ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short Fic :: Hey!Say!JUMP, Sexy Zone, Johnny's Jr.

    ลำดับตอนที่ #4 : Just The Time Before...

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 56


    Just The Time Before... :: FumaKen

     
    *เรื่องนี้เป็นเบื้องหลังของฟูมะเคนในฟิคเรื่องยาว Gap between Us นะคะ ^^



     

    "ยินดีที่ได้รู้จักนะเรา นาคาจิม่า เคนโตะ" คนหน้าหวานยิ้มให้เด็กที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างเป็นมิตร แต่ดูเหมือนอีกคนไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย พยักหน้าน้อยๆแล้วฟุบหน้านอนลงตามเดิม

    "นี่! เงยหน้าขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ทำอย่างนี้มันไร้มารยาท!" เคนโตะตบโต๊ะดังปัง หยุดการเคลื่อนไหวของทั้งห้องเรียน แต่ยังไม่มีวี่แววว่าคนข้างๆจะเงยหน้าขึ้นมาซักนิด เคนโตะเงี่ยหูฟังก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ 

    ไอ้บ้านี้ เขาตบโต๊ะตั้งดัง มันยังหลับอีก!!!

    "เออ หลับให้ได้ตลอดแล้วกัน ตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่แม่จะด่าให้หูชา!"

     

    แต่ทุกสิ่งก็ไม่เป็นไปตามที่เคนโตะหวัง เพราะคนข้างๆเขาเล่นหลับยาวรวดตั้งแต่ยังไม่เริ่มโฮมรูมยันพักกลางวัน ยังดีที่วันนี้เป็นแรกของการเปิดภาคเรียนของม.ปลาย แม้ส่วนใหญ่จะย้ายมาจากที่เดียวกัน แต่มันก็มีส่วนน้อยอย่างเขาที่ไม่รู้จักใครเลย กลายเป็นว่าเหมือนทั้งคาบเช้าเป็นการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ซะมากกว่า

     

    "เคนโตะไปกินข้าวกันเถอะ" ยูโกะที่นั่งข้างๆอีกฝั่งหันมาชวนผม ดูเหมือนว่าเขาจะย้ายมาจากโรงเรียนที่เด็กส่วนใหญ่ย้ายมากัน เพราะพอเขาถามผมเสร็จก็หันไปชวนคนอื่นๆที่นั่งรอบอย่างสนิทสนม

    "แล้วหมอนี่อ่ะ?"

    "อ๋อ ไอ้ฟูมะหนะหรอ ปล่อยมันนอนไปเถอะ เดี๋ยวมันหิวมันก็ตื่นเอง" ทุกคนทำเหมือนเป็นเรื่องปกติที่หมอนี่จะหลับตลอดเวลา

     

     

     

    "ไอ้ฟูมะ ตื่น!" ริวทาโร่ที่เดินมาจากไหนไม่รู้เตะเข้าที่โต๊ะอย่างแรง ริวทาโร่เป็นเพื่อนที่เขาเพิ่งเจอและรู้จักกันเมื่อตอนพักกลางวัน กลายเป็นว่าตอนนี้เขาได้เพื่อนกลุ่มใหญ่จากหลายห้องไปโดยปริยาย ในกลุ่มเขามีด้วยกันแปดคน มีมาจากที่อื่นอย่างเขาแค่สามคนเท่านั้นเอง คือ เขา เจสซี่และฮากิยะ

    "ไอ้ฟูมะ!!! เลิกเรียนแล้วมึง!!!" คราวนี้กลายเป็นโฮคุโตะที่ตบหัวอย่างจัง

    "แม่งยังไม่ตื่นอีก!!!" ทั้งหมดครางเหวอ ก็แรงตบเมื่อกี้มันไม่ได้เบาเลยนะ

    "กูล้อเล่น ตื่นแล้ว อ้า~ หลับสบายจัง" ฟูมะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจสองสามครั้ง ก่อนจะคว้ากระเป๋าพาดบ่า "ไปกันเถอะ อ้าว แล้วนี้ใครกัน?" 

    "ตื่นแล้วก็ดี โรงเรียนเขามีไว้หาความรู้ ไม่ได้มีไว้นอน แล้วตอนเช้าที่แนะนำตัวทำไมไม่แนะนำกลับ มันเป็นมารยาทพื้นฐานของสังคม..."

    "อะไรวะ รู้จักกันหรอก็เปล่า มายืนบ่น บ่น บ่นฉันเนี้ย!"

    "ฉัน นาคาจิม่า เคนโตะ จำไว้ให้ดีแล้วกัน เป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย แล้วก็นั่งโต๊ะข้างๆนายๆ!"

    "เคนจังนี้เอง ก็งงอยู่ว่าทำไมถึงฝันถึงนาย เพราะนายแนะนำตัวตอนฉันนอนพอดี" ฟูมะยิ้มเจ้าเล่ห์ "ฉัน คิคุจิ ฟูมะ ตอนนี้เป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย แต่อนาคต...ว่าจะเป็นมากกว่านั้น"

    "!!!!"

     

     

    "ไงๆ"

    "อคาซึกิ...เฮ้อ เพิ่งเปิดเทอมวันแรก ก็มาหาเรื่องกันเลยหรอวะ?" จูริหรือหัวโจกของกลุ่มถอนหายใจเฮือก

    "เปิดเทอมแล้วยังไงหว่า? เป็นไงกรามนายยังโอเคอยู่ใช่มั้ยจูริ ฉันว่าที่อัดนายไปวันนั้น ก็แรงเอาเรื่อง"

    "ก็เจ็บเอาการ แต่ก็คงไม่ถึงขั้นกระดูกแขนร้าวแบบตอนที่ฉันกระทืบนายหรอกเนอะ..."

    "อะไรกัน โตจนป่านนี้ยังมีเรื่องกันอย่างกับเด็กแยงกี้ จะตีกันก็หลีก คนจะกลับบ้าน ไม่อยากใช้เวลาไปกับเรื่องงี่เง่า ไร้สาระ ถ้าว่างจนมีเวลามาชกต่อยแบบนี้เอาเวลาไปหาความรู้ใส่สมองเถอะ" ทั้งหมดหันมามองเคนโตะ มีแต่พวกจูริที่หัวเราะเยาะอีกฝ่าย ก็ที่ด่าไปมันเจ็บน้อยซะที่ไหน

    "แล้วมึงเป็นใครวะ มาเสือกเรื่องชาวบ้านแบบนี้"

    "เราเป็นใครไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่าการกระทำนายมันส่อถึงมารยาท มันส่อถึงตระกูลนายว่าเป็นยังไง พูดคำหยาบมันอาจจะดูเท่ในสายตาของนาย แต่มันเป็นที่'รังเกียจ'ของสังคมส่วนใหญ่"

    "ปากดีนักหรอมึง!!!" อคาซึกิตรงเข้ากระชากคอเสื้ออย่างแรงจนเคนโตะตัวปลิวตาม ก่อนจะซัดหมัดใส่

    "เคนโตะ!!!"

    แต่ผิดคาด เคนโตะกลับรับหมัดนั้นได้อย่างง่ายดาย แถมยังยิ้มเยาะกลับด้วยซ้ำ "หมัดเบาแค่นี้ ต่อยผู้หญิงยังไม่เจ็บเลย อยากได้หมัดหนักมันต้องแบบนี้!" เคนโตะสวนหมัดไปที่หน้าอีกฝ่ายจังๆ จนลงไปนอนกอง

    "เฮ้ย ลูกพี่! มึงตาย!!"

    "จะเข้าก็เข้ามาเลย แล้วจะสอนให้รู้ว่าต่อให้ฉันไม่ใช่แยงกี้ ฉันยังเก่งกว่าพวกนายเลย"

     

     

     

    "อรุณสวัสดิ์เคนจัง"

    "โอ๊ะ อรุณสวัสดิ์ฟูมะ ทักชาวบ้านเป็นแล้วหรอ? เมื่อวานเห็นเอาแต่นอน โรงเรียนมีไว้หาความรู้ไม่ได้มีไว้นอน คราวหลังถ้าจะนอนก็กลับบ้านไปนอนไป"

    "โอ้โห โดนสวดยับแต่เช้าเลยแหะ"

    "ทำไม ก็ขอโทษที่เป็นคนแบบนี้ ไม่ชอบก็ไม่ต้อง..."

    "หยุดเลย พอก่อนที่รัก...โอ๊ย!!! เจ็บนะ ต่อยแขนทำไม!?"

    "นายจะให้ฉันต่อยแขนหรือต่อยหน้า? ใครเป็นที่รักนายกันโรคจิต"

    "โหดจริ๊ง~! นักเลงเก่าไงครับ?"

    "ถ้าใช่แล้วจะทำไม?" เคนโตะกระชากคอเสื้อฟูมะขึ้นมา สบตาอีกคนนิ่ง แต่ฟูมะกลับยิ้มทะเล้นยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนเกือบจะชนกันอยู่แล้ว

    "ก็ไม่ทำไมหรอก แค่เหมาะกับเราเท่านั้นเอง"

    ผั๊วะ!!!

    เคนโตะกระแทกหมัดเข้าที่ใบหน้ายียวนอย่างจังจนคนโดนถึงกับหน้าหันก่อนคนต่อยจะโวยวายออกมาเสียงดังลั่นห้อง "ไอ้โรคจิต สมองเสื่อม ฉันเป็นของเล่นให้นายมาล้อเล่นรึไงกัน!? ไม่มีใครสั่งใครสอนรึไงว่าอย่าเล่นกับคนอื่นแบบนี้ ถ้าไม่คิดอะไรก็อย่าเล่นแบบนี้ รู้มั้ยว่ามันหวั่นไหว!"

    "ฮะ!? หวั่นไหว!?" 

    เมื่อเคนโตะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ใบหน้าสวยก็เริ่มแดงก่ำ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้ฟูมะยืนยิ้มอยู่คนเดียว

    "ประสาทป่ะวะ ยืนยิ้มบ้าอะไรคนเดียว?"

    "ไอ้โฮ~ กูกำลังมีความร๊ากกกกกก~~~~" พูดจบก็ดึงเพื่อนชายไปกอดแน่นแก้เขิน

    "ความรักพ่องไรวะ เหี้ยมากอดกูทำไม กูขยะแขยง~!"

    "เออๆ กูก็ไม่ได้อยากกอดนักหรอก ถ้าเป็นเคนจังของกูค่อยว่าไปอย่าง" ฟูมะยอมปล่อยตัวเพื่อนสนิทก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะข้างๆเพื่อน

    "เคนจังของมึง? ได้กับเขาแล้วรึไงถึงบอกว่าเขาเป็นของมึง แล้วรอยนั่น โดนใครต่อยมาวะ พวกอคาซึกิ? แต่ก็ไม่น่าแฮะ...เมื่อวานโดนซ้อมซะเละขนาดนั้น"

    "ก็โดนเคนจังที่รักต่อยอ่ะ เป็นรอยแผลที่มีความสุขสุดยอด"

    "มึงแม่งโรคจิต มาโซนักรึไง!? บ้าป่าววะ โดนต่อยจนหน้าแตกขนาดนั้น ยังยืนยิ้มหน้าสลอน"

    "ก็เพราะเป็นรอยแผลที่เกิดจาดความเขินของเคนจังไง~! กูตัดสินใจแล้ว กูจะจีบนาคาจิม่า เคนโตะ!!! แล้วห้ามใครแย่งกูเด็ดขาด ไม่งั้น'ชีวิตหาไม่แน่'"

    โฮคุโตะส่ายหน้าปลงๆกับเพื่อนตัวเอง ท่าทางจะโดนต่อยจนสมองกลับ แล้วใครมันจะอยากไปแข่งจีบเคนโตะกับมันกันวะ ทั้งขี้บ่นแถมยังน่ากลัวเป็นบ้า ภาพเมื่อวานยังติดตาเขาอยู่เลย ขนาดโดนรุมยังไม่มีรอยแผลอะไรซักนิด กลับกันดันไล่กระทืบอีกฝ่ายซะกระเจิงหนีหายไปหมด สงสัยกลุ่มเขาจะได้คนมีฝีมือเขามาอีกแล้ว

     

     

    “ที่รัก กลับบ้านกันเถอะนะ เดี๋ยวเค้าไปส่ง” ฟูมะรีบเก็บกระเป๋าแล้วยืนรอเคนโตะอยู่ที่หน้าประตูห้อง

    “หลีก ฉันไม่ว่างมาเล่นอะไรไร้สาระกับนาย ฉันว่านายเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่านี้ดีกว่านะ เกะกะสายตา แล้วใครอนุญาติให้นายเรียกว่าที่รักกัน เรียกมันทั้งวันจนคนอื่นเขาเข้าใจผิดกันหมดแล้วเนี้ย สนุกนักรึไงที่สร้างปัญหาให้คนอื่นแบบนี้”

    “โหย แต่นายก็บอกว่านายหวั่นไหวนะ ถ้าไม่รู้สึกจะหวั่นไหวหรอ ยอมรับมาซะเหอะหน่า”

    “ประสาท นายรู้จักฉันแค่เท่าไหร่เอง สามสิบหกชั่วโมงยังไม่ถึงเลย ยังมีหน้ามาบอกว่าจะจีบฉัน แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่คบกับคนที่เพิ่งรู้จักแน่ๆ ถอยไปได้แล้ว จะกลับบ้าน”

    “ไม่ถอย ยังไงก็ไม่ถอยจนกว่านายจะยอมให้ไปส่ง”

    ผลั๊วะ!!!

    หมัดหนักถูกส่งเข้าที่ใบหน้าฟูมะอีกข้าง สร้างรอยแผลใหม่ที่เลือดซิบ ก่อนคนเหวี่ยงหมัดจะก้าวออกจากห้องเรียนไปอย่างไม่แคร์ใคร

    โรงเรียนมีไว้ศึกษาหาความรู้

    ไม่ใช่ไว้หาความรัก!!!

     

     

    “เคนโตะ เห็นฟูมะรึป่าว?” คำทักทายจากเพื่อนสนิทอย่างยูโกะทำเอาเขาคิ้วขมวด ก็รู้ว่าเขาไม่อยากได้ยินชื่อนี้ ยังจะถามถึงอีก ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าของชื่อจะทำเอาเขาจะบ้า

    จะบ้าตายกับความกะล่อนไม่มีที่สิ้นสุด!!!

    “ไม่ได้จะกวนตีนนะ แต่เมื่อวานฟูมะไม่กลับบ้าน”

    “ไปค้างที่ไหนรึป่าว?”

    “ถึงจะเห็นฟูมะเป็นแบบนั้น แต่มันก็กลับบ้านทุกวันเลยนะ พ่อแม่มันเป็นห่วงแล้วเนี้ยว่าไปไหน”

    ทั้งสองคนเดินไปยังห้องของคนอื่นๆเพื่อถามถึงฟูมะ แต่ยังไม่ทันไรสาเหตุที่ฟูมะหายตัวไปก็ปรากฏ เมื่อมีเมล์ถูกส่งเข้ามาในมือถือของเคนโตะ

    “มิซากิงั้นหรอ...”

    “อะไรหรอเคนโตะ?”

    “รู้แล้วฟูมะหายไปไหน” เคนโตะเปิดอีเมล์ส่งให้คนข้างๆอ่าน

    ไงๆเคนจัง...ยังจำเพื่อนคนนี้ได้มั้ยนะ มิซากิเองนะ เมื่อวานว่าจะไปเยี่ยมนายซะหน่อย แต่ดันเจอหมอนี่ที่หน้าบ้านนาย แต่เห็นแล้วมันเกะกะวะ เลยเผลอให้ลูกน้องลากตัวมันกลับมาด้วย เจอกันที่เดิมมั้ย คิดถึงเพื่อนคนนี้จัง แล้วเจอกันนะ เอากี่โมงดีหว่า? ห้าโมงเย็นแล้วกัน โอเค ห้าโมงเย็น เจอกันที่เดิม ที่ๆนายปล่อยให้เพื่อนรักคนนี้ต้องเจอตำรวจคนเดียว

    “นายเป็นใครกันแน่เคนโตะ? ตำรวจเกี่ยวอะไรด้วย”

    “ก็แค่เด็กซิ่วมาเรียนม.ปลายใหม่อีกครั้ง...”

    ปัง!!!

    ยูโกะคว้าคอเสื้อเคนโตะ เหวี่ยงเข้าใส่กำแพงข้างๆ แล้วตะคอกเสียงดัง

    “ตอบกูมาว่ามึงเป็นใคร จริงอยู่ที่กูเห็นมึงเป็นเพื่อน แต่พวกเราเพิ่งรู้จักกัน มันเทียบไม่ได้หรอกกับที่จะเสียเพื่อนอย่างฟูมะไป”

    “จะหาเรื่องกับฉันรึไง? ก็เห็นแล้วหนิว่าเทียบกันแล้ว นายยังสู้ฉันไม่ได้เลยซักนิด” เคนโตะเหยียดยิ้มใส่อีกคน

    “บอกมาเคนโตะ อย่าทำให้มิตรภาพต้องจบลงด้วยเรื่องอะไรแบบนี้” ยูโกะยอมปล่อยตัวเคนโตะให้เป็นอิสระ แล้วพูดขอดีๆ “ขอร้องหละ ฟูมะเป็นเพื่อนที่สำคัญกับพวกฉันมาก บอกมาทีว่านายเป็นใคร แล้วฟูมะอยู่ที่ไหน”

    “หึ ทำหน้าซีเรียสไปได้ ไม่ได้คิดจะปิดบังหรอกหน่า” เคนโตะยิ้มให้ก่อนจะพูดต่อ “ตอนอยู่โรงเรียนเก่าฉันกับมิซากิเป็นคนคุมโรงเรียน แน่นอนว่าตอนนั้นฉันก็เป็นแบบตอนนี้ ฉันไม่ชอบที่มิซากิวางอำนาจแล้วชอบใช้อำนาจไปรีดไถ่เด็กคนอื่นๆ ฉันไม่ชอบวิธีของเขา เลยขอแยกกัน มิซากิให้ข้อตกลงว่าถ้าฉันเอาชนะเขาได้เขาจะยอมให้ฉันกลับเป็นนักเรียนตามปกติ แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าก่อนที่จะมาหาฉัน พวกมิซากิไปรุมซ้อมเด็กคนนึงจนปางตาย และตำรวจกำลังตามตัวอยู่  ตอนที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ฉันก็หนีไปแล้ว แต่มิซากิ...ถูกฉันต่อยจนหนีไปไม่ไหว ถูกตำรวจจับไป หลังจากนั้นฉันเลยย้ายมาโรงเรียนนายในปีนี้ไง”

    “นายเป็นอันตพาลงั้นหรอ?”

    “สำหรับนายคำว่าอันตพาลมันคืออะไรหละ? ที่แน่ๆฉันไม่เคยมีเรื่องกับคนอื่นโดยไร้เหตุผล ฉันไม่ใช่พวกบ้าการชกต่อย แต่ที่ฉันทำก็เพื่อป้องกันตัวเองก็เท่านั้น”

    “แล้วเรื่องฟูมะนายจะเอาไง ดูยังไงก็รู้แล้วว่าเพราะหมอนั่นแค้นนายแน่ๆ”

    “ไม่ต้องห่วงหรอกหน่า ฉันไม่ปล่อยให้หมอนั่นเป็นอะไรไปหรอก”

    “แต่ก็ดี เกิดเรื่องแบบนี้ เผื่อฟูมะจะได้เลิกบ้านายบ้าง”

    “นั่นซินะ...จะได้เลิกยุ่งกันซักที...”

    “เคนโตะ ที่นายไม่ยอมคบกับฟูมะเพราะอย่างนี้รึป่าว?” ยูโกะถามออกมานิ่งๆ เพราะเท่าที่เขาดูเคนโตะเองก็หวั่นไหวไปกับคำพูดและการกระทำของฟูมะไม่น้อย ในเวลาเพียงแค่สองอาทิตย์กลับทำให้ฟูมะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และเคนโตะก็อ่อนข้อลงให้อย่างชัดเจน แม้จะยังคงกัดกันอยู่ แต่มันก็ไม่เหมือนวันแรกที่เจอกันอีกแล้ว

    “อยู่กับฉันมันอันตรายเกินไป อย่างน้อยก็จนกว่าฉันจะเคลียเรื่องมิซากิจบ...”

     

     

    “อะไรกันเนี้ย จับฉันมาอย่างกับฉันเป็นผู้หญิงของเคนจังงั้นหละ”

    “นายคงเพิ่งรู้จักเคนจังซินะ...หมอนั่นไม่ยอมให้ไปป้วนเปี้ยนแถวบ้านถ้าไม่ใช่คนที่สำคัญจริงๆ สำคัญชนิดที่ว่ามันยอมที่จะแลกชีวิตด้วยเลยหละ”

    “แล้วทำไมต้องตึกร้าง?”

    “เออหน่า ถามมากจริงๆ”

    “นี่ๆ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของเคนจังหรอกนะ หมอนั่นไม่มาสนใจฉันหรอก ฉันหรอพยายามตื้อให้ตายเคนจังไม่เห็นสนใจฉันซักนิด”

    “เว้ย เพราะว่าน่ารำคาญไงเคนโตะมันถึงไม่สนใจ เลิกกวนประสาทมันซิ”

    “แต่เคนจังขี้บ่นจะตาย น่ารำคาญกว่าฉันอีก”

    “แม่งเคนโตะมันมาชอบคนน่ารำคาญแบบนี้ได้ไงวะ” มิซากิส่ายหน้าอย่างระอา ให้ตายซิตั้งแต่มันได้สติตื่นขึ้นมาก็ถามไม่หยุด

    “แล้วนายนัดเคนจังกี่โมงหรอ?”

    “ห้าโมง”

    “นี้มันหกโมงแล้วไม่ใช่หรอ?”

    “ที่รักนายเลทตลอดนั่นแหละ แล้วข้ออ้างของมันน่าตบมากด้วย”

    “มาแล้วครับลูกพี่” เสียงของลูกน้องมิซากิดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัวของเคนโตะที่อยู่ในชุดอยู่บ้านสบายๆ

    “เลทตลอดนะเคนจัง”

    “ก็นายไม่ได้บอกว่านัดห้าโมงไทม์โซนไหน ฉันเลยนึกว่าไทม์โซนฮ่องกง เลยกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดมา”

    “นิสัยเหมือนเดิมเด๊ะ เอาตัวมันกลับไปเร็วๆเลย” มิซากิลากคอเสื้อคนที่ถูกมัดมือไขว้ไว้ ก่อนจะถีบส่งมาให้อย่างรำคาญ

    “ทนมันไม่ได้หละซิ”

    “ฉันควรถามนายว่าเปลี่ยนสเปคตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หาคนอื่นเถอะ คนนี้แม่งหนวกหูสัส”

    “บอกกี่ครั้งแล้วเรื่องพูดคำหยาบมิซากิ แล้วนี้ต้องการอะไรนัดมาเนี้ย”

    “สู้กันใหม่อีกรอบเป็นไง ไม่ต้องเอาไอ้ปากมากนั่นเป็นตัวประกันหรอก ฉันไม่อยากได้”

    “แล้วจะแลกกับอะไร?”

    “ถ้านายชนะ ฉันจะยุติเรื่องระหว่างพวกเรา แต่ถ้าฉันชนะ...นายต้องกลับมาเป็นคู่หูฉันเหมือนเดิม”

     

     

     

    “เคนจังว่าไง”

    “มิซากิหวัดดี หิวข้าวแล้ว ไปกินกันเหอะ”

    “แล้วเด็กปากมากของนายหละ?”

    “ฟูมะหนะหรอ ไปเที่ยวกับเพื่อนที่โรงเรียน” เคนโตะเดินนำมิซากิไปยังร้านอาหารที่อยากกิน ไม่ต้องรอให้อีกคนเห็นด้วยก็เดินเข้าไปนั่งและสั่งเสร็จสรรพ

    “จะดีหรอปล่อยไปแบบนี้ เดี๋ยวไปเจอคนอื่นนายต่างหากจะช้ำใจเอา”

    “กวนประสาทเสมอต้นเสมอปลาย อยากโดนต่อยอีกรึไง?”

    “ใจเย็นซิคู่หู ก็พูดความจริง แล้ววันนี้วันสุดท้ายของฉันที่ญี่ปุ่น แทนที่จะให้ฉันเลือกร้าน”

    “พรุ่งนี้ขึ้นเครื่องกี่โมง?”

    “จะไปส่งรึไง?”

    “ว่าจะ นายจะไปเมกาแล้วนะ”

    “ไม่ต้องหรอก พรุ่งนี้นายมีเรียน ไปเรียนเถอะ”

    “นายแคร์เรื่องฉันเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “แล้วนายเลิกแคร์เรื่องเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่?”

    “เพื่อนรักคนเดียวของฉัน กำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ให้ฉันเลิกแคร์เรื่องเรียนได้ยังไง” เคนโตะยิ้มให้เพื่อน เพื่อนที่ยังไงสำหรับเขาก็เป็นเพื่อนรักที่สุด แม้ว่าเขากับมิซากิจะมีเรื่องบาดหมางกัน แต่มิตรภาพของพวกเขามันยาวนานนับสิบปี แค่เรื่องชกต่อยงี่เง่ามันไม่ทำให้พวกเขาเลิกเป็นเพื่อนกันหรอก กับเรื่องที่ชกกันวันนั้นมันก็เหมือนเป็นการทักทายเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานก็เท่านั้นเอง

    “เชื่อฉัน ไม่ต้องไปส่งหรอก เดี๋ยวปิดเทอมก็กลับ แต่ฉันขอนายอย่างนึง”

    “อะไรวะ?”

    “รีบๆยอมฟูมะได้แล้ว ทำอะไรตามใจตัวเองซะบ้าง รู้หรอกหน่าว่าการเรียนให้ที่บ้านนายพอใจมันเป็นเรื่องใหญ่ มันเป็นชีวิตของนาย แต่ทำตามใจตัวเองบ้างเถอะ ทำสิ่งที่ใจนายต้องการ”

    “แล้วทำไมฉันต้องเชื่อนาย?”

    “ก็ไม่ต้องเชื่อฉันก็ได้ แต่ฉันสงสารฟูมะ มันโคตรเครซี่เรื่องนายเลยนะ รู้มั้ยว่ามันอาจหาญโทรมาหาฉันเพื่อปรึกษาเรื่องนาย ยอมๆมันไปเหอะ ฉันรำคาญวะ พูดจากใจจริง”

    “ไว้จะรับไว้พิจารณา กินข้าวเถอะ”

     

     

     

    “วันนี้ไม่ไปส่งเพื่อนนายหรอ?”

    “อ้าว ยูโกะหวัดดี มิซากิบอกไม่ต้องไป ก็เลยไม่ไป”

    “แล้วฟูมะ?”

    “ทำไมทุกคนมันต้องพูดชื่อนี้ให้ได้ยินตลอดเลยวะเนี้ย เจ้ามิซากิเองยังไม่เว้น”

    “นายก็เป็นๆแฟนมันไปซักที พวกเราจะได้เลิกยุ่ง” ยูโกะพูดจบประกอบกับฟูมะเดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี

    “อรุณสวัสดิ์เคนจัง ยูโกะ”

    “ฟูมะ! เป็นแฟนกัน” เคนโตะตบโต๊ะดังปังแก้เขิน ยูโกะได้แต่นั่งขำกับท่าทางของเพื่อนมันคงรำคาญจนทนไม่ไหวแล้วซินะ เพราะนี้คือจุดอ่อนของเคนโตะที่มิซากิบอกกับฟูมะเอาไว้

    ตื้อมันเข้าไป ตื้อมันไปเรื่อยๆ มันรำคาญจัดจนพร้อมจะฆ่านายเมื่อไหร่ มันจะยอมนายเอง

    แล้วเราจะไม่โดนเคนจังกระทืบจนตายก่อนหรอ?

    แรกๆก็โดนนั่นแหละ แต่ทนๆไป ผ่านไปซักพัก มันจะเลิก แล้วมันจะยอมเอง

    “เป็นซิที่รัก กว่าจะยอมนะ”

    “นายมันตื้อสุดตีนจนฉันรำคาญหนะซิ ไม่มีใครเคยตื้อฉันและทำให้ฉันอยากฆ่าได้ขนาดนี้มาก่อนเลย น่ารำคาญเวอร์ๆ วันๆนึงฉันต้องทนฟังชื่อนายจากคนรอบข้างฉันตลอดเวลา”

    “เหมือนที่มิซากิบอกไว้ไม่มีผิด”

    “หมอนั่นมันบอกอะไรอีก เฮ้ย!! ปล่อยฉันนะ” ฟูมะกอดเคนโตะไว้แน่น จนคนโดนกอดดิ้นแทบไม่ออก ได้แต่ก่นด่า

    “มิซากิบอกว่า เคนจังเป็นพวกขี้รำคาญ ถ้าตื้อมากๆเดี๋ยวก็ยอมเอง แล้วก็เป็นจริงๆด้วยอ่ะ”

    “เออๆ ปล่อยได้แล้ว” เคนโตะที่ถูกฟูมะปล่อยตัวก็เหยียดยิ้มสวยออกมาก่อนจะต่อยไปที่ใบหน้าฟูมะอย่างจังไม่มีการออมแรงซักนิด

    “งี่เง่า!!! ไอ้การที่ฉันเป็นแฟนนาย มันไม่ได้หมายความว่านายจะทำตัวแบบนี้กับฉันได้นะเจ้าบ้า!!!



    *******************

    อ่านแล้วมึนมั้ย? พลอยแต่งแล้วมึนเอง - -"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×