คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : #Chapter 17
ก่อนอ่านกดคอนโทรลเอ
“ยาบุซัง วันนี้ผมขอไปค้างกับไดจังนะฮะ” ฮิคารุเดินมาขออนุญาติร่างสูงในช่วงพักกลางวัน
“ทำไมนายจะได้แฉความชั่วความเลวของฉันให้ไดกิฟังรึไง?” เสียงราบเรียบที่เอ่ยออกพร้อมกันมือแกร่งที่คว้าหมับเข้าที่ใบหน้าแล้วบิดไปมา
“เปล่านะครับ แค่ไดจังชวนผมไปค้างเฉยๆ” ฮิคารุพูดเสียงอู้อี้ น้ำตาพาลจะไหล เจ็บหน้าก็ยังเจ็บ หัวก็ปวด แค่ปล่อยเขาไปค้างกับไดกิมันยากนักรึไง?
“ฉันไม่ให้ไป”
“แต่ว่า...”
“หรืออยากโดนอีกฮิคารุ?” เสียงกระซิบที่ริมหูทำเอาความคิดจะต่อต้านของฮิคารุหยุดลง
“ขอโทษครับยาบุซัง” ฮิคารุพูดออกมาเสียงแผ่ว
“เห็นหน้านายหงอยๆแบบนี้ ชักอยากแล้วซิ” อีกฝ่ายขบเม้มที่ใบหูจนฮิคารุหลุดเสียงครางออกมาเล็กๆ “แล้วอย่างนี้จะไปค้างกับไดจังจริงหรอ?”
“ไม่ไปแล้วไงครับ” ฮิคารุฝืนยิ้มให้อีกคน มีซักวันมั๊ยนะที่เขาจะใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
“ดีแล้ว อย่าไปเลย” ยาบุพูดก่อนจะจูบแก้มอีกคน
“นี้ยาบุจัง แกล้งอะไรฮิคารุของฉันอีก ห๊ะ?”
“ของนาย? พูดใหม่ซิไดจัง เดี๋ยวไม่คุยกับพ่อให้เลย”
“ยาบุ!!!” ไดกิรีบพูดดักคออีกคน เขากลัวว่าคนที่เดินตามเข้ามาจะได้ยินเอาซะก่อน
“ล้อเล่นหน่ะ เรื่องนั้นเราคุยให้แล้ว ไม่ต้องห่วง พ่ออนุญาติ แค่บอกว่ามีปัญหาอะไรก็ให้บอก”
“ขอบคุณนะ ถ้าคุณท่านกลับมาเมื่อไหร่นายบอกฉันด้วยนะ จะไปขอบคุณซะหน่อย”
“เข้าใจแล้ว”
“ขอบคุณพ่อยาบุทำไมหรอไดจัง?” เคย์ที่เดินเข้ามาทีหลังเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไรหรอกเคย์ แล้วนี้สรุปฮิคารุมาค้างกับเราได้มั๊ยอ่ะ?” ไดกิเรื่องเปลี่ยนเรื่องไปถามฮิคารุแทน ขืนเคย์รู้ว่าเขาจะหนีออกไปอยู่คนเดียว มีหวังโดนฆ่าตายแน่ๆ ก็นะจะเอาอะไรกับความรักเด็กม.ปลาย เขาก็ต้องเตรียมไว้ให้พร้อมหากวันไหนเคย์ทิ้งเขาไปขึ้นมา
“คงไม่ได้นะไดจัง เราไม่อนุญาติ”
“ฉันถามฮิค ไม่ได้ถามนายยาบุ เดี๋ยวหาตะไบมาเหลาเหลี่ยมเลยหนิ!!”
“เดี๋ยวปั๊ดตบให้เตี้ยลงกว่าเดิมเลยหนิ” ยาบุทำท่าจะตบจริงๆ จนไดกิต้องรีบวิ่งไปหลบหลังฮิคารุ
“ไดจัง เราคงไม่ไปนะ ไว้คราวหลังแล้วกัน” ฮิคารุพูดตัดบท ขืนปล่อยให้สองคนนี้ต่อปากต่อคำกันไปเรื่อยๆ วันนี้คงหาข้อสรุปไม่ได้
“แต่ว่าฮิค...”
“ไดจัง!!! ผมจะไปบ้านชี่จัง ไดจังจะไปมั๊ย?” ยังไม่ทันที่ไดกิจะยื้อให้ฮิคารุไปด้วย เสียงยามาดะก็แผดดังเข้ามาในห้องเรียน เมื่อหันไปดูก็เห็ยเจ้าตัวสะพายกระเป๋าเตรียมพร้อมโดดเรียนช่วงบ่ายเรียบร้อย
“เกิดอะไรขึ้นหรอยามะจัง เลิกเรียนค่อยไปก็ได้”
“ไม่ได้ จิเน็นโทรมาร้องไห้ให้ผมฟัง แล้วบอกว่าเสร็จไอ้ยะไปแล้ว”
“ห๊ะ!!!!!!!!” สิ้นเสียงของยามาดะ คนทั้งสี่คนก็ประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกัน
“ผมเลยจะไปหาจิเน็นเนี้ยแหละ หมอนั่นอยู่คนเดียว พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน พี่ซายะก็ไปด้วย”
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปด้วยแล้วกัน” ไดกิหน้านิ่วคิ้วขมวดรีบเดินไปเก็บกระเป๋า งานนี้ความผิดเขาเต็มๆ ถ้าเขาไม่บอกให้จิเน็นไปหายูยะ เรื่องก็คงไม่เกิดขึ้น
“เสร็จยังไดจัง เรารีบ”
“เสร็จแล้วๆ ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน” ไดกิรีบเดินออกไปหายามาดะที่รออยู่ ก่อนที่ทั้งคู่จะแอบอาจารย์หนีหายออกไปนอกโรงเรียน
“ฉันว่าเรื่องนี้ไดจังมีเอี่ยวชัวร์”
“นั้นซิ แค่เห็นหน้าก็รู้แล้วเนอะยาบุ” เคย์รีบสนับสนุนความคิดเพื่อนทันที
“อื้อ นายรู้เรื่องบ้างรึเปล่าฮิค...ฮิค ยาโอโตเมะ ฮิคารุ” ยาบุหันมาถามอีกคนที่เอาแต่นั่งเหม่อ
“ฮิคารุ เป็นอะไร?” ฝ่ามือเย็นๆแปะลงที่หน้าฮิคารุจนเจ้าตัวสะดุ้ง
“มีอะไรหรอ?”
“นายตัวรุมๆนะฮิค ไม่สบายรึเปล่า?”
“เปล่าหรอกอิโนะ” ฮิคารุเผลอส่งยิ้มหวานให้เพื่อนตามความเคยชินจนคนที่ยืนข้างๆถึงกับคิ้วกระตุกขมวดแน่นเป็นปม
“ถ้าไม่สบายก็บอกเรานะ” อิโนโอะยกมือขึ้นลูบผมอีกฝ่าย
“อื้อ จะบอกอิโนะจังคนแรกเลย”
“อิโนะ พอ” ยาบุจับมืออิโนะที่ลูบผมฮิคารุอยู่ออก แล้วทำหน้ามุ่ยใส่ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้อยู่ในอารมณ์ไหน
“ขอโทษแล้วกัน” อิโนโอะกระตุกยิ้มยั่วอารมณ์โมโหอีกคน ก่อนจะเลื่อนมือมาไล้หน้าคนที่เขาสู่อาการเหม่อลอยอีกครั้ง แล้วค่อยผละออกมา เดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง
“ดูท่าจะชอบใจนะที่มีคนลูบผมลูบหน้า”
“...”
“ฮิคารุ ฮิคารุ!” ยาบุพูดเสียงดังอย่างอารมณ์เสียงจนทั้งห้องเงียบลง แต่เหมือนยังมีอีกคนที่ไม่รู้สึก จนอิโนโอะกลัวว่าเพื่อนจะเผลอลงมือลงไม้ ต้องรีบสะกิดให้รู้สึกตัว
“หือ? มีอะไรหรออิโนะจัง?” ฮิคารุหันมาถามอิโนโอะ
“นู้นต่างหาก จะฆ่านายตายอยู่แล้ว” อิโนะพยักเพยิดไปทางคนที่ยืนจังก้า “เฮ้อ ถ้านายไม่สบายก็ไปนอนพักป่ะฮิค”
“เราไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย โอ๊ย” ยาบุไม่รอให้อีกฝ่ายนั่งคุยกับอิโนโอะต่อ คว้าหมับเข้าที่แขนแล้วลากตัวไปยังห้องพยาบาลทันที
“ผมเจ็บนะฮะ” ยาบุเหวี่ยงให้อีกคนนั่งลงบนเตียง
“เป็นอะไร ฉันเรียกไม่หัน แต่พออิโนะเรียกนี้หันไปนั่งคุยกับมันเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ”
“ก็ผมไม่ได้ยินคุณเรียกนี่นา” ฮิคารุก้มหน้ามองลงกับพื้น น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เขาไม่ได้ยินจริงๆ
“ไม่ได้ยินหรือตั้งใจจะเมินฉัน” น้ำเสียงที่นิ่งสนิทยิ่งทำให้ฮิคารุรู้สึกกลัวคนตรงหน้า
ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่อีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกถึงสถานะของตัวเองอย่างชัดเจน
อีกฝ่ายแค่ขอเขาเป็นแฟนเพียงเพราะว่าต้องการจะรั้งตัวเขาผูกขาดตัวเขาก็เท่านั้นเอง
ไม่ได้มีความรักความชอบหรือความห่วงใยอยู่ในความสัมพันธ์เลยซักนิด
มีแต่ตัณหากับราคะ ที่เขาได้รับจากอีกฝ่าย
“ฉันถามไม่ได้ยินรึไง” เสียงที่ดังเกือบจะตะคอก ทำเอาฮิคารุน้ำตาร่วงเผาะ
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะเมินคุณนะ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ยินจริงๆ”
“เอะอะก็น้ำตา ทำไมอยู่กับฉันมันทรมานมากรึไง หา?”
“เปล่านะครับ” ฮิคารุส่ายหน้าเป็นระวิง
“งั้นสงสัยฉันต้องทำให้ทรมานจริงๆนายถึงจะเห็นหัวฉันใช่มั๊ยฮิคารุ”
ยาบุกดอีกฝ่ายให้นอนลงกับเตียงก่อนจะขึ้นคร่อม เจ้าตัวกระชากเข็มขัดและกางเกงออกอย่างเกะกะ
“อย่านะครับยาบุซังที่นี่โรงเรียน”
แต่คำขอฮิคารุก็ไร้ผล เมื่อยาบุกระชากปราการด่านสุดท้ายออกไป แล้วเอาขาตัวเองทับอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี ก่อนจะจัดการปลดกางเกงตัวเองออก แล้วจึงควักเอาแกนกายขึ้นมารูดสองสามครั้งกระตุ้นอารมณ์ตัวเอง มืออีกข้างก็แหกขาอีกคนออกจนเห็นช่องทางที่ยังคงช้ำบวมจากการเล่นรักที่ผ่านๆมา แกนกายจ่อที่ช่องทางก่อนจะถูกสอดใส่เข้าไปโดยไม่มีการเตรียมพร้อม
ฮิคารุน้ำตานองใบหน้า การกระทำที่หยาบโลน ไม่มีการเล้าโลมใดๆทั้งสิ้น มีแต่การลงโทษเขา อารมณ์ที่ฉุนเฉียว ตอกย้ำว่าสิ่งที่ผ่านๆมา ความหอมหวานของช่วงเวลาสั้นๆเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
ทั้งห้องมีเพียงเสียงครางอย่างพอใจขอยาบุ กับเสียงสะอื้นของฮิคารุ ยาบุยังคงกระแทกแกนกายเข้ามาไม่หยุดหย่อน กลับยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ จนฮิคารุรู้สึกได้ถึงความแสบของช่องทางที่ฉีกขาด แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ ยังกระแทกกระทั้นเข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดยาบุก็ปลดปล่อยน้ำรักออกมาฉีดพุ่งเข้าไปในช่องทางที่ฉีกขาด
ยาบุเอื้อมตัวขึ้นไปหยิบทิชชู่ที่ข้างหัวเตียงก่อนจะดึงมารองน้ำรักที่ไหลออกมายามที่เขาถอนแกนกายออก
“เจ็บ...”
เสียงครางแผ่วของฮิคดังขึ้นมา แต่ยาบุก็ไม่ได้ใส่ใจจะพูดตอบหรือปลอบประโลม กลับใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดให้ แล้วใส่กางเกงกลับเข้าไปให้เหมือนเดิม
“ฉันไปเรียนก่อนหละ นายก็รีบๆตามไปแล้วกัน” ยาบุแต่งตัวเสร็จก็เดินก้าวออกจากห้องไป ทิ้งให้ฮิคารุนอนอยู่คนเดียว
ทำไมตอนที่เขาอยากให้อาจารย์ห้องพยาบาลอยู่ กลับไม่มีใครอยู่ซักคน
“ชี่จัง” ยามาดะเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนก็เจอกับคนตัวเล็กนั่งเหม่ออยู่ริมหน้าต่าง
“จิเน็นคุง” ไดกิเดินตามอีกคนเข้ามาในสภาพที่ไม่สมประกอบนัก ก็ทั้งปีนกำแพงโรงเรียน ไหนจะปีนรั้วบ้านจิเน็นอีก โชคดีนะที่ประตูหน้ายามาดะมีกุญแจอยู่ ไม่งั้นคงได้พังประตูบ้านอีกคนเข้าไปแน่
“ยามะจัง ไดจัง” ดวงตาที่บวมฉึ่งหันกลับมามองทั้งสองคนที่เข้ามาใหม่
“ชี่จังกินข้าวบ้างยังเนี้ย?” ยามาดะถามออกมาอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักส่ายหน้าก็อาสาจะทำอาหารให้ “งั้นเดี๋ยวขอลงไปทำแปบนึง รอก่อนนะ”
“พี่ขอโทษ” ไดกิรอจนประตูปิดสนิทแล้วจึงพูดออกมา
“พี่ขอโทษผมทำไม? พี่ไม่ผิดซักหน่อย ผมตัดสินใจเอง” จิเน็นส่งยิ้มให้รุ่นพี่
“ถ้าพี่ไม่พูดแบบนั้น ยูริก็คงไม่ไปหายูยะ เพราะพี่...พี่ขอโทษ”
“ไม่ใช่ความผิดรุ่นพี่หรอกฮะ ผมโง่เองแหละที่เชื่อใจยูยะ ยอมให้ยูยะเข้ามาในบ้าน ยอมให้เขาค้างที่บ้าน” เสียงสั่นๆของจิเน็นทำเอาไดกิรีบเข้าไปกอดปลอบ
“ไม่ร้องนะยูริจัง ดูซิคนน่ารักของพี่ตาช้ำหมดแล้ว”
“ถ้าจะให้ผมหยุดร้อง ไดจังต้องห้ามคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุนะฮะ เพราะไดจังไม่ได้เป็น ถึงไดจังไม่พูด ผมก็ว่าจะไปอยู่แล้ว”
“อื้อ พี่สัญญา”
“นี้ไดจัง ทำอะไรยูริอ่ะ! ไหงร้องไห้อีกรอบ ผมลงไปแปบเดียวเองนะ” เสียงยามาดะแว้ดขึ้นมา
“นั้นซิ แปบเดียวจริงๆ นายลงไปทำอาหารจริงรึเปล่า?”
“ก็เดินลงไปแล้วเจอโจ๊กอยู่ในหม้อ ก็เลยอุ่นแปบเดียวแล้วเอาขึ้นมาให้เนี้ย ว่าแต่ไดจังเหอะ ทำชี่จังร้องไห้หรอ?” ยามาดะยกถาดไปวางให้บนตักจิเน็น “กินซะนะ เราอุ่นไม่ร้อนมาก”
“ขอบคุณนะยามะจัง ไดจัง ขอบคุณจริงๆ” จิเน็นน้ำตารื้นขึ้นมาอีกรอบ ที่ยังมีคนใส่ใจเขาเป็นห่วงเขา
“เฮ้ย กินข้าวไปซะ เราไม่ได้มาหานายเพื่อให้นายร้องไห้นะ”
“ก็มันซึ้งนี่นา ขอบคุณจริงๆ”
“ฉันจะดีใจกว่านี้ ถ้านายกระเดือกโจ๊กลงคอไปจิเน็น ยูริ หรือจะให้ฉันจับกรอกปาก?” ยามาดะทำท่าจะยกโจ๊กกรอกปากจริงๆจนจิเน็นต้องรีบร้องห้าม แล้วนั่งกินโจ๊กอย่างสงบ
“นี้ยามะจัง โจ๊กมาจากไหนอ่ะ? ไหนบอกพ่อแม่จิเน็นไม่อยู่บ้านไง” ไดกิแอบกระซิบถามยามาดะ อีกฝ่ายก็พูดกลับมาโดยไม่มีเสียง
“ทาคาคิ ยูยะ”
ไดกิได้แต่พยักหน้ารับแล้วลูบหัวคนตัวเล็กที่นั่งกินโจ๊กอยู่ข้างๆ
จะรู้มั๊ยนะ ว่าโจ๊กที่กินอยู่เป็นของคนที่ทำร้ายนายไปเมื่อวาน
ทาคาคินี้มันเหมือนยาบุจริงๆเลยให้ตายซิ
ถ้าคนที่ตัวเองรักไม่เจ็บไม่ป่วยก็ไม่มีทางทำดีด้วยใช่มั๊ยเนี้ย
*************
หายไปนานมากอ่ะ T_T
ขอโทษนะคะ จะพยายามมาแต่งให้บ่อยขึ้นนะ
ความคิดเห็น