ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Best Friend then Lover?? :: AriYama//BuHik//TakaChii//OkaRyu

    ลำดับตอนที่ #2 : #1

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 55


    #1

     

    “เอ๋? ทำไมอ่ะ โหย จู่ๆก็ไปต่างจังหวัดด่วนแล้วทำไมไม่บอกผมก่อน โทรบอกแต่ยามะจังนะ ได้ลูกสะใภ้ลืมลูกชายเฉยเลยนะ”

    -ก็เรื่องเร่งด่วนจริงๆหนิลูกเลยไปไม่ได้บอก อีกอย่างที่แม่โทรหายามะจังก็เพราะว่าวันนี้เรามีสอบย่อยไม่ใช่รึไง แม่กลัวโทรเข้าไปตอนสอบ-

    “แต่แม่อ่ะ...แล้วคืนนี้จะกลับมั๊ยครับ?”

    -คงอยู่ยาวซักช่วงนึงหน่ะลูก ตอนนี้ร้านสาขาที่นี่กำลังวุ่นวายมาก พ่อกับแม่คงอยู่จัดการแปบนึงนะ-

    “แม่! แม่อยากเห็นลูกชายแม่อดตายหรอ? ก็รู้ว่าผมทำอาหารไม่เป็นซักอย่าง หรือจะให้เงินค่าขนมผมเพิ่มไปซื้อเบนโตะกิน?”

    -ยากอะไรลูกก็ฝากท้องบ้านยามะจังไง แม่ฝากฝังเราเอาไว้แล้ว ทางนู้นเขาก็ยินดีจะให้เราไปกินข้าวด้วย เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอดตายเลยนะจ๊ะ-

    “งั้นเอาใหม่ แม่อยากเห็นผมอ้วนแบบยามะจังหรอ? โอ๊ยยยยยย”

    “ใครอ้วนไอ้เตี้ย!

    ยามาดะที่กะจะเดินมาตามอีกคนให้ไปกินข้าวเย็นด้วยกันเขกลงกะโหลกคนที่หาว่าเขาอ้วนหนึ่งที แบบนี้เขาเรียกว่าอวบกำลังน่ารัก ใครบ้านไหนเขาเรียกว่าอ้วนเล่า!!

    “ใครเตี้ยวะ ส่วนสูงไม่ได้ต่างกันเลย ฮัลโหล แม่ งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันนะฮะ พ่อกับแม่ก็ดูแลสุขภาพด้วยนะ ทำงานหนักได้เงินแต่ถ้าไม่ดูแลสุขภาพมีหวังได้เอาเงินไปถวายให้โรงพยาบาลแทนที่จะได้ช็อปปิ้ง”

    -รู้แล้ว ไอ้ลูกคนนี้หนิ แม่ไม่อยู่ห้ามโดดเรียนเด็ดขาด แม่จะโทรไปเช็คกับยามะจังทุกวัน เข้าใจมั๊ย-

    “เข้าใจแล้วคร้าบ~ งั้นแค่นี้นะครับ สวัสดีครับ”

    ไดกิกดวางโทรศัพท์ก่อนจะหันมามองคนที่นั่งหน้าตูมเนื่องจากโดนเขาว่าเรื่องหุ่น จริงๆก็ไม่ถึงกับอ้วนหรอกนะ แค่อวบๆ แต่แหม มันชินที่จะพูดว่าอ้วนหนิ อยู่ๆใครจะบอกว่าแม่อยากเห็นผมอวบแบบยามะจังหรอ มันดูคิดสภาพไม่ออกเลยแหะ อวบแบบไหน อวบระยะไหน อ้วนไปเลยง่ายสุด!

    “ไม่ไปกินข้าวหรอ?”

    “ไม่กินแล้ว เดี๋ยวใครแถวนี้หาว่าอ้วน!

    ยามาดะสะบัดหน้าหนีอีกคน แก้มเริ่มป่องขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากอาการงอน ยิ่งเห็นภาพนั้นไดกิยิ่งนึกขำ

    “นั่งพองลมเป็นอึ่งอ่างไปได้ นายไม่กินงั้นไปกินก่อนแล้วกัน”

    “ไดจังใจร้าย มาว่าคนอื่นอ้วน มาว่าคนอื่นเตี้ย แถมยังว่าว่าเป็นอึ่งอ่าง จะง้อซักคำก็ไม่มีนะ”

    ยามาดะลุกขึ้นยืนเตรียมเดินไปกินข้าว แต่ไม่วายหันมาค้อนไดกิเสียแทบคว่ำ

    ก็เพราะน่ารักอย่างนี้แหละนะ ถึงได้รัก

    แก้มป่องๆแบบนั้น อยากจะฟัดให้แก้มช้ำไปเลย!

     

     

    “ยามะจัง ทำไมกินน้อยจังหละลูก?” คุณแม่เอ่ยถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างงงๆ ปกตินี้เห็นกินสองถ้วยขึ้นด้วยซ้ำ แต่วันนี้ข้าวหมดแค่ถ้วยเดียวก็วางตะเกียบซะแล้ว

    “เดี๋ยวใครบางคนแถวนี้หาว่าผมอ้วน ผมจะไดเอท...”

    “ทำให้ได้เหอะ พูดงี้มากี่ปีแล้ว? ก็เห็นยังกลมอยู่ดี”

    “ไดจังอ่ะ เชอะ! นอกจากไม่ง้อแล้วยังซ้ำเติมอีกนะ พรุ่งนี้ทำเบนโตะไปกินเองแล้วกัน”

    พูดจบยามาดะก็ลุกออกจากโต๊ะเดินขึ้นห้องนอนไปอย่างงอนๆ ไดกิมองตามอย่างขำๆ ไหนว่าจะไดเอท ไหงก่อนออกจากห้องครัวหยิบขนมปังขึ้นไปสองชิ้น แล้วนั้นไดเอทยังไงวะ?

    ไดกินั่งกินข้าวแล้วคุยกับพ่อแม่ของคนขี้งอนแทน พอกินเสร็จก็ทำหน้าที่ลูกเขย(?)ที่ดี อาสาเก็บโต๊ะล้างจานให้เสร็จสรรพตอบแทนอาหารเย็นมื้ออร่อย ถึงเขาจะไม่มีสกิลการทำอาหารการเข้าครัวเลยซักนิด แต่สกิลการทำงานบ้านของเขานั้นเกินร้อย ก็โดนแม่ใช้ให้ทำอยู่ทุกวัน ถ้าไม่เก่งก็แปลกแล้วหละ

    “คุณแม่ครับ ผมขอค้างที่นี่ได้มั๊ยฮะ? อยู่บ้านคนเดียวแล้วเปลืองไฟ”

    “ได้ซิลูก แม่ก็ว่าจะชวนอยู่เหมือนกัน อยู่บ้านคนเดียวมันอันตราย งั้นไดจังไปอาบน้ำ แล้วล็อคบ้านดีๆก่อนออกมานะครับ”

    “แล้วอย่าเพิ่งบอกลูกชายแม่นะฮะว่าวันนี้ผมจะมาแย่งเตียงนอน”

     

     

    “ว่าไงหรอไดจัง?”

    -ทำอะไรอยู่หรอ-

    “ยาบุบอกให้โทรมาใช่มั๊ย?”

    -แปบๆนะ ทาคาคิโทรมา-

    “เออๆ” ฮิคารุหันไปมองอีกคนที่รีบทำความสะอาดห้อง ก่อนจะเอาหัวไหล่หนีบโทรศัพท์เอาไว้แล้วเดินกลับเข้าครัวไปทำอาหารเย็นต่อ

    -ฮัลโหลๆ ฮิคอยู่ป่าววะ? ยูยังก็อยู่ในสายนะ-

    “มีอะไรเนี้ย ทำกับข้าวอยู่เนี้ย เรื่องด่วนป่ะวะเดี๋ยวค่อยโทรกลับได้ม่ะ?”

    -ด่วนเว้ยด่วน!!! กูจะจีบน้องจิเน็นยังไงดี?-

    -เนี้ยนะที่มึงบอกว่าด่วนจนต้องรวมสายเนี้ย- เสียงไดกิบ่นกระปอดกระแปดมาตามโทรศัพท์

    “ไหนๆยาบุก็ขอให้มึงโทรมาขัดขวางการทำอาหารของกูไม่ใช่หรอ? คุยไปก็ได้”

    -แล้วๆแกไม่ทำหรอ?-

    “กูเก่ง ทำไปคุยไปได้”

    -งั้นก็โอเค กูตื้อน้องเขาก็แล้ว น้องเขาก็ไม่สนใจกูเลยวะ ใครบอกวะว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก-

    “ถ้ามึงตื้อน้องเขาแล้วน้องเขาไม่สนใจมึง มึงก็เลิกตื้อดิวะ โง่สัส” ฮิคารุด่าเพื่อนสนิทในกลุ่มไปเต็มๆ

    -เออๆ ทำตามที่ไอ้ฮิคบอกแล้วกัน ไปก่อนนะเว้ย ไปง้อยามะจังก่อน-

    “เออ บาย ฝันดีทั้งคู่”

    ฮิคารุรีบชิงกดตัดโทรศัพท์ก่อนที่จะได้ยิ่งเสียงทาคาคิโวยวายออกมา ถอนหายใจออกมานิดๆวางโทรศัพท์ลงบนเคาน์เตอร์ เดินไปตักอาหารใส่จาน

    “เสร็จแล้วคร้าบ~

    “นายขี้โกง ให้ไดจังโทรมาถ่วงเวลา”

    “เปล่านะ ไม่มี๊! ใครบอกไดจัง ฮิคารุจังขี้ตู่”

    “ขี้ตู่หรอ? นี่แหน่ะๆ” ฮิคารุบีบจมูกยาบุไว้แน่นแล้วบิดไปมาทำเหมือนอีกคนเป็นเด็กน้อย

    “อ่อยอ้ะ~~~~

    “จะให้กินดีมั๊ยเนี้ย? ให้อาหารบลิสยัง?”

    “กินอยู่ครับ ฝังตัวเองอยู่ในถาดอาหารหน่ะแหละ แล้วสามีจะกินข้าวได้ยังครับ?”

    “เมื่อไหร่จะเลิกเล่นไอ้สามีภรรยาเนี้ยหึ? เล่นจนเผลอไปเรียกที่โรงเรียนแล้วนะไอ้บ้าหนิ”

    ฮิคารุอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ เพราะบางทีพวกเขาก็เผลอเรียกอีกคนเหมือนเวลาอยู่บ้านที่โรงเรียน คำนั้นมันก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็แค่ สามี ภรรยา ผัว เมีย ที่รัก เอ่อ จนเพื่อนๆเริ่มจะเชื่อและคิดจริงจังและว่าพวกเขาคบกันอยู่ แต่ความเป็นจริงนั้น พวกกูสร้างกระแสเล่นเว้ยยยยยยย ไม่ได้ให้คิดจริงจัง รึเปล่านะ

    “เดี๋ยวอนาคตก็เป็นจริงแล้ว เรียกไปก็ไม่เสียหายหนิ”

    “ต่อยเหลี่ยมยุบเลย มั่วเอาเองอ่ะดิ”

    “เปล่านะ เดี๋ยวนายก็รู้”

    “กินข้าวดีกว่า คุยกับเหลี่ยมแล้วไม่รู้เรื่อง”

     

     

     

    “นี่จัง เคย์โตะซังมาหาแต่เช้าเลย แต่ว่ามากับ...” ไม่ทันที่เสียงชินทาโร่จะพูดจบ เสียงแสบแก้วหูของยูริก็ดังลั่นบ้าน

    “มาทำบ้าอะไรที่บ้านเราเนี้ย!!!!!!!

    “ก็พี่อยู่บ้านเบื่อๆ พอเจ้าน้องชายชวนมาก็เลยมา”

    “ตอแหล ผมรู้ว่าเคย์โตะไม่มีทางชวนมาแน่ๆ”

    “เราชวนพี่เขามาเองแหละยูริ จะให้พี่เขาขับรถให้ ขอโทษนะ”

    ยูริหน้าเสียเมื่อได้ยินเพื่อนตัวเองพูดอย่างนั้น บอกเพื่อนว่าไม่เป็นไรแล้วเดินขึ้นชั้นสองของบ้านปิดประตูดังปัง จนคนในบ้านแอบสะดุ้งไปตามๆกัน

    “พี่กลับดีกว่า โทษทีนะเคย์โตะ จะกลับเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน เดี๋ยวพี่ออกมารับได้ไม่ต้องกลับเอง”

    “ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมกลับเองดีกว่า เกรงใจพี่ด้วย เย็นนี้พี่ต้องขับรถให้พ่อพี่ไปต่างจังหวัดอีกไม่ใช่หรอ?”

    “ไม่เป็นไรๆ โทรมาแล้วกัน พี่ไปกับพ่อเย็นๆนู้นแหละ หรือว่าเราจะอยู่ถึงเย็นขนาดนั้นเลย?”

    “อ่าคือว่า...”

    “วันนี้ไม่ต้องพาเราไปกินข้าวเย็นก็ได้ เกรงใจรุ่นพี่แย่เลย” ริวทาโร่เดินเข้ามาบอกคนรัก พร้อมกับสวัสดีรุ่นพี่ที่โรงเรียน

    “แต่เม่นอยากกินกับแฮมอ่ะ”

    สีหน้าที่หงอยลงของเคย์โตะ เปลี่ยนใจของทาคาคิ บอกให้อีกคนพาแฟนไปกินข้าวให้เรียบร้อยแล้วกลับบ้านมาเฝ้าบ้านก่อนสามทุ่ม เพราะพ่อของเคย์โตะต้องทำงานที่อังกฤษ ที่บ้านของเขาเลยอาสาจะรับดูแลเคย์โตะให้ระหว่างที่อยู่ในญี่ปุ่น

    “ริวจัง พี่ออกไปข้างนอกนะ ฝากบอกคุณน้าด้วยนะ”

    “แล้วพี่จะกินข้าวเย็นมั๊ยครับ?”

    “คงดูก่อนอ่ะ ไปนะชินจัง อยู่บ้านอย่าดื้ออย่าซนอย่าไปแกล้งเคย์โตะนะครับ แต่กับคนอื่นไม่ต้องทำดีด้วยหรอก” ยูริบอกกับน้องชายคนเล็ก ปรายตามองไปทางทาคาคิ

    “แล้วพี่ยูริจะไปไหนหรอครับ? ผมไปด้วยซิ นะ”

    “พี่ไปซื้อหนังสือครับ เราจะไปหรอ? เดี๋ยวก็โดนพี่ใช้ให้แบกหรอก” ยังไม่ทันที่ชินทาโร่จะตอบ เคย์โตะก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นมาก่อน

    “ร้านหนังสือที่ชี่ไปประจำอยู่แถวบ้านเราหนิ งั้นไปพร้อมกับยูยังซิ ไหนๆยูยังก็กำลังจะกลับบ้านอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปเอง”

    “นั่นซิฮะพี่ ไปกับพี่ยูยะเถอะ แดดแรงขนาดนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี”

    ยูริยืนลังเลซักพัก แล้วตัดสินใจพยักหน้าลงยอมทำตามที่ทั้งสองคนบอก ไม่ใช่ว่าเขาพิศวาสนายทาคาคิหรอกนะ แต่เพราะหนึ่งเขาขี้เกียจไปเองเหมือนกัน สองแดดแรงขนาดนี้ขืนออกไปต่อให้เป็นจิเน็น ยูริก็ดำแน่ๆ และสามถ้าเขาตอบว่าไม่ไปด้วยริวจังก็จะงอนเขาหน่ะซิ

    “งั้นไปกันเลยเถอะ พี่จะกลับไปนอน”

    “เหอะ ขี้เกียจจริงๆ นอนกลางวันด้วย”

    “พี่ต้องขับรถให้พ่อตอนกลางคืนต่างหาก ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องไปกับพี่ก็ได้นะ พี่ก็ไม่ได้อยากต้องมาระวังอะไรมากมาย”

    ผิดคาด ทั้งๆที่ปกติทาคาคิจะต้องคะยั้นคะยอให้ไปส่งไปรับ แต่งวดนี้กลับไม่ขอไปส่งเขา แถมยังไม่สนใจเขาด้วย รุ่นพี่ไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าเนี้ย!

    “ถ้าจะไปก็ตามมาแล้วกัน”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×