได้แล้ว ถ่ายรายการเสร็จเราค่อยคุยกัน" แม้ปากผมจะกระซิบว่าไปแบบนั้นแต่คนข้างๆผมก็เกาะผมติดหนึบเหมือนเดิม ซึ่งผมไม่เข้าใจว่ามันจะอะไรขนาดนั้น
โอเค แฟนกันเข้าใจนะ
แต่กูไม่ใช่แฝดสยามเว้ย!
จะได้ตัวติดกับมึงตลอดเวลา!!
ไอ้เหลี่ยมบ้า!!!
"เป็นไรวะ นั่งหน้าหงิก?" ทาคาคิที่เห็นผมนั่งหน้าหงิกโดยมียาบุนั่งอยู่ข้างๆรีบเดินเข้ามาถาม
"กูรำคาญ เบื่อ อยากไปไหนมาไหนคนเดียว"
"อ้าวแล้วไม่ดีรึไงวะไปกับคุณยาบุมัน"
"ดีอ่ะดี แต่มันมากเกินไปจนฉันอึดอัด หาอิสระให้ตัวเองไม่เจอ" ผมปรายตามองไปที่คนข้างๆ มันยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวส่งยิ้มมาให้ "ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้บ้า ฉันเบื่อที่ต้องมีนายเกาะหนึบแล้วเนี้ย!"
"ฮิคไม่รักเราแล้วหรอ?"
"รักอ่ะรัก แต่นายทำตัวแบบนี้อึดอัดวะ พูดจากใจจริง เราไม่ชอบ เราว่าห่างกันซักมั้ยได้ป่ะ เผื่ออาการอึดอัดมันจะหายไปบ้าง"
"ห่าง...ห่างแบบยังไง? เป็นเพื่อนสนิท หรือยังเป็นแฟนอยู่?" ผมถอนหายใจเฮือกก่อนจะพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
"ห่างแบบเป็นแค่เพื่อนร่วมวงธรรมดา ไม่มีสิทธิพิเศษ เข้าใจป่ะไอ้เหลี่ยม? ไปซ้อมกันเหอะยูยะ"
นับตั้งแต่วันที่ผมพูดกับยาบุออกไปแบบนั้น เขาก็ไม่เข้ามายุ่งกับผมอีกเลย เรียกได้ว่าหากไม่มีความจำเป็นต้องคุยกันเรื่องงาน เขาก็ไม่พูดกับผมสักคำ ไม่โทรหา ไม่เมล์มา นี้มันทำเกินกว่าเพื่อนร่วมวงรึเปล่า ขนาดกับรุ่นพี่รุ่นน้องผมยังสนิทกว่ามันตอนนี้เลยเหอะ!
"เป็นบ้าอะไรอีกวะ เห็นนั่งจ้องยาบุมาตั้งนานแล้ว ไม่ลุกไปคุยกับมันอ่ะ?"
"มันต่างหากต้องเข้ามาคุยกับเรา!" พูดซะเสียงดังจนยาบุหันมามองแต่ก็ไม่สนใจจะมาคุยกับผมสักคำ "เออ แล้วเมินให้ตลอดแล้วกัน!"
"แย่แล้ววะพี่ แย่แล้ว!!!!" ยูโตะวิ่งเข้ามาในห้องพักนักแสดงก่อนจะกางแม็กกาซีนที่ให้สัมภาษณ์ไปก่อนที่ยาบุกับผมจะเลิกคุยกับให้ผมดู
"อะไรของแก เสียงดังมาก่อนตัวอีก แล้วมีอะไรให้อ่านไรวะ?"
"ก็พี่ยาบุยังไม่คุยกับพี่เลยใช่มั้ยหละ ผมว่าผมรู้สาเหตุแล้วนะ...นี้เลยพี่ บรรทัดนี้เลย!"
ผมไล่สายตาอ่านตามที่ยูโตะชี้ให้อ่าน สมองผมค่อยๆประมวลผลออกมา...
ถ้าแฟนผมอยู่ห่างจากผมเกินหนึ่งเมตร ผมจะโกรธ
ฉิบหายหละ!
มันโกรธผมจริงดิ!!!!
"อ้าวยูโตะ มาแล้วหรอ? อ่านไรกันวะ" ยูยะที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำเดินเข้ามาคว้าแม็กกาซีนไปอ่านในบรรทัดที่ยูโตะชี้ให้ผมอ่านก่อนจะหันมาทำหน้าสงสารผมเต็มที่ "เคลียเองเลยนะมึง เรื่องนี้มึงทำตัวเองเน้นๆเลย"
"ไอ้ยะ!!! ช่วยกูด้วยดิ!"
"ขอโทษวะ เรื่องนี้กูคงช่วยไรไม่ได้ มึงเป็นคนบอกแฟนมึงเองหนิว่าให้อยู่ห่างกันซักพัก"
"ก็ตอนนั้นกูไม่ตั้งใจอ่ะ!"
"อ่า...พี่ฮิคไปพูดงั้นหรอฮะ? ผมก็นึกว่าทะเลาะกันเรื่องอื่นพี่เลยออกห่าง พี่บุเลยยิ่งโกรธ...ผมว่าอย่างนี้...ก็คงต้องช่วยตัวเองแล้วฮะ"
"โหย! ยูโตะน้องรัก ช่วยพี่หน่อยซิ นะๆๆ"
"ผมไม่อยากไปเสี่ยงกับอารมณ์เหวี่ยงของพี่ใหญ่ ขอผ่านแล้วกันฮะ" เมื่อผมขอยูโตะไม่สำเร็จก็ส่งสายตาไปขอร้องยูยะ
"ไม่ต้องทำหน้าหมาหงอยใส่กูเลย ไม่เว้ย นายทำเองก็ต้องแก้เองเว้ย!!! อีกอย่างยาบุแม่งโกรธน่ากลัวเกินไป"
โอ๊ยยยยยยยยยย เพื่อนก็ไม่ช่วย น้องก็ไม่ช่วย
แล้วผมจะทำไงดีวะเนี้ย!?
ดูจากรูปการณ์แล้ว...
ยาบุโคตรโกรธผมเลยหละ!!!
นอกจากผมจะอยู่ห่างมันเกินหนึ่งเมตรแล้ว...
ยังไปลดตำแหน่งให้มันเหลือแค่เพื่อนร่วมวงอีกต่างหาก...
แล้วผมจะขอโทษมันได้มั้ยเนี้ย?
“โคจัง...”
“มีอะไรถ้าไม่มีไรแล้ว เราจะกลับบ้าน”
“เค้าขอโทษนะตัวเอง กลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ” ผมไม่สนว่าคนอื่นจะมองจะพูดยังไง ทันทีที่แสดงเสร็จผมก็รีบเดินเข้ามาคุยกับยาบุทันที ยิ่งเห็นว่าเขากำลังจะหนีก็เลย กอด ไว้ซะเลย
“เราเป็นแค่เพื่อนร่วมวงกันไม่ใช่รึไง?”
“โหย โคตะ อย่างอนดิ ก็รู้ว่าเราล้อเล่น...”
“สำหรับนาย นายอาจจะล้อเล่นหรือไม่ได้ตั้งใจพูดออกมา แต่สำหรับเรามันเป็นเรื่องใหญ่มาก ขอโทษนะแต่เราโกรธนายจริงๆ และยังไม่คิดให้อภัยนายตอนนี้”
“โคตะ...อย่างน้อยก็กลับมานอนที่ห้อง...”
“เราขอตัวกลับบ้านก่อนแล้ว นายเองก็กลับบ้านไปได้แล้ว คุณเพื่อนร่วมวง” พอเขาพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที ปล่อยให้ผมยืนค้างนิ่งสนิทจนเคย์ต้องเดินมาสะกิดผม
“ไหวป่ะวะเนี้ย เจอตอกซะหน้าหงายขนาดนี้”
“อิโนะจัง~~~~”
“เฮ้ย ใจเย็นๆ นายก็บ้า รู้ว่าเรื่องความสัมพันธ์สำหรับยาบุมันจริงจังและซีเรียสขนาดไหน ยังเสือกไปพูดงั้นอีก”
“ก็มันพลั้งปากไปเองอ่ะ อารมณ์ตอนนั้นมันหงุดหงิดนี้นา อิโนะจังช่วยหน่อยนะ~”
“ช่วยไร ช่วยแกเราก็โดนยาบุเชือดพอดี ไม่คุ้มเลยนะเว้ย ยังเรียนไม่จบเลย”
“ไอ้บ้า เห็นปริญญาสำคัญกว่าเพื่อนใช่ป่ะ”
“เออ สำคัญกว่าเว้ย เอางี้ นายก็ค่อยตามง้อมันไปแล้วกัน เดี๋ยวมันก็โอเคเอง”
ผมทำตามที่อิโนโอะจังบอก ตามง้อโคตะทุกวี่ทุกวัน ทั้งก่อนแสดงหลังแสดง ตอนซ้อม วันพัก วันปีใหม่ ยันแสดงจบ จนตอนนี้นับๆวันที่โคตะงอนผมแล้ว มันล่อไปเป็นเดือนแล้วนะ แล้วพรุ่งนี้ก็วันเกิดยาบุแล้วด้วย ตอนนี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะคืนดีกับผมสักนิด โอเคอ่ะ ก็รู้ว่ามันโกรธมาก แล้วสิ่งที่ผมพูดไปโคตรไม่น่าให้อภัย ก็ตอนนั้นมันอึดอัดจริงๆอ่ะ ทำไมต้องงอนขนาดนี้หละ ก็เขารู้สึกยังไงก็พูดอย่างนั้นผิดหรอ
หรือว่าชอบแบบต้องเฟคหน้าตาย ระบายยิ้มตลอดเวลาในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ
ไม่อ่ะ...นั้นมันไม่ใช่ตัวเขาเลย
“ยาบุ...” เจ้าของชื่อหันมามองผม บอกว่าแปบนึงก่อนจะหันไปคุยกับยูโตะเรื่องตารางงานกับตารางซ้อมของเขา
“มีอะไร?” น้ำเสียงที่เย็นชายามใช้กับผม ช่างแตกต่างจากตอนที่คุยกับน้องซะจริงๆเลย
“เราขอโทษสำหรับทุกอย่าง...”
“นายพูดคำนี้มากี่ครั้งแล้ว เรารำคาญ จะขอโทษอะไรนักหนาวะ”
“ก็นายไม่ยอมยกโทษให้เราซักที”
“พอเหอะ ฮิคารุ เรารำคาญกับคำขอโทษของนายจนทนไม่ไหวแล้วนะ เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน หลังตื่นนอน คำที่ฉันได้ยินจากนายมีแต่คำว่าขอโทษๆ” เสียงยาบุฟังดูหงุดหงิดซะเต็มประดา “อีกอย่าง ไม่ต้องมายุ่งกับเรามากนัก เกะกะ ทำงานไม่สะดวก เป็นแค่เพื่อนร่วมวงอย่ามาทำตัวเป็นเจ้าของฉัน”
ได้ยินเท่านี้ผมถึงกับน้ำตาร่วง เข้าใจแล้วหละว่าทำไมยาบุถึงโกรธขนาดนี้
เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมยกโทษให้ผมง่ายๆ
เข้าใจแล้วว่าเวลาคนที่เรารัก พูดว่ารำคาญ หรือเกะกะ มันเจ็บปวดขนาดไหน
เข้าใจแล้วว่าตอนที่แฟนเราบอกว่าเป็นเราแค่เพื่อนร่วมวง มันทรมานขนาดไหน...
“ร้องไห้...เจ็บรึไงฮิคารุ?” น้ำเสียงเยือกเย็นยังคงเฉือนหัวใจของผม นี้เขาไม่คิดจะคืนดีกับผมเลยใช่มั้ย?
“ยาบุ รังเกียจเราแล้วใช่มั้ย ไม่ได้รักกันแล้วใช่มั้ย”
“เหอะ แล้วเข้าใจรึยัง ว่าตอนนั้นฉันรู้สึกยังไง?” ผมจ้องเขานิ่งกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ดวงตาที่เย็นชาค่อยๆมองมาที่ผมอย่างอ่อนโยน เหมือนเดิม...เหมือนที่เคยมองตอนที่คบกัน
“ไอ้บ้า!!! นี้นายแกล้งฉันใช่มั้ย!?”
“แหม กว่าจะรู้ตัวนะที่รัก” คนพูดส่งยิ้มมาให้อย่างจริงใจ ยิ้มที่มาจากปากและตา ยิ้มที่มาจากหัวใจ
“ฉันเจ็บนะ เจ็บจริงนะเว้ย นึกว่านายจะทิ้งกันจริงๆซะแล้ว รู้มั้ยว่าฉันร้องไห้เลยนะ!!!!” เมื่อเห็นว่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่แกล้งกันเล่น ผมก็อดที่จะโวยวายออกมาไม่ได้ มือเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะบ่นต่ออีกระลอก จนยาบุต้องจับมือผมไว้แล้วจ้องหน้านิ่งๆ
“นายโดน นายก็เจ็บ...แล้วคิดว่าตอนที่ฉันโดน ฉันเจ็บขนาดไหน?”
“ขอโทษ เราขอโทษจริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจพูดตอนนั้น มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ...”
“นั้นแหละ แค่อารมณ์ชั่ววูบ เพราะฉันรู้จักว่านายเป็นคนยังไง รู้จักนิสัยของนายดี แต่กับคนอื่นอาจจะไม่ เพราะฉะนั้นแล้ว ก่อนจะพูดจาทำร้ายจิตใจคนอื่น คิดซะก่อนนะว่า ควรจะพูดหรือไม่ควรจะพูด จริงอยู่ที่นายบอกเป็นเรื่องล้อเล่นขำๆ แต่คนที่ฟัง ไม่ขำด้วยหรอกนะ”
“เข้าใจแล้วๆ หยุดบ่นได้แล้ว ก็ขอโทษจริงๆนี้นา ควรหลังจะระวังให้มากกว่านี้นะครับคุณพ่อ”
“ดีมาก! งั้นกลับห้องกันเถอะ”
“เอ๋? นายไม่กลับบ้านหรอ?”
“พรุ่งนี้วันเกิดฉัน แถมไม่มีงานอีกต่างหาก ก็ขอนอนกอดของขวัญหน่อยซิ”
“อะ อื้ม...” ผมได้แต่ยิ้มเขินๆ แต่ร่างกายก็เดินไปหยิบกระเป๋าทั้งของตัวเองและอีกฝ่ายเรียบร้อยซะแล้ว
“รีบอะไรขนาดนั้น คิดถึงกันหรอ?”
“คิดถึงซิ เดือนกว่าเลยนะที่ไม่ได้กอดนาย...ฉันทั้งรักทั้งคิดถึงนายจะแย่อยู่แล้ว วันนี้กับพรุ่งนี้ขอให้ของขวัญวันเกิดได้ทำหน้าที่หน่อยนะ”
“แค่สองวันเองหรอ ตลอดไปได้มั้ย?”
“ได้ซิ ตลอดไปเลย!”
*******************
Happy Birthday to my beloved Yabu Kota ><
รักๆๆๆๆ รักมากๆ สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่ใหญ่ของจั๊มพ์
ปีนี้พี่ก็แก่ขึ้นอีกปีแล้ว ดูแลพี่ฮิคดีๆนะ อย่าเพิ่งตีกันตาย ฮาาาาา
ขอบคุณนะคะที่พี่มาเป็นจั๊มพ์ ไม่ซิขอบคุณตั้งแต่พี่เข้ามาเป็นจูเนียร์แม้จะเพราะฟุตบอลก็ตามเหอะ - -"
พี่สุดยอดมาเลยนะที่เล่นจ้อนเวิลได้แบบนี้ สุดยอดจริงๆ แต่ดูพี่โทรมไม่ไหวแล้ว
พักผ่อนบ้างนะ พักผ่อนเยอะๆ อีกอย่างพี่ผอมเกินไปแล้วนะ -3-
กินเยอะๆ แย่งพี่ฮิคกิน ไม่ซิ แย่งยูยังกินบ้าง! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ความคิดเห็น