คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : #Chapter 18
“กลับมาแล้ว”
“กลับมาแล้วหรอยามะจัง?” ยูโตะเดินมารับอีกคนโดยยังใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่
“นี้ นายทำอาหารหรอ?” ยามาดะชี้ไปที่ผ้ากันเปื้อนสีชมพูแหววของตัวเองก่อนจะหัวเราะออกมา
“อะไรอ่า หัวเราะทำไม ใช่ซิเราไม่ได้น่ารักเหมือนนายนี่นา” ยูโตะทำหน้างอน แล้วแกล้งปล้ำกอดหอมแก้มอีกคน
“อ๊าย เหม็นนะ เหม็นกลิ่นกับข้าว ออกไปเลย เดี๋ยวเราไปซักผ้าก่อน”
“ครับผม เดี๋ยวทำเสร็จแล้วเรียกมากินนะ”
“อื้อ ไปทำต่อเหอะ แล้วชุดนายเอาไว้ไหน?”
“ตะกร้าผ้าเปื้อนหน่ะ เออ ซักสูทให้ด้วยนะ มีเด็กวิ่งชนแล้วไอติมเลอะ” ยูโตะพูดพลางยิ้มแหยๆให้อีกฝ่าย จะโดนด่ามั๊ยวะ
“ไอ้บ้า ก็รู้ว่าสูทมันซักยาก มันแห้งยาก มันรีดยาก ทำไมนายต้องทำเลอะ หืม? แล้วยังมีหน้ามาให้เราซักอีก ทำไมไม่ทำเองเล่า ไม่ก็ไปจ้างเขาซักก็จบ รวยซะเปล่า เสือกงก ไม่ยอมจ้างคนรับใช้...”
“พอๆ ยามะจัง พอเลยๆ ถ้าไม่ซักให้ก็ไปทำกับข้าวไป เดี๋ยวเราซักเองก็ได้”
“ขอโทษๆ โอเคๆ เราไปซักก็ได้ นายทำกับข้าวไปเหอะ” ยามาดะรีบออกตัวไปซักผ้า ก่อนที่คนรักของตนจะหงุดหงิดเพิ่ม แล้วจะรั้งให้ทะเลาะกันเปล่าๆ
ยามาดะไปหยิบตะกร้าใส่ผ้าเปื้อน แล้วเดินถือไปยังเครื่องซักผ้าที่ตั้งอยู่ตรงระเบียง จัดการเช็คของในกระเป๋าช่องต่างๆ ก่อนจะจัดยัดลงเครื่อง ไม่ต้องแยกผ้าให้เสียเวลา จับยัดมันรวมกันให้หมดเนี้ยแหละ ถ้าสีตก เดี๋ยวหมอนั่นมันก็ซื้อใหม่เอง ว่าแต่ว่า...
รวยก็รวย จ้างคนมาทำความสะอาด ทำกับข้าวให้ สบายๆไม่ชอบ ชอบลงมือทำเอง นี้มันคนรวยประเภทไหนวะ?
“กระดาษอะไรของมัน จะซักแล้วไม่ยอมของออก จริงๆเล๊ยยูโต...โอะ...”
ไอ้เลวยูโตะ แอบกิ๊กกับผู้หญิงอื่นหรอวะ!!!!!!!!
“ยูโตะ!!!!! นาคาจิม่า ยูโตะ!!!!!!!!!!” เสียงแผดลั่นไปทั่วห้อง เรียกเอาคนที่ทำกับข้าวอยู่ในครัววิ่งออกมาแทบไม่ทัน เพราะนึกว่าอีกคนเป็นอะไรไป แต่พอมาถึงก็เจอกับอีกคนยืนหน้าบึ้งอยู่
งานเข้าแล้วไง ไปทำเรื่องอะไรไว้อีกวะเรา?
“นายไปกิ๊กกับคนอื่นหรอ?”
“ห๊า? กิ๊กไร? แค่นายคนเดียวก็ไม่มีเวลาไปให้คนอื่นแล้ว”
“หมายความว่าถ้ามีเวลาว่างจะไปหาคนอื่นงั้นซิ?” ยามาดะถามออกมาเสียงเย็น แม้ว่าเขาจะเข้าใจถึงความมาไวไปไวของความรักเด็กวัยรุ่น แต่เขารับไม่ได้ หากแฟนเขามันทำอะไรลับหลัง สวมเขาให้เขาแบบนี้
“ไม่ใช่นะยามาดะ ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้นซะหน่อย นายเอาเรื่องอะไรมาชวนทะเลาะอีกเนี้ย” ยูโตะเกาหัวอย่างงงๆ
“ก็นี้ไง กระดาษใบนี้ไง แหม จากยูมิจัง ติดใจกันถึงขนาดต้องให้อีกฝ่ายจดเบอร์เก็บไว้ในกระเป๋าสูทเลยหรอ?”
“ยูมิจังไหนวะ?”
“ฉันซิต้องถามนายว่ายูมิไหน ฉันจะไปตรัสรู้กับนายมั๊ยยูโตะ? ก็เบอร์มันอยู่ในกระเป๋าเสื้อนายนี่ เหอะ” ยามาดะเขวี้ยงกระดาษที่จดเบอร์ใส่หน้ายูโตะ “จะไปรักกับใครคนอื่น ฉันไม่ว่า ฉันเข้าใจว่าความรักของวัยรุ่นมันมาไวไปไว แปบๆก็เลิกรักเลิกเห่อ แต่ฉันไม่ชอบให้มาทำข้ามหน้าข้ามตา”
“เดี๋ยวซิยามาดะ เดี๋ยวซิเว้ย” ยูโตะรีบคว้าแขนคนที่กำลังเดินหนีเอาไว้แน่น เพราะตอนนี้เขาเริ่มจะนึกออกแล้วว่าไอ้ยูมิจังเนี้ยมันยูมิจังคนไหน
“โอเค ให้โอกาสอธิบาย เพราะงั้นอธิบายมาให้เคลีย”
“ยูมิจังอ่ะ ก็คนที่อยู่ห้องบีไง เขายัดเบอร์ใส่กระเป๋าเราไว้ เราไม่ได้ขอเขาซะหน่อย”
“แล้วนายจะเก็บไว้ทำไม? หรือว่าเกิดอยากโทรหา?”
“อย่าพาลซิยามะจัง เรารักนายคนเดียวแน่นอน ไม่คิดจะโทรหาผู้หญิงด้วย ก็เราชอบผู้ชาย จะโทรไปจีบผู้หญิงทำไมวะ?”
“อ๋อ งั้นถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น สวยๆ น่ารักๆ อ่อนหวาน นิสัยดี ไม่งี่เง่า ไม่ขี้วีน แบบเรา นายก็จะโทรไปจีบเขาใข่มั๊ยฮะ?” ยามาดะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อตอนนี้ยูโตะเล่นกำไว้แน่นเต็มแรง
“ยามะจัง ทำไมนายไม่เข้าใจเราอ่ะ ที่เรารักผู้ชายก็ต้องเป็นนายคนเดียว นายจะยัดเยียดข้อหาว่าเราไปจีบคนนั้นคนนี้ทำไม? เราอยู่กับนายแทบจะตลอดเวลา เราตามจีบนายมาตั้งนานแค่ไหน ทุกคนในโรงเรียนก็รู้กันหมด พ่อแม่เราก็รู้ น้องชายเราก็รู้ ทำไมนายถึงไม่คิดถึงความรู้สึกเราบ้าง เวลาโดนดูถูกความรักที่มีให้คนที่เรารัก คนที่เป็นแฟนของเราแบบนี้ มันเจ็บนะ ใช่ซิ นายอาจเห็นแค่ความรักครั้งนี้เป็นความรักแบบเด็กๆ ประเดี๋ยวประด๋าว พอเลิกเห่อหมดโปรโมชั่นคู่รัก ความรักมันก็จะหายไป แต่เราไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย นายเห็นเราเป็นคนแบบนั้นรึไง? เห็นเราเป็นคนไม่จริงจังไม่จริงใจขนาดนั้นเลยหรอ? เราแค่อยากรักนายให้มากที่สุด เราแค่อยากดูแลนาย เราแค่อยากให้นายเป็นของเราคนเดียว และเราเป็นของนาย นายช่วยเข้าใจความรู้สึกบ้างได้มั๊ย เอะอะก็เอาแต่หนี จะเลิกๆ เลิกไปจริงๆ นายไม่สงสารเราบ้างหรอ? ถึงนายไม่ได้รักเรา แต่นายไม่สงสารคนๆนึงที่รักนายหมดหัวใจบ้างหรอ? จิตใจนายทำด้วยอะไรกันแน่ยามาดะ ถ้านายไม่รักเรา แล้วนายมาเป็นแฟนเรา มาให้ความหวังเราแบบนี้เพราะอะไร? ถ้าจะบอกว่าเพราะเงินของเรา พวกเราก็ไม่ต้องเป็นคนรักกันก็ได้ ฉันยินดีให้นายเอาไปใช้จ่ายเล่นอยู่แล้ว”
“เดี๋ยวซิยูโตะ...ไม่ใช่แบบนั้นเลยนะ” ยามาดะดูจะอึ้งไม่น้อยเมื่ออีกฝ่ายพูดความในใจออกมาจนหมด เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าการกระทำของเขา ทำให้อีกคนต้องคิดมากถึงขนาดนี้ เขาก็แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ แล้วใครบอกว่าเขาไม่รักยูโตะ เพราะเขารักมาก เขาถึงได้หงุดหงิด
“ไม่ใช่แบบนั้นแล้วอะไรยามะ นายคบกับฉันเพื่ออะไร? เพื่อแค่ให้ฉันดีใจเล่น? ถ้าแค่นั้น นายไม่ต้องคบกันหรอก พอคบแล้วเป็นแบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าอะไรซะอีก"
“ไม่ใช่นะยูโตะ ฉันรักนายซิ ฉันจะคบกันคนที่ไม่ได้รักทำไม? ฉันขอโทษที่ทำให้นายคิดมาก ฉันก็แค่หึงนายเท่านั้นเอง เพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิง เพราะฉันไม่ใช่คนที่สวย น่ารัก เพราฉันเป็นคนที่งี่เง่า ขี้วีน ขี้บ่น อารมณ์ร้อน เพราะงั้นฉันเลยกลัว กลัวว่านายจะเลิกกับฉันแล้วไปมีคนอื่น ยิ่งมีผู้หญิงให้เบอร์โทรนายมา ฉันยิ่งตกใจ กลัวว่าซักวันฉันต้องยอมรับความจริง ความจริงที่ว่า ความรักของพวกเรามันจืดจางลงไปตามความใกล้ชิดสนิทสนม จืดจางไปตามกาลเวลา”
“ไม่จริงหรอกยามะจัง ฉันไม่เคยรักยามะจังน้อยลงซักนิด ไม่ว่ายามะจังจะเป็นคนยังไงฉันก็รักนายที่นายเป็นแบบนี้”
“ยูโตะ...ขอบคุณนะ” ยามาดะโผกอดอีกคน แล้วน้ำตาที่กลั้นมานานก็ไหลออกมาจนเปียกเสื้ออีกคน
“ไม่ร้องซิยามะจัง อย่างนี้เราก็เข้าใจกันแล้วนะ”
“อื้อ เข้าใจกันแล้วยูโตะ ขอโทษกับความคิดงี่เง่าของเรา”
“ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ได้โกรธอะไร งั้นวันนี้ผมพาคนสวยไปดินเนอร์นอกบ้านดีกว่า หมดอารมณ์ทำอาหารแล้ว”
“แล้วผ้าหละ? ใครจะซัก”
“เดี๋ยวให้คนที่บ้านมาจัดการให้ ได้ให้เขาเอาสูทอีกตัวมาให้ด้วย เพราะยังไงก็แห้งไม่ทันแน่ๆ” ยูโตะก้มลงจูบบนผมของคนตัวเตี้ยกว่า แล้วส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยนจนยามาดะถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย
“รักนายนะยูโตะ แล้วเรื่องยูมิจังฉันไม่ปล่อยไว้แน่ ยังไงฉันก็จะทำให้เขารู้ว่านายมีเจ้าของแล้ว”
“นายจะบอกคนอื่นว่าเราเป็นแฟนกัน?”
“ก็มันคงถึงเวลาแล้วหละ” พูดจบก็เขย่งตัวขึ้นจูบปลายคางอีกคนอย่างออดอ้อน ยูโตะก็ได้แต่ยิ้มหวานรับ แต่ในใจก็แอบหวังว่าเรื่องมันคงไม่นองเลือดหรอกเนอะ
“ฮิคารุ...”
“ครับคุณโคตะ?” ใบหน้าที่ซีดเซียวหันมาหาอีกคน
“วันนี้ไปที่ร้านกัน พ่อเริ่มบ่นไม่ยอมเข้าไปทำงาน” ยาบุบอกอีกคนเสียงเรียบๆ ตั้งแต่เหตุกาณ์ในห้องพยาบาลจบลง เขาก็ไม่เห็นหน้าฮิคารุอีกเลยจนกลับมาถึงคอนโด
“เอ่อ...คุณไปคนเดียวได้มั๊ย ผมอยากพักผ่อน”
“สำออยอะไรอีก?” ยาบุกระชากดึงตัวอีกคนเข้ามาหา ก่อนจะรับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวอีกคน ความร้อนที่เขาสัมผัสตอนที่อยู่บนเตียงห้องพยาบาล แต่ตอนนั้นเขากลับนึกว่าอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเพราะอารมณ์และความต้องการ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แน่ๆ
“ผมพูดไปคุณก็ไม่ฟังผมอยู่แล้ว งั้นขอผมไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วกัน ไม่อยากใส่ชุดนักเรียนไป” ฮิคารุพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดอีกฝ่าย แต่มันก็ไม่เป็นผล ตอนนี้ตัวเขาแทบจะไม่มีแรงยืนอยู่แล้ว
“ไม่สบายก็บอกไม่สบาย มายืนทรมานทำไม?” เจ้าตัวถามอีกคนเสียงออ่อน
“บอกไป คุณก็หาว่าผมสำออย ปล่อยเถอะครับ ผมไปเปลี่ยนชุด จะได้ไปทำงาน อ๊ะ” จู่ๆเข่าก็อ่อนลง จนเผลอไปซบหน้าลงกับคออีกฝ่าย พอรู้ตัวก็จะยืนขึ้นมาเหมือนเดิม แต่อีกฝ่ายกลับกอดเขาแน่นขึ้น
“ตัวร้อนขนาดนี้ยังฝืน? ไปโรงพยาบาลดีกว่าป่ะ”
“แต่ว่างานของคุณ?”
“ฉันให้ความสำคัญกับแฟนมากกว่างานเข้าใจมั๊ย ไปโรงพยาบาลกัน เดินไหวมั๊ย?” พอเห็นอีกคนพยักหน้า ยาบุก็คลายอ้อมกอดออกแล้วให้ฮิคารุเดินด้วยตัวเอง แล้วก็ต้องจิ๊ปากอย่างขัดใจ เมื่อฮิคารุเดินเซไปเซมา
“อ๊ะ คุณโคตะ ไม่ต้องฮะ ผมเดินเองได้”
“ขืนปล่อยให้นายเดินไปเอง พรุ่งนี้เช้าก็คงไม่ถึงโรงพยาบาล อีกอย่างฉันแค่พยุงนาย ไม่ได้อุ้ม” พูดจบยาบุก็ค่อยๆพยุงตัวฮิคารุออกจากห้อง ไม่ลืมคว้ากุญแจห้องและกุญแจรถไปด้วย
“คุณจะขับ?”
“เออซิ นั่งแท็กซี่ไปนายคงได้ไปแพร่เชื้อไข้ไว้ในรถอีก เอารถเราไปเนี้ยแหละ ตำรวจไม่จับหรอกนะ เราเป็นใครนายก็รู้ดี”
ฮิคารุได้แต่เหลือบมองหน้าอีกคนที่กำลังพยุงเขา ถ้าไม่รักกัน ทำไมต้องมาทำดีกับเขานะ ปล่อยๆเขาไปก็หมดเรื่อง ทำไมต้องทำให้เขามีความหวังขึ้นมาด้วย
“มองหน้างี้ มีปัญหาอะไร?” ฮิคารุสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายทัก เผลอจ้องหน้าเขาไปซะได้
“เปล่าหรอกครับ” ฮิคารุก้มหน้าลงแล้วค่อยๆเดินต่อ
สัมผัสที่ร้อนผ่าว ทำเอายาบุรู้สึกผิด
ไม่น่าหละ วันนี้อีกฝ่ายถึงเหม่อ ถึงไม่ได้ยินที่เขาพูด ทั้งๆที่ปกติแค่กระซิบเรียกเบาๆก็ได้ยินแล้ว
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมวันนี้อิโนโอะถึงดูเป็นห่วงฮิคารุมาก
ไม่ใช่เพราะว่ายังรักฮิคารุอยู่ แต่เป็นห่วงฮิคารุในฐานะเพื่อน เป็นห่วงเพื่อนที่ไม่สบาย
แถมด้วยเยาะเย้ยแฟนของเพื่อนที่ไม่รู้ว่าแฟนตัวเองไม่สบายหนัก
ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่สบายขนาดนี้ ยังยอมเขา ยังยอมให้เขากระทำชำเรา
อีกฝ่ายไม่ยอมบอกเขาว่าไม่สบาย เพราะรู้ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางฟัง แถมคงจะด่ากลับว่าสำออยอย่างที่ทำเป็นประจำ
“ขอโทษนะฮิคารุ...” เสียงขอโทษที่แผ่วเบาทำเอาคนข้างๆหันมามองอย่างแปลกใจ เมื่อกี้โคตะพูดว่าขอโทษ...?
“คุณติดไข้ผมรึเปล่าเนี้ย?” ฮิคารุถามแอบติดตลก แต่ก็ต้องหน้าเจื่อนเมื่ออีกฝ่ายทำหน้าซีเรียส “ขอโทษฮะ”
“ไม่ใช่นายที่ต้องขอโทษ แต่ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้นายเจ็บ ขอโทษจริงๆฮิคารุ ทั้งๆที่นายเป็นแฟนฉัน นายเป็นคนที่อยู่ข้างกายฉัน แต่ฉันกลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ” แต่ฮิคารุกลับส่ายหน้าบอกอีกฝ่ายว่าไม่ใช่ความผิดของเขา
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณโคตะ ผมเต็มใจทำทุกอย่างที่คุณบอก ผมเต็มใจที่เป็นที่รองรับอารมณ์ของคุณ แม้ผมจะเป็นแฟนคุณทั้งๆที่คุณไม่ได้รักผมก็ตาม ผมไม่ได้คาดหวังจะให้คุณมาเป็นห่วงผมหรอกนะ แค่ผมเป็นห่วงคุณคนเดียวก็พอแล้ว ก็ผมรักคุณเต็มๆเลยนี่นา” ฮิคารุส่งยิ้มหวานหยดปิดท้ายคำพูดของตัวเอง แต่กลายเป็นคำพูดที่จี้ใจดำยาบุ มันเหมือนกันว่าเขาใช้ความรู้สึกรักและเป็นห่วงที่อีกฝ่ายมีให้เขา รั้งตัวคนๆนี้เอาไว้ข้างกาย
นายทำให้ฉันรู้สึกเป็นคนเลวขึ้นมาเลยฮิคารุ ทั้งๆที่ฉันทำร้ายนายตั้งขนาดนี้ แต่นายกลับไม่โกรธไม่เกลียดฉัน
ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บอย่างนี้นะ
ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บเมื่อฉันรู้ตัวว่าทำไม่ดีกับนาย
นายเป็นใครกันแน่ฮิคารุ?
นายเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันเจ็บได้ขนาดนี้...
แต่ฉันก็ยังอยากที่จะครอบครองนาย ไม่อยากจะเสียนายไปให้ใครคนอื่น
หรือว่าฉันรักนายกันนะฮิคารุ...
*******
หายไปนานอ่ะ ขอโทษ T____T พอดีมีเรื่องเยอะแยะมากมายก่ายกองที่ต้องคิด ทั้งเรื่องที่บ้านเรื่องอนาคต ขอโทษจริงๆนะ~~
ว่าแต่บทนี้บุฮิค แม่ง ดราม่าวะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ในที่สุดอิบุก็รู้ตัวซักทีว่ารักฮิค >< ว่าแต่ยาบุจะบอกเมื่อไหร่ อันนี้ยังไม่ได้คิด
ตอนต่อไป จินองเลือด เหอะๆ ในเมื่อยามะจังลงมือเอง เราก็ต้องนองเลือดจริงม่ะ อิอิ ยามะจังไม่ใช่นายเอกบอบบางไร้ทางสู้ ><
ขอบคุณคนที่ยังเข้ามาอ่าน เข้ามาเม้นท์ พลอยรู้ดีว่าหายตัวไปนานจริง ต้องขอโทษจากใจจริงอย่างสุดซึ้ง :'(
จะพยายามๆๆๆๆๆๆ แต่งให้บ่อยขึ้นนะคะ ^^ อย่าทิ้งฟิคเราน้ะ~
ความคิดเห็น