ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Best Friend then Lover?? :: AriYama//BuHik//TakaChii//OkaRyu

    ลำดับตอนที่ #14 : #13

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 56


    #13

     

    “อ้าวเฮ้ย เตรียมงานกันเสร็จรึยังวะ อีกไม่ถึงหนึ่งนาทีจะเริ่มแล้วนะ” อิโนโอะ เคย์หรือหัวหน้าฝ่ายพีอาร์ยื่นหน้าเข้ามาถามนักแสดงหลังม่าน พอได้สัญญาณมือตอบโอเค เจ้าตัวก็ปั้นหน้ายิ้มเดินออกไปยังกลางเวที ประกาศถึงการแสดงที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

    ไฟในฮอลล์ค่อยๆหรี่ลง แสงสปอร์ตไลท์ส่องมายังเวที การแสดงหลักของค่ำคืนนี้กำลังจะเริ่มขึ้น การแสดงของชมรมการละครที่มียาบุเป็นประธาน โดยมียูยะกับยูริเล่นเป็นตัวละครเอก ทุกคนต่างคนต่างวิ่งวุ่นกันหลังเวที ทำงานให้ออกมาตามที่เตรียมไว้ ที่ดูจะเหนื่อยสุดก็คงเป็นฝ่ายพร็อพกับฝ่ายคอสตูม ที่แทบจะทำเอาทุกคนแผ่หลาหลังจากการแสดงเสร็จสิ้นลง เสียงตบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งฮอลล์

    ความจริงแล้วคนในชมรมนี้มันมีความสามารถทุกคน แต่ที่ชมรมล่มจนต้องถูกยุบบ่อยๆ ก็เป็นเพราะว่าเพื่อนของเขาแต่ละคนชอบสร้างปัญหากันทั้งนั้นเลยซิ โดยปัญหาที่โดนบ่อยที่สุดคงจะเป็นเรื่องการของบประมาณแล้วใช้เกินงบไปหลายหมื่น ไม่พอเท่านั้น ยังเคยของบประมาณบอกจะจัดทริปไปดูละครคาบูกิ แต่สุดท้าย ดันเอาเงินไปเที่ยวกันเฉยทั้งชมรม

    ถ้าเขาเป็นอาจารย์คงสั่งพักการเรียนไปแล้ว แค่โดนยุบชมรมนี้ถือว่าปราณีมากมาย

    “ดีใจด้วยนะ งานจบซักที”

    “ไม่ได้นาย เคย์ พวกเราคงแย่ คงโดนยุบชมรมอีกรอบ” ยาบุกล่าวขอบคุณเพื่อนหลังจากละครเวทีจบลง

    “เออหน่า เพื่อนกันไม่เห็นต้องซีเรียส รีบๆเก็บของเถอะ จะได้ไปฉลองกัน”

    ทุกคนต่างเฮโลกันไปเก็บข้าวของ เปลี่ยนชุด แล้วยกพวกไปยังร้านที่จองไว้สำหรับฉลองงานครั้งนี้

     

     

    “เละเทะ” คำสั้นๆหลุดออกมาจากปากประธานนักเรียน ก่อนจะสบถมาอีกยาวพรืด

    ดีนะ ที่นี่เป็นร้านของคนในชมรม ไม่งั้นถ้าอาจารย์มาเจอ...เละกันทั้งชมรม

    “เอาไงดีครับเนี้ย?” ยูโตะที่ไม่ได้แตะแอลกอฮอลล์เลยซักนิดหันมาถามอิโนโอะ

    “จะปล่อยนอนไว้นี้ก็เกรงใจวะ ใครไม่เมาบ้าง เอาแบบที่กลับบ้านเองไหวนะ” คนที่พอมีสติยกมือขึ้นให้เคย์นับจำนวน

    20 ชีวิตในร้าน มันมีคนที่กลับบ้านเองไหวอยู่สิบสองคน

    แน่นอนว่าไอ้พวกที่กลับไม่ไหว...

    มันก็ก๊กเดิม!!!!

    “งานเลี้ยงเลิกแล้ว ส่วนนายยูโตะมาช่วยพี่ขนพวกมันขึ้นแท็กซี่แล้วพาไปส่งหน่อย เอาไอ้ยูยะ ยูริ เคย์โตะ ริวทาโร่ไปก่อนเลย สี่คนนี้เอาไปปล่อยบ้านเดียวกันได้ แล้วเดี๋ยวพี่ให้แท็กซี่วนกลับมารับไอ้พวกที่เหลือ”

    “แต่ไปถึงพี่ก็แบกแต่ละคนลงไปคนเดียวไม่ไหวหรอกฮะ อีกอย่าง...สภาพนี้ขึ้นแท็กซี่ อาจารย์ได้รู้เรื่องแน่ๆ”

    “แล้วนายจะเอาไง จะปล่อยพวกมันไว้ที่นี่ก็คงไม่ได้ รบกวนตาย”

    “เดี๋ยวผมให้คนขับรถเอารถมารับดีกว่า” ยูโตะพูดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรเรียกคนขับรถที่บ้านทันที อิโนโอะได้แต่เบ้หน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันนึกหนทางอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ

    ทั้งสองคนนั่งรอคนขับรถของบ้านยูโตะ ในขณะที่คนอื่นๆที่กลับบ้านไหวกลับกันไปหมดแล้ว แม้แต่ลูกชายเจ้าของร้านเองก็ขึ้นไปนอนเรียบร้อยแล้ว จะเหลือก็แต่เถ้าแก่ที่ยืนเคลียจานชามต่างๆ

    ครืดดดดด

    เสียงเปิดประตูหน้าร้านเรียกให้ทั้งสองคนหันไปมองแทบจะพร้อมกัน ก่อนจะเจอกับมนุษย์สูทดำสามคนเดินเข้ามาในร้าน

    “สี่คนตรงนั้น เดี๋ยวไปส่งที่บ้านเดียวกัน แล้วอีกสี่คนเอาไงอ่ะพี่?” ยูโตะหันไปสั่งงานกับลูกน้องก่อนจะหันมาถามเคย์

    “บุฮิคก็เอาไปทิ้งไว้ที่เดียวกัน อาริยามะก็ไปทิ้งที่บ้านพวกมัน ยากอะไร”

    “ก็ตามนั้นแล้วกัน สี่คนตรงนู้นเอาขึ้นอีกคัน สองคนนี้ส่งที่...เดี๋ยวนะพี่ แล้วพ่อแม่เขาไม่ว่าหรอ?” ก่อนจะสั่งให้คนที่ยืนว่างมาอุ้มคนที่เหลือไปยูโตะก็ถามออกมาอีกรอบจนเคย์ชะงัก

    เออวะ...ถ้าพ่อแม่พวกนี้รู้ ตายแน่ๆ

    “เอาพวกมันไปทิ้งไว้ที่คอนโดบุฮิคให้หมดแล้วกัน น่าจะเก็บได้พอนะ” ยูโตะพยักหน้ารับคำก่อนจะสั่งการต่อ

    เคย์เดินไปเคลียเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เด็กชมรมนี้ล้างผลาญไป รวมถึงจานที่พวกมันทำแตกกันด้วย แต่กว่าจะยอมให้เจ้าของร้านรับเงินค่าอาหารได้ก็ใช้เวลานานเอาเรื่อง เพราะนี้เป็นชมรมของลูกชายเขาเองถึงไม่อยากจะเก็บเงิน แต่คนอย่างประธานอิโนโอะก็ไม่คิดจะติดหนี้ใครอยู่แล้ว กว่าจะเคลียกันรู้เรื่องก็ใช้เวลาจนคนของยูโตะขนเจ้าพวกที่เมาเละเทะขึ้นรถหมดพอดี

    “ขอบคุณมากนะหนู ถ้าคราวหลัวมาอีก ลุงขอเลี้ยงเองนะ”

    “ครับ จริงๆผมก็ไม่อยากขัดคุณลุงแต่ว่าอันนี้เป็นงบประมาณของโรงเรียน ซึ่งถ้าไม่ใช้ไม่มีใบเสร็จไปโชว์ เจ้าพวกนี้จะโดนข้อหายักยอกเงินโรงเรียน ถ้ายังไงต้องขอตัวก่อนนะครับ” เคย์โค้งตัวให้เจ้าของร้าน ก่อนจะเลื่อนประตูปิดให้ แล้วพอหันมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรถตู้ที่จอดอยู่สองคัน

    “จะเอามาทำไมสองคัน?”

    “ก็จะได้นั่งกันสบายๆไงครับ”

    “สำหรับไอ้พวกนี้ แค่ไปส่งที่บ้านฟรีๆมันก็สบายแล้ว คราวหลังไม่ต้องนะ เปลืองน้ำมัน”

     

     

    “หนึ่ง สอง สาม ... หก เจ็ด แปด ครบแล้ว แต๊งกิ้วมากนะ”

    “แล้วพี่กลับไงหละ ผมไปส่งมั้ย?”

    “ขืนไปกดกริ่งปลุกพ่อขึ้นมาตอนนี้ให้เปิดประตูให้นะ โดนพ่อทุ่มหลังเดาะ...ฉันนอนที่นี่แหละ มันดึกแล้วนายรีบกลับเถอะ”

    “ถ้าพี่อยู่ผมก็อยู่” ยูโตะพูดนิ่งๆแล้วหันไปบอกให้คนที่บ้านกลับไปกันได้เลย ส่วนตัวเขาจะนอนค้างที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยกลับ

    “ต้องการอะไรจากพี่ยูโตะ?”

    “ก็ไม่ได้ต้องการไรนี่ครับ พี่คิดหรอว่าพี่คนเดียวจะดูแลทั้งแปดคนนี้ไหว”

    “แล้วใครบอกว่าพี่จะดูแลพวกมัน พี่แค่ขี้เกียจโดนพ่อทุ่มหลังเดาะ ก็เลยนอนที่นี่ นายเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า”

    “งั้นผมก็แค่อยู่ที่นี่ เผื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาได้ช่วยพี่ได้”

    “แล้วมันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น? พี่ก็อยู่ของพี่เฉยๆ”

    “เอาเหอะครับๆ ไปอาบน้ำนอนกันเถอะ นอนห้องเดิมใช่มั้ยอ่ะ?”

    “อื้อ นายนอนห้องฮิคไปแล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปนอนห้องยาบุ”

    “ทำไมต้องแยกห้องหละครับ? นอนด้วยกันซิ” ยูโตะจับมืออิโนโอะขึ้นมาอ้อน

    “เหตุผล?” อิโนโอะถามหน้านิ่ง แต่พอได้ยินเหตุผลก็ทำหน้าตกใจออกมา ก่อนจะโดนยูโตะลากเข้าไปนอนในห้องนอนของฮิคารุปล่อยให้อีกแปดชีวิตที่เหลือสลบเหมือดอยู่ในห้องนั่งเล่น

    “ไม่มีผมนอนกอด...พี่จะนอนหลับหรอ?”

     

     

    “ปวดหัวเว้ย!” ยูยะสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาสะบัดหัวสองสามทีหวังให้หายปวดหัว พอสายตาเริ่มชินกับแสงสว่างก็มองไปรอบๆห้อง

    ห้องของยาบุกับฮิคารุ...

    แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน

    “ตื่นแล้วหรอยูยะ”

    “อ้าวฮิค อรุณสวัสดิ์ ฉันมาโผล่ที่นี่ได้ไงเนี้ย จำได้ว่าเมาหลับไปที่ร้าน ละเมอมาหรอวะ?”

    “ถ้าแกจะละเมอเดินมาไกลขนาดนี้ ฉันว่าแกคงโดนรถชนก่อนแล้วหละ สองตัวที่นอนอยู่ในห้องแบกมาต่างหาก อ๊ะ แปรงสีฟัน ยาบุลงไปซื้อมาให้ ไปล้างหน้าล้างตาซะ แล้วมากินข้าวเช้าได้แล้ว ฉันจะปลุกไอ้พวกที่เหลือและ” ยูยะพยักหน้าหงึกๆ เดินไปห้องล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำตามที่เจ้าของห้องบอก ส่วนฮิคก็ไล่ปลุกที่ละคน ยื่นแปรงสีฟันให้พร้อมกับสั่งให้ไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องน้ำตามยูยะ

    “ฮิคกี้ เสร็จแล้วเอาอาหารให้บลิสด้วยซิ ไม่รู้อาหารในถาดหมดรึยัง” เสียงยาบุดังมาจากในครัว ฮิคารุได้แต่ขานรับ แล้วเดินไปให้อาหารลูกรักของพวกเขา นั่งเล่นกับมันซักพักยูยะก็เดินมาหาพร้อมกับใบหน้าที่ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย

    “สองคนนั้นหละ?”

    “ใคร?”

    “อิโนะกับยูโตะ อุตส่าห์แบกมา จะไปขอบคุณ”

    “นอนอยู่ในห้องฉัน นายไม่ต้องเข้าไปหรอกหน่า ปล่อยพวกมันนอนไป พวกมันได้นอนน้อยกว่าพวกเรา” ฮิคารุรีบเอ่ยห้ามยูยะไม่ให้เข้าไปกวน แต่ดูท่าจะไม่เป็นผล เมื่อหันมาอีกที ยูยะก็ไปโผล่ที่หน้าประตูห้องนอนของเขาซะแล้ว พอยูยะเปิดประตูเข้าไปเขาก็ต้องถอยหายใจเฮือก ตามมาด้วยเสียงร้องอย่างตกใจของยูยะที่เรียกเอารุ่นน้องทั้งหลายแห่กันมาดู

    “ยูยะ กูบอกแล้วว่าอย่ากวนพวกมัน โดยเฉพาะอิโนะจัง เกิดนอนน้อยแล้วตื่นขึ้นมาคนที่จะตายมีแต่นาย” ฮิคารุรีบเดินมาทั้งหมดให้กลับไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น แล้วปิดประตูให้สนิท ปล่อยให้เพื่อนกับรุ่นน้องของเขานอนต่อไป ทั้งหมดนั่งช็อคด้วยความตกใจปนแปลกใจอยู่ซักครู่ยูยะก็เปิดปากพูดขึ้นมา

    “กูแปลกใจนะเว้ย...คนแรกเลยนะที่ทำแบบนั้นกับเคย์ได้”

    “จะคนแรกหรือคนที่เท่าไหร่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบยูยะ” เสียงที่ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงเปิดประตูห้องทำเอาทั้งหมดเสียวสันหลังวูบ ใบหน้าเคย์ตอนนี้มันไม่เหมาะแก่การคุยเล่นด้วยเลยซักนิด

    “พี่เคย์...รีบตื่นทำไมอ่ะ อ๊ะ...ตื่นกันแล้วหรอ?” ยูโตะที่เดินง่วงออกมาถึงกับเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นพี่เคย์ถึงตื่นแล้วเดินหน้ามุ่ยออกมาแบบนั้น คงได้ยินเสียงใครซักคนเป็นแน่

    “ยูโตะ เคย์ แปรงสีฟัน ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะ แล้วค่อยมาคุยกัน” เคย์พยักหน้ารับ แม้มือจะรับแปรงสีฟันมา แต่สายตากลับจ้องเขม็งที่ยูยะที่ตอนนี้กำลังนั่งหน้าซีด

    “ขอบคุณครับพี่ฮิค ไปกันเถอะพี่เคย์ ล้างหน้าๆ” ยูโตะรีบลากตัวอิโนโอะไปที่ห้องน้ำทันทีก่อนจะเกิดการนองเลือดรับมื้อเช้า

    “เกือบไปแล้ว...”

    “หาเรื่องตัวเองแท้ๆเลยยูยะ นอกจากปลุกมันแต่เช้าแล้ว ยังปลุกมันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

    “ก็ขอโทษได้ป่ะหละ มันไม่ทันแล้วอ่ะ มันตกใจ”

    “ตกใจอะไรวะ ก็แค่นอนด้วยกัน...”

    “นอนกอดกันนะเว้ย นอนกอดกัน! จะมีซักกี่คนบนโลกที่เคย์ยอมให้นอนกอดแบบนั้น ขนาดพวกเราเองยังไม่ได้เลยนะเว้ย แล้วมันยังมัวปากแข็งบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน”

    “แล้วมันเรื่องอะไรของนายทาคาคิ ฉันกับยูโตะจะเป็นอะไรหรือไม่เป็นอะไรกัน มันเกี่ยวมันหนักประสาทส่วนไหนของนายหรอ? ฉันเองชักจะรำคาญนายตะหงิดๆแล้วนะ เราเองก็เป็นเพื่อนกันมานาน นายก็น่าจะรู้จักนิสัยฉันดีกว่าไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่งเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวที่ไม่ต้องการจะเล่าให้ใครฟัง ฮิค...!” อิโนะหันมาตวัดสายตาจิกฮิคารุจนคนโดนถึงกับสะดุ้ง

    “อะไรหรอจ๊ะเคย์จัง...?”

    “ยาสีฟันหมด ขอหลอดใหม่ด้วย” ฮิคารุพยักหน้าหงึกๆรีบไปเดินไปหยิบหลอดใหม่ให้อิโนโอะทันที

    “ขอบใจ มันหมดหนะเลยเดินมาขอ” อิโนโอะรับมาถือในมือก่อนจะเดินกลับเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ

    “ฟู่~...นึกว่าจะโดนต่อยซะแล้วซิ”

    “นายหนะอาจจะยังไม่โดนอิโนะจังต่อย แต่จะโดนฉันต่อยเนี้ยแหละ แปรงสีฟันก็ไปซื้อมาให้ใช้ฟรี ยังใช้ยาสีฟันกันจนหมดหลอดอีก รู้มั้ยว่าหลอดนั้นมันเพิ่งใช้เองนะเว้ย!” ฮิคารุตวาดเสียงเขียว

    เฮือก!!!!

    ไม่ใช่แค่ยูยะที่สะดุ้ง แต่ทุกคนกลับสะดุ้งเหมือนกันหมด ส่งยิ้มแห้งๆ เพราะมัวแต่คุยเล่นกันจนบีบยาสีฟันหล่นไปหลายต่อหลายรอบด้วยกัน สุดท้ายฮิคารุก็ได้แต่ไล่ให้ทุกคนไปกินข้าวที่ยาบุทำไว้ให้ ส่วนตัวเองนั่งรอคุยกับอิโนโอะอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น พอเห็นคนที่ต้องการจะคุยด้วยเดินมาก็รีบฉุดตัวไว้แล้วไล่ให้ยูโตะไปกินข้าวเช้าก่อนที่มันจะเย็น

    “มีอะไรฮิค? เราอารมณ์ดีขึ้นแล้วหน่า ไม่ฆ่ายูยะมันทิ้งหรอก”

    “กูจะคุยเรื่องมึงกับยูโตะต่างหาก” อิโนโอะเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร

    “จะเอาไงกับน้องเขากันแน่? ที่ตอนนี้กูเห็นมันมากกว่าคำว่ารุ่นพี่รุ่นน้องที่มึงเคยบอกกูแล้วนะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×